วันนี้พบเหตุการณ์ Case กรณีศึกษาของหุ้น SLC ( Case ที่มี Story ที่คลาสสิคเช่นเดิม )
จากช่วงเช้าราคาพุ่งสูงถึง 0.84 บาท แต่พอบ่ายราคากลับลงมาฟอร์ที่ 0.54 บาท!!!
เลยรีบเข้ามาหาข้อมูลหุ้นตัวนี้ในห้อง "ร้อยคนร้อยคน"
พบว่า...ไม่มีชื่อหุ้นตัวนี้อยู่ในห้องดังกล่าวครับ
แปลว่าคุณภาพของเรายังไม่วิกฤติมั้งครับ 555+
(แซวเล่นหรอกนะครับ...อย่าคิดกันมากนะขอรับ)
------------------------------------------------------------------------------------
ปล.
กรณีศึกษา Case ของหุ้น SLC และ SLC-W1 สุดคลาสสิก
1. ข่าวตอนเช้า
SLC เผยดีลซื้อกิจการ'ฐานเศรษฐกิจ'เลื่อนออกไป 8 เดือน ติดแผนฟื้นฟูฯ
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998)
จำกัด(มหาชน) หรือ SLC กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่า การซื้อ 'หนังสือพิมพ์ฐาน
เศรษฐกิจ' ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า จากแผนเดิมที่คาดว่าดีลดังกล่าวจะสามารถได้ข้อสรุปใน
ช่วงไตรมาส 3/2553 เนื่องจากต้นเดือนที่ผ่านมา ศาลล้มละลายกลางได้รับคำร้องจากลูกหนี้ยื่น
คำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาให้จัดชั้นเจ้าหนี้ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะต้องใช้
เวลาในการดำเนินงานประมาณ 8 เดือน
ทั้งนี้ หากบริษัทฯยังคงเดินหน้าแผนที่จะเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ก็จะมีความเสี่ยงจาก
ประเด็นความไม่ชัดเจนของหนี้สิน โดยดีลดังกล่าวคาดว่าจะเลื่อนตามระยะเวลาการดำเนินการ
ของการจัดชั้นเจ้าหนี้ และคาดว่าดีลดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในปีหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ
เจ้าหนี้เป็นหลัก และหากขั้นตอนการจัดชั้นเจ้าหนี้แล้วเสร็จ บริษัทฯ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าซื้อ
กิจการทันทีและพร้อมเข้าบริหารหนี้ที่มี
" อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีข้อสรุปในดีลดังกล่าวตามที่บริษัทฯวางแผนไว้ในไตรมาส
3/2553 แต่บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในการซื้อกิจการสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะอยู่
ระหว่างขั้นตอนการเจรจา และสรุปตัวเลขที่จะใช้ลงทุน " นายอารักษ์ กล่าว
นอกจากนี้ แม้บริษัทฯ จะสามารถได้ข้อสรุปในการซื้อกิจการสำนักข่าว 1 แห่ง ในไตร
มาส 3/53 แต่บริษัทฯจะไม่ละทิ้งความพยายามในการเข้าซื้อ 'ฐานเศรษฐกิจ' เนื่องจากบริษัทฯ
มีจุดประสงค์ที่จะเป็นสื่อที่มีความหลากหลายและครบวงจร และช่วยต่อยอดจากธุรกิจสื่อที่บริษัทฯ
ได้เริ่มดำเนินธุรกิจ
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 22/07/10 เวลา 9:28:14
2. ข่าวต่อมา
SLCอ้าแขนรับSSEนั่งบริหาร จ่อปรับแผนใหม่ครึ่งปีหลัง
ทันหุ้น - SLC อ้าแขนรับผู้ถือหุ้นใหญ่ SSE นั่งแท่นบริหารเต็มตัว เผยแผนครึ่งปีหลังเตรียมปรับโครงสร้างใหม่หมด ส่วน SLC-T1 คาดรู้ยอดเงินเพิ่มทุนอีก 2 วันข้างหน้า พร้อมยืนกรานจบดีลซื้อหัวสื่อ และทีวีดาวเทียมในไตรมาสนี้แน่ ปักธงเป้ารายได้โต 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 46 ล้านบาท รุกเดินหน้าประมูลงาน 800 ล้านบาทต่อเนื่อง
ฟากโบรกส่องกล้องมองเป้า 0.90 บาท
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า ในขณะนี้ บริษัท ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ SSE ได้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ในสัดส่วน 21.66% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มาก ดังนั้นบริษัทจึงมีความยินดีอย่างยิ่งหากซันไชน์ จะเข้ามาบริหารงาน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด
ขณะนี้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนที่จะปรับโครงสร้างต่างๆ ซึ่งจะหันมาพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ และมีความรู้ความสามารถในงานด้านระบบของ IT มากยิ่งขึ้น โดยบริษัทได้มีการรับบุคลากรเพิ่มเพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เป็นไปตามแผนที่บริษัทได้วางไว้
สำหรับในปีนี้บริษัทยังเน้นธุรกิจหลักของบริษัท คือด้านของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ซึ่งบริษัทได้มีการเปลี่ยนทีมงานใหม่ทั้งหมดเพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น และคงใช้เวลาพอสมควรที่จะทำรายได้เข้ามาให้กับบริษัท ซึ่งมองโดยภาพรวมในปีนี้บริษัทคาดว่าจะขาดทุนเล็กน้อยo เตรียมปรับโครงสร้างใหม่
"ในขณะนี้เราได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ เพื่อเตรียมรองรับกับการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งเราได้มีการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพให้มากกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้เราคาดว่ายังคงขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อน" นายอารักษ์กล่าว
สำหรับในเรื่องของการแปลงสภาพใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (SLC-T1) ซึ่งได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 7-18 มิถุนายน 2553 คาดว่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนอาจจะไม่ถึง 500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแจ้งภายใน 2-3 วันข้างหน้า
ขณะที่ความคืบหน้าในการเจรจาการซื้อหัวสื่อของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ขณะนี้บริษัทไม่ได้มีการเจรจาเฉพาะสื่อเดียวแต่ยังมีอีกหลายสื่อที่บริษัทให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เช่น สื่อทีวีดาวเทียม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2553 นี้o ปักธงเป้ารายได้ โต 20%
นอกจากนี้เป้ารายได้ในปี 2553 บริษัทยังคงตั้งเป้าเติบโตที่ 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 46 ล้านบาท ขาดทุน 28.02 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทคาดว่าในครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะได้รับงานเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกรวมทั้งมีรายการใหม่ที่เข้ามาทำรายได้ให้กับบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสได้รับลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ บริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ทำธุรกิจสื่อโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเคเบิลชื่อ สปริงนิวส์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชม จนสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยหรือ CTH เซ็นสัญญาออกเคเบิลท้องถิ่นทั่วประเทศ และเริ่มออกอากาศเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
o จ่อยื่นประมูลงาน 800 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมที่จะเข้ายื่นประมูลงานภาครัฐมูลค่าไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 4/2553 บริษัทจะเข้ายื่นประมูลประกวดราคาอีกมูลค่าไม่ต่ำกว่า300-400 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะชนะการประมูลงานอย่างน้อย 30%
อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการเข้าไปเจรจาหาตัวแทนการจัดจำหน่ายหรือคู่ค้า (Partner) ในการเข้าไปขายสินค้าด้าน IT แบบครบวงจร ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตลอดจนการบริการในประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกงซึ่งคาดว่าจะเห็นบริษัทนำสินค้าเข้าไปขายในต้นปี 2554 โดยสาเหตุที่บริษัทมองทั้ง 2 ประเทศนี้เป็นหลักเนื่องจากเป็นฐานที่ใหญ่ทางด้านระบบ IT รวมทั้งเป็นกลยุทธ์ของบริษัทที่จะสามารถเพิ่มรายได้เข้ามาอีกทางหนึ่ง
สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน แต่คาดว่านักลงทุนอาจเห็นแนวโน้มของบริษัทที่เริ่มจะดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้ความสนใจในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท และบริษัทได้มีการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพรวมถึงการบริหารจัดการที่ดีขึ้น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ราคาหุ้น SLC มีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ซึ่งการผ่านที่ระดับ 0.55 บาทขึ้นมาได้นั้น อาจจะแค่เป็นจุดเริ่มต้น เพราะแนวต้านตามโครงสร้างมีเป้าหมายอยู่ที่ 0.90 บาท
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น SLC วานนี้ (21 ก.ค.53) ปิดที่ 0.76 บาท เพิ่มขึ้น0.17 บาท เปลี่ยนแปลง 28.81% มูลค่าการซื้อขาย 213.54 ล้านบาท
3. และข่าวสุดท้ายปราบเซียน
ตลท.ไล่สอบหุ้น SLC เตรียมชงเรื่องให้ก.ล.ต.เชือด-ตะลึง!!พบข่าวลือทำราคาหุ้นในห้องค้าเพียบ
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยกับ eFinanceThai .com ว่า
ตลาดหลักทรัพย์ได้เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายหุ้น บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด(มหาชน) หรือ SLC
หลังพบว่ามีการซื้อขายที่ผิดปกติ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการสร้างราคาหลักทรัพย์ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯจะรวบรวม
ข้อมูลเพื่อส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
'ราคาหุ้น SLC ปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรง บางวันชนซิลลิ่ง มีการซื้อขายหนาแน่นผิดปกติ
เมื่อเทียบกับพื้นฐานของบริษัทที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามี
พฤติกรรมซื้อขายในลักษณะโยนกันไปมาภายในกลุ่ม คนซื้อก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ปรากฎชื่อ
ในสื่อประจำ หลังจากนี้ตลาดจะรวบรวมข้อมูลแล้วส่งให้ ก.ล.ต.ดูเชิงลึกต่อไป' แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น SLC ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในวัน
ที่ 9 ก.ค.53 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 0.46 บาท หลังจากนั้นปรับเพิ่มขึ้นรุนแรง จนล่าสุดในวันที่ 21
ก.ค.53 ราคาปิดที่ 0.76 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือเพิ่มขึ้นรวม 65.21% โดยในวันที่ 21
ก.ค. ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นวันเดียว 28.81%
ขณะที่ในวันนี้(22 ก.ค.53)ราคาหุ้น SLC ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ โดยล่าสุดปิดตลาด
ช่วงเช้า ราคาอยู่ที่ระดับ 0.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท หรือ 11.84% มีมูลค่าการซื้อขายหนา
แน่น 144.87 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่ามีกระแสข่าวว่านักลงทุนที่เข้าไปซื้อขายหุ้นดังกล่าวเป็นกลุ่ม
ของนาย 'ฉ' และพวก โดยอาจมีการซื้อขายหุ้นผ่านบริษัท ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)
หรือ SSE ด้วย
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมามีหุ้นหลายตัวซื้อขายหวือ
หวา ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจับตาดูอย่างใกล้ชิด เช่น TMB ,CPF, STA ,TRUBB เป็นต้น อย่าง
ไรก็ตามยังไม่พบว่ามีความผิดปกติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายเก็งกำไรแบบกระจายตัว ขณะที่
หุ้นบางตัวซื้อขายโดยมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
สำหรับหุ้น TMB ตลาดเข้าไปตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่พบความผิดปกติ แม้ราคาจะปรับ
ตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก มูลค่าการซื้อขายก็หนาแน่น แต่เป็นลักษณะกระจายตัวมากกว่า ส่วนกรณี
ที่มีกระแสข่าวว่ามีกลุ่มการเมืองเข้ามาซื้อขายหุ้นดังกล่าว ในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลแต่อย่างใด
" นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข่าวสารใกล้ชิด และควรพิจารณาลงทุนจากปัจจัยพื้น
ฐานมากกว่าลงทุนตามกระแสข่าวลือ ตลาดหลักทรัพย์ฯยังต้องพัฒนาไปต่อเนื่อง แต่หากนักลงยัง
เก็งกำไรเกินตัวก็อาจจะมีปัญหาได้ในอนาคต" แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าววงการตลาดทุนรายหนึ่ง กล่าวกับ eFinanceThai.com ว่า ขณะนี้มีกระแส
ข่าวลือในห้องค้าเกี่ยวกับการทำราคาหุ้นจำนวนมาก โดยมีกลุ่มนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาล
ส่งตัวแทนเข้ามาซื้อขายหุ้นบางตัวที่อ้างอิงไปกับกระแสข่าว(สตอรี่) โดยก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าว
ได้เข้าไปซื้อหุ้น TMB มาแล้ว และมีเป้าหมายที่จะเข้าไปทำราคาหุ้น KTB และ BBL ต่อไป โดย
ขณะนี้อยู่ระหว่างวางสตอรี่ของหุ้น
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาทำราคาหุ้นในเครือเจริญโภคภัณฑ์(CP) โดย
ก่อนหน้านี้ได้ทยอยเข้าซื้อหุ้น TRUE มาแล้ว และมีเป้าหมายจะดันราคาขึ้นไปแตะระดับ 5 บาท
หลังจากนั้นจะดันขึ้นไปแตะระดับ 10 บาท ตามเป้าหมายระยะยาว ขณะที่หุ้น CPF ก็ปรับตัว
เพิ่มขึ้นร้อนแรง ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯควรต้องติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
เรียบเรียง โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
อนุมัติ โดย พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน
อีเมล์แสดงความคิดเห็น
[email protected]