หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 04, 2005 11:22 pm
โดย ลูกจ้างชั้นดีต้องมีหนี้
เป็นไปได้ไหมคับ ว่าเศรษฐกิจจะล่มถ้าเราเห็นว่ามันสดใสและเชื่อมั่นอย่างสุดๆ
แต่ถ้าเรายังมีความกลัวกันอยู่อย่างงี้ เศรษฐกิจเราน่าจะไม่ล่ม
เพราะเหมือนว่าจะมีหลายตัวอย่างในอดีต ที่การล่มสลายของหลายๆ อย่างเกิดอย่างทันทีหลังจากความรุ่งเรืองอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่การค่อยเป็นค่อยไป
เหมือนที่เค้าบอกกันว่า วิวัฒนาการคือการก้าวกระโดด ไม่ใช่ค่อยเป็นค่อยไป
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 9:04 pm
โดย chatchai
จริงๆแล้ว ก็มีสัญญาณของความเสื่อมถอยมานานพอสมควรครับ เพียงแต่มีคนส่วนน้อยที่จะยอมรับความจริง
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 9:06 pm
โดย Stock Broker
เศรษฐกิจล่มครั้งก่อน เกิดจากค่าเงินถูกแช่แข็งไว้ แถมดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ระดับเกือบ 20%
ตอนนี้จะล่มได้ยังไงครับ?
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 9:09 pm
โดย ปรัชญา
น่าจะเกิดวิกฤตราคาน้ำมัน
ลามไปกระทบการเงินการคลังขาดดุลการค้าอย่างมโหฬาร
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 9:24 pm
โดย CK
ครับ ขาลงคราวนี้ รูปแบบคงจะแตกต่างจากคราวก่อน อาจจะไม่ crash
อาจจะใช้เวลานานมาก อาจจะฟื้นได้เร็ว อาจจะแย่กว่าคราวที่แล้ว
แต่ถ้ามีใครบอกว่าเป็นขาขึ้น
ผมว่าเค๊าหมายถึง ขาขึ้นไปก่ายหน้าผาก
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 9:52 pm
โดย สุมาอี้
เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะฝืดเคืองแน่นอน แต่จะไม่ถึงกับเป็นวิกฤตเศรษฐกิจอย่างปี 40
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 10:14 pm
โดย stp
ขอให้ลงจริงเถอะครับจะได้เตรียมตะกร้า เก็บ เก็บ เก็บ
เตรียมกระสุนยิง ยิง ยิง
ของ undervalue คงเยอะขึ้นเพราะจะมีแต่คนกลัวแล้วก็ขายๆๆ
อ่านข่าววันก่อนยอดขายมาม่าเพิ้ม 15 %
ช่วงวิกฤตก็ขายดีสวนกับภาวะเศรษฐกิจ
น่าจะมีทำ มาม่า index ไว้ประเมิน Economy นะครับ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 10:35 pm
โดย woody
stp เขียน:ขอให้ลงจริงเถอะครับจะได้เตรียมตะกร้า เก็บ เก็บ เก็บ
เตรียมกระสุนยิง ยิง ยิง
ของ undervalue คงเยอะขึ้นเพราะจะมีแต่คนกลัวแล้วก็ขายๆๆ
อ่านข่าววันก่อนยอดขายมาม่าเพิ้ม 15 %
ช่วงวิกฤตก็ขายดีสวนกับภาวะเศรษฐกิจ
น่าจะมีทำ มาม่า index ไว้ประเมิน Economy นะครับ
เพื่อไม่ให้เกิดความเบี่ยงเบน ขอเป็นดัชนีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยรวมยี่ห้ออื่นเข้าไปด้วยครับ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:29 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
เป็นไปได้ไหมคับ ว่าเศรษฐกิจจะล่ม
อ่านไม่ออกครับ ยากจริงๆเรื่องนี้ ที่จริงล่มคราวที่แล้วเกิดจากอะไร จนบัดนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยครับ อิอิอิ ตอนนั้นผมยังเอ๊าะๆอยู่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
เห็นเขาว่าเกิดจากโดนโจมตีค่าเงินเหรอครับ ก็ไม่น่าจะเป็นจากเรื่องนี้เรื่องเดียวนะ น่าจะประกอบกับกู้เงินนอกมากเกินไปด้วย เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไปและเกินจริง ดอกเบี้ยขึ้นมหาโหด เงินไหลเข้าออกประเทศง่ายๆ มีการโกงในสถาบันการเงิน และอีกจิปาถะ
โดยสรุปผมเดาว่า ที่เศรษฐกิจเราล่ม(ป่วยหรือเสียสมดุลย์อย่างแรง)น่าจะมาจากการที่ประเทศเราเริ่มเสียสมดุลย์ก่อน แล้วมีโรคร้ายเข้ามาเบียดเบียนจนทำให้เราป่วยในที่สุด
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:31 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
ถ้ามองย้อนอดีตก็จะได้ว่า
เราเริ่มเสียสมดุลย์ตอนที่เราเริ่มเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ตอนนั้นอะไรๆก็แพงขึ้น ธุรกิจดีขึ้น ที่ดินแพงขึ้น มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมากมาย(รวยเทียมเพราะขายที่เฉยๆ ไม่ได้เกิดจากความสามารถ) ทำธุรกิจอะไรก็ได้กำไรงามทั้งนั้น เพราะมีความต้องการเทียมจากความรวยเทียมเยอะมาก
แล้วก่อให้เกิดความไม่สมดุลย์อื่นๆตามมาเช่น ดอกเบี้ยในประเทศสูงมากทั้งเงินกู้และเงินฝาก คนก็หันไปกู้เงินนอก เอามาฝากธนาคารเฉยๆยังได้กำไร ธนาคารก็ปล่อยสินเชื่อแบบเสี่ยงๆเพราะความโลภครอบงำเชื่อว่าหนี้ไม่เสียแน่ ก็เศรษฐกิจดีแบบนี้ นี่แหละโอกาสทองที่จะทำกำไร บางแห่งก็ร่วมมือกับลูกค้าช่วยกันโกงดื้อๆ ใครไม่โกงก็โง่ สรุปตอนนั้นประเทศเราเสียสมดุลย์แล้ว
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:34 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
ต่อมาก็มีเชื้อโรคเข้ามา และก็เข้ามาได้ง่ายๆ เพราะเราเปิดรับเขาเอง(อาจจะโดนบังคับให้รับเพราะตอนนั้นเราอ่อนแอ) โดยเปิดให้เงินเข้าออกประเทศได้แบบเสรี ตรงนี้เท่ากับประเทศเราสูญเสียภูมิต้านทานเชื้อโรคไปแล้ว
แล้วก็มีเชื้อโรคเข้ามา เป็นเชื้อที่ร้ายแรงเสียด้วย ถ้าไม่แรงจริงเราก็อาจจะไม่ป่วยหนัก อาจจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา พักสักหน่อยก็อาจฟื้นได้เอง แต่พอเป็นเชื้อร้ายแรงและเป็นมืออาชีพอย่างกองทุนเฮดฟันด์โดยโซรอส ที่มีประวัติทำลายได้แม้กระทั่งธนาคารแห่งเกาะอังกฤษ พยากรณ์โรคของประเทศเราก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ยังไม่ป่วยหนักครับ ถ้าเรามีอาการไม่สบายแล้วไปหาหมอก็ยังมีหวัง เจ้าบ้านของเราตัดสินใจสู้กับโรคด้วยตนเอง เอาทุนสำรองไปต่อสู้ค่าเงินเพื่อปกป้องค่าเงินเอาไว้ ใช้เงินมหาศาล ยกแรกเจ้าบ้านชนะ ดีใจกันยกใหญ่ เชื้อโรคตายแล้ว ฮ่าๆๆๆ กองทุนกิ๊กก๊อกจะมาสู้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้อย่างไร ผมจำได้แม่นยำมีการออกข่าวว่า อำนวย วีรวรรณ ทำสงครามสั่งสอนกองทุนต่างชาติ ปกป้องค่าเงินบาทได้สำเร็จ มีการฉลองกันยกใหญ่ ฉลองได้ไม่ทันไร ต้องขึ้นชกยกสอง ยกนี้แหละครับ โดนน็อกเรียบร้อยไม่เหลือฟอร์ม ทุกคนตกตะลึงหมดทำอะไรไม่ถูก ปั่นป่วนทั้งบ้านทั้งเมือง
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:35 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
ตอนนี้เลือดเริ่มไหลออก และไหลแบบรุนแรงมากเพราะเราไปเปิดช่องให้ไว้แล้วตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังมีทางรักษาอยู่ เพียงแต่ต้องการหมอที่ใจกล้าบวกกับมีประสบการณ์ความรู้ที่มากพอ ที่มาเลเซียหมอเขาใช้วิธีอะไรไม่รู้(ผมจำไม่ได้) แล้วก็ได้ผล ประเทศเขารอดพ้นวิกฤติได้ แม้จะแบบหวุดหวิด
อนิจจา...เมืองไทยจำเป็นต้องลอยค่าเงินบาท(เรียกว่าลอยแต่จริงๆคือลดแบบไม่มีลิมิต) ในสถานการณ์ที่เครดิตประเทศแย่สุดๆ การล้มละลายของธุรกิจต่างๆทยอยเกิดขึ้นแบบโดมิโน(เรารอดโดมิโนจากคอมมิวนิสต์ แต่มาเจอโดมิโนจากทุนนิยมที่เราเคยเอาชีวิตเข้าปกป้อง เจ็บปวดจริงๆ)เริ่มที่สถาบันการเงินแล้วลามไปแทบทุกธุรกิจ
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:38 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
วิกฤติรอบใหม่ ถ้าจะเกิดขึ้น ในรายละเอียดไม่จำเป็นต้องมีสาเหตุเหมือนรอบที่แล้ว แต่ในภาพรวมของการป่วยหนัก มันเหมือนกันหมด เพียงแต่ตัวละครอาจจะเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่โดยกลไกการเกิดโรคมันไม่แตกต่างกัน
รอบนี้จุดที่ทำให้ประเทศเราเริ่มเสียสมดุลย์ น่าจะเป็นเรื่องกำลังซื้อเทียมที่เกิดจากกองทุนหมู่บ้าน ที่สามารถมีกำลังซื้อได้โดยง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์มากมาย เพราะรัฐบาลท่านให้สามารถเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุนได้ ลำบากแค่ไปขอกู้เท่านั้นเอง ซึ่งก็มีให้กู้ทุกหมู่บ้านทั้งประเทศ ก่อให้เกิดหนี้สินภาคครัวเรือนมากมาย ก็อาจจะเป็นชนวนก่อให้เกิดการเสียสมดุลย์ได้ โดยเฉพาะผู้ที่กู้มาเพื่อบริโภคอย่างเดียว ไม่ได้เอาไปลงทุนให้งอกเงย
ข้าราชการเองก็มีช่องทางให้เป็นหนี้มากมาย ทั้งจากระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากโดยเฉพาะข้าราชการครู ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เงินจากอนาคตจนแทบจะไม่เหลืออนาคตอีก และจากบัตรเครดิตซึ่งเกิดขึ้นเหมือนดอกเห็ด
ลูกจ้างภาคเอกชนก็มีบัตรเครดิตไม่น้อยหน้าวงการอื่น เหล่านี้ล้วนแต่สามารถเป็นชนวนให้เกิดการเสียสมดุลย์ได้
แต่ถ้ามองตามเนื้อผ้าไม่เข้าใครออกใคร ก่อนหน้าที่จะมีกองทุนหมู่บ้าน ชาวบ้านเป็นหนี้ไหม ก็เป็นนะเท่าที่ผมเห็น เพียงแต่เจ้าหนี้คือนายทุนเงินกู้ คือผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับสูงมาก ร้อยละสิบต่อเดือนเป็นเรื่องธรรมดามาก และถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ถูกมากแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ชนวนตัวใหม่ก็ได้ เพราะปัจจัยตัวนี้ก็มีอยู่มานานแล้ว
ในส่วนภูมิต้านทานโรค ผมว่าช่วงฟื้นไข้ใหม่ๆ ภูมิต้านทานยังเหลือมากพอสมควร
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:39 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
แต่รอบนี้สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนเดิมแล้ว โดยมีน้ำมันเป็นปัจจัยใหม่ ด้วยราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ ก็อาจจะทำให้เกิดผลได้ทั้งสองทาง ทำให้เกิดการชลอตัวลงของเศรษฐกิจก็ได้ เกิดข้าวยากหมากแพงก็ได้ หรือจะเป็นตัววัคซีนไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคก็ได้
ตัวเชื้อโรคผมยังมองไม่เห็น ก็เป็นธรรมดาที่มองไม่เห็น ถ้าเห็นได้ง่ายๆก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
ช่องทางที่เชื้อโรคเข้าก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
หมอที่จะมาทำการรักษา ในส่วนตัวผมก็ว่า เก่งนะ ไม่น่าจะพลาดเหมือนคนก่อน เครื่องไม้เครื่องมือก็มีมากกว่าคนก่อน อำนาจก็เบ็ดเสร็จกว่าคนก่อน ประสบการณ์ก็มากกว่า
โดยรวมๆ ผมว่าไม่น่าจะป่วยหนักในเร็วๆนี้นะ เดาเอา
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 05, 2005 11:55 pm
โดย CK
ผมว่าหมอเก่งครับ แต่ถ้าวินิจฉัยพลาด จะหนักกว่าเจอหมอไม่เก่งที่วินิจฉัยถูกต้องอีก
จริงๆ เราป่วยมาได้พักนึงแล้วครับ แต่หมอแกยังไม่ยอมรับว่าป่วย ยังกระตุ้นให้
กินอาหารบำรุงเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ อยู่ โดยเฉพาะเม็กกะโปรเจ็คชามใหญ่สารพัด ซึ่ง
ในยามที่ร่างกายแข็งแรง อากาศดีๆ อาหารเหล่านี้จะมีประโยชน์มากในระยะยาว
แต่ในเพลานี้ ผมว่าอาจจะกลายเป็นตัวเร่งให้เข้าโคม่าเร็วขึ้น โดยเฉพาะในยาม
ที่อากาศภายนอกจากน้ำมันร้อนระอุขึ้นไปถึง 60 แล้ว ถ้าไปถึง 100 จะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้ เชื้อโรคที่เริ่มฝังตัวมาตั้งแต่สองสามปีก่อนเริ่มทำให้เกิดอาการหลายอย่าง
โดยเฉพาะตัวที่ร้ายแรงที่สุดที่มีชื่อว่า FTA ซึ่งไอ้ตัวนี้ น่ากลัวกว่ากองทุนอีแร้ง
คราวที่แล้วหลายเท่านัก
เชื้อฝังใน h5n1 ที่อาจจะอ่อนแรงไปแล้วอาจจะกลับมาใหม่ คราวนี้รุนแรงกว่าเดิม
เพราะจะ airbourn จากคนสู่คน
ส่วนปัจจัยภายนอกที่จะช่วยเร่งให้ป่วยเร็วขึ้นคือจีน ก็เริ่มมีอาการให้เห็นบ้างแล้ว
ถึงแม้จะเพียงแผ่วเบา
ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้าย คือความโลภของทีมหมอ ที่อาจจะกลับมาซ้ำเติมคนไข้
หลังป่วยหนัก เอาตัวรอดไปก่อนแล้ว
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 12:01 am
โดย ปรัชญา
พอจะเห็นภาพลางๆครับ
ยุคนั้น กู้เงินจากต่างประเทศ ในรูปดอลล่าร์มามากมาย
พวกแบ๊งค์ต่างๆ พากันกู้เข้ามาปล่อยกินส่วนต่าง
ของดอกเบี้ยรับ ดอกเบี้ยจ่าย
คือกู้มาอัตราดอกเบี้ยร้อยละ5-6%
ปล่อยกู้11-12% ช่วงปี พศ.36-38
ภาคเอกชนก็กู้กันอย่างเมามัน
ขนาดต่างจังหวัดนี่ยังกู้เงินดอลล่าร์มาเลย
คือกู้มา1ดอลล่าร์เปลี่ยนเป็นเงินบาท23-27บาท แต่พอเศรษฐกิจแย่ลอยตัวค่าเงินบาท
เจ้าหนี้เรียกเงินคืน ต้องคืนเป็นดอลล่าร์(เขากลัวประเทศเราเจ๊งเลยรีบเรียกเก็บเงินคืน)
แต่การคืนเอาเงินบาทไปซื้อดอลล่าร์คืนที่53บาท
กู้1บาท ต้องจ่าย2บาทเลย ไม่รวมดอกเบี้ย
ภาคธนาคารกู้เงินระยะสั้น
แต่มาปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์
์
การเป็นกู้มาู้1เดือน-24เดือน
แต่มาปล่อยกู้25ปีกับคนผ่อนบ้าน
เวลาเจ้าหนี้ทวงถาม ก็นึกเอาเองแล้วกันจะเป็นไง
รอบ2ที่ แพ้ต่างชาติเพราะเขาวางแผนกันมาดี
เพราะแพ้รอบแรกแล้วเขามีแผน2
ขนเงินเข้ามาซื้อหุ้นไว้เยอะมาก
และเทขายหุ้นแบบยอมขาดทุน (ไม่ทราบว่าพนันดัชนีไว้ที่ไต้หวันหรือสิงคโปร์ละเปล่า)
เพื่อแลกเงินดอลล่าร์กลับประเทศ
บวกกับขาดดุลการค้าต่อเนื่องยาวนาน
ส่งออกติดลบ ตระกร้าเงินไม่สมดุล
ธปท. ขาดดอลล่าร์เกินพิกัด จนครบกำหนดส่งมอบ
ไม่มีส่งมอบเลยต้องเข้าพึ่ง IMF
เซ็นต์สัญญากู้เงิน เลยต้องให้เขากำหนดนโยบายการเงิน
เขาสั่งให้ตรึงอัตราดอกเบี๊ยระดับสูง เพื่อกันเงินไหลออกนอกประเทศ
ปิดกิจการไฟแนนท์ ยึดทรัพย์สินมาขายทอดตลาดฯ
(แหม เล่าอย่างกับจบการเงินมาแน่ะ อีตานี่)
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 12:05 am
โดย CK
เยี่ยมครับ พี่ปรัชญา วันนี้เก็บความรู้จากพี่ได้สามเรื่องเต็มๆ เลย
ทั้งเกมการเงิน โรงบรรจุแก๊ส และอพาร์ตเม้นท์กับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 12:21 am
โดย เพื่อน
หมอที่จะมาทำการรักษา ในส่วนตัวผมก็ว่า เก่งนะ ไม่น่าจะพลาดเหมือนคนก่อน เครื่องไม้เครื่องมือก็มีมากกว่าคนก่อน อำนาจก็เบ็ดเสร็จกว่าคนก่อน ประสบการณ์ก็มากกว่า
คุณสามัญชนอย่าลืมนะครับว่าหมอคนเดียวกันนี้ เมื่อคราวก่อนไปร่วมมือกับเชื้อโรคมานะ......จำได้รึปล่าวว่าคราวที่แล้วใครรวยถึงขั้นปิดศูยน์ประชุมสิริกิต์จัดเลี้ยงขอบคุณรัฐบาลด้วยแชมเปญราคาแพงลิ่ว...เราได้แต่มองตาปริบๆ
คนที่จะรวยกับค่าแลกเปลี่ยนเงินขนาดนั้น ไม่ธรรมดานะครับ ต้องใช้เงินจำนวนสูงไปตั้งรอไว้ที่ต่างประเทศและต้องมีความมั่นใจมากด้วยว่าเสร็จตรูแน่ รอวันที่นัดหมายเท่านั้นแหละ.....จะชมว่าเป็นความสามารถทางธุรกิจดีหรือปล่าวน้อ!
ยังไว้ใจหมออยู่เหรอครับ....
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 12:31 am
โดย CK
คุณเพื่อน
ผมไม่ไว้ใจหมอคนนี้เลยครับ
แต่คราวนั้น ถึงแม้ไม่ใช่ความสามารถ แต่ต้องยอมรับว่า เขาตัดสินใจถูกต้องครับ
เนื่องจากเคยบาดเจ็บสาหัสตอนลดค่าเงินสมัยเปรม เขาตั้งกฎเหล็กไว้ว่า การ
กู้เงินต่างประเทศ ต้อง square position เสมอ
ส่วนเรื่องบัญชีพิเศษที่ตั้งรอไว้ นั่นเขาเรียก ฉวยโอกาสครับ :lovl:
(เป็นสิ่งที่นักธุรกิจที่ดีทุกคนต้องทำอยู่แล้ว)
ผมละกลัวเหลือเกิน ว่าท่านจะฉวยโอกาสอีกหลายครั้ง คราวนี้ ข้อมูลวงในลึกกว่าคราว
ที่แล้วเยอะเลย
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 9:58 am
โดย Mon money
คราวนี้น่ามาจาก การขาดดุลที่รุนแรง ดูจากตัวเลขแล้วน้ำมันล้วนๆ เครื่องจักร วัตถุดิบยังไม่ผิดปกติ ...อาการน้ำมันแพงทำให้ต้นทุนทุกอย่างแพงขึ้นส่งผลต่อเนื่อง รวมทั้งต้นทุนค่าครองชีพของทุกคน จะพาให้เศรษฐกิจถดถอยอีกนาน
เรื่องราคาน้ำมันไม่ต้องคิดมาก ผมฟันธงเลยว่ามันไปถึงไม่ต่ำกว่า 80 USDแน่นอน ขนาดจีนยังทุ่มไม่อั้นกับการหาแหล่งน้ำมันมาเป็นของตัวเอง แสดงว่ามันกำลังเข้าขั้นโคม่าแล้วจริงๆ
มาตราการอย่างเดียวที่จะทำให้เรารอดคือ ประหยัดให้มากที่สุด ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ปรับตัวเองไว้รอการ เข้าคิวซื้อน้ำมันได้ ใครมีหนี้ก็เร่งๆจ่ายให้มากที่สุด ดอกเบี้ยจะต้องขึ้นแน่ๆ เห็นออกหุ้นกู้ ตราสารหนี้กันยกใหญ่เป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานมันมาแน่ ปรับตัวรอไว้ก่อนเลย ไม่เกิดก็ไม่เห็นเป็นไร เกิดก็รับได้สบายๆ
ที่นี้นักลงทุนจะทำอย่างไร
1 หากิจการที่ใช้เงินทุนจากทุนไม่ใช่จากการก่อหนี้
2 หาบริษัทที่ใช้ช่วงเวลาวิกฤติปรับโครงสร้างและเร่งขยายงานจนอยู่ตัวแล้ว
3 หากิจการที่จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟื่อย
4 รอเวลาให้ดี
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 10:22 am
โดย โป้ง
คุณ มน มองแบบตีแตกเลยนะครับ
นั้นผมมองต่อว่า หุ้นพลังงานอย่าง PTT แม้ราคาปัจจุบันจะสูง ก็ยังน่าเก็บเมื่อเทียบกับ ราคาน้ำมันที่จะวิ่งขึ้นไปในอนาคตครับ
ส่วนจีนเร่งหาพลังงานกันสุดเวี่ยงเลยครับ หลังจากซื้อยูโนแควร์ จับมือกับรัสเซียต่อ ขุดเจาะน้ำมัน-สำรวจก๊าซ ในตอนนี้ shanghai ไฟฟ้าก็ใกล้จะดับทั้งเมืองอยู่แล้ว เจอการขยายตัว-เจอคลื่นความร้อน 40 องศา ใช้ไฟฟ้ากระฉูด
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 10:33 am
โดย CK
PTT มีความเสี่ยงอีกหลายอย่างครับ รายได้จากการขายน้ำมันของ PTT เอง
จิ๊บจ๊อยมากเมื่อเทียบกับธุรกิจปิโตรเคมี
อย่าลืมเรื่อง Global Warming ด้วยนะครับ เร่งกันใช้พลังงานขนาดนี้ โลกต้อง
ร้อนขึ้นอยู่แล้ว และจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ว่าแล้วก็ไปซื้อ SNC ต่อดีกว่า
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 10:36 am
โดย โป้ง
รายได้ของ PTT จากการขายน้ำมันไม่เท่าไหร่ครับ
แต่น้ำมันขึ้นเยอะ พลังงานตัวอื่น เช่น ก๊าซ ถ่านหิน ก็มีการใช้มากขึ้น ราคาขายก็ดีขึ้นครับ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 10:38 am
โดย woody
CK เขียน:PTT มีความเสี่ยงอีกหลายอย่างครับ รายได้จากการขายน้ำมันของ PTT เอง
จิ๊บจ๊อยมากเมื่อเทียบกับธุรกิจปิโตรเคมี
อย่าลืมเรื่อง Global Warming ด้วยนะครับ เร่งกันใช้พลังงานขนาดนี้ โลกต้อง
ร้อนขึ้นอยู่แล้ว และจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ว่าแล้วก็ไปซื้อ SNC ต่อดีกว่า
ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบบบ.......อย่าเผลอไปหา work ละกันครับ ฮิฮิ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 10:45 am
โดย โป้ง
รายได้หลักของ PTT มาจากก๊าซครับ รองๆมาก็ กลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี
มีหุ้นใหญ่อยู่ใน Pttep อยู่ 66%
มีหุ้นใหญ่อยู่ใน TOP อยู่ 50%
ถ้าน้ำมันไป 80$ กลุ่มพลังงาน แบบ หุ้น PTT น่าเก็บ น่าลงทุนที่สุดแล้วครับ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 11:03 am
โดย CK
PTT
ก๊าซได้ผลดีแน่นอนครับ -- แล้วทำไมไม่ซื้อ PTTEP ซึ่งได้ตรงกว่า เยอะกว่า
กลั่นน้ำมัน -- รายได้ไม่น่าจะเพิ่มครับ อาจจะลดด้วย เพราะ consumption จะลดฮวบแน่ๆ
ปิโตรเคมี -- ขึ้นกับ demand ครับ ยังไงคิดว่า demand ไม่น่ายืนสูงไปจนถึงปี 2008
น่าจะพีคในปีสองปีนี้
สรุปว่า PTT น่าจะปานกลาง แต่ PTTEP น่าจะดีกว่ามาก
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 11:11 am
โดย โป้ง
กลั่นน้ำมัน -- รายได้ไม่น่าจะเพิ่มครับ อาจจะลดด้วย เพราะ consumption จะลดฮวบแน่ๆ
ที่คิดว่าไม่น่าลดหวบ เพราะ ราคาน้ำที่ขึ้นมามาก เกิดจากปริมาณการใช้ที่มากขึ้น หรือราคาน้ำมันในตลาดจะมีปัจจัยหลักอื่นๆนอกจากอุปทานที่มากขึ้นครับ
ผมกลัวว่า ค่าการกลั่น จะถูกบังคับ เป็นกฎหมายมากกว่าครับ
PTTEP ก็น่าสนครับ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 11:44 am
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
ท่านพี่เพื่อนครับ
ผมยังไว้ใจหมอคนนี้ครับ ไม่ได้ไว้ใจร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็เกินครึ่ง ขณะที่เทียบกับคนอื่นซึ่งไม่ถึงครึ่ง
สาเหตุเพราะว่า เรื่องแรงจูงใจ และเรื่อง Maslow's Hierarchy of Needs ครับ
ถ้ามี 2 ทางเดินให้ท่านนายกเลือก คือ
ก. ลงจากตำแหน่งนายกอย่างสง่างาม หลังจากได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมามากมาย ไม่คอรัปชั่น ได้ทดแทนบุญคุณแผ่นดิน และอาจได้เป็นรัฐบุรุษด้วย
ข. โกงกินประเทศชาติ แล้วมีเงินเพิ่มมากขึ้นหลายแสนล้าน แต่สุดท้ายไม่มีแผ่นดินจะอยู่เพราะประชาชนขับไล่
ผมมองว่า
ท่านมีโอกาสสูงกว่าที่ท่านจะเลือกข้อก. ไม่ได้ฟันธงว่าท่านจะไม่เลือกข้อข.นะ ท่านอาจจะเลือกก็ได้ แต่แรงจูงใจที่จะเลือกน่าจะน้อยกว่า
คนที่มีครบตามข้อ1-4 ของ Maslow's Hierarchy of Needs มีโอกาสสูงที่จะอยากทำให้ข้อ 5. สำเร็จ
มีโอกาสน้อยที่จะย้อนมาอยากได้ข้อ1.อีก
Maslow's Hierarchy of Needs คือ ความต้องการของมนุษย์ แบ่งเป็นระดับชั้นได้ตามลำดับก่อนหลังดังนี้
1. คือ physiological needs หมายถึง ความต้องการทางด้านร่างกายเพื่อให้มีชีวิตรอด เช่น ปัจจัยสี่ ต่างๆ หรือเงินทองที่จะนำไปซื้อปัจจัยสี่
2. safety needs คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
3. social needs ( love needs ) ต้องการความยอมรับหรือความรักจากสังคม
4. esteem needs ต้องการความภาคภูมิใจในตัวเอง
5. self actualization เป็นความต้องการขั้นสุดท้ายของมนุษย์ คือต้องการทำสิ่งที่ตนเองคิดว่าดีที่สุดสำหรับเพื่อนมนุษย์หรือตนเอง
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 1:42 pm
โดย ForrestGump
จม. ถึง พี่ศรราม
หุหุ พี่ศรราม ถ้าคิดตามทฤษฎีนั้น ก็ต้องไว้ใจหมอคนนี้แน่ๆ เหมือนที่ ประชาชนเค้าคิดกันตอน รัฐบาล คุณหมอ1 แต่ตอนคุณหมอ2 เท่าที่ทราบจากคนวงการเมือง คุณหมอท่านนี้ใช้พลังเงินมากกว่า ครั้งแรกอีกมากนัก เพราะการแข่งขันสูงขึ้น อีกทั้งยังใช้พลังภายใน ภายนอกเข้าร่วมอีก
อีกปัจจัยที่คุณหมอท่านนี้ชนะท่วมท้น คือ ณ timing นั้น คู่ต่อสู้อ่อนแอมากเกินไป ถ้ามีหมอรูปหล่อที่ตั้งลำได้แล้วมา แข่ง ก็คงจะไม่ชนะได้ขนาดนี้
แต่พี่ศรราม อย่าลืมว่า อันว่าด้วยการเมืองแล้ว ต้องใช้เงินมหาศาล โดยมีกลุ่มทุนต่างๆ เป็นผู้สนับสนุน แล้วเมื่อลงทุนไปแล้ว ประสบความสำเร็จ การต้องตอบแทนของคนที่รับการสนับสนุน และ การต้องการรับผลตอบแทน ของคนที่ได้สนับสนุนไปย่อมเกิดขึ้น
และแน่นอนครับ ว่า ด้วยธรรมชาติของพ่อค้า ย่อมไม่หวังผลตอบแทนแค่เท่าทุน ต้องหวังกำไรด้วย ซึ่งไม่ได้หวังกำไรน้อยด้วยครับ
เมื่อก่อนนี้ ผมไว้ใจหมอคนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยคิดตามทฤษฎีของ มาสโลว์นี่แหละ "คนรวยแล้ว ไม่โกง" แต่พอเวลาผ่านมา ผมพบว่า "ตัวเลือกที่ดีที่สุดขณะนี้" ก็โกงเป็นเหมือนกัน เพราะได้ลงทุนไปมาก
ถ้าจะให้การเมืองสะอาด ต้องล้างคนเก่าๆ ออกให้หมด แล้วให้คนที่จิตใจดี เก่ง มาทำงาน มีองค์กรอิสระตรวจสอบที่เข้มแข็งมากๆ โดยสามารถชนะทางการเมืองโดยไม่ใช้เงินมาก
สุดท้ายผมคิดไปคิดมาหลายตลบแล้ว ถ้าเรามีโอกาสทางการเมือง และ มีโอกาสทุจริตกับ ผลประโยชน์มหาศาลอย่างง่ายๆ โดยมีตัวเร่ง คือ คนประจบสอพลอ รอบข้าง
...... ผมก็อาจเป็นเหมือนกับคนที่ผมด่าก็ได้
สุดท้ายอีกที ผมก็มีทางออก คือ สวดมนต์ภาวนาขอให้มีคนดีที่แท้จริง มาช่วยบ้านเมือง มาบรรเทาความกังวลของ ในหลวงที่รักยิ่งของพวกเรา และ....
....ทำใจว่า พวกเราคงมีบุญแค่นี้
ขอแสดงความนับถือ
ผมเห็นหลายคนเป็นห่วงเศรษฐกิจไทยจะล่มอีกรอบ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 06, 2005 2:06 pm
โดย โป้ง
นักเศษรฐศาสตร์ชื่อดัง บอกไว้ ซบเซาคราวนี้ไม่เลวร้ายเหมือนครั้งที่แล้วครับ