หน้า 4 จากทั้งหมด 6
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 21, 2010 11:24 pm
โดย sunrise
[quote="Notelio"]ผมเริ่มเล่นหุ้นปี 44 หลังเหตุการณ์ 911 อาทิตย์นึง ได้กำไรจากหุ้นช่วงปี 47 ที่ดัชนีขึ้นจาก 400 มา 800 ฐานเงินขึ้นมาเป็นเลข 7 หลัก ครั้งแรก ตอนนั้นเล่นแต่ warrant ได้กำไรตลอดเรียกว่าตัวไหนมี warrant ผมเล่นหมด เพราะมองว่ามันได้กำไรเร็วกว่าหุ้นแม่
สุดท้ายก็พลาด กับหุ้น nep-w1 ซื้อราคา 7 บาท แล้วก็ถือราคาก็ไหลลงเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่มีสภาพคล่องให้ขาย จำได้ว่าทุกวันที่นั่งดูราคา ก็เครียดตลอด จนในที่สุดก็ต้องตัดใจขาย ที่ 4 บาท ขาดทุนหนักสุดในช่วงนั้นเกือบ 3 แสน แต่สิ่งที่ได้รับมาคือความรู้สึกสบายใจหลัง cutloss ความเครียดทุกอย่างหายไปหมด เหมือนกับเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว ทั้งๆ ที่ขาดทุนหนักแต่หัวสมองโล่ง กลับมาหาหุ้นตัวอื่นเล่นได้อีก
ตัวต่อมา คือ Raimon ตอนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นปัจจุบันซื้อหุ้นจากกลุ่ม ไทเก้น ที่ แถว 1.70 บาท ตอนนั้นราคาในกระดานอยู่ที่ 1.50 บาท มีการโยนบิ๊กล็อตกันในกระดาน
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 12:33 am
โดย charnengi
ของผมต้อง bat3k ตอนซ้ือประมาณ 50 บาท เก็งกลุ่ม auto ซ่ึงเรียกว่าขาข้ึน
ข่าว ego car มีให้ดูทุกวัน ประกาศกำไร q ละ 3-5 บาท
ราคาข้ึนไป 80 บาท พอราคาตะก่ัวลงนึกว่าจะไม่หนัก เก็บเพ่ิมเร่ือย สุดท้ายต้องตัดขาดทุนไปแถว 40ต้นๆ เสียไป 3 แสน
เร่ืองน้ีสอนให้รู้ว่าอย่าดูแค่pe ต่ำ ปันผลเยอะ เลยซ้ือ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 1:32 am
โดย moomoo
ของผมเริ่มเข้าตลาดก่อน subprime 1 ปีครับ เข้ามาเปิดดูในเวป thaivi ครับ ศึกษาข้อมูลย้อนหลังได้อ่านบทความและอดีตเห็น 3 ทหารเสือชุดแรกขึ้นเป็นหลายเท่าครับ ต่อมาหลังจากสามทหารเสือชุดแรก ผมก็มาได้อ่านเจอสามทหารเสือชุดที่สองครับ ผมเลือก ptl ถ้าจำไม่ผิดผมมาเริ่มซื้อตอนเริ่มแพงแล้วครับ ราคาประมาณ 6 บาทและเริ่มเก็บเพิ่มไปเรื่อย ๆ ครับ เก็บไปจนถึง 7 บาทกว่าครับ เก็บจนเงินหมด ไม่ซื้อตัวอื่นเลยครับ (นิสัยเสียมาก ๆ ครับ) ตอนนั้นทุกคนในเวปมองกันว่าน่าจะได้เห็นสองหลักครับ ทุกอย่างดูดีไปหมดครับ ทำไงดีตังค์หมดก็เปิดมาร์จิ้นเลยสิครับ ให้ MM 50% ด้วยครับ ยิ้มเลยครับ อัดเต็มพอร์ตซื้อไปจนถึง 7.5 บาทครับก่อนประกาศผลประกอบการ 1 วันครับ ประกาศเสร็จผมยังไม่รู้เลยครับ ว่ามันแย่ลงเห็นว่ากำไรน้อยลงนิดหน่อยไตรมาสหน้าจะดีขึ้น เปิดเช้ามาที่ 7.2 ครับหลังจากนั้นก็ลงมาตลอดครับ ไม่เป็นไรเราไม่ขาย ธุรกิจยังโอเค ไม่เป็นไรถือได้ (ลืมบอกครับว่าตอนนั้นผมเป็นบ้าขนาดเอาวงเงิน OD มาซื้อด้วยครับ เพื่อน ๆ ที่เคยคุยด้วยก็เตือนนะครับว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง ผมก็หลงตัวเองบอกว่ายังไงก็ไม่ต่ำกว่า 5.8 อยู่แล้ว เพราะถ้าต่ำกว่าจะโดน Call ครับ ถือได้ปีเศษเกิด subprime หุ้นลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน โดน call แน่ยังมั่นใจอีก เอาที่ดินที่มีไปจำนองแบงค์แบบเร็วมาซื้อหุ้นเพิ่มครับ เพราะเห็นว่าแค่ 5 บาทกว่าถูกจะแย่ซื้อเสร็จยังโอนเข้าไปค้ำประกันได้ 2/3 ของเงินสดอีกแนะ เรื่องอะไรหุ้นถูกขนาดนี้จะเอาไปใช้หนี้ สู้ดีซื้อหู้นดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็ซื้อตลอดทางครับ ยิ่งซื้อยิ่งลง ตังค์หมดเอาตึกที่ร้านไปจำอีก ทำเหมือนเดิมครับเพราะไม่คิดว่าขนาด 4 บาทกว่าจะถูกขนาดนี้ ใครขายมาเนี่ยโง่จัง เราฉลาดจัง เป็นไงหล่ะครับ เหลือสามบาทกว่า เอารถสามคันไปจำแบบไฟแนนซ์นอกครับ ดอกแพงกว่าแบบในระบบเท่าตัวแต่ได้เงินภายในวัน แต่ต้องจอดรถกับเค้าไว้เลยครับ ลืมบอกไปผมเปิดร้านขายคอมตอนนั้นก็ดึงเงินจากหน้าร้านซื้อหุ้นเพิ่มทุกวันเพื่อที่จะโอนหุ้นเข้าครับ สิ่งที่ได้ประสบการณ์คือยิ่งโอนหุ้นเข้าค้ำ เวลาหุ้นยิ่งลงตัวเงินที่โดน Call ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มขึ้นครับ เพราะหุ้นที่โอนเข้าไปค้ำมูลค่าลดลงครับ ตอนนั้นผมเจรจาหยุดจ่ายเจ้าหนี้การค้าทุกคนเลยครับ เป็นเวลาสองเดือน ยอมจ่ายดอกเบี้ยแต่ไม่หนี้นะครับ ผมโทรหาเจ้าหนี้ทุกคนแต่บอกไม่ได้ว่าเสียหุ้นครับ จนกระทั่งลงไปเหลือ 2.88 ครับราคานี้จำได้ดีเพราะผมจำนำและขายทุกอย่างเท่าที่ขายได้หมดแล้ว ผมทำได้สองทางครับ จะไล่ราคาหุ้นกลับเพื่อให้ไม่ต้องโดน force sell หรือจะขาย ผมตัดสินใจไล่ราคากลับครับ เพราะวอลุ่มบางครับ ถ้าผมขายราคาลงต่อก็โดน force sell อยู่ดีครับ ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ สมมติเริ่มต้นผมมี 100 บาทกู้มาร์จิ้น 100 บาท วันที่ราคาเหลือ 2.88 เงินผมเหลือแค่ 8 บาทครับ เพราะผมซื้อหุ้นแล้วโอนเข้าค้ำแทนที่จะใช้หนี้ตลอดทางขาลง ผมตัดสินใจผิดมหันต์ครับ เพราะไม่คิดว่าหุ้นจะลงได้ลึกขนาดนี้ บริษัทก็ดี ไม่ได้แย่ลง แต่ลืมนึกว่าตอนนั้นทุกคนต้องขาย บ้างก็โดน force ถ้าเงินใส่ไม่ได้ วันนั้นผมเลยตัดสินใจไล่ราคากลับครับ วัดดวงครั้งสุดท้าย จนราคาไปปิดประมาณ 3 บาทนิด ๆ ผมรอด force ครับ แต่ผมมีเวลา 5 วันในการหาเงินมาใส่ เพราะโดน call ครับ และมีเวลา 3 วันที่จะมาจ่ายค่าหุ้นที่ไล่ราคาครับ เพื่อน ๆ คงงงว่าทำไมผมไม่ตัดสินใจขายเพราะถ้าขาย ณ ตอนนั้น ราคาลดผมก็โดน force อยู่ดีครับ ยิ่งขายยิ่งแย่ดู่แล้วถ้าตอนนั้นหุ้นหมดแต่หนี้มาร์จิ้นหมดผมก็ยอมครับ แต่ดูแล้วถ้าโดน force หมดผมคงติดลบอีกบาน ต้องหาเงินใช้หนี้อีกทั้งชีวิตครับ สรุปว่าหาเงินจ่ายตลอด 2 เดือนครับ หยุดจ่ายเจ้าหนี้ จำนำและขายทุกอย่าง ขนาดทองหมั้นแม่ผมรู้ยังเอาทองของแฟนไปไว้ที่แบงค์กลัวผมเอาไปขายเลยครับ ผมโชคดีที่แฟนไม่ว่าอะไรซักคำ ไม่ด่าและช่วยเป็นกำลังใจให้ครับ หลังจากไล่กลับมาสามบาทเศษวันนั้น หุ้นก็ค่อย ๆ ปรับขึ้นวันละนิดครับ ผ่านไป 5 วันราคาก็ขึ้นมาเกินจาก call ครับ
ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่าอย่ามั่นใจอะไรมากเกินไป อย่าโลภ อย่าลงทุนเกินตัว ถ้าผมกินเงินเดือนป่านนี้คงหมดตัวแล้วครับ ดีแต่ว่าค้าขายยังดึงเงินหน้าร้านมาจ่ายได้ สมมติว่าถ้าหุ้นฟื้นช้ากว่านี้อีกแค่สองวันหรือมีคนโดน force ลงมาอีกตอนนี้ผมคงเป็นคนล้มละลายแล้วครับ ขอเป็นประสบการณ์ให้คนที่ได้กำไร ณ ตอนนี้ระวังเรื่องมาร์จิ้นด้วยนะครับ อันตรายถึงชีวิตครับ และอย่าใส่ไข่ในตระกร้าใบเดียวครับ เพราะเวลาหุ้นลงสภาพคล่องหายขายไม่ได้ อยากขายก็ขายไม่ได้ครับ ตอนซื้อซื้อเยอะก็ต้องซื้อแพงอีกไม่มีอะไรดีเลยครับ ผมถือว่าผมยังโชคดีนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่ารอบหน้าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือไม่ หลังจากรอบนี้ผมตั้งใจจะเปลี่ยนทั้งเรื่องมาร์จิ้น เรื่องซื้อหุ้นตัวเดียว เรื่องมั่นใจในตัวเอง แล้วครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 2:16 am
โดย blueplanet
ขอบคุณ moomoo ครับ
ผมจะไม่เล่นมาจิ้นตลอดชีวิต
ถ้ามั่นใจมากกู้เงินธนาคารมาเล่น ดีกว่า
อย่างไรก็ไม่ถูก force sale
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 2:37 am
โดย Juninho
moomoo เขียน:ของผมเริ่มเข้าตลาดก่อน subprime 1 ปีครับ เข้ามาเปิดดูในเวป thaivi ครับ ศึกษาข้อมูลย้อนหลังได้อ่านบทความและอดีตเห็น 3 ทหารเสือชุดแรกขึ้นเป็นหลายเท่าครับ ต่อมาหลังจากสามทหารเสือชุดแรก ผมก็มาได้อ่านเจอสามทหารเสือชุดที่สองครับ ผมเลือก ptl ถ้าจำไม่ผิดผมมาเริ่มซื้อตอนเริ่มแพงแล้วครับ ราคาประมาณ 6 บาทและเริ่มเก็บเพิ่มไปเรื่อย ๆ ครับ เก็บไปจนถึง 7 บาทกว่าครับ เก็บจนเงินหมด ไม่ซื้อตัวอื่นเลยครับ (นิสัยเสียมาก ๆ ครับ) ตอนนั้นทุกคนในเวปมองกันว่าน่าจะได้เห็นสองหลักครับ ทุกอย่างดูดีไปหมดครับ ทำไงดีตังค์หมดก็เปิดมาร์จิ้นเลยสิครับ ให้ MM 50% ด้วยครับ ยิ้มเลยครับ อัดเต็มพอร์ตซื้อไปจนถึง 7.5 บาทครับก่อนประกาศผลประกอบการ 1 วันครับ ประกาศเสร็จผมยังไม่รู้เลยครับ ว่ามันแย่ลงเห็นว่ากำไรน้อยลงนิดหน่อยไตรมาสหน้าจะดีขึ้น เปิดเช้ามาที่ 7.2 ครับหลังจากนั้นก็ลงมาตลอดครับ ไม่เป็นไรเราไม่ขาย ธุรกิจยังโอเค ไม่เป็นไรถือได้ (ลืมบอกครับว่าตอนนั้นผมเป็นบ้าขนาดเอาวงเงิน OD มาซื้อด้วยครับ เพื่อน ๆ ที่เคยคุยด้วยก็เตือนนะครับว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง ผมก็หลงตัวเองบอกว่ายังไงก็ไม่ต่ำกว่า 5.8 อยู่แล้ว เพราะถ้าต่ำกว่าจะโดน Call ครับ ถือได้ปีเศษเกิด subprime หุ้นลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน โดน call แน่ยังมั่นใจอีก เอาที่ดินที่มีไปจำนองแบงค์แบบเร็วมาซื้อหุ้นเพิ่มครับ เพราะเห็นว่าแค่ 5 บาทกว่าถูกจะแย่ซื้อเสร็จยังโอนเข้าไปค้ำประกันได้ 2/3 ของเงินสดอีกแนะ เรื่องอะไรหุ้นถูกขนาดนี้จะเอาไปใช้หนี้ สู้ดีซื้อหู้นดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็ซื้อตลอดทางครับ ยิ่งซื้อยิ่งลง ตังค์หมดเอาตึกที่ร้านไปจำอีก ทำเหมือนเดิมครับเพราะไม่คิดว่าขนาด 4 บาทกว่าจะถูกขนาดนี้ ใครขายมาเนี่ยโง่จัง เราฉลาดจัง เป็นไงหล่ะครับ เหลือสามบาทกว่า เอารถสามคันไปจำแบบไฟแนนซ์นอกครับ ดอกแพงกว่าแบบในระบบเท่าตัวแต่ได้เงินภายในวัน แต่ต้องจอดรถกับเค้าไว้เลยครับ ลืมบอกไปผมเปิดร้านขายคอมตอนนั้นก็ดึงเงินจากหน้าร้านซื้อหุ้นเพิ่มทุกวันเพื่อที่จะโอนหุ้นเข้าครับ สิ่งที่ได้ประสบการณ์คือยิ่งโอนหุ้นเข้าค้ำ เวลาหุ้นยิ่งลงตัวเงินที่โดน Call ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มขึ้นครับ เพราะหุ้นที่โอนเข้าไปค้ำมูลค่าลดลงครับ ตอนนั้นผมเจรจาหยุดจ่ายเจ้าหนี้การค้าทุกคนเลยครับ เป็นเวลาสองเดือน ยอมจ่ายดอกเบี้ยแต่ไม่หนี้นะครับ ผมโทรหาเจ้าหนี้ทุกคนแต่บอกไม่ได้ว่าเสียหุ้นครับ จนกระทั่งลงไปเหลือ 2.88 ครับราคานี้จำได้ดีเพราะผมจำนำและขายทุกอย่างเท่าที่ขายได้หมดแล้ว ผมทำได้สองทางครับ จะไล่ราคาหุ้นกลับเพื่อให้ไม่ต้องโดน force sell หรือจะขาย ผมตัดสินใจไล่ราคากลับครับ เพราะวอลุ่มบางครับ ถ้าผมขายราคาลงต่อก็โดน force sell อยู่ดีครับ ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ สมมติเริ่มต้นผมมี 100 บาทกู้มาร์จิ้น 100 บาท วันที่ราคาเหลือ 2.88 เงินผมเหลือแค่ 8 บาทครับ เพราะผมซื้อหุ้นแล้วโอนเข้าค้ำแทนที่จะใช้หนี้ตลอดทางขาลง ผมตัดสินใจผิดมหันต์ครับ เพราะไม่คิดว่าหุ้นจะลงได้ลึกขนาดนี้ บริษัทก็ดี ไม่ได้แย่ลง แต่ลืมนึกว่าตอนนั้นทุกคนต้องขาย บ้างก็โดน force ถ้าเงินใส่ไม่ได้ วันนั้นผมเลยตัดสินใจไล่ราคากลับครับ วัดดวงครั้งสุดท้าย จนราคาไปปิดประมาณ 3 บาทนิด ๆ ผมรอด force ครับ แต่ผมมีเวลา 5 วันในการหาเงินมาใส่ เพราะโดน call ครับ และมีเวลา 3 วันที่จะมาจ่ายค่าหุ้นที่ไล่ราคาครับ เพื่อน ๆ คงงงว่าทำไมผมไม่ตัดสินใจขายเพราะถ้าขาย ณ ตอนนั้น ราคาลดผมก็โดน force อยู่ดีครับ ยิ่งขายยิ่งแย่ดู่แล้วถ้าตอนนั้นหุ้นหมดแต่หนี้มาร์จิ้นหมดผมก็ยอมครับ แต่ดูแล้วถ้าโดน force หมดผมคงติดลบอีกบาน ต้องหาเงินใช้หนี้อีกทั้งชีวิตครับ สรุปว่าหาเงินจ่ายตลอด 2 เดือนครับ หยุดจ่ายเจ้าหนี้ จำนำและขายทุกอย่าง ขนาดทองหมั้นแม่ผมรู้ยังเอาทองของแฟนไปไว้ที่แบงค์กลัวผมเอาไปขายเลยครับ ผมโชคดีที่แฟนไม่ว่าอะไรซักคำ ไม่ด่าและช่วยเป็นกำลังใจให้ครับ หลังจากไล่กลับมาสามบาทเศษวันนั้น หุ้นก็ค่อย ๆ ปรับขึ้นวันละนิดครับ ผ่านไป 5 วันราคาก็ขึ้นมาเกินจาก call ครับ
ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่าอย่ามั่นใจอะไรมากเกินไป อย่าโลภ อย่าลงทุนเกินตัว ถ้าผมกินเงินเดือนป่านนี้คงหมดตัวแล้วครับ ดีแต่ว่าค้าขายยังดึงเงินหน้าร้านมาจ่ายได้ สมมติว่าถ้าหุ้นฟื้นช้ากว่านี้อีกแค่สองวันหรือมีคนโดน force ลงมาอีกตอนนี้ผมคงเป็นคนล้มละลายแล้วครับ ขอเป็นประสบการณ์ให้คนที่ได้กำไร ณ ตอนนี้ระวังเรื่องมาร์จิ้นด้วยนะครับ อันตรายถึงชีวิตครับ และอย่าใส่ไข่ในตระกร้าใบเดียวครับ เพราะเวลาหุ้นลงสภาพคล่องหายขายไม่ได้ อยากขายก็ขายไม่ได้ครับ ตอนซื้อซื้อเยอะก็ต้องซื้อแพงอีกไม่มีอะไรดีเลยครับ ผมถือว่าผมยังโชคดีนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่ารอบหน้าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือไม่ หลังจากรอบนี้ผมตั้งใจจะเปลี่ยนทั้งเรื่องมาร์จิ้น เรื่องซื้อหุ้นตัวเดียว เรื่องมั่นใจในตัวเอง แล้วครับ
อ่านแล้ว เสียวแทน แต่พอมาถึงวันนี้
เหตุการณ์คงเหมือนฟ้าหลังฝนเลยใช่ไหมครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 5:31 am
โดย VSนักลงทุนอริยะ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 7:55 am
โดย moomoo
เคยเล่นแบบเก็งกำไรมาก่อนครับ ส่วนรอบนี้เป็นการเข้ามาลงทุนครั้งแรกตั้งแต่เปิดร้านขายคอมพ์และเก็บเงินก้อนมาได้ครับเพราะผมคิดว่าผมเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ครับ ถ้าไม่ฝืนซื้อหุ้นกลัวว่าจะเก็บตังค์ไม่อยู่เลยใช้ทั้ง OD มาร์จิ้นซื้อจะได้เป็นหนี้ครับ จะได้ขยัน ประหยัด ได้ปันผลด้วย คิดเข้าข้างตัวเองทุกอย่าง ใครเคยคิด bias ตัวเองผมว่าผมนี่สุด ๆ ครับ แล้วยังภูมิใจไปเล่าในงานมีตติ้งอีกครับว่าใช้ทั้งเงินกู้ ใช้ทั้งมาร์จิ้นเต็มพอร์ต แล้วมาอ่านในเวป Thaivi ดูข้อมูลสามทหารเสือชุดแรก ทุกคนรวยหมดครับ สามทหารเสือชุดสองเลยอ่านแล้วครั้งนี้แหละเรารวยแน่ เซียนอยู่เต็มเลย VI หลายคนอยู่เยอะเลยครับ ตอนนั้นห้อง ptl ครึกครื้นมากครับ
ข้อสรุปของผมที่เหลือคือ
-อย่าซื้อตามเซียนบอกครับ ถ้าไม่ได้ศึกษาลึก ๆ เองเพราะเซียนเข้าแล้วถึงมาคุย แต่ตอนเซียนออกส่วนใหญ่เค้าไม่ได้บอกเรานะครับ ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ว่าพองบออกเซียนแต่ละคนเห็นถึงปัญหาแล้ว พอเริ่มเกิดวิกฤตคนที่เป็นเซียนจะรู้ด้วยครับว่าจะต้องลดพอร์ต ลดหนี้ ผมกลับทำตรงข้ามมั่นใจตัวเองสุด หนี้ไม่ใช้ไม่ว่าครับ แถมยังซื้อเพิ่มแบบเต็มตัว โดยไม่รู้ว่านรกกำลังรออยู่ข้างหน้าครับ
- ถ้าเล่นมาร์จิ้นหรือกู้เงินมาเล่นห้ามบอกใครครับ เพราะถ้าเกิดวิกฤตคนอื่นจะรู้ครับว่าเราจะโดน Call หรือ force มีหลายคนครับที่ขายหุ้นตัวนี้เพราะกลัวว่าผมจะโดน call หรือ force เค้าเลยขายหุ้นตัวนี้ก่อน
- ถ้าจะเล่นมาร์จิ้น ห้ามซื้อหุ้นตัวเดียวหรือหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องครับ เพราะถึงหุ้นดียังไงเวลาหุ้นลงเราก็โดนอยู่ดีครับ ถ้าจำเป็นหรืออยากใช้มาร์จิ้น ให้กระจายตัวหุ้น และซื้อหุ้นที่มีสภาพคล่องครับ แต่ห้ามซื้อตัวเดียวที่มีสภาพคล่องนะครับ เพราะเวลาหุ้นลง คุณจะรู้ว่าสภาพมันหายไปโดยไม่รู้ตัว เหมือน ptl ครับ ยิ่งลงวอลุ่มยิ่งหายวันที่ลงไป 2.88 ซื้อขายถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะแค่สองถึงสามแสนหุ้นครับ วันนั้นผมเลยต้องวัดดวงไล่ราคาเองครับ ถ้าโชคร้ายไม่สำเร็จหรือราคาไม่กลับมาภายในวันนั้น ย้ำนะครับว่าวันเดียวจริง ๆ ครับ วันนี้ผมคงเป็นคนล้มละลายไปแล้วครับ คนอื่นว่าเสียหุ้นเงินทั้งก้อน ผมคิดว่าผมคงเงินทั้งชีวิตที่หามาได้ ที่ดิน บ้าน รถ ก็อยู่ในแบงค์ ไฟแนนซ์ และหนี้มาร์จิ้นที่หลังจากโดน force แล้วก็คงเหลืออีกกระจาย นึกไม่ออกครับว่าจะเป็นยังไงต่อไป ณ ตอนนั้นผมเลยตั้งใจครับและไปไหว้ขอพระด้วยครับว่าถ้าผมรอดจากวิกฤตนี้ไปได้ ผมจะขอบวชครับ (เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ ลืมบอกด้วยครับว่า ทั้งพ่อ แม่ แฟน น้องชาย ทุกคนทำงานอยู่ที่ร้านผมหมดครับ แปลว่าถ้าเป็นอะไรมาไม่ใช่เฉพาะผมครับที่ล้ม ทุกคนในครอบครัวโดนหมดครับ ถ้าโดนเฉพาะผมคนเดียว อย่างมากก็ล้มละลายครับ แต่นี่ทุกคนที่ไม่ได้ทำต้องมาโดนด้วย พ่อแม่ผมทำงานมาทั้งชีวิตไม่เคยกู้เงินเลยเก็บเล็กผสมน้อย ต้องมาเจ๊งด้วยมือผม เสียใจสุด ๆ ครับ สมแล้วครับที่พ่อกับแม่ผมซึ่งเคยเล่นหุ้นก่อนปี 40 และมาเจ๊งหุ้นเหมืนกันตอนปี 40 แต่ไม่ได้เล่นเกินตัวเหมือนผมนะครับ เล่นเท่าที่มีเงินสด สอนผมว่า
มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานอย่าเล่นหุ้นด้วยมาร์จิ้น เป็นไงครับถ้าผมเชื่อท่านอย่างน้อยหุ้นราคาลง ถ้าเป็นหุ้นที่ดีก็ไม่ต้องดูราคาหุ้นซักปีสองปีก็ได้ครับหนีไปเที่ยวได้เลยครับ แต่นี่ต้องดูราคาปิดทุกวัน แล้วมาดูว่าจะต้องหาเงินจ่ายวันนี้เท่าไหร่ จนแฟนผมถามครับว่าเมื่อไหร่จะจ่ายหมด เพราะจ่ายทุกวันตลอดสองเดือน ผมไม่รู้จะบอกแฟนยังไงครับว่าถ้าโดน force เงินที่ลงมาแล้วทั้งหมดไม่ได้คืนครับ แถมยังต้องเป็นหนี้มาร์จิ้นไปอีกชั่วชีวิตครับ
ถ้าใครจะเล่นมาร์จิ้นเพราะเห็นช่วงนี้หุ้นขึ้นเยอะ ช่วยเตือนตัวเองด้วยนะครับว่าจะมีใครโชคดีเหมือนผมครับ ที่ผ่านเหตุการณ์นี้มาเล่าให้ฟังได้ เพราะผมมั่นใจว่าต้องมีคนตายที่ไม่ได้มาเล่าเหมือนผมเยอะเหมือนกันนะครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 8:55 am
โดย หมีขาว
ผมขอคารวะพี่ moomoo ครับ ที่แชร์ประสบการณ์ ผมตามอ่าน ptl มาเรื่อยๆ รู้ว่าพี่ moomoo โดนหนัก แต่ไม่ทราบว่าจะหนักขนาดนี้ครับ
แต่ก็ผ่านมาได้อย่างสวยงาม นับถือจริงๆ ครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:41 am
โดย VI Wannabe
ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ สมมติเริ่มต้นผมมี 100 บาทกู้มาร์จิ้น 100 บาท วันที่ราคาเหลือ 2.88 เงินผมเหลือแค่ 8 บาทครับ
ขนลุกเลยแหะ
ขอบคุณจริงๆครับที่เข้ามา share ประสบการณ์
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 10:50 am
โดย sunrise
มาคาราวะพี่ moomooครับ
เป็นคนที่ใจถึงมาก
ยินดีด้วยครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 10:57 am
โดย jverakul
moomoo เขียน: เพราะผมมั่นใจว่าต้องมีคนตายที่ไม่ได้มาเล่าเหมือนผมเยอะเหมือนกันนะครับ
ขอบคุณคุณ moomoo มากๆ นะครับ ที่อุตสาห์มาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 11:42 am
โดย Croyoty
ผมว่าคนที่มีประสบการณ์เลวร้ายกว่าพี่ moomoo มีอยู่มากครับ
และไม่ได้แสดงตัวหรือแชร์ประสบการณ์
บ้างอาจจะละอาย บ้างอาจจะตายไปแล้ว บ้างอาจจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับหุ้นไปตลอดชีวิต
ท่านใดประสบการณ์แย่ เลวร้ายหนักหน่วงกว่า พี่ moomoo เชิญเลยครับ
เพื่อเป็นบทเรียนทางปัญญาและสติให้กับท่านอื่นๆต่อไปครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 11:51 am
โดย kurapica
ผมก็เข้าตลาดก่อนเกิดวิกฤตซับไพมร์ไม่กี่เดือน ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร(ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไร)
เห็นเพื่อนคุยกันเรื่องหุ้นเลยลองดูบ้าง โชคดีที่มีเงินไม่เท่าไร เลยเจ๊งไม่เยอะ
เจ๊งทรูตอนนั้นมีประมาณ 50% ของพอร์ท ซื้อตอน 6.xx ขายตอน 2.xx
ตอนนี้ก็ขอเกาะบริษัทฟิมล์ ตามพี่ moomoo ไปด้วยคนนะ :D
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 1:14 pm
โดย Jazzman
อ่านแล้วขนลุกเลยคับ ขอบคุณที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ให้น้องๆ มือใหม่แบบผม
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 1:43 pm
โดย jame
คุณพระช่วยครับ บุญเก่าดีจริงๆ หัวจิตหัวใจเยี่ยมมากครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 3:58 pm
โดย Sloth
ขอบคุณ คุณmoomoo ที่มาเล่าประสบการณ์ครับ ผมว่าเป็นประโยชน์มากๆ นึกไม่ถึงเรื่องใช้มาร์จิ้นเล่นจะน่ากลัวได้ขนาดนี้
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 7:05 pm
โดย Boomcity
moomoo เขียน:ของผมเริ่มเข้าตลาดก่อน subprime 1 ปีครับ เข้ามาเปิดดูในเวป thaivi ครับ ศึกษาข้อมูลย้อนหลังได้อ่านบทความและอดีตเห็น 3 ทหารเสือชุดแรกขึ้นเป็นหลายเท่าครับ ต่อมาหลังจากสามทหารเสือชุดแรก ผมก็มาได้อ่านเจอสามทหารเสือชุดที่สองครับ ผมเลือก ptl ถ้าจำไม่ผิดผมมาเริ่มซื้อตอนเริ่มแพงแล้วครับ ราคาประมาณ 6 บาทและเริ่มเก็บเพิ่มไปเรื่อย ๆ ครับ เก็บไปจนถึง 7 บาทกว่าครับ เก็บจนเงินหมด ไม่ซื้อตัวอื่นเลยครับ (นิสัยเสียมาก ๆ ครับ) ตอนนั้นทุกคนในเวปมองกันว่าน่าจะได้เห็นสองหลักครับ ทุกอย่างดูดีไปหมดครับ ทำไงดีตังค์หมดก็เปิดมาร์จิ้นเลยสิครับ ให้ MM 50% ด้วยครับ ยิ้มเลยครับ อัดเต็มพอร์ตซื้อไปจนถึง 7.5 บาทครับก่อนประกาศผลประกอบการ 1 วันครับ ประกาศเสร็จผมยังไม่รู้เลยครับ ว่ามันแย่ลงเห็นว่ากำไรน้อยลงนิดหน่อยไตรมาสหน้าจะดีขึ้น เปิดเช้ามาที่ 7.2 ครับหลังจากนั้นก็ลงมาตลอดครับ ไม่เป็นไรเราไม่ขาย ธุรกิจยังโอเค ไม่เป็นไรถือได้ (ลืมบอกครับว่าตอนนั้นผมเป็นบ้าขนาดเอาวงเงิน OD มาซื้อด้วยครับ เพื่อน ๆ ที่เคยคุยด้วยก็เตือนนะครับว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง ผมก็หลงตัวเองบอกว่ายังไงก็ไม่ต่ำกว่า 5.8 อยู่แล้ว เพราะถ้าต่ำกว่าจะโดน Call ครับ ถือได้ปีเศษเกิด subprime หุ้นลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน โดน call แน่ยังมั่นใจอีก เอาที่ดินที่มีไปจำนองแบงค์แบบเร็วมาซื้อหุ้นเพิ่มครับ เพราะเห็นว่าแค่ 5 บาทกว่าถูกจะแย่ซื้อเสร็จยังโอนเข้าไปค้ำประกันได้ 2/3 ของเงินสดอีกแนะ เรื่องอะไรหุ้นถูกขนาดนี้จะเอาไปใช้หนี้ สู้ดีซื้อหู้นดีกว่า คิดได้ดังนั้นก็ซื้อตลอดทางครับ ยิ่งซื้อยิ่งลง ตังค์หมดเอาตึกที่ร้านไปจำอีก ทำเหมือนเดิมครับเพราะไม่คิดว่าขนาด 4 บาทกว่าจะถูกขนาดนี้ ใครขายมาเนี่ยโง่จัง เราฉลาดจัง เป็นไงหล่ะครับ เหลือสามบาทกว่า เอารถสามคันไปจำแบบไฟแนนซ์นอกครับ ดอกแพงกว่าแบบในระบบเท่าตัวแต่ได้เงินภายในวัน แต่ต้องจอดรถกับเค้าไว้เลยครับ ลืมบอกไปผมเปิดร้านขายคอมตอนนั้นก็ดึงเงินจากหน้าร้านซื้อหุ้นเพิ่มทุกวันเพื่อที่จะโอนหุ้นเข้าครับ สิ่งที่ได้ประสบการณ์คือยิ่งโอนหุ้นเข้าค้ำ เวลาหุ้นยิ่งลงตัวเงินที่โดน Call ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มขึ้นครับ เพราะหุ้นที่โอนเข้าไปค้ำมูลค่าลดลงครับ ตอนนั้นผมเจรจาหยุดจ่ายเจ้าหนี้การค้าทุกคนเลยครับ เป็นเวลาสองเดือน ยอมจ่ายดอกเบี้ยแต่ไม่หนี้นะครับ ผมโทรหาเจ้าหนี้ทุกคนแต่บอกไม่ได้ว่าเสียหุ้นครับ จนกระทั่งลงไปเหลือ 2.88 ครับราคานี้จำได้ดีเพราะผมจำนำและขายทุกอย่างเท่าที่ขายได้หมดแล้ว ผมทำได้สองทางครับ จะไล่ราคาหุ้นกลับเพื่อให้ไม่ต้องโดน force sell หรือจะขาย ผมตัดสินใจไล่ราคากลับครับ เพราะวอลุ่มบางครับ ถ้าผมขายราคาลงต่อก็โดน force sell อยู่ดีครับ ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ สมมติเริ่มต้นผมมี 100 บาทกู้มาร์จิ้น 100 บาท วันที่ราคาเหลือ 2.88 เงินผมเหลือแค่ 8 บาทครับ เพราะผมซื้อหุ้นแล้วโอนเข้าค้ำแทนที่จะใช้หนี้ตลอดทางขาลง ผมตัดสินใจผิดมหันต์ครับ เพราะไม่คิดว่าหุ้นจะลงได้ลึกขนาดนี้ บริษัทก็ดี ไม่ได้แย่ลง แต่ลืมนึกว่าตอนนั้นทุกคนต้องขาย บ้างก็โดน force ถ้าเงินใส่ไม่ได้ วันนั้นผมเลยตัดสินใจไล่ราคากลับครับ วัดดวงครั้งสุดท้าย จนราคาไปปิดประมาณ 3 บาทนิด ๆ ผมรอด force ครับ แต่ผมมีเวลา 5 วันในการหาเงินมาใส่ เพราะโดน call ครับ และมีเวลา 3 วันที่จะมาจ่ายค่าหุ้นที่ไล่ราคาครับ เพื่อน ๆ คงงงว่าทำไมผมไม่ตัดสินใจขายเพราะถ้าขาย ณ ตอนนั้น ราคาลดผมก็โดน force อยู่ดีครับ ยิ่งขายยิ่งแย่ดู่แล้วถ้าตอนนั้นหุ้นหมดแต่หนี้มาร์จิ้นหมดผมก็ยอมครับ แต่ดูแล้วถ้าโดน force หมดผมคงติดลบอีกบาน ต้องหาเงินใช้หนี้อีกทั้งชีวิตครับ สรุปว่าหาเงินจ่ายตลอด 2 เดือนครับ หยุดจ่ายเจ้าหนี้ จำนำและขายทุกอย่าง ขนาดทองหมั้นแม่ผมรู้ยังเอาทองของแฟนไปไว้ที่แบงค์กลัวผมเอาไปขายเลยครับ ผมโชคดีที่แฟนไม่ว่าอะไรซักคำ ไม่ด่าและช่วยเป็นกำลังใจให้ครับ หลังจากไล่กลับมาสามบาทเศษวันนั้น หุ้นก็ค่อย ๆ ปรับขึ้นวันละนิดครับ ผ่านไป 5 วันราคาก็ขึ้นมาเกินจาก call ครับ
ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนให้รู้ว่าอย่ามั่นใจอะไรมากเกินไป อย่าโลภ อย่าลงทุนเกินตัว ถ้าผมกินเงินเดือนป่านนี้คงหมดตัวแล้วครับ ดีแต่ว่าค้าขายยังดึงเงินหน้าร้านมาจ่ายได้ สมมติว่าถ้าหุ้นฟื้นช้ากว่านี้อีกแค่สองวันหรือมีคนโดน force ลงมาอีกตอนนี้ผมคงเป็นคนล้มละลายแล้วครับ ขอเป็นประสบการณ์ให้คนที่ได้กำไร ณ ตอนนี้ระวังเรื่องมาร์จิ้นด้วยนะครับ อันตรายถึงชีวิตครับ และอย่าใส่ไข่ในตระกร้าใบเดียวครับ เพราะเวลาหุ้นลงสภาพคล่องหายขายไม่ได้ อยากขายก็ขายไม่ได้ครับ ตอนซื้อซื้อเยอะก็ต้องซื้อแพงอีกไม่มีอะไรดีเลยครับ ผมถือว่าผมยังโชคดีนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่ารอบหน้าจะโชคดีแบบนี้อีกหรือไม่ หลังจากรอบนี้ผมตั้งใจจะเปลี่ยนทั้งเรื่องมาร์จิ้น เรื่องซื้อหุ้นตัวเดียว เรื่องมั่นใจในตัวเอง แล้วครับ
เล่าดีมากครับรู้สึกเหมือนโดนเองเลยด้วย ได้ประสบการณ์จริงๆครับ ขอบคุณพี่ moomoo มากครับ แต่ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้พี่เติบโตได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนๆด้วยนะครับ สู้ๆ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 8:20 pm
โดย pongo
เจอพี่ moomoo ไม่บ่อยครั้ง เห็นพี่เป็นคนยิ้มแย้ม หน้าตาใจดี
รู้ว่าพี่เล่น PTL ตัวเดียว อัดทั้งจิ้น ทั้ง OD แต่ไม่นึกว่าจะโดนหนักถึงขนาดนั้น
รอดจากการเป็นบุคคลล้มละลายมาได้ ก็โชคดีมากๆ เลยครับ
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์เตือนสติแก่น้องๆ ครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 8:42 pm
โดย หมีบึงกุ่ม
อ่านประสบการณ์คุณ moomoo แล้วยังรู้สึกเสียวสันหลังแทนเลยครับ
งบ PTL ออกแล้ววันนี้นับเป็นที่น่าชื่นใจนะครับ ได้เวลาเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่รอคอยมานาน
นับแต่นี้ต่อไป (อย่างน้อยอีกสักปี2ปี) จะเป็นยุครุ่งโรจน์ของ PTL แล้ว ยินดีด้วยครับ ขอให้รวยๆ และบวชได้อย่างสบายใจ
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:06 pm
โดย หมีบึงกุ่ม
^
^
^
เออ...ตั้งใจจะโพสต์แสดงความยินดีด้วยเฉยๆ
ต้องย้ำว่าเป็นความคิดส่วนตัวว่าธุรกิจ PTL จะดีนะครับ
ไม่ได้บอกว่าราคาหุ้นตอนนี้ควรซื้อหรือไม่นะครับ
ว่าไปแล้วเขาก็ขึ้นมาเยอะแล้วนะครับเพิ่งเห็น 6-7 บาทเมื่อไม่นานมานี้เอง
ใครสนใจก็เข้า PTL แล้วไปประเมินราคาเหมาะสมกันเอง
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:11 pm
โดย jojo4624
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์คุณmoomoo เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:23 pm
โดย kibo
ขอบคุณ คุณmoomoo มากครับ
เห็นภาพเลย
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:34 pm
โดย TBJTBT
[quote="Anti-Aircraft"]ซื้อ SSF เมื่อต้นปี เพราะงบสวย การเติบโตสูง พีอีต่ำ คิด DCF ได้ตั้ง 12 บาท แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นหุ้นวัฏจักร ขายทิ้งเพราะมีคนเตือน เลยพอมีกำไรนิดหน่อย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. Biz model สำคัญกว่างบการเงินมากๆ อย่าถูกหลอกด้วยเลขสวยๆ ของ จนมองข้ามพื้นฐานกิจการ
2. คนที่ชอบติหุ้นที่เราถือน่ะน่าคบ มีเอาไว้เยอะๆ รับรองไม่จน
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 9:35 pm
โดย r_men
ประสบการณ์ของท่านmoomooจะเป็นการเตือนสติทุกท่าน.... ขอบคุณครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 11:31 pm
โดย แสนยานุภาพ
ขอบคุณพี่ moomoo มากๆ เลยครับ ที่เล่าประสบการณ์ให้ฟัง
อ่านแล้วยังสงสัยอยู่เลยว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำยังไง
พี่ moomoo เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญมากครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 22, 2010 11:41 pm
โดย เด็กเลี้ยงไม้
ขอบคุณ พี่ moomoo มากๆครับ อ่านแล้วเหงื่อตกเลยทีเดียว
ผมเชื่อว่าประสบการณ์นี้มีประโยชน์กับมือใหม่แบบผม และอีกหลายๆท่านที่เข้ามาอ่านครับ
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 23, 2010 12:00 pm
โดย unnop.t
ฟังประสบการณ์เรื่องมาร์จิ้นของคุณ moomoo แล้ว ช่วยตอกย้ำความคิดของผมว่า ควรห่างมาร์จิ้น อย่าโลภ และพอเพียง ขอบคุณครับ :D
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 26, 2010 11:33 am
โดย Outliers
ผมก็เล่น margin ในหุ้น PTL ตอนนั้นด้วยเหมือนกันครับ
แต่โชคดีที่ถือหลายตัว และเปิด margin ไม่เยอะ เพราะส่วนใหญตอนนั้นผมถือหุ้นพวกสภาพคล่องต่ำและไม่เป็นที่นิยม เลยไม่สามารถขอ margin ได้
ตอนนั้นก็ซื้อถัวไปเยอะเลยตอน 3.5 บาท
ซื้อจน credit หมด เพราะเต็มวงเงินคำประกัน ทำให้ port margin ไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ จะ switch หุ้นก็ไม่ได้ เพราะขายแล้วจะโดนริบเงินไปเป็นเงินคำทันทีเลย
ก็เลยต้องหยุดซื้อขายในบัญชีนี้ไปโดยปริยาย จะใช้ได้ก็แค่บัญชีเงินสดเท่านั้น เลยพลาดตอน PTL 2 บาทเลยครับ
ตอนนั้นจำได้ว่ามีข่างลือว่าที่หุ้น PTL ลงหนักเพราะมีคนโดน force sell ด้วย
จนถึงทุกวันนี้ก็ยังถือ PTL ต่อไป (มีแอบขาย lot ที่ซื้อถัวเฉลี่ยไปตอน 7 บาทต้นๆ หมูหกเต็มๆ)
เพิ่งรู้ว่าคุณ moomoo เป็นเพื่อนร่วมชะตาเดียวกัน
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 26, 2010 12:30 pm
โดย SEHJU
ประสบการณ์ของแต่ละท่านนี่โหดร้ายทั้งนั้นเลยครับ... อ่านแล้วเสียวสันหลังว๊าบเลย
ขอบคุณทุกท่านที่ได้แชร์ประสบการณ์ล้มเหลว ที่ทำให้รุ่นหลังๆไม่ประมาท ไม่ลิงโลดเมื่อได้ผลตอบแทนดีๆ
จะลงทุนยังไงก็ขอให้มีความสุขหลงเหลืออยู่ในหัวใจมั่งนะครับ ถือตัวไหนแล้วรู้สึกโดนกดดันโดนบีบ ก็ต้องลดความเครียดของพอร์ตลงนะครับ อย่าบีบตัวเองและไม่โลภจนเกินไป...
มาแชร์ประสปการณ์ล้มเหลวดีกว่าครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 26, 2010 1:20 pm
โดย dome@perth
ใจเป็น ประธาน จริงๆ