Thai VI

ไม่มีใครมองบ้างเลยเหรอ

ไว้ให้ลบเหลือซัก 50 % ค่อยมองว่าดีหรือไม่ดี

อิอิ แซว IPO

เอาไว้พิสูจน์ตัวเองสัก 2-3 ไตรมาสแล้วค่อยว่ากัน

ตอนนี้ปล่อยพวกที่ให้ความสำคัญกับ "ราคาหุ้น" มากกว่า "มูลค่ากิจการ" ลุยกันไปก่อน

ผมอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ ( วันที่หุ้นเข้า trade ) บางเล่มพูดเรื่อง Siam to you เขียนว่านักวิเคราะห์มองว่าเป้าหมายอย่างโน้นอย่างนี้ แต่อ่านจบแล้วไม่ได้บอกเลยว่าบริษัททำอะไร ก็เลยงงว่าหนังสือพิมพ์เค้าคิดว่าคนอ่านคงรู้อยู่แล้ว หรือคิดว่าการเล่นหุ้น ipo วันแรกไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ว่าบริษัททำอะไร !

Invisible hand เขียน:หรือคิดว่าการเล่นหุ้น ipo วันแรกไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ว่าบริษัททำอะไร !

ใช่แล้วครับ คนที่เข้าไป "เล่นแล้วออก" ก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับว่าบริษัททำอะไร

ส่วนคนที่จะต้องมาสนใจว่าบริษัท ipo ทำอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ "เล่นแล้วพูดไม่ออก" มากกว่าครับ

ส่วนคนที่จะต้องมาสนใจว่าบริษัท ipo ทำอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ "เล่นแล้วพูดไม่ออก" มากกว่าครับ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

ไม่อยากออกความเห็นครับ เพราะกลัวผมจะพูดแรงเกินไป ....

.... อยากจะบอกว่า เพื่อนๆ อย่าไปยุ่งดีที่สุดครับ ...

ผมรู้จักบริษัทนี้ตอนไปทำข่าว สมัยเปิดตัวเว็บใหม่ๆ ผู้บริหารที่เป็นชาวสวีเดน หรือ เดนมาร์ก นี่แหละ ดูดี ดูเก่งนะ

แต่ตอนนี้มันหกปีได้แล้วมั้ง เลยไม่รู้ว่าเปลี่ยนคน และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

ผู้บริหารที่เป็นชาวสวีเดน หรือ เดนมาร์ก นี่แหละ ดูดี ดูเก่งนะ

ที่ดูภายนอกว่าดี ว่าเก่งนี่ล่ะ ต้องระวังเป็นพิเศษ

รอไปก่อน
เพราะIPO ไม่ใช่ของถูกเสมอไป
siam 2 you กิจการหลักคือ พวกring tone โปรแกรมที่ใช้กับมือถือ หน้าจอของมือถือแต่ละรุ่น
รอของถูกในตลาดจะดีกว่าไหม

ตัวธุรกิจไม่น่าสนใจครับ ความเสี่ยงสูง และฝากไว้กับอนาคตที่ไม่แน่นอนครับ มีบริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายๆอย่างนี้ ใหญ่กว่านี้ มีชื่อเสียงกว่านี้ ยังเอาตัวไม่รอดเหมือนกันครับ ต้อง divest ธุรกิจบางอย่างทิ้ง ให้พนักงานออกเป็นร้อย ผู้บริหารเป็นต่างชาติเหมือนกัน

ลองเปิดดูหนังสือโปรแกรมของ UBC รายเดือนดูสิครับ หลากหลายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจคล้ายๆ กันต่างออกมาโฆษณาสินค้าของตัวเองทั้งสิ้น แต่ทว่าดูๆ ไปแล้วผมหาข้อแตกต่างระหว่างผู้ให้บริการแต่ละแห่งยังไม่เจอเลยนะครับในแง่ของตัว Content

พวกหุ้นเข้าใหม่หลังๆนี่โหดทุกตัวครับ

วันก่อนกระทู้พี่เจ๋ง ที่ถามเกี่ยวกับ BSBM ผมพิมพ์ข้อมูลจาก หนังสือชี้ชวน อ่านแล้วหนาวดีครับ แต่พิมพ์เสร็จแล้วมือมันไปกด esc เลย ไม่ได้ตอบ

คร่าวๆ ปี 44 45 ขาดทุนเกินทุน จ่ายหนี้แบงค์ไม่ได้ od เพียบ ผู้ตรวจบัญชีไม่อาจแสดงความเห็นได้ เพราะขาดสภาพคล่อง ขาดทุนหนัก

ตอนหล้งเพิ่มทุน จาก 600 เป็น 750 และ 906 ล้าน พาร์ 1 บาท
แล้วก็มาขายหุ้นเพิ่มทุนอีก 226.5 ล้าน 3.8 บาท เอาไปจ่ายหนี้ กับเป็นเงินทุนหมุนเวียน (ส่วนใหญ่จะเขียน เอาไป ทำโน่นทำนี่ทำนั่น ที่ดูดีจริงๆ และชำระหนี้ส่วนหนึ่ง (เบี่ยงเบนความสนใจ 555))

หุ้นใหม่ๆ อย่าไปยุ่งเลยครับ ยิ่งถ้าไม่เห็นงบ ด้วยนี่ อันตรายอย่างมาก

เข็ดแล้วครับ รู้งี้ก่อนซื้อน่าจะมาถามidea ในบอร์ดนี้ก่อน
ซ ว ยเลยตู

ในฐานะกลุ่มเป้าหมายหลักของเวบพวกนี้

ผมว่า www.kapook.com โดนกว่ามั่กๆ