หน้า 1 จากทั้งหมด 1
888
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 11, 2005 10:45 pm
โดย LOSO
555
888
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 11, 2005 10:46 pm
โดย LOSO
55
888
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 11, 2005 10:50 pm
โดย Jeng
เมืองไทย ชอบหาแพะ ไม่ค่อยชอบหาต้นสายปลายเหตุ เรื่องจะได้จบๆกันไป เริ่มต้นใหม่
888
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 11, 2005 11:48 pm
โดย chatchai
บางครั้งบทความต่างๆเหล่านี้ คงต้องพิจารณาอ่านอย่างระมัดระวัง อย่าประมาท และอย่าหลงเชื่อ
เราไม่สามารถรู้ได้ว่า จริงๆแล้ว ที่สหรัฐ มีฟองสบู่ของอสังหาริมทรัพย์ทุกทำเลหรือไม่ ถ้าไม่มีมากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างที่ยกมาอาจจะเลือกนำมาเพียงบางทำเล บางรัฐเท่านั้น
ผมเคยอ่านพบด้วยว่า จากการที่ราคาบ้านพุ่งสูงขึ้น ทำให้ชาวสหรัฐนิยมนำบ้านไป Refinance แล้วนำเงินมาใช้จ่าย
ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ใช่มีเพียงแต่ที่สหรัฐเท่านั้น ที่จีนก็มีบทความเขียนถึงบ่อยครั้ง
แล้วมีใครสงสัยไหมว่า ตอนฟองสบู่ดัชนี Nasdaq แตก ทำไมเศรษฐกิจสหรัฐถึงยังยืนอยู่ได้ ประชาชนชาวสหรัฐมียิงตัวตายไหม มีใครโวยวายทางการเหมือนบางประเทศเวลาหุ้นตกไหม
888
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 1:19 am
โดย ShexShy
ผมเคยได้ยินว่าที่ california มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก อาจจะไม่ใช่ 7 แต่ก็ใหญ่มากกว่าหลายประเทศเหมือนกัน
ผลกระทบของ Nasdaq อาจจะไม่รุนแรงขนาดทำให้ล้ม แต่ก็น่าจะเจ็บเหมือนกันครับ (แผลใหญ่)
เห็นเขาบอกว่า ฟองสบู่ในภาคอสังหา ใหญ่กว่า Nasdaq ก็เลยคิดว่าน่าจะส่งผลกระทบ รุนแรงกว่า Nasdaq (แต่ไม่รู้ว่าจะใหญ่พอที่จะให้ USA ล้มได้หรือเปล่านะครับ)
เรื่องฟองสบู่ที่จีน มีแน่นอนครับ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีในการขยายขนาดให้ใหญ่พอที่จะแตกได้ เพราะจีนเป็นประเทศใหญ่ครับ หรือ ถ้า soft landing ได้ ก็คงจะแตกอีกนานโขครับ
888
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2005 2:22 am
โดย woody
ก่อนฟองสบู่ครั้งก่อนแตก การลงทุนในภาคเทคโนโลยีมีสัดส่วนเพิ่มจาก 3.1% เป็น 4.8% ของรายได้ประชาชาติ ในปัจจุบันการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 3.4% จนถึง 5.8% ของรายได้ประชาชาติแล้ว ฉะนั้นหากมันระเบิดขึ้นเมื่อไรผลกระทบจะใหญ่หลวงกว่าเมื่อฟองสบู่เทคโนโลยีแตก
ขนาดมันใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยหรือเปล่าครับ จาก 1.7 เป็น 2.4