หน้า 4 จากทั้งหมด 4

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 07, 2011 4:44 pm
โดย naijan
คาดจีนขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ เดือนพ.ค.

Posted on Thursday, April 07, 2011
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ในรายงานฉบับล่าสุดว่า ธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน 2554 ซึ่งสะท้อนว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมอาจพุ่งขึ้นสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากระยะ 1 ปี อีก 0.25% โดยมีผลตั้งแต่วันพุธ 6 เม.ย. 54 ที่ผ่านมาถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ (2554)และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ต้นปี 2553

นักวิเคราะห์ประเมินว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการลดแรงกดดัน ด้านราคาผู้บริโภค ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 08, 2011 2:23 pm
โดย naijan
คาดแบงก์ชาติจีนขึ้นดอกเบี้ยอีกใน 1-2 เดือน นี้

มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ในรายงานฉบับล่าสุดว่า ธนาคารกลางจีนอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพ.ค.หรือมิ.ย.นี้ โดยมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนครั้งล่าสุดถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนเดือนมี.ค.อาจพุ่งสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งจีนมีกำหนดเปิดเผยดัชนี CPI เดือนมี.ค.ในสัปดาห์หน้า

ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากระยะ 1 ปีอีก 0.25% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพุธ การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้และเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ต้นปี 2553

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ถึงความพยายามของจีนในการผ่อนคลายแรงกดดันด้านราคาผู้บริโภคที่ยากจะรับมือ แต่การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เร็วกว่าคาดการณ์ ซึ่งนั่นหมายความว่า การเพิ่มขึ้นของราคาผู้บริโภคในเดือนมี.ค.จะพุ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้


ราคาบ้านในจีนอาจลดลงปานกลางใน Q2/54

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายคาดการณ์ว่า ราคาบ้านในจีนจะปรับตัวลดลงในไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังจากข้อมูลสถิติที่ได้จากระบบดัชนีอสังหาริมทรัพย์จีน (CREIS) ระบุว่า เมื่อเดือนมีนาคม ราคาบ้านได้ปรับตัวลดลงในเมืองสำคัญๆ ของจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และ เสิ่นเจิ้น โดยราคาบ้านในเซี่ยงไฮ้ปรับตัวลดลงสูงสุดที่ 7.6%

นอกจากนี้ CREIS ระบุว่า การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในเกือบ 30 เมืองที่มีการติดตามข้อมูลนั้น ยังมีจำนวนที่ลดลงในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน

นายจู จงยี่ รองเลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์จีนเปิดเผยว่า ราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มลดลงปานกลางในไตรมาสที่ 2 แต่เป็นไปไม่ได้ที่ราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งโดยทั่วไปราคาที่อยู่อาศัยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงทำเลที่ตั้ง โดยนายจูอ้างถึงนโยบายรัฐเข็มขัดในปัจจุบันว่า อาจกระตุ้นให้ราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นในการไม่ต้องพึ่งพารายได้จากที่ดิน

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 11, 2011 5:59 pm
โดย naijan
"จอร์จ โซรอส" เชื่อ จีนคุมเงินเฟ้อไม่ได้

Posted on Monday, April 11, 2011
นายจอร์จ โซรอส ประธานบริษัทโซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ แอลแอลซี บอกว่า การที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 4 ครั้ง และได้ปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 6 ครั้งนับตั้งแต่ไตรมาส 3/53 จะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ และจะทำให้อนาคตของจีนตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอน เนื่องจากการที่รัฐบาลจีนตัดสินใจปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่า เป็นเหตุให้จีนไม่สามารถควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ และทำให้จีนเผชิญกับความเสี่ยงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 11, 2011 6:54 pm
โดย naijan
จีนเล็งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้ออีกรอบ

Posted on Monday, April 11, 2011
นายเซียะ ปิง ที่ปรึกษา ฝ่ายวิชาการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ของจีน บอกว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ และแก้ปัญหาอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ติดลบอยู่ นอกจากนี้ธนาคารกลางจีน อาจจะใช้เครื่องมือเชิงปริมาณต่างๆ เช่น การขายตั๋วเงินคลังของธนาคารกลาง และการเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์

ด้านผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมของจีนอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือนที่ 5.2% ขณะที่จีนกำหนด เป้าหมายเงินเฟ้อสำหรับปีนี้ไว้ที่ 4%

ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อพยายามลดอัตราเงินเฟ้อ โดยได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง และเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขึ้น 6 ครั้งนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 1:10 pm
โดย matee
อภิมหาโครงการอาคารสงเคราะห์ จีนกำลังสร้างผู้บริโภครุ่นใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 เมษายน 2554 10:23 น.








นิวยอร์กไทมส์ - จีนเริ่มโครงการลงทุนก่อสร้างอาคารสงเคราะห์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะกระตุ้นการบริโภคอย่างมโหฬารภายในประเทศ

ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีของจีนระหว่างปี 2554-2558 นั้น จีนตั้งเป้าก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกสำหรับประชาชนจำนวน 10 ล้านหน่วยในปีนี้ และ 36 ล้านหน่วยภายในช่วงแผนพัฒนาดังกล่าว เมื่อลองคิดคร่าว ๆ ว่า หากมีผู้อยู่อาศัยห้องละ 3 คนแล้ว อาคารสงเคราะห์ตามโครงการทั้งหมดนี้ย่อมมีมากพอสำหรับการอยู่อาศัยของประชากรฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และแคนาดารวมกันเลยทีเดียว

ในระยะสั้นแล้ว โครงการลงทุนก่อสร้างอาคารสงเคราะห์จะกระตุ้นการใช้โลหะ, ทองแดง และวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งชาติผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าวย่อมได้ประโยชน์ นอกจากนั้น ยังหนุนการลงทุนในประเทศให้ขยายตัวถึงร้อยละ 48 ของจีดีพีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในระยะยาวแล้ว หากอภิมหาโครงการนี้บรรลุเป้าหมาย เมื่อถึงเวลานั้น จะเกิดผู้บริโภคชนชั้นใหม่ขึ้นมา โดยในทางทฤษฎีแล้ว โครงการดังกล่าวจะลดการออมเงินของชาวจีน ซึ่งมีการเก็บออมเงินกันมากจนเกินไป กล่าวคือชาวจีนหลายล้านคนไม่จำเป็นต้องออมเงินสำหรับซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีราคาในตลาดแพงลิ่วอีกต่อไป แต่จะนำเงินออมส่วนนี้ไปจับจ่ายใช้สอยด้านอื่น ๆ มากขึ้น

เมื่อมีประชาชนเข้ามาอาศัยในอาคารสงเคราะห์ ที่รัฐบาลสร้างให้ในเมืองต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งอัตราการขยายตัวของเมืองคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 47.5 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 51.5 ในปี 2558 นั้น สินค้าและบริการต่าง ๆ ก็จะมารอเข้าแถวให้ประชาชนเหล่านี้เลือกซื้อหามากมาย

นายหลุยส์ คุจส์ (Louis Kuijs) นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกประจำกรุงปักกิ่งระบุว่า รัฐบาลจีนดำเนินความพยายามในการก่อสร้างอาคารสงเคราะห์ราคาถูกแก่ประชาชนมากกว่าที่เขาเคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะช่วยให้ชาวจีนเหลือเงินสำหรับการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจต่อเศรษฐกิจมากขึ้น

ผลจากโครงการดังกล่าวจีนกำลังรับเอารูปแบบตลาด 2 ระดับของสิงค์โปร์และฮ่องกงมาใช้กล่าวคือ อาคารสงเคราะห์สำหรับผู้มีรายได้น้อย และบ้านอาศัยตามราคาในตลาดสำหรับผู้มีรายได้มากกว่า

นอกจากการหว่านเมล็ดพืชสำหรับการบริโภคเพิ่มขึ้นของประชาชนแล้ว เมื่ออุปทานคืออาคารสงเคราะห์ผุดขึ้นมาจำนวนมหาศาลย่อมทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่พุ่งสูงในภาวะฟองสบู่แฟบลง และผ่อนคลายความไม่พอใจในหมู่ประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีเงินพอหาซื้อบ้านอีกด้วย

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับดังกล่าวคาดว่าจะ “จุดประกายเรื่องราวการบริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่” นายสตีเฟ่น โรช กรรมการบริหารกิตติมศักดิ์ ของมอร์แกน สแตนลีย์ เอเชีย ระบุ โดยโครงการดังกล่าวจะกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มถึงร้อยละ 42-45 ของจีดีพีภายในปี 2558 จากร้อยละ 36 ในปัจจุบัน

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 1:48 pm
โดย Financeseed
ขอบคุณมากครับ

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 15, 2011 10:11 pm
โดย matee
เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกโต 9.7% เงินเฟ้อ 5.4% ศก.ใหญ่เป็นอันดับ2ของโลกวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 11:14:00 น.
Share

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแถลงวันนี้ว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่เงินเฟ้อยังคงทะยานขึ้นทั้งที่ได้พยายามควบคุมราคาอาหารและอสังหาริมทรัพย์ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาอยู่ที่ร้อยละ 9.7 ขณะที่เมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เติบโตที่ร้อยละ 9.8 และตลอดทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 10.3 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคขยับขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 5.4

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 8:52 pm
โดย matee
จีนเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากเป็น 20.5% สูงสุดในประวัติการณ์ หวังสกัดเงินเฟ้อ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2554 19:42 น.





ธนาคารกลางของจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และจะทำให้เพดานกันสำรองเงินฝากของสถาบันการเงินรายใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.5%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากครั้งล่าสุดของจีน มีขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเงินเฟ้อหลัก พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสุงสุดในรอบ 32 เดือน และสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 4%
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวในที่ประชุม "Boao Forum for Asia" ซึ่งจัดขึ้นที่มณทลเหอหนานว่า "จีนจะยังคงใช้นโยบายคุมเข้มด้านเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง" ขณะที่นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน กล่าว่า รัฐบาลจีนจะใช้เครื่องมือที่จำเป็น รวมถึงเครื่องมือด้านการกันสำรองเงินฝาก, อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งการดำเนินการในตลาดเปิด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อภายในประเทศ

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 8:52 pm
โดย matee
เผยเงินเฟ้อ 7 ประเทศในเอเชีย เวียดนามพุ่งกว่า 13% ของไทยอยู่ที่ 3.14%

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2554 20:30 น.





บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานการรวบรวมตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศต่างๆดังนี้
จีน อัตราเงินเฟ้อ 4.90% ดอกเบี้ยนโยบาย 6.31%
อินเดีย อัตราเงินเฟ้อ 8.80% ดอกเบี้ยนโยบาย 6.75%
อินโดนีเซีย อัตราเงินเฟ้อ 6.65% ดอกเบี้ยนโยบาย 6.75%
มาเลเซีย อัตราเงินเฟ้อ 2.90% ดอกเบี้ยนโยบาย 2.75%
เกาหลีใต้ อัตราเงินเฟ้อ 4.70% ดอกเบี้ยนโยบาย 6.31%
เวียดนาม อัตราเงินเฟ้อ 13.89% ดอกเบี้ยนโยบาย 9.00%
ยูโรโซน อัตราเงินเฟ้อ 2.40% ดอกเบี้ยนโยบาย 1.25%
ไทย อัตราเงินเฟ้อ 3.14% ดอกเบี้ยนโยบาย 2.50%

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 19, 2011 1:04 am
โดย matee
จีนเพิ่มอัตราสำรองเงินสดธนาคารอีก กักเงินกว่า 3แสนล้านหยวนไว้ที่แบงค์ชาติ

รอยเตอร์--ธนาคารกลางประชาชนแห่งจีน หรือธนาคารกลาง ประกาศเพิ่มอัตราเงินสดสำรองธนาคารในวานนี้(17 เม.ย.) โดยจะมีผลบังคับใช้วันพฤหัสฯ(21 เม.ย.) นับเป็นการปรับเพิ่มฯครั้งที่สี่ในปีนี้ เพื่อต่อกรกับสภาพคล่องที่ล้นเกิน และภาวะเงินเฟ้อที่ทะยานสูงฉุดรั้งไม่อยู่เสียที

ขณะนี้กลุ่มผู้นำจีนซึ่งกุมชะตาเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลก กำลังวิตกหนัก หลังจากประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค หรือซีพีไอ ประจำเดือนมี.ค. อยู่ที่ 5.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินเป้าที่รัฐบาลกำหนด

สถานการณ์เงินเฟ้อและราคาในจีนร้อนระอุจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลเร่งระดมเครื่องมือทางการเงินทั้งการขึ้นดอกเบี้ย และขยายเพดานอัตราเงินสดสำรองของธนาคาร โดยการขึ้นอัตราเงินสดสำรองครั้งล่าสุดนี้ เป็นครั้งที่ 7 นับจากเดือนต.ค. และจีนได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่สี่จากเดือนต.ค. นอกจากนี้ยังออกมาตรการควบคุมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนสกัดกั้นการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังมิอาจลดแรงกดดันราคาที่ถูกดันขึ้นๆจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ขณะที่สภาพคล่องล้นเกินยังคงเขย่าเศรษฐกิจจีนอย่างน่ากลัว

การปรับเพิ่มอัตราเงินสดสำรอง อีก 50 จุด ในครั้งนี้ จะดันอัตราเงินสดสำรองที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของประเทศ ต้องกันไว้ที่ธนาคารกลาง สูงเป็นประวัติการณ์ ถึง 20.5 เปอร์เซนต์ ด้วยเพดานอัตราเงินสดสำรองนี้ทำให้ปริมาณเงินสดที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ต้องนำไปเก็บสำรองไว้ที่ธนาคารกลาง รวมกันราว 350,000 ล้านหยวน ป้องกันมิให้นำออกไปปล่อยกู้

ทั้งนี้ ยอดปล่อยกู้ของธนาคารเดือนมี.ค. เท่ากับ 679,400 ล้านหยวน (หรือ 104,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ปริมาณเงิน M2 สูง 16.6 เปอร์เซนต์ จากปีก่อนหน้า โดยตัวเลขทั้งสองนี้ สูงเกินความคาดหมายของตลาด

ในวันเสาร์(15 เม.ย.) ผู้ว่าธนาคารกลาง นาย โจว เสี่ยวชวน แถลงในที่ประชุมข่าวนอกรอบการประชุมอั๋วเอ๋า เอเชีย ฟอรัม ที่ไห่โข่ว มณฑลไห่หนัน (ไหหลำ) ว่าจีนจะดำเนินนโยบายการเงินแบบระมัดระวังไปอีกระยะหนึ่ง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่าได้ส่งสัญญาณจุดยืนแบบสายเหยี่ยว กล่าวว่ารัฐบาลจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อกำหราบเงินเฟ้อลงให้ได้.

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 19, 2011 1:05 am
โดย matee
ราคาบ้านใหม่แดนมังกรเดือนมี.ค. ลดลงบ้างแล้ว

เอเอฟพี - สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผยเมื่อวันจันทร์ (18 เม.ย.) ราคาบ้านใหม่ในหลายเมืองของจีนกำลังตกลงมาบ้างแล้วในเดือนมี.ค. แสดงให้เห็นว่ามาตรการของรัฐบาลที่พยายามควบคุมราคาอสังหาฯ ที่ร้อนแรงเริ่มออกฤทธิ์แล้ว

หลังจากจีนขยับมาตรการจำกัดการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อควบคุมราคาอสังหาฯ เพียงวันเดียว สำนักสถิติแห่งชาติจีนก็เผยตัวเลขราคาบ้านใหม่ใน 12 จาก 70 เมืองใหญ่ของจีนในเดือนมี.ค.ว่าลดต่ำลงแล้ว เทียบกับเดือนก่อนหน้า

มี 8 เมืองที่ราคาบ้านลดลงในเดือนก.พ. และมีเพียง 3 เมืองเท่านั้นที่ราคาลดลงในเดือนม.ค.

สำหรับในเดือนมี.ค. ราคาบ้านใน 8 เมืองยังคงที่ แต่อีก 29 เมืองอื่น ๆ ราคาเพิ่มขึ้น แต่ก็ช้าลงกว่าเมื่อเดือนก.พ.

สำนักสถิติเผยอีกว่า “ในบรรดาเมืองหลักของจีน ราคาบ้านที่ปักกิ่งยังไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่เซี่ยงไฮ้ราคาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ที่ 0.2 เปอร์เซ็นต์”

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อมูลราคาบ้านใหม่ลดลงนี้ จะไม่ทำให้รัฐบาลหยุดความพยายามในการควบคุมราคาอสังหาฯ ที่พุ่งสูงในระยะสั้นนี้อย่างแน่นอน

เฉิน เซิง รองผู้อำนวยการสำนักงานชี้วัดและการวิจัยด้านอสังหาฯ ของจีน เผยว่า “การลดลงของราคาบ้านใหม่ในเดือนมี.ค. แสดงให้เห็นว่ามาตรการของรัฐบาลกำลังได้ผล แต่ทางการจะไม่ผ่อนคลายมาตรการให้อ่อนลงอย่างแน่นอน เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาบ้านพุ่งขึ้นมาอีก”

จีนได้ออกมาตรการหลายชุดเพื่อคุมตลาดอสังหาฯ ที่ร้อนแรงตั้งแต่ปลายปี 2552 ตั้งแต่การห้ามซื้อบ้านหลังที่ 2 ในบางเมือง นอกจากนั้นประชาชนในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้และมหานครฉงชิ่งจะต้องจ่ายภาษีที่อยู่อาศัยด้วย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศให้ธนาคารเพิ่มปริมาณเงินสำรอง โดยต้องลดการปล่อยกู้ลง มีเป้าหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เนื่องจากเดือนที่แล้วที่เงินเฟ้อพุ่งสูงสุดนับแต่เดือนก.ค. 2551

นอกจากนั้นจีนยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งนับแต่เดือนต.ค. 2553

นายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน จยาเป่า ประกาศในการประชุมสภาเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะดำเนินโครงการบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยหรือบ้านเอื้ออาทร เพื่อลดปัญหาความกังวลของประชาชนเรื่องบ้านแพงด้วย

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 20, 2011 9:29 am
โดย naijan
จีนขึ้นเพดาน RRR สะท้อนท่าทีระมัดระวังในการคุมเงินเฟ้อ

นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ เพื่อคุมเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก และถ้านับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมานั้น จีนได้ปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ไปแล้วถึง 10 ครั้ง

จีนมองว่าในขณะที่สภาพคล่องในตลาดทั่วโลกมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะยิ่งทำให้เงินร้อนไหลเข้าสู่ประเทศมากขึ้น โดยปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภท 1 ปีของจีนยืนอยู่ที่ระดับ 3.25% ซึ่งสูงกว่าระดับเฉลี่ยของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และนับตั้งแต่จีนดำเนินการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนครั้งล่าสุด กระแสเงินร้อนก็ไหลบ่าเข้าสู่จีนเพื่อหวังเก็งกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและการแข็งค่าของเงินหยวน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป โดยนายเหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์ กล่าวว่า วงจรการขึ้นดอกเบี้ยของจีนซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้วนั้น กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด โดยมีความเป็นไปได้ว่าจีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในอนาคตอันใกล้นี้

นอกเหนือจากดัชนี CPI ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงแล้ว ยอดการปล่อยเงินกู้ที่สูงเกินคาดในเดือนมี.ค.ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้จีนใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน โดยธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้ทั้งสิ้น 6.794 แสนล้านหยวน (1.0398 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือนมี.ค.

จีนลงนามข้อตกลงสวอปสกุลเงินกับนิวซีแลนด์

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในข้อตกลงสวอปสกุลเงินมูลค่า 25,000 ล้านหยวน (3,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) กับธนาคารกลางนิวซีแลนด์ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีอายุ 3 ปี และสามารถต่ออายุได้ตามความเห็นชอบของทั้ง 2 ฝ่าย

แถลงการณ์ของแบงก์ชาติจีนระบุว่า การทำสวอปครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการเงินระดับทวิภาคี

นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปลายปี 2551 จีนได้ลงนามในข้อตกลงสวอปสกุลเงินกับเกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย เบลารุส อินโดนีเซีย อาร์เจนติน่า ไอซ์แลนด์ และสิงคโปร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระตุ้นให้เทรดเดอร์ลงทุนในสกุลเงินหยวนมากขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งของจีนในการสนับสนุนให้มีการชำระบัญชีการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

Re: เกาะติดฟองสบู่จีน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 21, 2011 10:00 am
โดย naijan
จีนลั่นเดินหน้าเพิ่มการนำเข้า

นายเหยา เจียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน กล่าวว่า จีนจะยึดมั่นในนโยบายส่งเสริมการนำเข้า แม้ว่าจีนเผชิญกับยอดขาดดุลการค้ารายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีก็ตาม

ทั้งนี้ จีนมียอดขาดดุลการค้า 1.02 พันล้านดอลลาร์ ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้ารายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้จีนมีดุลการค้าขาดดุลว่าเป็นเพราะการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทรัพยากรในช่วงสามเดือนแรก พร้อมกับระบุว่า การนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำให้อุตสาหกรรมต่างๆในประเทศเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดโลก นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ทรัพยากรแล้ว จีนจะเพิ่มการนำเข้าผลิตภัณฑ์ไฮเทคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเกษตร
ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channelhttp://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx