Thai VI

งบกระแสเงินสดนั้นจะเป็นงบที่แสดงการได้รับเงินสดและการใช้จ่ายเงินสดของกิจการ

งบกระแสเงินสดนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามกิจกรรมต่างๆของกิจการ ประกอบด้วย

1. กิจกรรมดำเนินงาน จะเป็นรายการที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามปรกติของกิจการ ดังนั้นรายการนี้จะสามารถบอกเราได้ว่ากิจการนั้นดำเนินธุรกิจแล้วมีเงินสดรับมากกว่าจ่าย หรือว่าจ่ายมากกว่ารับ

2. กิจกรรมการลงทุน จะเป็นรายการที่เกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน เช่น สิทธิบัตรต่างๆ และรายการที่ขายสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภท

3. กิจกรรมเกี่ยวกับการเงิน ทั้งการเพิ่มทุนจดทะเบียน การกู้ยืม/ชำระหนี้เงินกู้ยืม การจ่ายเงินปันผล

ดังนั้นการวิเคราะห์งบกระแสเงินสดจะสามารถบอกเราได้ว่า สถานะของบริษัทนั้นอยู่ในประเภทใด

1. ถ้าบริษัทมีเงินสดรับจากกิจกรรมทางการเงิน เช่น การเพิ่มทุน การกู้ยืม และบริษัทมีเงินสดจ่ายในกิจกรรมการลงทุน แสดงว่าบริษัทยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การดำเนินงานยังไม่สามารถหาเงินสดได้เพียงพอในการขยายการลงทุนที่ยังคงมากอยู่

2. ถ้าบริษัทมีเงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงาน และมีเงินสดจ่ายในกิจกรรมการลงทุน แสดงว่าบริษัทอยู่ในสถานะการเติบโต ธุรกิจของบริษัทสามารถหาเงินสดได้แล้ว แต่ยังคงมีภาระที่จะขยายการลงทุนอยู่

3. ถ้าบริษัทมีเงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงาน และมีเงินสดจ่ายในกิจกรรมทางการเงิน เช่น ชำระหนี้เงินกู้ แสดงว่าบริษัทอยู่ในสถานะที่โตเต็มที่ ไม่มีภาระที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม

4. บริษัทจะมีเงินสดรับจากกิจกรรมดำเนินงาน และมีเงินสดจ่ายในกิจกรรมทางการเงิน คือ การจ่ายเงินปันผล แสดงว่าบริษัทอยู่ในสถานะ ห่านทองคำครับ คือบริษัทสามารถหาเงินสดจากการดำเนินงานได้ อีกทั้งยังไม่มีภาระการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นการขยายการลงทุนหรือการชำระหนี้เงินกู้ บริษัทจึงมีเงินสดเหลือที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น

แล้วหุ้นที่เพื่อนๆลงทุนอยู่ในตอนนี้จัดอยู่ในประเภทไหนครับ

ขอบคุณมากครับ ถ้าเดาไม่ผิด ก่อนดูงบ WG น่าจะอยู่ข้อ 4.

เยี่ยมครับ

อืมห์ แยกแยะและวิเคราะห์ได้เห็นภาพดีจังคับ

ผมว่าพี่chatchaiน่าจะเอามาขยายความหรือยกตัวอย่าง แล้วเขียนเป็นบทความน่าจะดีกว่าไหมครับ เพราะลงกระทู้ผมเกรงว่ามันจะเลือนหายไปนะครับ

ในเรื่องของกระแสเงินสด หนูก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ในการวิเคราะห์งบกระแสเงินสดที่หนูอยากจะเพิ่มเติมก็คือ

----ถ้าบริษัทมีเงินสดรับจากกิจกรรมทางการเงิน เช่น การเพิ่มทุน การกู้ยืม และบริษัทมีเงินสดจ่ายในกิจกรรมการลงทุน

นอกจากจะมองว่าบริษัทยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การดำเนินงานยังไม่สามารถหาเงินสดได้เพียงพอในการขยายการลงทุนที่ยังคงมากอยู่ ....

หนูอาจจะมองมันในอีกแง่นึงค่ะ

หนูจะพิจารณาก่อนว่า กระแสเงินสดที่เพิ่มทุนหรือกู้ยืมนั้น...อยู่ในช่วงไหน

ถ้าหากเป็นการกู้ยืม เพราะกิจการขาดสภาพคล่องซึ่งไม่ได้เกิดในช่วงก่อตั้งกิจการล่ะก็
ส่งผลลบต่อการตัดสินใจแน่นอน โดยเฉพาะการกู้ยืมระยะสั้นเพื่อนำมาใช้ในกิจการดำเนินงานของบริษัท




แล้วก็อยากเสริมอีกนิดหน่อยในการมองกระแสเงินสดของกิจการนะคะ

บางครั้งกระแสเงินสดของกิจการมันมี cycle ของมัน ในแต่ละเดือนในรอบปีมันไม่เหมือนกัน อย่างเช่นเดือนเมษา ค่าใช้จ่ายอาจจะมากก็ได้ เพราะงั้นเวลาค่าใช้จ่ายมาก เค้าก็อาจจะต้องเอาค่าใช้จ่ายของช่วงอื่นมาโปะ ทำให้งบกระแสเงินสด ไม่มีปัญหา ไม่ต้องกู้ยืม

ก็ควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วยค่ะ

ส่วนความเห็นนั้นหนูเห็นด้วยทุกประการค่ะ

ลองอ่านกลยุทธลงทุนหุ้นห่านทองคำดูจะเข้าใจเงินงบกระแสได้ดีขึ้นครับ
แต่ไม่ลึกมาก เขียนเข้าใจง่ายๆ

เยี่ยมครับ ต้องขอชมครับ

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ส่วนที่คุณ genie ให้เขียนขยายความเป็นบทความนั้น ผมไม่ค่อยถนัดที่จะเขียนอธิบายเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ เขียนไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้าถามว่าตอบไปอาจจะได้ครับ เอาไว้ผมลองหัดเขียนดูถ้าดีแล้วเขียนส่งให้นะครับ

คุณยีน
ผมว่า เที่ยวหน้าให้คุณ chatchai ช่วยให้ความรู้กับเพื่อน TVI น่าจะดีนะครับ

ผมว่าปัญหาพื้นฐานของงบกระแสเงินสด และงบการเงินอื่นๆ คือมันบอกแต่อดีตนะครับ มันไม่ได้บอกอนาคต ถ้าเป็นไปได้น่าจะลองเล่นๆ โดยการ project อนาคตดูนะคับ ผมเคยทำแล้ว หนุกดี ทำ dcf กลับมาปัจจุบัน แล้วพอหาค่า intrinsic value ได้

ก้อรู้ว่ามันยากในการทายอนาคตแต่ก้อต้องหาข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อทำการเดาครับ

เป็นกระทู้ที่ผมพูดถึงในงาน Meeting ครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่แบ่งปัน ถ่ายทอดให้กับทุกคนครับ

ขอให้รวย ๆ ยิ่งกว่าเดิมครับ

ขอบคุณมากครับ  :D

คือตอนนี้หนูต้องทำรายงานเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนของบริษัทในตลาดหลักทรัพท์ เลยขอรบกวนขอข้อมูลเกี่ยวกับ cashflow ของบริษัททุกบริษัทตั้งแต่ปี 1993-2007 ไม่ทราบว่าพี่พอจะมีข้อมูลในส่วนนี้รึป่าวคะ
ถ้าพี่มีข้อมูล หนูขอรบกวนให้พี่ช่วยส่งข้อมูลมาให้ที่อีเมล [email protected] ได้มั้ยคะ
ขอบพระคุณมากๆค่ะ

แล้วถ้า กิจกรรมดำเนินงานเป็นรับ   กิจกรรมลงทุนเป็นจ่าย   จัดหาเงินทุนเป็นจ่าย  คือหลายหุ้นเป็นแบบ ข้อ 2 และ ข้อ 4    แต่ไม่แน่ใจว่าข้อ 4 เป็นกึ่งกึ่งระหว่างจ่ายปันผล กับชำระหุ้นกู้   จะตัดสินว่าไงดีครับ

กิจการที่มีเงินสดรับจากกิจกรรมการดำเนินงาน (ถ้าไม่ใช่เพราะลดสินทรัพย์หมุนเวียน หรือ เพิ่มหนี้สินหมุนเวียน) ก็ถือว่าเป็นกิจการที่มั่นคงพอสมควรแล้วครับ

ส่วนเงินสดจ่ายในกิจกรรมการลงทุน  ถ้าไม่ใช่จำนวนมากมาย  เป็นรายจ่ายเพิ่อปรับปรุงอาคาร  เครื่องจักร  ก็เป็นเรื่องปรกติของทุกบริษัทครับ

และถ้ารายจ่ายกิจกรรมทางการเงิน  มีทั้ง  ชำระหนี้ และ จ่ายเงินปันผล  ก็คงต้องพิจารณาสัดส่วนว่าส่วนไหนมากกว่ากัน  และภาระหนี้เงินกู้ยังคงเหลืออีกมากน้อยแค่ไหน

ถ้ากิจกรรมการลงทุนไม่มากนัก  และหนี้สินก็ไม่สูงเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน  ก็คาดได้ว่าเป็นบริษัทที่มีสภาพคล่องที่ดีครับ

เห็นคุณ chatchai สอนเรื่องการดูกระแสเงินสด

วันนี้ ผมเลยมานั่งแก้ไข EPS15YEAR ให้เก็บสรุปกระแสเงินสดไปด้วย
จะเริ่มเก็บ ปีนี้ แล้วจะค่อยๆเก็บเพิ่ม

เสียดายผมไม่ได้นึกจะเก็บมาตั้งแต่แรกๆที่เริ่มเก็บข้อมูล

แสดงอยู่ข้างล่างของ งบดุล

           
           
           
           

เป็น มหึ กรุณา จริงๆครับพี่  ขอบคุณล่วงหน้าหลายๆ

พี่ update งบ 07 เสร็จเมื่อไรจะขอรบกวนข้อมูลอีกทีครับ

ขอเสรีมว่ากระแสเงินสดรับจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในส่วนประกอบของสินทรัพย์และหนี้สิน เมื่อบวกกลับด้วย ดอกเบี้ยและภาษี คือ ebda = ebida-interest-taxes  หุ้นถูกหรีอแพง ให้เอา ebda เทียมกับ market cap ดู คำตอบที่ได้คีอ ซี้อหรีอขายที่ราคาเท่าไหร่ ลองเทียบดูครับ บ้างครั้งจะได้คำตอบว่าทำไมบริษัทที่ขาดทุนจึงมีคนซื้อ เช่น true,ubc

ขุดมาให้อ่านกันครับ
หุ้นลงแบบนี้ งบกระแสเงินสดมีประโยชน์มากๆครับ (จริงๆ ก็มีประโยชน์อยู่แล้วอ่ะนะ)

ผมเพิ่งเริ่มศึกษางบการเงิน โดยเริ่มงบ SINGER ย้อนหลัง จึงอยากเรียนถามคุณฉัตรชัยว่า

จุดใดในงบการเงินที่ทำให้ บริษัทมีความถดถอยและจุดใดที่ทำให้บริษัทสามารถฟื้นคืนได้ ซึ่งผมได้ดูในงบกำไรขาดทุนและงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานยังหาจุดสังเกตไม่เจอ

ขอความอนุเคราะห์ช่วยชี้แนะเบื้องต้นด้วยครับ

อภิชาต

taakechi40 เขียน:ผมเพิ่งเริ่มศึกษางบการเงิน โดยเริ่มงบ SINGER ย้อนหลัง จึงอยากเรียนถามคุณฉัตรชัยว่า

จุดใดในงบการเงินที่ทำให้ บริษัทมีความถดถอยและจุดใดที่ทำให้บริษัทสามารถฟื้นคืนได้ ซึ่งผมได้ดูในงบกำไรขาดทุนและงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานยังหาจุดสังเกตไม่เจอ

ขอความอนุเคราะห์ช่วยชี้แนะเบื้องต้นด้วยครับ

อภิชาต

ไม่ใช่พี่ฉัตรฯ
แต่ขออนุญาต เดาว่า ต้องย้อนไปดูงบตอนที่ขาดทุน มอเตอร์ไซค์ มากๆ ปี 2008-2009 นะครับ
อีกทีก็ตอนน้ำท่วม ปี 2011 ราคาหุ้นลงไป 4.x บาท/หุ้น รายได้ดอกเบี้ย น่าจะประมาณ 2 บาท/หุ้น แล้วครับ

อีกตัวที่ติดตามกัน ก็คือ % การเก็บเงิน ฟังคุณบุญยงนำเสนอเอาครับ (ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าในงบการเงิน คำนวณออกมาเป็นตัวเลข ได้รึเปล่านะครับ)

(รอกูรู มาตอบดีกว่าครับ)

taakechi40 เขียน:ผมเพิ่งเริ่มศึกษางบการเงิน โดยเริ่มงบ SINGER ย้อนหลัง จึงอยากเรียนถามคุณฉัตรชัยว่า

จุดใดในงบการเงินที่ทำให้ บริษัทมีความถดถอยและจุดใดที่ทำให้บริษัทสามารถฟื้นคืนได้ ซึ่งผมได้ดูในงบกำไรขาดทุนและงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานยังหาจุดสังเกตไม่เจอ

ขอความอนุเคราะห์ช่วยชี้แนะเบื้องต้นด้วยครับ

อภิชาต

ขอโทษครับสไลด์อ่านแล้วนิ้วไปโดนปุ่มพอดี. -1

ผมคิดว่างบกระเงินสดเป็นงบที่สำคัญที่สุดในบรรดางบทั้งหมด แต่เป็นงบที่คนพูดถึงกันน้อยที่สุด (รวมทั้งตัวผมด้วย)
แต่หลังจากที่ได้ฟังอาจารย์ฉัตรชัยสอนในการอบรมของ ThaiVI ก็เห็นความสำคัญของงบนี้ ตอนนี้ก็กำลังพยายมศึกษาด้วยตนเองอยู่


ปล. ผมชอบประโยคนี้จริง "Profit is an opinion, Cash is a fact"

ขอบคุณพี่ฉัตรสำหรับความรู้ค่ะ ได้ประโยชน์มากๆ
และขอบคุณน้องก้องที่ขุดกระทู้ดีๆ มาค่ะ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ