Re: จ้าวที่ กับ วีไอ!!!
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 30, 2012 5:10 pm
(6) การปั่นหุ้น
มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่เป็นคดีตัวอย่างมีเพียงหนึ่งคดี
แต่ผู้ต้องข้อกล่าวหากับ ชื่อ สอง
เขียนถึง...การปั่นหุ้น
ทุบหุ้น ลากหุ้น ตบหุ้น เทหุ้น ทิ้งหุ้น
อ่านกี่ครั้งกี่หน มันก็มาอีหรอบเดิมนั่นหล่ะ
ซ้ำๆซากๆน่าเบี่ย..ซะงั้น
ก่อนจะปั่นหุ้น เจ้ามือ
ก็ต้องหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์
เก็บหุ้นกันก่อน ให้ได้จำนวนเพื่อคุ้มค่ากับการลงทุน
รอว่าการเก็บ ก็ต้องหาวิธีการมาเขย่าหุ้นก่อน
ลากขึ้นให้คนสนใจ
ให้คนถือครองหุ้นหันมามอง เอ๊ยหุ้น....ไปแร้ววว ไปแล้ว
ทุบหุ้นให้คนสนใจอีก
ทิ้งกันทีละหลายสเต็บ (บางครั้งมองเหมือนหมดสภาพ)
ปล่อยข่าวร้าย จากห้องค้าหนึ่งไปห้องค้าหนึ่งเป็นข่าวลือ
ให้คนถือหุ้นตัวนั้น เกิดการ เสียดาย
รู้งี้ ตรูขายตอนราคาสูงสุดสุด
รู้งี้ ตรูจะมารับกลับตอนมันแดงๆนี่ล่ะ
บวกลบคูณหาร ตรูรับเละ
พอเห็นมันไหลลง บางคนถอดใจก็ขายทิ้ง
เพื่อไปหาหุ้นที่มีอนาคตดีกว่าตัวที่ถือ
หลังจากพวกร่วมมือกันทุบลง (จนน่าพอใจ)
ก็เริ่มตั้งรับ ไม่ให้หลุดราคานั้นๆ
และค่อยขยับดันหุ้นขึ้น วันละนิดละหน่อย
เก็บหุ้นเรื่อยๆบางครั้งต้องใช้เวลาหลายวัน
หลังจากการเก็บหุ้น และทุบเสร็จ
ก็มาถึงตอนลากหุ้น หรือเรียกตามภาษาคอหุ้นลุ้นโชคว่า...
สร้างราคา
ในมือของกลุ่มคน กลุ่มนี้ได้หุ้นมาในจำนวนที่ต้องการแล้ว
ก็เริ่ม ตั้งขายเอง
และให้พวกตัวเองไล่เคาะซื้อกันขึ้นไป
ซื้อกันแบบมีวอลุ่มหนาแน่น ถ้าจะให้คนเข้ามาร่วมแจม
ก็ควรติดTOP10 ของตะหลาด
เฉลี่ยบต้นทุน บวก-ลบ-คูณหาร
ว่าทำกันมาแรมเดือนจะได้กำไรเท่าไหร่ก็ขาย
พร้อมปล่อยข่าวดี ข่าวลือ บางเจ้ามือเก็บหุ้นได้พอ
แล้วให้เด็กเขียนบทวิเคราะห์ให้เวปบอร์ด
หนังสือพิมพ์ ทีวี เป็นข้อมูลพื้นฐานจ่ายแจกฟรีอีก ประมาณนั้น
เวลาขายก็จะมีคนมาช่วยรับด้วยความโลภ
เห็นพฤกติกรรม เจ้าหุ้นตัวนี้
เวลาลงแล้วมันเด้งขึ้นเคยได้เป็นกอรปเป็นกำ
ของเคยกินเคยใช้บริการ
หากเจ้ามือตบสั่งลาครั้งสุดท้ายเข้าไปรับก็เก็บไว้
ไม่ขาย ไม่ขาดทุนเหมือนเดิม
แต่ถ้าไม่อยากมีปัญหาเหมือนเฮียสอง
ควรจะตกลงกับเจ้าของบ้านให้เรียบร้อย
จะได้ไม่เกิดปัญหา ไปขึ้นโรงขึ้นศาล
เสียงเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์
ที่มา : น่าอ่านมากๆครับ ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=prachaya555
มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่เป็นคดีตัวอย่างมีเพียงหนึ่งคดี
แต่ผู้ต้องข้อกล่าวหากับ ชื่อ สอง
เขียนถึง...การปั่นหุ้น
ทุบหุ้น ลากหุ้น ตบหุ้น เทหุ้น ทิ้งหุ้น
อ่านกี่ครั้งกี่หน มันก็มาอีหรอบเดิมนั่นหล่ะ
ซ้ำๆซากๆน่าเบี่ย..ซะงั้น
ก่อนจะปั่นหุ้น เจ้ามือ
ก็ต้องหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์
เก็บหุ้นกันก่อน ให้ได้จำนวนเพื่อคุ้มค่ากับการลงทุน
รอว่าการเก็บ ก็ต้องหาวิธีการมาเขย่าหุ้นก่อน
ลากขึ้นให้คนสนใจ
ให้คนถือครองหุ้นหันมามอง เอ๊ยหุ้น....ไปแร้ววว ไปแล้ว
ทุบหุ้นให้คนสนใจอีก
ทิ้งกันทีละหลายสเต็บ (บางครั้งมองเหมือนหมดสภาพ)
ปล่อยข่าวร้าย จากห้องค้าหนึ่งไปห้องค้าหนึ่งเป็นข่าวลือ
ให้คนถือหุ้นตัวนั้น เกิดการ เสียดาย
รู้งี้ ตรูขายตอนราคาสูงสุดสุด
รู้งี้ ตรูจะมารับกลับตอนมันแดงๆนี่ล่ะ
บวกลบคูณหาร ตรูรับเละ
พอเห็นมันไหลลง บางคนถอดใจก็ขายทิ้ง
เพื่อไปหาหุ้นที่มีอนาคตดีกว่าตัวที่ถือ
หลังจากพวกร่วมมือกันทุบลง (จนน่าพอใจ)
ก็เริ่มตั้งรับ ไม่ให้หลุดราคานั้นๆ
และค่อยขยับดันหุ้นขึ้น วันละนิดละหน่อย
เก็บหุ้นเรื่อยๆบางครั้งต้องใช้เวลาหลายวัน
หลังจากการเก็บหุ้น และทุบเสร็จ
ก็มาถึงตอนลากหุ้น หรือเรียกตามภาษาคอหุ้นลุ้นโชคว่า...
สร้างราคา
ในมือของกลุ่มคน กลุ่มนี้ได้หุ้นมาในจำนวนที่ต้องการแล้ว
ก็เริ่ม ตั้งขายเอง
และให้พวกตัวเองไล่เคาะซื้อกันขึ้นไป
ซื้อกันแบบมีวอลุ่มหนาแน่น ถ้าจะให้คนเข้ามาร่วมแจม
ก็ควรติดTOP10 ของตะหลาด
เฉลี่ยบต้นทุน บวก-ลบ-คูณหาร
ว่าทำกันมาแรมเดือนจะได้กำไรเท่าไหร่ก็ขาย
พร้อมปล่อยข่าวดี ข่าวลือ บางเจ้ามือเก็บหุ้นได้พอ
แล้วให้เด็กเขียนบทวิเคราะห์ให้เวปบอร์ด
หนังสือพิมพ์ ทีวี เป็นข้อมูลพื้นฐานจ่ายแจกฟรีอีก ประมาณนั้น
เวลาขายก็จะมีคนมาช่วยรับด้วยความโลภ
เห็นพฤกติกรรม เจ้าหุ้นตัวนี้
เวลาลงแล้วมันเด้งขึ้นเคยได้เป็นกอรปเป็นกำ
ของเคยกินเคยใช้บริการ
หากเจ้ามือตบสั่งลาครั้งสุดท้ายเข้าไปรับก็เก็บไว้
ไม่ขาย ไม่ขาดทุนเหมือนเดิม
แต่ถ้าไม่อยากมีปัญหาเหมือนเฮียสอง
ควรจะตกลงกับเจ้าของบ้านให้เรียบร้อย
จะได้ไม่เกิดปัญหา ไปขึ้นโรงขึ้นศาล
เสียงเวลา เสียเงิน เสียอารมณ์
ที่มา : น่าอ่านมากๆครับ ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=prachaya555