Thai VI

กำไรเพิ่มทุกปี หลายปีติดต่อกัน..

หลักทรัพย์ : PG
หัวข้อข่าว : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
วันที่/เวลา : 11 พ.ค. 2548 13:39:44



สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน)

สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2005 2004

กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 36,096 30,496
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.50000 0.42000



ไตรมาสล่าสุดก็เพิ่มอีกแล้ว
ไม่ทราบว่าทำธุรกิจอย่างไร
มีใครพอทราบไหมครับ..

พี่ลูกอิสาน จอมขุดหุ้นจริง ๆ

บริษัทไม่เคยได้ยินชื่อเลยแฮะ อุตสาหกรรมอะไรก็ไม่รู้

มารออ่านความเห็นท่าน อื่นๆ ครับ

ถ้าซัก 6 - 7 บาท น่าสนเหมือนกันนะ

พี่ลูกอิสาน จอมขุดหุ้นจริง ๆ

บริษัทไม่เคยได้ยินชื่อเลยแฮะ อุตสาหกรรมอะไรก็ไม่รู้

มารออ่านความเห็นท่าน อื่นๆ ครับ

บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) เริ่มธุรกิจเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปตั้งแต่ปี 2523 โดยสินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับลิขสิทธิ์ให้เป็นผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นทั้งอินเตอร์แบรนด์และเฮ้าส์แบรนด์ เช่น Arrow Lacoste Elle Arena Bsc Stream line และ St.Andrews เป็นต้น บริษัทฯ มีฐานการผลิตแห่งแรกที่กรุงเทพฯ และได้ขยายฐานการผลิตไปสู่ภูมิภาค 3 สาขา คือ ลำพูน สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ฯ กบินทร์บุรี และนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ เพื่อมีส่วนสร้างงานให้คนไทยอีกจำนวนมาก ทำธุรกิจให้มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น สนับสนุนให้ใช้ฝีมือแรงงานและเครื่องจักรไปพร้อม ๆ กัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจไทย

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในทิศทางการบริหารที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบการบริหารจัดการที่ดี เป็นระบบ และมีความชัดเจน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2547 มีอัตราการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขาย 972.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 17.34 กำไรสุทธิ 105.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 33.44 กำไรต่อหุ้น 1.47 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ร้อยละ 33.64 จากผลการดำเนินงานที่ดีและเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ คำนึงถึงผลประโยชน์และการสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติเห็นควรเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 เมษายน 2548 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลทั้งปี ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็นร้อยละ 47.58 ของกำไรสุทธิ โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2547 คิดเป็นร้อยละ 40.78 ของกำไรสุทธิ และส่วนที่เหลือจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท

โรงงานที่ลำพูนเห็นติดป้ายรับสมัครพนักงานเพิ่ม แต่ติดไว้ตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้วถึงวันนี้ก็ยังติดอยู่ :lol:

1. ปัจจัยความเสี่ยง

1. ความเสี่ยงโครงสร้างลูกค้ามีการพึ่งพาลูกค้าหรือผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่น้อยราย
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปตามคำสั่งของลูกค้า โดยมีลูกค้ารายใหญ่ในประเทศเพียงรายเดียว คือ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ มาตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2523 แล้ว ในปี 2547 มียอดสั่งซื้อสินค้าคิดเป็นร้อยละ 85.36 ของยอดขายในประเทศ และคิดเป็นร้อยละ 71.01 ของยอดขายทั้งหมด
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าลูกค้ารายนี้จะสั่งซื้อสินค้าและเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ารายนี้มาโดยตลอด ได้ร่วมกันพัฒนาธุรกิจในเชิงรุกและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อสนองตอบความต้องการและสามารถสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาผลประกอบการที่ดีในระยะยาวทั้ง 2 ฝ่าย
2. ความเสี่ยงการใช้เครื่องหมายการค้ารับอนุญาต
บริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าต่างประเทศที่เป็น International Brand จากเจ้าของเครื่องหมายการค้าโดยตรง และบางส่วนผ่านผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั้งในและต่างประเทศ
บริษัทฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของเครื่องหมายการค้ามาเป็นเวลานาน ร่วมกันพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นได้ว่าบริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อรักษา Brand Image และความน่าเชื่อถือของบริษัท
นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับบริษัทในเครือสหพัฒน์สร้างเครื่องหมายการค้าของตนเอง ภายใต้ชื่อ BSC มุ่งพัฒนาสู่อนาคตให้เป็น International Brand ซึ่งบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ผลิตชุดว่ายน้ำและเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ
3. ความเสี่ยงเกี่ยวกับ Brand Loyalty
แนวโน้มของผู้บริโภคในประเทศนิยมสินค้าที่มีแบรนด์เนม ทำให้การแข่งขันทางการค้าด้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปรุนแรงขึ้น การเปิดเสรีทางการค้าก็จะทำให้มีสินค้าแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นคู่แข่งมากขึ้นอีกทางหนึ่ง
บริษัทฯ เชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าที่ผลิตทั้งสินค้าอินเตอร์แบรนด์ และสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ มีการพัฒนาคุณภาพและสร้างความหลากหลาย สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคทั้งคุณภาพและราคาที่เหมาะสม และสร้างความรู้สึกที่ดีให้อยู่ในใจของผู้บริโภค
4. สภาพคล่องของหุ้น
เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นการถือแบบลงทุนระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไร เชื่อมั่นในความมั่นคงของบริษัท สามารถสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผล

แล้วธนูลักษณ์ล่ะคับ แบ่งงานกับประชาฯ อย่างไร

เสื้อผ้ายี่ห้อ Lacoste ทั้งหมดของ ICC ทำการตัดเย็บที่ PG นี่แหละครับ ผมคิดว่าความเสี่ยงน่าจะอยู่ที่สัญญาระหว่าง ICC กับทาง Lacoste มากกว่าครับ

บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้าชั้นนำซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสินค้าที่เป็นแบรนด์เนมและเฮ้าส์แบรนด์ของในเครือสหพัฒน์ฯ ได้จำแนกประเภทดังนี้
- ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าบุรุษ ภายใต้เครื่องหมายการค้า ARROW, LACOSTE, BSC 2001
- ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสตรี ภายใต้เครื่องหมายการค้า ARROW, LACOSTE, ST.ANDREWS
- ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก ภายใต้เครื่องหมายการค้า LACOSTE, ST.ANDREWS
- ผลิตภัณฑ์ชุดว่ายน้ำ ภายใต้เครื่องหมายการค้า STREAM LINE, ELLE, ARENA , BSC
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิต ชุดกีฬา, Tracksuit, Blazer, Jacket และชุดนอน ภายใต้เครื่องหมายการค้ารับอนุญาต และตามคำสั่งซื้อของลูกค้า

สิทธิอื่น ๆ
อายุและผลการสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ใบอนุญาต สัมปทานและสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของบริษัท
- เครื่องหมายการค้า ARROW เป็นสัญญาซึ่งทำระหว่างบริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) โดยทำสัญญาครั้งละ 5 ปี ซึ่งสัญญาจะหมดอายุในปี 2547
(โดยจะชำระค่า ROYALTY เป็นรายเดือน)
- เครื่องหมายการค้า LACOSTE เป็นสัญญาที่ทำระหว่าง บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) กับ Devanlay S.A., โดยทำสัญญาครั้งละ 3 ปี ซึ่งสัญญาจะหมดอายุในปี 2547 (โดยจะชำระค่า ROYALTY เป็นรายไตรมาส)
- เครื่องหมายการค้า ELLE เป็นสัญญาซึ่งทำระหว่าง บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) โดยทำสัญญาครั้งละ 2 ปี ซึ่งสัญญาจะหมดอายุในปี 2548 (โดยจะชำระค่า ROYALTY เป็นรายเดือน)
- เครื่องหมายการค้า BSC เป็นสัญญาซึ่งทำระหว่าง บริษัท ประชาอาภรณ์ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยทำสัญญาครั้งละ 3 ปี ซึ่งสัญญาจะหมดอายุในปี 2549
(โดยจะชำระค่า ROYALTY เป็นรายเดือน)

นำมาจาก F56 ปี 47 ครับ

ขอถามนอกเรื่องหน่อย ว่าแต่เวลาจะ post กราฟกับรูปภาพนี้ทำไงครับ

ผมชอบ icc มากกว่า กำลังรอโอกาสซื้ออยู่

แล้วธนูลักษณ์ล่ะคับ แบ่งงานกับประชาฯ อย่างไร

น่าจะเป็นบ.ร่วม นะครับ ไม่แน่ใจ

แต่ที่แน่ๆ BSC เป็น sponsor ชุดว่ายน้ำ นางงามจักรวาล ครับทั่นประธาน

ผมขาย ICC ไปแล้วครับ หุๆๆ