....... เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 11, 2005 11:30 pm
............. เมื่อเจ้านายไม่อยู่ Version เต็ม.....................
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 33.html#58
E-Passport 1 มิถุนายน
Date: Mon, 20 Jun 2005 13:34:35 +0700
คนไทยใช้ E-Passport 1 มิถุนายน
นายเจษฎา ชวาลภาคย์ รองอธิบดีกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
ถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการพัฒนาระบบหนังสือ
เดินทางจากหนังสือเดินทางธรรมดาเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
หรือ อี-พาสปอร์ต (e-passport) ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546
ที่เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปรับปรุงระบบหนังสือเดินทางไทยให้มีความทันสมัย
ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือน
ระหว่างประเทศ หรือ ICAOและกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดเตรียมโครงสร้างของระบบ
ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการจัดทำหนังสือ เดินทางดังกล่าวนั้น ขณะนี้ใกล้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว
นายเจษฎาอธิบายถึงอี-พาสปอร์ต ว่าเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไมโครชิพ
บรรจุข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือไว้ในเล่ม ตามไอซีเอโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมเอกสารการเดินทาง ตามมาตรฐานของนานาชาติ
ส่วนประโยชน์ของหนังสือเดินทางแบบใหม่ ยากต่อการปลอมแปลง
เสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ในเรื่องของความเชื่อถือของหนังสือเดินทาง
ซึ่งจะได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลต่อเนื่องในทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและ
การท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว
อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมืองทำให้สามารถป้องกันการก่อการร้ายสากลข้ามชาติ
และ การลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
และอาชญากรรมข้ามชาติ ได้ดีกว่าพาสปอร์ตแบบเก่า
เพราะมีการบรรจุข้อมูลเค้าโครงใบหน้า ลายนิ้วมือและม่านตา และประวัติลงไป
โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับเค้าโครงใบหน้าซึ่งเป็นข้อมูลบังคับของไอซีเอโอนั้น
จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า ออโต้ เกต(Auto Gate)ซึ่งจะติดตั้งภายในสนามบินทั่วโลกในอนาคต
คอยตรวจสอบอ่านเค้าโครงใบหน้าของผู้ถืออี-พาสปอร์ต
ถ้าผิดไปจากเค้าโครงเดิมเครื่องจะไม่อ่าน
นายเจษฎากล่าวอีกว่า ถ้าผู้ถือหนังสือเดินทางทำศัลยกรรมใบหน้ามา
ถ้าเป็นการเสริมเติมแต่ง เช่นการ ดึงใบหน้าให้ตึงขึ้น หรือผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน
เพราะการบันทึกข้อมูลเค้าโครงใบหน้าจะอาศัยจุดหลักๆ
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหรือผิวหนังฉะนั้นจะอ้วนหรือผอมลงไม่มีผลแน่นอน
แต่ถ้ามีการทำศัลยกรรมด้านเค้าโครงใบหน้า
โดยตรง
เช่น ผ่าตัดกรามหรือกระดูกต้องมีการบันทึกข้อมูลใหม่ ไม่เช่นนั้นเครื่องออโต้เกตอาจจะไม่อ่าน
สำหรับข้อมูลชีวภาพที่ไอซีเอโอจะกำหนดไว้มีสองข้อมูลคือข้อมูลบังคับและข้อมูลทางเลือก
ข้อมูลบังคับ เป็นเค้าโครงใบหน้าอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น
ส่วนข้อมูลทางเลือกมีม่านตาและลายนิ้วมือ
ซึ่งรัฐบาลไทยเลือกข้อมูลลายนิ้วมือ แต่ถ้าในอนาคตทางไอซีเอโอต้องการข้อมูลทางม่านตาเพิ่มก็สามารถใส่เข้าไปได้
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเปิดเผยได้มากกว่านี้ ส่วนกำหนดโครงการนำร่องใช้อี-พาสปอร์ตนั้น
จะเริ่มเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 จะออกให้แก่ทูตและข้าราชการ จากนั้นในวันที่ 1 มิถุนายน
จะออกให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่กรมการกงสุล
จากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคมจะเปิดบริการทุกสาขารวมถึงต่าง อีก 83 แห่งทั่วโลก
สำหรับค่าธรรมเนียมในการทำเล่มราคา 1 พันบาทเท่านั้น ไม่ได้แพงอย่างที่หลายๆ คนวิตกกัน อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่จะมาทำอี-พาสปอร์ต จะต้องเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะจะต้องมีการบันทึกข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือหนังสือ
โดยจะมีเครื่องออโต้ เกต ถ้าเค้าโครงใบหน้าไม่ตรงตามข้อมูล ผู้ถือหนังสือเล่มดังกล่าวจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนจะเข้าใจวิธีการใช้อี-พาสปอร์ต ได้อย่างไร นายเจษฎาตอบว่า
ตรงนี้เตรียม แก้ปัญหาไว้แล้ว โดยขั้นแรกจะติดตั้งเครื่องออโต้ เกต ที่กรมการกงสุลโดยทางกรมจะจัดเจ้าหน้า
ที่สอนวิธีการใช้ให้แก่ประชาชนให้มีความเข้าใจในเบื้องต้นก่อน
ส่วนสนามบินต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลในการ
ใช้เครื่องด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อี-พาสปอร์ตจะใช้ได้ทั้งเครื่องออโต้ เกตและการตรวจหนังสือเดินทางแบบเก่า
คือถ้าผู้ถือ อี-พาสปอร์ต เดินทางไปยังประเทศที่ยังใช้ หนังสือเดินทางแบบเก่า
เจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ก็สามารถตรวจสอบประวัติของผู้ถืออี-พาสปอร์ต ได้เช่นกัน อะไรคือ E Passport อี-พาสปอร์ตหรือชื่อเต็ม
Electronic passportsภาษาไทยเรียกว่าหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
เป็นรูปแบบของหนังสือเดินทางล่าสุด
ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้ในหลายประเทศ ความพิเศษของอี-พาสปอร์ต
คือการฝังไมโครชิพลงในหนังสือเดินทาง
เพื่อเก็บข้อมูลที่เรียกว่าข้อมูลทางชีวภาพ(biometrics identifier )ของผู้ถือหนังสือ
อาทิ รูปโครงสร้างใบ ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือลักษณะม่านตา นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐาน
เช่น ชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิด
ของผู้ถือพาสปอร์ตตามปกติการฝังไมโครชิพที่มีข้อมูลทางชีวภาพเช่นนี้
จะช่วยให้การปลอมแปลงหนังสือ
เดินทางทำ ได้ยากลำบากมากขึ้นเพราะข้อมูลทางชีวภาพเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
มีความแตกต่างกัน
การลอกเลียนแบบหรือการปลอมแปลงจึงทำได้ยากมาก นอกจากนี้อี-พาสปอร์ตยังจะช่วยให้การตรวจสอบ
และยืนยันตัวเจ้าของพาสปอร์ตง่ายขึ้นด้วยเพราะสามารถอ่านข้อมูลบนไมโครชิพได้ทันที
โดยไม่จำเป็นต้อง
เปิดเล่มพาสปอร์ตด้วยซ้ำ การพัฒนาอี-พาสปอร์ตเกิดจากแนวคิดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(International Civil Aviation Organization - ICAO)
ซึ่งเป็นองค์การหลักที่กำหนดมาตรฐานของหนังสือเดิน
ทางทั่วโลก
ปัจจุบันมีสมาชิก 188 ประเทศ ได้เสนอให้มีการทำอี-พาสปอร์ตเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการยืนยันตัว
บุคคลเจ้าของหนังสือเดินทาง
แต่แนวคิดการจัดทำอี-พาสปอร์ตดังกล่าวมาได้รับการขานรับอย่างจริงจังหลังเกิด เหตุวินาศกรรมใน สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ในฐานะหนึ่งในมาตรการในการป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ
ขณะเดียวกันไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังดำเนินการ
รวมทั้งให้ประเทศอื่นๆอีก 27 ประเทศที่ไม่ต้องวีซ่าเข้าสหรัฐใช้อีพาสปอร์ตเช่นกัน
องค์การสิทธิพลเมืองอเมริกัน(ACLU)ระบุว่า
ข้อมูลที่บรรจุในอีพาสปอร์ตนั้นสามารถขโมยได้ง่ายเช่นกัน
จากคุณ : สุเกียง - [ 11 ก.ค. 48 23:09:14 ]
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 33.html#58
E-Passport 1 มิถุนายน
Date: Mon, 20 Jun 2005 13:34:35 +0700
คนไทยใช้ E-Passport 1 มิถุนายน
นายเจษฎา ชวาลภาคย์ รองอธิบดีกรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศกล่าว
ถึงนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศในการพัฒนาระบบหนังสือ
เดินทางจากหนังสือเดินทางธรรมดาเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
หรือ อี-พาสปอร์ต (e-passport) ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2546
ที่เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ปรับปรุงระบบหนังสือเดินทางไทยให้มีความทันสมัย
ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือน
ระหว่างประเทศ หรือ ICAOและกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาจัดเตรียมโครงสร้างของระบบ
ที่เหมาะสมเพื่อรองรับการจัดทำหนังสือ เดินทางดังกล่าวนั้น ขณะนี้ใกล้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว
นายเจษฎาอธิบายถึงอี-พาสปอร์ต ว่าเป็นหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไมโครชิพ
บรรจุข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือไว้ในเล่ม ตามไอซีเอโอ ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมเอกสารการเดินทาง ตามมาตรฐานของนานาชาติ
ส่วนประโยชน์ของหนังสือเดินทางแบบใหม่ ยากต่อการปลอมแปลง
เสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ในเรื่องของความเชื่อถือของหนังสือเดินทาง
ซึ่งจะได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลต่อเนื่องในทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนและ
การท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว
อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมืองทำให้สามารถป้องกันการก่อการร้ายสากลข้ามชาติ
และ การลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
และอาชญากรรมข้ามชาติ ได้ดีกว่าพาสปอร์ตแบบเก่า
เพราะมีการบรรจุข้อมูลเค้าโครงใบหน้า ลายนิ้วมือและม่านตา และประวัติลงไป
โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับเค้าโครงใบหน้าซึ่งเป็นข้อมูลบังคับของไอซีเอโอนั้น
จะมีเครื่องมือที่เรียกว่า ออโต้ เกต(Auto Gate)ซึ่งจะติดตั้งภายในสนามบินทั่วโลกในอนาคต
คอยตรวจสอบอ่านเค้าโครงใบหน้าของผู้ถืออี-พาสปอร์ต
ถ้าผิดไปจากเค้าโครงเดิมเครื่องจะไม่อ่าน
นายเจษฎากล่าวอีกว่า ถ้าผู้ถือหนังสือเดินทางทำศัลยกรรมใบหน้ามา
ถ้าเป็นการเสริมเติมแต่ง เช่นการ ดึงใบหน้าให้ตึงขึ้น หรือผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน
เพราะการบันทึกข้อมูลเค้าโครงใบหน้าจะอาศัยจุดหลักๆ
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหรือผิวหนังฉะนั้นจะอ้วนหรือผอมลงไม่มีผลแน่นอน
แต่ถ้ามีการทำศัลยกรรมด้านเค้าโครงใบหน้า
โดยตรง
เช่น ผ่าตัดกรามหรือกระดูกต้องมีการบันทึกข้อมูลใหม่ ไม่เช่นนั้นเครื่องออโต้เกตอาจจะไม่อ่าน
สำหรับข้อมูลชีวภาพที่ไอซีเอโอจะกำหนดไว้มีสองข้อมูลคือข้อมูลบังคับและข้อมูลทางเลือก
ข้อมูลบังคับ เป็นเค้าโครงใบหน้าอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น
ส่วนข้อมูลทางเลือกมีม่านตาและลายนิ้วมือ
ซึ่งรัฐบาลไทยเลือกข้อมูลลายนิ้วมือ แต่ถ้าในอนาคตทางไอซีเอโอต้องการข้อมูลทางม่านตาเพิ่มก็สามารถใส่เข้าไปได้
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถเปิดเผยได้มากกว่านี้ ส่วนกำหนดโครงการนำร่องใช้อี-พาสปอร์ตนั้น
จะเริ่มเป็นครั้งแรกในวันที่ 26 พฤษภาคม 2548 จะออกให้แก่ทูตและข้าราชการ จากนั้นในวันที่ 1 มิถุนายน
จะออกให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่กรมการกงสุล
จากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคมจะเปิดบริการทุกสาขารวมถึงต่าง อีก 83 แห่งทั่วโลก
สำหรับค่าธรรมเนียมในการทำเล่มราคา 1 พันบาทเท่านั้น ไม่ได้แพงอย่างที่หลายๆ คนวิตกกัน อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่จะมาทำอี-พาสปอร์ต จะต้องเดินทางมาทำด้วยตัวเอง เพราะจะต้องมีการบันทึกข้อมูลทางชีวภาพของผู้ถือหนังสือ
โดยจะมีเครื่องออโต้ เกต ถ้าเค้าโครงใบหน้าไม่ตรงตามข้อมูล ผู้ถือหนังสือเล่มดังกล่าวจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนจะเข้าใจวิธีการใช้อี-พาสปอร์ต ได้อย่างไร นายเจษฎาตอบว่า
ตรงนี้เตรียม แก้ปัญหาไว้แล้ว โดยขั้นแรกจะติดตั้งเครื่องออโต้ เกต ที่กรมการกงสุลโดยทางกรมจะจัดเจ้าหน้า
ที่สอนวิธีการใช้ให้แก่ประชาชนให้มีความเข้าใจในเบื้องต้นก่อน
ส่วนสนามบินต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลในการ
ใช้เครื่องด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อี-พาสปอร์ตจะใช้ได้ทั้งเครื่องออโต้ เกตและการตรวจหนังสือเดินทางแบบเก่า
คือถ้าผู้ถือ อี-พาสปอร์ต เดินทางไปยังประเทศที่ยังใช้ หนังสือเดินทางแบบเก่า
เจ้าหน้าที่ของประเทศนั้นๆ ก็สามารถตรวจสอบประวัติของผู้ถืออี-พาสปอร์ต ได้เช่นกัน อะไรคือ E Passport อี-พาสปอร์ตหรือชื่อเต็ม
Electronic passportsภาษาไทยเรียกว่าหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
เป็นรูปแบบของหนังสือเดินทางล่าสุด
ซึ่งเริ่มมีการนำมาใช้ในหลายประเทศ ความพิเศษของอี-พาสปอร์ต
คือการฝังไมโครชิพลงในหนังสือเดินทาง
เพื่อเก็บข้อมูลที่เรียกว่าข้อมูลทางชีวภาพ(biometrics identifier )ของผู้ถือหนังสือ
อาทิ รูปโครงสร้างใบ ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือลักษณะม่านตา นอกเหนือจากข้อมูลพื้นฐาน
เช่น ชื่อ-นามสกุล และวันเดือนปีเกิด
ของผู้ถือพาสปอร์ตตามปกติการฝังไมโครชิพที่มีข้อมูลทางชีวภาพเช่นนี้
จะช่วยให้การปลอมแปลงหนังสือ
เดินทางทำ ได้ยากลำบากมากขึ้นเพราะข้อมูลทางชีวภาพเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล
มีความแตกต่างกัน
การลอกเลียนแบบหรือการปลอมแปลงจึงทำได้ยากมาก นอกจากนี้อี-พาสปอร์ตยังจะช่วยให้การตรวจสอบ
และยืนยันตัวเจ้าของพาสปอร์ตง่ายขึ้นด้วยเพราะสามารถอ่านข้อมูลบนไมโครชิพได้ทันที
โดยไม่จำเป็นต้อง
เปิดเล่มพาสปอร์ตด้วยซ้ำ การพัฒนาอี-พาสปอร์ตเกิดจากแนวคิดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(International Civil Aviation Organization - ICAO)
ซึ่งเป็นองค์การหลักที่กำหนดมาตรฐานของหนังสือเดิน
ทางทั่วโลก
ปัจจุบันมีสมาชิก 188 ประเทศ ได้เสนอให้มีการทำอี-พาสปอร์ตเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการยืนยันตัว
บุคคลเจ้าของหนังสือเดินทาง
แต่แนวคิดการจัดทำอี-พาสปอร์ตดังกล่าวมาได้รับการขานรับอย่างจริงจังหลังเกิด เหตุวินาศกรรมใน สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ในฐานะหนึ่งในมาตรการในการป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ
ขณะเดียวกันไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกำลังดำเนินการ
รวมทั้งให้ประเทศอื่นๆอีก 27 ประเทศที่ไม่ต้องวีซ่าเข้าสหรัฐใช้อีพาสปอร์ตเช่นกัน
องค์การสิทธิพลเมืองอเมริกัน(ACLU)ระบุว่า
ข้อมูลที่บรรจุในอีพาสปอร์ตนั้นสามารถขโมยได้ง่ายเช่นกัน
จากคุณ : สุเกียง - [ 11 ก.ค. 48 23:09:14 ]