Thai VI

อันที่จริงผมคิดไว้นานแล้ว ว่าจะขอถามหลายๆคน
แต่คิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
รอจนผ่านงาน มีตติ้ง TVI ก่อนถึงเริ่มต้นกระทู้นี้

ผมเองไม่ได้ศึกษาบัปเฟ่ต์ มากนักแบบรู้ไม่จริง

รู้แต่ว่าในเวปนี้มีคนชอบบัปเฟต์ มากกว่า80%
แต่คนชอบปีเตอร์ลิ้นซ์ เพี่ยงประมาณ10%

จึงอยากจะถามว่า...อ่านแต่หนังสือ
ที่เขานำเสนอแต่ความสำเร็จตลอดมาใช่หรือไม่
ทั้งที่เรื่องทั้งหมด อาจจะมีเสริมเติมแต่งจากผู้เรียบเรียง
แนวคิดของลุงบัป ใช่ได้กับหุ้นและบริษัทจดทะเบียนของไทย
ได้อย่างเหมาะสมหรือเปล่า
ลุงบัปเคยสอนวิธีเลือกหุ้นแล้วเวลาพลาดทำอย่างไร




ส่วนลิ๊นซ์ ผมชอบตามข้อเขียนหน้าเวปน่ะครับ

***บางบริษัทเขาซื้อที่จุดเริ่มต้นของการเจริญเติบโตบางบริษัทเริ่มซื้อที่จุดฟื้นตัว และถือเป็นเวลาหลายปี และหุ้นบางบริษัทที่เขาวิเคราะห์ผิดพลาดจะขายทันทีที่พบ ***


ก็อยากทราบความเห็นของท่านที่ศึกษามาอย่างดีว่า
มีความคิดเห็นอย่างไร มีประสพการณ์อย่างไร
ช่วยสอนมือใหม่อย่างผมด้วยเพราะผมยังรู้ไม่จริง
อยากให้มีคนมาแนะนำด้านต่างๆด้วยครับ

ระหว่างที่จะมีคนมาสอน เฮียต้องตั้งใจฟังนะ ค่าเรียนคิดไม่แพง โพสคำตอบนึง คิดเป็นหุ้น wg 100 หุ้น

ok นะเฮีย

เอ้าพวกเราช่วยๆกันสอนเฮียปรัชญาหน่อย อิอิ

แล้วมันจะได้ผลหรือเปล่าคุณเจ๋ง

หาบริษัทมีดโกนหนวด

ในตลาดหุ้นไทยให้ซื้อกันหน่อย

มีดโกนหาไม่มีครับ...

แต่ถ้าใครโกนหนวดแล้วมีดโกนบาด

ต้องถามพี่ปรัชญา ว่าจะทำไงดี :lovl:

jaychou เขียน:มีดโกนหาไม่มีครับ...

แต่ถ้าใครโกนหนวดแล้วมีดโกนบาด

ต้องถามพี่ปรัชญา ว่าจะทำไงดี :lovl:

งั้นซิผมหาหุ้นมีดโกนมาหลายปีไม่มีเลยในตลาดหุ้น

เจอแต่ยารักษาแผล ยาฆ่าเชื้อ ของฟาร์มาแคร์

ชื่อยา เบตาดีน

คุณเจ๋งอย่าพึ่งงง (รับมุกหน่อย เวปมันเงียบ)

ผมอยากได้หุ้นน่ะครับ แนวคิดลุงบัปรับไว้เยอะแล้วล่ะ

สงสัยคุณปรัญชาอ่าน สิบเด้งที่ ดร. นิเวศน์ แปลแน่
ผมก็อ่านเล่มนี้เหมือนกัน
ข้อดีของ ปีเตอร์ ที่เขียนคือเขาบอกถึงข้อผิดพลาดของตัวเองไว้ด้วย
อาจารย์เวลาบรรยายที่ต่าง ๆ ก็ยกบางส่วนจากที่ปีเตอร์เขียนไว้ด้วยว่า
การตัดสินใจผิดเป็นเรื่องธรรมดามากต้องเกิดกับทุกคน
แต่ต้องแทงตัวที่ถูกหนัก ๆ และมาก ๆ เท่านั้นหนะเพื่อให้ส่วนที่ได้ไปกลบส่วนที่เสีย

Willpower เขียน:สงสัยคุณปรัญชาอ่าน สิบเด้งที่ ดร. นิเวศน์ แปลแน่
ผมก็อ่านเล่มนี้เหมือนกัน

ใช่ครับ
ผมว่า ท่าน ดร.รวมความหลากหลายแบบรวมมิตรไว้ดีครับ

ผมเองเคยผิดพลาดเรื่องการซื้อหุ้นจากอดีตถึงปัจจุบันนับไม่ถ้วนครับ

และต้องขายทิ้งแบบขาดทุน เขาเรียนผมเป็นท่าน ล๊อต :lovl:

ผมยังไม่เจอการเลือกหุ้นที่ซื้อมาผิดว่า...........ควรทำอย่างไร

อย่างแฟนพี่ ผมก็จุก น่ะครับ
อย่างชี-เอ็ด ผมก็เจ็บ น่ะครับ
(แต่โชคดีที่เจ้าของหรือผู้บริหารขายออกมาให้เห็นทางลม
ก็เลยรอดมาแบบเสียเลือดเนื้อน้อยหน่อย)
ตอนดู วิเคราะห์เราก็ว่ามันดี มันใช่เลย แบบนี้ เป๊ะ เป๊ะ จึ๊กกะดึ๋ยย
แต่เวลา มีเหตการณ์ที่ไม่คาดคิด
สำหรับคนรุ่นใหม่คนรุ่นเก่าก็ไม่รอด

คงต้องเป็นท่าน ล๊อต อย่างเดียวครับ

จึงอยากจะถามว่า...อ่านแต่หนังสือ
ที่เขานำเสนอแต่ความสำเร็จตลอดมาใช่หรือไม่
ทั้งที่เรื่องทั้งหมด อาจจะมีเสริมเติมแต่งจากผู้เรียบเรียง
แนวคิดของลุงบัป ใช่ได้กับหุ้นและบริษัทจดทะเบียนของไทย
ได้อย่างเหมาะสมหรือเปล่า
ลุงบัปเคยสอนวิธีเลือกหุ้นแล้วเวลาพลาดทำอย่างไร

สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนคือ
ปีเตอร์ลินท์ แต่งหนังสือจากประสบการณ์ของตัวเอง ออกมาขาย
ในขณะที่
บัฟเฟตท์ มีแต่คนรอบข้างแต่งออกมาขาย โดยคาดดการณ์ว่าน่าจะใช่หลักการนี้ :lovl:

ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง
ผมอ่านฯบัฟเฟตหลายรอบ เบื่อๆ
ก็มาอ่านฯปีเตอร์ลินท์ หลายรอบ เบื่อๆ
ก็เปลี่ยนไปเรื่อย วนไปวนมา
ลืมทำเครื่องหมาย จะได้รู้ว่าอันไหนมากสุด
คร่าวๆ น่าจะพอๆกัน One up ฯ วาทะวอเรนฯ VI made easy
ผมว่าปีเตอร์ลินท์ และบัฟเฟต ก็มีความคิด ทัศนคติการลงทุน
ไม่แตกต่างกัน สำหรับผมชอบทั้งคู่ แถมลุงเบน ด้วยครับ:D

HI.ผมเอง เขียน: สิ่งที่แตกต่างกันชัดเจนคือ
ปีเตอร์ลินท์ แต่งหนังสือจากประสบการณ์ของตัวเอง ออกมาขาย
ในขณะที่
บัฟเฟตท์ มีแต่คนรอบข้างแต่งออกมาขาย โดยคาดดการณ์ว่าน่าจะใช่หลักการนี้ :lovl:

ส่วนตัวผมว่า แต่ละคนก็มีแนวทางของตัวเอง และก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

แต่ผมว่า สำหรับเมืองไทย และพวกเรา ก็เอาจากหลายๆคน มากรั่นกรอง เลือกใช้ให้เหมาะกับแต่ละหุ้น แต่ละกิจการ ก็น่าจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

ผมมีความรู้สึกว่า ทั้งสองท่านเวลาซื้อหุ้น
สามารถพูดคุย เจาะลึก กับเจ้าของบริษัทหรือผู้บริหารได้เลย(มีอินไซด์)

อีกทั้งเมื่อซื้อแล้ว ถึงแม้ไม่ได้บริหารก็จริง
แต่คำพูด คำแนะนำของท่าน ผู้บริหารบางครั้งถึงต้องทำตาม(มีอิทธิพลสูง)

บ้านเราไม่ได้เลย
อย่างไรก็เป็นแนวทางที่ดีทั้งคู่ครับ
แต่ก็ปฏิบัติยากอย่างที่พี่ปรัชญาว่าจริงๆครับ

เริ่มต้นจากบัพเฟต์ครับ แต่ตอนหลังชอบแนวของลินซ์มากกว่า เพราะเข้ากันได้กับบุคลิกส่วนตัวครับ

เดี๋ยวนี้การลงทุนของผมได้รับอิทธิพลจากหนังสือเรื่อง Beat the street ของลินซ์ มากที่สุด (ประมาณ 70% มั่งครับ)

คุณสุมาอี้ ไตล์เดียวกับเฮียปรัชญาเลยครับ

ปีเตอร์ ลินซ์ เมืองไทย

กองทุนที่ลินซ์บริหารมี IRR เฉลี่ย 29% ต่อปี

ผมไม่เชื่อว่าผมจะมีทางทำได้ขนาดนั้น

คุณปรัชญา
เบทาดีน เข้าใจว่าเขาเอามาแจกเฉยๆ
ไม่น่าจะใช้ผู้ผลิต
ตอนนี้สินค้าที่กำลังรุ่งคือ
แบบสเปรย์ในเวปนี้ครับ
http://www.fgb.com.au/BosHome.htm

ผมเห็นในร้านฟาสซิโน ซึ่งเป็นร้านขายยาแบบแฟรนไชส์
ที่ศิริราช วางไว้ในตำแหน่งที่สะดุดตาคนที่จะจ่ายเงินค่าสินค้า

ความจริง โบสิสโตที่ออสเตรเลีย
น่าจะเข้ามาเทคโอเวอร์ให้หมดเรื่องหมดราว ฮาๆๆๆๆ

ปกติชอบแบบของ Graham มากที่สุดถึงจะถูกมองว่าล้าหลัง วอเรนอยู่ท้ายๆครับที่ไม่ค่อยชอบเพราะแกไม่จ่ายปันผล..ขี้งกเห็นแก่ตัว ส่วนลุงลินท์ ดูเป็นสามัญชนคนปกติที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ให้เครดิตแกรองๆลุงแฮ่มครับ

คลายเครียด เขียน:ความจริง โบสิสโตที่ออสเตรเลีย
น่าจะเข้ามาเทคโอเวอร์ให้หมดเรื่องหมดราว ฮาๆๆๆๆ

ท่าทาง พี่เอ็นโด้ พี่ปรัชญา พี่เตวี่ กำลังจะรับเละ ยิ่งกว่าถูกหวยอีก แบบนี้

คลายเครียด เขียน:
ผมเห็นในร้านฟาสซิโน ซึ่งเป็นร้านขายยาแบบแฟรนไชส์
ที่ศิริราช วางไว้ในตำแหน่งที่สะดุดตาคนที่จะจ่ายเงินค่าสินค้า

ความจริง โบสิสโตที่ออสเตรเลีย
น่าจะเข้ามาเทคโอเวอร์ให้หมดเรื่องหมดราว ฮาๆๆๆๆ

555

ถ้าเกิดมาชาตินี้ถือหุ้นถูกเทคสัก2บริษัทก็น่าจะ ฝันเป็นจริง
เอาราคาบุ๊ค+เครดิตการตลาดก็พอแล้วครับ
ขอบคุณเฮียคลายเครียด เฝ้าดูพื้นที่ กทม.ให้ครับ
ผมดูอิสาณ ลาว+เวียดนาม
มีใครดูพม่าให้ ยิงกันเรื่อยต้องใช้ยาล้างแผลอยู่นะครับ