Thai VI

สังเกตไหมว่าบริษัทเอกชนไม่มีค่อยมีพนักงานที่อายุเกิน 45 หลงเหลืออยู่ ยกเว้นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งตำแหน่งระดับสูงมีนิดเดียวเหมือนยอดปิรามิด แล้วพวกที่เหลือที่ขึ้นไม่ถึงอีกตั้งเป็นกระบุงพออายุเกิน 45 เขาหายไปไหนกันหมดครับ สงสัยจัง

คุณสุมาอี้คิดเหมือนผมเลย แต่เท่าที่ผมสังเกตนะครับบริษัทไฟแนนซ์หรือแบงค์จะมีคนกลุ่มนี้อยู่พอสมควร ที่ไม่ค่อยเห็นคือบริษัทเล็กๆไปจนถึงกลางย่อมๆ ผมเข้าใจว่าพื้นเพของคนกลุ่มนี้น่าจะเป็นคนตจวคือมีที่ดินและบ้านอยู่แล้ว หรือไม่ก็ทำการค้าของชำเล็กๆน้อยๆในหมู่บ้านครับ

hatorihunso เขียน:เท่าที่ผมสังเกตนะครับบริษัทไฟแนนซ์หรือแบงค์จะมีคนกลุ่มนี้อยู่พอสมควร

เห็นด้วยอย่างแรง เท่าที่สังเกตคนรอบตัวเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่ทราบว่าทำไมสถาบันการเงินจึงเลี้ยงคนแก่ไว้

คนที่ออกไปจากระบบ เท่าที่อยู่ในความทรงจำของผม มี 2 คน ไปเป็นอาจารย์

ตอนนี้อายุ46แล้วครับ :lovl: :lovl: :lovl:
กำลังมองหาธุรกิจตัวใหม่
คนเรานี่ยิ่งรู้มาก ก็ยิ่งคิดมาก
คิดมาก มาก เลยไม่ได้ทำ มัวแต่คิดอยู่ :lovl: :lovl: :lovl:

ตายหมดครับ

ไม่ก็อยู่ในร้านกาแฟ ร้านพระเครื่อง ร้านอาบน้ำ แบบว่ารวยจนไม่มีไรทำ

เข้าวัดไปหมดแล้วมั๊งคะ....แหะๆ หรือไม่ก็แบบเณรแออ่ะ..45 ปีเป๊ะเลย

..........ชีวิตกำลังเริ่มต้นที่จะทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราว
..........บ้างทำรร.สอนพิเศษแบบคุมอง
..........บ้างออกมาขายหวย( นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนให้ 5 เปอร์เซนต์เลยงี้ )
..........หาที่ดินเล็กๆทำรีสอร์ทเผื่อให้เพื่อนๆวัยชราเหมือนกันมาเมาท์เป็นเพื่อน
..........เปิดร้านขายส้มตำไก่ย่าง...ลาบ..เลือดอิอิ
*** เอ..หรืออยู่เฉยๆ นั่งหน้าจอแบบ.. รออิสรภาพทางการเงิน (ที่ฝันเอาไว้) ***

สุมาอี้ เขียน:สังเกตไหมว่าบริษัทเอกชนไม่มีค่อยมีพนักงานที่อายุเกิน 45 หลงเหลืออยู่ ยกเว้นผู้บริหารระดับสูง ซึ่งตำแหน่งระดับสูงมีนิดเดียวเหมือนยอดปิรามิด แล้วพวกที่เหลือที่ขึ้นไม่ถึงอีกตั้งเป็นกระบุงพออายุเกิน 45 เขาหายไปไหนกันหมดครับ สงสัยจัง

ผมออกมาตอน36 ตอนจะออกเจ้านายบอกคุณใกล้จะ
ขึ้นระดับสูงแล้ว น่าจะอยู่ต่อ
ฮาๆๆ คนเราก็มีหลายแบบ
แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานก็มีเยอะ
นับๆดูแล้วเหลือไปถึงยอดไม่กี่คน
คนเล่นหุ้นจนประสบความสำเร็จถึงยอดปิรามิดก็ด้วยมังครับ


ผมก็อย่างพี่ปรัชญาว่า
คิดมาก คิดๆๆๆ จนไม่ลงมือทำ ฮาๆๆๆ :lol:

สงสัยรวยกันหมดแล้ว เลยไปพักผ่อนครับ

ถ้าอายุ 45 แล้ว ขอผมอยู่ทำงานอีกซัก 5 ปีนะครับ เจ้านาย












เพราะว่าผมตั้งเป้าไว้ว่าจะเกษียณตอนอายุ 50 ครับ

เกาะภรรยากิน เอ้ย ล้อเล่น :lol:  :lol:  :lol:
ความจริงหวังไว้ว่าอายุ 45 พอร์ตน่าจะใหญ่พอจนไม่ต้องทำ ot จะได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกทำกับข้าวครับ แฮ่ม

เรื่องนี้น่าสงสัยเหมือนกันครับ.....อย่างพ่อผมก็เป็น consultant ไม่ได้เป็นผู้บริหาร
งานน่าจะมีสองสาย ไม่บริหาร ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ที่เป็นนักลงทุนน่าจะน้อย มีคนเล่นหุ้นแค่ 4 แสนคนเอง
ส่วนที่ทำธุรกิจส่วนตัวผมไม่รู้เฮะ

ยกตัวอย่างคนใกล้ตัว คุณแม่ของผมเองครับ
เป็นที่ปรึกษา
เป็นอาจารย์พิเศษ
เป็นนักเขียน (บ้างนิดหน่อย)
เป็นนักอ่านตัวเอ้
เป็นนักท่องเที่ยว
เป็นคุณแจ๋วประจำบ้าน (แหะ แหะ)แต่คุณแม่ทำงานบ้านจริงๆ ผมล่ะสุดจะนับถือเลยครับ
เป็นนักลงทุนแนว VI (เก็บข้อมูลจากเวบนี้เพียบ)

mangmoom เขียน:ยกตัวอย่างคนใกล้ตัว คุณแม่ของผมเองครับ
เป็นที่ปรึกษา
เป็นอาจารย์พิเศษ
เป็นนักเขียน (บ้างนิดหน่อย)
เป็นนักอ่านตัวเอ้
เป็นนักท่องเที่ยว
เป็นคุณแจ๋วประจำบ้าน (แหะ แหะ)แต่คุณแม่ทำงานบ้านจริงๆ ผมล่ะสุดจะนับถือเลยครับ
เป็นนักลงทุนแนว VI (เก็บข้อมูลจากเวบนี้เพียบ)

โห ... เป็นคุณแม่ที่ดูทันสมัยแล้วก็ยัง ความรู้รอบตัวเพียบเลย
 นับถือด้วยคนครับ

แม่ผมบอกว่าให้ขอบคุณอาม่า ที่ส่งเสริมให้ลูกสาวเรียนหนังสือเยอะๆ โดยไม่มีมรดกอะไรให้เลย
แต่มาเก็บเกี่ยวเอาตอนนี้แทนมรดก
ฟังแล้วรักทั้งแม่และยายมากๆเลยครับ :lol:  :lol:  :lol:

อึมคิดว่าถ้ามี interest/dividend income ที่มากพอ จะทำอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาเลยนะครับ

ตั้งใจไว้ว่า ตอนนั้นจะหยุดทำงานกินเงินเดือนแล้วครับ ทำอย่างอื่นๆ มีให้ทำอีกเยอะ

หวังว่าถึงตอนนั้น จะมีเงินปันผลกินเลี้ยงชีพได้ ถ้ามีครอบครัวก็เลี้ยงครอบครัวได้

Cheer!!!

คุณ worapong

ไม่น่าเชื่อว่าเป็นแฟน ดาบมังกรหยก เหมือนกัน

ฉากที่บ่อกี้พูดประโยคนี้กับเตี๋ยเมี่ยง ทำเอาผมขนลุกเลยครับ "นั่นมันเหมือนกะที่ตูวาดภาพไว้เลยนี่หว่า"

อายุ 45 เป็น Deadline ของการเกษียณอายุของผมเลย

อิอิ เหลืออีก 23 ปี สู้เค้าๆ ...

8) คนหนุ่มก็ฝันถึงเกษียณ

    สุธีอายุ50แล้ว มีธุรกิจเล็กๆ
    ไม่เกษียณก็เหมือนเกษียณ
    บ่นเบื่อไม่มีไรทำ
    จะไปเที่ยวทุกวันหรือ
    เอ้าให้เที่ยวรอบโลกเลย
    เดี๋ยวก็ต้องกลับมา
    จะไปหาเพื่อน เขาก็ทำงานอยู่
    ไม่มีใครว่างให้เราไปกวนเขาตลอดหรอก
    ลูกก็โตแล้ว ไปยุ่งกะเขามากเขาก็ไม่ให้ยุ่งด้วยหรอก
    อ่านหนังสือจนหมดซีเอ็ด
    แล้วไงครับ
    พลัง อำนาจ เสน่ห์ ความเฉียบคม  ที่เงินก็ซื้อไม่ได้
    ใครไม่ถวิลหามันบ้างครับ
    เอ้าไม่ชอบทางโลก เข้าวัดเลยครับ
    นั่งวิปัสนาให้หลุดโลกไปเลยดีไหมครับ
    ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชาตินี้ชาติเดียวหรอกครับ
    ต้องสะสมมาพอควรที่เดียว
    เร่งสะสมก็ไม่ได้ซะด้วยสิครับ
    เหมือนดอกไม้จะบาน จะไปเร่งให้มันบานเร็ว ก็ไม่ได้
    ต้นไม้จะเพิ่มเส้นรอบวง ก็ต้องมีเวลาของมัน  

    วันๆก็นั่งเล่นเน็ทอยู่กับบ้าน
    เฉาไปเรื่อยๆ
    ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ก็ไม่ผลิตเพิ่มสิครับ
    เพราะไม่ค่อยได้ใช้
    ทีนี้ยังอยากเกษียณอีกไหมครับ
    คุยเรื่องนี้ชอบนะครับ สนุกดี

   ผมว่าชีวิต ผสมผสานน่าจะดีกับ
  จิต ร่างกายและวิญญาณ นะครับ
  อย่าไปรีบเกษียณเลยครับ
  ทำงานบ้าง
  ออกกำลังกายบ้าง
  เล่นหุ้นบ้าง
  เลี้ยงหลานบ้าง
  เล่นเน็ทบ้าง
  จิบเบียร์บ้าง
  สนทนาธรรมบ้าง
  เที่ยวทะเล เที่ยวภูเขาเอาโอโซนบ้าง
  รับใช้สังคมบ้าง
  จิจ๊ะกะอาซ้อบ้าง
  เด๋วเอสโตรเจนของอาซ้อแกจะหมดเหมือนเทสโทสเตอโรนของเรา แล้วจะเศร้า...

por_jai เขียน:จิจ๊ะกะอาซ้อบ้าง
 เด๋วเอสโตรเจนของอาซ้อแกจะหมดเหมือนเทสโทสเตอโรนของเรา แล้วจะเศร้า...

  พี่นี่อารมณ์ดีอยู่เรื่อย

__________________
จงอย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น

เพิ่งอ่านข่าวว่าประเทศไทยมีอัตราคนว่างงานต่ำที่สุดในโลกครับ

http://www.bangkokpost.com/breaking_new ... ?id=114843

[quote="por_jai"]8) คนหนุ่มก็ฝันถึงเกษียณ

[quote="por_jai"]8) คนหนุ่มก็ฝันถึงเกษียณ

อายุ 45 ผมคงได้ไปรับ-ส่ง ลูกๆ ที่โรงเรียนทุกวันแล้วครับ

เวลาที่เหลือก้อคงเหมือนพี่พอใจครับ  8)  8)  8)  ...

ป.ล. หลังจากผมเกษียณเนี่ย ความตั้งใจคือ อยากมีมูลนิธิในชื่อของตัวผมเอง ครับ ...

beammy เขียน:อายุ 45 ผมคงได้ไปรับ-ส่ง ลูกๆ ที่โรงเรียนทุกวันแล้วครับ

เวลาที่เหลือก้อคงเหมือนพี่พอใจครับ  8)  8)  8)  ...

ชีวิตประจำวันของผมเลย

[quote="ปรัชญา"][quote="beammy"]อายุ 45 ผมคงได้ไปรับ-ส่ง ลูกๆ ที่โรงเรียนทุกวันแล้วครับ

เวลาที่เหลือก้อคงเหมือนพี่พอใจครับ

แต่ผมว่า ถ้าไม่ได้ทำงานต้องเบื่อแน่ๆเลยครับ

ขนาดตอนนี้ยังไม่ได้เกษียณถ้าช่วงขึ้น project ต่อไปว่างๆมันน่าเบื่อนะครับ

หลังอายุ 45 ขอให้ได้ทำงานที่ชอบ แล้วก็มีเวลาเพื่อคนรอบข้างแล้วก็ตัวเอง ก็พอใจแล้วครับ

อายุ 45 เหรอ  ป่านนั้นคงตายไปแล้วล่ะ

ขออยู่ถึงแค่ 30 ปลาย ๆ ก็พอ เต็มที่ไม่เกิน 45 นั่นแหละ

ขอให้วันนั้น เราทำงานเก็บเงินให้ คุณพ่อ คุณแม่ เต็มที่แล้ว

ถึงเวลาที่เราไป อย่างน้อยได้ตอบแทนด้วยการที่มีทรัพย์.สมบัติ

พอที่ พ่อ-แม่ เราไม่ต้องลำบากตอนแก่ ก็พอใจแล้ว


* ปล. ที่คาดว่าจะตายเร็ว อย่าคิดไปถึงเรื่อง  HIV นะ  พอดีว่าเป็นโรคภูมิแพ้มานานแล้ว , ปอดทะลุตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ , เป็นโรคกระเพาะเรื้อรัง , โรคเกล็ดเลือดไม่แข็งตัว และ สุดท้าย ไต น่าจะใกล้เสื่อมสภาพแล้ว *

ขออยู่อีก 20 ปี เศษ ๆ ก็พอ ขอแค่ได้เห็น พ่อ-แม่ ไม่ลำบาก ก็ตายตาหลับแล้ว

[quote="Lady"]อายุ 45 เหรอ