วิจารณ์ กลต.
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 91
กลต.ไฟเขียว กอง 1 ใช้เงินกู้ จบใน 2 เดือน [ โพสต์ทูเดย์, 10 ส.ค. 55 ]
ก.ล.ต.ไฟเขียวกองทุนอสังหาริมทรัพย์กู้เงินลงทุน ได้อีก 1 ปี หลังเกณฑ์รีตส์คลอด แต่ต้องลงทุน
ภายใน 2 เดือน
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
(กอง 1) สามารถกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ วันที่ประกาศเรื่องทรัสต์ เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REITs) มีผลใช้บังคับ แต่ต้องลงทุนภายใน 2
เดือน นับจากวันที่ได้รับเงินกู้
ก.ล.ต.ไฟเขียวกองทุนอสังหาริมทรัพย์กู้เงินลงทุน ได้อีก 1 ปี หลังเกณฑ์รีตส์คลอด แต่ต้องลงทุน
ภายใน 2 เดือน
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต.เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
(กอง 1) สามารถกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ วันที่ประกาศเรื่องทรัสต์ เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REITs) มีผลใช้บังคับ แต่ต้องลงทุนภายใน 2
เดือน นับจากวันที่ได้รับเงินกู้
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 92
คลังย้ำไม่แปรรูปตลท. ยันไม่กระทบระดมทุน [ เดลินิวส์, 10 ส.ค. 55 ]
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิด
เผยถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการ
แปรรูป ตลท. แต่อย่างใด ว่าจริง ๆ รองนายกฯ ก็ได้ยืนยันมาในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว และแม้จะไม่มีการ
แปรรูป ตลท.ไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมระดมทุน ในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิด
เผยถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการ
แปรรูป ตลท. แต่อย่างใด ว่าจริง ๆ รองนายกฯ ก็ได้ยืนยันมาในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว และแม้จะไม่มีการ
แปรรูป ตลท.ไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมระดมทุน ในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเป็นคนละส่วนกัน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 93
ก.ล.ต. เข้มงวดคุณภาพสำนักงานสอบบัญชีต้องได้มาตรฐานสากล
นสพ.ทันหุ้น, 20 สิงหาคม 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยผลการตรวจคุณภาพสำนักงานงานสอบบัญชีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากออกหลักเกณฑ์ให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตามมาตรฐานวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นในรายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เชื่อถือได้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ให้แก่ผู้ลงทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย และเตรียมพร้อมธุรกิจรับการแข่งขันในเวทีโลก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาและในสหภาพยุโรป รวมถึงกรณีการตกแต่งบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ (กรณี Enron Worldcom)ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลผู้สอบบัญชี จากเดิมซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพกำกับดูแลกันเอง มาเป็นการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานทางการที่เป็นอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งตลาดทุนไทยก็จำเป็นต้องพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นขึ้นตามมาตรฐานสากล โดยเน้นการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีทั้งกระบวนการ จนปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุน ทั้งจากสหภาพยุโรป ธนาคารโลก ก.ล.ต. นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions: IOSCO) และ ก.ล.ต. ในอาเซียน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกInternational Forum of Independent Audit Regulator (IFIAR) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้สอบบัญชี และเป็นสมาชิกของASEAN Audit Regulators Group อีกด้วย
สำหรับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีนั้น ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี และ ก.ล.ต. มีแผนที่จะตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีทั้งหมด 26 แห่งภายในปี 2555 ซึ่งปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 22 แห่ง พบว่า สำนักงานสอบบัญชีส่วนใหญ่มีความตั้งใจโดยได้ทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงาน โดยทุกแห่งมีการวางระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
แม้ว่าการปฏิบัติในบางเรื่องอาจยังต้องปรับปรุงเนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ นอกจากนี้ พบว่า ด้วยระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานทำให้งานสอบบัญชีโดยรวมมีคุณภาพมากขึ้นด้วย”
นายวรพล กล่าวสรุปว่า “การที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นตามมาตรฐานสากลได้นี้ ทำให้องค์กรนานาชาติให้การยอมรับระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทย ทำให้การเปิดเผยข้อมูลของ
บริษัทไทยเป็นที่น่าเชื่อถือและช่วยให้การระดมทุนในต่างประเทศสามารถทำได้สะดวกขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในสหภาพยุโรปสามารถใช้ผู้สอบบัญชีของไทยได้โดยผู้สอบบัญชีไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศนั้นอีก ความเชื่อมั่นที่มาจากการปฏิบัติและการกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานสากลนี้นำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทุนและประเทศโดยรวม”
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยรายงานสรุปกิจกรรมการตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.www.sec.or.th หัวข้อ “นักบัญชี/ผู้สอบบัญชี”
นสพ.ทันหุ้น, 20 สิงหาคม 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยผลการตรวจคุณภาพสำนักงานงานสอบบัญชีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากออกหลักเกณฑ์ให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตามมาตรฐานวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นในรายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เชื่อถือได้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ให้แก่ผู้ลงทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย และเตรียมพร้อมธุรกิจรับการแข่งขันในเวทีโลก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาและในสหภาพยุโรป รวมถึงกรณีการตกแต่งบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ (กรณี Enron Worldcom)ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลผู้สอบบัญชี จากเดิมซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพกำกับดูแลกันเอง มาเป็นการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานทางการที่เป็นอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งตลาดทุนไทยก็จำเป็นต้องพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นขึ้นตามมาตรฐานสากล โดยเน้นการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีทั้งกระบวนการ จนปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุน ทั้งจากสหภาพยุโรป ธนาคารโลก ก.ล.ต. นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions: IOSCO) และ ก.ล.ต. ในอาเซียน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกInternational Forum of Independent Audit Regulator (IFIAR) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้สอบบัญชี และเป็นสมาชิกของASEAN Audit Regulators Group อีกด้วย
สำหรับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีนั้น ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี และ ก.ล.ต. มีแผนที่จะตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีทั้งหมด 26 แห่งภายในปี 2555 ซึ่งปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 22 แห่ง พบว่า สำนักงานสอบบัญชีส่วนใหญ่มีความตั้งใจโดยได้ทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงาน โดยทุกแห่งมีการวางระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
แม้ว่าการปฏิบัติในบางเรื่องอาจยังต้องปรับปรุงเนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ นอกจากนี้ พบว่า ด้วยระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานทำให้งานสอบบัญชีโดยรวมมีคุณภาพมากขึ้นด้วย”
นายวรพล กล่าวสรุปว่า “การที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นตามมาตรฐานสากลได้นี้ ทำให้องค์กรนานาชาติให้การยอมรับระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทย ทำให้การเปิดเผยข้อมูลของ
บริษัทไทยเป็นที่น่าเชื่อถือและช่วยให้การระดมทุนในต่างประเทศสามารถทำได้สะดวกขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในสหภาพยุโรปสามารถใช้ผู้สอบบัญชีของไทยได้โดยผู้สอบบัญชีไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศนั้นอีก ความเชื่อมั่นที่มาจากการปฏิบัติและการกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานสากลนี้นำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทุนและประเทศโดยรวม”
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยรายงานสรุปกิจกรรมการตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.www.sec.or.th หัวข้อ “นักบัญชี/ผู้สอบบัญชี”
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 94
ก.ล.ต.ปรับรายใหญ่80ล.ปั่นหุ้นยูนิค [ กรุงเทพธุรกิจ, 21 ส.ค. 55 ]
ก.ล.ต.สั่งปรับ "ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย" กว่า 80 ล้านบาท ข้อหาสร้างราคาหุ้น
"ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง" เผยเปิดบัญชีนิติบุคคลต่างชาติ 14 บัญชี ทำการซื้อขายหุ้น--จบ--
ก.ล.ต.สั่งปรับ "ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย" กว่า 80 ล้านบาท ข้อหาสร้างราคาหุ้น
"ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง" เผยเปิดบัญชีนิติบุคคลต่างชาติ 14 บัญชี ทำการซื้อขายหุ้น--จบ--
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 95
การเงิน - การลงทุน
วันที่ 21 สิงหาคม 2555 09:02
สั่งปรับ'ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย'สร้างราคาหุ้น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ก.ล.ต. สั่งปรับ"ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย"เป็นจำนวน 80 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้น UNIQ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า พบสภาพการซื้อขายหุ้น บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) UNIQ ผิดปกติ อันเกิดจากคำสั่งซื้อขายหุ้น UNIQ ที่ส่งผ่านบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ในต่างประเทศ 2 แห่ง (Omnibus Account) ทำให้ราคาและปริมาณของหุ้น UNIQ มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่า นายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย ได้รู้เห็นหรือตกลงให้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนิติบุคคลต่างประเทศ 14 บัญชีที่ตนเองเป็นเจ้าของและเป็นผู้รับประโยชน์ โดยเปิดบัญชีไว้ที่ UOB Kay Hian Private Limited ประเทศสิงคโปร์ และ EFG Private Bank SA สาขาประเทศสิงคโปร์ ทำการซื้อขายหุ้น UNIQ ในระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2553 ในลักษณะผลักดันราคาและพยุงราคา รวมทั้งซื้อขายจับคู่กันเองระหว่างบัญชี ทำให้ราคาปิดของหุ้น UNIQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.24 บาท ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ไปสูงสุดที่ 8.70 บาท ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 เพิ่มขึ้น 6.46 บาท และปิดอยู่ที่ 4.48 บาท ในวันที่ 7 เมษายน 2553
นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันได้เพิ่มขึ้นจาก 0.21 ล้านหุ้น เป็น 14.78 ล้านหุ้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมีลักษณะเป็นการอำพรางให้บุคคลทั่วไปหลงเชื่อว่าหุ้น UNIQ มีการซื้อขายจำนวนมากและต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไม่สอดคล้องกับสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้ามาซื้อขายหุ้นดังกล่าว
การกระทำของนายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย เข้าข่ายเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์โดยสร้างราคาหุ้นทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ ฝ่าฝืนมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายประสงค์ เป็นจำนวนเงิน 80,995,415.67 บาท
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอขอบคุณ Monetary Authority of Singapore (MAS) และ Securities and Futures Commission, Hong Kong (SFC) ที่ให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจนทำให้ ก.ล.ต. สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดในกรณีนี้ได้
http://bit.ly/SKS4ML
วันที่ 21 สิงหาคม 2555 09:02
สั่งปรับ'ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย'สร้างราคาหุ้น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ก.ล.ต. สั่งปรับ"ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย"เป็นจำนวน 80 ล้านบาท กรณีสร้างราคาหุ้น UNIQ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า พบสภาพการซื้อขายหุ้น บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) UNIQ ผิดปกติ อันเกิดจากคำสั่งซื้อขายหุ้น UNIQ ที่ส่งผ่านบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ในต่างประเทศ 2 แห่ง (Omnibus Account) ทำให้ราคาและปริมาณของหุ้น UNIQ มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่า นายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย ได้รู้เห็นหรือตกลงให้ใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนิติบุคคลต่างประเทศ 14 บัญชีที่ตนเองเป็นเจ้าของและเป็นผู้รับประโยชน์ โดยเปิดบัญชีไว้ที่ UOB Kay Hian Private Limited ประเทศสิงคโปร์ และ EFG Private Bank SA สาขาประเทศสิงคโปร์ ทำการซื้อขายหุ้น UNIQ ในระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2553 ในลักษณะผลักดันราคาและพยุงราคา รวมทั้งซื้อขายจับคู่กันเองระหว่างบัญชี ทำให้ราคาปิดของหุ้น UNIQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.24 บาท ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ไปสูงสุดที่ 8.70 บาท ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 เพิ่มขึ้น 6.46 บาท และปิดอยู่ที่ 4.48 บาท ในวันที่ 7 เมษายน 2553
นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันได้เพิ่มขึ้นจาก 0.21 ล้านหุ้น เป็น 14.78 ล้านหุ้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวมีลักษณะเป็นการอำพรางให้บุคคลทั่วไปหลงเชื่อว่าหุ้น UNIQ มีการซื้อขายจำนวนมากและต่อเนื่อง ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไม่สอดคล้องกับสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปเข้ามาซื้อขายหุ้นดังกล่าว
การกระทำของนายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย เข้าข่ายเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์โดยสร้างราคาหุ้นทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ ฝ่าฝืนมาตรา 243(1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243(2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายประสงค์ เป็นจำนวนเงิน 80,995,415.67 บาท
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอขอบคุณ Monetary Authority of Singapore (MAS) และ Securities and Futures Commission, Hong Kong (SFC) ที่ให้ความช่วยเหลือในการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจนทำให้ ก.ล.ต. สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดในกรณีนี้ได้
http://bit.ly/SKS4ML
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 96
ก.ล.ต.เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น SOLAR
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, 21 ส.ค. 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายสุนทร ชาวหนองหิน
ขณะเกิดเหตุเป็นวิศวกรของบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (“SOLAR”) เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท SOLAR จากการที่ SOLAR ร่วมกับ Wuxi Suntech Power Co., Ltd. (“SUNTECH”)
ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างของบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (“BCP”) ซึ่งจะทำให้ SOLAR
ได้รับส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 1,120 ล้านบาท สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับเรื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้ตรวจสอบพบว่า นายสุนทรได้ร่วมฟังการเจรจาต่อรองระหว่าง SOLAR และ BCP หลายครั้ง และล่วงรู้ผลการเจรจาต่อรองครั้งสุดท้ายและโอกาสชนะประมูลของ SOLAR ร่วมกับ SUNTECH ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ BCP ซึ่งมีมูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท โดยที่ SOLAR จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 35 ของมูลค่าโครงการ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,120 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น SOLAR ในด้านบวก ทั้งนี้ ก.ล.ต. เห็นว่านายสุนทรได้อาศัยข้อมูลดังกล่าวในการซื้อหุ้น SOLAR ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนในช่วงเปิดตลาดภาคเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะเปิดเผยต่อประชาชนในช่วงเย็นของวันเดียวกันการกระทำของนายสุนทรเข้าข่ายเป็นการซื้อหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลภายในที่เป็นการเอาเปรียบบุคคลอื่น ฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ทั้งนี้ นายสุนทรยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, 21 ส.ค. 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายสุนทร ชาวหนองหิน
ขณะเกิดเหตุเป็นวิศวกรของบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (“SOLAR”) เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท SOLAR จากการที่ SOLAR ร่วมกับ Wuxi Suntech Power Co., Ltd. (“SUNTECH”)
ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างของบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (“BCP”) ซึ่งจะทำให้ SOLAR
ได้รับส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 1,120 ล้านบาท สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับเรื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้ตรวจสอบพบว่า นายสุนทรได้ร่วมฟังการเจรจาต่อรองระหว่าง SOLAR และ BCP หลายครั้ง และล่วงรู้ผลการเจรจาต่อรองครั้งสุดท้ายและโอกาสชนะประมูลของ SOLAR ร่วมกับ SUNTECH ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ BCP ซึ่งมีมูลค่ารวม 3,200 ล้านบาท โดยที่ SOLAR จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ร้อยละ 35 ของมูลค่าโครงการ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,120 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น SOLAR ในด้านบวก ทั้งนี้ ก.ล.ต. เห็นว่านายสุนทรได้อาศัยข้อมูลดังกล่าวในการซื้อหุ้น SOLAR ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนในช่วงเปิดตลาดภาคเช้าของวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวจะเปิดเผยต่อประชาชนในช่วงเย็นของวันเดียวกันการกระทำของนายสุนทรเข้าข่ายเป็นการซื้อหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลภายในที่เป็นการเอาเปรียบบุคคลอื่น ฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ทั้งนี้ นายสุนทรยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 97
ตลท.เริ่มใช้ระบบซื้อขายใหม่ SET CONNECT 3ก.ย.รองรับคำสั่งซื้อมากขึ้น [ ทันหุ้น, 30 สิงหาคม 2555 ]
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่เสร็จสมบูรณ์ตามแผนแม่บทการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Master Plan) ใช้ชื่อ SET CONNECT พร้อมเปิดใช้ 3 กันยายน 2555 นี้ เผยระบบใหม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก และสามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อขายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก พร้อมรองรับการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ จากทั้งในและต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ยกระดับตลาดทุนไทยสู่การแข่งขันและการเชื่อมโยงในระดับสากล
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.พร้อมเปิดใช้ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ภายใต้ชื่อ SET CONNECT ในวันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2555 นี้ หลังจากที่ตลท. บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 32 แห่ง ผู้พัฒนาระบบงานส่งคำสั่งซื้อขายให้บริษัทหลักทรัพย์และอินเทอร์เน็ต (Independent Software Vendor: ISV) ผู้ให้บริการข้อมูล (Market Data Vendor) ทุกราย ร่วมกับบริษัท Cinnober Financial Technology AB ผู้พัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT ได้ร่วมแรงร่วมใจกันผลักดันทำงานอย่างใกล้ชิดและทดสอบระบบร่วมกันมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนผ่านตามเกณฑ์การเปิดใช้ระบบใหม่ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมและมีความมั่นใจ
นอกเหนือจากระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT แล้ว ตลท.จะเริ่มใช้ระบบงานเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขาย (Market Data System) ใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT ด้วย ระบบเผยแพร่ข้อมูลใหม่จะสามารถเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขายไปยังระบบของสมาชิกและผู้ให้บริการข้อมูลอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบงานกำกับการซื้อขาย (Market Surveillance System) ใหม่ ที่มีความเป็นมาตรฐานสากลจะสามารถตรวจพบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อธุรกรรมการซื้อขาย
ทั้ง 3 ระบบดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ตลาดทุนไทย ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยที่จะได้ให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสากลของบริษัท Cinnober Financial Technology AB ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาระบบงานสำคัญสำหรับธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก
SET CONNECT เป็นระบบที่มีความรวดเร็วกว่าเดิมมากและได้มาตรฐานสากล มีจุดเด่นที่สามารถรองรับการเติบโตตามภาวะตลาดและธุรกิจในอนาคตได้ทั้งปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย พร้อมทั้งสามารถรองรับการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ได้เร็วกว่าเดิมมาก เท่าเทียมตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก และรองรับการซื้อขายได้หลายสกุลเงิน (multi currency trading) และด้วยการเชื่อมต่อที่เป็นสากล (Fix Protocol) ช่วยให้การเชื่อมต่อและทำธุรกรรมกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ได้อย่างสะดวก
"ด้วยคุณสมบัติและจุดเด่นดังกล่าวของ SET CONNECT จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นในศักยภาพตลาดทุนไทยแก่ผู้ลงทุนทั่วโลก ยกระดับตลาดทุนไทยให้แข่งขันในระดับสากลได้อย่างมั่นใจ พร้อมสานทุกโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุน และสานโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ดำเนินธุรกิจในตลาดทุน" นายจรัมพรกล่าว
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่เสร็จสมบูรณ์ตามแผนแม่บทการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Master Plan) ใช้ชื่อ SET CONNECT พร้อมเปิดใช้ 3 กันยายน 2555 นี้ เผยระบบใหม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก และสามารถรองรับปริมาณคำสั่งซื้อขายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก พร้อมรองรับการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ จากทั้งในและต่างประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ยกระดับตลาดทุนไทยสู่การแข่งขันและการเชื่อมโยงในระดับสากล
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.พร้อมเปิดใช้ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ภายใต้ชื่อ SET CONNECT ในวันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2555 นี้ หลังจากที่ตลท. บริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 32 แห่ง ผู้พัฒนาระบบงานส่งคำสั่งซื้อขายให้บริษัทหลักทรัพย์และอินเทอร์เน็ต (Independent Software Vendor: ISV) ผู้ให้บริการข้อมูล (Market Data Vendor) ทุกราย ร่วมกับบริษัท Cinnober Financial Technology AB ผู้พัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT ได้ร่วมแรงร่วมใจกันผลักดันทำงานอย่างใกล้ชิดและทดสอบระบบร่วมกันมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนผ่านตามเกณฑ์การเปิดใช้ระบบใหม่ ซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายมีความพร้อมและมีความมั่นใจ
นอกเหนือจากระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT แล้ว ตลท.จะเริ่มใช้ระบบงานเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขาย (Market Data System) ใหม่ ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบซื้อขายหลักทรัพย์ SET CONNECT ด้วย ระบบเผยแพร่ข้อมูลใหม่จะสามารถเผยแพร่ข้อมูลการซื้อขายไปยังระบบของสมาชิกและผู้ให้บริการข้อมูลอื่นๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบงานกำกับการซื้อขาย (Market Surveillance System) ใหม่ ที่มีความเป็นมาตรฐานสากลจะสามารถตรวจพบความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วนยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อธุรกรรมการซื้อขาย
ทั้ง 3 ระบบดังกล่าว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ตลาดทุนไทย ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยที่จะได้ให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากการผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสากลของบริษัท Cinnober Financial Technology AB ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาระบบงานสำคัญสำหรับธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก
SET CONNECT เป็นระบบที่มีความรวดเร็วกว่าเดิมมากและได้มาตรฐานสากล มีจุดเด่นที่สามารถรองรับการเติบโตตามภาวะตลาดและธุรกิจในอนาคตได้ทั้งปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย พร้อมทั้งสามารถรองรับการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ได้เร็วกว่าเดิมมาก เท่าเทียมตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของโลก และรองรับการซื้อขายได้หลายสกุลเงิน (multi currency trading) และด้วยการเชื่อมต่อที่เป็นสากล (Fix Protocol) ช่วยให้การเชื่อมต่อและทำธุรกรรมกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ได้อย่างสะดวก
"ด้วยคุณสมบัติและจุดเด่นดังกล่าวของ SET CONNECT จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นในศักยภาพตลาดทุนไทยแก่ผู้ลงทุนทั่วโลก ยกระดับตลาดทุนไทยให้แข่งขันในระดับสากลได้อย่างมั่นใจ พร้อมสานทุกโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุน และสานโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ดำเนินธุรกิจในตลาดทุน" นายจรัมพรกล่าว
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 98
ก.ล.ต.จับมือตลาดหุ้นลาว-เขมร-เวียดนาม พัฒนาการซื้อขายหุ้นสู่อินโดไชน่าลิงก์
อินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 55)--นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในการจัดงาน Thailand Focus 2012 ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว หารือร่วมกันเป็นครั้งแรก และมีแนวคิดที่จะพัฒนาความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มให้มีการซื้อขายเป็นระบบเดียวกัน และจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังอาเซียนลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อปรับปรุงระบบการซื้อขาย ระบบตรวจสอบ ระบบการชำระราคา การส่งมอบหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
"ใน 4 ประเทศ 5 ตลาดหลักทรัพย์ (เวียดนามมี 2 ตลาดหลักทรัพย์ คือตลาดหลักทรัพย์ฮานอย และตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์) จะมีความร่วมมือกันเพื่อเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลา เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชาเพิ่งเริ่มจัดตั้ง ส่วนลาวก็เพิ่มมีการซื้อขายหลักทรัพย์ไม่นาน"นายวรพล กล่าว
ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการสนับสนุนความร่วมมือแก่ประเทศดังกล่าว ทั้งการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม และการช่วยยกร่างกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศลาว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ถือเป็นคร้งแรกที่มีการรวมตลาดทุนในภูมิภาคอินโดนจีนเข้าร่วมงานเพื่อนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน และเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยในการเชื่อมโยงตลาดทุนอินโดจีนเข้าด้วยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนจากทั่วโลกได้รับทราบถึงการพัฒนาและศักยภาพของตลาดทุนภูมิภาค
สำหรับ การจัดงาน Thailand Focus 2012- Position Thailand For the Next Growth Phase ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ 122 ราย บจ.ไทย 89 แห่ง และการประชุม 1,065 ครั้ง และยังเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์อินโดจีน 4 แห่ง และบจ.อินโดจีน 4 แห่ง เข้าร่วมงาน
การจัดงานครั้งนี้ผู้ลงทุนได้เห็นโอกาสและศักยภาพของเศรษฐกิจและบจ.ไทย โดยเน้น 2 ด้านหลัก คือ Next Growth Phase ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของ บจ.ในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดเอเซียถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีความโดดเด่นทั้งสภาพคล่องและ บจ. โดยที่รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความสามารถการทำกำไรของ บจ.
ส่วนอีกด้านคือ Position จากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนและอินโดจีนที่มีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์จึงทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนของ บจ.ไทยเพื่อขยายธุรกิจสู่ภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับลดข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ต่างๆมากขึ้น เช่น เกณฑ์ holding company รวมถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคที่จะส่งผลให้ บจ.และผู้ลงทุนได้รับประโยชน์มากขึ้นในอนาคต
--จบ--
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
อินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 55)--นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในการจัดงาน Thailand Focus 2012 ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว หารือร่วมกันเป็นครั้งแรก และมีแนวคิดที่จะพัฒนาความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มให้มีการซื้อขายเป็นระบบเดียวกัน และจะมีการพัฒนาเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังอาเซียนลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลาในการดำเนินการเพื่อปรับปรุงระบบการซื้อขาย ระบบตรวจสอบ ระบบการชำระราคา การส่งมอบหลักทรัพย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
"ใน 4 ประเทศ 5 ตลาดหลักทรัพย์ (เวียดนามมี 2 ตลาดหลักทรัพย์ คือตลาดหลักทรัพย์ฮานอย และตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์) จะมีความร่วมมือกันเพื่อเชื่อมโยงเป็นอินโดไชน่าลิงก์ในอนาคต แต่ยังต้องใช้เวลา เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ของกัมพูชาเพิ่งเริ่มจัดตั้ง ส่วนลาวก็เพิ่มมีการซื้อขายหลักทรัพย์ไม่นาน"นายวรพล กล่าว
ที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการสนับสนุนความร่วมมือแก่ประเทศดังกล่าว ทั้งการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรม และการช่วยยกร่างกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศลาว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ถือเป็นคร้งแรกที่มีการรวมตลาดทุนในภูมิภาคอินโดนจีนเข้าร่วมงานเพื่อนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน และเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยในการเชื่อมโยงตลาดทุนอินโดจีนเข้าด้วยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนจากทั่วโลกได้รับทราบถึงการพัฒนาและศักยภาพของตลาดทุนภูมิภาค
สำหรับ การจัดงาน Thailand Focus 2012- Position Thailand For the Next Growth Phase ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง มีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ 122 ราย บจ.ไทย 89 แห่ง และการประชุม 1,065 ครั้ง และยังเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์อินโดจีน 4 แห่ง และบจ.อินโดจีน 4 แห่ง เข้าร่วมงาน
การจัดงานครั้งนี้ผู้ลงทุนได้เห็นโอกาสและศักยภาพของเศรษฐกิจและบจ.ไทย โดยเน้น 2 ด้านหลัก คือ Next Growth Phase ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญของ บจ.ในอนาคต เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดเอเซียถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ไทยที่มีความโดดเด่นทั้งสภาพคล่องและ บจ. โดยที่รัฐบาลมีนโยบายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจและความสามารถการทำกำไรของ บจ.
ส่วนอีกด้านคือ Position จากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนและอินโดจีนที่มีอัตราการขยายตัวสูง ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์จึงทำหน้าที่เป็นแหล่งระดมทุนของ บจ.ไทยเพื่อขยายธุรกิจสู่ภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับลดข้อจำกัดและกฎเกณฑ์ต่างๆมากขึ้น เช่น เกณฑ์ holding company รวมถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคที่จะส่งผลให้ บจ.และผู้ลงทุนได้รับประโยชน์มากขึ้นในอนาคต
--จบ--
--อินโฟเควสท์ โดย จารุวรรณ ไหมทอง/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 440
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 99
[quote="pak"]ก.ล.ต. เข้มงวดคุณภาพสำนักงานสอบบัญชีต้องได้มาตรฐานสากล
นสพ.ทันหุ้น, 20 สิงหาคม 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยผลการตรวจคุณภาพสำนักงานงานสอบบัญชีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากออกหลักเกณฑ์ให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตามมาตรฐานวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นในรายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เชื่อถือได้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ให้แก่ผู้ลงทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย และเตรียมพร้อมธุรกิจรับการแข่งขันในเวทีโลก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาและในสหภาพยุโรป รวมถึงกรณีการตกแต่งบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ (กรณี Enron Worldcom)ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลผู้สอบบัญชี จากเดิมซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพกำกับดูแลกันเอง มาเป็นการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานทางการที่เป็นอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งตลาดทุนไทยก็จำเป็นต้องพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นขึ้นตามมาตรฐานสากล โดยเน้นการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีทั้งกระบวนการ จนปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุน ทั้งจากสหภาพยุโรป ธนาคารโลก ก.ล.ต. นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions: IOSCO) และ ก.ล.ต. ในอาเซียน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกInternational Forum of Independent Audit Regulator (IFIAR) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้สอบบัญชี และเป็นสมาชิกของASEAN Audit Regulators Group อีกด้วย
สำหรับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีนั้น ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี และ ก.ล.ต. มีแผนที่จะตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีทั้งหมด 26 แห่งภายในปี 2555 ซึ่งปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 22 แห่ง พบว่า สำนักงานสอบบัญชีส่วนใหญ่มีความตั้งใจโดยได้ทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงาน โดยทุกแห่งมีการวางระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
แม้ว่าการปฏิบัติในบางเรื่องอาจยังต้องปรับปรุงเนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ นอกจากนี้ พบว่า ด้วยระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานทำให้งานสอบบัญชีโดยรวมมีคุณภาพมากขึ้นด้วย”
นายวรพล กล่าวสรุปว่า “การที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นตามมาตรฐานสากลได้นี้ ทำให้องค์กรนานาชาติให้การยอมรับระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทย ทำให้การเปิดเผยข้อมูลของ
บริษัทไทยเป็นที่น่าเชื่อถือและช่วยให้การระดมทุนในต่างประเทศสามารถทำได้สะดวกขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในสหภาพยุโรปสามารถใช้ผู้สอบบัญชีของไทยได้โดยผู้สอบบัญชีไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศนั้นอีก ความเชื่อมั่นที่มาจากการปฏิบัติและการกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานสากลนี้นำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทุนและประเทศโดยรวม”
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยรายงานสรุปกิจกรรมการตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.www.sec.or.th หัวข้อ “นักบัญชี/ผู้สอบบัญชี”[/quote
แล้วเมื่อไร ผู้สอบบัญชี จะรวมตัวกัน สอบการทำงานของ กลต. บ้างละ (โดยเฉพาะสอบ เงินในบัญชี ของผู้บริหาร และเครือญาติ )
555. จะกล้าหรือ
นสพ.ทันหุ้น, 20 สิงหาคม 2555
ก.ล.ต. เปิดเผยผลการตรวจคุณภาพสำนักงานงานสอบบัญชีเป็นที่น่าพอใจ หลังจากออกหลักเกณฑ์ให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีตามมาตรฐานวิชาชีพ สร้างความเชื่อมั่นในรายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่เชื่อถือได้ทัดเทียมมาตรฐานสากล ให้แก่ผู้ลงทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไทย และเตรียมพร้อมธุรกิจรับการแข่งขันในเวทีโลก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมาและในสหภาพยุโรป รวมถึงกรณีการตกแต่งบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในต่างประเทศ (กรณี Enron Worldcom)ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลผู้สอบบัญชี จากเดิมซึ่งเป็นระบบที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพกำกับดูแลกันเอง มาเป็นการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานทางการที่เป็นอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพ ซึ่งตลาดทุนไทยก็จำเป็นต้องพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นขึ้นตามมาตรฐานสากล โดยเน้นการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีทั้งกระบวนการ จนปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุน ทั้งจากสหภาพยุโรป ธนาคารโลก ก.ล.ต. นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions: IOSCO) และ ก.ล.ต. ในอาเซียน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกInternational Forum of Independent Audit Regulator (IFIAR) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแลผู้สอบบัญชี และเป็นสมาชิกของASEAN Audit Regulators Group อีกด้วย
สำหรับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีนั้น ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้สอบบัญชีบริษัทในตลาดทุนต้องสังกัดสำนักงานสอบบัญชีที่มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชี และ ก.ล.ต. มีแผนที่จะตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีทั้งหมด 26 แห่งภายในปี 2555 ซึ่งปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว 22 แห่ง พบว่า สำนักงานสอบบัญชีส่วนใหญ่มีความตั้งใจโดยได้ทุ่มเททรัพยากรอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงาน โดยทุกแห่งมีการวางระบบการควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
แม้ว่าการปฏิบัติในบางเรื่องอาจยังต้องปรับปรุงเนื่องจากมาตรฐานดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ นอกจากนี้ พบว่า ด้วยระบบควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐานทำให้งานสอบบัญชีโดยรวมมีคุณภาพมากขึ้นด้วย”
นายวรพล กล่าวสรุปว่า “การที่ ก.ล.ต. กำกับดูแลผู้สอบบัญชีให้เข้มข้นตามมาตรฐานสากลได้นี้ ทำให้องค์กรนานาชาติให้การยอมรับระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีในตลาดทุนไทย ทำให้การเปิดเผยข้อมูลของ
บริษัทไทยเป็นที่น่าเชื่อถือและช่วยให้การระดมทุนในต่างประเทศสามารถทำได้สะดวกขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ต้องการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในสหภาพยุโรปสามารถใช้ผู้สอบบัญชีของไทยได้โดยผู้สอบบัญชีไม่ต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศนั้นอีก ความเชื่อมั่นที่มาจากการปฏิบัติและการกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานสากลนี้นำมาซึ่งการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทุนและประเทศโดยรวม”
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เปิดเผยรายงานสรุปกิจกรรมการตรวจคุณภาพงานสอบบัญชีไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.www.sec.or.th หัวข้อ “นักบัญชี/ผู้สอบบัญชี”[/quote
แล้วเมื่อไร ผู้สอบบัญชี จะรวมตัวกัน สอบการทำงานของ กลต. บ้างละ (โดยเฉพาะสอบ เงินในบัญชี ของผู้บริหาร และเครือญาติ )
555. จะกล้าหรือ
Try to find a good company.
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 100
กลต.ฟันบิ๊ก AMC ร่วมปั่นหุ้น [ โพสต์ทูเดย์, 5 ก.ย. 55 ]
ก.ล.ต. กล่าวโทษและเปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดบิ๊กเอเชีย เมทัล ร่วมโบรกเกอร์นักลงทุนปั่นหุ้น
AMC
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษนายสมชาย ชัยศรี
ชวาลา นักลงทุน ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเปรียบเทียบปรับ น.ส.ชนินันท์ เหลืองเวคิน ในขณะดำรง
ตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการอาวุโสด้านหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย และนายธนกร ฤทธิบันลือ
กรรมการบริษัท เอเชีย เมทัล (AMC) เป็นจำนวนรายละ 5 แสนบาทในฐานความผิดกรณีสร้างราคาหุ้น
ก.ล.ต. กล่าวโทษและเปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดบิ๊กเอเชีย เมทัล ร่วมโบรกเกอร์นักลงทุนปั่นหุ้น
AMC
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษนายสมชาย ชัยศรี
ชวาลา นักลงทุน ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเปรียบเทียบปรับ น.ส.ชนินันท์ เหลืองเวคิน ในขณะดำรง
ตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการอาวุโสด้านหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย และนายธนกร ฤทธิบันลือ
กรรมการบริษัท เอเชีย เมทัล (AMC) เป็นจำนวนรายละ 5 แสนบาทในฐานความผิดกรณีสร้างราคาหุ้น
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 102
รื้อฟรีโฟลตเซต 50 หวั่นหุ้นน้อยทำราคาผิดปกติ บีอีซีซิลลิงไม่เกี่ยวกับระบบ [ โพสต์ทูเดย์, 2 ต.ค. 55 ]
ตลท.เล็งทบทวนเกณฑ์ฟรีโฟลต SET50 หวั่นสภาพคล่องต่ำทำราคาผิดปกติ ยันระบบซื้อขายไม่มีปัญหา
หลัง BEC ชนซิลลิงในช่วงคอลมาร์เก็ต
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์จะทบทวนหลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสภาพคล่อง (ฟรีโฟลต) ใน
การซื้อขายหุ้นกลุ่ม SET50 เพราะถึงแม้หุ้นกลุ่มดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่ แต่สภาพคล่องในการซื้อขายมากน้อย
ต่างกัน เมื่อมีการซื้อขายจำนวนมากๆ อาจทำให้หุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าที่ควรจะเป็น
ได้
ตลท.เล็งทบทวนเกณฑ์ฟรีโฟลต SET50 หวั่นสภาพคล่องต่ำทำราคาผิดปกติ ยันระบบซื้อขายไม่มีปัญหา
หลัง BEC ชนซิลลิงในช่วงคอลมาร์เก็ต
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการกลุ่มงานพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์จะทบทวนหลักเกณฑ์หรือข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสภาพคล่อง (ฟรีโฟลต) ใน
การซื้อขายหุ้นกลุ่ม SET50 เพราะถึงแม้หุ้นกลุ่มดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่ แต่สภาพคล่องในการซื้อขายมากน้อย
ต่างกัน เมื่อมีการซื้อขายจำนวนมากๆ อาจทำให้หุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าที่ควรจะเป็น
ได้
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 103
หุ้นไทยเดินหน้าบวกต่อทำจุดสูงสุดรอบ 16 ปีอีกรอบรับอานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้า
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, 03 ต.ค. 2555 เวลา 19:41:27 น.
ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าบวกได้ต่อระหว่างวันดัชนีขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปีอีกครั้งรับอานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้า ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค พรุ่งนี้หุ้นแกว่งออกข้างแต่เชื่อหุ้นไม่น่าลงแรง แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,313
นางสาวธัญญา สุทวีปราโมชานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ยู โอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ตุลาคมดัชนียังสามารปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดยระหว่างการซื้อขายของวันดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปีนี้ได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ แต่มีแรงเก็งกำไรเข้ามาสอดคล้องกับทิสทางตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียจากระแสเงินทุนต่างชาติ(Fund Flow) ที่ไหลเข้ามาลงทุน โดย Fund Flow เริ่มสลับเข้าเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีประเด็นข่าวดี อย่างไรก็ดีในระหว่างการซื้อขายเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากที่ข้อมูลตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต(PMI) ของจีนในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาออกมาต่ำสุดในรอบ 1 ปี
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้(4 ต.ค.) ประเมินว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง พร้อมทั้งประเมินว่าดัชนีจะไม่ปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ที่เข้ามาช่วยพยุงดัชนี โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือวนวันพรุ่งนี้ว่าผลการประชุมพันธบัตรรัฐบาลสเปนว่าอัตราผลตอบแทนว่าจะออกมาอย่างไร รวมถึงว่าความชัดเจนว่าสเปนจะของรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรปหรือไม่และในวันที่ 8 ต.ค.นี้ที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่มีการประชุมในการจัดตั้งกองทุน ESM กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานคือ TOP,PTTGC กลุ่มน้ำตาลคือ KSL และหลักทรัพย์ ASP ประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,295 จุด แนวต้านที่ 1,313
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์, 03 ต.ค. 2555 เวลา 19:41:27 น.
ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าบวกได้ต่อระหว่างวันดัชนีขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปีอีกครั้งรับอานิสงส์ Fund Flow ไหลเข้า ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค พรุ่งนี้หุ้นแกว่งออกข้างแต่เชื่อหุ้นไม่น่าลงแรง แนวรับ 1,295 จุด แนวต้าน 1,313
นางสาวธัญญา สุทวีปราโมชานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ยู โอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ตุลาคมดัชนียังสามารปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดยระหว่างการซื้อขายของวันดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปีนี้ได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ แต่มีแรงเก็งกำไรเข้ามาสอดคล้องกับทิสทางตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียจากระแสเงินทุนต่างชาติ(Fund Flow) ที่ไหลเข้ามาลงทุน โดย Fund Flow เริ่มสลับเข้าเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีประเด็นข่าวดี อย่างไรก็ดีในระหว่างการซื้อขายเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากที่ข้อมูลตัวเลขดัชนีฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต(PMI) ของจีนในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาออกมาต่ำสุดในรอบ 1 ปี
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้(4 ต.ค.) ประเมินว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง พร้อมทั้งประเมินว่าดัชนีจะไม่ปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ที่เข้ามาช่วยพยุงดัชนี โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือวนวันพรุ่งนี้ว่าผลการประชุมพันธบัตรรัฐบาลสเปนว่าอัตราผลตอบแทนว่าจะออกมาอย่างไร รวมถึงว่าความชัดเจนว่าสเปนจะของรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรปหรือไม่และในวันที่ 8 ต.ค.นี้ที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่มีการประชุมในการจัดตั้งกองทุน ESM กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานคือ TOP,PTTGC กลุ่มน้ำตาลคือ KSL และหลักทรัพย์ ASP ประเมินแนวรับอยู่ที่ 1,295 จุด แนวต้านที่ 1,313
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 104
mai ทำสถิติมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล.กว่า 50 วันทำการ
ASTVผู้จัดการออนไลน์, 3 ตุลาคม 2555 17:02 น.
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ทำสถิติมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีมีจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท มากกว่า 50 วันทำการ สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และ market capitalization แตะระดับแสนล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ (mai) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ mai ทำสถิติจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สูงกว่าพันล้านบาท มากกว่า 50 วันทำการ ซึ่งเป็นจำนวนวันสูงที่สุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยมีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ 5,128 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมทั้งสิ้น 104,732.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และปรับเพิ่มขึ้น 35.47% จากสิ้นปี 2554 ทั้งนี้ market capitalization ที่เพิ่มขึ้นมาจากหลักทรัพย์เดิม 89% และจากหลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ 6 หลักทรัพย์ คิดเป็น 11% และตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ mai มา มี 11 บริษัทที่ย้ายเข้าซื้อขายใน SET โดยมี market capitalization รวม 30,653.19 ล้านบาท ซึ่งหากนำมารวมกับ market capitalization ของ mai ในปัจจุบัน จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 135,385.80 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปีนี้ mai ยังทำสถิติมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยรายวันที่ 877.46 ล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งเช่นกัน
“การที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงปีนี้ เป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ผลการดำเนินงานที่ดีในครึ่งปีแรก การใช้เครื่องมือทางการเงินโดยเฉพาะหลักทรัพย์แปลงสภาพ (Warrant) และการที่มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ 6 บริษัท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุน โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนกันยายน บริษัทจดทะเบียนใน mai รวมบริษัทเข้าใหม่มียอดระดมทุนรวมกว่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีที่มีมูลค่าระดมทุนรวมสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งเช่นกัน” นายชนิตรกล่าวทิ้งท้าย
ASTVผู้จัดการออนไลน์, 3 ตุลาคม 2555 17:02 น.
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ทำสถิติมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีมีจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าพันล้านบาท มากกว่า 50 วันทำการ สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และ market capitalization แตะระดับแสนล้านบาท
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ (mai) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ mai ทำสถิติจำนวนวันที่มีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สูงกว่าพันล้านบาท มากกว่า 50 วันทำการ ซึ่งเป็นจำนวนวันสูงที่สุดในรอบ 13 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยมีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สูงสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ 5,128 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมทั้งสิ้น 104,732.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และปรับเพิ่มขึ้น 35.47% จากสิ้นปี 2554 ทั้งนี้ market capitalization ที่เพิ่มขึ้นมาจากหลักทรัพย์เดิม 89% และจากหลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ 6 หลักทรัพย์ คิดเป็น 11% และตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ mai มา มี 11 บริษัทที่ย้ายเข้าซื้อขายใน SET โดยมี market capitalization รวม 30,653.19 ล้านบาท ซึ่งหากนำมารวมกับ market capitalization ของ mai ในปัจจุบัน จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 135,385.80 ล้านบาท นอกจากนี้ ในปีนี้ mai ยังทำสถิติมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยรายวันที่ 877.46 ล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งเช่นกัน
“การที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงปีนี้ เป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ผลการดำเนินงานที่ดีในครึ่งปีแรก การใช้เครื่องมือทางการเงินโดยเฉพาะหลักทรัพย์แปลงสภาพ (Warrant) และการที่มีบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ 6 บริษัท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุน โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนกันยายน บริษัทจดทะเบียนใน mai รวมบริษัทเข้าใหม่มียอดระดมทุนรวมกว่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีที่มีมูลค่าระดมทุนรวมสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งเช่นกัน” นายชนิตรกล่าวทิ้งท้าย
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 105
ก.ล.ต. ร่วมหารือกระทรวงคมนาคม เร่งผลักดันกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
ทันหุ้น, 03 ตุลาคม 2555
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อผลักดันให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาค โดย ก.ล.ต. สนับสนุนให้มีการเร่งลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน เพื่อเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เช่น การสร้างมอเตอร์เวย์เชื่อมโยงชายฝั่งทะเลตะวันตกโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่าร์ผ่านกาญจนบุรี ไปยังนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังของไทย เป็นต้น และโดยที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตของอาเซียน รวมทั้งจีนและอินเดีย ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
ก.ล.ต. จึงได้ออกหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และยังเป็นการพัฒนาสินค้าทางการเงินเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนด้วย การร่วมหารือในวันนี้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ที่จะนำไปสู่การผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต. ได้ออกหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสามารถรองรับทั้งการลงทุนโดยตรงในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน หรือการลงทุนโดยกองทุนเข้าไปถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในบริษัทที่มีการลงทุนในหรือมีรายได้หลักจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งทางราง ทางพิเศษ ไฟฟ้า น้ำประปา สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก โทรคมนาคม พลังงานทางเลือกระบบบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งระบบป้องกันภัยธรรมชาติ และมีมูลค่าการลงทุนในแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และกรณีที่เป็นกิจการประเภทไฟฟ้าเป็นไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และยังสามารถลงทุนในโครงการที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ (greenfield project) ได้ โดยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นกองทุนปิด ซึ่งมีเงินทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท และนโยบายการกระจายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนทั่วไปชัดเจนและนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “การหารือร่วมกับ ก.ล.ต. เป็นประโยชน์มาก หลายประเด็นมีความกระจ่างมากขึ้น การที่ ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าจะทำให้ตลาดทุนไทย มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้ไม่น้อย ทั้งยังช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาลและหนี้สาธารณะของประเทศได้ในอีกทางหนึ่ง จากนี้ไปจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องในระดับปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งผลักดันให้เกิดกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานต่อไป”
นายวรพล กล่าวต่อว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่กระทรวงคมนาคมเห็นความสำคัญของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นเครื่องมือหนึ่งของตลาดทุนที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยยังมีความจำเป็นมาก ไม่เพียงแต่เพื่อการพัฒนาในประเทศเท่านั้น แต่มีส่วนสำคัญในการช่วยรองรับการเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยเข้ากับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคด้วย สามารถทำให้ไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลาง logistic ของภูมิภาคได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว”
ทันหุ้น, 03 ตุลาคม 2555
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อผลักดันให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาค โดย ก.ล.ต. สนับสนุนให้มีการเร่งลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญเร่งด่วน เพื่อเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เช่น การสร้างมอเตอร์เวย์เชื่อมโยงชายฝั่งทะเลตะวันตกโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวายของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนม่าร์ผ่านกาญจนบุรี ไปยังนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังของไทย เป็นต้น และโดยที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อรองรับการเติบโตของอาเซียน รวมทั้งจีนและอินเดีย ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
ก.ล.ต. จึงได้ออกหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว และยังเป็นการพัฒนาสินค้าทางการเงินเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนด้วย การร่วมหารือในวันนี้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ ที่จะนำไปสู่การผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้ ก.ล.ต. ได้ออกหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสามารถรองรับทั้งการลงทุนโดยตรงในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน หรือการลงทุนโดยกองทุนเข้าไปถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในบริษัทที่มีการลงทุนในหรือมีรายได้หลักจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งทางราง ทางพิเศษ ไฟฟ้า น้ำประปา สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก โทรคมนาคม พลังงานทางเลือกระบบบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งระบบป้องกันภัยธรรมชาติ และมีมูลค่าการลงทุนในแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และกรณีที่เป็นกิจการประเภทไฟฟ้าเป็นไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และยังสามารถลงทุนในโครงการที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ (greenfield project) ได้ โดยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นกองทุนปิด ซึ่งมีเงินทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท และนโยบายการกระจายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนทั่วไปชัดเจนและนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “การหารือร่วมกับ ก.ล.ต. เป็นประโยชน์มาก หลายประเด็นมีความกระจ่างมากขึ้น การที่ ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าจะทำให้ตลาดทุนไทย มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้ไม่น้อย ทั้งยังช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาลและหนี้สาธารณะของประเทศได้ในอีกทางหนึ่ง จากนี้ไปจะมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องในระดับปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งผลักดันให้เกิดกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานต่อไป”
นายวรพล กล่าวต่อว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่กระทรวงคมนาคมเห็นความสำคัญของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นเครื่องมือหนึ่งของตลาดทุนที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทย เป็นที่ทราบกันดีว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยยังมีความจำเป็นมาก ไม่เพียงแต่เพื่อการพัฒนาในประเทศเท่านั้น แต่มีส่วนสำคัญในการช่วยรองรับการเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยเข้ากับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคด้วย สามารถทำให้ไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลาง logistic ของภูมิภาคได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว”
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 106
ตลท.เปิดใช้ e-Dividend ผ่าน ATM [ ข่าวหุ้น, 5 ต.ค. 55 ]
ตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ด้วยการเพิ่มช่องทางการ
สมัครบริการ e-Dividend ผ่านเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพกว่า 7,000 เครื่องทั่วประเทศหรือ
ผ่านบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง ธนาคารทางอินเตอร์เน็ตได้แล้ววันนี้ เป็นการสานโอกาสให้แก่ผู้ถือหุ้นที่เป็น
ลูกค้าธนาคารกรุงเทพ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการรับเงินปันผล โดยสมัครด้วยตนเองได้ตลอด 24
ชั่วโมง
ตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ด้วยการเพิ่มช่องทางการ
สมัครบริการ e-Dividend ผ่านเครื่องเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพกว่า 7,000 เครื่องทั่วประเทศหรือ
ผ่านบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง ธนาคารทางอินเตอร์เน็ตได้แล้ววันนี้ เป็นการสานโอกาสให้แก่ผู้ถือหุ้นที่เป็น
ลูกค้าธนาคารกรุงเทพ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการรับเงินปันผล โดยสมัครด้วยตนเองได้ตลอด 24
ชั่วโมง
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 107
กลต.ดันกองอินฟรา [ ข่าวหุ้น, 5 ต.ค. 55 ]
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้บริหาร
ระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อผลักดันให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็น
เครื่องมือช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย
กับภูมิภาค
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้บริหาร
ระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ร่วมหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อผลักดันให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็น
เครื่องมือช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย
กับภูมิภาค
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 108
ตลท.พร้อมลุยอาเซียนลิงค์ [ ข่าวหุ้น, 9 ต.ค. 55 ]
ตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเชื่อมโยงกระดานซื้อขายหลักทรัพย์อาเซียน (ASEAN Trading Link) ใน
วันที่ 15 ต.ค.นี้ ต่อจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดดึงดูดผู้ลงทุนอาเซียนเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย
ด้วยศักยภาพของเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯพร้อมเชื่อมโยงกระดานซื้อขายหลักทรัพย์อาเซียน (ASEAN Trading Link) ใน
วันที่ 15 ต.ค.นี้ ต่อจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดดึงดูดผู้ลงทุนอาเซียนเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย
ด้วยศักยภาพของเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 109
บจ.ไล่หุ้นเพื่อเพิ่มทุน ชิงทิ้ง TTA-ลุยซื้อ SSI ราคาฉิว 'กึ้ง' ลั่นพร้อมใส่เงิน 2พันล้าน
โพสต์ทูเดย์, 1 พ.ย. 55
จี้ตลาดสอบ บจ.ไล่หุ้นก่อนเพิ่มทุน ทำรายย่อยจ่ายแพง TTA ระดมทุน 9,000 ล้านบาท มหากิจศิริ
พร้อมใส่เงิน ส่วน SSI วิ่งฉิว ขายหุ้นพีพีสำเร็จ 50 ล้านเหรียญ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ควรเข้าไปตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนที่มี
พฤติกรรมเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นแรง ก่อนที่จะประกาศข่าวเพิ่มทุนโดยขายในราคาต่ำกว่าตลาดขณะ
นั้น เพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นแต่ต้องจ่ายในราคาแพงกว่าปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงบริษัทที่กำลังเพิ่มทุนแต่ราคา
หุ้นในกระดานยังต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนด้วย จึงต้องมีการไล่ราคาหุ้นเช่นกัน
โพสต์ทูเดย์, 1 พ.ย. 55
จี้ตลาดสอบ บจ.ไล่หุ้นก่อนเพิ่มทุน ทำรายย่อยจ่ายแพง TTA ระดมทุน 9,000 ล้านบาท มหากิจศิริ
พร้อมใส่เงิน ส่วน SSI วิ่งฉิว ขายหุ้นพีพีสำเร็จ 50 ล้านเหรียญ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ควรเข้าไปตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนที่มี
พฤติกรรมเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นแรง ก่อนที่จะประกาศข่าวเพิ่มทุนโดยขายในราคาต่ำกว่าตลาดขณะ
นั้น เพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นแต่ต้องจ่ายในราคาแพงกว่าปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงบริษัทที่กำลังเพิ่มทุนแต่ราคา
หุ้นในกระดานยังต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนด้วย จึงต้องมีการไล่ราคาหุ้นเช่นกัน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 310
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 110
จากที่หลายท่านได้ post ผลงานของ กลต. โยเฉพาะคุณ pak ได้ post ไว้เยอะ
จะเห็นได้ว่างาน กลต. ในช่วงนี้มีเยอะพอควรเลยทีเดียว
วันนี้ก็เห็นอีก 2 ผลงานได้แก่ กรณี "ไร่ส้ม" กับที่ "สินธร pantip"
ผมขอฝาก กลต.อีกเรื่องครับที่ดีมากเลยครับถ้าท่านพยายามจัดการกับหนังสือพิมพ์...หุ้นที่ให้ข่าวมั่วมาตลอดจน ผบห.ออกมาปฎิเสธกันหลายข่าวแล้ว
มันก็มีบางข่าวถูกต้องบ้างแต่ส่วนน้อย
จะเห็นได้ว่างาน กลต. ในช่วงนี้มีเยอะพอควรเลยทีเดียว
วันนี้ก็เห็นอีก 2 ผลงานได้แก่ กรณี "ไร่ส้ม" กับที่ "สินธร pantip"
ผมขอฝาก กลต.อีกเรื่องครับที่ดีมากเลยครับถ้าท่านพยายามจัดการกับหนังสือพิมพ์...หุ้นที่ให้ข่าวมั่วมาตลอดจน ผบห.ออกมาปฎิเสธกันหลายข่าวแล้ว
มันก็มีบางข่าวถูกต้องบ้างแต่ส่วนน้อย
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 111
น่าจะหมายถึงกรณีนี้นะครับkasam เขียน:วันนี้ก็เห็นอีก 2 ผลงานได้แก่ กรณี "ไร่ส้ม" กับที่ "สินธร pantip"
กรณีศึกษา "noteperfect"
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 73188.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 114
กลต.รุกสกัดคอร์รัปชัน แก้กฎเปิดข้อมูลก่อนขายหุ้นใหม่ ฟังความคิดเห็น [ โพสต์ทูเดย์, 6 ธ.ค. 55 ]
ก.ล.ต.รุกต่อต้านคอร์รัปชันปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรม เพื่อสังคมของบริษัทที่จะขายหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. มี
แนวคิดที่จะให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคม ซึ่งรวมถึงการดำเนิน
การเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การดำเนินงานที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยว
ข้อง และการให้ความสำคัญแก่บุคลากรที่ทำหน้าที่ให้บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีไว้ในแบบแสดงรายการ
ข้อมูล เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงความตั้งใจของบริษัทในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส
และคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักสากลที่ให้ความสำคัญ
ก.ล.ต.รุกต่อต้านคอร์รัปชันปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรม เพื่อสังคมของบริษัทที่จะขายหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. มี
แนวคิดที่จะให้บริษัทที่ออกหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคม ซึ่งรวมถึงการดำเนิน
การเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การดำเนินงานที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและผู้ที่เกี่ยว
ข้อง และการให้ความสำคัญแก่บุคลากรที่ทำหน้าที่ให้บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีไว้ในแบบแสดงรายการ
ข้อมูล เพื่อให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบถึงความตั้งใจของบริษัทในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส
และคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักสากลที่ให้ความสำคัญ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 115
กลต.แนะนำอนันดา เปิดโอกาสชี้แจงข้อมูลรายย่อยมากขึ้น ยันเกณฑ์มาร์เก็ตแคปมาตรฐานสากล [ โพสต์ทูเดย์, 14 ธ.ค. 55 ]
ก.ล.ต.ลั่นไม่แก้เกณฑ์ไอพีโอใช้มาร์เก็ตแคป 5,000 ล้านบาท ระบุเป็นระดับสากลกรณี ANAN ชี้แจง
ในหนังสือชี้ชวนชัดเจน แนะบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินควรให้ข้อมูลนักลงทุนรายย่อยมากกว่านี้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เปิดเผยว่า ก.ล.ต. คงไม่ไปแก้เกณฑ์รับหลักทรัพย์ที่อนุมัติให้บริษัทที่จะเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก
ก.ล.ต.ลั่นไม่แก้เกณฑ์ไอพีโอใช้มาร์เก็ตแคป 5,000 ล้านบาท ระบุเป็นระดับสากลกรณี ANAN ชี้แจง
ในหนังสือชี้ชวนชัดเจน แนะบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินควรให้ข้อมูลนักลงทุนรายย่อยมากกว่านี้
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เปิดเผยว่า ก.ล.ต. คงไม่ไปแก้เกณฑ์รับหลักทรัพย์ที่อนุมัติให้บริษัทที่จะเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 116
ก.ล.ต.ลงดาบผู้แนะนำการลงทุน [ ไทยรัฐ, 14 ธ.ค. 55 ]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งพักการปฏิบัติ
หน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนรายนายธีระ เชาวนปรีชาศิลป์ ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
จำกัด เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2555 และเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติ
หน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนรายนายนนท์การณ์ แซ่ตัง ในกรณีนายธีระ ก.ล.ต.ได้รับผลการตรวจสอบเรื่อง
ร้องเรียนจากบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด พบว่า ลูกค้าได้มอบหมายให้นายธีระตัดสินใจซื้อขาย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนโดยมอบบัญชีผู้ใช้งาน (username) และรหัสผ่าน (password) เพื่อใช้ส่งคำสั่ง
ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.2554 จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2554 เกิดผลขาดทุน 600,000-
700,000 บาท ซึ่งลูกค้าได้แจ้งให้นายธีระหยุดการซื้อขายดังกล่าว แต่นายธีระได้ดำเนินการซื้อขายอีกใน
วันที่ 5 และวันที่ 6 ม.ค.2555
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งพักการปฏิบัติ
หน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนรายนายธีระ เชาวนปรีชาศิลป์ ขณะกระทำผิดสังกัดบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
จำกัด เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2555 และเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติ
หน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนรายนายนนท์การณ์ แซ่ตัง ในกรณีนายธีระ ก.ล.ต.ได้รับผลการตรวจสอบเรื่อง
ร้องเรียนจากบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด พบว่า ลูกค้าได้มอบหมายให้นายธีระตัดสินใจซื้อขาย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนโดยมอบบัญชีผู้ใช้งาน (username) และรหัสผ่าน (password) เพื่อใช้ส่งคำสั่ง
ซื้อขายทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.2554 จนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2554 เกิดผลขาดทุน 600,000-
700,000 บาท ซึ่งลูกค้าได้แจ้งให้นายธีระหยุดการซื้อขายดังกล่าว แต่นายธีระได้ดำเนินการซื้อขายอีกใน
วันที่ 5 และวันที่ 6 ม.ค.2555
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 117
ตลท.จัดทัพใหม่ ตั้งรอง 'เกศรา' หึ่งสมองไหล [ โพสต์ทูเดย์, 21 ธ.ค. 55 ]
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เสริมทีมบริหารแกร่ง ตั้ง "เกศรา" เป็นรองผู้จัดการ
เจอปัญหาสมองไหล
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผย
ว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยเน้นการจัดกลุ่มงานและ
มอบหมายหน้าที่แก่ผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและผลักดันการทำงานตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสานโอกาสทางการเงินให้แก่ผู้ลงทุนและธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เสริมทีมบริหารแกร่ง ตั้ง "เกศรา" เป็นรองผู้จัดการ
เจอปัญหาสมองไหล
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผย
ว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยเน้นการจัดกลุ่มงานและ
มอบหมายหน้าที่แก่ผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและผลักดันการทำงานตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งสานโอกาสทางการเงินให้แก่ผู้ลงทุนและธุรกิจ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
Re: วิจารณ์ กลต.
โพสต์ที่ 118
ก.ล.ต.สั่งปรับ5ล.2นักลงทุนรายใหญ่ปั่นราคาหุ้นสาลี่ [ กรุงเทพธุรกิจ, 21 ธ.ค. 55 ]
สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมี
คำสั่งเปรียบเทียบนางพิมพา จิวะพรทิพย์ และนายนภดล อารยะกุล กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท สาลี่
อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) หรือ สาลี่เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,087,214.99 บาท เมื่อวันที่
19 ธ.ค.ปี 2555
สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมี
คำสั่งเปรียบเทียบนางพิมพา จิวะพรทิพย์ และนายนภดล อารยะกุล กรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท สาลี่
อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) หรือ สาลี่เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,087,214.99 บาท เมื่อวันที่
19 ธ.ค.ปี 2555
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."