Thai VI

*** อ่างเก็บนําบางพระ จังหวัดชลบุรี ***

ความจุ 110 ล้านลบม.

ปริมาตรนําในอ่างปี2547 = 49 ล้านลบม.

ล่าสุด ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2548 เหลือปริมาตรนําในอ่าง = 22 ล้านลบม.

ปริมาตรนําในอ่างที่ใช้การได้จริง = 7 ล้านลบม.

วันนี้ในนิคมแหลมฉบัง น้ำไม่ไหลทั้งวัน
บางบริษัทต้องให้พนักงานกลับบ้านก่อนเลิกงาน

*** อ่างเก็บนําหนองปลาไหล จังหวัดระยอง ****

ความจุ 165 ล้านลบม.

ปริมาตรนําในอ่างปี2547 = 94 ล้านลบม.

ล่าสุด ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2548 เหลือปริมาตรนําในอ่าง = 24 ล้านลบม.

ปริมาตรนําในอ่างที่ใช้การได้จริง = 10 ล้านลบม.

พี่ Britannica เอาข้อมูลพวกนี้ได้จากไหนหรือครับ

**** คลองสียัด ****

ความจุ 325 ล้านลบม.

ปริมาตรนําปี2547 = 133 ล้านลบม.

ล่าสุด ณ 14 มิถุนายน 2548 ปริมาตรนํา = 45 ล้านลบม.

ปริมาตรนําที่ใช้การได้จริง = 15 ล้านลบม.

ผมละเป็นห่วงอ่างเก็บนําหนองปลาไหลจริงๆ

ไหนจะต้องดูแลนําอุปโภคบริโภค

ไหนจะต้องดูแลโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ

แถมต้องดูแลพื้นที่ชลประทานอีก 30,000ไร่

ขอบคุณครับ

แล้วนี่มีหน่วยงานอะไรกระตือรือร้นออกมาหาทางแก้ปัญหากันบ้างหรือยังครับ
ดูแล้วน่าเป็นห่วงจริงๆ

ถ้าดูข้อมูลย้อนหลังไปประมาณ 1 เดือน เทียบกับตัวเลขล่าสุด

น่ากลัวมากครับ คุณpk8

ไม่อยากคิดเลยครับหากโรงงานต่างๆจะต้องหยุดการผลิตลง
อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งนั้น โดนเด้งนี้เข้าไปอีกดอกหนึ่งสงสัย
เศรษฐกิจเราเข้า I C U แน่ๆ

แล้วจะทำอย่างไรกันล่ะคราวนี้ .......

ตอนนี้เขื่อน อ่างเก็บนํา ทางภาคตะวันออกตามข้อมูล GIS ขึ้นสีแดงยกแผงแล้วครับ

นั่นหมายถึง ปริมาตรนําที่ใช้ได้จริงมีไม่ถึง 10 % ของความจุแล้วครับ คุณpk8

ตัวเลขเมื่อ 13 พฤษภาคม 2548

อ่างเก็บนําบางพระ มีปริมาตรนําในอ่าง = 26 ล้านลบม.

อ่างเก็บนําหนองปลาไหล มีปริมาตรนําในอ่าง = 32 ล้านลบม.



ลองเทียบกับตัวเลขล่าสุด ณ 14 มิถุนายน 2548 ข้างบนดูครับว่าเป็นอย่างไร ???

ถ้าไม่มีฝนตกลงมาบริเวณอ่างเก็บนําภาคตะวันออกเพิ่มเติม

อ่างเก็บนําหนองปลาไหลคงจะแห้งในระยะประมาณ 4 เดือนข้างหน้า แต่เข้าใจว่าคงปิดการจ่ายนําก่อนหน้านั้น คงไม่ปล่อยจนแห้งอ่าง

นิคมอุตสาหกรรมที่ชลบุรี ได้แก่
- นิคมชลบุรี (บ่อวิน)
- นิคมแหลมฉบัง
-นิคมอมตะนคร
-นิคมปิ่นทอง


นิคมอุตสาหกรรมที่ระยอง ได้แก่
นิคมมาบตาพุด
นิคมตะวันออก
นิคมผาแดง
นิคมอมตะซิตี้
นิคมอีสเทอร์นซีบอร์ด
นิคมเหมราช อีสเทอร์นซีบอร์ด


บริษัทในตลาดตัวไหนที่ตั้งโรงงานในย่านนี้บ้างครับ ???
แล้วเขาใช้นํากันมากน้อยแค่ไหน
ไม่ต้องใช้นําเลยได้ไหมครับ ถ้าเผื่อปิดการจ่ายนํา

โรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง-ใหญ่
น้ำไม่ไหล แบบนี้ กระเทือนทั้งกระบวนการผลิตเอง
และก็การอุปโภค บริโภคของคนในองค์กรมากๆ ค่ะ

การหยุดทำงานแบบผิดปกติสัก 1-2 ชั่วโมงนี่
ทำให้ขาดทุนกันหลายสิบล้านแล้วนะคะ
ยิ่งถ้าหยุดผลิตเป็นช่วงสั้นๆ (ประเภทวันนี้น้ำไหลบ้าง ไม่ไหลบ้าง)
แล้วหล่ะก็... โดยส่วนใหญ่ เครื่องตามโรงงานไม่ค่อย
นิยมปิด-เปิดบ่อยๆ หรอกค่ะ มันไม่คุ้มกับค่า maintenance
พอ stand-by เครื่อง ค่าไฟก็ยังกินอยู่ แต่ไม่มีรายรับ เพราะ o/p ไม่มี
นี่ก็..ยังไม่รวมกับค่าที่เราต้องชดเชยให้ลูกค้า
ยามที่เราไม่มีของส่งให้ทันเวลาอีก

งานนี้ไม่ต้อง EASTW อย่างเดียวที่คิดหนักแล้วค่ะ
บริษัทในนิคม ควรต้องถูกพิจารณาซ้ำเป็นพิเศษแล้ว..

แล้วอยุธยาเป็นไงบ้างคับ

ขอบคุณครับ

น่าจะกระเทือนหนักมากนะครับถ้ามีการหยุดสายการผลิต เฉพาะแหลมฉบังนี่ก็เยอะนะครับ ไทยออย์ เอสโซ่ มิตซู ไหนจะระยองอีก สงสัยปีนี้โบนัสผมหายแน่เลย

ได้ติดต่อกับสำนักฝนหลวงเพื่อขอทำฝนหลวงในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว โดยหวังว่าจะทำให้มีฝนตกและมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งได้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่ต่างๆ มีฝนตกทั่วแล้ว หากระดมช่วยทำฝนเทียมที่เวลานี้ใช้เครื่องบินถึง 6-8 ลำ คิดว่าจะผ่านวิกฤตไปได้ อีกทั้ง และมีความหวังว่าเมื่อถึงเดือนสิงหาคม จะมีฝนตกมาเหมือนที่เป็นอยู่ทุกปี ซึ่งจะทำให้วิกฤตการณ์ขาดแคลนน้ำจะกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งในช่วงต้นเดือนมิถุนายนมีฝนตกมาเพียง 30-40 มิลลิเมตร แต่ที่ต้องการจะอยู่ที่ 100 มิลลิเมตร จะช่วยให้มีน้ำเพิ่มขึ้นได้ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร

มองในแง่ดีคือ เข้าหน้าฝนแล้ว การทำฝนหลวงก็ง่ายยิ่งขึ้น

เพื่อนๆ ถ้ามีข่าว มาแจ้งด้วยนะครับ

แล้วอยุธยาเป็นไงบ้างคับ

ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำครับ ลุ่มเจ้าพระยาโดยเฉพาะอยุธยาโอกาสน้อยมากๆ
เนื่องจากปัจจุบันนี้มีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามา
สนับสนุนร่วมด้วย และยังช่วยเรื่องป้องกันน้ำท่วมได้ด้วยครับ

ด้วยพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะนั้นก็อยู่ใกล้กับแม่น้ำป่าสักเช่นกัน

SNC อยู่ที่แหลมด้วยครับ และก็ TMD ที่เวลโก ไม่แน่ใจว่าเปิดหรือยัง

ข้อมูลดี
เดี๋ยวจะเสกฝนมาให้.. รอแป๊บ !!

:lovl:

ba_2l เขียน:เท่าที่ผมทราบบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในเขต จ.ชลบุรี, จ.ระยอง มีดังนี้ คือ

1.จังหวัด ชลบุรี ได้แก่ TOP, AJ, NSM, SITHAI, SSC
2.จังหวัดระยอง ได้แก่ TPI, PTT, TOC, ATC, VNT, TUNTEX, NFC, TPC, RPC, PDI

ไม่ทราบว่าท่านอื่นมีบริษัทไหนเพิ่มเติมบ้างมั้ยครับ

เครือปูนฯ SCC ไงครับ

กลุ่มปิโตรทั้งกลุ่มอยู่ที่ระยอง ปีที่แล้วเป็นพระเอก ปีนี้จะเป็นอะไรดี

http://waree.eastwater.com/water/ew2sta ... D%C1%D9%C5

อันนี้เป็นอ่างเก็บน้ำที่ eastw ดูแลครับ

ลองคำนวณอัตราการลดลงของน้ำแล้ว และดูปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริง ไม่เกิน 20 วันได้ปิดโรงงานกันแน่ครับ

ได้แต่ภาวนาให้ฝนตกลงมาหนัก ๆ และเร็ว ๆ นี้

หุ้นอีกตัวก็ tnx ฮะ

nsm นี่อยู่บ้านค่ายหรือชลบุรีฮะ ผมเช็คข้อมูลไม่เจอ

ผลกระทบต่อการปิดโรงงานครั้งนี้ (ถ้าปิดนะครับ) จะยาวนานแค่ไหน และจะกระทบต่อบริษัทอื่นทางอ้อม และต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมากน้อยแค่ไหน

จะหนักกว่า ไข้หวัดนก สืนามิ หรือเปล่า

nsm นี่อยู่บ้านค่ายหรือชลบุรีฮะ ผมเช็คข้อมูลไม่เจอ

nsm อยู่ชลบุรีครับ....

จากข้อมูลพอจะสรุปได้ดังนี้ครับ ถึง 15 มิถุนายน 2548

ที่หนองปลาไหล ระยอง ความจุ 110 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 23.47 ล้าน ลบ.ม. ใช้ได้จริง 9 ล้าน ลบ.ม. ในระยะเวลา 15 วันที่ผ่านมา ใช้น้ำทั้งสิ้น 3.74 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ยวันละ .25 ล้าน ลบ.ม. หากน้ำสำรองไม่เพิ่มขึ้นใช้น้ำได้อีก 36 วัน

ที่ดอกกราย ระยอง ความจุ 73 ล้าน ลบ.ม. เหลือ 12.52 ล้าน ลบ.ม. ใช้ได้จริง 9.52 ล้าน ลบ.ม. ระยะเวลา 15 วัน ใช้น้ำไป 2.92 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ยวันละ .20 ล้านลบ.ม. คงใช้ได้อีกประมาณ 48 วัน หากฝนไม่ตกมากพอ

ที่หนองค้อ ชลบุรี ความจุ 21 ล้านลบ.ม. เหลือ 2.93 ล้านลบ.ม. ใช้ได้จริง 1.93 ล้านลบ.ม. ระยะเวลา 15 วัน ใช้น้ำไป .48 ล้านลบ.ม. เฉลี่ยวันละ 32,000 ลบ.ม. ใช้ได้อีก 60 วัน

ข้างบนดังกล่าวเป็นน้ำจาก East Water

ส่วนที่บางพระ ชลบุรี ความจุ 110 ล้านลบ.ม. เหลือ 22 ล้านลบ.ม. ใช้ได้จริง 7 ล้านลบ.ม.

ที่คลองสียัด ความจุ 325 ล้านลบ.ม. เหลือ 44 ล้านลบ.ม. ใช้ได้จริง 14 ล้านลบ.ม.

ที่คลองท่าด่าน ความจุ 224 ล้านลบ.ม. เหลือ 14.6 ล้านลบ.ม. ใช้ได้จริง 10.1 ล้านลบ.ม.

ข่าวล่าสุดให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ลดกำลังการผลิตลง 10% และให้โรงงานต่างๆที่ต้องหยุดซ่อมบำรุงประจำปีอยู่แล้วให้มาหยุดซ่อมในช่วงนี้แทน และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นภายในวันที่ 20 กรกฎาคม สิ่งที่เราไม่อยากเห็นคงต้องเกิดขึ้น หากต้องหยุดคงต้องสูญรายได้รวมกว่า 300,000 ล้านบาทเลยครับ โดยเฉพาะปิโตรเคมีที่เป็นอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่นี้

ต่อไปนี้คงต้องภาวนาให้ฝนตกหนักๆในพื้นที่รับน้ำแล้วล่ะครับ น่าหนักใจจริงๆ
พึ่งฝนได้อย่างเดียวครับนาทีนี้ ไม่งั้นเตรียมรับแรงกระแทกกันไว้ดีๆนะครับ

ผู้บริหารท่านหนึ่งที่ร่วมประชุมวางแผนการจัดการน้ำ และการวางแผน plant shutdown ของบริษัทเค้า บอกผมว่า ในที่ประชุมบอกว่าถ้าปิด plants พวกนี้ 2 เดือน จะทำให้ gdp ลดลง 1% ครับ

ผมไม่ยืนยันนะครับ เป็นคำบอกเล่าที่ผมได้รับฟังมา และผมก็ไม่มีความรู้จะตรวจสอบข้อมูลนี้ได้ด้วยครับ

ข่าวไม่ออกเลยนะครับ

ตอนนี้พูดจริงๆ คือ ย่ำแย่มากๆ ระดับน้ำที่ต่างลดลงทุกวันเป็นเส้นตรง
อาจจะต้องปิดโรงงานครับชั่วคราวครับ
Petrochemical Plants ต่างๆ คงต้องโดนก่อนครับ

โรงกลั่นคงเป็นโรงงานสุดท้าย เพราะว่าถ้าต้องปิด จะมีผลมากกว่าโรงงาน Petrochemical

ตอนนี้น่ากลัวครับ 50-50 ที่จะต้องปิด

แต่ที่แน่ๆ คงลดกำลังการผลิตไปแล้วครับ

ผมพยายามหาข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำที่ภาคตะวันออก แต่ไม่ค่อยเห็นมีเลย ทั้งทาง TV และ หนังสือพิมพ์ ผมว่าปัญหานี้ระดับชาตินะครับ ถ้าโรงงานทางภาคตะวันออกไม่สามารถทำการผลิตได้