Thai VI

คือผมเข้าใจเอาเองนะว่าปัจจุบันถึงจะมีปัจจัยลบมากมายแต่เราก็ไม่ได้เป็นหนี้สินเหมือนปี40-41 อาจจะมีผลกระทบต่อผลประกอบการบ้างแต่น่าจะดีขึ้นได้ในไม่เกินปีสองปีข้างหน้า หากน้ำมันไม่ขึนราคาจนมีผลกระทบแบบต่อเนื่อง ถ้าจะลงทุนในตอนนี้จะเหมาะสมไหมครับ

หุ้นที่จะลงทุนมีความเเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอย่างไร น่าจะเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ครับ

ตอนนี้แตกเป็นสองเสียง
ถ้าถามรัฐบาลก็ต้องตอบว่ายังเชื่อมันเศรษกิจไทย
ถ้าถามฝ่ายค้าก็ต้องว่ามันขาลง

เอาข้อมูลมาดูพูดกันตรง ๆ คือตอนนี้น้ำมันแพง
และมีแนวโน้มว่าจะแพงต่อไป
แต่ใครจะกล้าลงทุนในน้ำมันเต็มตัว
ในเมื่อพลังงานทดแทนก็กำลังจะนำเข้ามา

อย่าลืมว่าสาเหตุสำคัญที่เมื่อก่อนเรานิยมใช้น้ำมันคือมันมีราคาถูก
ทุกครั้งที่มันแพงทุกคนก็จะคิดถึงพลังงานทดแทน
แต่แล้วน้ำมันก็จะลงมา มีคราวนี้ที่อึดจริง

เรื่องขาลงคงไม่มีใครปฏิเสธได้ ว่าปีนี้แย่กว่าปีที่แล้ว

ประเด็นที่น่าติดตามคือ จะเป็น soft landing หรือ hard landing มากกว่าครับ

และจะ bottom out เมื่อไหร่

ปัจจัยที่ผมว่าเป็นตัวกำหนดคือจีนและหวัดนก

ถ้าจีน hard landing เราก็คงหัวทิ่มตามไปด้วย

ถ้าหวัดนกกลายพันธุ์ ติดจากคนสู่คน ...

แต่ถึงไม่มีสองอย่างนี้ ก็อาจจะ hard landing ได้นะครับ ถ้า
รัฐมีการตัดสินใจผิดพลาดสำคัญๆ เกิดขึ้น

ผมว่ายังมีปัจจัยจากภัยแล้งครับที่จะทำให้เกิดhard landing จริงๆ จากรากหญ้าด้วย (อันตรายสุดๆ)

ปัญหาน้ำมัน มันกว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมทุกอย่าง
ขาดดุลการค้า
หนี้สินครัวเรือน

สุดท้ายทางออก...
รัฐบาลกำลังจะขายพันธบัตรอีก9หมื่นล้าน
เดือนสิงหาน่าจะ2หมื่นล้าน
และออกอีกเดือนละ2พันล้าน
จนกว่าจะควักกระเป๋าประชาชน
พอไปปะกระเป๋าที่เคยอุ้มน้ำมัน

หุ้นคงไม่ลงทุกตัว แต่ก็คงลงหลายตัว
แรงงานขั้นต่ำประกาศปรับไปที่233บาทต่อวัน
คาดว่าผลประกอบการคงมีต้นทุนเพิ่มไตรมาส3-4อย่างชัดเจน

อืม หนักเอาการนะ

233 * 26 เท่ากับ 6058

จริงสิ กิจการพี่เจ๋งก็น่าจะโดนด้วยนะ

ปัจจุบันพี่ให้อยู่ 195 ค่าแรงขั้นต่ำ 175 และพี่กำลังหาทางเพิ่มให้เป็น 200 เพราะสินค้าทุกอย่างแพงขึ้น

อืม ถ้าจะเพิ่มเป็น 233 นี่ก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย

เมื่อคืนดูถึงลูกถึงคน เค้าก็ไม่ได้ค้าน นายกเต็มประตูนะครับ แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจการฉีดเงินลงไปในระบบเท่าไร ทำไมมีนโยบายเพิ่มเงินเดือนละ ผมว่างง อะแบบว่าให้ข้าราชการระดับล่างๆก็โอเคนะครับเพราะสงสารเค้า แต่หากพวกที่ได้ทั้งค่าตำแหน่ง+เงินเดือนเกิน 10000 ละผมว่าไม่น่าให้แล้วนะครับ เอาเงินส่วนนั้น ไปช่วยให้ความรู้ ชาวบ้านรากหญ้าไม่ดีกว่าเหรอ( เอโทษทีท่านนายก บอกระยะสั้นนี่เนอะ) แต่เงิรเดือนขึ้นแล้วขึ้นเลยนี่น่า กระตุ้นระยะสั้นๆแต่จ่ายไปตลอดยาวๆเหรอ??????

ความเห็นส่วนตัว นะครับ ผมว่าเศรษฐกิจไทยตอนนี้ยังไม่ได้เลวร้ายมากนะครับ เพียงแต่ผมก็เห็นว่าการที่จะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่ระมัดระวังอาจน่ากลัวกว่า ถ้าจำไม่ผิดท่านผู้นำเคยบอกว่าจะทำให้ GDP โต 7-8% ไปซัก 2 ปี หลังจากนั้นจะเป็น dubble digit (สองหลัก)ซึ่งกล่าวไว้นานแล้วเหมือนกัน แล้วก็ปรับลด มาเรื่อย 6-5-4 แต่ผมว่าโอเคนะ ไม่ต้องโตอย่างนั้นก็ได้ ผมว่าโตน้อยๆแต่สม่ำเสมอน่าจะดีกว่า ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ คือ การขาดดุลการค้า ซึ่งผมก็ห่วงว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรดี หากปล่อยให้ขาดดุลต่อไป ก็จะกระทบค่าเงิน และเรื่องอื่นๆอีก แต่จะแก้ก็ยากนะผมว่า อันนี้น่าห่วงกว่าไม่โตอีก ผมว่านะครับไม่รู้ว่าจะถูกผิดอย่างร

ตอนนี้ดุลการค้าเราเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล

สาเหตุหลักมาจากการนำเข้าสินค้า
ส่วนนี้เป็นส่วนที่นายกดูอยู่
แต่นักวิชาการที่ออกถึงลูกถึงคนเมื่อวานก็ว่าตัวเลขไม่ตรงกัน
แต่หลัก ๆ ก็น้ำมันนี่แหละตัวปัญหา

สึนามิเมื่อมาแล้วมันก็ไป ไม่ยืดเยื้อน่าเบื่อเหมือนก่อการร้าย
แต่มันก็มีสามจังหวัดภาคใต้นี่ซิ มันก็มีมานานแล้ว
แต่ช่วงหลังมันหนักขึ้น

ภัยแล้งช่วงนี้ก็เป็นหน้าฝนแล้วน่าจะดีขึ้น

ไข้หวัดนกไม่ใช่เรื่องใหม่ทางการก็เตรียมการับมือไว้แล้ว

สรุปว่าตอนนี้มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างมันประดังเข้ามา
และที่สำคัญคือคนไทยก็เริ่มแตกแยกกันเอง

อยากให้ดูประวัติศาสต์เมืองไทยให้ดี
กรุงศรีอยุธยากรุงแตกสองครั้งเพราะอะไร

จริง ๆ ตอนนี้ถ้าทุกคนในประเทศไทยสามัคคีกัน
ถามว่าตอนนี้พวกเรามีอะไรต้องกลัวไหม
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ ผมว่าพวกเราอยู่ในแผ่นดินทอง
มีทรัพยากรสมบูรณ์ แต่คนต่างหาก
ความสามัคคีน่าจะเอาคืนกลับมาได้แล้วครับ
ไม่งั้นพวกเราก็อาจจะเหมือนสมัยก่อน ๆ
ที่กรุงแตกก็ได้

อ่านเล่น ๆ แล้วกันครับ คงไม่ว่ากัน

ส่วนตัวผมคิดว่า

เราอยู่ในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ

แต่ดูเหมือนหลาย ๆ คนจะลืมกันไป

โฮ่ๆ ถ้าค่าแรงระดับ233 นี่ระบบอุตส่าหากรรมของประเทศคงล่มสลายไปเลยดีกว่า ลำพังปัจจุบันต้นทุนก็โดนจีนไล่ยำถึงในบ้านจนโรงงานปิดไปหลายร้อยโรงแล้ว ถ้า233 จริงคงต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นฮับของการค้าแทน ทำพวกเซอร์วิสหรือเทรดดิ้งดีกว่า ว่าแต่ว่าจะทำกันเป็นหรือเปล่าเนี่ย ยกประเทศกันเลยนะ

มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจะชัดขึ้นทันทีที่รัฐบาลประกาศลอยตัวน้ำมันดีเซลค่ะ ตอนนี้ยังเป็นปลอมๆอยู่(แต่ก็เห็นแนวโน้มแล้ว)เพราะรัฐอุ้มน้ำมันไว้ ของจริงที่จะเกิดขึ้นจริงนั้นต้องหลังจากลอยตัวน้ำมัน + ขึ้นค่าแรง และผลประกอบการของบริษัทต่างๆโชว์ผลประกอบการออกมา... นั่นหละของจริงค่ะ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นชัดในไตรมาส 4/2548 และในปีหน้านี้คงชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนหลังจากการปรับค่าเงินหยวนแล้ว

ดังนั้นจึงมองว่าแค่นี้ยังเป็นเพียงน้ำจิ้มที่เพิ่งจะเห็นรางๆเท่านั้นค่ะ ของจริงจะเกิดขึ้นให้เห็นในเร็วๆนี้ และการที่รัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการมาตรการต่างๆนั้น ก็ต้องมาดูกันว่าจะได้ผลจริงหรือไม่ ???

นักลงทุนที่เก็งกำไรแบบตัวจริงนั้นควรจะระมัดระวังมากๆนะคะ เพราะขนาด VI ยังเอาตัวแทบไม่รอดเหมือนกัน :lol:

ชอบกระทู้แบบนี้จังเลยครับ

thaistock2005 เขียน: สรุปว่าตอนนี้มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างมันประดังเข้ามา
และที่สำคัญคือคนไทยก็เริ่มแตกแยกกันเอง

อยากให้ดูประวัติศาสต์เมืองไทยให้ดี
กรุงศรีอยุธยากรุงแตกสองครั้งเพราะอะไร

จริง ๆ ตอนนี้ถ้าทุกคนในประเทศไทยสามัคคีกัน
ถามว่าตอนนี้พวกเรามีอะไรต้องกลัวไหม
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ ผมว่าพวกเราอยู่ในแผ่นดินทอง
มีทรัพยากรสมบูรณ์ แต่คนต่างหาก
ความสามัคคีน่าจะเอาคืนกลับมาได้แล้วครับ
ไม่งั้นพวกเราก็อาจจะเหมือนสมัยก่อน ๆ
ที่กรุงแตกก็ได้

อ่านเล่น ๆ แล้วกันครับ คงไม่ว่ากัน

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ Key word ก็มีสองสามคำ
"เศรษฐกิจพอเพียง"
"ความสามัคคี รักชาติอย่างพร้อมเพรียง"
" Merit oriented เน้นความดีมากกว่า ทุนนิยม"

น่าจะเพียงพอ ตอบรับ กระแสสังคมโลกที่ หมาป่าทุนนิยม ล่าเหยื่อทางเศรษฐกิจ ในระดับหนึ่ง

แต่การวางวางยุทธศาสตร์ระยะยาวก็จำเป็นมากเช่นกัน

ผมฝันไว้นะว่าซักวัน เทคโนโลยีหุ่นยนต์จะสมบูรณ์แบบ และมาแทนที่แรงงานทั้งมีฝีมือ และไร้ฝีมือ โดยการที่เราวางแผนให้เพิ่มประชากรน้อยๆ แต่มีคุณภาพ และ คุณธรรม และ ผลาญทรัพยากรน้อยกว่านี้

นักลงทุนที่เก็งกำไรแบบตัวจริงนั้นควรจะระมัดระวังมากๆนะคะ เพราะขนาด VI ยังเอาตัวแทบไม่รอดเหมือนกัน

เรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนะ อย่าโกรธผมเลย ผมเองก็อยากให้คนส่วนมากซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนะ
แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย
เพราะว่าการขึ้นค่าแรงจะมีผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลให้ของแพงขึ้นได้ถ้าเป็นสินค้าจำเป็นและผลักภาระให้คนซื้อได้ อย่างที่สอง คือ นายจ้างอาจลดการจ้างงานลงถ้าหากเห็นว่าแรงงานนั้นๆทำงานไม่คุ้มค่าโดยเฉพาะธุรกิจที่ใช้แรงงานคนแต่แข่งขันสูงจนกำไรต่ำ อย่างสุดท้าย ผมว่าสำคัญสุดคือ แรงงานไทยมีผลิตภาพที่ต่ำกว่าค่าแรงที่แท้จริง เช่นถ้าเทียบกับจีน หรือแม้แต่เวียดนาม สิงค์โปร์ แล้ว เค้าสามารถทำงานได้ดีเท่าเรา โดยค่าแรงต่ำกว่า หรือ ทำงานค่าแรงเท่าเราแต่ทำได้ดีกว่า นี่ต่างหากที่ผมว่าควรเน้นพัฒนาตนให้แต่ละคนเก่งขึ้นมากกว่า แทนที่จะเพิ่มเงิน เพราะว่าระยะยาวหากคนงานยังมีผลิตภาพ น้อยกว่าที่อื่นจะทำให้ประเทศเราใช้ทรัพยากรอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เป็นตัวฉุด GDP/หัว ด้วย เพราะมีคนเยอะแต่งานน้อย ตรงนี้ผมว่าน่าห่วงนะครับ
หากผิดพลาดไปโปรดอภัย

ลองมาดูข้อมูลจริงๆกันดูหน่อยดีไหมครับว่าสถานการณ์มันเลวร้ายอย่างที่เราคิด หรือเราวิตกจนเกินไป
http://www.nesdb.go.th/econSocial/macro ... s_thai.pdf