Thai VI

รายงานล่าสุดจาก www.set.or.th

ผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 2

งวด 3 เดือน

2546 2545 เพิ่มขึ้น

16.19 ล้านบาท 12.99 ล้านบาท 24.63%
0.91 บาทต่อหุ้น 0.73 บาทต่อหุ้น 24.63%

งวด 6 เดือน

2546 2545 เพิ่มขึ้น

33.70 ล้านบาท 25.38 ล้านบาท 32.78%
1.89 บาทต่อหุ้น 1.42 บาทต่อหุ้น 32.78%

ดีใจด้วยครับ คุณฉัตรชัย
คงรวยอื้อเลย อิอิ

ดีใจด้วยครับ สงสัยตีแตก กำไรโตมากจริงๆ

ยินดีด้วยอีกคนครับ

ผมขอติดห้อยสอยตามไปหน่อย เก็บได้ 5 พันแล้ว ยังไม่มีตังค์จะเก็บต่อครับ

อย่างนี้ ปลายปีน่าจะได้ปันผลสัก 2 บาทต่อหุ้นนะ เพื่อนๆว่ามะ

ได้ 1.80 บาทผมก็พอใจแล้วครับ

จากการสอบถามผู้บริหารของบริษัท พบว่า ในงวดนี้บริษัทได้รับผลกระทบจากโรคซาร์พอสมควรครับ ให้บริษัทมีรายได้จากการขายลดลง ส่งผลกระทบให้บริษัทมีสินค้าคงคลังเพิ่มมากขึ้น และบริษัทก็มีรายจ่ายพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 2 รายการ คือ ภาษีเงินได้เพิ่มเติมสำหรับปี 2542 ถึง 2545 จำนวน 4.81 ล้านบาท และค่าเผื่อมูลค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ที่คาดว่าจะไม่ได้รับคืน จำนวน 2.02 ล้านบาท รวมเป็นรายจ่ายพิเศษที่เพิ่มขึ้นกว่าปรกติจำนวน 6.83 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริษัทได้รับคืนภาษีเงินได้ที่จ่ายเกินในช่วงระหว่างปี 2540 ถึง 2541 จำนวน 9.3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทลงบัญชีเป็นรายได้อื่น ทำให้บริษัทยังมีกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น และจากการสอบถามรายการที่ได้รับภาษีคืนจำนวน 9.3 ล้านบาทนั้น ในงบยังไม่ได้รับเป็นเงินสด แต่ได้รับเรียบร้อยแล้วในเดือน ก.ค. ซึ่งจะทำให้บริษัทจะมีเงินสดเพิ่มขึ้นอีก 9.3 ล้านบาทจากรายการนี้ครับ

คุณ chatcahi ไม่คิดว่าทางบริษัทจะนำกำไรสะสมที่มีอยู่เหลือเฟือนั้นมาตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นให้มากกว่า 2 บาทหรือคะ? เช่นว่าการปันผลระหว่างกาล...

ผมคิดว่าไม่ปีนี้ก็ปีหน้าละครับที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันที่ 50%ของกำไรสุทธิ เนื่องจาก WG ปัจจุบันเป็นบริษัทไม่มีหนี้สินครับ อีกทั้งแถบไม่มีภาระการลงทุนเลย แถมยังมี Free Cash Flow อีกปีละกว่า 100 ล้านบาทครับ รวมถึงในงวดนี้ บริษัทก็มีเงินสดสุทธิจำนวน 140.94 ล้านบาทครับ ผู้บริหารก็ตระหนักถึงเรื่องสภาพคล่องส่วนเกินนี้ครับ

จากข้อมูลที่ผมรวบรวมใน 10 ไตรมาส ตั้งแต่ปี 2544 ถึงงวดปัจจุบัน บริษัทมีเงินสดจากการดำเนินงานก่อนรายการ Working Cap. จำนวน 239.98 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทบริหาร Working Cap. ที่ดีสามารถยืดระยะเวลาการชำระหนี้การค้าออกไป ส่งผลให้บริษัทมี Cash Flow From Operation สูงถึง 250.08 ล้านบาท และในตลอดช่วง 10 ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีการลงทุนเพียง 9.91 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากๆ เฉลี่ยไตรมาสละเพียง 1 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงเหลือเงินสดสูงถึงกว่า 240 ล้านบาท หรือไตรมาสละ 24 ล้านบาท (1.34 บาทต่อหุ้น) ในจำนวนเงิน 240 ล้านบาทนั้น บริษัทนำไปจ่ายชำระหนี้จำนวน 49.09 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลจำนวน 111.56 ล้านบาท บริษัทจึงเหลือเงินสดสุทธิจำนวน 128 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าบริษัทมีจุดแข็ง คือ บริษัทสามารถหาเงินสดได้สูงในแต่ละปี ( 5.36 บาทต่อปี ) ในขณะที่บริษัทก็ไม่มีความจำเป็นในการใช้เงินเลย และผู้บริหารก็ไม่นำเงินสดที่เหลือไปใช้จ่ายอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้นเราอาจจะคาดหมายได้ว่าบริษัทน่าจะมีเงินสดเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อปี (ก่อนจ่ายเงินปันผล) ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็มีเงินสดสุทธิจำนวน 7.81 บาทต่อหุ้นแล้ว ราคาปัจจุบันที่ 28.50 บาท บริษัทก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ปีที่ทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิเท่าราคาหุ้นปัจจุบัน

วันนี้ฟังบรรยายเรื่อง free cash flow เห็นทีต้องไปดู WG อย่างจริงจังซะแล้ว >> คุณ chatchai

แบบนี้โอกาสที่ wg น่าจะทำ tender offer ก็ได้ใช่มั้ยคะ? เพราะไม่มีความจำเป็นในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ???

ที่ผมกลัวที่สุดก็ T/O และครับ กลัวกว่าผลประกอบการ
ไม่ดีเสียอีก บริษัทดีๆหายไปทีละบริษัทสองบริษัท

ธุระกิจของ WG โดยเฉพาะการเป็นตัวแทนขายเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก

เป็นธุระกิจที่ผมชื่นชอบมาก ถึงแม้จะมีการแข่งขันมาก แต่ถ้าลูกค้าใช้แล้ว

จะไม่เปลี่ยนกันง่ายๆ ไม่ว่าคู่แข่งจะใช้กลยุทธเจาะตลาดอย่างไร ผู้ที่อยู่ในตลาด

มานาน เฉพาะอย่างยิ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำของโลกมาเป็นช้านานหลายสิบปี

อย่าง WG ได้เปรียบอย่างมากที่สุด กิจการจึงมีความมั่นคงสูง กำไรสมำเสมอ ยิ่งช่วงนี้

เงินบาทแข็งค่าขึ้น ธุระกินนำเข้าอย่างWG ต้นทุนลดลง มาก แต่ราคาขายไม่ได้ลดลง

เชื่อว่าสิ้นปีกำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างมากครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ

จากการที่ได้คุยกับผู้บริหาร เขาคุยว่าจุดแข็งของบริษัทอีกอย่างคือ พนักงานขายของบริษัทจะจบปริญญาตรี วิทยาศาสตร์ และอยู่กับบริษัทมาช้านาน อัตราการเปลี่ยนงานค่อนข้างน้อยครับ