Thai VI

เมื่อวาน 14/11/58 ได้มีโอกาสไป company visit ของบริษัท SNC ที่ผมถือมาตั้งแต่ปี 2548 และได้ซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดที่จะขาย เพราะผมรู้จัก ดร สมชัย เป็นอย่างดี เขามีวิสัยทัศน์ยาวและไกล ผมเชื่อในความสามารถของเขา ราคาเคยสูงสุดที่ 32 บาท ในปี 2554 และปัจจุบันราคาได้ลดลงมาในระดับ 14 บาท....เขาให้ปันผลทุกปี ผมเสียโอกาสที่ไม่ได้ขายตอนราคาขึ้น เพราะเชื่อมั่นในกิจการที่เขาไปลงทุนซึ่งมีหลายบริษัท ด้วยกัน....การลงทุนใหม่ในหลายบริษัท ก่อให้เกิดการชะงักในการเติบโต เพราะ หลายบริษัทยังขาดทุนอยู่ .... การได้เยี่ยมชมงวดนี้ ได้เห็นบริษัทใหม่ล่าสุดที่พึ่งจะร่วมทุนกับญี่ปุ่น ในการทำฉนวนหุ้มท่อ เพื่อการส่งออกไปญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และ ฟิลิปปินส์ น่าจะประสบความสำเร็จเพราะญี่ปุ่นคงวิจัยไว้ดีแล้วโดยกลุ่มของ daikin....สรุปได้ว่า กิจการเขารอการเติบโตของธุรกิจใหม่ ๆ เป็นหุ้นที่ดี การบริหารดี พนักงานร่วมมือกันโดยพวก Mini MD ที่เขาสร้างขึ้นมา ลงทุนกับบริษัทที่ดีก็สบายใจครับ ต้องรอด้วยความอดทนกันต่อไป

ผม post ในร้อยคนร้อยหุ้นของ arrow ที่เขาพูดข้อเสีย 2 ข้อ คือ คนจัดซื้อที่ต่างประเทศ และ ระยะเวลาเก็บหนี้จากพวกผู้รับเหมา......ผมตอบเขาดังนี้

อยากให้บอกจุดเสียมาเรื่อย ๆ จะได้ให้คุณธานินทร์ อธิบายใน opp day คราวที่กำลังจะมา เขา จะมา opp day วันที่ 16/12/58 นี้ ผมคงไปฟังเขาตามเคย



1. เรื่องที่ปกติก็อาศัยผู้ซื้อผู้หาสินค้าและส่งให้บริษัทฯ มี 2 ราย ก็ ให้เขาแข่งขันดูว่าเป็นอย่างไร จากอดีตก็เห็นผลงานได้ว่า ต้นทุนสินค้าลดลงเรื่อย ๆ และการที่บริษัทไม่อยากไปหาเองส่วนหนึ่งเพราะมีหลายขนาดที่ต้องใช้ และ จำนวนไม่มากพอที่จะสั่งโดยตรงจากโรงงานได้ จุดนี้ก็ต้องพึ่งเขา ทางบริษัทฯ ก็มีหน้าที่เทียบราคากับราคาตลาดปัจจุบัน ถ้าแพงกว่าก็ต้องให้เขาลดให้ถูกกว่าราคาตลาดเสียอีก บางทีบางโรงงานมีสินค้าที่อยากจะขายในราคาถูก พวกเหล่านี้เขาก็หามาเสนอให้่บริษัทด้วย ลองดูต้นทุนวัตถุดิบดูซิไม่ได้แพงกว่าแต่ก่อน ๆ เลย กำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนปีก่อน 25.73% แต่ปีนี้ทำได้ถึง 32.94% ส่วนหนึ่งก็ต้นทุนเหล็กที่ราคาเหล็กตกต่ำลงมามากทีเดียว

2. ลูกหนี้ ดู ใน fact sheet ตอนนี้ การเก็บหนี้จำนวน 84.50 วัน ในขณะที่ปีก่อนการเก็บหนี้มากกว่าอีกอยู่ที่ 86.82 วัน เป็นปกติครับ ผมเคยค้าขายในลูกค้าการปล่อยเครดิตก็อยู่แถว 90 วัน ดังนั้นเรื่องนี้ผมรับได้ครับ และไปดูยอดลูกหนี้การค้า และ การชำระหนี้ ก็อยู่ในระดับปกติ ปกติ ยอดขายเพิ่มลูกหนี้ก็เพิ่มด้วย จาก 234 ล้านบาทเป็น 289 ล้านบาท มีจุดไม่ดีนิดหน่อย ในตอนทำลูกหนี้ ของเก่า และ ยอดมากกว่า 3 เดือน และ 6 เดือน ที่เพิ่มขึ้น รวมเพิ่มขึ้นอีก 5.8 ล้านบาท ผมถามส่วนนี้กับทางบัญชีเขา ก็บอกตั้งเพิ่มตามระเบียบ แต่ตั้งแต่ตั้งบริษัท มาไม่เคยตัดหนี้สูญเลย เรื่องนี้เขาคุมเข้มอยู่ พวกรับเหมาบางรายตอนนี้ก็มีปํญหาอยู่แต่ส่วนน้อยมาก เรื่องนี้ผมไม่กังวลครับ เพราะตามประวัติการคุมด้านนี้เขาเข้มงวดขึ้น เขาเคยบอกจะมีการประกันความเสียงด้านนี้แต่ยังไม่ได้ทำเพราะค่าประกันมันระดับ 10 ล้านบาทต่อปีเลย มีเกินไป ควมคุมกันเองดีกว่า

ใครมีเรื่องหรือจุดที่เห็นว่าเสียก็บอกมานะครับ จะได้ช่วยกันแก้ไข แต่ผมเห็นจุดเสียอย่างนึงนะครับ กิจการดีทั้งยอดขายและกำไร ดีที่สุดเท่าที่ทำมา แต่จุดเสียคือ ราคาหุ้นทำไมถึงตก นายตลาดท่านทำกับผมอย่างนี้ได้อย่างไร นายตลาดคิดผิดหรือเปล่าครับ ผมชักสงสัย

ขอบคุณลุงขวดมากครับสำหรับข้อมูล Arrow และไม่ทราบว่าลุงขวดได้ไปประชุม TNH รึเปล่าครับ

ไปครับเมื่อวันที่ 19/11/58 ได้ไปประชุม TNH กำไรเติบโตดี ปันผลได้เพิ่มขึ้นนิดหน่อย ผมไปฟังเพราะอยากรู้เรื่องที่ดินที่เขาได้วางมัดจำไปแล้ว ติดปัญหาการโอนเหมือนอดีต โรงพยาบาลนี้ที่สุดก็ต้องเพิ่มทุน เพราะเงินมีไม่มากพอที่จะสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่ข้าง ๆ ได้ ผมไม่สนใจที่จะซื้อเพิ่ม ผมถือมานานแล้ว แต่จำนวนไม่มากเท่าไหร่ ในส่วนหุ้นโรงพยาบาล ผมมี BDMS VIBHA และ BH ... BH เป็นหุ้นที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้ ผมได้ขายบางส่วนไปแล้ว เหลือไม่เท่าไหร่.....หุ้นโรงพยาบาลส่วนใหญ่ก็ขึ้นมาสูงพอควรแล้ว ผมไม่สนใจที่จะซื้อเพิ่ม รอขายทำกำไร เมื่อเห็นว่า มีหุ้นตัวอื่นที่ดีกว่า........ตอนนี้มองหุ้นที่พึ่งเข้ามาไม่ถึงปี อยากได้มาก ถึงแม้ระดับ PE จะ กว่า 30 เท่า ยอมซื้อแพงวันนี้แต่มันจะถูกในวันหน้าครับ ลองตามหาดูนะครับ หรืออ่านที่ผม post ไว้ข้างบนก็จะรู้ว่าหุ้นตัวไหนนะครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ

ผมpost วันนี้ในร้อยคนร้อยหุ้นเกึ่ยวกับหุ้น arrow ดังนี้

เนื่องจากติดตามตัวนี้มานาน และ ชอบในการเติบโตของเขา คราวที่แล้วผมไม่ชอบเรื่องเพิ่มทุน RO 8 ต่อ 1....คราวนี้จะเสนอเขาไม่ให้เพิ่มทุนแบบนี้อีก เพราะไม่เกิดผลดีเท่าไหร่.....จากผลประกอบการปีนี้ 2558 ถ้าได้กำไรสุทธิ 230 ล้านบาท ก็จะได้ eps 0.91 บาท ซึ่งนโยบายปันผลในระดับ 50% นั่นคือจะปันผลให้ 0.455 บาท ปันผลระหว่างกาลมาแล้ว 0.15 บาท คงเหลือที่ควรจะจ่าย 0.305 บาท ผมอยากให้เขาปันผลเป็นหุ้นในอัตราเดิม คือ 8 หุ้นเดิมได้ 1 หุ้นใหม่ ซึ่งเทียบกับ 0.125 บาท และจ่ายเงินสดอีก 0.18 บาท รวมเท่ากับ 0.305 บาท.....ไม่ให้มี RO ครับ (ไม่อยากได้หุ้นอยากได้เงินมากกว่า)......เขาก็จะจ่ายเงินออกมาประมาณ 45 ล้านบาท ซึ่งน่าจะมีเงินเหลือพอที่จะจ่าย เพราะเขามีเงินหมุนเวียนระดับ 60 ล้านบาท.....ไม่รู้เขาจะเห็นดีด้วยหรือเปล่า.....ส่วนจะเก็บเงินไว้เพื่อขยายการผลิต ท่อร้อยสายไฟลงดิน ถ้าเขาเห็นว่าต้องทำต่อ ก็ ต้องยอมเขา ในส่วนนี้ผมยังไม่เห็นการเติบโตและยังไม่เห็นอนาคตเท่าไหร่ เรื่องก็ยังไม่ผ่าน สมอ (คงผ่านเร็วๆนี้)....ถ้าเขาเห็นอนาคตก็ต้องยอมให้เขาลดการจ่ายเงินสด 0.18 บาทลง.....นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะเสนอให้ผู้บริหารเขาพิจารณา ไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร แต่ก็เป็นความหวังของผู้ถือหุ้นระยะยาวกับหุ้นตัวนี้......จึงอยากฟังความเห็นของผู้ถือหุ้นท่านอื่น ๆ ว่าคิดอย่างไร.....ส่วนนักเก็งกำไร กรุณาไม่ต้องออกความเห็นนะครับ จะเสียพื้นที่ในกระทู้นี้เสียเปล่า .....ความฝันของผมจะเป็นจริงหรือเปล่าหนอ ต้องติดตามกันต่อไป

เรียนถามมุมมองหุ้นDemco จากลุงขวดตอนนี้ค่ะ

เป็นหุ้นดีและมีกำไรทุกไตรมาสมาเจอขาดทุนย่อยยับในไตรมาสหลังสุดทั้งๆที่เหตุเกิดฐานกังหันลมมีปัญหาตั้งแต่ปี2556. วันประกาศขาดทุนผมยอมแพ้เลยครับขายไปครึ่งหนึ่ง. และอีกครึ่งยอมถือไว้ทนต่อไป ถ้าขึ้นมาอีกรอบก็จะขายเพราะถือว่าธรรมาภิบาลน้อยลงมาก. แถมยังไม่รู้ว่าเรื่องจะจบเมื่อไร. warrant 6 ปีหน้าก็คงไม่มีคนแปลง. ผมยังไม่ได้ฟัง. opp day ล่าสุดเลยครับ. ตอนนี้คิดได้เพียงเท่านี้ส่วนคุณประพีย์และคุณสวาสดิ์ซื้อหุ้นก็ไม่ได้ทำให้ผมมั่นใจเลยครับว่าเป็นหุ้นที่ถูกแล้ว. หุ้นตัวนี้ทำให้ผมผิดหวังและขาดทุนตัวหนึ่ง.

ฟัง opp day ยังติดปัญหาเรื่องซ่อมฐานที่ต้องปรับปรุงถึงกลางปีหน้าเลย แถมไม่ยอม่ตอบเรื่องที่ต้องชดเชยในส่วนของหยุดซ่อมอีก ปัญหาคงทำให้กำไรลดลงมากพอควร ... สรุปรอปลายปีหน้าคิดอีกทีว่าจะลงทุนกับเขาไหม ช่วงนี้อีกครึ่งนึงที่ผมมีอยู่ก็คงต้องยอมขาดทุนอีกเป็นแน่เลย หุ้นที่ถ่วงผมในการลงทุนปี นี้

เมื่อวันที่ 25/12/2558 ได้มีโอกาสไปประชุมวิสามัญของบริษัท CMO โดยหลักใหญ่คือการเพิ่มทุนให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ในราคา 1.65 บาท ...คุณเสริมคุณ บอกว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังแย่อยู่ แต่ยังต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจ event นี้ ก็ต้องดำรงยอดขายให้คงอยู่และเพิ่มขึ้นจะเห็นได้ว่า เขามียอดขายที่ พันล้านเศษ ๆ มา 3 ปีแล้ว เมื่อต้องการยอดขายก็ต้องรับสภาพกับต้นทุนขายที่คงอยู่และเพิ่มขึ้นทำให้เกิดผลขาดทุนในปี 57 และ 9เดือนในปี 58 นี้ เขาไม่ได้แจ้งว่าในไตรมาสนี้จะเป็นอย่างไร มีเพียงบอกว่ามีงาน countdown มากกว่าปีก่อนมากทีเดียว จากอดีตไตรมาสสุดท้ายเป็นตัวตัดสินของกิจการว่าจะเป็นอย่างไร ยอดขายคงได้พันล้านเศษ เหมือนเดิมแต่จะฉุดให้กำไรหรือขาดทุนก็ต้องติดตามดูกันต่อไป ส่วนการเพิ่มทุนที่ 1.65 บาท เขาจะขึ้น XR วันที่ 11/1/59 ส่วนจะจ่ายเงินกันวันไหนก็รอพิจารณาอีกทีหนึ่ง แต่ที่แน่ ๆ เขาก็ต้องราคาหุ้นไปยืนแถว 2 บาท ก็จะมีการเพิ่มทุน ส่วนจะยืนที่ 2 บาทได้ก็ต้องมีผลการดำเนินงานที่ดี หรือ มีข่าวดีมากระตุ้นให้นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรมาลงทุนในหุ้นนี้ (ผมไม่ได้คิดลงทุนยาวในหุ้นตัวนี้ ลงทุนแบบเก็งกำไรมากกว่า สนุกกับการลงทุนเท่านั้นเอง) งบการเงินยังแย่อยู่เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง มีงานปีใหม่ที่เขาจะทำเพิ่มเป็นงาน ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เป็นศูนย์การบันเทิง ที่ ถนนพระรามเก้า ร่วมกับ Show Asset Management Co.Ltd. จัดโรงละคร โดยเริ่มที่ละคร CMO Show ในเรื่อง "หิมพานต์ อวตาร" คงเสร็จกลางปีหน้า ร่วมทุนกัน 50%.....จะเห็นว่า เขาพยายามปรับตัวเองให้มีกิจกรรมต่อเนื่อง อยู่เรื่อย ๆ เช่นปีนี้ก็มีการเปิด playground ที่ em district ซึ่งเขาบอกว่าได้รายได้เดือนละ 3-5 ล้าน ลงทุนไป 50 ล้านได้ ถ้าได้ดังที่คุยไว้ปีเศษก็จะคืนทุน แต่ก็จะได้หรือเปล่า ก็ต้องตามกันดูต่อไป แต่ผมว่าดีนะครับ เพราะเป็นแหล่งให้เด็ก ๆ ได้ พัฒนาระดับสมองและได้เล่นไปด้วย .....ดูเห็นความพยายามของเขา แต่จะสำเร็จหรือเปล่านี่คือปัญหา....บรรยากาศการประชุมไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมีผู้ถือหุ้นผู้หนึ่งโจมตีบริษัทฯ และออกเสียงคัดค้านทุกวาระ คิดว่าคงติดหุ้นตัวนี้ในราคาแพงเป็นแน่ ผมเข้าไปฟังเพราะอยากติดตามและพยายามเข้าใจบริษัทและผู้บริหาร ทุกบริษัทฯ ก็มีปัญหาในยามเศรษฐกิจถดถอย แต่จะเอาตัวรอดได้อย่างไรเมื่องบการเงินยังมีปัญหา ก็ต้องหาเงินมาเพิ่มทุน และผู้ที่จะเพิ่มทุนจะหวังได้อย่างไรเมื่อเอาเงินไปใช้แล้วจะให้ผลตอบแทนกลับมาได้....นี่แหละครับชีวิตผู้ถือหุ้นในยามเศรษฐกิจถดถอยอยู่....สู้กันต่อไปนะครับ

การลงทุนปีใหม่นี้ลำบากขึ้นมากทีเดียว เห็นเด่นชัดก็กลุ่มโรงพยาบาลและขนส่ง ที่ขยับขึ้นได้ดี ในกลุ่มของ petro ผมก็ว่าได้ผลประโยชน์จากน้ำมันลดลงได้เช่นกัน ทาง TPA ก็ได้ผลประโยชน์ ผมเคยบอกว่า สมบัติเปลี่ยนกันชม ยอมรับครับ ผมติดหุ้นตัวนี้มา 3 ปีได้ แต่ในที่สุดก็สามารถหลุดได้เพราะมีคนมาลากถึงราคา 13 บาท นับว่าสูงพอควร มีการออกข่าวว่ามีผู้สนใจมาซื้อกิจการ บริษัทปฏิเสธข่าวถึง 2 ครั้ง ราคาก็ยังขึ้นอีก และในที่สุดก็ตกลงมาในระดับที่เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ผมเข้าใจบริษัทนี้ดี สิ่งที่ดีคือต้นทุนที่ลดลงและการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้กำไร 2 ไตรมาสหลัง อยู่ในระดับ 21.4 และ 23.2 ล้านบาท แสดงว่าช่วงนี้กำไรจะได้อยู่ในระดับนี้อีกหลายไตรมาส ถ้าเงินบาทอ่อนเขาจะเน้นการส่งออกให้มากขึ้น ช่วงนี้เห็นว่าไปหาลูกค้าต่างประเทศ คงเพิ่มในส่วนนี้อีก ถ้าในปีใหม่นี้ทำได้แถว 100 ล้านบาท (กำไรสุทธิ) ก็จะได้ eps แถว 0.82 บาท ปกติเขาปันผลระดับ 75% ก็จะได้สัก 0.615 บาท ราคาปัจจุบัน 7.35 บาท ก็จะได้ปันผล 8.36% นับว่าดีนะครับ.....งบการเงินของเขาดี แต่ผู้ถือหุ้นทางอังกฤษ อาจต้องการขายหุ้นก็เป็นไปได้ หลายปีก่อนตอนผมซื้อสะสม ทาง Eastasiatic ได้ลดการถือครอง....แต่งวดนี้ที่ขึ้นมาไม่รู้ว่าทางนี้ที่ถือ 1.6 ล้านหุ้นจะขายออกมาบ้างหรือเปล่าไม่ทราบได้ ....สินค้าของเขาขายในส่วนของสุขภัณท์และอุปกรณ์รถยนต์ คู่แข่งมีบ้างแต่ไม่มาก มีทรัพย์สินที่ดินว่างเปล่าที่คิดว่าจะขายแต่ก็ยังไม่ขายสักที ผมเลยคิดว่า เหมาะแก่การลงทุนอีกครั้งหนึ่ง การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ ลองช่วยกันวิเคราะห์อีกทีหนึ่งด้วย

Baby Boomers ชีวิตคนยุคนี้ เริ่มต้องใช้บริการรักษาสุขภาพ ต่างประเทศมี กองทุน health care มากและมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจเริ่มถดถอยไม่มีการเติบโตเท่าไหร่ กองทุนประเภทนี้ก็ตกตามเหมือนกัน มาดูการลงทุนในตลาดหุ้นเรา ก็มีแค่หุ้นโรงพยาบาลที่มีการกำไรและเติบโตได้ดีตลอด ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงพยาบาลแทบจะไม่มี และมีกิจการผลิตยาก็เพียงบริษัทเดียวเท่านั้น ในความคิดของผมหุ้นเหล่านี้เหมาะกับการลงทุนยาวและน่าปลอดภัยมากทีเดียว เสียแต่ส่วนใหญ่จะให้ DY อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลต่ำมาก ไม่เกิน 2% แต่ก็ยังมีหุ้นโรงพยาบาลบางตัวที่มี PE ต่ำ ราคาหุ้นยังไม่สูงเท่าไหร่ ที่ยังน่าสนใจอยู่ โรงพยาบาลที่มากสุดและควบรวมที่อยู่ต่างจังหวัดด้วย ก็มีความมั่นคงดี แต่ราคาก็ขยับแบบเต่า บางโรงพยาบาลก็เน้นส่วนใหญ่ลูกค้าต่างประเทศ ก็ มีการขยายตัวได้ดี และมีที่เล็ก ๆ เริ่มเปิดตัวโดยมา opp day ทำให้นักลงทุนได้เข้าใจกิจการได้ดี (ผมถือตัวนี้มานานไม่เคยไป AGM เลยได้รู้ว่าเขามีการลงทุนอีกหลายแห่งรวมทั้งกิจการอุปกรณ์แพทย์ด้วย) และมีโรงพยาบาลเล็กมาก แต่ผมก็ได้โอกาสไป AGM ทุกปีเพราะปิดบัญชีไม่เหมือนกับเขา หุ้นเหล่านี้ในความคิดของผมเป็นหุ้นมั่นคงและเติบโตตลอด ตราบใดที่คนสูงวัย baby boomers มากขึ้นก็ย่อมต้องใช้บริการ ไม่สามารถจะหลีกหนีได้ ฉะนั้นก็ต้องเติบโตไปด้วย ประเทศไทยอัตราส่วนคนสูงวัยมากขึ้นเรื่อย ๆ และชีวิตเฉลี่ยของประเทศก็ขยับขึ้นอีก ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน ชีวิตเคยต่อสู้มามากแล้ว ช่วงนี้ก็ต้องรักษาสุขภาพและใช้เงินทำงาน หาความสุขในการท่องเที่ยว แต่ก็ยังสนุกกับการลงทุนเพราะจะได้ใช้สมองไม่ให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ครับ ขอให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ สนุกกับการลงทุนด้วยนะครับ

ดอกเบี้ยจากเงินฝาก ตราสารหนี้ พวกนี้อยู่แถว 2% จะทำอย่างไรกับชีวิตดี เงินเฟ้อก็แถวนี้ ชีวิตเริ่มลำบากขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐกิจโลกก็เริ่มถดถอย ลง....สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือขยันทำงานเพื่อหารายได้เพิ่ม อดออมเท่าที่จะทำได้.....ปีใหม่ผมว่า ผลตอบแทนกับการลงทุนใครได้แถวกว่า 10% ก็นับว่าเก่งแล้ว ปีนี้ผมคงได้ผลตอบแทนจากปันผลระดับ 4.5% เท่านั้น ก่อนหน้านี้อยู่ระดับ 6% .....ปันผลและtrading ผมอยากจะได้สัก 15%สำหรับปีใหม่นี้ จึงต้องทำ trading ให้ได้อีก 9.5% โดยเอาหุ้นที่มีมาเล่นรอบ หรือ เล่นหุ้นเก็งกำไรเพิ่มขึ้น (ผมไม่สันทัดในการเก็งกำไร เริ่มหัดโดยเอากราฟเทคนิคมาช่วย).....งานผมปีนี้คือต้องหาหุ้นที่ให้ปันผลแน่นอน 4.5% ขึ้นไป และ มีราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น เพื่อทำกำไรมาถึงระดับที่ควรจะเป็นให้ได้......การหา valuation ของหุ้น ผมไม่เก่งพอและไม่อยากจะเรียนเพิ่มแล้ว ผมหาง่าย ๆ ตัวไหนต่ำกว่า บุค ก็ควรจะเริ่มศึกษาได้....ช่วงนี้มีหุ้นธนาคารใหญ่และธนาคารขนาดเล็กอีกตัวที่ให้ปันผล ระดับ 4.5% ผมจึงคิดว่าถึงเวลาที่จะเริ่มสะสมได้แล้ว เพราะอย่างไรก็ให้ปันผลดี มากกว่า เงินฝากและตราสารหนี้้ แถมซื้อต่ำกว่าบุคอีก ธนาคารถึงแม้จะมีความเสี่ยงเรื่อง NPL ที่จะมากขึ้นเพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่ไม่มีทางขาดทุนแน่นอน เพราะธนาคารทุกแห่งที่ผ่านวิกฤตมาได้ ก็ นับว่าสุดยอดแล้วครับ.....ลองศึกษาตามนะครับ นี่คือความคิดของผมเท่านั้นเอง โชคดีในการลงทุนด้วยครับ

ลุงขวด ขยันไปประชุมผู้ถือหุ้นจังครับ ปีนี้ถ้าไปอีก กลับมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ
ขอบคุณลุงขวดครับ

เมื่อวานได้มีโอกาสเดินทางไปประชุมหุ้น AOT ที่โรงแรม novotel สุวรรณภูมิ...มีการแนบบัตรรถไฟฟ้า airport link ฟรีไปกลับสุวรรณภูมิเลย ...ผมได้นั่งเป็นครั้งที่ 2 ดูแลเส้นทางนี้คนต่างชาติพวก back pack ใช้มากทีเดียวและพวกเราที่ทำงานระหว่างทางที่ไป มีการเชื่อมต่อ BEM ที่สถานีมักกะสัน และ เชื่อมต่อ BTS ที่พญาไท ระบบขนส่งของชาติเริ่มค่อย ๆ เชื่อมต่อกันเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว ......ดีครับ ในอนาคตคงมาใช้ระบบขนส่งมวลชนกันมากขึ้น ดังนั้นหุ้น BEM ในอนาคตน่าจะดีไม่แพ้ทาง BTS เลยนะครับ (จะพูดถึง AOT แต่เวะไปหุ้น BEM).

การประชุม AOT ก็เป็นไปได้ดีพอควร ดูแล้วมีการเติบโต เนื้อที่ 2 พันไร่ นับว่ากว้างใหญ่มาก ....เตรียมใช้ในโครงการระยะ 2 แล้วตอนนี้ที่ใช้กันอยู่ก็แออัดพอควร มีการชะลอโครงการ 2 เป็นผลดีเพราะราคาต่อสร้างลดลง เขามีการแสดงแบบจำลองของ ระยะ 2 ให้ดู ดูแล้วน่าจะประหยัดพอควร อนาคตถ้ายังมีการเติบโตในด้านการท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้กิจการโตตามไปด้วย ในส่วนของการบิน aeronautical revenue มีในอัตรา 59% แต่ส่วนของ ไม่เกี่ยวกับการบินมีการเติบโตดี ทำได้ในอัตรา 41%....ดูแล้วกิจการดี ถึงแม้จะต้องสร้างสนามบินระยะ 2 ก็ไม่น่าจะกระเทือนถึงการเงินที่มีอยู่....เขามีสนามบินที่ดูแลที่ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และ เชียงราย... ผมชอบและคงถือยาวไปเรื่อย ๆ

พวกเราจะอยู่กลุ่ม Pickup Boring stock ไม๊ครับ

http://www.bloomberg.com/news/articles/ ... 22-billion

ยินดีกับผลการดำเนินงานของ SNC ประจำปี 58 ด้วยครับ ที่กิจการกลับมาโตขึ้นเรื่อย ๆ พยายามหน่อยนะครับ เห็นมีการเพิ่มทุนในบริษัทย่อย scan ที่เป็นตัวฉุด การเพิ่มทุนคงเห็นกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น air aluminium coil น่าจะเริ่มเป็นที่ยอมรับกันแล้ว ถ้าราคาถูกลงถึงแม้แต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะหลัง ๆ นี้ แอร์ใช้กันแค่ 5 ปี ก็นับว่าคุ้มแล้ว และรุ่นใหม่ ๆ ขนาดเล็กกว่า และ กินไฟ น้อยกว่า ด้วย พัฒนากันต่อไปนะครับ ผมกลัวอย่างเดียวกลัวแอร์เกาหลีเท่านั้นเอง ส่วน แอร์ญี่ปุ่นที่เราร่วมกันพัฒนา ก็ต้องหนีไปอีกขึ้นหนึ่งให้ได้นะ ไม่งั้นก็จะลำบาก ผมดูการพัฒนาของชนชาติเกาหลีแล้วเป็นห่วงประเทศเราและญี่ปุ่นมากทีเดียว ในเวียตนามผมว่า sumsung and LG ไปที่นั่นมากทีเดียว อาจเรียกได้ว่าเมือง SUMSUNG ก็ได้ ไปไหนมีแต่ป้ายของพวกนี้ประจำ เครื่องใช้ไฟฟ้าง่าย ๆ ก็ไปที่นั่นกันหมดแล้ว กลัวแต่ แอร์ของญี่ปุ่นจะตามไปด้วยซิ เราจะแย่ แต่ผมเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า แอร์ญี่ปุ่นน่าจะอยู่กับเมืองไทย เพราะมีนวัตกรรมที่สูงกว่าหน่อย ผมเชื่อในคนของ snc โดยเฉพาะ scan ที่จะพัฒนาร่วมกับญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งในโลกเลย ถ้าได้เป้าหมายนี้รับรองว่าบริษัทฯ เราไปโลดเป็นแน่ ผมเชื่อในความสามารถของ ดร. สมชัย ที่มีความมุมานะ ตั้งใจทำงานจริง ๆ เป้าหมายที่คุยกันว่า 3 4 5 คือปี 57 ได้ 300 ล้าน...ปี 58 ได้ 400 ล้าน และปีนี้59 ขอให้ได้ 500 ล้าน ด้วยนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ

เมื่อวาน 5/2/59 ได้มีโอกาสไปประชุมวิสามัญหุ้น fancy โดยสรุป วาระทุกอย่างก็ได้ผ่านไปด้วยดี ผมถือโอกาสถามอยู่ 3 ข้อ คือ
1. เรื่องสนามกอล์ฟที่ไปซื้อมา ฟังแล้วก็คงยังไม่มีกำไรแน่นอน ผมบอกและชี้แนะว่าทางทำกำไรก็คงเมื่อมีคนมาซื้อในราคาสูงกว่าทุนของเราเท่านั้น ทางผู้บริหารก็บอกนั่นเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง
2. เรื่องงานเดิมไม้ยางพารา ก็มีการซื้อเครื่องจักรมาเพิ่ม และได้มีปัญหากับการส่งออกไปยูโรป เดิมทำค่อนข้างลำบากเพราะมีการต่อต้านการตัดไม้ ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นนแล้ว ยังไม่กำไรเท่าไหร่เพราะมีการหักค่าเสื่อมเครื่องจักร และ อื่น ๆ อีก ก็คงลำบากกันต่อไป
3. ในอนาคตปี 59 จะมีทางกำไรไหม เพราะผมเห็นแน่นอนแล้วปี 58 ขาดทุนอยู่แล้ว ถามความมั่นใจของผู้บริหาร ก็ไม่ยอมบอกถึงความมั่นใจว่ากี่เปอร์เซ็นต์ แสดงว่า ยังมีความเสี่ยงอีกหลายข้อที่เรายังมองไม่เห็น ก็ต้องติดตามกันต่อไป

เรื่องซื้อ PP land และที่สุด เขาจะมีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเอาทรัพย์สินที่มีมาแลกเป็นหุ้นของเราที่ราคา 2.16 บาท เรื่องนี้ก็เป็นการเปลี่ยนกิจการจากเดิมหันมาเน้นทางอสังหาฯ มีโครงการต่าง ๆ มีที่ดินที่จะเตรียมพัฒนาอีก เขาว่ามีการเอาพนักงานทาง PP land ที่ชำนาญทางด้านอสังหาฯ มาช่วยด้วย ดู ดู แล้วเหมือนกับการ backdoor listing จะมีการตั้งบริษัทย่อยในส่วนนี้ เป็น fancy asset จะมีใครอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ หรือ เป็นความสามารถของผู้บริหาร ก็ต้องตามดูกันต่อไปนะ

ผมกับคุณวิชัย รู้จักกันดี เขาเคยได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมได้เพียงบอกให้เขาใช้ความสามารถที่มีอยู่ นำ fancy ให้กลับไปเหมือนเดิน แต่ งานนี้เขาจะทำได้หรือไม่ก็ยังเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน ได้แต่ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้นและอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง ก็จะนำบริษัทฯ ให้เจริญได้ ใครจะลงทุนในหุ้นตัวนี้ก็ติดตามกันต่อไป อนาคตอีกปีสองปี ก็จะรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขณะนี้ผมถือหุ้นน้อยมาก เพียงเพื่อไปติดตามเท่านั้นเอง (แต่ไม่ใช่ 1 หรือ 2 หุ้นแบบที่เขาทำกันเพื่อไปประชุมและทานกาแฟกันนะ แฮะๆ แซวนิดหน่อยกับอาซิ้มและอาแปะที่เจออยู่บ่อยๆ พวกนี้กำไรตลอด แถมบางบริษัท แจกของชำร่วย และพา เที่ยวฟรีอีกด้วย)

เรื่องหุ้น TNH ที่วันนี้ขึ้นมามากทีเดียว ทำราคาสูงสุดแล้ว ......มาสรุป ปัญหาที่ดินที่อยู่ข้าง ๆ จบเรื่องแล้ว ตอนนี้เป็นที่จอดรถอยู่ ต่อไป ก็ คงสร้าง รพ ขยายมาข้าง ๆ นี่แหละ.....ส่วนสัญญากับสภากาชาด ก็ จะหมดในปี 61... สัญญาเดิมบอกให้ต่อไป 5 ปี แต่ คิดว่า เขาคงขอทำสัญญาให้ยาวกว่านั้น.... การลงทุนต้องจ่ายค่าที่ดินที่เหลืออันดับแรก อันดับต่อไป ก็ จ่ายค่าสัญญาใหม่ในปี 2561 และ ต่อไปอีก ก็ คือ การสร้าง รพ ข้าง ๆ.....แต่เท่าที่ไปประชุมมาหลายปี เคยพูดเรื่องนี้ เจ้าของก็บอกว่า จะให้ ผู้ถือหุ้นกระทบน้อยที่สุด และให้ประโยชน์มากที่สุด ก็ คอยติดตามกันต่อไปครับ ยินดีกับผู้ถือหุ้นด้วย เมื่อเห็นอนาคตที่สว่างขึ้น ผมชื่นชมในการจัดประชุม เพราะ เขาให้หมอ นรินทร์ มาอธิบายเรื่องหัวใจ ด้วยเครื่องมือใหม่ล่าสุด ทราบว่าดีกว่าทาง บำรุงราษฏร์อีกด้วย และ เราจะคุมบริเวณนี้ในการบริการเรื่อง โรค หัวใจ.......หัวใจเจ็บหนัก แก้ไขได้ แต่ เจ็บหุ้นตอนนี้ซิ ลำบาก ต้องพาตัวให้รอดให้ได้นะครับ

นับถือลุงขวดจริงๆครับ ที่ยังถือ FANCY อยู่จนถึงเดี๋ยวนี้ ส่วน SNC นั้นผมก็ว่ากำไรก็ไม่ขี้เหร่เท่าไร แต่ทำไมมีคนตั้งขายตลอด เลยไม่ขึ้นไปไหนสักที เห็นวนเวียนอยู่แถวนี้นานแล้ว

tt เขียน:นับถือลุงขวดจริงๆครับ ที่ยังถือ FANCY อยู่จนถึงเดี๋ยวนี้ ส่วน SNC นั้นผมก็ว่ากำไรก็ไม่ขี้เหร่เท่าไร แต่ทำไมมีคนตั้งขายตลอด เลยไม่ขึ้นไปไหนสักที เห็นวนเวียนอยู่แถวนี้นานแล้ว

รอผลงานการเปลี่ยนกิจการของเขาดีกว่าครับ ไม่รู้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ บริษัทฯ เคยมีเงินเหลือ แต่ตอนนี้กลายเป็นต้องกู้เงินจากธนาคารมาซื้อทรัพย์สินจาก PP Land จะเอาตัวรอดไหมหนอ ?????? ยังสงสัยอยู่ครับ

วันนี้ 20/2/59 ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานของ SNC ที่ระยอง ผมเคยไปแล้ว น่าจะมากกว่า 5 ปี มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปมากทีเดียว ผมเริ่มเข้าใจกิจการในส่วนของที่เขาไปลงทุนใหม่ ๆ อีก หลายบริษัท ได้ชมโรงงาน SCAN ที่ยังมีปัญหาเป็นตัวฉุดกิจการอยู่ตอนนี้ ได้เข้าใจถึง aluminium coil ที่เขาพัฒนามาใช้ในแอร์บ้าน เห็นโครงการที่ต้องใช้ในการเพิ่มทุน scan อีก 200 ล้าน เพราะต้องขยายพื้นที่ทำงานเตรียมการเติบโตในส่วนนี้อีก ในส่วนนี้มีการเพิ่มทำ hose รถยนต์ น่าจะช่วยให้ scan ขาดทุนน้อยลง โดยสรุปดูแล้ว เขาเพิ่มด้านอุตสาหกรรมรถยนต์มากขึ้น ผมก็เชื่อมั่นว่า กิจการอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับ SNC.....ส่วนกิจการแอร์ก็คงจะยังมีกำไรเหมือนเดิม เพราะได้งานต้นน้ำในการผลิตแอร์...ส่วนในการการร่วมทุนทำ heat pump และ heater กับฝรั่งเศษก็เติบโตไปด้วยดี....พนักงานต่าง ๆ ก็ ขยันและตั้งใจทำงานกันทุกคน โรงงานมีระเบียบ เรียบร้อยมากทีเดียว.....และได้เห็นเขาใช้ที่ดินว่าง ๆ ปลูก strawberry ซึ่งได้ผลดีและมีรสชาตอร่อย มากทีเดียว ให้พนักงานและผู้เยี่ยมชมได้ชิมกัน ไม่คิดว่า strawberry จะปลูกได้ที่ระยอง

ผมเชื่อมั่นในกิจการของเขาเพิ่มขึ้นมากทีเดียว และก็คงค่อย ๆ ขยับโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี

ผมถือหุ้นตัวนี้มาน่าจะครบรอบ 10 ปีแล้ว ยอมรับผมเสียโอกาสไม่ได้ขายไปบ้างในตอนที่ราคาหุ้นขยับไปสูง ๆ เพราะ มั่นใจในการก้าวกระโดด ได้แน่ เหมือนได้แต่งงานกับหุ้นตัวนี้ไปแล้ว ซึ่งเป็นการผิดพลาดเหมือนกัน เพราะเขาไม่สามารก้าวกระโดดไปแบบที่คิดไว้ จึงเป็นบทเรียนมา เวลาจะลงทุนหุ้นให้ถือหุ้นเป็นแฟนเท่านั้น ห้ามแต่งงานด้วย... ยอมครับเมื่อแต่งงานกับหุ้นตัวนี้แล้วก็ต้องรักกันต่อไป จนกว่าจะเบื่อ หรือ เห็นว่า เขาไม่ขยันแล้ว ก็ ค่อยขอ หย่า กันภายหลัง....แต่ดูถึงผลตอบแทนด้านเงินปันผลก็ให้ได้ดีพอควร แถมการบริหารเงินของเขา สามารถทำให้ cash cycle ติบลบได้นับว่าเก่งทีเดียว ก็คงรักกันตราบชั่วนิรันดร เป็นแน่

วันนี้ผมเขียนเกี่ยวกับ arrow ดังนี้

แฮะ แฮะ งวดนี้ผมชอบนะครับ ที่เขาจ่ายปันผลเป็นเงินสด ให้มากกว่าที่ผมคาดด้วยครับ ... ช่วงนี้หุ้นตกมากทีเดียว อยากมีเงินสดมาซื้อหุ้นยามตกเช่นนี้ .... ถ้าเขาปันผลเป็นหุ้น ผมก็จำต้องมีหุ้น arrow เพิ่มอีก แถมยังต้องลุ้นให้เขาทำกิจการกำไรให้มากกว่า หุ้นที่ต้องเพิ่มทุนอีกด้วย......สำหรับ arrow ผมว่าเขาต้องปันผลเป็นหุ้นให้อีก ให้อยู่ในระดับทุนจดทะเบียนสัก 300 ล้านบาทเป็นแน่ (ตอนนี้ทุนจดทะเบียน 251 ล้านบาท) และจะได้ขอย้ายเข้าอยู่ในตลาด SET ซึ่งจะมีนักลงทุนรายใหญ่ ๆ และ สถาบันสนใจกัน หุ้น arrow ตอนนี้มีเงินมากพอควร อาจจะเรียกได้เป็น cash company เพราะหนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้สัญญาเช่าซื้อรถ ซึ่งเขาเคยทำไว้ และคงไม่อยากจะเปลี่ยนให้ยุ่งยาก....หุ้นในตลาดตอนนี้มีหุ้นน่าลงทุนมากทีเดียว โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่ให้ผลตอบแทน 4-6% บางธนาคารก็ต่ำกว่าบุคให้เห็นเสียอีก....ปันผลของ arrow จะเข้าวันที่ 19/5/59 ผมก็จะมีเงินที่จะซื้อหุ้นต่อได้ในช่วงนั้น ถ้าหุ้นธนาคารที่ผมเล็งอยู่ยังอยู่ต่ำก็ขอเป็นเจ้าของธนาคารของเขาด้วย แต่ถ้าเมื่อถึงวันที่ 19/5/59 ราคาหุ้น arrow ไม่ไปไหน ก็ ขอซื้อหุ้นเขาเพิ่มก็ได้ ไม่ต้องโดนบังคับให้ arrow โดยวิธีหุ้นปันผล....ผมคิดของผมแบบนี้นะครับ ขอแถม ใครมีหุ้นที่มีอัตราส่วนทางการเงินแข็งแกร่งแบบหุ้นของ arrow ก็บอกด้วยนะครับ ... arrow สามารถทำการเติบโตตั้งแต่เข้าตลาดเพิ่มทุกปีทั้งยอดขายและกำไรในอัตรา 15-20% ผมอยากหาหุ้นเช่นนี้เหลือเกินใครเห็นว่ามีก็บอกด้วย...... แล้วเจอกันใน opp day 23/2/59 ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ ซึ่งผมยังไม่เคยไปเลย โชคดีในการลงทุนด้วยนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยงอย่าเชื่อผมทุกอย่าง เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจโลกเริ่มไม่ดี หุ้นผันผวน มากทีเดียว เลือกหุ้นต้องระวังกันด้วย (แต่ถ้าเข้าใจกิจการ เข้าใจเจ้าของ และ มีงบการเงินแบบ arrow แล้ว อยู่รอดแน่)

ARROW ผมติดอยู่อย่างเดียวคือกำไรที่เพิ่มเยอะๆนี่มันมาจากราคาเหล็กที่ลดลง ผมเกรงว่าวันไหนที่ราคาเหล็กขึ้น
บริษัทจะเหนื่อย ผมไม่ค่อยชอบบริษัทที่กำไรผูกอยู่กับราคาวัตถุดิบมาก มันเหมือนมีบางอย่างที่เราไม่รู้ ผมชอบบริษัทที่ยอดขายเพิ่ม กำไรเพิ่มตามปกติมากกว่า ส่วน SNC นั้น ผมก็เชื่อนะครับว่าวันนึงจะต้องกลับมา ผมลองคิดดูว่าถ้าบริษัท
ใหม่ๆเค้า break even เมื่อไร แล้วกลับมาจ่ายปันผล 100 % ราคาจะเป็นไง แต่ตอนนี้ต้องยอมอดทนไปก่อน 555 หวังว่าจะมีวันนั้นครับ

ก็ต้องยอมรับความจริง ปี 2558 กำไรเพิ่มมากจากต้นทุนสินค้าที่ถูกลง ซึ่งคิดเคร่า ๆ ก็ 5-6% (บางส่วนต้องหักค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง ทาง arrow ก็เสียประโยชน์ในส่วนนี้เพราะสินค้าต้องนำเข้าส่วนใหญ่) ถ้าหักส่วนนี้ออก แล้ว เราพอใจในกำไรที่เขาได้ ก็จะกลัวไปใย กับการลงทุน.... หุ้นตัวนี้ผมลงทุนแบบไม่กลัวเลยครับ ให้เศรษฐกิจล่มสลายไป บริษัทฯ นี้ก็ไม่มีทางที่จะขาดทุน เขาปรับตัวได้แน่นอน ผมเชื่อในฝีมือบริหารของ คุณธานินทร์ ครับ

เมื่อวานได้โอกาสไปฟัง opportunity day ของ arrow ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ ณ ห้อง 603 อาคาร B สิ่งที่สรุปได้ว่ามีการเติบโตต่อไปอีกปีนึง เป้าหมายยอดขาย 1400 ล้านบาท เขาว่าในการก่อสร้างจะลดลงในหลายกลุ่มด้วยกัน กลุ่มอสังหา กลุ่มคอนโด ลดลง มีแต่ กลุ่มพวกโครงการพื้นฐาน (รถไฟฟ้า ถนน) ส่วนนี้จะเพิ่มอยู่ แต่งบออกมาล้าช้ามาก ผมชอบที่เขาบอกว่า ถ้ารับเหมาโตสัก 10% เขาต้องทำให้กิจการโต 15% ให้ได้....สรุปก็คงจะโต 15% ไปอีกปีหนึ่ง....ผมเชื่อในความคิดของ CEO ท่านนี้(คุณธานินทร์) ที่หางาน และหาสินค้าเพิ่มให้บริษัท มีการมองการเติบโตของบริษัทย่อย เมฆา-เอส ปี 58 โตเพียง 4.42% ซึ่งเขาต้องการให้โตมากกว่านี้ ดังนั้น ปี 59 ส่วนนี้จะต้องโตให้หารายได้กว่า 100 ล้านบาท (ปี 58 ได้ 53.49 ล้าน) จะหาสินค้าใหม่ในด้านโครงสร้างหลังค่า โดยนำเข้าจากจีน ซึ่งมีคุณภาพแข็งแรง ติดตั้งได้เร็ว ไม่ต้องเชื่อมโครงเหล็กหลังคา นี่ต้องอยู่ที่โครงการที่ เขาจะได้ในอนาคต ถ้าไม่ได้งานในส่วนนี้ก็จะยังไม่สั่งเข้า สั่งเข้าตามโครงการที่ได้...ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้กับท่อก่อสร้าง ก็ เพิ่มยอดขายให้ด้วย...สิ่งสำคัญท่อ ฝังใต้ดิน ที่จะเป็นพระเอกในอนาคต ได้ผ่านการรับรองคุณภาพที่ทางการไฟฟ้าต้องการแล้ว....ก็ลองดูว่าจะทำรายได้ในเท่าไหร่ในปีนี้ ตอนนี้ผลิตอยู่ รอ โครงการเอาสายไฟและสายสัญญาณลงดินที่จะค่อย ๆ เริ่มทำไปเรื่อย ๆ....หุ้นตัวนี้ผมคงถืออีกนาน เพราะเรื่องงบการเงินที่ดีมาก และการลงทุนแต่ละครั้งของบริษัท ไม่ลงแบบมั่ว ๆ ค่อย ๆ เริ่มลงทุน เพื่อคุ้มกับเงินที่ลงไป ใครสนใจก็ลองติดตามและศึกษาต่อนะครับ ผมอาจมองพลาดในบางส่วนก็ได้

ลุงขวดครับ คุณลุงยังถือหุ้น ttl อยู่ไหมครับ และมีมุมมองต่อหุ้นตัวนี้อย่างไรบ้างครับ
เห็นว่าถ้าหาธุรกิจใหม่ยังไม่ได้ อาจต้องโดน ขึ้นเครื่องหมาย sp ครับ

ขอขอบคุณลุงขวด ก่อนล่วงหน้าครับ

ยังถืออยู่ครับ ผมก็รอการตัดสินใจของเขาอยู่เหมือนกันว่าเป็นอยางไร เขาบอกจะทำเป็น TTL City แล้วมันจะไปในด้านไหนก็ยังไม่ทราบ นอกจากให้ทาง Nida สำรวจและให้ข้อมูลแล้ว ก็ยังไปให้พวกวิเคราะห์การลงทุนอีก ถ้าช้า ๆ ก็ต้องถูก sp แน่เลย ถ้าเป็นนักลงทุนไม่กระทบกับการใช้จ่ายประจำ ก็น่าจะถือรอผลงานไป แต่ถ้าเป็นนักเก็งกำไรและต้องใช้เงินก็ต้องยอมขายเพื่อเอาเงินมาใช้ ราคาหุ้นลงมาก็เพราะคนที่ต้องการใช้เงินนั่นเอง

การลงทุนหุ้นในช่วงนี้ลำบากใจมาก ดัชนีวันนี้ขึ้นจากต้นปี 7.07% จากดัชนี 1288 มาเป็น 1379 จุด และการขึ้นมาก็จากเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามา และต่างชาติก็เล่นแต่หุ้น SET50 ของเขาไปไม่น่าจะเกิน 10 ตัว ไม่สนใจใครจะทำอะไร ขอลากลูกเดียวแล้วแต่ปัจจัยเสริม ที่เห็นเด่นชัดก็หุ้นพลังงาน PTT กับ PTTEP ผมเคยเล่นแต่ pttep ขายไปตอน 100 บาท (ก่อนที่ลงอย่างรุนแรง) ยังไม่กล้าอีกเลย ยังคิดว่าทุนผลิตน้ำมันของเขาไม่น่าจะได้กำไร เพราะราคาน้ำมันยังต่ำอยู่ คงไม่มีบุญในตัวนี้อีกแล้วมั้ง
ตอนนี้หุ้นเล็กกลางที่ลงทุนอยู่ก็ปรากฏว่า แพ้ตลาดครับ ตลาดขึ้น 7.07% แต่หุ้นที่ถืออยู่ไม่ขึ้นเลย ช่วงนี้เสมอตัว วันก่อนตัดขาดทุนม้า เบอร์ 4 ไปหมดแล้ว หุ้น DEMCO ซึ่งทะยอยตัดจนหมด ทำให้การทำ trading ที่กำไรมาตั้งแต่ต้นปี หมดไปกับหุ้นตัวนี้ เลยต้องเริ่มชีวิตใหม่ในการทำ trading ให้ได้ และมั่นใจว่าทำได้แน่นอน ชีวิตตลาดหุ้นต้องสู้อย่าท้อถอยนะครับ
............................
ข้างบนผมเขียนใน facebook เมื่อ 11/3 ก่อนปิดตลาด ตอนนี้ดัชนี 1393.41 (ปิดเย็น 11/3/59) มีการขึ้นของดัชนี แต่สังเกตุว่า การซื้อของต่างชาติเริ่มน้อยลง คงต้องปรับตัวเป็นแน่ ระวังกันด้วย ผมดูแล้วระยะยาวการรอดของประเทศ น่าจะเป็น ในส่วนของการบริการ ด้านการผลิตค่อยข้างจะลำบาก ดีที่ญี่ปุ่นมาช่วยเราในอุตสาหกรรมรถยนต์ ก็คงจะพอทำให้เศรษฐกิจของเราอยู่กันด้าน พืชผลทางเกษตรก็แย่ลง ส่งออกน้อย แถมจะขาดน้ำอีก....สรุปเลยด้านการบริการของเรา ก็มีในส่วนของ กลุ่มโรงแรม และ โรงพยาบาล ที่จะทำกำไรขึ้นได้....พวกนี้ให้ปันผลน้อย แต่ก็จะได้ส่วนต่างของราคามาทดแทน สู้กันต่อไปนะครับ ขอให้โชคดีในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยงต้องศึกษาให้รอบครอบอย่าเชื่อผมไปหมดนะครับ

ขอบคุณลุงขวดมากครับ ผมติดตาม ลุงขวด เรื่อยๆ เลยครับ

ลุงขวดครับ เห็นว่า หุ้น TTL จะซื้อขายวันสุดท้าย วันที่ 22 มีนาคม นี้
ก่อน ขี้น sp ไม่ทราบว่าลุงขวดจะยังถือหุ้นตัวนี้อยู่ไหมครับ พอดีผมกะจะถือยาว
จะได้เป็นเพื่อนกันครับ

ผมและลูกยังถืออยู่ครับ ผมไม่สามารถตามข่าวได้ว่าพวกเขาจะทำอะไรกันต่อไป หลังสุด ผมก็ได้เพียงกระตุ้นเขาให้รีบทำโครงการอะไรก็ได้ แต่เขาบอกถ้าจะให้ดี ต้องสรุปกับโรงงานท่อผ้าที่มีเนื้อที่ใกล้ ๆ กัน (ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขาเหมือนกัน) ถ้าโรงงานเหล่านี้ยกเลิกไปหมดก็จะรวมเป็นผืนใหญ่ได้ จะทำอะไรก็จะง่ายขึ้น TTL CITY ก็คงจะได้เกิดแน่ ของผมทุนไม่มีแล้วเพราะได้รับปันผลมาหมดแล้ว นับว่าเป็นการลงทุนที่ประสบผลสำเร็จตัวหนึ่ง (นาน ๆ จะได้สักที)....ผมเลยขอรอกับเขา แต่อย่างไรก็ตามสำหรับนักลงทุนที่หวังจะให้เกิดผลเร็ว ๆ ก็คงลำบาก เพราะการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่เขาคิดกัน...ก็เหมือนกับต้องเริ่มชีวิตใหม่ ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ผมยอมถือและทนกับเขาครับ