Thai VI

ขอแสดงความยินดีกับพี่ PAK ด้วยนะครับ

แต่พี่ PAK ลืมนับคอนโดพี่ไปหรือเปล่า

แอบมีทรัพย์สินนอกงบดุลนะครับ ฮิๆ

ผมว่าบทความเรื่องสัมมาทิฏฐิที่พี่ pak เอามาโพสต์นี่มองคำว่า มิจฉาทิฏฐิ ในแง่ลบไปหน่อยนะครับ

เท่าที่ผมเข้าใจคำว่า มิจฉาทิฏฐิ นี่แค่หมายถึง ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่านั้นเองนะครับ

ในทางพระพุทธศาสนา คือ เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างเป็นของเที่ยง เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นสวยงาม เห็นว่าบางสิ่งบางอย่างเป็นสุข และเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างมีตัวตนอยู่จริง

แค่มีบางสิ่งบางอย่างที่เรามองว่าไม่เป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์อยู่บ้าง ก็ถือเป็นมิจฉาทิฏฐิแล้วครับ

ซึ่งระดับของการเข้าถึงสัมมาทิฏฐิของคนแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับปัญญาที่เข้าไปรู้เห็นธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ดังนั้นสำหรับคนที่ยังไม่บรรลุถึงพระอรหันต์ ความคิดเห็นก็จะประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจอะไรกับการที่เรามีมิจฉาทิฏฐิอยู่บ้าง ก็ค่อยๆ ขัดเกลากันไปเรื่อยๆ ละกันครับ หากทำไปเรื่อยๆ วันใดวันนึงจิตใจเราก็จะผ่องใสสะอาดมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้ซะที

ปล. ขออภัยเพื่อนๆ ที่โพสต์เรื่องธรรมะในห้อง Value Investing ครับ หากเพื่อนๆ เห็นว่าไม่เหมาะสมรบกวนช่วยแจ้งให้ Mod ลบให้ด้วยนะครับ

ดังนั้นสำหรับคนที่ยังไม่บรรลุถึงพระอรหันต์ ความคิดเห็นก็จะประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจอะไรกับการที่เรามีมิจฉาทิฏฐิอยู่บ้าง ก็ค่อยๆ ขัดเกลากันไปเรื่อยๆ ละกันครับ หากทำไปเรื่อยๆ วันใดวันนึงจิตใจเราก็จะผ่องใสสะอาดมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้ซะที

ผมยังมีกิเลสอยู่ พยายามขัดเกลา แต่สงสัยว่าท่านอื่นขัดเกลากันอย่างไรครับ

เป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=t2qshYdDKz8[/youtube]

โอววว เป็นเป้าหมายผมในอีก 20 ปี ข้างหน้าเลยนะครับเนี่ย เงินเดือนน้อยครับ แต่เก็บทีละน้อยทุกเดือน หลักพันเองครับ หวังว่าจะได้ไปถึงฝัน ส่วนเรื่องความสุขผมให้เวลากับครอบครัวเต็มที่ครับ เพราะเวลาอยู่กับครอบครัวผมจะมีความสุขที่สุด ยินดีกับพี่ ๆ ที่ไปถึงแล้วทุกท่านครับ

ผมขอตั้งเป้าหมายไว้ด้วยละกัน....

ภายใน 5 ปีนับจากนี้ ผมจะต้องมีเงิน 1 ล้านบาทแรกให้ได้

เงินต้น 160,060 บาทครับ....

หลังจากนี้อีก 5 ปีผมจะกลับมาโพสต์อีกครั้งหนึ่งครับ


ขอบคุณพี่ๆ ทุกๆ ท่านที่แบ่งปันความคิดดีๆ ครับ

ยินดีด้วยครับ กลับ นักลงทุนที่เข้าเป้า 10 ล้าน บาทไปแล้ว

ผมว่า อีกซัก 10 ปี ต้องมีคนตั้งกระทู้ 100 ล้านบาทแรกในชีวิต แล้ว ตอบกันคึกคักมากมาย แน่ๆ เลยครับ

vic_nn เขียน:ผมขอตั้งเป้าหมายไว้ด้วยละกัน....

ภายใน 5 ปีนับจากนี้ ผมจะต้องมีเงิน 1 ล้านบาทแรกให้ได้

เงินต้น 160,060 บาทครับ....

หลังจากนี้อีก 5 ปีผมจะกลับมาโพสต์อีกครั้งหนึ่งครับ


ขอบคุณพี่ๆ ทุกๆ ท่านที่แบ่งปันความคิดดีๆ ครับ

ครบ 1 ล้านก็มาโพสต์ในหัวข้อ 1 ล้านบาทแรกในชีวิตก่อนก็ได้ครับ ตามลิงค์ด้านล่าง
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=42375
รอครบ 10 ล้านก็มาโพสต์ในนี้อีกที

อีก1ปี ครบ 1 ลบ. 31 ธค54 จะมาอีกที ครับ

ทำได้แล้วครับ พอร์ตหุ้นเข้า 8 หลักแล้วครับ เย้ๆ

เป้าหมาย 10 ล้าน เป็น milestone ที่มีความหมายกับผม เพราะตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ (ปี 52) เคยคุยกับเพื่อนแล้วผมบอกว่า ... จะมีพอร์ตเกิน 10 ล้านใน 2-3 ปี (ตอนนั้นพอร์ตผมหลักแสน) เพื่อนก็ทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร (เพราะผมเรียนไปทำงานไป เงินเดือนก็น้อย และมีอุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่มีความรู้ ไม่มีคนสอน ทางบ้านคัดค้าน เงินเก็บ 3 ปีก็เอามาลงทุนไม่ได้ ทั้งหมดถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ ไปบอกใครเรื่องเป้าหมายก็คงไม่ใครเชื่อครับ) ... ดีใจมากๆที่ทำให้เป็นจริงได้

จากนี้ขอมุ่งสู่พอร์ต 9 หลักครับ

ยังงัยก็ตามพอร์ตขนาดไหนผลตอบแทนเท่าไร...ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองจากการลงทุนครับ

ปล. ตลาดขึ้นยิ่งมีความเสี่ยง ควรระมัดระวังในการลงทุนอย่างมากครับ

Gobkung เขียน:ทำได้แล้วครับ พอร์ตหุ้นเข้า 8 หลักแล้วครับ เย้ๆ

Gobkung เขียน:ทำได้แล้วครับ พอร์ตหุ้นเข้า 8 หลักแล้วครับ เย้ๆ

เป้าหมาย 10 ล้าน เป็น milestone ที่มีความหมายกับผม เพราะตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ (ปี 52) เคยคุยกับเพื่อนแล้วผมบอกว่า ... จะมีพอร์ตเกิน 10 ล้านใน 2-3 ปี (ตอนนั้นพอร์ตผมหลักแสน) เพื่อนก็ทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร (เพราะผมเรียนไปทำงานไป เงินเดือนก็น้อย และมีอุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่มีความรู้ ไม่มีคนสอน ทางบ้านคัดค้าน เงินเก็บ 3 ปีก็เอามาลงทุนไม่ได้ ทั้งหมดถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ ไปบอกใครเรื่องเป้าหมายก็คงไม่ใครเชื่อครับ) ... ดีใจมากๆที่ทำให้เป็นจริงได้

จากนี้ขอมุ่งสู่พอร์ต 9 หลักครับ

ยังงัยก็ตามพอร์ตขนาดไหนผลตอบแทนเท่าไร...ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองจากการลงทุนครับ

ปล. ตลาดขึ้นยิ่งมีความเสี่ยง ควรระมัดระวังในการลงทุนอย่างมากครับ

รบกวนคุณ Gobkung แชร์ประสบการณ์ในตลาดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ

ไม่ได้เพิ่มทุนเข้าไปเรื่อยๆนี่ทำผลตอบแทนได้ขนาดนี้ ถือว่าสูงเลยทีเดียวครับ คิดว่าน่าจะจับหุ้นถูกตัวด้วยในตลาดขาขึ้นใน 2 - 3 ปีที่ผ่านมาหลายเด้งเลยสินะครับ

Gobkung เขียน:ทำได้แล้วครับ พอร์ตหุ้นเข้า 8 หลักแล้วครับ เย้ๆ

เป้าหมาย 10 ล้าน เป็น milestone ที่มีความหมายกับผม เพราะตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆ (ปี 52) เคยคุยกับเพื่อนแล้วผมบอกว่า ... จะมีพอร์ตเกิน 10 ล้านใน 2-3 ปี (ตอนนั้นพอร์ตผมหลักแสน) เพื่อนก็ทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร (เพราะผมเรียนไปทำงานไป เงินเดือนก็น้อย และมีอุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่มีความรู้ ไม่มีคนสอน ทางบ้านคัดค้าน เงินเก็บ 3 ปีก็เอามาลงทุนไม่ได้ ทั้งหมดถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ ไปบอกใครเรื่องเป้าหมายก็คงไม่ใครเชื่อครับ) ... ดีใจมากๆที่ทำให้เป็นจริงได้

จากนี้ขอมุ่งสู่พอร์ต 9 หลักครับ

ยังงัยก็ตามพอร์ตขนาดไหนผลตอบแทนเท่าไร...ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองจากการลงทุนครับ
ปล. ตลาดขึ้นยิ่งมีความเสี่ยง ควรระมัดระวังในการลงทุนอย่างมากครับ

เยี่ยมครับ

สุดยอด ..จริง ๆ ลงทุนใน Port หุ้น ถึง แปดหลัก ผมเจ็ดหลักเอง ก้อหวั่น ๆ ในใจแล้ว..

ยินดีกับ VI ทุกท่านที่สามารถเพิ่มหลักได้......ทั้ง7หลัก...8หลัก...9หลัก...10หลัก
หวังไว้เช่นกันที่จะต้องเติบโตต่อไป...
และเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน....

picklife เขียน:ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ธรรมด๊า ธรรมดา มากๆ
เริ่มลงทุนด้วยเงิน1.5แสน
และใฝ่ฝันว่าวันหนึ่ง(คงอีกนานน๊านนาน )จะมี10ล้านกับเขาบ้าง

และเชื่อว่าในthaiviคงมีคนที่คล้ายๆผมเยอะม๊ากมาย ที่เริ่มจากมนุษย์เงินเดือน
และหวังว่าวันหนึ่งจะมี10ล้านกับเขาบ้าง เพราะ10ล้านปันผล4%ก็เดือนละ3.3หมื่น
ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการที่ไม่ต้องทำงาน มีอิสภาพทางการเงินเสียที....

ดังนั้นจึงอยากให้พี่ๆหลายๆท่านที่เคยผ่านจุดนี้ เคยมีอารมณ์แบบนี้ทั้งคนที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น
เวลากลางๆ เวลานานๆ และไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ มาแชร์ให้น้องๆในที่นี้ได้ฟัง....เพื่อสร้างเป็นแรงบันดาลใจ
กับน้องๆ และแชร์สิ่งที่ต้องแลกไปเพื่อให้ได้มาถึงจุดนั้นว่าต้องทำอะไรบ้างพยายามแค่ไหนบ้าง....

ปล.ขอบคุณจากใจครับสำหรับคนที่มาแชร์เพราะผมเชื่อว่ามีหลายคนมากๆๆๆๆๆประสบความสำเร็จ แต่ไม่อยากจะโพสเพราะกลัวคนจะมองในแง่ลบ แต่ผมว่าคงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะให้ไม่มีใครมองในแง่ลบแลย แต่สิ่งได้มาคือสร้างพลังให้กับน้องๆและแนวทางเพื่อให้น้องๆได้เดินไปถูกทางได้หลายคนมากๆๆๆ

ฝัน คล้ายๆ กันเลยครับ แต่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสกะเ้ค้ารึเปล่า นี่ก็จะย่าง40แล้ว ผมค่อยๆ ซื้อเก็บเดือนละครั้งครับ ครั้งละไ่ม่มากเท่าไหร่ ไม่ได้ออมอย่างอื่นไว้เลย เก็บหุ้นอย่างเดียวเลยครับ

ยินดีกับทุกท่านครับ การลงทุนในตลาดหุ้นแสดงให้เห็นว่า คนธรรมดาก็มีความมั่งคั่งได้ถ้ารู้จักลงทุนครับ ผมลงทุนตอนอายุ 24 ครับมีทุนประมาณ 3 แสน เห็นเงินล้านตอนอายุ 28 ครับ ตอนนี้ 35 ก็เข้าจุดหมายที่สองครับ คือ 1 ล้านเหรียญ

อยากเห็น 9 หลักเหมือนกันครับ แต่ขอใช้เงินด้วยครับ

สู้สู้ครับ ผมขอ 40%ก็จะเลข8 หลักเช่นกันครับ

ผมขอให้ผ่าน ล้านที่สอง ให้ได้ก่อน เหนพี่แต่ละคนนี้เก่งๆทั้งนั้น ยังไงจะต้องมีพอร์ต 8 หลักให้ได้

ครึ่งทางของล้านที่2ครับ หนทางยังอีกยาวไกล เหนื่อยจริงๆ8หลัก 9หลัก รอก่อนนะ แล้วผมจะตามไป

picatos เขียน:ความรู้สึกในการผ่าน 10 ล้านบาทแรกได้... มีความสุขเทียบไม่ได้กับ 1 ล้านบาทแรก... และ ประสบการณ์ 1 ล้านบาทแรก ก็เทียบไม่ได้กับที่ผ่าน 1 แสนบาทแรก

ในขณะที่ 10 ล้านที่ 2 ก็เป็นความสุขที่ร้อนๆ แห้งๆ ประเดี๋ยวประด๋าว... ซึ่งพอที่จะอนุมานสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้กับเงินล้านต่อๆ ไปได้...

ในขณะที่... ความทุกข์กลับเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ...​ ความโลภ ความทะยานอยาก ความหลงตัวเอง กลับกองสุมในใจหนักขึ้นเรื่อยๆ... จนเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ขออนุญาตตัดตอนข้อความบางส่วนของคุณ picatos มานะครับ

ผมตั้งใจเอาไว้กับตัวเองว่า ทุก 1 ล้านที่เพิ่มขึ้นจากตลาดหลักทรัพย์ ผมจะเอาไปทำบุญ 1 แสนบาท
แรกๆก็เสียดาย คิดว่าถ้าเอามาทบต้นในพอร์ต จะยิ่งทำให้พอร์ตโตเร็วขึ้นอีก

พอทำบุญไปเรื่อยๆ สารพัดอย่าง เช่น สมทบทุนสร้างเมรุ ซื้อหนังสือให้ห้องสมุด ซื้อโต๊ะเก้าอี้พัดลมให้โรงเรียน คนยากจนที่เห็นในสื่อต่างๆ มูลนิธิต่างๆ ฯลฯ มันมีความสุขครับ
และทุกๆ 1 ล้านที่เพิ่มมา ผมก็มีความสุขไม่แพ้ล้านแรก

ถ้าจะมีความทุกข์บ้าง ก็คือ เงินสดในพอร์ต ไม่พอที่จะเอาไปทำบุญ
โดยผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขายหุ้นไปทำบุญ แต่จะรอเงินปันผล เพื่อแบ่งบางส่วนไปทำบุญ

ขอบคุณ คุณ Li’8N คุณ poonpoon7 คุณ pornchal คุณ chatchaivi มากนะครับ ยินดีกับความก้าวหน้าบนเส้นทางการลงทุนของทุกท่านเช่นกันครับ

คุณ WorriedInvestor ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ ถ้าตั้งใจฝึกฝนและพัฒนาตนเองอยู่เสมอย่อมประสบความสำเร็จได้แน่นอนครับ

ยินดีกับคุณ MarcoPolo ด้วยครับ ผลงาน 1 ล้านเหรียญตอนอายุ 35 นับว่ายอดเยี่ยมมากครับ ผมเห็นด้วยมากๆเลย คนธรรมดาที่รู้จักเก็บออมและลงทุนอย่างฉลาด มีวินัยก็สามารถประสบความสำเร็จทางการเงินได้ครับ

คุณ kobponpr พอร์ตน่าปัจจุบันจะยืนอยู่ใกล้ผมในช่วงต้นปี54 แน่เลยครับ เหลืออีกอึดใจเดียวพยายามเข้านะครับ

คุณ kyoza คุณ porzilla ค่อยๆไปทีละขั้นเหมือนบันได ก้าวไปทีละก้าวเดี๋ยวก็ถึงเองครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

คุณ CheNz ยินดีแชร์เรื่องราวตนเองครับ

ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับ ผมสื่อสารไม่ดีเอง ปี 52 ผมทยอยเพิ่มทุนเข้าไปเรื่อยจากเงินออมจากการทำงานด้วยครับ (ช่วงนั้นทำงานนอกเวลาหนักขึ้นมาก) ปี 53 พอทางบ้านเห็นว่าผลตอบแทนผมเป็นบวก (>100 เปอร์เซ็นต์) พ่อแม่ท่านเลยคืนเงินเก็บที่ผมทำงาน 3 ปีก่อนหน้านี้ (ทั้งหมด 1 ล้านบาท) ได้รวมพอร์ตเดิมและลงทุนต่อในปีที่ 2 ครับ สรุปว่าต้นทุนของผมประมาณ 2 ล้านบาทครับ

ใช่ครับ 2 ปีกว่าผลตอบแทนได้หลายเด้งเลยครับ

รายละเอียดประสบการณ์ผมเขียนไว้ใน blog ในเรื่องแนวทางการลงทุนของผมทั้ง 3 ตอนแล้วครับ

ขอแชร์เพิ่มเติมจากใน blog เรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับเวป Thaivi นะครับ หลังจากที่ผมขาดทุนอย่างหนัก เมื่อตลาดลงไป 400 จุดในต้นเดือน มี.ค. ผมก็ได้อ่านหนังสือการลงทุนแนว value investment ทั้งตีแตกและ Buffetology แล้วลอง search มั่วๆ ก็มาเจอเวป Thaivi ซึ่งตอนนั้นยังไม่บูมและคนมากขนาดนี้ ผมได้อ่านกระทู้ที่แนะนำให้มือใหม่ทุกคนต้องอ่านเลยครับ เป็นกระทู้ห้องคุณค่า 1.กระทู้ตระแกรงร่อนหุ้น ของพี่วิบูลย์ 2.กระทู้ปรับพอร์ตของพี่ลูกอีสาน ทั้ง 2 กระทู้นี้ให้ความรู้อย่างมากมายเลย สำหรับคนที่หัวกลวงไม่รู้อะไรเลยอย่างผม(ในตอนนั้น)

และเคยมีประสบการณ์ซื้อตามเซียน ผมซื้อ ILINK ตอนปลายปี 52 เพราะเห็นพี่ Naris ถืออยู่ พอมาดูอีกทีพี่เค้าโพสว่าขายไปนานแล้ว ตอนนั้นใจมันเหมือนไร้หลักยึดเลยครับ แล้วผมจะทำยังงัยต่อไป (ราคาไม่ได้ลงเยอะนะครับ แล้วไม่กี่เดือนต่อมาราคาก็ขึ้นไปมาก แต่ผมขายไปนานแล้วครับ) (ขอโทษพี่ Naris ที่อ้างถึงชื่อพี่นะครับ เวลาเจอโพสความเห็นปัจจัยพื้นฐานของพี่จะอ่านอยู่เสมอเพราะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความคิดมากๆครับ)

ก็เลยตัดสินใจว่าต่อไปจะคิดเองศึกษาเอง รับผิดชอบการตัดสินใจตนเอง และอ่านหนังสือการลงทุนทุกเล่มที่มี อ่านรายงานประจำปี อ่าน 56-1 ดูการซื้อขายของผู้บริหาร ทำ excel งบการเงิน เรียกว่าตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนซื้อหุ้น และไม่สนใจเลยว่าใครจะสนใจหรือถือหุ้นตัวนี้อยู่บ้าง ไม่ถามใคร ไม่ลอกหุ้นใคร (จริงเพื่อนเรื่องการลงทุนของผมก็น้อยมากอยู่แล้วเลยไม่รู้จะไปลอกใคร) ลงอย่างที่คิดจะถูกเขียนลงสมุดให้เห็นภาพที่ชัดเจน

หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้เข้า Thaivi อีกเลย และได้ไปอ่านหนังสือของคุณสุมาอี้และปีเตอร์ ลินส์ ก็พบว่าการลงทุนในหุ้นเติบโตเข้าได้กับความถนัดที่มีอยู่เดิมของผม คือ การสังเกตวิธีชีวิตผู้คนที่เปลี่ยนไป โครงสร้างประชากร ผลกระทบต่อ supply chain พฤติกรรมมนุษย์ พฤติกรรมผู้บริโภคและนักลงทุน การศึกษาจิตใจตนเอง รู้เท่าทันอารมณ์เพื่อรู้เท่าทันอคติ ตามเทคโนโลยีและผลกระทบ pickup หุ้น แบบ top down approach และใช้กลยุทธ์ลงทุนระยะยาวมีเวลาทำงานประจำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยมาเฝ้าหน้าจอ หุ้นขึ้นลงก็ไม่ได้ทำให้เราหวั่นไหว ใครซื้อใครขายก็ไม่ได้ทำให้ใจเรากระเพื่อม เพราะเราวางแผนและบริหารความเสี่ยงไว้หมดแล้ว

หลังจากนั้นพอเข้ามาดูห้องร้อยคนร้อยหุ้นในหุ้นที่ตนเองถือ ก็พบว่านักลงทุนเพิ่มมากขึ้นมากจริงๆ การคุยแบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานน้อยลง ส่วนใหญ่จะเป็นการเกาะตามเซียนซื้อตามเซียน มีหุ้นตามกระแส ซื้อดัก opportunity ซื้อดัก company visit รู้สึกจะมีดราม่าในบางห้องด้วยนะครับ ตอนหลังผมเลยแทบไม่ได้เข้า Thavi อีกเลยครับ

ใจจริงอยากไปงานจิบเบียร์กับเขาบ้าง เพราะช่วงนี้เริ่มว่าง (เพื่อไปคุยเรื่องการลงทุนนะครับไม่ได้ไปขอหุ้นใครหรือลอกหุ้นใคร) แต่สังคมใหญ่เกินไปเลยตัดสินใจว่า ไม่เป็นไรหรอกยังงัยก็ลงทุนคนเดียวมาตลอดอยู่แล้ว

ไม่ได้หมายความว่าลอกหุ้น หรือซื้อตามเซียนไม่ดีนะครับ เพียงแต่เป็นวิธีที่ไม่เหมาะกับผมอย่างมากเท่านั้นเองครับ ผมตั้งใจว่าจะพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ

ช่วงที่ไม่ค่อยได้เข้าเวป ก็มีรุ่นน้องคณะเดียวกัน ที่คุยกันทาง FB (ปัจจุบันเธอเรียน MBA Harvard U ที่ Boston เป็นนักลงทุนที่เก่งมากคนนึง ไม่ได้เล่นเวป Thaivi) คอยเป็น supervisor ในการอ่านบทวิเคราะห์ที่ผมเขียน และ Feed back กลับมา น้องเค้ากับผมถือหุ้นไม่เหมือนกันเลย ต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตนเอง และประสบความสำเร็จทั้งคู่

นี่เส้นทางของผม(คร่าวๆ) ผมตั้งใจว่าจะพัฒนาคนเองต่อไป เพราะน้องเค้าบอกว่ายิ่งพอร์ตใหญ่ยิ่งมีการลงทุนสนุกๆท้าทายรออยู่อีกมาก ผมเล่นหุ้นเหมือนเกมส์พัฒนาตนเองครับ พัฒนาการวิเคราะห์สังคม วิถีชีวิต พฤติกรรมผู้บริโภค ทิศทางของระบบเศรษฐกิจโลก การพัฒนาจิตใจให้คมขึ้น นิ่งขึ้น เยือกเย็น มีสติ เรื่องเงินเป็นเพียงเรื่องรองครับ

เห็นหลายคนลงทุนเพราะอยากสบาย ไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินใช้ นั่นก็เป็นแนวคิดนึงนะครับ แต่สำหรับผมตั้งใจว่าจะทำงานช่วยเหลือผู้คนไปตลอดชีวิต การมีเงินทำให้เราช่วยคนได้มากขึ้น และเงินเหล่านี้ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เงินจะทำประโยชน์ก็ต่อเมื่อมันไปสู่มือผู้ที่ต้องการครับ นอกจากมีเงินยังต้องมีความสามารถในด้านต่างๆอีกด้วยครับถึงจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ดีขึ้นได้

เป้าหมายทางการเงินในช่วงเดินทางก็เป็นเพียงหลักกิโลที่บอกว่าเรามาถึงจุดไหนแล้ว ไม่ใช่ความสำเร็จในชีวิต สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การจะนำเงินเหล่านั้นหรือความรู้ในการลงทุนไปช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร ทำให้ครอบครัวมีความสุขและสร้างสังคมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนได้อย่างไรมากกว่าครับ

ผมชอบที่คุณ Accidental Hero ทำมากเลยครับ ขออนุโมทนานะครับ สุดยอดมาก ผมเองบริจาคยังไม่มากขนาดนั้น

ปล. ผมเข้าเวป 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าโพสถามผมอาจจะไม่ได้ตอบเร็วนะครับ (บางทีอาจจะไม่ได้เข้ากระทู้นั้นอีกเลย) แต่คิดว่าจะแวะเวียนมากระทู้นี้เรื่อยๆครับ ขอบคุณครับ

-เล่นหุ้นครั้งแรกน่าปี 36 ไม่มีหลักเกณฑ์อะไรเลย การซื้อ/ขาย ตามโบรคเกอร์ (เพื่อนกัน)
และก็ไม่ได้สนในที่จะเรียนรู้ด้วย เล่นหุ้นตามแฟชั่นกำลังฮิต
-เคยซื้อหุ้น IPO มา เข้าตลาดฯ ได้กำไร 1.0 เท่าก็ยังไม่ขาย สุดท้ายขายขาดทุน 20%
หลังสุดถือหุ้น Finance ทุน 6 หลัก คิดว่าไ่ม่มีวันล้ม จน ปี 40 หมดสิ้นกัน
-จากนั้นมาไม่เคยคิดว่าจะเล่นหุ้นอีกเลย เห็นหนังสือ "ตีแตก" และอีกหลายเล่นนานละ ก็ไม่
เคยคิดจะอ่าน แม้หุ้นนะขึ้นลงหลายรอบก็ไม่สนใน (คงเข็ด)
-ที่ผ่านมาสนใจด้านความเป็นไปของเศรษฐกิจ และข่าวสารบ้านเมือง มาโดยตลอด
-ครั้งนี้ตั้งใจ ว่า จะไม่เล่นแล้ว แต่"จะลงทุนในธุรกิจ" ซื้อหนังสือมาอ่านหลายเล่ม (ดูตามที่
เว็ปนี้แนะนำ) ซึ่งจะเป็นแนวทางการลงทุนโดนศึกษาและวิเคราะหุ้นของ บ.ที่ลงทุนจริงจัง
-ศึกษามาประมาณ 1 เดือนละ โดยยังไม่ลงทุนใน บ.ไหนเลย เพราะ "ราคาหุ้น เป็นตัว
กำหนด ผลตอบแทน" เห็นหุ้นขึ้นทุกวัน ทุกวัน เราก็อดทน อดทน อดทน (เหมือนใครไม่รู้
สอนไว้)

-ณ.วันนี้ คิดว่าน่าจะใกล้เวลา เริ่มซะที่

-ที่เล่ามาไม่ได้มีอะไรหรอกครับ มาแนะนำตัว ขอเป็นผู้ร่วมเดินทางในแนวทางเดียวกัน และ
ขอฝากตัวในฐานะสมาชิกใหม่ด้วย โดย ที่ผ่านมาได้อ่านแนวคิดจากเว็ปนี้ ได้ข้อคิดดีดี ที่
เป็นประโยชน์มากมาย ก็ต้องขอขอบคุณ ผู้รู้ทุกท่าน

-สุดท้ายขอให้ประสบความสำเร็จตามที่ทุกท่านตั้งใจนะครับ ... อดทน อดทน โชคดีครับ

ผม "ป๊อป" ครับ

อยากแนะนำให้อ่านหนังสือ ที่ อาจารย์ ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร แปลครับ
ชื่อหนังสือ คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
http://www.se-ed.com/eshop/Products/Det ... 9745345003

ช่วยจุดประกายหล่ายๆสิ่งหล่ายๆอย่างได้มากทีเดียวครับ ทำให้เรากล้าขึ้น มั่นใจขึ้น และช่วยเรื่องการทำงานด้วยครับ

สิ่งแรกที่ต้องทำสำหรับคน port เล็กมาก ก็คือ หาเงินเข้า port ให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มผลตอบแทน
อ้างอิงจากกระทู้ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=25999

หวังว่าอีกไม่นานผมคงได้ ล้านแรกกับเค้าบ้าง ^ ^

ข้าวสารจะกรอกหม้อยังไม่มีเลยครับ T๐T

จะตามไปครับ 10 ล้าน

ขอบพระคุณทุก พี่ๆนักลงทุนทุกท่านที่มาแชร์ประสบการ์ให้ฟังครับ ช่างมีค่ามากมายเหลือกเกิน

พ่อแม่ผมสอนให้ผมฟังผู้ใหญ่ เล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา ให้ฟังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุนเรื่องชีวิต เพราะท่านบอกว่า

แทนที่ลูกจะไป เรียนรู้เอาเอง 10-20 ปี ลูกรับฟังแล้วนำมาคิด บางทีเจอผู้ใหญ่ใน ตลาดหุ้น เจอในวงเหล้า เขาเล่าให้เราฟัง

20-30 นาที หรือบางทีอาจจะไม่ถึง แต่มันเป็น 20-30 นาทีที่ย่อเวลา 10-20ปีลงมา เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนที่มีค่ามากๆ

ขอบพระคุณทุกท่านที่มาร่วมแชร์ครับ









ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวบ้างนะครับ

ผมเองก็เป็นคนไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างได ฐานนะทางบ้านออกไปทาง C- ด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าไม่รวยเลยยยย แค่พอมีพอกิน ไอ้ที่จะขับรถ benz หรือ ไปเที่ยวต่างประเทศนั้น อย่าได้หวังครับ ก็เหมือนกับคนกรุงเทพทั่วๆไป


พอโตขึ้นมาก็ไม่รู้จะเรียนอะไร ตามประสาเด็ก เกเร ครับ ไม่รู้จะเรียนอะไร เลือก นิเทศแม้งละกันเรียนง่ายๆ ดี เรียนกว่าจะจบก็ 5 ปีเข้าไป เรียนกได้ว่าชีวิตวัยเด็ก เก เต็มรูปแบบ ไม่เคยคิดด้วยซ่้ำว่าตัวเองจะทำงานอะไรดี มีแต่ความฝันงี่เง่าอย่างเดียว ที่จะมีเงิน 100 ล้านให้ได้ ไม่รู้ฝันทำไมต้องมี 100 ล้าน ฝันตั้งแต่เด็ก อาจจะเป็นเพราะว่า ความไม่เคยมีเหมือนคนอื่นเขาก็ได้มั้งเลยฝันที่จะมีเงิน 100 ล้านให้ได้

มาถึงช่วง ปี 3 ของมหาลัยก็มีวิชานึงที่ต้องไปเรียนกับคณะ บริหาร นั้นก็คือวิชา เศฐสาตร์ มหาภาค หรืออะไรนี้หละครับทำนองนี้หละ ผมเองก็ตามประสา เข้าไปนั่งๆเรียนๆเล่นๆ ไปงั้นๆหละไม่ได้สนใจ แต่เนื้อหาวิชามันดึงดูดเราเองมันพูดเกี่ยวกับเงินบ้าง การลงทุนบ้าง เราก็เลยเริ่มสนใจนั้นเป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมด ของการรู้จักการลงทุน จำได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เงินที่ได้มาทั้งหมด หมดกับการซื้อหนังสือ อ่าน ไปเข้าสมันนาความรู้ต่างๆ จนจบปี 4 ก็ยังไม่เคยเล่นหุ้นซะที แต่หันไปลงทุน ทองคำ กับ น้ำมันเป็นหลัก

ผ่านไป 2 -3 ปี เงินที่ลงทุนในทองคำกับน้ำมันก็มาขึ้นเรื่อยๆจนน่าตกใจ


ตอนนี้อายุ 23 ปี ก็เริ่มมาสนใจในตลาดหุ้นอย่างจริงจัง คิดว่าถึงเวลาที่เราควรจะเริ่มลงทุนแบบ VI แบบจริจังมากๆ คิดว่าเป้าหมาย ก็ยังเหมือนเดิม ผมต้องมี 100 ล้านบาทให้ได้ โดยยึดหลักเดียวของชีวิต คือ คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ผมเป็นพวกชอบใช้ชีวิตแบบสุดโต่ง

หลายๆคนชอบมองว่าผมบ้า คนเขากว่าจะหาเงิน 10 ล้านได้ ก็เหนื่อยกันจะตายอยู่แล้ว นี้มอง 100 ล้านเลย

ผมก็ยังยืนยันคำเดิมครับ ว่าชีวิตเกิดมาครั้งเดียว ผมขอใช้มันให้คุ้ม และยังมีอีกหลายอย่างในโลกใบนี่้ที่ผมยังไม่เคยทำ

ผมเสียดายชีวิตครับถ้าไม่ได้ เห็นโลกอันกว้างใหญ่ อย่างน้อยๆ ด้วยเงินจำนวนนี้คงทำให้ผมรู้สึกคุ้มที่เกิดมาหละมั้งครับ



ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่าน ทุกๆท่านเป็นทั้งครู เป็นทั้งแรงบรรดารใจของผมเลย



ถ้ากระทู้นี้ยังอยู่อีก 10-20 ปีข้างหน้า ผมจะกลับมาบอกว่าผมทำสำเร็จหรือไม่นะครับ ^^

ไม่ทราบว่าจากที่เคยมี 8 หลัก ปัจจุบัน เหลือ 6 หลัก สามารถ post ได้ที่ห้องไหนครับ

เข้ามาลงชื่อด้วยคนครับ port เริ่มแตะ 8 หลัก ตั้งแต่ปีปลายปี 52 turnaround หลังจากบาดเจ็บจาก subprime มาพอสมควร ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นไต่ระดับ ให้ได้ 9 หลัก เป้าหมายอีก 15 ปีข้างหน้าครับ โดยตั้งเป้าอยู่ที่ 20% ทบต้นทุกปีครับ (ทำไม่ถึงก็ไม่เป็นไร แค่อยากตั้งเป้าให้สูงไว้ก่อน)

ผมเริ่มลงทุนมาตั้งแต่ปี 46 ครับ เริ่มลงทุนก็มาแนวทาง vi เลย ได้แรงบันดาลใจมากจากหนังสือพ่อรวยสอนลูก ทำให้เข้าใจความรู้ทางด้านการเงิน และก็เข้าสู่แนว vi จากหนังสือ "ตีแตก" "เคล็บลับเซียนหุ้นพันธุ์แท้" และ "เซียนหุ้นมือทอง" ของท่าน อ. ดร.นิเวศน์ ล่ะครับ ผลการลงทุนก็ราบเรียบมาตลอดครับ ไม่ได้หวือหวาเหมือนเซียนหลาย ๆ คน ก่อนช่วง subprime แต่ก็ได้สะสมความรู้ + ประสบการณ์ในการลงทุนที่ถูกต้องมากขึ้น ตลอดจนปรับเปลี่ยนแนวทางในการลงทุนให้เหมาะกับตัวเอง จนเมื่อถึงวันที่โอกาสมันมา เราก็พร้อมจะคว้าโอกาสนั้นครับ

อยากจะบอกเพื่อนที่มุ่งมั่นทุกคนครับ ว่า เราทำได้แน่นอนครับ เชื่อมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง และอดทนทำมันต่อไปเรื่อย ๆ วันนึงจะเห็นผลแน่นอน แต่ไม่อยากให้หวังผลการลงทุนต่อปีมากเกินไปครับ เพราะมันอาจทำให้เราเครียดกับการลงทุน อยากให้การลงทุน เป็นการลงทุนที่มีความสุข และเป็นการลงทุนเพื่อชีวิตครับ

ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิต ตอนนี้อยากทำให้ตัวเองมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่า เห็นด้วยครับ ว่าเริ่มรับรู้ได้ว่า เงิน ไม่ใช่คำตอบของความสุขครับ ความสุขไม่ได้แปรผันตามจำนวนเงิน แต่ความสุขมาจากใจเราและสิ่งรอบตัวเรามากกว่าครับ แต่ข้อดีของ port ที่โตขึ้น คือความมั่นคงของชีวิตที่มากขึ้นครับ รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น

ตอนนี้กำลังฝึกฝนตัวเองเรื่องการ "ให้" อยู่ครับ เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ การให้ทาน ครับ ผมคิดว่าสุดท้าย คนเราก็ควรจะจบด้วยการให้ นี่แหละครับ จึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเราสงบที่สุด

ขอบคุณพี่ baggio ที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ


คุณพี่ครับยังไงผมขอปรึกษาคุณพี่และขอคำแนะนำจากคุณพี่บ้างนะครับ


ผมอยากมี port 9 หลักเหมือนกันครับ ขอร่วมอุดมการณ์ด้วยครับ