หน้า 1 จากทั้งหมด 1

888

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 09, 2005 6:45 pm
โดย LOSO
55

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 4:03 am
โดย ปรัชญา
อุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดพลาสติกเป็นล่ำเป็นสัน

P

พอ---สระอี

แ....อ.....ล

หรือเปล่าไม่ค่อยมั่นอก
แต่เกือบมั่นใจ :wink:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 8:42 am
โดย ch_army
ผมว่าการที่ราคาพลาสติกจะลดลงต้องมาจาก ที่ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งขึ้นกับ demand กับ supply ครับ หากแหล่งพลังงานมีมากขึ้นราคาน้ำมันก็คงลดลง แต่ demand ของพลาสติกอาจจะไม่ลดลงก็ได้ ดังนั้นราคาตลาดโลกของ พลาสติกก็อาจลดลงแต่ Volume อาจจะคงเดิมหรือสูงขึ้นก็ได้(ผมคิดเอาเองนะครับ)

แต่หากความต้องการการใช้น้ำมันหรือพลาสติกลดลง โดยที่มาจาก demand side ลดความต้องการลงล่ะก็ผมว่า ราคาก็ลง ปริมาณก็ลง พวกบริษัทสายปิโตรเคมีอาจเจ็บหนักได้ ซึ่งผมว่าการที่จะเป็นอย่างนั้น ต้องเริ่มมีการส่งสัญญาณมาจากอุตสาหกรรมปลายน้ำที่ใช้พลาสติกมาก่อนแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกรถยนต์ ท่อ etc. ซึ่งอันนี้ผมก็ไม่ค่อยทราบเท่าไรครับ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นผมว่าไม่ค่อยน่าจะมีใครที่ได้ผลประโยชน์เท่าไร เพราะเสมือนว่าเป็นการตกต่ำในวัฏจักรเศรษฐกิจของโลก ซึ่งอันนี้ผมไม่ค่อยทราบว่าช่วงนั้นธุรกิจอะไรมันจะดี

แต่หากเกิดแบบกรณีแรก พวกธุรกิจที่ต้องซื้อเม็ดพลาสติกมาทำการผลิตเป็นอย่างอื่นต่อเนื่องเนี่ยน่าจะได้เปรียบมากครับ

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 9:03 am
โดย soytee
P

พอ---สระอี

แ....อ.....ล

หรือเปล่าไม่ค่อยมั่นอก
แต่เกือบมั่นใจ
พี่ปรัชญา ถามหน่อยนึงสิ มุขนี้คิดได้ใง
:rofl: :rofl: :rofl:

Re: ถ้าคุณคิดว่าปิโตรเคมี Peakไปแล้วหรือใกล้ยอดดอย !!!!

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 9:11 am
โดย HI.ผมเอง
LOSO เขียน:คุณว่าอุตสาหกรรมไหนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากกกกกกกกก...........

จากการที่ปิโตรเคมีราคาสูงขนาดนี้ .......
พวกบมจ.ที่เป็นโฮลดิ้งคอมพานี ปิโตร ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ที่จริงแล้ว ปีที่ผ่านมายิ่งกำไรก้าวกระโดดเท่าไหร่ ปีต่อไปยิ่งลำบาก ลำพังแค่ธุรกิจปิโตรไม่ต้องถึงยอดดอยปีหน้าก็ลำบากแล้ว
ที่น่ากลัวคือ บมจ.แบบนี้มักมีมาร์เก็ตแคปสูง อาจพาราคาของตัวอื่นๆตกใจไปด้วย :lol:
LOSO เขียน:แล้วถ้าปิโตรเคมีเริ่มปรับตัวลง หรือเป็นขาลงแบบจริงจัง .............

คุณว่าอุตสาหกรรมไหนที่จะได้รับประโยชน์ทางบวกมากกกกกกกก .............

ทําให้กําไรโตแบบก้าวกระโดด .....................
คงเป็นธุรกิจที่มีต้นทุนส่วนใหญ่ เช่นเกือบ90%มาจากธุรกิจปิโตรโดยตรง แต่คงไม่ทำให้กำไรก้าวกระโดดทันทีทันใด....แต่ค่อยเป็น ค่อยไปมั๊งครับ :roll:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 9:17 am
โดย CK
อาเจ้
พี่แต๋ว

ผมเดาว่ายังไม่พีคหรอกครับ
จีนยังต้องสร้างอีกเยอะครับ

2006 expo
2008 olympics

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 9:52 am
โดย โป้ง
.......

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:21 am
โดย Mon money
ธุรกิจpackaging ที่คุณLOSOต้องการจะสื่อถึงนะ มันได้กำไรจากส่วนต่างของ Row Mat. กับสินค้าสำเร็จรูป

ดังนั้นrow mat.ลงไม่ได้หมายความว่าสินค้าสำเร็จรูปจะไม่ลง ขึ้นอยู่กับ Demand & Supply

ปัจจัยหลักที่จะทำให้ได้กำไรมากขึ้นมันอยู่ที่การบริหารต้นทุนครับ

พวกที่ตามๆกันมาใช้สติหน่อยครับ ดูปัจจัยรอบด้านดีๆ ศึกษาข้อมูลกันหน่อย

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:36 am
โดย โป้ง
......

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 12:25 pm
โดย CK
สุภาษิตจีน :: หมูจะหาม อย่าเอาคานไปสอด

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 1:06 pm
โดย ปรัชญา
soytee เขียน: พี่ปรัชญา ถามหน่อยนึงสิ มุขนี้คิดได้ใง
:rofl: :rofl: :rofl:
มุขนี้ได้มาเพราะไปดูนี่ครับ


http://www.polyplex.com/aboutus_corpovalues.htm


เห็นม้วนๆที่ตั้งไหมครับ ที่บ้านผมซื้อมาขาย
ม้วนหนึ่งจะยาว800-1,200หลา
ความหนาจะมี 80ไมครอน 100ไมครอน
หน้าม้วนกว้าง27นิ้ว จนถึง 56 นิ้วครับ
ตัวแทนที่ กทม.ต้องนำเข้า เท่าที่คุยกันผลิตที่นี่ส่งออกเป็นล็อต
แต่การสั่งซื้อกันแค่5หรือ10ม้วน ต้องไปสั่งซื้อเข้ามา


คุยกันสนุกๆครับ ผมเดาอย่างเดียว
หากไม่เล่นมุขนี้ กลต.จะจะคิดถึงผม
หากบอกว่าพีทีแอล

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 1:11 pm
โดย โป้ง
สุภาษิตจีน :: หมูจะหาม อย่าเอาคานไปสอด
ผมแค่อยากจะรู้แนวคิดเฉยๆ ไม่ได้หวังไปยุ่งเรื่องคนอื่นอะไร ถ้าไม่ถูกกาล ก็ขอลบคำถามครับ

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 3:36 pm
โดย ch_army
แหมพี่เค้าคงแซวเล่นมากกว่าครับผม

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 3:42 pm
โดย CK
อ่า ผมไม่ได้หมายความถึงที่คุณโป้งโพสต์ครับ ขออำภัยที่ไม่เคลียร์
ยังไม่ได้อ่านที่คุณโป้งโพสต์ด้วยซ้ำครับ

ผมหมายถึงพวกนักปั่นคงคิดแบบนี้ในใจเมื่อคุณมนพูดแบบนี้ ::
Mon Money เขียน:พวกที่ตามๆกันมาใช้สติหน่อยครับ ดูปัจจัยรอบด้านดีๆ ศึกษาข้อมูลกันหน่อย

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 3:45 pm
โดย CK
ปล. เดี๋ยวคุณมนกับคุณ loso เข้าใจผิดอีก ขอขยายความอีกหน่อย

คือผมกำลังจะไล่ตามเค้าไปน่ะครับ พอดีคุณมนขัดขึ้นมาซะก่อน เลยอด 555

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 4:14 pm
โดย โป้ง
สรุปไม่มีอะไรในกอไผ่

:rofl: :rofl:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 7:48 pm
โดย CEO
ก๊ากๆๆๆๆ

สรุปแล้วเป็นเรื่องตลกหรือครับ

:rofl:

ผมคิดว่า TFI ซะอีก

:lovl: :lovl: :lovl: :lovl:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:17 pm
โดย Stock Broker
Mon money เขียน:ธุรกิจpackaging ที่คุณLOSOต้องการจะสื่อถึงนะ มันได้กำไรจากส่วนต่างของ Row Mat. กับสินค้าสำเร็จรูป

ดังนั้นrow mat.ลงไม่ได้หมายความว่าสินค้าสำเร็จรูปจะไม่ลง ขึ้นอยู่กับ Demand & Supply

ปัจจัยหลักที่จะทำให้ได้กำไรมากขึ้นมันอยู่ที่การบริหารต้นทุนครับ

พวกที่ตามๆกันมาใช้สติหน่อยครับ ดูปัจจัยรอบด้านดีๆ ศึกษาข้อมูลกันหน่อย
เห็นด้วยกับท่าน Mon เต็มร้อยครับ :\/:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:20 pm
โดย Mon money
มิได้ท่านผู้พัน กระผมเพียงแค่บอกให้ใช้สติ ตรวจสอบข้อมูล มิได้กระทบกระเทียบคุณ LOSO แน่นอน :\/:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:25 pm
โดย Stock Broker
ช่วงนี้รู้สึกว่ามีหลายคนหวั่นไหวตาม "ราคาหุ้น" มากกว่า "มูลค่าหุ้น" นะครับท่าน Mon

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:34 pm
โดย Mon money
คุณFEอย่าเรียกผมว่าท่านมนเป็นอันขาด ผมอายุ 36(ยังหนุ่มแน่น แม้ผมจะน้อยไปนิด)หากไม่รังเกียจเรียกพี่หรือน้องก็ได้ตามอายุครับ

ไม่ใช่เฉพาะช่วงนี้หรอกครับ มีตลอดเวลา คนไม่รู้ว่าซื้อเพราะอะไร เพราะซื้อตามเขา มีมากมาย เวลาจะขายก็เลยงง พอราคาลงก็กลัว ผมเห็นมามาก แก้ไม่ค่อยหาย

ดังนั้น อยากรวยต้องรู้ ต้องมั่นคง มีหลักการ

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:40 pm
โดย CK
ดังนั้น อยากรวยต้องรู้ ต้องมั่นคง มีหลักการ
อา แทงใจดำ

มิน่า


เราถึงไม่รวยจั๊กกะที

ข้าน้อยขอขอบคุณท่านจอมยุทธเฒ่าสับเงาที่ช่วยขจัดความเขลา :bow:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 10:43 pm
โดย Mon money
อย่างป่าไม่รวยแล้วผมจะเรียกว่าอะไร ป๋าขา :kq:

จริงอยากจะบอกว่าอยากรวย ต้องอ่านหนังสือของผมต่างหาก อิ อิ :B

888

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 10, 2005 11:07 pm
โดย Stock Broker
Mon money เขียน:คุณFEอย่าเรียกผมว่าท่านมนเป็นอันขาด ผมอายุ 36(ยังหนุ่มแน่น แม้ผมจะน้อยไปนิด)หากไม่รังเกียจเรียกพี่หรือน้องก็ได้ตามอายุครับ
งั้นก่อนอื่น ผู้น้องขอคารวะศิษย์พี่ก่อนแล้วกันครับ พี่ Mon เพราะผมยังไม่เต็ม 33 ดี
Mon money เขียน:เวลาจะขายก็เลยงง พอราคาลงก็กลัว
โอ้... กลอนบทนี้ ช่างคล้องจอง ถูกใจยิ่งนัก

888

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 11, 2005 9:58 am
โดย VIB007
Mon money เขียน:คุณFEอย่าเรียกผมว่าท่านมนเป็นอันขาด ผมอายุ 36(ยังหนุ่มแน่น แม้ผมจะน้อยไปนิด)หากไม่รังเกียจเรียกพี่หรือน้องก็ได้ตามอายุครับ
ขอแจมหน่อย
งั้นผมขอเรียก"อามน"แล้วกันนะ
Mon money เขียน:ไม่ใช่เฉพาะช่วงนี้หรอกครับ มีตลอดเวลา คนไม่รู้ว่าซื้อเพราะอะไร เพราะซื้อตามเขา มีมากมาย เวลาจะขายก็เลยงง พอราคาลงก็กลัว ผมเห็นมามาก แก้ไม่ค่อยหาย
ถ้าดู"ราคา"อย่างเดียวก็เสร็จเจ้ามือ
ถ้าดู"มูลค่า"เป็น เจ้ามือเสร็จเรา
Mon money เขียน:ดังนั้น อยากรวยต้องรู้ ต้องมั่นคง มีหลักการ
อ้าว ไม่ใช่"อ่าก่อน รวยถาวรกว่า"ไม่ใช่หรือครับ อิ อิ

888

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 11, 2005 8:52 pm
โดย Dech
จากเคมี กลายเป็น หนังสือไปได้ จะได้ รวยถาวร ซะที

แต่แค่รวยเฉยๆ ไม่ถาวร ผมก็ยังไม่เคยเลยนะครับ :mrgreen: