Thai VI

8)

SET100 Index ดัชนีปิดต่ำกว่าเปิด

THAI VI Index ดัชนีปิดสูงกว่าเปิด

เป็นความแตกต่างที่สังเกิดเห็น

เมื่อวานขึ้นด้วย big caps
วันนี้ก็ลงด้วย big caps

นั่นคือ
เราจะมีดัชนีหุ้นที่เบี่ยงเบนต่ำอยู่ในตลาดหุ้นเพียงใดก็ตาม
แต่หากมีดัชนีหุ้นที่เบี่ยงเบนสูงอยูด้วย... ดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงนั่นเองจะเป็นตัวนำตลาด
ตัวที่เบี่ยงเบนต่ำจะเป็นตัวตาม......

ที่อเมริกาก็เช่นเดียวกัน...
ดัชนีตัวนำตลาดคนซื้อขายหุ้นคือ NASDAQ Index (ไม่ใช่ DJIA)
NASDAQ เบี่ยงเบนเป็นอันดับที่ 4 ของโลก(SET อันดับที่ 7๗


SET100 Index(SET Index SET50 Index) ปิดต่ำกว่าเปิด(แม้ดัชนีจะบวกก็ตาม)
ให้สัญญาณว่าวันนี้ตลาดจะลง

ประเทศไทย... ได้กำไรทั้ง 2 วัน..
เมื่อวานก็ลากขึ้นไปทำกำไร
วันนี้ก็ลากลงมาเก็บของ

เมื่อเช้าเลยมา post ให้ทราบแต่เช้าก่อนเปิดตลาด...

ทำให้คน S H O R T มีความสุขไปตามๆกัน

น้อยคนจะทำได้.. โดยเฉพาะรายย่อย
แต่รายใหย่เขาสบายไปแล้ว.........

คนส่วนน้อยมีกำไร(รายใหญ่)... 10-20% ของนักลงทุน
คนส่วนใหญ่เสียหาย(รายย่อย) 80-90% ของนักลงทุน

เมื่อวานนี้ ADVANC big cap อันดับที่ 3 ของ SET ปิดที่ 99 บาท
เช้านี้จะเปิดตลาดที่ 96 บาท... ลดลง 3 บาทจากราคาปิดเมื่อวานนี้
ทราบได้ว่า... วันนี้เขาจะเล่นงานตลาดอย่างหนักแน่....

หาก SET Index ตัด Supper big caps ออก 20 ตัว
เหมือน THAI VI Index ตัด Supper big prices ออก 20 ตัว
รายใหญ่ก็ทำร้ายตลาดได้ยาก(ไม่ใช่ทำร้ายไม่ได้นะครับ)

เมื่อไม่มีตัว big weight อยู่ในตลาด.. เขาก็ Control ดัชนีไม่ได้

เหมือน... เหมือน... นางโมรา
หากไม่ยื่นด้านโคนมีดให้โจร.. โจรก็ไม่สามารถทำร้ายเจ้าชายได้

อ่า โฆษณาผิดเว็บแล้วมังครับ คุณ indexthai

สมาชิกเว็บนี้ นอกจากจะไม่ดู SET Index แล้ว SET 1000 SET 50
DJI N225 ไม่ดูสักตัว World Index ไม่ดูสักตัว

พูดไปก็ไม่มีใครสนใจครับ

เว็บนี้เขาดูหุ้นเป็นรายตัวครับ

index ที่ดูก็เห็นมีแต่ Consumer Price Index, CPO, Freight Index,
Barlow Jonker Index, etc.

ถึงได้เป็น "เว็บของคนส่วนน้อยไง"

สมาชิกเว็บนี้ ส่วนใหญ่จะกำไร ส่วนน้อยขาดทุนครับ

ไม่สงสัยเหรอครับ เว็บนี้ไม่มีใครเข้ามาคุยกับคุณดัชนีไทยเลย
ว่า index จะขึ้นหรือลง ไปทางไหน เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สนใจ index อยู่แล้ว

พี่CK ก็
ดูเป็นรายตัว รายกลุ่มมันต้องดูให้แม่นๆๆล่ะพี่
ไม่แม่น เดี๋ยวจะโดนสีแดงๆๆมาเยี่ยมเยียน

CK เขียน:อ่า โฆษณาผิดเว็บแล้วมังครับ คุณ indexthai

สมาชิกเว็บนี้ นอกจากจะไม่ดู SET Index แล้ว SET 1000 SET 50
DJI N225 ไม่ดูสักตัว World Index ไม่ดูสักตัว

พูดไปก็ไม่มีใครสนใจครับ

เว็บนี้เขาดูหุ้นเป็นรายตัวครับ

index ที่ดูก็เห็นมีแต่ Consumer Price Index, CPO, Freight Index,
Barlow Jonker Index, etc.

ถึงได้เป็น "เว็บของคนส่วนน้อยไง"

สมาชิกเว็บนี้ ส่วนใหญ่จะกำไร ส่วนน้อยขาดทุนครับ

ขออนุโมทนาสาธุ กับคนใน web นี้ "ดังที่คุณ CK กล่าวอ้าง"
ด้วยความจริงใจ

CK เขียน:ไม่สงสัยเหรอครับ เว็บนี้ไม่มีใครเข้ามาคุยกับคุณดัชนีไทยเลย
ว่า index จะขึ้นหรือลง ไปทางไหน เพราะคนส่วนใหญ่ไม่สนใจ index อยู่แล้ว

เรื่องจะกำไร-ขาดทุนก็คงมีวิธีการเล่นเป็นล้านวิธี
ก็แล้วถนัดแบบไหน

ผมก็นำเสนอในหลักวิชาการที่ควรจะเป็น
ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น และไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น
ใจผมก็ทำเพื่อคนเล่นหุ้นและตลาดหุ้นโดยส่วนรวม
ใครจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ไม่เป็นไร

ไม่มีคนมาคุยเพราะเขาไม่รู้เรื่องที่ผมคุย
ไม่มีคนมาคุยเพราะเขาเห็นว่าไม่ช่วยให้เขามีกำไรตรงไหน
ไม่มีคนมาคุย.. แต่ก็มีคนมาอ่าน

บางบอร์ดผมโพสต์โดยไม่มีคนมาคุยเลย
แต่มีคนมาอ่าน.. พอสมควร
ผมก็โพสต์.. แม้จะเป็นเรื่องเดิมๆ.. ทุกวันนี้ก็ยังโพสต์อยู่
แสดงว่าเขาอยากรู้เรื่องที่ผมนำเสนอ..

ไม่คุยก็ไม่เห็นจะเป็นไร...
ถ้าโพสต์แล้วไม่มีคนมาอ่าน.. ก็อีกเรื่อง

:lovl: ขอบคุณครับ อ่านเหมือนกัน

ชอบอ่านเหมือนกันครับ อ่านแล้วได้ความรู้ดีทีเดียว
แม้จะไม่ต้องสนใจ index มากนัก แต่ว่ารู้ไว้ก็พัฒนาความรู้ได้ดีทีเดียว

ขอบคุณครับ

ปั่นหุ้นเป็นตัวๆมีแน่นอนอยู่แล้ว.. เป็นเรื่องยากที่จะป้องกัน

BT SCB-W SCIB-C1 TPI
ส่วนใหญ่สังกัดกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงการคลังเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ทั้งปริมาณ-ราคาเปลี่ยนแปลงเหลือเชื่อ

ล่าสุด TPI มีวงมาบอก(รู้กันทั่ว)ว่าเขาจะเล่น
ตรวจสอบสิ่งที่เกี่ยวข้องกันแล้ว.. ผมก็เชื่อ ..ว่าเขาจะเล่นจริง

หุ้นที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งราคาและปริมาณมากๆ
ไม่ได้เกิดจากมวลชนหรอก
แต่มันคนมีเงินมีหุ้นที่ได้วางแผนล่วงหน้ามาแล้ว... เป็นผู้นำ

ต้องมีvolumeและเงินเหลือเฟือมาเกี่ยวข้อง
และอยู่ในวิสัยที่ cotrolable ได้แน่นอน

indexthai เขียน:ปั่นหุ้นเป็นตัวๆมีแน่นอนอยู่แล้ว.. เป็นเรื่องยากที่จะป้องกัน

BT SCB-W SCIB-C1 TPI
ส่วนใหญ่สังกัดกระทรวงการคลัง หรือกระทรวงการคลังเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ทั้งปริมาณ-ราคาเปลี่ยนแปลงเหลือเชื่อ

ล่าสุด TPI มีวงในมาบอก(รู้กันทั่ว)ว่าเขาจะเล่น
ตรวจสอบสิ่งที่เกี่ยวข้องกันแล้ว.. ผมก็เชื่อ ..ว่าเขาจะเล่นจริง

หุ้นที่จะเปลี่ยนแปลงทั้งราคาและปริมาณมากๆ
ไม่ได้เกิดจากมวลชนหรอก
แต่มันคนมีเงินมีหุ้นที่ได้วางแผนล่วงหน้ามาแล้ว... เป็นผู้นำ

ต้องมีvolumeของหุ้นและเงินเหลือเฟือมาเกี่ยวข้อง
จึงจะอยู่ในวิสัยที่cotrolableได้

หุ้นเหล่านี้ไม่มีทางที่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ้นปั่น

แต่ TPIPL ถูกกล่าวหาว่ามีการปั่นหุ้น..
โดย MD ของTPIPL คุณอรพินทร์ เลี่ยวไพรัตน์

โห.. ตลาดหุ้นไทย
ไม่รู้จะหาที่พึ่งที่ไหนได้ ทารุณยิ่งกว่าทารุณ
ว่ากันเป็นทีมเลย ..สื่อยังช่วยตืบซ้ำอีก
หดหู่...

การปั่นหุ้นเป็นตัวๆ... ก็ทารุณอยู่แล้ว
แต่จะมีใครทราบว่าการปั่นตลาดทั้งตลาดก็ทำได้เช่นกัน
ทารุณกว่าการปั่นหุ้นเป็นตัวๆเสียอีก

..เพราะทำให้เกิดการสิ้นชาติได้..

ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทยประเทศเดียว..
เกิดขึ้นกับหลายประเทศ.... ส่วนใหญ่ต้องเข้ารับความช่วยเหลือทางการเงินจาก IMF

สภาพคล่องพังทลาย
ค่าเงินบาทพังทลาย
อัตราดอกเบี้ยพังทลาย
ทรัพย์สินชาติเสื่อมค่า

การปั่นหุ้นเป็นตัวๆเป็นเรื่องยากที่จะไปป้องกันได้
แต่การป้องกันการปั่นตลาด.. เป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้

วิธีป้องกัน ..ก็เรื่องที่ผู้เขียนบ่น.. และเขียนถึงมาโดยตลอดนั่นเอง

เข้ามาดูเหมือนกัน

คุณ Indexthai
ผมรบกวนถามเป็นความรู้หน่อยครับ เรื่องการปั่นหุ้นทั้งตลาด แล้วทำให้เศรษฐกิจล่ม แล้วต้องไปขอความช่วยเหลือจาก IMF

ถ้าเป็นไปได้ ช่วยเล่าเป็น step ๆ หน่อยครับ ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเกิดเหตุให้ต้องไปกู้เงิน IMF แล้ว กู้มาเพื่ออะไร

ต้องบอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมก็ยังไม่ค่อย clear กับเหตุการที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก ช่วงก่อน และ ตอนเกิด วิกฤติ ทางการเงินของประเทศเรา

หรือ อาจจะเกริ่นถึง อเมริกา ที่คุณบอกว่า หลัก ๆ มาจาก NASDAQ (ผมก็ยัง งง ๆ อยู่)

ShexShy เขียน:คุณ Indexthai
ผมรบกวนถามเป็นความรู้หน่อยครับ เรื่องการปั่นหุ้นทั้งตลาด แล้วทำให้เศรษฐกิจล่ม แล้วต้องไปขอความช่วยเหลือจาก IMF

ถ้าเป็นไปได้ ช่วยเล่าเป็น step ๆ หน่อยครับ ตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเกิดเหตุให้ต้องไปกู้เงิน IMF แล้ว กู้มาเพื่ออะไร

ต้องบอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมก็ยังไม่ค่อย clear กับเหตุการที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก ช่วงก่อน และ ตอนเกิด วิกฤติ ทางการเงินของประเทศเรา

หรือ อาจจะเกริ่นถึง อเมริกา ที่คุณบอกว่า หลัก ๆ มาจาก NASDAQ (ผมก็ยัง งง ๆ อยู่)

เรื่องเคร่าๆเป็นดังนี้

ปลายปี 2536
ต่างชาติทยอยสะสมหุ้นตั้งแต่ต้นปี

เดือนตุลาคม 2536 เดือนที่มีการนำระบบ Maintenance margin และ force sell มาใช้
มีการกระชากซื้อสุทธิกว่า 32,051 ล้านบาท
ทำให้ SET Index พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เดือนพฤศจิกายน 2536 ต่างชาติขายสุทธิ 14,625 ล้านบาท
ทำให้ SET Index side way

เดือนธันวาคม 2536 ต่างชาติชายสุทธิ15,010 ล้านบาท

เดือนมกราคม 2537 ต่างชาติขาย 40,763 ล้านบาท (อวสานตลาดหุ้นไทย)

จากนั้นต่างชาติก็ขายออกมาอีก 4-5 เดือนติดต่อกัน

หุ้นที่ดัชนี 1,350 - 1.754 จุดอยู่พอร์ตคนไทยทั้งสิ้น

ทำให้เกิดการบังคับขายหุ้นคนไทยอย่างบ้าคลั่ง


หุ้นตกแรงทำให้สภาพคล่องเสียหาย
ค่าเงินบาทเสียหาย
ทำให้ต้องใช้ทุนสำรองฯไปปกป้องค่าเงินบาทกว่า 30,000 ล้านUSD
แทบหมดตัว

การที่ทุนสำรองลดลง.. ทำประเทศให้ขาดความเชื่อมั่น
จึงต้องไปขอความช่วยเหลือ IMF กู้เงินดอกเบี้ยต่ำมาอุดทุนสำรองที่ขาดหายไป

ผมก็ชอบอ่านนะ ได้ความรู้ดี

อ่านแล้วได้รู้มากขึ้น