Thai VI

:lol:

20 พฤษภาคม 2548

SET50 Index............... - 1.06%
SET100 Index............. - 1.00%
SET Index................... - 0.87%

เพราะฐานข้อมูลเดียวกันจึงนำมาเปรียบเทียบกันได้
จะเห็นว่าอัตราการตกของดัชนีไม่เท่ากัน

ดังที่ผมเคยนำเสนอไว้....
SET50 Index มีค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานสูงที่สุด ...มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด
SET100 Index มีค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานรองลงมา ....มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงรองลงมา และ
SET Index มีค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานต่ำที่สุด มันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าเพื่อน

ดัชนีตลาดหุ้นคือตัวเลขทางจิตวิทยา...
ดัชนีที่เบี่ยงเบนสูง จะแกว่งตัวสูง ขึ้นก็แรง ลงก็แรง
ทำให้เกิดความกล้าและกลัวได้ง่าย
ทำให้เกิดแนวร่วมในการไล่ซื้อและไล่ขายได้ง่าย

:lol:

24 พฤษภาคม 2548

เวลาประมาณ 12.00 น.

SET50 Index.......... - 0.48% (@std สูง)
SET Index.............. - 0.26% (@std ต่ำกว่า)

เป็นไปตามค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานของดัชนี....

Supper big caps 2 ตัว....

คือ ADVANC และ SHIN ลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทำให้ SET SET1000 และ SET50 ลงอย่างตามมา

indexthai เขียน:24 พฤษภาคม 2548

เวลาประมาณ 12.00 น.

SET50 Index.......... - 0.48% (@std สูง)
SET Index.............. - 0.26% (@std ต่ำกว่า)

เป็นไปตามค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานของดัชนี....

ดัชนีที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานสูงจะแกว่งแรงเสมอ
เมื่อขึ้นก็ขึ้นแรงกว่า
เมื่อลงก็ลงแรงกว่า
ดังที่เห็นนี่แหละ

จะมีดัชนีที่เบี่ยงเบนต่ำเท่าใดอยู่ในระบบก็ตาม
หากยังคงมีดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงอยู่ในระบบด้วย
ความเสียหายก็จะเกิดกับระบบตลอดไป

ดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงจะทำให้เกิดความกล้า-กลัวได้สูง
SET Index เป็นดัชนีที่เบี่ยงเบนสูง
ทำให้เกิดการสวมรอยลากขึ้นลากลงได้ง่าย
ทำให้เกิดความกล้าและกลัวได้ง่าย

นี่คืออิทธิพลทางจิตวิทยาของดัชนี
พื้นฐานดี.. แต่หาก SET ตก มันก็ตกด้วย
พื้นฐานแย่.... แต่หาก SET ขึ้น มันก็ขึ้นด้วย

ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนี
ทำให้เราสามารถนำดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกมาเปรียบเทียบกันได้
โดยวัดอัตราการแกว่งตัวของดัชนี(swing)มาเปรียบเทียบกัน
ดัชนีที่ให้อัตราการแกว่งตัวสูง... จะเบี่ยงเบนสูง..
ซึ่งเกิดจากกลุ่มข้อมูลที่ใช้สร้างดัชนีมีความเบี่ยงเบนสูงนั่นเอง

จึงทำให้ทราบว่า SET Index เบี่ยงเบนสูงเป็นอันดับที่ 7 ของโลก

ประเทศที่ดัชนีตลาดหุ้นเบี่ยงเบนสูง.. ส่วนใหญ่ต้องเข้าโครงการณ์ IMF

การปั่นหุ้นเป็นตัวๆ... มีอยู่แล้วเป็นประจำ
แต่การปั่นตลาดทั้งตลาดก็มีเช่นกัน

ไม่มีตลาดหุ้นใดในโลกไม่ถูกปั่น

เพียงแต่ตลาดหุ้นใดจะปั่นง่าย-ยากกว่ากันเท่านั้น

ตลาดหุ้นที่ดัชนีเบี่ยงเบนสูง.. จะถูกปั่นง่ายที่สุด...

มาตรวัดที่เอียง แต่ทุกคนใช้ มันก็เป็นมาตรวัดที่ได้มาตรฐาน

มาตรวัดที่ตรง คนใช้ผิด ก็วัดออกมาผิดอยู่ดี

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดัชนีดีหรือเบี่ยงเบนสูง

อยู่ที่ความโลภของมนุษย์ต่างหาก


ระบบไม่ได้เสียหาย คนต่างหากที่เสียหาย

อีก 1,000,000 ปีจากนี้ สิ่งที่เราเรียกว่า "ความเสียหาย"
ก็เป็นเพียงรอยขีดข่วน ที่ไม่ได้มีแม้แต่แผลเป็น

ดัชนีถูกปั่น เป็นเรื่องดีกับระบบ
ดัชนีที่เบี่ยงเบน ก็เป็นเรื่องดี

คนหลายๆ คนคิดไม่เหมือนกันก็เป็นเรื่องดี

ผมไม่เห็นว่าดัชนีจะเสียหายตรงไหน

[quote="CK"]มาตรวัดที่เอียง แต่ทุกคนใช้ มันก็เป็นมาตรวัดที่ได้มาตรฐาน

มาตรวัดที่ตรง คนใช้ผิด ก็วัดออกมาผิดอยู่ดี

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดัชนีดีหรือเบี่ยงเบนสูง

อยู่ที่ความโลภของมนุษย์ต่างหาก


ระบบไม่ได้เสียหาย คนต่างหากที่เสียหาย

อีก 1,000,000 ปีจากนี้ สิ่งที่เราเรียกว่า "ความเสียหาย"
ก็เป็นเพียงรอยขีดข่วน ที่ไม่ได้มีแม้แต่แผลเป็น

ดัชนีถูกปั่น เป็นเรื่องดีกับระบบ
ดัชนีที่เบี่ยงเบน ก็เป็นเรื่องดี

คนหลายๆ คนคิดไม่เหมือนกันก็เป็นเรื่องดี

ผมไม่เห็นว่าดัชนีจะเสียหายตรงไหน [/quot]


ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกควบคุมดูแลโดย Hedge Fund
เขาซื้อตลาดก็ขึ้น เขาขายตลาดหุ้นก็ตก(เป็นส่วนใหญ่)
คนท้องถิ่นมีอิทธิพลต่อตลาดตนเองน้อยมาก

ความกล้าและกลัวของคนท้องถิ่นถูกควบคุมโดย Hedge Fund
รวมทั้งความโลภควบคุมโดย Hedge Fund
เขาเอา SET ขึ้น... ก็โลภด้วยความกล้า.. ไล่ซื้อ
เขาเอา SET ลง... ก็โลภด้วยความกลัว... ไล่ขาย

มีตัวอย่าง...
ISE/ตุรกี ...เบี่ยงเบนสูงที่สุดในโลก
เข้าโครงการ IMF มาแล้ว
ค่าเงิน Lira ทุกวันนี้อยู่ที่ 1,345,000 Lira/USD

MERVAL/อาร์เจนตินา SET/ไทย JKSE/อินโดนีเซีย KSE/เกาหลีใต้
เบี่ยงเบนติดอันดับโลก
เข้าโครงการณ์ IMF ทั้งสิ้น

NASDAQ เพิ่งเบี่ยงเบนเมื่อปี 1999 ...เป็นอันดับ 4 ของโลก
แม้ไม่ทำให้ต้องเข้าโครงการณ์ IMF แต่ก็ทำให้อเมริกาสบักสะบอบหนักเช่นกัน

ภาษาอังกฤษว่า It comes in a package

ทุนนิยมเสรี ที่จะโยกเงินไปไหนมาไหนได้โดยไร้พรมแดน

ตราบใดที่คนไทยยังต้องการความฟุ้งเฟ้อ ต้องการเงินทุน
ต่างชาติทำให้หุ้น p/e สูงๆ ต้องการซื้อข้าวของเครื่องใช้
ปรนเปรอความสุขตัวเองในราคาถูกๆ ก็ต้องยอมรับการ
ไหลของเงินจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งโดยเสรี

มีไม่กี่ประเทศที่ปิดกั้น hedge fund ไม่ให้เข้าไปลงทุน
ในประเทศ ผลก็คือ ตลาดหุ้นแทบจะไม่ได้รับผลกระทบ
จากการเทขายของ hedge fund เลย แน่นอน ย่อมไมได้
ผลประโยชน์จากการระดมทุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย

ถ้าประเทศไทยทำเช่นนั้น เราก็คงไม่มีระบบโทรศัพท์มือถือ
ที่ราคาถูกและสะดวกขนาดนี้ และคงจะไม่มีนายกชื่อทักษิณ

It comes in a package.

ความเสียหายจากตลาดหุ้นมี pattern ที่คล้ายกันทุกประการ
ยกตัวอย่างเช่น... ที่เกิดขึ้นกับไทยและอเมริกา

จุดศูยน์กลางความเสียหายไทยอยู่ที่ปั 1994(2537) ... อเมริกาอยู่ที่ปี 2000
อเมริกาเกิดหลังประเทศไทย 6 ปี
เกิดเหตุการณ์เรียงลำดับดังต่อไปนี้

1) SET ตก 88%......................... NASDAQ ตก 76%
2) BAHT 54%(เทียบ USD).......... USD ตก 39% (เทียบ EUR และ AUD)
3) ดอกเบี้ยRP14วันไทยต่ำสุด เหลือ 1.5% ........ Fed fund อเมริกาเหลือต่ำสุด 1.00%

indexthai เขียน:
ความเสียหายจากตลาดหุ้นมี pattern ที่คล้ายกันทุกประการ
ยกตัวอย่างเช่น... ที่เกิดขึ้นกับไทยและอเมริกา

จุดศูยน์กลางความเสียหายไทยอยู่ที่ปั 1994(2537) ... อเมริกาอยู่ที่ปี 2000
อเมริกาเกิดหลังประเทศไทย 6 ปี
เกิดเหตุการณ์เรียงลำดับดังต่อไปนี้

1) SET ตก 88%......................... NASDAQ ตก 76%
2) BAHT 54%(เทียบ USD).......... USD ตก 39% (เทียบ EUR และ AUD)
3) ดอกเบี้ยRP14วันไทยต่ำสุด เหลือ 1.5% ........ Fed fund อเมริกาเหลือต่ำสุด 1.00%

การเกิดวิกฤติจะแสดงออกโดยความเสียหายของ...
ตลาดทุน ...ตลาดเงินตรา(ค่าเงิน) ....ตลาดเงิน(ดอกเบี้ย)
ดังที่นำเสนอข้างบนนั่นเอง

ASX Index ของออสเตรเลียเป็นดัชนีที่เบี่ยงเบนต่ำที่สุดในโลก

ศก.ของออสเตรเลียจึงแข็งแกร่งที่สุดในโลก

จะเห็นว่า AUD เทียบ USD ช่วง 2-3 ปีที่ป่านมา แข็งขึ้น 39%

จะมีดัชนีที่เบี่ยงเบนต่ำเท่าใดอยู่ในระบบก็ตาม
หากยังคงมีดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงอยู่ในระบบด้วย
ความเสียหายก็จะเกิดกับระบบตลอดไป

ดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงจะเป็นตัวนำตลาด

ข้อมูลทางเทคนิค 20 พฤษภาคม 2548

SET Index(เบี่ยงเบนสูง) ................ตกหลุด sma25 ............คนทั่วโลกเห็น
SET225 Index(เบี่ยงเบนต่ำ)...........ยังอยู่เหนือ sma25.........น้อยคนเห็น

Hedge Fund เป็นนักลงทุนทุกรูปแบบ
เป็นทั้งนัก fundamental (VI)
เป็นทั้งนัก technical

เขาเป็นคนทำให้ SET Index หลุด sma25 เอง(net sell ตลอด)
วันนี้จึงทำให้เกิดแนวร่วมถล่มขายกันทั้งตลาด

นั่นคือ SET225 Index เบี่ยงเบนต่ำช่วยอะไรตลาดไม่ได้
ตราบใดที่ยังมี SET Index ที่เบี่ยงเบนสูงอยู่ในตลาด

__________________________________

ที่อเมริกาก็เช่นเดียวกัน....
ดัชนีที่นำตลาดคือ NASDAQ Index (เบี่ยงเบนสูง)
ไม่ใช่ Dow Jones (เบี่ยงเบนต่ำ)

ดังนั้นการดูอเมริกาว่าจะไปทางไหน..
ให้ดู NASDAQ Index
ไม่ใช่ดู Dow Jones Index

คืนนี้ลองตาม NASDAQ ดู

ถ้า NASDAQ ลบ .......... หุ้นไทยอาจจะบวกได้

แต่ถ้า NASDAQ บวก .... หุ้นไทยอาจจะจะตกต่อได้

24 พฤษภาคม 2548

SET50 Index............... - 1.10% (Std สูงสุด)
SET100 Index............. - 1.20% (Std สูงรองลงมา) ?????
SET Index................... - 1.04% (Std ต่ำกว่าเพื่อน)

แสดงของจริงให้เห็นว่าดัชนีที่มีค่า Standard deviation สูง ...จะแกว่งตัวสูง
มีนัยสำคัญ....

แต่ SET Index แกว่งตัวแรงเป็นลำดับที่ 7 ของโลก
แล้ว SET50 Index กับ SET100 Index จะอยู่ที่ลำดับเท่าใดของโลก

แนสแดก บวกครับครับพี่ ดัชนีไทย

พี่ดัชนีครับ เอามาประยุกต์กับหุ้นได้ไหมครับ หาหุ้นในตลาดที่มีค่าเบี่ยงเบนต่ำ เพื่อลงทุน

อองตวน เขียน:แนสแดก บวกครับครับพี่ ดัชนีไทย

พี่ดัชนีครับ เอามาประยุกต์กับหุ้นได้ไหมครับ หาหุ้นในตลาดที่มีค่าเบี่ยงเบนต่ำ เพื่อลงทุน

ไม่มีอะไร 100%
เชื่อมั่นได้ 70-80%

แต่ NASDAQ ก็ Over bought แล้ว
อาจจะจะมีการปรับตัวได้

แต่หุ้นบ้านเราเสียอาการทางเทคนิคแล้ว
แม้เมื่อวานนี้ SET Index จะไม่มี New low
แต่ดัชนีบางตัวที่ผมสร้างไว้(SETALL Index) มี New low
จึงควรระวังตัว... ครับ

ผมเข้าใจว่าช่วงนี้ต่างชาติรอดูว่า FOMC จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหรือไม่
หากขึ้นจะทำให้ USD แข็งขึ้น
เงินก็จะไหลออกจากไทย.. ไปอเมริกาได้

จำได้หรือไม่ที่ผมบอกว่า... ดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงจะนำตลาด
เมื่อเวลา 11.15 น. เปิดดู real time
พบว่า....

SET50 Index ...... - 0.05% (เบี่ยงเบนสูง)
SET Index .......... +0.04% (เบี่ยงเบนต่ำกว่า)

คาดการณ์ได้ว่า SET50 Index อาจจะนำตลาดลงได้

indexthai เขียน:

ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานกับการเปลี่ยนแปลงของดัชนี
ทำให้เราสามารถนำดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกมาเปรียบเทียบกันได้
โดยวัดอัตราการแกว่งตัวของดัชนี(swing)มาเปรียบเทียบกัน
ดัชนีที่ให้อัตราการแกว่งตัวสูง... จะเบี่ยงเบนสูง..
ซึ่งเกิดจากกลุ่มข้อมูลที่ใช้สร้างดัชนีมีความเบี่ยงเบนสูงนั่นเอง

จึงทำให้ทราบว่า SET Index เบี่ยงเบนสูงเป็นอันดับที่ 7 ของโลก

ประเทศที่ดัชนีตลาดหุ้นเบี่ยงเบนสูง.. ส่วนใหญ่ต้องเข้าโครงการณ์ IMF

ผมว่ามันไม่จำเป็นเสมอไปครับ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานไม่น่ามีผลอะไรที่เป็น "นัยสำคัญ" กับการเข้าโครงการ IMF เท่าไหร่เลย

การที่ set มี std สูงเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ผมพอนึกออกก็มี

-ความผันผวนของพิ้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ สมมุติว่า gdp หรือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นมีความผันผวนมาก เช่น ปีนี้บวกห้า ปีหน้าลบเจ็ด อะไรประมาณนี้

-จำนวนบริษัทจดทะเบียนทีน้อย และมาร์เก็ตแค็ปน้อย อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากเพราะเป็นไปตามหลักสถิติ

-diversification ของตลาด ถ้ามูลค่าของตลาดมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมเพียงกลุ่มสองกลุ่มอย่างของไทย ค่าความเบียงเบนก็มากตามเป็นปกติ เพราะเราไม่สามารถ diversify industry risk ได้ เท่าที่ควร (โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ dominate ตลาด เช่น พลังงาน เป็นต้น)

ผมเป็นคนอธิบายไม่เก่ง ขอโทษทีถ้ามีใครอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง

พี่ดัชนีครับ ระยะเวลาที่พี่ใช้ในการคำนวณค่าเบี่ยงเบน ใช้กี่วันครับ
ผมเคยมีความเชื่อแนวนี้อยู่เหมือนกันว่าหุ้นที่ดีต้องมีราคาที่เสถียร และระยะยาวค่าผลตอบแทนจะโน้มไปทางบวกมากกว่าลบ นั่นคือราคาควรมีค่าเบี่ยงเบนที่ต่ำกว่าเฉลี่ย แต่ยังไม่เคยทดสอบสักที

adi เขียน: ผมว่ามันไม่จำเป็นเสมอไปครับ ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานไม่น่ามีผลอะไรที่เป็น "นัยสำคัญ" กับการเข้าโครงการ IMF เท่าไหร่เลย

การที่ set มี std สูงเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ผมพอนึกออกก็มี

-ความผันผวนของพิ้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ สมมุติว่า gdp หรือ ปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่นมีความผันผวนมาก เช่น ปีนี้บวกห้า ปีหน้าลบเจ็ด อะไรประมาณนี้

-จำนวนบริษัทจดทะเบียนทีน้อย และมาร์เก็ตแค็ปน้อย อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากเพราะเป็นไปตามหลักสถิติ

-diversification ของตลาด ถ้ามูลค่าของตลาดมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมเพียงกลุ่มสองกลุ่มอย่างของไทย ค่าความเบียงเบนก็มากตามเป็นปกติ เพราะเราไม่สามารถ diversify industry risk ได้ เท่าที่ควร (โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ dominate ตลาด เช่น พลังงาน เป็นต้น)

ผมเป็นคนอธิบายไม่เก่ง ขอโทษทีถ้ามีใครอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง

ผมพยายามนำเสนอให้เห็นว่า ดัชนีแต่ละตัวเบี่ยงเบนต่างกัน
โดยไม่ต้องไปเทียบกับดัชนีของประเทศอื่นเลย
เปรียบเทียบดัชนีในไทยด้วยกันเอง
(จากฐานข้อมูลการคำนวณดัชนีเดียวกัน
สิ่งแวดล้อมเดียวกัน
เปิด-ปิดตลาดเวลาเดียว)
ได้แก่... SET50 SET100 และ SET
ลองดู % เปลี่ยนแปลงของดัชนีทั้ง 3 ตัวทุกวันก็ได้

จะพบว่า....
SET50 Index........ % + - แรงกว่าเพื่อน
SET100 Index...... % + - รองลงมา
SET Index............ % + - ต่ำกว่าเพื่อน

เห็นไหมครับ ..ว่ามันแตกต่างกัน

จะพบว่า....
SET50 Index........ % + - แรงกว่าเพื่อน
SET100 Index...... % + - รองลงมา
SET Index............ % + - ต่ำกว่าเพื่อน

มันเป็นจริงเช่นนี้ทุกวัน (99%)

เช่น.. น้อยครั้งมากที่ SET Index จะบวกหรือลบมากกว่า SET50

SET50 SET100 SET

ภาพของดัชนีอาจจะเป็นจริงอย่างที่ดัชนีบอกได้

และภาพของดัชนีอาจจะถูกตบแต่งให้ลวงตาได้ง่าย

อองตวน เขียน:พี่ดัชนีครับ ระยะเวลาที่พี่ใช้ในการคำนวณค่าเบี่ยงเบน ใช้กี่วันครับ
ผมเคยมีความเชื่อแนวนี้อยู่เหมือนกันว่าหุ้นที่ดีต้องมีราคาที่เสถียร และระยะยาวค่าผลตอบแทนจะโน้มไปทางบวกมากกว่าลบ นั่นคือราคาควรมีค่าเบี่ยงเบนที่ต่ำกว่าเฉลี่ย แต่ยังไม่เคยทดสอบสักที

อาจจะเป็นคนละความเข้าใจกระมังครับ
ค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานที่ผมนำเสนอคือ..
ค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานของกลุ่มข้อมูลที่ใช้สร้างดัชนี

"ค่าเบี่ยงเบนมาตราฐานของดัชนีตัวใด(mean)
เป็นตัวแสดงถึงคุณสมบัติของดัชนีตัวนั้น...."