*** กองทุนหมู่บ้าน - ออมสิน - สตง. ***
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 18, 2005 10:10 pm
สตง.สับ!ออมสินให้กู้สนองรัฐ ชี้ผลของโครงการไร้ประสิทธิผลและขาดระบบเร่งรัดติดตามหนี้
สตง.ล้วงข้อมูลแบงก์ออมสินพบปล่อยกู้สนองนโยบายรัฐไม่เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระบุบางไม่ปล่อยกู้ต่อให้สมาชิกกู้ยืม หรือกู้ยืมต่ำกว่า 50 % โดยเฉพาะในกทม. ด้าน "กรพจน์" อ้อมแอ้มรับ มีบ้างที่สินเชื่อในโครงการถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
............................................................................................................................................... แหล่งข่าวจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภายหลังที่ทางสตง.เข้าไปดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคารออมสินในโครงการตามนโยบายรัฐบาล พบว่าการดำเนินการบริหารเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยังไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร รวมทั้งไม่ได้จัดให้มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินค้างชำระอย่างเป็นระบบตามที่กำหนด ในขณะที่บางกองทุนมีการอนุมัติเงินกู้ไปดำเนินกิจการโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้สตง.กำลังดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานในโครงการธนาคารประชาชนด้วย
โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองนั้น มีเป้าหมายในการจัดตั้งกองทุนทั่วประเทศ จำนวน 74,881 กองทุน แยกเป็น ระดับหมู่บ้าน 71,364 หมู่บ้าน และชุมชนเมือง 3,517 ชุมชน โดยไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ วงเงินงบประมาณทั้งหมด 74,881 ล้านบาท ผลการตรวจสอบของสตง. ภายหลังที่ได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 1 ปี พบว่า สามารถจัดตั้งกองทุนได้ 72,781 กองทุน คิดเป็น 97.20% ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,094 กองทุน หรือคิดเป็น 2.80% และมีกองทุนที่ได้รับเงินแล้วไม่ปล่อยเงินให้สมาชิกกู้ยืม หรือมีการกู้ยืมต่ำกว่า 50% เช่น ในเขตกทม. 36 เขต ไม่ปล่อยเงินกู้ 4 กองทุน และให้กู้ต่ำกว่า 50% จำนวน 10 กองทุน
นอกจากนี้ จากการเข้าไปตรวจสอบในรายละเอียด พบว่า มีการอนุมัติเงินกู้ไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจากการจรวจสอบ 386 กองทุน พบว่ามีกรณีดังกล่าว 48 ราย และจากการตรวจสอบการจัดทำบัญชี 205 กองทุน พบว่าไม่ได้มีการจัดทำบัญชีหรือจัดทำไม่เป็นปัจจุบัน 84 กองทุน คิดเป็น 40.97% ไม่ได้แต่งตั้งผู้สอบบัญชี 151 กองทุน และไม่จัดให้มีระบบการตรวจสอบภายใน 188 กองทุน ขณะที่คณะกรรมการกองทุนยังไม่จัดให้มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินค้างชำระอย่างเป็นระบบตามที่กำหนดเช่นกัน
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การดำเนินการปล่อยกู้ หรือการนำเงินกู้ไปใช้อย่างไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามนโยบายรัฐบาลนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีอยู่บ้าง แต่หากพิจารณาจากจำนวนแล้วยังถือว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ทั้งในโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงการธนาคารประชาชน ที่ออมสินเป็นผู้ดูแลอยู่ ส่วนกรณีที่สตง.ตรวจพบข้อบกพร่องและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขมานั้น ทางออมสินก็ได้เร่งรัดดำเนินการไปตามปกติอยู่แล้ว ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างไรเป็นพิเศษ
ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ณ สิ้นเดือนเมษายน 2548 มีจำนวนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้รับการจัดสรรและโอนเงินแล้ว 76,770 กองทุน โดยผ่านออมสิน 60,657 กองทุน และธกส. 16,113 กองทุน มีการจัดสรรเงินให้แก่สมาชิกสะสมรวม 238,054 ล้านบาท ผ่านออมสิน 219,349 ล้านบาท และธกส. 18,705 ล้านบาท โดยสมาชิกได้ชำระคืนเงินต้นแล้ว 151,508 ล้านบาท(แยกเป็น ออมสิน 136,973 ล้านบาท และธกส. 14,535 ล้านบาท) และชำระดอกเบี้ยอีก 11,054 ล้านบาท(แยกเป็น ออมสิน 10,124 ล้านบาท และธกส. 930 ล้านบาท)
สำหรับโครงการธนาคารประชาชน ได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2545 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 มีสมาชิกยื่นกู้จำนวน 1,097,278 ราย ได้รับสินเชื่อ 1,045,649 ราย เป็นเงิน 23,163.6 ล้านบาท มีหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2548(576.3 ล้านบาท) จำนวน 611.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.7% ของสินเชื่อคงเหลือ 7,030 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จากเดือนธันวาคม 2547 ที่อยู่ในระดับ 7.3% หรือ 498 ล้านบาท
****ก่อนหน้านี้ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการธนาคารประชาชน เคยอยู่ในระดับสูงสุดที่ 14.13% ของสินเชื่อคงเหลือ 6,324.72 ล้านบาท ******
คิดเป็นลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน จำนวน 64,684 ราย วงเงิน 893.69 ล้านบาท
***แต่เมื่อปลายปี 2547 ทางออมสินได้ขออนุมัติจากคณะกรรมการให้ตัดหนี้สูญลงบางส่วน เนื่องจากเป็นหนี้ที่ไม่สามารถเร่งรัดติดตามได้ คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 400 ล้านบาท จึงทำให้ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการฯลดลง ณ เดือนธันวาคม 2547 อยู่ในระดับเพียง 7.3% หรือ 498 ล้าน ****
บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดือนธันวาคม 2547 ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการฯ เริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยทางออมสินอ้างว่า เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภัยธรรมชาติจากคลื่นยักษ์สึนามิใน 6 จังหวัดภาคใต้ อุทกภัยในบางจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้รายจ่ายของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และรายได้ลดลง รวมถึงลูกหนี้บางส่วนมีการย้ายถิ่นที่อยู่บ่อยโดยไม่มีการแจ้งให้ออมสินทราบ จึงไม่สามารถติดตามหนี้ได้
ทั้งนี้ ล่าสุด ธนาคารออมสิน ได้แก้ปัญหาในเรื่องของแหล่งเงินทุนจากการออกสลากออมสิน โดยได้มีการออกสลากออมสิน งวดที่ 28 ซึ่งได้ปรับปรุงให้มีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 0.67% ต่อปี(ผลตอบแทน 1 บาทต่อหน่วย 50 บาท ในระยะเวลา 3 ปี) ตั้งเป้าจำหน่ายไว้ 20,000-30,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนสลากเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน จากก่อนหน้านี้ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย แต่ยังคงเกณฑ์ในเรื่องการขายลดก่อนกำหนดไว้(ขายก่อนในปีแรกหัก 2 บาทต่อหน่วย ปีที่สองหัก 1.50 บาท และปีที่สามหัก 1 บาท) โดยขณะนี้ออมสินมีผู้ฝากเงินอยู่เกือบ 2 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงิน 120,000 ล้านบาท มีส่วนที่เป็นสลากออมสินคิดเป็น 23% ของยอดเงินฝาก และมีสภาพคล่อง 30,000-40,000 ล้านบาท
สตง.ล้วงข้อมูลแบงก์ออมสินพบปล่อยกู้สนองนโยบายรัฐไม่เกิดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระบุบางไม่ปล่อยกู้ต่อให้สมาชิกกู้ยืม หรือกู้ยืมต่ำกว่า 50 % โดยเฉพาะในกทม. ด้าน "กรพจน์" อ้อมแอ้มรับ มีบ้างที่สินเชื่อในโครงการถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
............................................................................................................................................... แหล่งข่าวจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภายหลังที่ทางสตง.เข้าไปดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคารออมสินในโครงการตามนโยบายรัฐบาล พบว่าการดำเนินการบริหารเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองยังไม่มีประสิทธิผลเท่าที่ควร รวมทั้งไม่ได้จัดให้มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินค้างชำระอย่างเป็นระบบตามที่กำหนด ในขณะที่บางกองทุนมีการอนุมัติเงินกู้ไปดำเนินกิจการโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้สตง.กำลังดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานในโครงการธนาคารประชาชนด้วย
โครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองนั้น มีเป้าหมายในการจัดตั้งกองทุนทั่วประเทศ จำนวน 74,881 กองทุน แยกเป็น ระดับหมู่บ้าน 71,364 หมู่บ้าน และชุมชนเมือง 3,517 ชุมชน โดยไม่มีระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ วงเงินงบประมาณทั้งหมด 74,881 ล้านบาท ผลการตรวจสอบของสตง. ภายหลังที่ได้ดำเนินโครงการไปแล้ว 1 ปี พบว่า สามารถจัดตั้งกองทุนได้ 72,781 กองทุน คิดเป็น 97.20% ต่ำกว่าเป้าหมาย 2,094 กองทุน หรือคิดเป็น 2.80% และมีกองทุนที่ได้รับเงินแล้วไม่ปล่อยเงินให้สมาชิกกู้ยืม หรือมีการกู้ยืมต่ำกว่า 50% เช่น ในเขตกทม. 36 เขต ไม่ปล่อยเงินกู้ 4 กองทุน และให้กู้ต่ำกว่า 50% จำนวน 10 กองทุน
นอกจากนี้ จากการเข้าไปตรวจสอบในรายละเอียด พบว่า มีการอนุมัติเงินกู้ไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งจากการจรวจสอบ 386 กองทุน พบว่ามีกรณีดังกล่าว 48 ราย และจากการตรวจสอบการจัดทำบัญชี 205 กองทุน พบว่าไม่ได้มีการจัดทำบัญชีหรือจัดทำไม่เป็นปัจจุบัน 84 กองทุน คิดเป็น 40.97% ไม่ได้แต่งตั้งผู้สอบบัญชี 151 กองทุน และไม่จัดให้มีระบบการตรวจสอบภายใน 188 กองทุน ขณะที่คณะกรรมการกองทุนยังไม่จัดให้มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินค้างชำระอย่างเป็นระบบตามที่กำหนดเช่นกัน
นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การดำเนินการปล่อยกู้ หรือการนำเงินกู้ไปใช้อย่างไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามนโยบายรัฐบาลนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีอยู่บ้าง แต่หากพิจารณาจากจำนวนแล้วยังถือว่าเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ทั้งในโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงการธนาคารประชาชน ที่ออมสินเป็นผู้ดูแลอยู่ ส่วนกรณีที่สตง.ตรวจพบข้อบกพร่องและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขมานั้น ทางออมสินก็ได้เร่งรัดดำเนินการไปตามปกติอยู่แล้ว ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างไรเป็นพิเศษ
ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ณ สิ้นเดือนเมษายน 2548 มีจำนวนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้รับการจัดสรรและโอนเงินแล้ว 76,770 กองทุน โดยผ่านออมสิน 60,657 กองทุน และธกส. 16,113 กองทุน มีการจัดสรรเงินให้แก่สมาชิกสะสมรวม 238,054 ล้านบาท ผ่านออมสิน 219,349 ล้านบาท และธกส. 18,705 ล้านบาท โดยสมาชิกได้ชำระคืนเงินต้นแล้ว 151,508 ล้านบาท(แยกเป็น ออมสิน 136,973 ล้านบาท และธกส. 14,535 ล้านบาท) และชำระดอกเบี้ยอีก 11,054 ล้านบาท(แยกเป็น ออมสิน 10,124 ล้านบาท และธกส. 930 ล้านบาท)
สำหรับโครงการธนาคารประชาชน ได้เริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2545 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 มีสมาชิกยื่นกู้จำนวน 1,097,278 ราย ได้รับสินเชื่อ 1,045,649 ราย เป็นเงิน 23,163.6 ล้านบาท มีหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2548(576.3 ล้านบาท) จำนวน 611.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.7% ของสินเชื่อคงเหลือ 7,030 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จากเดือนธันวาคม 2547 ที่อยู่ในระดับ 7.3% หรือ 498 ล้านบาท
****ก่อนหน้านี้ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการธนาคารประชาชน เคยอยู่ในระดับสูงสุดที่ 14.13% ของสินเชื่อคงเหลือ 6,324.72 ล้านบาท ******
คิดเป็นลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน จำนวน 64,684 ราย วงเงิน 893.69 ล้านบาท
***แต่เมื่อปลายปี 2547 ทางออมสินได้ขออนุมัติจากคณะกรรมการให้ตัดหนี้สูญลงบางส่วน เนื่องจากเป็นหนี้ที่ไม่สามารถเร่งรัดติดตามได้ คิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 400 ล้านบาท จึงทำให้ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการฯลดลง ณ เดือนธันวาคม 2547 อยู่ในระดับเพียง 7.3% หรือ 498 ล้าน ****
บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดือนธันวาคม 2547 ตัวเลขหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือนของโครงการฯ เริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง โดยทางออมสินอ้างว่า เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภัยธรรมชาติจากคลื่นยักษ์สึนามิใน 6 จังหวัดภาคใต้ อุทกภัยในบางจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้รายจ่ายของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และรายได้ลดลง รวมถึงลูกหนี้บางส่วนมีการย้ายถิ่นที่อยู่บ่อยโดยไม่มีการแจ้งให้ออมสินทราบ จึงไม่สามารถติดตามหนี้ได้
ทั้งนี้ ล่าสุด ธนาคารออมสิน ได้แก้ปัญหาในเรื่องของแหล่งเงินทุนจากการออกสลากออมสิน โดยได้มีการออกสลากออมสิน งวดที่ 28 ซึ่งได้ปรับปรุงให้มีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 0.67% ต่อปี(ผลตอบแทน 1 บาทต่อหน่วย 50 บาท ในระยะเวลา 3 ปี) ตั้งเป้าจำหน่ายไว้ 20,000-30,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนสลากเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน จากก่อนหน้านี้ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย แต่ยังคงเกณฑ์ในเรื่องการขายลดก่อนกำหนดไว้(ขายก่อนในปีแรกหัก 2 บาทต่อหน่วย ปีที่สองหัก 1.50 บาท และปีที่สามหัก 1 บาท) โดยขณะนี้ออมสินมีผู้ฝากเงินอยู่เกือบ 2 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงิน 120,000 ล้านบาท มีส่วนที่เป็นสลากออมสินคิดเป็น 23% ของยอดเงินฝาก และมีสภาพคล่อง 30,000-40,000 ล้านบาท