Thai VI

ถาม vi ว่าเราจะเริ่มต้นอย่างไรในการเลือกหุ้น ในตลาดมีหลายร้อยบริษัท
ต้องดูไปทีละตัวเลย หรือมีเกณฑ์คัดกรองเบื้องต้นก่อนที่จะลงไปในการดูรายละเอียดแต่ละบริษัท

ขอบคุณครับ

อ่านกระทู้ตะแกรงร่อนข้างบนน่ะครับ

เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวคุณสิครับ
อะไรที่คุณคิดว่ารู้จักไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ

ใจเย็นๆครับ ผมก็เคยเป็นครับ ศึกษาข้อมูลเพิ่มอีกสักหน่อยครับ อย่ากลัวว่าจะเสียโอกาสครับ ความไม่รู้คือศัตรูตัวฉกาจของชาว VI ครับ ผม

เห็นด้วยกับคุณ mustang ครับ อยากให้คิดว่าโอกาสในตลาดหุ้นมีเรื่อยๆครับ จะได้ไม่รีบร้อนเข้าไปซื้อโดยไม่ศึกษาก่อนครับ (ขนาดศึกษาก่อนก็ยังขาดทุนได้นะครับ) อย่าลืมดูเศรษฐกิจโดยรวมด้วยนะครับ เพราะจังหวะที่เข้าซื้อก็สำคัญมากครับ

ผมว่า PE PB และ Yield น่าจะเป็นตะแกรงร่อนแรกที่ดีสำหรับมือใหม่มองหาหุ้นตัวใหม่เพื่อลงทุน ลอง list หุ้นที่มี PE ต่ำกว่า 8.8, PB ต่ำกว่า 1.8 และ Yield สูงกว่า 3.9 ออกมาก่อนซิครับ แล้วเรามาช่วยกันเลือกครับ

อ่านมากๆครับ 56-1 งบการเงิน รายงานประจำปี

ผมก็ลองผิดลองถูก ส่วนมากจะผิดครับ ผลก็ขาดทุน แล้วมันทำให้เราฉลาดขึ้น หรือระวังตัวขึ้นมาก ผมว่าถ้าระยะยาว เราคิดว่ากระแสธุรกิจ จะเป็นไปในทิศทางไหน ก็เลือกกลุ่มนั้น แล้วค่อยหาว่าหุ้นตัวไหน งบการเงินแข็งแกร่งบ้าง ก็ใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆครับ แล้วก็รอราคาซื้อที่เหมาะสม ซึ่งผมว่ายากที่สุด

:lol: :lol: :lol: :lol:

1.เริ่มต้นเลย ลองเปิดดูผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดของทุกบริษัทหรือเท่าที่ทำได้ก่อน แล้วคีย์สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนผู้ถือหุ้นและผลกำไรลงในโปรแกรม exel ขั้นตอนนี้ถ้าจะให้ง่ายขึ้น ก็ขอพี่ครรชิตครับ พี่ครรชิตได้รวบรวมไว้สมบูรณ์มากเลยครับ

2. ลองคำนวณหาค่า roe โดยใช้สองวิธี
2.1. เอาผลกำไรไตรมาสสุดท้ายคูณด้วย 4 หารด้วย equity ( ส่วนผู้ถือหุ้น )
2.2 เอาผลกำไรรวมสี่ไตรมาสสุดท้าย หารด้วย equity ( ส่วนผู้ถือหุ้น )

3.นำมาเรียงลำดับโดยเรียง roe จากสูงมาต่ำ แล้วตัดตัวที่ได้ roe ต่ำกว่า 15 % ทิ้งทั้งหมด ( หรือจะตัดที่ 12% หรือ 20% ก็ตามใจชอบครับ ตัดน้อยเหลือเยอะ ตัดเยอะเหลือน้อย )

4.นำผลจากข้อ 3. มาเรียงใหม่ โดยเรียงคอลัมน์ p/e ( ซึ่งไฟล์ของพี่ครรชิตจะมีอยู่แล้ว )จากน้อยไปมาก แล้วตัดตัวที่ p/e มากกว่า 15 ทิ้งไป ( ตัวเลข 15นี้แล้วแต่คนชอบนะครับ )

5. เอาผลจากข้อ4. มาเรียงใหม่ คราวนี้เรียงตาม p/b โดยเรียงจากน้อยไปมาก แล้วตัดตัวที่ p/b มากกว่า 2 ทิ้งไป

ข้อ 1-5 เป็นวิธีคัดกรองคร่าวๆ เคยทำเองปรากฎว่าใช้เวลาเยอะมาก โดยเฉพาะตอนที่เปิดดูผลการดำเนินงานทุกบริษัท แล้วคีย์ขอมูล แต่ด้วยความเมตตาจากพี่ครรชิตขั้นตอนยุ่งยากนี้ก็หมดไป

เสร็จแล้วก็มาพิจารณารายละเอียดโดยเริ่มจากตัวบนสุดก่อน ขั้นตอนนี้หนีไม่พ้นที่จะต้องอ่านแบบฟอร์ม 56-1 ลองอ่านดูแล้วเราจะรู้อะไรดีๆเยอะมากเลยครับ สนุกมากด้วยครับ อ่านแล้วตอบคำถามต่อไปนี้

ก. แนวโน้มธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ วัฏจักรธุรกิจ

ข. เป็น ธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน หรือไม่ โดยใช้ competitive stretagy ของ porter วิเคราะห์ภาวะการแข่งขันด้วยพลังทั้งห้าของ Porter
1. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
2. โอกาสในการเข้ามาของรายใหม่
3. สินค้าทดแทน
4. อำนาจต่อรองกับลูกค้า
5. อำนาจต่อรองกับผู้ป้อนวัตถุ

ค. วิเคราะห์โดย SWOT

ง.ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่
2.ROA สูงๆ หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่

จ.ความซื่อสัตย์และความสามารถของผู้บริหาร

ฉ. วิเคราะห์ราคาที่น่าลงทุน
1. P/E = ?
2. P/B = ?
3. DIV = ?

ช. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ญ. อื่น ๆ ที่สำคัญ

เจอตัวไหนไม่ดีก็ตัดทิ้ง ตัวไหนดีก็เก็บไว้ ผมใช้วิธีนี้ในการเล่นหุ้น ปรากฎว่าโอกาสได้กำไรมีมากกว่าขาดทุนพอสมควรครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

สามัญชน เขียน::lol:  :lol:  :lol:  :lol:

1.เริ่มต้นเลย ลองเปิดดูผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดของทุกบริษัทหรือเท่าที่ทำได้ก่อน  แล้วคีย์สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนผู้ถือหุ้นและผลกำไรลงในโปรแกรม exel  ขั้นตอนนี้ถ้าจะให้ง่ายขึ้น ก็ขอพี่ครรชิตครับ  พี่ครรชิตได้รวบรวมไว้สมบูรณ์มากเลยครับ

2. ลองคำนวณหาค่า roe โดยใช้สองวิธี
2.1. เอาผลกำไรไตรมาสสุดท้ายคูณด้วย 4 หารด้วย equity ( ส่วนผู้ถือหุ้น )
2.2 เอาผลกำไรรวมสี่ไตรมาสสุดท้าย หารด้วย equity ( ส่วนผู้ถือหุ้น )

3.นำมาเรียงลำดับโดยเรียง roe จากสูงมาต่ำ แล้วตัดตัวที่ได้ roe ต่ำกว่า 15 % ทิ้งทั้งหมด  ( หรือจะตัดที่ 12% หรือ 20% ก็ตามใจชอบครับ ตัดน้อยเหลือเยอะ ตัดเยอะเหลือน้อย )

4.นำผลจากข้อ 3. มาเรียงใหม่ โดยเรียงคอลัมน์ p/e ( ซึ่งไฟล์ของพี่ครรชิตจะมีอยู่แล้ว )จากน้อยไปมาก  แล้วตัดตัวที่ p/e มากกว่า 15 ทิ้งไป ( ตัวเลข 15นี้แล้วแต่คนชอบนะครับ )

5. เอาผลจากข้อ4. มาเรียงใหม่ คราวนี้เรียงตาม p/b โดยเรียงจากน้อยไปมาก แล้วตัดตัวที่ p/b มากกว่า 2 ทิ้งไป

ข้อ 1-5 เป็นวิธีคัดกรองคร่าวๆ เคยทำเองปรากฎว่าใช้เวลาเยอะมาก โดยเฉพาะตอนที่เปิดดูผลการดำเนินงานทุกบริษัท  แล้วคีย์ขอมูล  แต่ด้วยความเมตตาจากพี่ครรชิตขั้นตอนยุ่งยากนี้ก็หมดไป

เสร็จแล้วก็มาพิจารณารายละเอียดโดยเริ่มจากตัวบนสุดก่อน ขั้นตอนนี้หนีไม่พ้นที่จะต้องอ่านแบบฟอร์ม 56-1  ลองอ่านดูแล้วเราจะรู้อะไรดีๆเยอะมากเลยครับ  สนุกมากด้วยครับ  อ่านแล้วตอบคำถามต่อไปนี้
เจอตัวไหนไม่ดีก็ตัดทิ้ง  ตัวไหนดีก็เก็บไว้ ผมใช้วิธีนี้ในการเล่นหุ้น  ปรากฎว่าโอกาสได้กำไรมีมากกว่าขาดทุนพอสมควรครับ

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:

ผ่านไป 3 ปี พี่หมอยังใช้วิธีเดิมอยู่หรือเปล่าครับ มียุทธวิธี
ในการเลือกเพิ่มจากนี้อีกไหมครับ

ผมว่าเริ่มต้นดูจากหุ้นกลุ่ม set50ก่อนดี่กว่าครับ มือใหม่ยังไม่ควรเลือกหุ้นจากทั้ง 500 ตัวในตลาด เพราะมันเยอะเกินไป ในกลุ่ม set50 เป็นบริษัทที่ดีและมีความใหญ่ระดับหนึ่ง ที่การปั่นหุ้นทำได้ยาก น่าลงทุน

ผมแนะนำให้เริ่มทีกระทู้ตะแกรงร่อนของคุณ VIB007 หลังจากจบแล้วทำตามที่อ.มน แนะนำ อาจจะทำร่วมกับข้อแนะนำของพี่หมอสามัญชน แล้วก็จะได้ list มาก็ทำการศึกษาเพิ่มเติมอาจจะ SWOT, Scuttlebutt เมื่อได้ list ขั้นสุดท้ายและมีมูลค่าหุ้นในใจแล้วอาจจะลองซื้อโดยการจดในกระดาษเพื่อดูว่าที่คิดไว้ถูกไหม แต่ถ้าหากพร้อมทั้งกาย(ความรู้)และใจ(อารมณ์ไม่เตลิดตามกระแส) ก็ลุยได้เลยครับ

ผมก้อเป็นคนนึงที่เิพิ่งลงทุนในตลาดหุ้น การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่เมื่อเรารู้ว่าเสี่ยงต้องรับมือ ผมก้อได้อ่านเรื่องพ่อรวยสอนลูก สุดท้าย ในเงินสี่ด้าน ทุกด้านต้องไปที่ Investor เพราะนั้นหมายถึงอิสรภาพทางการเงิน แต่การที่จะไปถึงอิสรภาพทางการเงินนั้นไม่ง่ายเลย การที่จะเริ่มมาแนว VI นี้ ไม่มีทางลัด มีทางตรงอย่างเดียว การที่จะเริ่มเป็น VI ต้องมีหัวทางการค้า และทำตัวเองเป็นเจ้าของ และ นักเดินตลาด แล้วเราก้อจะรู้ว่า ธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้นน่าเป็นหุ้นส่วนหรือไม่ ยกตัวอย่าง OISHI ร้าน Shabuchi ที่มีคนเข้าคิวกินตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด อย่างนี้ มันดีหรือไม่ ถ้าเค้าชวนเราเค้าร่วมหุ้น เราจะเข้ามั้ย? นั่นคือ คำถามแรก ที่ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราพร้อมที่จะเป็นเจ้าของร่วมกับเค้าหรือเปล่า?

ขอบคุณนะคร้าบบ กะลัีงจะหัดลงทุนพอดี

มือใหม่มากคับ อ่านแล้วพอเข้าใจบ้าง แต่ยังประยุกต์ไม่ค่อยเป็น
จะลองอ่านเรื่อยๆคับ

ขอบคุณครับ  จะนำไปใช้แน่นอน

ขอบคุณ พี่หมอ สามัญชน ครับ    :D

สำหรับผมจะพลิกหินทุกก้อนเข้ามาดูครับ
โดยเราจะมีเกณฑ์ของเรา
แล้วเปรียบเทียบเอาครับ
เริ่มจากเกณฑ์หลวม ๆ ง่าย ๆ ก่อน
เช่นอัตราผลตอบแทน
แล้วค่อย ๆ เจาะลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ครับ