3 บาท ที่แล้ว ยังไม่รวมในผล Q1 อีก 3 บาทกำลังตาม มา ...
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 30, 2005 7:06 pm
ดูข่าวนี้ตอนกลางวัน แล้วงงว่า ท่านนาย ก จะออกมาพูดก่อนทำไม ถ้าจะลอย ก็ลอยเลย ทำไมต้องออกมาพูดให้คาราคาซัง ไม่รู้จะทำเมื่อไหร่นะ งงจัง
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000071656
"ทักษิณ" ประกาศจะปรับราคาดีเซลในเร็วๆ นี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2548 16:17 น.
นายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจแล้วจะปรับราคาดีเซล แต่ขอรอดูวันที่เหมาะสม หากลอยตัวทันทีก็จะขึ้นอีก 3 บาทต่อลิตร ด้าน ก.พลังงาน-ก.คลัง หารือออกบอนด์ใช้หนี้น้ำมัน 85,000 ล้านบาท โดยคลังประกาศซัปพอร์ตหากขาดสภาพคล่อง ด้าน บลจ.กสิกรไทย ชี้บอนด์พลังงานไม่น่าลงทุน หากรัฐบาลไม่เข้ามาค้ำประกัน เสนอแนะรัฐลอยตัวดีเซลทันที
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจกรณีการปรับราคาน้ำมันดีเซลแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวันที่มีผลบังคับใช้อย่างชัดเจน ซึ่งคงไม่ไกลเกินไป ส่วนจะถึงขั้นลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลตามตลาดโลกเลยหรือไม่นั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเป็นเช่นนั้นแต่อาจจะเป็นลักษณะลอยตัวแบบมีการจัดการ (managed float)
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการหารือกับกระทรวงการคลังในเช้าวันนี้ (30 พ.ค.) ได้รับคำยืนยันชัดเจนว่า กระทรวงการคลังจะเข้ามาสนับสนุนการออกพันธบัตรของสถาบันบริการกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) วงเงิน 85,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้หนี้การชดเชยราคาน้ำมัน โดยจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะประกาศเป็นมติ ครม. เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีรายได้เพียงพอ ชัดเจนในการนำมาคืนหนี้แก่ผู้ซื้อพันธบัตร ซึ่งการที่กระทรวงการคลังประกาศแผนสนับสนุนกองทุนดังกล่าวไม่ใช่การเข้ามาค้ำประกันแต่อย่างใด โดยจะเป็นลักษณะกรณีหากกองทุนขาดสภาพคล่อง กระทรวงการคลังจะหาวงเงินเข้ามาสนับสนุน เช่น ในปีแรกอาจจะสนับสนุนเป็นวงเงิน 3,000 ล้านบาท ปีที่ 2 วงเงิน 12,000 ล้านบาท แต่กองทุนอาจจะใช้หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่ว่าจะขาดเงินหรือไม่
การออกบอนด์ดังกล่าวไม่ใช่แผนจะประกาศว่าจะลอยตัวดีเซลทันที เพียงแต่จะมีแนวทางการหารายได้ของกองทุนที่ชัดเจน ซึ่งการที่กระทรวงการคลังเข้ามาประกาศ SUPPORT จะสร้างมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อบอนด์ ซึ่งในส่วนของการลอยตัวดีเซลนั้นจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ต้องเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม นายวิเศษกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เข้ามาชดเชยราคาน้ำมันมากกว่าเป้าหมายของ ครม.ที่จะออกบอนด์มาใช้หนี้ 85,000 ล้านบาท โดยล่าสุดเงินชดเชยสูงถึงประมาณ 88,000 ล้านบาท หรือประมาณ 150 ล้านบาทต่อวัน โดยชดเชยอยู่ที่ประมาณ 3.14 บาทต่อลิตร จากราคาดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ 18.19 บาทต่อลิตร
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธาน บลจ.กสิกรไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลควรจะลอยตัวดีเซลทันทีเพื่อสร้างความชัดเจน หลังจากตลาดหุ้นต่างเก็งกำไรเรื่องการขึ้นราคาดีเซลในรูปแบบต่างๆ กัน และหากขึ้นราคาก็จะทำให้กองทุนฯ ลดปัญหาหนี้สินที่จะเพิ่มขึ้นที่แต่ละเดือนจะสูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยลดภาวะการขาดดุลการค้าที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น ซึ่ง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) ขาดดุลมากกว่าประมาณการเสียอีก อย่างไรก็ตามไม่เห็นด้วยหากจะนำมาตรการควบคุมเพดานการนำเข้า-ส่งออกน้ำมันมาใช้ เพราะจะวุ่นวาย ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปน้ำมันดิบของไทย แทนที่ไทยจะได้รายได้จากการส่งออกที่เกิดจากส่วนต่างค่าการกลั่น ประเด็นนี้ก็อาจจะทำให้ไทยขาดดุลเพิ่มขึ้นก็ได้ นอกจากนี้จะกระทบต่อการจัดการค้าปลีกในประเทศ เพราะคุมการขายในประเทศก็จะมีต้องกำหนดการปันส่วนน้ำมันขายปลีกด้วย
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ในส่วนของบอนด์น้ำมัน 85,000 ล้านบาท รัฐบาลควรจะประกาศค้ำประกัน ไม่เช่นนั้นแล้วนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันก็คงจะไม่สนใจเข้ามาซื้อบอนด์ เพราะไม่มีความชัดเจนเรื่องที่มาของรายได้ โดยแม้ว่ากระทรวงการคลังจะประกาศสนับสนุนก็เป็นเพียงมติ ครม. ที่อาจยกเลิกได้ และที่สำคัญกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่ใช่กองทุนตามกฏหมาย เป็นเพียงกองทุนที่เกิดจากคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่อาจยกเลิกได้ในอนาคต ซึ่งนอกจากนักลงทุนจะรอดูความชัดเจนของรายได้กองทุนฯ แล้วยังจะรอดูด้วยว่าอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจะเป็นเช่นใด หากกระทรวงการคลังค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยก็จะต่ำและเกิดความมั่นคงจนน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทีเอสอีซี กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นอยู่ในภาวะอึมครึม ส่วนหนึ่งจะรอความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นราคาดีเซล โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรจะลอยตัวทันที เพราะจะสร้างแรงกระเพื่อมด้านลบต่อตลาดหุ้น ควรจะกำหนดการขึ้นแบบขั้นบันได เช่น 1 บาทต่อลิตรต่อครั้งจะดีกว่า
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000071656
"ทักษิณ" ประกาศจะปรับราคาดีเซลในเร็วๆ นี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2548 16:17 น.
นายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจแล้วจะปรับราคาดีเซล แต่ขอรอดูวันที่เหมาะสม หากลอยตัวทันทีก็จะขึ้นอีก 3 บาทต่อลิตร ด้าน ก.พลังงาน-ก.คลัง หารือออกบอนด์ใช้หนี้น้ำมัน 85,000 ล้านบาท โดยคลังประกาศซัปพอร์ตหากขาดสภาพคล่อง ด้าน บลจ.กสิกรไทย ชี้บอนด์พลังงานไม่น่าลงทุน หากรัฐบาลไม่เข้ามาค้ำประกัน เสนอแนะรัฐลอยตัวดีเซลทันที
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจกรณีการปรับราคาน้ำมันดีเซลแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาวันที่มีผลบังคับใช้อย่างชัดเจน ซึ่งคงไม่ไกลเกินไป ส่วนจะถึงขั้นลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลตามตลาดโลกเลยหรือไม่นั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเป็นเช่นนั้นแต่อาจจะเป็นลักษณะลอยตัวแบบมีการจัดการ (managed float)
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในการหารือกับกระทรวงการคลังในเช้าวันนี้ (30 พ.ค.) ได้รับคำยืนยันชัดเจนว่า กระทรวงการคลังจะเข้ามาสนับสนุนการออกพันธบัตรของสถาบันบริการกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) วงเงิน 85,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้หนี้การชดเชยราคาน้ำมัน โดยจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะประกาศเป็นมติ ครม. เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีรายได้เพียงพอ ชัดเจนในการนำมาคืนหนี้แก่ผู้ซื้อพันธบัตร ซึ่งการที่กระทรวงการคลังประกาศแผนสนับสนุนกองทุนดังกล่าวไม่ใช่การเข้ามาค้ำประกันแต่อย่างใด โดยจะเป็นลักษณะกรณีหากกองทุนขาดสภาพคล่อง กระทรวงการคลังจะหาวงเงินเข้ามาสนับสนุน เช่น ในปีแรกอาจจะสนับสนุนเป็นวงเงิน 3,000 ล้านบาท ปีที่ 2 วงเงิน 12,000 ล้านบาท แต่กองทุนอาจจะใช้หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่ว่าจะขาดเงินหรือไม่
การออกบอนด์ดังกล่าวไม่ใช่แผนจะประกาศว่าจะลอยตัวดีเซลทันที เพียงแต่จะมีแนวทางการหารายได้ของกองทุนที่ชัดเจน ซึ่งการที่กระทรวงการคลังเข้ามาประกาศ SUPPORT จะสร้างมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อบอนด์ ซึ่งในส่วนของการลอยตัวดีเซลนั้นจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ต้องเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม นายวิเศษกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เข้ามาชดเชยราคาน้ำมันมากกว่าเป้าหมายของ ครม.ที่จะออกบอนด์มาใช้หนี้ 85,000 ล้านบาท โดยล่าสุดเงินชดเชยสูงถึงประมาณ 88,000 ล้านบาท หรือประมาณ 150 ล้านบาทต่อวัน โดยชดเชยอยู่ที่ประมาณ 3.14 บาทต่อลิตร จากราคาดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ 18.19 บาทต่อลิตร
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธาน บลจ.กสิกรไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลควรจะลอยตัวดีเซลทันทีเพื่อสร้างความชัดเจน หลังจากตลาดหุ้นต่างเก็งกำไรเรื่องการขึ้นราคาดีเซลในรูปแบบต่างๆ กัน และหากขึ้นราคาก็จะทำให้กองทุนฯ ลดปัญหาหนี้สินที่จะเพิ่มขึ้นที่แต่ละเดือนจะสูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท รวมทั้งยังช่วยลดภาวะการขาดดุลการค้าที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น ซึ่ง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) ขาดดุลมากกว่าประมาณการเสียอีก อย่างไรก็ตามไม่เห็นด้วยหากจะนำมาตรการควบคุมเพดานการนำเข้า-ส่งออกน้ำมันมาใช้ เพราะจะวุ่นวาย ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปน้ำมันดิบของไทย แทนที่ไทยจะได้รายได้จากการส่งออกที่เกิดจากส่วนต่างค่าการกลั่น ประเด็นนี้ก็อาจจะทำให้ไทยขาดดุลเพิ่มขึ้นก็ได้ นอกจากนี้จะกระทบต่อการจัดการค้าปลีกในประเทศ เพราะคุมการขายในประเทศก็จะมีต้องกำหนดการปันส่วนน้ำมันขายปลีกด้วย
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ในส่วนของบอนด์น้ำมัน 85,000 ล้านบาท รัฐบาลควรจะประกาศค้ำประกัน ไม่เช่นนั้นแล้วนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันก็คงจะไม่สนใจเข้ามาซื้อบอนด์ เพราะไม่มีความชัดเจนเรื่องที่มาของรายได้ โดยแม้ว่ากระทรวงการคลังจะประกาศสนับสนุนก็เป็นเพียงมติ ครม. ที่อาจยกเลิกได้ และที่สำคัญกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่ใช่กองทุนตามกฏหมาย เป็นเพียงกองทุนที่เกิดจากคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่อาจยกเลิกได้ในอนาคต ซึ่งนอกจากนักลงทุนจะรอดูความชัดเจนของรายได้กองทุนฯ แล้วยังจะรอดูด้วยว่าอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจะเป็นเช่นใด หากกระทรวงการคลังค้ำประกันอัตราดอกเบี้ยก็จะต่ำและเกิดความมั่นคงจนน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน
นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทีเอสอีซี กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นอยู่ในภาวะอึมครึม ส่วนหนึ่งจะรอความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นราคาดีเซล โดยส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรจะลอยตัวทันที เพราะจะสร้างแรงกระเพื่อมด้านลบต่อตลาดหุ้น ควรจะกำหนดการขึ้นแบบขั้นบันได เช่น 1 บาทต่อลิตรต่อครั้งจะดีกว่า