หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2003 11:55 pm
โดย M149
ในสายตาของผู้ใหญ่หลายๆท่าน อาจมองเห็นว่าอาการคลั่งไคล้ดาราของวัยรุ่นในยุคนี้เป็นเรื่องไร้สาระ แต่ในมุมมองของผม ผมคิดว่าอาการคลั่งดาราของวัยรุ่นสมัยนี้มีเหตุจากระดับความต้องการของมนุษย์ในสังคม ณ ปัจจุบัน มีความต้องการที่แตกต่างจากในอดีต เพราะในอดีตนั้นน้ำหนักความต้องการของมนุษย์อยู่ที่ระดับความต้องการอยู่ที่การ "ดำรงชีพ" เนื่องจากในอดีตมีแรงกดดันเรื่องของสงคราม ขั้วอำนาจ และความขาดแคลนทางกายภาพ โดยเฉพาะผลจากสงคราม ทำให้มนุษย์ในยุคสมัยนั้นมีความต้องการ"ผู้ช่วยให้รอด"สูง จึงเห็นได้ว่าบุคคลผู้เป็นผู้นำต่างๆไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางการทหาร หรือ แม้แต่ผู้นำทางศาสนา ต่างเป็นที่นิยมและเทดทูนสักการะ เพราะเหตุที่ว่ามนุษย์อยู่ใต้ความกลัวนั่นเอง แต่ในขณะที่ปัจจุบัน มนุษย์มีการศึกษาที่สูงขึ้น ดังนั้นระดับความเกรงกลัวต่ออำนาจต่างๆจึงลดลง อีกทั้งสภาพการที่ต่อเนื่องจากยุคหลังสงคราม ทำให้มนุษย์แสวงหาความต้องการทางวัตถุที่สูงขึ้น(เนื่องจากในอดีตนั้นยากแค้นนั่นเอง) จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากยุคแห่งความหวาดกลัวสู่ยุคแห่งความลุ่มหลง ซึ่งมนุษย์ในยุคนี้จึงมีแรงขับหรือความต้องการในสิ่งที่เป็น "อัตตลักษณ์" มากกว่า "ความอยู่รอด" ดังเช่นในอดีต ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าทำไมมนุษย์เราถึงยอมจ่ายแพงขึ้นสำหรับแบรนด์ เพราะมันสะท้อนความเป็นอัตตลักษณ์นั่นเอง ดังนั้นการที่บิ๊กกำลังเสียชีวิตนั้นเปรียบเสมือนภาพสะท้อนแห่งการสูญเสียอัตตลักษณ์ของกลุ่มคนบางกลุ่ม(กลุ่มแฟนคลับทั้งหลาย)นั่นเอง และการสูญเสียอัตตลัษณ์ของกลุ่มคนบางกลุ่มนั้นเสมือนหนึ่งสูญเสียสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเลยทีเดียว และในมุมมองอีกมุมมองของผมซึ่งอาจจะแปลกๆอยู่บ้างคือ ในยุคสมัยก่อนผู้มีอำนาจจะปกครองผู้ใต้อำนาจด้วย"ความกลัว"ในแสนยานุภาพ แต่ในปัจจุบันเป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้มีอำนาจกำลังเล่นเกมส์โดยที่ทำให้ผู้ที่อยู่ใต้อำนาจอยู่ใต้อำนาจด้วย"ความลุ่มหลง" ซึ่งหากเรามองย้อนไปในอดีตจะเห็นว่ากระแสคลั่งดารานั้นเกิดขึ้นหลังยุคสงครามพอดี และหนังภาพยนต์หลายๆเรื่องก็ถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง เช่น แรมโบ้ที่สร้างภาพให้คอมมิวนิสเป็นปีศาจร้ายและอเมริกาเป็นพระเอกตลอดกาล และทำไมถึงใช้ความบันเทิงเป็นอาวุธ ก็เพราะความบันเทิงนั้นผู้บริโภคไม่ได้สร้างแง่หรือBarrierที่จะสกัดสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งนี้คืออาวุธที่ดีที่สุดยิ่งกว่าอาวุธใดๆ ดังคำกล่าวที่ว่าหากคุณสามารถควบคุมมวลชนได้ คุณก็สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้ อืม...ไม่เกี่ยวกับหุ้นเลยแฮะ
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 12:02 am
โดย ปรัชญา1
RS จะเป็นไงบ้างน๊า
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 12:05 am
โดย Jeng
สมัยก่อนเคยบินไปเชียงใหม่ นานแล้ว เจ เจตริน มาในเครื่องด้วย และที่สำคัญ พระสังฆราส ก็มาในเครื่องด้วย พอเครื่อง ลง โอโห คนมายืนกรี๊ดสนั่น ประมาณ 50 คน แรกๆนึกว่ามากรี๊ดพระสังฆราส เปล่าหรอก มากรี๊ดเจ เจตริน
ก็อย่างที่เฮียปรัชญาว่าไว้ ถ้าคุณพ่อ คุณแม่บินกลับมา ใครจะมากรับ เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา
แต่ก็ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ใครทำอะไรไว้ บั้นปลายก็ได้สิ่งเหล่านั้น
ถ้าปัจจุบันยังเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องดูว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน
ขนาดพี่เองยังมีคนโทรมาถามว่า วงการแพทย์คุยกันว่าอย่างไรเรื่องบิ๊ก พี่ตอบไปว่า บิ๊กคือใคร คุณเธอบ่นเลย แหม ไม่ทันสมัยเลย ว่าเราอีก ก็เราไม่รู้จริงๆนี่ครับ
แต่ก็ดีใจกับบิ๊กนะครับ แฟนเยอะดี เกิดมาไม่เสียชาติเกิด
ขอให้ไปดี (ตอนนี้ไปล่ะยังพี่ก็ไม่ทราบ แต่ถ้าไปขอให้ไปดีครับ )
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 12:15 am
โดย ปรัชญา1
หากหมอยอมพูดความจริงออกมา
คงมีหลายคนฟังไม่ได้
เห็นแต่เพื่อนๆที่นี่เขาคุยกันว่า...
เมื่อผ่ากระโหลกออกมาแล้ว เจอเชื้อรา
ก็ต้องขูดเอาเชื้อราออก แล้วขูดออกมา
มันสมองก็ต้องถูกขูดออกมาด้วย
แล้วยาฆ่าเชื้อรา ก็มีผลข้างเคียง
มันไม่ได้ฆ่าแต่เชื้อรา มันฆ่าเซลล์สมองด้วย
ก็ยังไม่ยอมปลดอ๊อกซิเจน ไม่งั้นไม่เหลือแล้ว
ความจริง
ถึงมันจะเสียความรู้สึก
แต่เกิดเป็นคน
จะหนีความจริงพ้นหรือ?
ใครเป็นหมอ เข้ามาตอบหน่อยว่า...
ที่ผมทราบมาเป็นอย่างที่ว่าหรือเปล่า
หรือผมถูกหลอกนะ
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 14, 2003 2:24 pm
โดย เม่าน้อย
ผู้ใหญ่ผ่านโลกมามากแล้วอาจเห็นเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับเด็กบางคนนั้นอาจเป็นการสูญเสียครั้งแรก ผมว่านี่เป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่ควรจะสอนเด็กๆทั้งหลายให้เห็นถึงสัจธรรมในชีวิตนะครับ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 15, 2003 11:31 am
โดย บุคคลทั่วไป
ในฐานะคนของประชาชน...ก็ขอแสดงความเสียใจกับอาการป่วยของคุณ บิ๊กด้วยครับ
คนเยี่ยมล้นหลาม คิวยาวเหยียด การ์ดเขียนกองเป็นตั้งๆ แถมมีนกพับอีกเป็นหมื่นๆ
ขณะเดียวกัน น้าชายมัคทายกที่รักผม วัยหกสิบเศษ...
ท่าน ล้มฟาดพื้นในวัด ที่ราชบุรี จนเลือดคลั่งในสมอง ต้องนอนหลับ แบบเจ้าชายนิทรา ทุกวันนี้
หมอดูดเลือดจากสมอง ลักษณะนอนซมคล้ายคุณบิ๊ก ดีทูบี ก็ไม่เห็นมีคนสนใจมากเช่นนี้เลย
มีเพียงแค่คนในครอบครัวไปไม่กี่คนเอง
นี่แหละครับโลกของเรา!!!!
ความคลั่งไคล้ของแฟนคลับ กับการจากไปของบิ๊ก
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 15, 2003 8:40 pm
โดย นายสต็อก
Anonymous เขียน:ในฐานะคนของประชาชน...ก็ขอแสดงความเสียใจกับอาการป่วยของคุณ บิ๊กด้วยครับ
คนเยี่ยมล้นหลาม คิวยาวเหยียด การ์ดเขียนกองเป็นตั้งๆ แถมมีนกพับอีกเป็นหมื่นๆ
ขณะเดียวกัน น้าชายมัคทายกที่รักผม วัยหกสิบเศษ...
ท่าน ล้มฟาดพื้นในวัด ที่ราชบุรี จนเลือดคลั่งในสมอง ต้องนอนหลับ แบบเจ้าชายนิทรา ทุกวันนี้
หมอดูดเลือดจากสมอง ลักษณะนอนซมคล้ายคุณบิ๊ก ดีทูบี ก็ไม่เห็นมีคนสนใจมากเช่นนี้เลย
มีเพียงแค่คนในครอบครัวไปไม่กี่คนเอง
นี่แหละครับโลกของเรา!!!!
Sorry!...ลืมล็อคอิน