=====วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระจกแห่งฝัน=====
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 22, 2005 12:26 pm
ผมกลับมาแล้วครับ.....หลังจากหยุดงานเขียนไปร่วม 3 เดือน เนื่องจากติดภารกิจ ช่วงที่ผมหายหน้าหายตาไปจาก TVI มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมครับเนี่ย เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ได้เคยร่วมสนทนากัน ยังอยู่กันครบถ้วนดีไหมครับ?
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้ คิดว่าน่าจะมีสามาชิกใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ เข้ามามากมาย ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทุกๆ ท่านครับ
ท่านที่ยังไม่เคยอ่านงานเขียนของผม เชิญเข้าไปอ่านได้ที่กระทู้เหล่านี้ครับ
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 1
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 43022.html
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน2
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 56937.html
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 3
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 71246.html
ตอน เจาะลึกกลยุทธ์ FTA
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 99212.html
ตอน เปิดตัว T-EMA
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 27147.html
ตอน เปิดตัว T-EMA (ภาค 2)
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 55520.html
มีใครได้ลองนำ T-EMA ไปใช้แล้วบ้างไหมครับ? ผลเป็นอย่างไรบ้าง? หากจะอ้างอิงงานวิจัย T-EMA ขอให้อ้างถึง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นะครับ เพราะตอนนี้งานวิจัย T-EMA เป็นลิขสิทธิ์ของจุฬาฯ แล้ว
หากมีเวลา ผมว่าจะลองเขียน VB ดู เพื่อใช้ run หาส่วนผสมที่เหมาะสมที่จะใช้ ใน T-EMA ว่าจะเป็นจำนวนวันเท่าไหร่ดี ถ้าผลวิจัยเสร็จจะนำเสนอในอนาคต
วางหมาก...กระดานหุ้น สำหรับตอนล่าสุดนี้ ผมขอลองเปลี่ยนแนวเขียนดูบ้าง ขออนุญาตเลียนแบบคุณ The Rounder สักหนึ่งตอนแล้วกันครับ โดยตอนนี้ผมเขียนเป็น เรื่องสั้น ที่เกี่ยวกับหุ้น
เรื่องนี้ ต้นฉบับผมเขียนเมื่อตอนสมัยเรียน ม.ปลาย และได้ลงเผยแพร่ในวัฏจักรการศึกษา ประมาณ 10 กว่าปีมาได้แล้ว ถ้าเขียนได้ไม่ราบรื่นผมขออภัยด้วยครับ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ ผมได้ดัดแปลงเนื้อเรื่องบางส่วนให้มันทันยุค ทันสมัยขึ้น และเพิ่มเติมเนื้อหาการเงินให้แน่นขึ้นอีก ลองอ่านดูนะครับ
วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระจกแห่งฝัน
เฮ้อ...วันนี้ช่างเหนื่อยเสียเหลือเกิน ตระการกำลังรำพึงกับตัวเองและงานที่กำลังทำอยู่ ไม่ๆ เหนื่อย แต่ได้ทำงานที่เรารัก ก็มีความสุขแล้วนี่ ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี เขาก้มหน้าก้มตา ตรวจสอบ NAV ของกองทุนที่ลูกน้องคำนวณมาให้ เป็นหนึ่งในสิบกองทุนที่เขารับผิดชอบในฐานะกรรมการผู้จัดการฯ กลับบ้านดีกว่า เป็นสิ่งแรกที่เขาคิดในขณะนั้น
กลับมาแล้วครับ เขาพูดตามความเคยชินมาตั้งแต่เด็ก เพราะมารยาทของคนจีน การทักทายเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่เงียบกริบ อ้อ...ลืมไป ไปเที่ยวกันหมด ตระการเดินผ่านห้องรับแขก ขึ้นบันไดไปห้องของเขา สวัสดีเพื่อน...กลับมาแล้วนะ สิ่งที่เขาทักนั้น มันไม่ใช่คน!!! แต่กลับเป็นกระจกบานเก่าๆ บานหนึ่ง ซึ่งอายุของมันอาจจะเท่ากับ 1 ชั่วอายุคนเลยทีเดียว มันเป็นสมบัติของเน้ (ภาษาจีนไหหลำแปลว่ายาย) เขาจำได้ แม่เคยเล่าให้ฟังว่า กระจกบานนี้กงกับเน้นำติดตัวมาจากเมืองจีน สมัยที่แม่ยังอยู่ในท้องเน้อยู่เลย จนบัดนี้เน้เสียไปได้ 20 กว่าปีแล้ว ฉันมีวันนี้ได้เพราะนายนะ
แล้วความทรงจำเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ก็หวนมาอีกครั้งหนึ่ง
ไม่เอาไหนเลยเรานี่ ทำไมวิเคราะห์ได้ห่วยขนาดนี้ ตระการยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ของตัวเอง ที่ไม่สามารถพาทีมแข่งขันการจัดการลงทุนในตราสารทุนระดับมหาวิทยาลัยให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ได้ ต้องตกรอบไป ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าทีม และเป็นนักวิเคราะห์ให้ในการลงทุน
ถ้าเรารู้อนาคตได้นะ...ฮึ เขาหงุดหงิดกับตัวเอง และกลับบ้านโดยไม่ยอมพูดไม่ยอมจากับใคร แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะแวะเยี่ยมเน้ของเขาที่นอนอยู่โรงพยาบาล ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น กลับมาแล้วครับ ตระการทัก เขาเล่งเป็งทีม...ม่ายช่ายความผิกของกังซะหน่อย เป็นคำแรกที่เน้ทัก เน้รู้ได้ไง!!! เน้ได้แต่หลับตาแล้วอมยิ้ม โลกแห่งควัมจิง นี้น่าอยู่นะกัง ทำมังให้ดี เจ้าคารมจริงๆ เน้เรา เขาคิด แต่ตระการไม่ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า คำพูดนั้นกลับเป็นคำพูดสั่งเสียและเป็นคำสอนครั้งสุดท้ายของเน้
เช้าวันรุ่งขึ้น นี่พี่การ ตื่นเร็ว ไปโรงพยาบาลกัน น้องสาวของเขาขึ้นมาปลุก วันนี้พี่จะอ่านหนังสือ พรุ่งนี้พี่มีสอบ เน้ทรุดหนัก หมอจะพาเข้าห้องไอ.ซี.ยู. สิ้นเสียง ตระการรีบลุกจากเตียงทันที
เมื่อถึงโรงพยาบาล ตระการเปิดประตูที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. แล้วเดินไปที่เตียง เป็นครั้งแรกที่เขาลืมทักทายผู้ใหญ่ เน้.... เขาทักใบหน้าที่เหี่ยวย่น และดวงตาจากที่เคยมีสีดำกลับเปลี่ยนเป็นสีเทามัวๆ ค่อยๆ เลื่อนมามองหน้าเขา สายตานั้นตระการยังจำติดตรึงมาจนทุกวันนี้ มันเหมือนย้ำให้รู้ว่า เวลาแห่งการลาจากใกล้เข้ามาแล้ว
ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเน้ ช่างทำให้เขาปวดใจเสียเหลือเกิน ไม่มีเน้ ให้พูดคุยปรึกษาอีกแล้ว เน้...ซึ่งเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากป๊ะกับแม่ทำงานกลับดึกทุกคืน เขาก้มลงกราบแทบเท้าอันเย็นเยือกของเหน้ น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆ ไหลซึมออกมา
โลกแห่งควัมจิง นี้น่าอยู่นะกัง ทำมังให้ดี คำสอนครั้งสุดท้ายของเน้ ก้องอยู่ในหัวของเขา
หลายเดือนผ่านไป ตระการเข้าไปในห้องของเน้ สิ่งที่ทำให้เขาสนใจมากที่สุด คือ กระจกบานเก่าๆ บานหนึ่ง สภาพของมันสามารถล่วงรู้ถึงอายุได้เลยว่ามากพอดู เขาเดินไปใกล้ๆ และก้มลงดู มันมีภาษาจีนพิมพ์ไว้อยู่ 4 ตัว ซึ่งแน่นอน เขาไม่สามารถอ่านออก มันเป็นศิลปะที่บ่งบอกถึงความพยายามของคนจีน เพราะว่าตัวพิมพ์นั้นไม่ได้อยู่บนผิวกระจกเหมือนการกัดกระจกทั่วไป แต่กลับเข้าไปอยู่ในตัวเนื้อกระจกอย่างน่าอัศจรรย์ว่า ศิลปะของจีนเมื่อ 80 กว่าปีที่ผ่านมานั้น ทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
น่าทึ่งจริงๆ เขารึพึง เน้...ผมของกระจกบานนี้นะ ผมชอบ เขาพูดเหมือนกับว่าเน้อยู่ในห้องกับเขา ตระการนำกระจกมาตั้งไว้ที่ห้องและใช้มันทุกวัน โดยไม่ได้คิดถึงความเก่าแก่ และความลึกลับของกระจกบานนี้มาก่อน
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้ คิดว่าน่าจะมีสามาชิกใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ เข้ามามากมาย ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ทุกๆ ท่านครับ
ท่านที่ยังไม่เคยอ่านงานเขียนของผม เชิญเข้าไปอ่านได้ที่กระทู้เหล่านี้ครับ
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 1
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 43022.html
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน2
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 56937.html
ตอน ปฐมบทแห่งการลงทุน 3
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 71246.html
ตอน เจาะลึกกลยุทธ์ FTA
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 99212.html
ตอน เปิดตัว T-EMA
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 27147.html
ตอน เปิดตัว T-EMA (ภาค 2)
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 55520.html
มีใครได้ลองนำ T-EMA ไปใช้แล้วบ้างไหมครับ? ผลเป็นอย่างไรบ้าง? หากจะอ้างอิงงานวิจัย T-EMA ขอให้อ้างถึง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นะครับ เพราะตอนนี้งานวิจัย T-EMA เป็นลิขสิทธิ์ของจุฬาฯ แล้ว
หากมีเวลา ผมว่าจะลองเขียน VB ดู เพื่อใช้ run หาส่วนผสมที่เหมาะสมที่จะใช้ ใน T-EMA ว่าจะเป็นจำนวนวันเท่าไหร่ดี ถ้าผลวิจัยเสร็จจะนำเสนอในอนาคต
วางหมาก...กระดานหุ้น สำหรับตอนล่าสุดนี้ ผมขอลองเปลี่ยนแนวเขียนดูบ้าง ขออนุญาตเลียนแบบคุณ The Rounder สักหนึ่งตอนแล้วกันครับ โดยตอนนี้ผมเขียนเป็น เรื่องสั้น ที่เกี่ยวกับหุ้น
เรื่องนี้ ต้นฉบับผมเขียนเมื่อตอนสมัยเรียน ม.ปลาย และได้ลงเผยแพร่ในวัฏจักรการศึกษา ประมาณ 10 กว่าปีมาได้แล้ว ถ้าเขียนได้ไม่ราบรื่นผมขออภัยด้วยครับ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ ผมได้ดัดแปลงเนื้อเรื่องบางส่วนให้มันทันยุค ทันสมัยขึ้น และเพิ่มเติมเนื้อหาการเงินให้แน่นขึ้นอีก ลองอ่านดูนะครับ
วางหมาก...กระดานหุ้น ตอน กระจกแห่งฝัน
เฮ้อ...วันนี้ช่างเหนื่อยเสียเหลือเกิน ตระการกำลังรำพึงกับตัวเองและงานที่กำลังทำอยู่ ไม่ๆ เหนื่อย แต่ได้ทำงานที่เรารัก ก็มีความสุขแล้วนี่ ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี เขาก้มหน้าก้มตา ตรวจสอบ NAV ของกองทุนที่ลูกน้องคำนวณมาให้ เป็นหนึ่งในสิบกองทุนที่เขารับผิดชอบในฐานะกรรมการผู้จัดการฯ กลับบ้านดีกว่า เป็นสิ่งแรกที่เขาคิดในขณะนั้น
กลับมาแล้วครับ เขาพูดตามความเคยชินมาตั้งแต่เด็ก เพราะมารยาทของคนจีน การทักทายเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่เงียบกริบ อ้อ...ลืมไป ไปเที่ยวกันหมด ตระการเดินผ่านห้องรับแขก ขึ้นบันไดไปห้องของเขา สวัสดีเพื่อน...กลับมาแล้วนะ สิ่งที่เขาทักนั้น มันไม่ใช่คน!!! แต่กลับเป็นกระจกบานเก่าๆ บานหนึ่ง ซึ่งอายุของมันอาจจะเท่ากับ 1 ชั่วอายุคนเลยทีเดียว มันเป็นสมบัติของเน้ (ภาษาจีนไหหลำแปลว่ายาย) เขาจำได้ แม่เคยเล่าให้ฟังว่า กระจกบานนี้กงกับเน้นำติดตัวมาจากเมืองจีน สมัยที่แม่ยังอยู่ในท้องเน้อยู่เลย จนบัดนี้เน้เสียไปได้ 20 กว่าปีแล้ว ฉันมีวันนี้ได้เพราะนายนะ
แล้วความทรงจำเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ก็หวนมาอีกครั้งหนึ่ง
ไม่เอาไหนเลยเรานี่ ทำไมวิเคราะห์ได้ห่วยขนาดนี้ ตระการยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ของตัวเอง ที่ไม่สามารถพาทีมแข่งขันการจัดการลงทุนในตราสารทุนระดับมหาวิทยาลัยให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ได้ ต้องตกรอบไป ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าทีม และเป็นนักวิเคราะห์ให้ในการลงทุน
ถ้าเรารู้อนาคตได้นะ...ฮึ เขาหงุดหงิดกับตัวเอง และกลับบ้านโดยไม่ยอมพูดไม่ยอมจากับใคร แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะแวะเยี่ยมเน้ของเขาที่นอนอยู่โรงพยาบาล ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น กลับมาแล้วครับ ตระการทัก เขาเล่งเป็งทีม...ม่ายช่ายความผิกของกังซะหน่อย เป็นคำแรกที่เน้ทัก เน้รู้ได้ไง!!! เน้ได้แต่หลับตาแล้วอมยิ้ม โลกแห่งควัมจิง นี้น่าอยู่นะกัง ทำมังให้ดี เจ้าคารมจริงๆ เน้เรา เขาคิด แต่ตระการไม่ล่วงรู้มาก่อนเลยว่า คำพูดนั้นกลับเป็นคำพูดสั่งเสียและเป็นคำสอนครั้งสุดท้ายของเน้
เช้าวันรุ่งขึ้น นี่พี่การ ตื่นเร็ว ไปโรงพยาบาลกัน น้องสาวของเขาขึ้นมาปลุก วันนี้พี่จะอ่านหนังสือ พรุ่งนี้พี่มีสอบ เน้ทรุดหนัก หมอจะพาเข้าห้องไอ.ซี.ยู. สิ้นเสียง ตระการรีบลุกจากเตียงทันที
เมื่อถึงโรงพยาบาล ตระการเปิดประตูที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. แล้วเดินไปที่เตียง เป็นครั้งแรกที่เขาลืมทักทายผู้ใหญ่ เน้.... เขาทักใบหน้าที่เหี่ยวย่น และดวงตาจากที่เคยมีสีดำกลับเปลี่ยนเป็นสีเทามัวๆ ค่อยๆ เลื่อนมามองหน้าเขา สายตานั้นตระการยังจำติดตรึงมาจนทุกวันนี้ มันเหมือนย้ำให้รู้ว่า เวลาแห่งการลาจากใกล้เข้ามาแล้ว
ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเน้ ช่างทำให้เขาปวดใจเสียเหลือเกิน ไม่มีเน้ ให้พูดคุยปรึกษาอีกแล้ว เน้...ซึ่งเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากป๊ะกับแม่ทำงานกลับดึกทุกคืน เขาก้มลงกราบแทบเท้าอันเย็นเยือกของเหน้ น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆ ไหลซึมออกมา
โลกแห่งควัมจิง นี้น่าอยู่นะกัง ทำมังให้ดี คำสอนครั้งสุดท้ายของเน้ ก้องอยู่ในหัวของเขา
หลายเดือนผ่านไป ตระการเข้าไปในห้องของเน้ สิ่งที่ทำให้เขาสนใจมากที่สุด คือ กระจกบานเก่าๆ บานหนึ่ง สภาพของมันสามารถล่วงรู้ถึงอายุได้เลยว่ามากพอดู เขาเดินไปใกล้ๆ และก้มลงดู มันมีภาษาจีนพิมพ์ไว้อยู่ 4 ตัว ซึ่งแน่นอน เขาไม่สามารถอ่านออก มันเป็นศิลปะที่บ่งบอกถึงความพยายามของคนจีน เพราะว่าตัวพิมพ์นั้นไม่ได้อยู่บนผิวกระจกเหมือนการกัดกระจกทั่วไป แต่กลับเข้าไปอยู่ในตัวเนื้อกระจกอย่างน่าอัศจรรย์ว่า ศิลปะของจีนเมื่อ 80 กว่าปีที่ผ่านมานั้น ทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
น่าทึ่งจริงๆ เขารึพึง เน้...ผมของกระจกบานนี้นะ ผมชอบ เขาพูดเหมือนกับว่าเน้อยู่ในห้องกับเขา ตระการนำกระจกมาตั้งไว้ที่ห้องและใช้มันทุกวัน โดยไม่ได้คิดถึงความเก่าแก่ และความลึกลับของกระจกบานนี้มาก่อน