Thai VI

จับตาสื่อสาร! พรุ่งนี้บอร์ดกสทช.จะผ่านร่างแผนแม่บท 3 ฉบับหรือไม่
วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2555 เวลา 12:27:29 น.

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ สื่อสาร กสทช.มั่นใจเปิดประมูล 3G แน่นอน วานนี้ฝ่ายวิจัยฯ DBSV ได้มีโอกาสเข้าพบ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช. พบว่า มีประเด็นที่น่าสนใจหลายประการ แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ กำหนดการจะทำร่าง IM (Information Memorandum) ให้เสร็จก่อนภายใน พ.ค.55 และทางกสทช.ก็มีความมั่นใจในเรื่องการเปิดประมูล 3G ได้ทันภายในปี 55 นี้ ซึ่งตรงกับที่ DBSV ได้คาดการณ์ไว้ และกสทช.พยายามจะให้เกิดทันใน 3Q55 ไว้ก่อน นอกจากนี้ทาง กสทช.เองก็มีความตั้งใจว่าจะไม่มีการเลื่อนระยะเวลาการเปิดประมูล 3G ออกไปอีกแล้ว เพราะทาง กสทช.มีอำนาจเต็มที่จะให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบการได้ อีกทั้ง กสทช.มีแผนที่จะเปิดประมูล คลื่นความถี่ 1800 MHZ ในปี 56 ด้วย การที่อุปทานคลื่นความถี่จะเพิ่มขึ้น น่าจะมีส่วนทำให้ราคาใบอนุญาต (reserve price) ขั้นต่ำลดต่ำลงด้วย แต่คลื่นนี้จะมีขึ้นภายหลังจากสัมปทาน

TrueMove หมดอายุลงในเดือน ก.ย.56 และมีการคืนคลื่นกลับให้ กสทช. แต่การประมูลจะเกิดขึ้นก่อนประมาณ 1H56 ที่สัมปทานของ TRUE จะหมดอายุลง ส่วนใบอนุญาตจะเป็น Technology neutral คือ ไม่ระบุ Technology ที่ต้องจะใช้ แล้วแต่ผู้ประกอบการจะเลือก เช่น 2G GSM หรือ 4G LTE เป็นต้น ข้อดีคือ TrueMove จะสามารถดำเนินธุรกิจ 2G บนคลื่น 1800 MHZ ต่อไปได้ และในที่สุดเมื่อย้ายผู้ใช้บริการไป TrueMove H แล้วเสร็จ ก็เปลี่ยนคลื่นนี้มาให้บริการเป็น 4G LTE ได้ รวมทั้ง ADVANC และ DTAC ก็สามารถมาใช้ได้เช่นกัน

อีกประเด็นหนึ่งที่ได้รับความสนใจคือ ทาง กสทช.จะใช้เกณฑ์พิจารณากิจการที่เป็นต่างด้าวโดยยึดจาก พรบ.ของกระทรวงพาณิชย์ คือ พิจารณาจากสัญชาติของนิติบุคคลเท่านั้น ไม่ได้ไปพิจารณาถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่เป็นชั้นเหนือขึ้นไปอีก อย่างที่เคยมีกรณีนี้ในอดีต ดังนั้น ADVANC และ DTAC จึงจะไม่ปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องสัญญาระหว่าง กสท. กับ TRUE นั้น กสทช.ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินว่าถูกหรือผิด เพียงแต่ต้องมีความมั่นใจว่าสัญญานี้เป็นไปตามมาตรา 46 คือ ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการ (กสท.) ไปอนุญาตให้ผู้ประกอบการอีกรายไปบริหารคลื่นความถี่ ส่วนเรื่องราคาในการประมูล อาจจะไม่ใช้วิธี N-1 (จำนวนใบอนุญาตน้อยกว่าหนึ่งเทียบกับจำนวนผู้เข้าประมูลทั้งหมด) เพราะไม่เน้นว่าต้องการได้ราคาประมูลที่สูงที่สุด แต่อาจใช้วิธีทยอยประมูลครั้งละ 5 MHZ เพื่อทำให้มีความมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมประมูลทุกรายจะมีโอกาสได้รับใบอนุญาต แต่ขนาดอาจต่างกันแล้วแต่ความพร้อม และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการฟ้องศาล รวมทั้งการประมูลถูกรบกวนได้ นอกจากนี้ กสทช.มีแนวคิดจะให้สามารถร่วมกันใช้ infrastructure ได้ เช่นมีการเช่า เป็นต้น เพื่อทำให้การใช้สินทรัพย์เกิดประโยชน์สูงสุด

จากการศึกษาพบว่าใบอนุญาต 3G จะช่วยเพิ่มมูลค่าพื้นฐาน NPV ให้กับหลักทรัพย์ต่างๆ ในอัตรา 9-35% เพราะค่าตอบแทนใบอนุญาตเป็นเพียง 6.5% ต่ำกว่าส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทานปัจจุบัน โดย DTAC เพิ่มขึ้นมากสุด 35% สำหรับ ADVANC เพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ TrueMove H ของ TRUE จ่ายผลตอบแทนให้ทางการเพียง 10% ดังนั้น NPV จึงเพิ่มขึ้นเพียง 9% สิ่งที่ต้องติดตามในระยะสั้นคือ บอร์ดกสทช.จะผ่านร่างแผนแม่บท 3 ฉบับในวันพุธ 21 มี.ค.หรือพรุ่งนี้หรือไม่ แต่ กสทช.มีความมั่นใจว่าจะผ่าน DBSVเห็นว่าหากผ่าน ก็จะมี sentiment ที่ดีต่อหลักทรัพย์ในกลุ่มนี้ หลังจาก 13 มี.ค. 55 ที่บอร์ดยังไม่อนุมัติ

22 มี.ค.--ทันหุ้น
Distributor - Bisnews AFE

กสทช.ไฟเขียว3ร่างแผนแม่บทจุดพลุ'สื่อสาร'สอย'ADVANC'
กสทช.ผ่านร่างแผนแม่บท 3 ฉบับ จ่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสิ้นเดือนมีนาคม หรืออย่าง
ช้าต้นเดือนเมษายน ฟากเอกชน ADVANC ประกาศพร้อมประมูลไลเซนส์ 3G คลื่น 2100 GHzนานแล้วเล็ง
ปรับงบลงทุนจากเดิม 4.5-5 หมื่นล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้าส่วนผลงานโค้งแรกกระหึ่มได้กระแสสมาร์ทโฟน
หนุน Non Voice โตด้านโบรกเชียร์เก็บยกแก๊งรับประโยชน์ทั่วหน้า


'PT'ดี๊ด๊าประมูล3Gคลอด'DTAC'ป้อนงานหมื่นล้าน
PT ยิ้มแฉ่งการประมูล 3G เดินเครื่อง Q3/2555 หนุนงานเข้า PT มือระวิง ด้าน "แหล่งข่าว"
คุยฟุ้ง ADVANC-DTAC เรียงคิวส่งมอบงานใหม่เพียบเชื่อปั๊มรายได้ปี 2555 เกินเป้าเป็น 20-30% ต่อปี
จาก 10-15% ฟากกูรูจ่อเพิ่มเป้า หลังรับอานิสงส์ ADVANC-DTAC มอบงานหลักหมื่นล้านบาท จากเป้าเดิม
6.00 บาท


กสท.หนุนประชุมนานาชาติ Carrier World Asia 2012
Carrier World Asia 2012 เป็นการประชุมนานาชาติกลุ่มผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคม หรือ
Global Service Provider ชั้นนำจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย และจากทั่วโลก ประกอบด้วย
กลุ่ม บริษัท Wholesale Fixed, Mobile Telecom Carriers, Network and Infrastructure
Providers และ Service Providers ซึ่งได้จัดเป็นประจำทุกปีและจะจัดขึ้นในเมืองไทยเป็นครั้งแรก
ในปีนี้ ณ The Westin Grande Sukhumvit 28-29 มีนาคม 2555 ซึ่ง CAT หนึ่งในผู้ประกอบการ
สื่อสารโทรคมนาคมหลักของไทยได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน ร่วมผลักดัน พัฒนาการให้บริการ
สื่อสารโทรคมนาคมระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย


--จบ--

ประมูล 3G ก.ย.นี้ 3แผนแม่บทฉลุย [ ข่าวหุ้น, 22 มี.ค. 55 ]

หุ้นสื่อสารวิ่งสนั่น รับ กสทช. ก.ย.นี้ หลังบอร์ดไฟเขียว 3 แผนแม่บท ยันแผนเดิมตามสูตรระยะ
เวลาถือครองคลื่นลงมติ 6:4 เสียง กำหนดระยะเวลา คืนคลื่นตามสูตร 5-10-15 ปี/วิทยุ-ทีวี-โทร
คมนาคมตามลำดับ

เฮ! ลุยหุ้นสื่อสาร 3 จีเกิดแน่ กสทช.เปิดประมูลไตรมาส 3 1,200 ฉลุยหุ้นใกล้ 10 ล้านล. [ โพสต์ทูเดย์, 22 มี.ค. 55 ]

หุ้นสื่อสารแรงไม่หยุด กสทช.เห็นชอบ 3 แผนแม่บทเปิดประมูล 3จี ได้ไตรมาส 3 เร็วเกินคาด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร้อนแรงตลอดวันตามแรงซื้อเก็งกำไร ผลการประชุม
ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่ง
มีมติเห็นชอบ 3 แผนแม่บทหลักและน่าจะสามารถเปิดประมูลใบอนุญาต 3จี ได้ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.
2555 นี้ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นและสนับสนุนให้ดัชนีกลุ่มนี้ปิดที่ 152.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.26

‎### DTAC ตั้งเป้าขยายเครือข่าย 3G ครอบคลุมเพิ่ม 3,000 สถานีฐายภายในปี 55 ###


นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)กล่าวว่า ดีแทค มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้านการสื่อสารให้แก่ลูกค้า โดยการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านเทคโนโลยีเพื่อการขยายเครือข่ายให้บริการ 3จี บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์

ในเดือนมีนาคมนี้ เราจะขยายการให้บริการ 3จี ครอบคลุม 2...,000 สถานีฐานในพื้นที่บริการ 45 จังหวัด และด้วยความต้องการด้านการใช้บริการดาต้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราจึงตั้งเป้าที่จะขยายการให้บริการ 3จี ครอบคลุมเพิ่มขึ้นอีก 3,000 สถานีฐาน ภายในปี 55 ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าของเราได้รับบริการด้านเสียง และบริการดาต้าที่มีคุณภาพ ด้วยเครือข่ายให้บริการที่ดียิ่งขึ้น การขยายการให้บริการ 3จี สู่สถานีฐานทั้งหมด 5,000 แห่ง ทั่วประเทศ ทำให้ดีแทคมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถให้บริการ 3จี ได้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้

ทั้งนี้ งบลงทุนครั้งนี้ได้รวมอยู่ในแผนรายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX ในปี 2555 ที่ได้ประมาณการไว้เป็นจำนวน 8-9 พันล้านบาท

ขณะเดียวกัน แผนการปรับปรุงยกระดับเครือข่าย 2จี มากกว่า 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ ก็มีความคืบหน้าตามแผน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2555 นี้ โดยผู้ใช้บริการจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพของบริการด้านเสียงที่ดีขึ้น และบริการดาต้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงยกระดับเครือข่ายครั้งนี้ ยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุดในโลกมาสู่ประเทศไทย ซึ่งจะส่งให้ดีแทคก้าวสู่ระดับแนวหน้าด้านความพร้อมทางเทคโนโลยีสำหรับบริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ และเทคโนโลยี LTE (4จี) ในอนาคตอีกด้วย

“ดีแทค มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการประมูล 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ในปีนี้ ในระหว่างนี้ เราได้รับการอนุญาตจาก บมจ. กสท. โทรคมนาคม สำหรับการทดสอบให้บริการเทคโนโลยี LTE โดยรอการพิจารณาอนุญาตจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเริ่มทดสอบการให้บริการ LTE ในช่วงไตรมาส 3/55 นี้ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานผู้กำกับดูแลในเรื่องของการนำคลื่นความถี่มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงสนับสนุน กสทช. อย่างยิ่งที่จะจัดการประมูลสำหรับบริการ 4จี ไปพร้อมๆ กับ การประมูลบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ การเปิดให้บริการ 3จี และ 4จี จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุด ทั้งสู่ผู้บริโภค หน่วยงานผู้กำกับดูแล รัฐบาล และประเทศโดยรวม"นายอับดุลลาห์ กล่าว

--อินโฟเควสท์--

ไอซีที' ลงทุน 80,000 ล้านบาท วางเคเบิลฯ


"ไอซีที" ดันแผน"สมาร์ทไทยแลนด์"วางโรดแมปขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตครอบคลุมประชากร 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า เตรียมปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ วางสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเพิ่ม คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 80,000 ล้านบาท วางโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปถึงตำบล พร้อมบริการอิเล็กทรอนิกส์

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยแผนดำเนินงานเพื่อผลักดันโครงการ SMART THAILAND" ว่า ปัจจุบันไทยเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของประเทศที่มีความพร้อมของโครงข่ายโทรคมนาคมลดลงเป็นอย่างมาก โดยจากการศึกษาของ World Economic Forum พบว่าอันดับความพร้อมใช้งานโครงข่ายโทรคมนาคมของไทยในปี 2554 อยู่ที่อันดับ 59 ลดลงจากปี 2549 ที่อยู่ในอันดับ 37 ขณะที่ประเทศ เพื่อนบ้านอย่างเวียดนามนั้นมีอันดับที่ดีขึ้น ไทยจึงจำเป็นจะต้องพัฒนาด้าน ICT ทั้งในส่วนโครงสร้างพื้นฐาน และรูปแบบการใช้งาน (Applications) รวมทั้งบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจในยุค Digital economy

"กระทรวงไอซีทีในฐานะหน่วยงานหลักซึ่งทำหน้าที่กำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงได้ดำเนินโครงการ SMART THAILAND ซึ่งสอดรับกับนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ และนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทยสำหรับปี 2554-2563 หรือ ICT 2020 รวมถึงนโยบายของรัฐบาล โดยได้ดำเนินงานหลักๆ ใน 2 ส่วน คือ 1. SMART NETWORK เป็นการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่เน้นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเป็นหลัก มีเป้าหมายเพื่อขยายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมประชากร 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า และ 95% ภายในปี 2563 โดยปัจจุบันไทยมีโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงไปถึง (Reach) ระดับตำบล ครอบคลุมประชากรประมาณ 87 %แต่ยังขาดความพร้อมของอุปกรณ์ในการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง จึง จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ รวมทั้งการวางสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งโครงการประมาณ 80,000 ล้านบาท เพื่อวางโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงและให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปถึงในระดับตำบล และให้มีบริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ"

ส่วนการดำเนินงานที่ 2. คือ SMART GOVERNMENT เพื่อส่งเสริมการให้บริการผ่านโครงข่าย SMART NETWORK ซึ่งบริการอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีความสำคัญต่อการกระตุ้นความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยในปี 2553 ไทยมีมูลค่าการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สูงถึงประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท (37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) กระทรวง จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)เป็นผู้ดูแลและส่งเสริมการเติบโตของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ ในขณะเดียวกันยังจะได้ผลักดันบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของภาครัฐ โดยในขั้นแรกจะผลักดันบริการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างทั่วถึง และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการและโครงข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของประชาชนในเขตเมืองและชนบท เช่น โครงการรักษาพยาบาลทางไกล และโครงการศึกษาทางไกลฯลฯ


ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=491

วีเทคมั่นใจรายได้แตะ 1,500 ล้าน ลุยประมูลคอมพ์ไทยเข้มแข็งภาคจบ

วีเทคขอส่วนแบ่ง 20% โครงการคอมพ์กระทรวงศึกษาฯ ปีสุดท้าย พร้อมแตกไลน์ขยายรายได้ในส่วนภาคเอกชนเพิ่ม รับติดตั้งงานระบบ 3G ของกลุ่มทรูปีละ 400 ล้าน ล่าสุดรับขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเบนคิวเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1,500 ล้านบาท

นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ กล่าวว่าบริษัทเชื่อว่าจะสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาด 20% หรือประมาณ 400 ล้านบาทในโครงการคอมพิวเตอร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งปีที่ 3 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการโดยมีมูลค่าประมาณ 1,200-1,800 ล้านบาท จากมูลค่าทั้งโครงการ 7,949 ล้านบาท โดยยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายเดิมคือบริษัท ฟูจิตสึ ซิสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย)บริษัท เล็คมาร์ค บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ และบริษัท โพเวลอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์

สาเหตุที่ทำให้มั่นใจว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น เพราะมีดีลเลอร์ที่ช่วยทำตลาดทั่วประเทศเพิ่มขึ้น โดยเวลานี้มีประมาณ 110 ราย เมื่อเทียบกับ 2 ปีแรกที่เริ่มจาก 50 ราย มาเป็น 70 ราย รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาการกีดกันทางการค้าจากคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นจากที่ในระยะเวลา 2 ปีของโครงการสามารถมีส่วนแบ่งรายได้รวม 780 ล้านจากมูลค่ารวม 6 พันกว่าล้านบาท

โครงการคอมพิวเตอร์ ของกระทรวงศึกษาธิการนี้สร้างชื่อให้บริษัทเป็นที่รู้จักในตลาดไอซีทีภาครัฐได้ โดยสร้างรายได้ให้บริษัทเป็นอันดับหนึ่ง ถึงแม้จะหมดโครงการนี้ บริษัทก็จะเน้นทำตลาดภาครัฐในด้านไอซีทีอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนรายได้ปีที่ผ่านมารวมถึงปีนี้ด้วยจะยังคงอยู่ที่ 60-70% ตามมาด้วยตลาดเอกชน ในส่วนของตลาดโทรคมนาคม โดยบริษัทได้รับโครงการงานระบบ 3G ของกลุ่มทรูเพิ่มขึ้นมาโดยมีมูลค่าโครงการในแต่ละปีประมาณ 400 ล้านบาท

ล่าสุดวีเทคได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยสำหรับการทำตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์จากเบนคิว โดยจะทำการตลาดผ่าน 2 ช่องทาง คือ 1 .เป็นการทำตลาดโดยทีมการตลาดของบริษัทเองในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เฉพาะทาง กับ 2. ขายผ่านมาสเตอร์ดีลเลอร์ที่มีอยู่ 1 รายในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นลักษณะคอนซูเมอร์โปรดักส์ โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 90 ล้านบาท

'ส่วนกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า Wholesale ที่เป็นการพัฒนาโซลูชั่นไอซีทีขึ้นมาเองเพื่อขายผ่านดีลเลอร์ เวลานี้พัฒนาขึ้นมาแล้ว 2 ระบบ โดยคาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ที่ 200 ล้านบาท รวมแล้วปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CBiZReview/Vie ... 0000036489


ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?i ... &gblog=163

สื่อสารเนื้อเต้น ใบอนุญาต 3จี ถูกเริ่ม 7-8 พันล้าน [ โพสต์ทูเดย์, 29 มี.ค. 55 ]

ข่าวดีกลุ่มสื่อสาร ค่าใบอนุญาต 3 จี ขั้นต่ำ 7,000-8,000 ล้านบาท ถูกเทียบ 1.28 หมื่นล้านบาท
ของ กทช.

นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC)
เปิดเผยว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ได้หารือกับผู้ประกอบการถึงความเหมาะสมในการกำหนดราคาขั้นต่ำของใบอนุญาตที่จะเปิดประมูลโทรศัพท์
มือถือระบบ 3จี ไว้ที่ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิมที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ (กทช.) กำหนดไว้ 1.28 หมื่นล้านบาท

ลุ้นสทช.ประกาศ 3 แผนแม่บทในราชกิจจาฯวันนี้ DTAC เป้าสูง 101 บาท
วันพุธที่ 04 เมษายน 2555 เวลา 12:34:19 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มมือถืออ่อนตัวลงหลังในช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งเป็นการขายทำกำไรหลังจากทยอยปรับตัวขึ้นรับข่าวดีการประมูลโครงข่าย 3G ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3/55 นี้ ประกอบกับหุ้นทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่มีสิทธิรับเงินปันผล โดยบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ณ เวลา 12.24 น. อยู่ที่ 82.50 บาท ลดลง 1 บาท โดยวันนี้บริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลที่จ่ายในอัตรา 1.38 บาทต่อหุ้น ด้านบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ 181.50 บาท ลดลง 1 บาท หลังจากขึ้นเครื่องหมาย XD เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยจ่ายปันผล 4.26 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE อยู่ที่ 3.64 บาท ลดลง 0.04 บาท ไม่มีการจ่ายเงินปันผล ส่งผลให้ราคาปรับ นักลงทุนกังวลกับปัญหาเกี่ยวกับสัญญา 3G ระหว่าง TRUE และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ กสท.

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คาดกสทช.ประกาศ 3 แผนแม่บทในราชกิจจาฯวันนี้ กลุ่มมือถือยังน่าสนใจ แนะนำ DTAC เป็น Top pick ราคาเป้าหมาย 101 บาท

ประมูล3Gก.ย.นี้
3แผนแม่บทฉลุย
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2555

หุ้นสื่อสารวิ่งสนั่น รับ กสทช. ประกาศประมูลไลเซนส์ 3G ก.ย.นี้ หลังบอร์ดไฟเขียว 3 แผนแม่บท ยันแผนเดิมตามสูตรระยะเวลาถือครองคลื่นลงมติ 6:4 เสียงกำหนดระยะเวลาคืนคลื่นตามสูตร 5-10-15 ปี/วิทยุ-ทีวี-โทรคมนาคมตามลำดับ

วานนี้ (21 มี.ค.) บรรยากาศการซื้อขายหุ้นสื่อสารคึกคักเป็นพิเศษ หลังบอร์ด กสทช. ลงมติเห็นชอบ 3 ร่างแผนแม่บท พร้อมประกาศประมูลไลเซนส์ 3G ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ โดยหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ปิดตลาด 80.25 บาท บวก 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.94% มูลค่าซื้อขาย 2,641 ล้านบาท บริษัท แอ๊ดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ปิดตลาด 179 บาท บวก 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.5% มูลค่าซื้อขาย 619 ล้านบาท และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ปิดตลาด 3.74 บาท บวก 0.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.54% มูลค่าซื้อขาย 892 ล้านบาท

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (กสทช.) วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบทั้ง 3 ร่างแผ่นแม่บท ได้แก่ ร่างแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ เห็นชอบ 6:4 ร่างแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เห็นชอบทั้ง 10 ท่าน และร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม เห็นชอบทั้ง 10 ท่าน โดย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ลาประชุม ทั้งนี้ หลังจากที่ทางสำนักงาน กสทช. ได้นำความเห็นจากประชาพิจารณ์มาแก้ไขและนำกลับไปพิจารณาใหม่อีกครั้งหลังจากได้มีการเสนอให้บอร์ดพิจารณาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยแผนแม่บทโทรคมนาคมมีเรื่องกรอบการเปิดประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G คลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์นั้น คณะกรรมการให้เป็นตามเดิม คือช่วงไตรมาส 3/55 หรือราวเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้

สำหรับประเด็นที่มีการถกเถียงกันมากคือระยะเวลาในการคืนคลื่น แต่ทางสำนักงานยังยืนยันที่จะใช้ระยะเวลาเดิม คือ วิทยุ 5 ปี โทรทัศน์ 10 ปี และกิจการโทรคมนาคม 15 ปี โดยที่ประชุมมีมติออกมาคือ 6:4 โดยเสียงส่วนมากให้ยืนยันตามร่างเดิม ที่กำหนดอัตราอายุถือคลองคลื่นความถี่เท่าเดิมคือโทรคมนาคมอยู่ที่ระยะเวลาสูงสุด 15 ปี เช่น บมจ.ทีโอที (TOT) ที่ปัจจุบันมีอายุถือครองคลื่นความถี่ที่จะหมดในปี 2568 นี้ ซึ่งหากคำนวณตามระยะเวลาคลื่นก็จะเหลือ 13 ปี ในการใช้บริการ 3 จี เนื่องจากเปิดให้บริการไปแล้ว 2 ปี เป็นต้น

นายฐากร กล่าวว่า จากนี้จะนำแผนแม่บทขึ้นเว็บไซต์ของ กสทช. ภายใน 7 วัน หากระหว่างนี้มีผู้คัดค้านจะนำเรื่องเสนอต่อ กสทช. ต่อไป แต่ถ้าไม่มีผู้คัดค้านจะนำร่างแผนแม่บททั้ง 3 แผนไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ หรืออาจเป็นต้นเดือนเมษายนนี้ โดยทุก 2 ปีจะต้องมีการปรับปรุงแผนแม่บทคลื่นความถี่ใหม่ หากใน 2 ปีมีอะไรไม่ดีก็สามารถปรับแก้ได้

“ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะทั้งหมดเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นทางสาธารณะในส่วนของคลื่นแม่บท คลื่นความถี่มาตลอด พร้อมนำแผนแม่บทขึ้นประกาศราชกิจจานุเบกษาในช่วงสิ้นเดือน มี.ค.นี้ หรืออาจเหลดไปประมาณ 1-2 เม.ย.” นายฐากร กล่าว
สำหรับคลื่นที่ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาการหมดอายุไว้ คือ บริษัทวิทยุการบิน จำกัด บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) บริษัท เอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด, บมจ.กสท โทรคมนาคมและทีโอที โดยทีโอทีกับ กสทฯ เข้าข่ายคืนคลื่น 13 ปีตามระยะเวลาสัมปทานที่เหลือ ส่วนใบอนุญาตของบริษัทวิทยุการบิน จำกัด เหลือระยะเวลา 10 ปี ขณะที่ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ไม่สามารถระบุได้ว่าจะได้รับใบอนุญาตประเภทไหน และจะได้รับใบอนุญาตกี่ปี ขณะที่ บริษัท เอเซียส รีเยนแนล เซอร์วิส จำกัด ยังอยู่ระหว่างพิจารณา

ปปช. ​เลื่อนสรุปผลสอบสัญญา 3G HSPA ระหว่างกสท.-TRUE ​ไป​เป็น 23 ​เม.ย.
ข่าวหุ้น-​การ​เงิน สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 ​เมษายน 2555 17:58:46 น.

นาย​เมธี ครอง​แก้ว ประธานคณะอนุกรรม​การ​ไต่สวนสอบข้อ​เท็จจริง กรณี​การ​ทำสัญญา​โครง​การ 3G HSPA ระหว่าง บมจ.กสท ​โทรคมนาคม ​และบมจ.ทรู คอร์ปอ​เรชั่น (TRUE) กล่าวว่า คณะอนุฯ​ไต่สวน​ได้สรุปผล​การสอบสวนสัญญาดังกล่าว​แล้ว ตามที่​เจ้าพนักงาน​ได้รวบรวม​เอกสาร ประ​เด็น​การพิจารณา ​ซึ่งผลสรุปออก​แล้วมา ​ในชั้นของคณะอนุฯ​ไต่สวน ​ได้ลงมติ​เลื่อน​การชี้ขาดสัญญาออก​ไป​เป็นวันที่ 23 ​เม.ย.นี้

​เนื่องจาก กรรม​การบางส่วนต้อง​การขอ​เวลาราว 2 สัปดาห์ ​เพื่อศึกษารายละ​เอียด​ในตัวสัญญาดังกล่าวอีกครั้ง ​เพราะยังมีประ​เด็น​ในด้านกฎหมาย ​และ​การ​ทำสัญญาว่าขัดต่อพ.ร.บ.ว่าด้วย​การอนุญาต​ให้​เอกชน​เข้าร่วมงาน​หรือกิจ​การของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ​หรือ​ไม่

นาย​เมธี กล่าวว่า ประ​เด็นที่ต้องศึกษา​เพิ่ม​เติม คือ ขอ​ความ​เห็นจากกระทรวง​การคลัง ​เกี่ยวกับกฎระ​เบียบของ​โครง​การว่าดำ​เนินงานตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ​หรือ​ไม่ ​และตามกฎหมายดังกล่าวมีหลัก​เกณฑ์อะ​ไรบ้าง นอกจากนี้ ยังต้องขอ​ให้คณะกรรม​การกิจ​การวิทยุกระจาย​เสียง กิจ​การ​โทรทัศน์ ​และกิจ​การ​โทรคมนาคม​แห่งชาติ (กสทช.) ส่งรายละ​เอียดสัญญาว่า​เป็น​ไปตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น​ความถี่กำกับกิจ​การวิทยุกระจาย​เสียง กิจ​การวิทยุ​โทรทัศน์ ​และกิจ​การ​โทรคมนาคมพ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ​และนำผลสรุปสัญญาจากกระทรวง​เทค​โน​โลยีสารสน​เทศ ​และ​การสื่อสาร (​ไอซีที) มาประกอบ​การพิจารณา ​ซึ่งจน​ถึงขณะนี้ คณะอนุฯ​ไต่สวน ยัง​ไม่รับ​เอกสารอย่าง​เป็นทาง​การจาก​ไอซีที ​เกี่ยวผลสรุปสัญญาที่พบว่ามีพิรุธ 5 ข้อ

"กรรม​การ​เสียง​แตก​ก็​ไม่​เชิง ​แต่​ก็มีบางคน​เห็นว่าสัญญาถูก บางคน​เห็นว่าผิด ​และบางคน​เห็นว่าควรต้องดู​ในรายละ​เอียด​เพิ่ม​เติม ดังนั้น กรรม​การ​จึง​ได้ข้อยุติว่า จะ​เลื่อน​การพิจารณาชี้ขาดออก​ไป​เป็นวันที่ 23 ​เม.ย.นี้"นาย​เมธีกล่าว

นาย​เมธี กล่าวว่า ประ​เด็น​การพิจารณาที่คณะอนุฯ​ไต่สวนพิจารณาหลักๆ มี 3 ประ​เด็น คือ 1.​การ​ใช้คลื่น​ความถี่​ในย่าน 850 ​เมกะ​เฮิรตซ์ของทรูมูฟ ​เอช ​ในกสท​เป็น​ไปถูกตามพ.ร.บ.กสทช.​หรือ​ไม่ 2.กรณีที่​การ​ทำสัญญา 3จีกสท-ทรูฯอายุ 14.5 ปีนี้ ​โดย​ไม่มี​การประมูลคลื่น​ความถี่​ซึ่ง​เป็นสมบัติชาติ ​เป็น​ไปถูกต้อง​หรือ​ไม่ ​และ 3.​การ​ทำสัญญาขัดต่อพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ​หรือ​ไม่ ​ซึ่ง​ทั้ง 3 ประ​เด็น จะมี​การพิจารณา​ความผิดของ​เจ้าพนักงานรัฐรายบุคคล


--อิน​โฟ​เควสท์ ​โดย รบฦ3/​เสาวลักษณ์/รัชดา ​โทร.02-2535000 ต่อ 317 อี​เมล์: [email protected]--

ซัมซุงผนึกทรูมูฟเอชลุยสมาร์ตโฟน [ โพสต์ทูเดย์, 12 เม.ย. 55 ]

ซัมซุง ชี้ตลาดสมาร์ตโฟนพุ่ง 30% ผนึกทรูมูฟ เอช จัดโปรโมชัน ขยายฐานลูกค้ารับ 3จี ทั่วประเทศ

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดเผยว่า
ปัจจุบันตลาดสมาร์ตโฟนในไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วหรือมากกว่า 30% โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมา สมาร์ต
โฟนที่มีราคาเฉลี่ยเครื่องละ 4,000-5,000 บาท ทำยอดขายได้กว่า 3-4 แสนเครื่องต่อเดือน อีกทั้งการ
ขยายเครือข่ายเทคโนโลยี 3จี ของผู้ให้บริการมือถืออย่างเต็มรูปแบบ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคโดย
เฉพาะในต่างจังหวัดเริ่มสนใจใช้สมาร์ตโฟนมากขึ้น--จบ--

กสทช.เล็งเปลี่ยนวิธีประมูล 3G เปิดทางรายเล็กเข้าแข่งขัน คาดสรุปเม.ย.นี้
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 เมษายน 2555 18:49:19 น.

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมการเปิดประมูลใบอนุญาตนั้น ที่ประชุมได้มีแนวทางการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ โดยกำหนดแนวทางหลักๆ คือการเปิดให้ประมูลจำนวน 5 เมกะเฮิร์ซ ซึ่งจะได้ 9 ช่วง จากเดิมที่รูปแบบของการประมูลได้มีการกำหนดให้ใบอนุญาตความถี่ตายตัวที่ 15 เมกะเฮิรตซ์ต่อใบ หรือรวม 3 ใบอนุญาตเท่านั้น เพื่อทำให้เกิดการแข่งขันและผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเข้าร่วมประมูลได้ เพราะการใช้คลื่นเพียง 5 เมกะเฮิร์ซ ก็สามารถใช้บริการได้ แต่หากเอกชนรายใดต้องการ 10 เมกะเฮิร์ซ ก็สามารถประมูลเป็น 2 ช่วงเป็นต้น


"วิธีการโดยสรุปคือ กทค.จะแบ่งออกช่วงเล็กๆ และให้เกิดการแข่งขันให้จำนวนความต้องการมีการสมดุลกัน คาดว่าปลายเดือนเม.ย.นี้จะสามารถสรุปวิธีการประมูลให้ละเอียดอีกครั้ง แล้วะส่งวิธีการประมูลให้คณะทำงานได้มีการคำนวณราคาเริ่มต้นการประมูลว่าจะได้ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ที่จะต้องจ่ายให้ กสทช.ก่อนที่กสทช.จะส่งต่อให้กระทรวงการคลังต่อไป" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ คณะทำงานได้ประชุมไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังคงมั่นใจว่าจะมีการประมูล 3จี ไม่เกินไตรมาส 3/55 นี้แน่นอน อีกทั้งยังได้มีการเชิญผู้เชี่ยวมาเป็นคณะที่ปรึกษาอีกด้วย ซึ่งรูปแบบใหม่ที่ได้มีการศึกษาเพิ่มเติมที่ได้มีการแบ่งเป็นช่วงๆ นั้น อาจจะต้องมีการเปิดประมูลหลายรอบ แต่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบกิจการรายเล็กเข้าแข่งขันได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการแข่งขันที่มากขึ้นโดยไม่ต้องลดจำนวนใบอนุญาต

"การประมูลแบบ N-1 ไม่มีความจำเป็นและไม่มีประสิทธิภาพในการประมูล เราจะไม่ได้ใช้และทั่วโลกก็ไม่ใช้วิธีนี้กัน ซึ่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) เพราะกำหนดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและห้ามกีดกันการเข้าถึงการใช้คลื่น ที่ระบุไว้ว่าต้องเป็นธรรม โดยคณะกรรมการต้องมีความรอบคอบ" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

นอกจากนี้ คณะทำงานยังตัดประเด็นเงื่อนไขว่าผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจะต้องมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายใน 3 ปี หลังจากได้รับใบอนุญาตแต่จะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นอาทิ หลักทรัพย์การันตีหรือเงินทุนเค้าประกัน เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องส่งแผนธุรกิจให้ครบถ้วนก่อนการประมูลใบอนุญาตด้วย ทั้งนี้ อายุใบอนุญาตจะยังคงอยู่ที่ 15 ปี ต่อ 1 ใบอนุญาต

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ระหว่างนี้ จะให้คณะทำงานไปศึกษาว่าเมื่อเสร็จขั้นตอนการประมูล 3จี นี้แล้ว กสทช.จะทำการเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 เมะกะเฮิร์ซต่อไปอย่างไร เนื่องจากคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ซนั้นปัจุบันถือว่าราคาไม่แพงเท่ากับคลื่น 1800 เมะกะเฮิร์ซ เนื่องจาก 1800 เมะกะเฮิร์ซ สามารถรองรับเทคโนโลยี 4จี หรือกล่าวง่ายๆ คือสามารถนำไปให้บริการ 4 จีได้ จึงจำเป็นต้องนำข้อมูลการประมูล 3 จีไปประกอบกันทั้งหมด

ทั้งนี้ การประมูลใบ 1800 เมะกะเฮิร์ซ ที่ปัจจุบัน บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กับ บริษัท ดิจิตอลโฟน (ดีพีซี) ที่ถือคลื่นความถี่ 1800 เมะกะเฮิร์ซ รายละ 15 เมะกะเฮิร์ซ จะหมดสัญญาสัมปทานกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ในปี 2556 นี้ โดย กสทช.จะต้องนำมาจัดสรรและเปิดประมูลย่าน 1800 เมะกะเฮิร์ซ จะต้องเปิดประมูลก่อนที่ใบอนุญาตจะ 6 เดือน

“ตอนนี้ผู้เข้าร่วมประมูลเท่าที่ทราบตอนนี้มีมากกว่า 3 ราย เราก็อยากเปิดโอกาสให้รายย่อยด้วย แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน แต่ถ้าต่างชาติจะเข้ามาก็ต้องทำตามขั้นตอนพ.ร.บ.คนต่างด้าวแน่นอน ตอนนี้เราก็พยายามอุดช่องโหว่ทั้งหมดในการที่จะมีการฟ้องร้อง โดยตนอยากจะฝากว่าหากใครขัดขวางการประมูลครั้งนี้ก็เหมือนเป็นศัตรูของชาติสำหรับงบประมาณในการประมูลใบอนุญาตที่ตั้งไว้อยู่ที่ประมาณ 30-40 ล้านบาท ทั้งนี้ บอร์ด กทค.สามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าบอร์ดใหญ่ กสทช." พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: [email protected]--

ทรูมูฟ เอช จับมือ ซัมซุง รุกตลาดซิมเติมเงิน 3G+ บนสมาร์ทโฟน จัดโปรโมชั่นแนวใหม่ไม่ซ้ำใคร ให้ลูกค้ารับค่าเครื่องคืน 100% เมื่อซื้อ Samsung Galaxy Y
ข่าวเทคโนโลยี ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 12 เมษายน 2555 20:24:00 น.
ทรูมูฟ เอช จับมือ ซัมซุง รุกตลาดซิมเติมเงิน 3G+ บนสมาร์ทโฟนจัดโปรโมชั่นแนวใหม่ไม่ซ้ำใคร ให้ลูกค้ารับค่าเครื่องคืน 100%

เมื่อซื้อ Samsung Galaxy Y พร้อมเปิดใช้ซิมทรูมูฟ เอช 3G+ แบบเติมเงิน
ทรูมูฟ เอช เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง บุกตลาดสมาร์ทโฟนแบบเติมเงิน ตอบรับเครือข่าย 3G+ ครอบคลุมทั่วประเทศ ประกาศจับมือกับ ซัมซุงจัดโปรโมชั่นแนวใหม่ ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยแนวคิด “รับค่าเครื่องคืนเต็ม 100%” เพียงซื้อ

สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Y มูลค่า 4,790 บาท พร้อมเปิดใช้ซิมทรูมูฟ เอช 3G+ แบบเติมเงินที่มาพร้อมในแพ็คเกจ โดยทุกครั้งที่เติมเงิน ลูกค้าจะได้รับโบนัสคืนเท่ากับมูลค่าที่เติมเงินในแต่ละครั้ง สูงสุด 4,790 บาท คุ้มสุดๆ เหมือนได้รับค่าเครื่องคืน 100% สัมผัสชีวิตอิสระผ่านเครือข่าย 3G+ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ Samsung Galaxy Y พร้อมซิมทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน ได้ตั้งแต่วันนี้

ถึง 30 มิถุนายน 2555 ที่ร้านทรูช็อปและร้านตัวแทนจำหน่าย Samsung ทั่วประเทศ
นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ธุรกิจโมบายล์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช ขยายฐานลูกค้าแบบเติมเงิน ให้คนไทยทั่วประเทศเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมออนไลน์เต็มสปีดบนเครือข่าย 3G+ ที่ใช้งานได้จริงครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในไทย ด้วยโปรโมชั่นรับค่าเครื่องคืน 100%’ แนวคิดใหม่ครั้งแรกของตลาดโทรคมนาคมไทยที่จำหน่ายสมาร์ทโฟน 3G พร้อมซิมเติมเงิน แถมคืนโบนัสใช้งานเต็มจำนวนเท่ากับมูลค่าเครื่องที่ลูกค้าซื้อ ล่าสุดร่วมกับ ซัมซุง นำ Samsung Galaxy Y สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กสเป็คแรงที่ขายดีที่สุดในปัจจุบัน มาจำหน่ายพร้อมกับซิมทรูมูฟ เอช 3G+แบบเติมเงิน โดยทุกครั้งที่เติมเงิน ลูกค้าจะได้รับโบนัสคืนเท่ากับมูลค่าที่เติมเงินในแต่ละครั้ง จนครบ 4,790 บาท ซึ่งสามารถใช้เป็นทั้งค่าโทร SMS MMS และดาต้า ได้เต็มมูลค่า จึงเหมือนลูกค้าได้รับค่าเครื่องคืน 100% ทั้งนี้ การทำตลาดพร้อมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 3G ครั้งนี้ ยังเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ 3G เต็มรูปแบบ ด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุด โปรโมชั่นโดนใจ รวมถึงแพ็กเกจเสริมหลากหลายสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ทั้งโทรและเล่นเน็ต ทรูมูฟ เอช จึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าแบบเติมเงินได้ทั่วประเทศ พร้อมๆ ไปกับการขยายการให้บริการ 3G+ เช่นกัน”

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า“ซัมซุงได้สร้างและบุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนในวันนี้เราได้ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการแข่งขันในปัจจุบันค่อนข้างเข้มข้น ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี 3G ในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจเลือกใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ผนวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งจากเดิมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคเป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับ การติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้ขยายไปสู่การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ต่อเนื่องสังคม และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ผ่านดีไวซ์เพียงเครื่องเดียว ซัมซุงได้นำเสนอ ‘ซัมซุง กาแล็คซี่ วาย (Samsung Galaxy Y)’ สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก สเป็คแรงที่รองรับ 3G และ WiFi พร้อม CPU ความเร็วสูงถึง 832 MHz ซึ่งสามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ในราคาเพียง 4,790 บาท โดยทางซัมซุงหวังว่าจะสามารถเจาะกลุ่มวัยรุ่นและผู้เริ่มลองใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ซึ่งการที่ซัมซุงได้จับมือกับทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการเครือข่าย 3G+ ในครั้งนี้จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งเสริมให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายทั่วประเทศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งซัมซุงมองว่าจะเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาสมาร์ทโฟนในเมืองไทย เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้บริโภคที่มีความต้องการด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

โปรโมชั่น ‘รับค่าเครื่องคืน 100%’ ให้ลูกค้ารับสิทธิ์สะสมโบนัสได้ภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่เปิดใช้บริการ และสามารถตรวจสอบยอดโบนัสได้ด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงโทร #123*9# ฟรี โดยสามารถใช้โบนัสเป็นค่าโทรและบริการต่างๆ จาก ทรูมูฟ เอช 3G+ ได้ ดังนี้

- โทรทุกเครือข่าย นาทีละ 2 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง คิดตามจริงเป็นนาที เศษของนาทีคิดเป็นหนึ่งนาที

- SMS, MMS ข้อความละ 2 บาท
- 3G+/EDGE/GPRS เมกะไบท์ละ 5 บาท
สำหรับการใช้บริการอื่นนอกจากที่แจ้งข้างต้น หรือกรณีที่ใช้โบนัสหมดแล้ว จะคิดค่าบริการตามอัตรารายการส่งเสริมการขายที่ลูกค้าเลือกใช้อยู่ในขณะนั้น ๆทรูมูฟ เอช 3G+ มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วและแรงกว่าด้วยความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps*

ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบ 928 อำเภอ 7,235 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุด ในต่างประเทศ พร้อมมอบอิสระอย่างแท้จริงให้กับลูกค้าแบบเติมเงิน ภายใต้แนวคิดสุดล้ำ อิสระแบบไม่มีวันหมด ได้วันเพิ่มเป็น 60 วันทุกครั้งที่มีการใช้งาน ทั้งโทรออก เล่นเน็ตเติมเงิน หรือส่งข้อความ ไม่ว่าจะใช้มาก ใช้น้อย ก็มีวันใช้งานต่อเนื่องเหมือนไม่มีวันหมด

Samsung Galaxy Y สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ตัวเล็ก สเป็คแรงหน่วยประมวลผลรวดเร็ว 832 MHz หน้าจอกว้าง 3 นิ้ว QVGA กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอได้คมชัด รองรับ 3G / WiFi / Bluetooth พร้อมสนุกกับแอพแต่งรูป แชท Social Network และอื่นๆอีกเพียบบน Play store (Android market)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เพียงโทร 1331 หรือร้านทรูช็อปและร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Samsung ทั่วประเทศ

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

ทีโอทีกลัวอดเร่งทำวีเอ็นโอเฟ้นหาพันธมิตรช่วยทำตลาดเปิดทางเอกชนร่วมทำทุกธุรกิจ [ โพสต์ทูเดย์, 18 เม.ย. 55 ]

ทีโอที เปิดโมเดลใหม่ "วีเอ็นโอ" ดึงเอกชนไทย-ต่างชาติร่วมทำตลาดทุกธุรกิจ หวังสร้างรายได้
อุดสัมปทานหมด

นายพันเทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ทีโอที เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ด
ครั้งหน้าจะพิจารณาโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า วีเอ็นโอ หรือการเปิดหาพันธมิตรเอกชนให้เข้ามาช่วยทำการ
ตลาดในทุกธุรกิจโดยเฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน จากเดิมที่เปิดให้เอกชนทำการตลาดกับโครงข่าย 3จี ในรูป
แบบเอ็มวีเอ็นโอเพียงอย่างเดียว

กำหนดการรายการ “Money Talk@SET”
ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3
อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก
วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555 เวลา 13:00-17:30 น.

13:00 น. ลงทะเบียน

13:30-14:00 น. ปาฐกถาพิเศษ “3Gกับอนาคตโทรคมนาคมไทย”
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการ กสทช.

14:00-15:30 น. “2G 3G 4G ชี้อนาคตโทรคมนาคมไทย ใครได้ใครเสีย?”
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจการเมือง
รศ.ดร.บวร ปภัสราทร ผู้เชี่ยวชาญโทรคมนาคม
อรุณ จิรชวาลา ผู้เชี่ยวชาญการเงินการคลัง
ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุน

ดร. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ

15:30-16:00 น. กาแฟ ของว่าง

15:15-17:30 น. ”3G กับหุ้นไทย ใครได้ใครเสีย?”
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
วิสิฐ องค์พิพัฒนกุล บล.ทรินีนี้
วราภรณ์ วิบูลย์คณารักษ์ บล.ซีมิโก้
พิชัย เลิศสุพงษ์กิจ บล.ธนชาต

ดร. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวณิชย์ ดำเนินรายการ

สำรองที่นั่งฟรี
02-359-1196 02-359-1255

กสทช. เล็งประกาศอัตราขั้นสูงค่าบริการ 3G


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

กสทช. วางแผนพิจารณาอัตราขั้นสูงฯทั้งเสียงและข้อมูลแก่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาต 3G ที่ได้จากการประมูลในอนาคต พร้อมทบทวนลดค่า IC ให้สอดคล้องกับอัตราขั้นสูง 0.99 บาท ที่ประกาศใช้ และพิจารณาเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด

น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ให้ความเห็นว่า หลังจากมีการประกาศ กสทช. เรื่องอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ซึ่งครอบคลุมเฉพาะผู้ให้บริการบนเครือข่ายสัมปทานในปัจจุบัน
ทำให้ทางสำนักงานกสทช.เล็งพิจารณาในการวางแผนอัตราขั้นสูงสำหรับผู้ให้บริการ 3G ที่ได้รับใบอนุญาตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

"การกำหนดอัตราขั้นสูงของผู้ให้บริการ 3G จำเป็นต้องรอให้โครงข่ายอยู่ตัวก่อน เพื่อคำนวนต้นทุน หลังจากนั้นจึงนำมาทบทวนเพื่อออกประกาศต่อไป เนื่องจากประกาศในปัจจุบันครอบคลุมเฉพาะผู้ให้บริการบนสัมปทานเดิมที่ใกล้จะหมดอายุลง"

นอกจากนี้ทางกสทช. พร้อมทบทวนลดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 1.07 บาท ให้ปรับลดลง ซึ่งเป็นราคากลางที่ทาง กทช. เคยกำหนดไว้เมื่อตอนดีแทค ทำสัญญาเชื่อมต่อกับ กสท ที่ 50 สตางค์ เช่นเดียวกับเอไอเอส ขณะที่การเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการรายอื่นยังเก็บที่ราคาเดิม

"ตอนนี้ต้องกลับไปดูข้อกฏหมายว่ามีกำหนดเรื่องการความเป็นธรรมในการเชื่อมต่อให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันไม่เลือกปฏิบัติ เนื่องจากปัจจุบันค่า IC เป๋นสัญญาที่ผู้ให้บริการตกลงกัน ถ้ามีก็สามารถสามารถบังคับผู้ให้บริการให้ลดค่าเชื่อมต่อโครงข่าย และจะช่วยให้ผู้บริการสามารถเก็บค่าบริการได้ต่ำลงสอดคล้องกับประกาศอัตราขั้นสูง"

ในส่วนของการกำหนดหลักเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยยะสำคัญ ตามประกาศกทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดผู้มีอำนาจเหนือตลาดในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2552 ในตลาดค้าปลีกบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ อาจมีการทบทวน และเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน

"จากเดิมที่กำหนดว่าผู้รับใบอนุญาตรายใดที่มีส่วนแบ่งตลาดตั้งแต่ 25% ขึ้นไปถือว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด แต่จะรวมไปถึงความสัมพันธ์ของผู้รับใบอนุญาตในตลาดด้วย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน"

ล่าสุด ทางกสทช. ได้เชิญผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมาสร้างความเข้าใจเพิ่มเติม 19 เมษายน 2555 โดยประเด็นหลักที่ได้แลกเปลี่ยนกันคือเรื่องของ ประกาศที่ออกมาจะครอบคลุมถึง อัตราค่าบริการรายเดือนขั้นสูงที่เคยประกาศไว้หรือไม่ รวมถึงการที่กำหนดราคาขั้นสูงไว้ที่ 0.99 บาท ต่อนาที จะส่งผลให้ผู้บริการรายเล็กไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ซึ่งทางสำนักงานจะรับเรื่องกลับไปพิจารณา

น.พ.ประวิทย์ กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวถือเป็นการกำหนดให้ผู้ให้บริการที่มีอำนาจเหนือตลาด ในปัจจุบันคือ เอไอเอส และดีแทค ส่วนผู้ให้บริการรายย่อยเมื่อผู้ให้บริการรายหลักกำหนดราคาไว้ต่ำกว่า 0.99 บาท รายเล็กก็ต้องกำหนดราคาในอัตราใกล้เคียงกัน เป็นไปตามกลไกการแข่งขันในตลาด ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีผู้ใช้บริการ โดยอัตราค่าบริการ 0.99 บาทต่อนาทียังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

"กำหนด 0.99 บาท ถือเป็นอัตราเฉลี่ยที่คำนวนแล้วว่าผู้ให้บริการจะมีรายได้จากการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันผู้ให้บริการแต่ละรายให้บริการต่อนาทีเฉลี่ยที่ 0.6 − 0.7 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่า 0.99 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆตามมา"

ทั้งนี้ จากประกาศดังกล่าวผู้ให้บริการที่มีอำนาจเหนือตลาดจะสามารถให้บริการโปรโมชันเดิม ที่เกินอัตราที่กำหนดได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ส่วนโปรโมชันใหม่สามารถเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันทางกสทช. ได้รับรายละเอียดใหม่เข้ามาค่ายละ 1 โปรโมชันแล้ว

"จากการสำรวจของกสทช. พบว่าโปรโมชันที่ให้บริการในปัจจุบัน 80-90% จะหมดอายุภายในปี 2555 อยู่แล้ว ส่วนที่เหลือผู้ให้บริการสามารถนำเสนอเครือข่ายที่ใกล้เคียงเดิมได้ เพียงแต่ต้องปรับให้สอดคล้องกับประกาศดังกล่าว"

ส่วนในเรื่องของการกำหนดอัตราขั้นสูงของบริการประเภทข้อมูล (Data) ซึ่งรวมถึงการ

ไอซีที เตรียมเรียก"ทีโอที"พบหลัง 3G ส่อแววเปิดไม่ทันทั่วปท.ตามกำหนด


อินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 55)--น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีจะเชิญบมจ.ทีโอที เข้ามาคุยถึงปัญหาดังกล่าว หลังได้รับรายงานว่าการเปิดให้บริการ 3 จี ทั่วประเทศของ บมจ.ทีโอที อาจจะต้องเลื่อนการเปิดบริการทั่วประเทศ โดยตามกำหนดที่จะติดตั้งสถานีฐาน 5,320 แห่งให้เสร็จภายในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เนื่องจากในเบื้องต้นพบความเป็นไปได้ที่เชื่อว่าอาจจะติดตั้งสถานีฐานไม่ทันตามกำหนด โดยเฉพาะการหาสถานีฐานเพื่อติดตั้งอุปกรณ์

ทั้งนี้ หากทีโอทีไม่สามารถให้บริการ 3จี ทั่วประเทศได้ตามเป้าหมายก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาบรอดแบนด์แห่งชาติ หรือ สมาร์ทไทยแลนด์ ตามนโยบายของรัฐบาลที่วางไว้ อีกทั้งเม็ดเงินของรัฐที่ลงทุนไปด้วย ซึ่งกระทรวงไอซีทีจะต้องเข้ามากำกับดูแลปัญหาดังกล่าว ดังนั้น กระทรวงไอซีทีจะเชิญทีโอทีเข้ามาพูดคุยถึงปัญหาที่ทำให้การเปิดให้บริการ 3จี ทั่วประเทศที่มีความเป็นไปได้ว่าจะล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ไว้วางในตอนแรก

"หากมีการปรับแผนบริหารจัดการในส่วนที่เป็นปัญหาหรือเรื่องบางเรื่องเชื่อว่าจะช่วยทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลช่วยผลักดันให้แผนงานต่างๆ ที่เคยวางไว้ก่อนหน้านี้เสร็จทันตามกำหนดเดิมแน่นอน" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีได้มีการประชุมคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงข่ายการให้บริการเพื่อผลักดันนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาใหม่ 2 คณะ คือ 1.คณะอนุกรรมการพิจารณากรอบการลงทุนโครงข่ายทั้งหมด ซึ่งมีหน้าที่ศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงข่าย และขีดความสามารถ เพื่อรองรับการให้บริการบรอดแบนด์ พิจารณากรอบวงเงินลงทุน รูปแบบ และแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม รวมทั้งการสนับสนุนส่งเสริมให้เอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาโครงข่ายให้บริการบรอดแบนด์ที่มีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนซ้ำซ้อน และสามารถรองรับการให้บริการที่มีคุณภาพในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม

ส่วนคณะที่ 2 คือคณะอนุกรรมการพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายในการบริหารจัดการโครงข่าย มีหน้าที่พิจารณาข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาทิเช่น การโอนกรรมสิทธิ์ เงื่อนไขการบริหารจัดการโครงข่าย และสิทธิในการใช้ทรัพย์สินตามสัญญาร่วมการงาน เป็นต้น

คณะอนุกรรมการทั้ง 2 ชุดดังกล่าว มีกระทรวงไอซีทีเป็นประธาน และมีตัวแทนจากทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ทีโอที กระทรวงคลัง และสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นคณะกรรมการทั้ง2ชุด ซึ่งรายชื่อทั้งหมดคาดว่าจะทราบได้ภายในวันที่ 23 เม.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) กล่าวว่า คาดว่าบมจ.สามารถเทเลคอม (SAMTEL) จะสามารถวางระบบ 3จี ของทีโอที ในเฟสแรกจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้ติดปัญหาความล่าช้าซึ่งเกิดจากทีโอทีไม่สามารถส่งมอบอุปกรณ์ให้กับบริษัทได้

ขณะนี้ SAMTEL สามารถติดตั้งไปแล้วประมาณ 1,000 กว่าสถานี และสามารถให้บริการ 3จี ได้ประมาณ 800-900 สถานี โดยสาเหตุที่ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากสถานที่ที่ติดตั้งอุปกรณ์ 3จี นั้นมีพื้นที่ห่างกัน โดยไม่สามารถเชื่อมถึงกันได้

-จบ--


--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

**กสทช.คาดออกร่าง IM ประมูล3G คลื่นใหม่ปลายพ.ค.,เปิดประมูลก.ย.

อินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 55)--พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)คาดว่าปลายเดือน พ.ค.นี้ กสทช.จะสามารถออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาต 3G หรือร่างสรุปข้อสนเทศ(IM)หลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 2.1 GHz หลังสรุปรายละเอียดการประมูลทั้งวิธีการและใบอนุญาตใหม่ และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน ก.ย. 55

"เรายกเลิกวิธีการประมูลแบบ N-1 มาแบ่งเป็นสล็อตๆละ 5 MHz ซึ่งเราต้องการจัดสรรคลื่นความถี่กระจายให้มากที่สุด ให้มีการแข่งขันกัน คาดว่า IM น่าจะเสร็จปลายพฤษภาคม หลังจากนั้นเราก็จะทำ Public Hearing ถ้าไม่มีใครทักท้วงอะไร ก็คิดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.ย.นี้" พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ระหว่างนี้ กสทช.กำลังพิจารณากรอบที่ให้เอกชนเข้ามาประมูลขั้นต่ำและขั้นสูงสุด โดยขั้นต่ำอาจจะเริ่มที่ 10 MHz และขั้นสูงสุดอาจจะอยู่ในช่วง 15-20 MHz ซึ่งยังต้องมีการศึกษากันอยู่

ทั้งนี้ กสทช.จะไม่ทำการโรดโชว์การเปิดประมูล 3G เช่นเดียวกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) เพราะเห็นว่านักลงทุนต่างประเทศได้ให้ความสนใจและติดตามอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องนี้เป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่แล้ว ทั้งนี้บริษัทต่างชาติที่เข้ามาประมูลก็ต้องถือหุ้นในบริษัทที่เข้าประมูลไม่เกิน 49% ตามพ.ร.บ.ฯ

พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าวว่า กสทช.คาดว่าในไตรมาสแรกของปี 56 จะสามารถเปิดให้ประมูลใบอนุญาต 4G บนคลื่น 1800 MHz ที่ทรูมูฟ และ ดิจิตอลโฟน ใช้อยู่ในปัจจุบันรายละ 12.5 MHz และจะหมดอายุสัญญาสัมปทานในเดือน ก.ย. 56 เบื้องต้นคาดว่าจะให้ใบอนุญาต 2 ใบ และใช้แนวทางเดียวกับการประมูลใบอนุญาต 3G ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาหลังจาก IM ของการประมูลใบอนุญาต 3G เสร็จเรียบร้อย

ขณะเดียวกัน ทางบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเกชั่น(DTAC)ซึ่งดำเนินงานบนคลื่น 1800 MHz และหมดอายุสัญญาสัปมทานนานที่สุด คือ 15 ก.ย.61 นั้น พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าวว่า ทาง DTAC แสดงความต้องการเจรจาคืนคลื่นก่อนหมดอายุ เพราะต้องการได้ใบอนุญาตใหม่ที่มีต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่าปัจจุบันที่ต้องจ่ายรายได้ส่วนแบ่งให้กับบมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ในอัตรา 30% แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจากับกสทช.อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

--จบ--


--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

ชี้เอกชนหนุนยกเลิกวิธีประมูล N-1 [ ไทยรัฐ, 26 เม.ย. 55 ]

พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
กิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า
คณะอนุกรรมการบริหารคลื่นความถี่ ย่าน 2.1 GHz ได้เชิญผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม
ประเภท 3 ที่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง มาหารือถึงวิธีการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ
3 จี คลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz จำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ (MHZ) มีผู้ประกอบการเข้าร่วมหารือทั้งสิ้น
9 ราย จาก 12 ราย โดยที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นมาหารือดังนี้ การแบ่งคลื่นความถี่ประมูล ซึ่งส่วนใหญ่
เห็นด้วยกับการแบ่งคลื่นความถี่ออกเป็น 5 MHz แต่ละรายจะประมูลคลื่นความถี่ได้ไม่เกิน 15 MHz เพื่อ
เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถเป็นเจ้าของคลื่นความถี่ได้ด้วย

กสทช.ลั่นเปิดประมูล 3G คลื่นใหม่ ก.ย. คาดสรุปราคาเริ่มต้นได้ปลายพ.ค.

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มั่นใจจะเปิดประมูลคลื่น 3จี ภายในเดือนกันยายนนี้ พร้อมเริ่มเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์เป็นระบบดิจตัลในปีนี้

พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. แถลงผลการดำเนินงานใน 6 เดือนว่า หลังจาก กสทช. ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งฯให้ปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา กสทช. ได้เดินหน้าวางรากฐานการกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยมีเป้าหมายในการก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงการสื่อสารครั้งสำคัญของประเทศไทยภายในปีนี้

ทั้งนี้ กสทช.จะเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี บนคลื่นใหม่ภายในเดือนกันยายน พร้อมทั้ง เริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในปีนี้ และจะสมบูรณ์ภายใน 4 ปี รวมทั้งการจัดระเบียบเคเบิ้ลทีวี การแก้ปัญหาวิทยุชุมชน การกำหนดมาตรการป้องกันคลื่นรบกวนการบิน และเน้นการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค

ผลงานชิ้นสำคัญของ กสทช. ในการวางรากฐานไปสู่เป้าหมายดังกล่าว คือ การจัดทำ 3 แผนแม่บทหลัก ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 55 ได้แก่ แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งจะเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการสื่อสาร ด้านอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือในภาคประชาชนได้เตรียมความพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น และเดินไปในทิศทางเดียวกัน โดยตั้งเป้าการพลิกสังคมไทยสู่ระบบดิจิตอลเต็มรูปแบบในปี 58

ด้านพ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.ในฐานะประธานด้านกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า การประมูล 3จี บนย่านความถี่ 2.1 กิ๊กกะเฮิร์ตซ จะต้องเกิดขึ้นในช่วงไตมาส 3 นี้แน่นอน ซึ่งในการประชุมบอร์ดวันที่ 16 พ.ค.นี้จะสามารถสรุปแผน แนวทางเงื่อนไขต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนว่าบอร์ดจะยังคงรูปแบบการประมูลในลักษณะ N-1 อยู่หรือไม่ ซึ่งแนวทางแบ่งเป็น 9 ช่วง ช่วงละ 5 เมกกะเฮิร์ซยังคงเป็นแนวทางที่น่าสนใจอยู่ ขณะที่ราคาเริ่มต้นประมูลจะสามารถสรุปได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งการประชุมบอร์ดกิจการโทรคมนาคมครั้งต่อไปจะหารือเรื่องรูปแบบการประมูลครั้งสุดท้ายว่าควรจะเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ หลังจากประมูล 3 จี เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องเร่งให้มีการเปิดประมูล 4 จี ต่อเนื่องเพื่อรองรับกับสัญญาสัมปทานที่เอกชนได้ทำร่วมกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ที่จะหมดสัญญาในช่วงเดือน ก.ย.56 เนื่องจากต้องมีผู้ให้บริการมารองรับการใช้งานของลูกค้า ทั้งนี้ เงื่อนไขที่ กสท.คงจะต้องมาดูอาจจะเป็นในเรื่องของการพิจารณาว่าผู้ให้บริการมือถือรายใดที่คลื่นความถี่มากกว่ารายอื่น กสทช.จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการเข้าร่วมประมูล 4 จี หรือไม่ อย่างไร

สำหรับความคืบหน้าของการตรวจสอบสัญญาการให้บริการ 3 จี ระหว่าง กสทฯ กับกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) นั้น คณะทำงานได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง กสทฯ เองก็ได้มีการส่งรายละเอียดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย กสทช.ก็ได้เชิญนายกิติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท. ร่วมหารือไปแล้ว ทั้งนี้ คณะทำงานจะตรวจสอบเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับ กสทช. คือ มาตรา 46 พ.ร.บ.กสทช. การให้บริการขายส่งขายต่อ และ พ.ร.บ. ประกอบกิจการโทรค มนาคม พ.ศ.2544 หากพบว่าสัญญาดังกล่าวมีข้อผิดพลาดก็จะต้องมีการแก้ไขให้ถูกต้อง โดยมั่นใจว่าจะต้องสรุปผลการตรวจสอบได้ก่อนที่จะมีการประมูล 3จี แน่นอน

นอกจากนี้ สิ่งที่ กสทช.จะเร่งทำ คือ การผลักดันร่างประกาศ กสทช. ว่าด้วย เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. 2554 ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยกสทช.จะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 เดือน โดยในวันที่ 16 พ.ค.นี้ จะเสนอในที่ประชุมบอร์ดกสทช.แล้วนำร่างที่ได้ปรับปรุงเนื้อหาแล้วออกสู่การรับฟังความเห็น (ประชาพิจารณ์) จากนั้นจะส่งต่อให้กับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเสนอให้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฏหมายต่อไป

ทั้งนี้ ร่างประกาศฉบับใหม่จะยังคงหลักการเดิมของประกาศเดิมไว้ คือสัดส่วนการถือครองหุ้นเท่าเดิม แต่จะมีการแก้ไขปัญหาของตัวประกาศเดิม ในเรื่องของการเข้าไปกำกับดูแลที่เกินเลยกว่ากรอบอำนาจของกฎหมายแม่ ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่2) พ.ศ .2549 ซึ่งเป็นฐานในการใช้อำนาจออกประกาศฉบับนี้ และโยงไปเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.การประกอบกิจการของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542

“ส่วนเนื้อหาที่ได้ปรับปรุง คือ อนุญาตให้ต่างชาติสามารถมีส่วนในการแต่งตั้ง หรือ ควบคุม คณะกรรมการ หรือ ผู้บริหารระดับสูงได้ จากร่างเดิมที่ห้ามต่างด้าวมีส่วนในตำแหน่งสูง ซึ่งถือเป็นการแก้ไขตามประชาพิจารณ์ครั้งแรกที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

อินโฟเควสท์
http://www.ryt9.com/s/iq05/1394691


ที่มา : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... &gblog=294

วันนี้
พฤหัส 3 พค 55 13-17 น.
ไปฟังกันครับ
"3g กับอนาคตโทรคมนาคมไทย"
"2g3g4g ชี้อนาคตไทย ใครได้ใครเสีย"
และ
"3Gกับหุ้นไทย ใครได้ใครเสีย"

วิทยากรเพรียบครับ
ฟรี

หากไม่ได้จอง walkin ก็ได้ครับ

ดีเอสไอออกโรงร่วมสอบสัญญา 3 จี [ ไทยรัฐ, 4 พ.ค. 55 ]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)
ได้เชิญแถลงข่าวด่วนถึงความคืบหน้าการสอบสวนการทำสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ เพื่อให้บริการ
3จี ด้วยเทคโนโลยี HSPA ระหว่างบริษัทกสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเร
ชั่น จำกัด (มหาชน) โดยแจ้งว่ามีเอกสารหลักฐานใหม่ที่จะชี้ชัดว่าการทำสัญญาระหว่างกสท-กลุ่มทรูนั้นมีข้อ
สงสัยในการดำเนินการหลายประเด็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นตามขั้นตอนที่ถูกต้องและทำให้
ประเทศเสียหาย โดยได้รับเอกสารดังกล่าวจากนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ได้
เข้าพบ รมว.ไอซีที เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

กทค.จัดเต็มเคาะใบอนุญาต 3 จี 9 ใบ [ ไทยรัฐ, 16 พ.ค. 55 ]

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิด
เผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3 จี บนคลื่น
ความถี่เป็นช่วงละๆ 5 เมกะเฮิรตซ์ รวม 9 ช่วง หรือใบอนุญาต 9 ใบ โดยเปิดประมูลแบบพร้อมกัน
พร้อมกำหนดอัตราสูงสุดว่า เอกชนที่จะเข้าร่วมประมูลสามารถประมูลได้ไม่เกิน 4 ช่วง หรือ 20
เมกะเฮิตรซ์ เพื่อให้เกิดการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ส่วนวิธีการประมูลนั้นจะไม่ใช่วิธีประมูลแบบ N-1 เพราะไม่
สามารถป้องกันการฮั้วราคาได้ ส่วนราคาเริ่มต้นการประมูลยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด

สามารถฯย้ำทีโอที โครงข่าย 3 จีเสร็จ [ โพสต์ทูเดย์, 16 พ.ค. 55 ]

สามารถฯ ย้ำติดตั้งโครงข่าย 3 จี ทันไตรมาส 4 เร่งเครื่องบริการ 3จี เอ็กซ์ใหม่ ดึงคนใช้ซิมที่ 2
แนะทีโอทีเร่งลงทุน

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจ
ว่าจะสามารถติดตั้ง โครงข่าย 3 จี ของบริษัท ทีโอที ได้เสร็จทั้ง 5,000 สถานี ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
หลังจากขยายเวลาสัญญาอีก 6 เดือน จากน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

กสทช.เคาะวิธีประมูลคลื่น 3 จีแล้ว เลือกใช้วิธีเก่าแก่ที่สุดในโลก
มติชน, วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 21:19:00 น.


พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดประมูลใบอนุญาตโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3 จี ว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมบริหารคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ซ ของ กทค. มีมติเลือกการประมูลด้วยการแบ่งคลื่นความถี่เป็น 9 ชุด ชุดละ 5 เมกะเฮิร์ซ และเลือกการประมูลแบบ ไซมูเทเนียส แอสเซนดิ้ง บิด แอคชั่น (Simultaneous ascending bid auction) ซึ่งเป็นการประมูลด้วยวิธีเพิ่มราคาการประมูลในเวลาเดียวกันทุกใบอนุญาต เพื่อนำมาใช้ในการเปิดประมูลใบอนุญาตโครงข่ายโทรศัพท์ระบบ 3 จีในเดือนตุลาคมนี้ และขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งรูปแบบการเปิดประมูลให้บอร์ด กทค.พิจารณาควบคู่กับการกำหนดราคาตั้งต้นของใบอนุญาตฯ ในการประมูล ก่อนส่งต่อให้บอร์ด กสทช.พิจารณาต่อไป

สำหรับวิธีการประมูลแบบ ไซมูเทเนียส แอสเซนดิ้ง บิด แอคชั่น เป็นรูปแบบการประมูลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นการประมูลแบบเสนอราคาแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะและผู้ร่วมประมูลต้องเสนอราคาเพื่อรักษาสิทธิของตนทุกรอบ ซึ่งวิธีนี้เคยใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ 4 จี ของโปรตุเกส อิตาลี และเยอรมนี โดยมีข้อดี คือ ระบบเข้าใจง่าย มีประสิทธิภาพสูงถ้าผู้ประมูลมีจำนวนของคลื่นความถี่ที่ต้องการอยู่แล้ว นิยมใช้งานในหลายประเทศ ส่วนข้อเสียจะลดความต้องการในการประมูลหากผู้ประมูลไม่มีจำนวนคลื่นความถี่ที่ต้องการ



ที่มา: สำนักข่าวแห่งชาติ

เคาะแล้วประมูลคลื่นมือถือ3G ตุลาฯนี้ยื่นซองได้สิทธิ์ยาว15ปี


เคาะรูปแบบประมูลไลเซนส์ 3G ความถี่ 2.1 GHz ลงตัว ตีกรอบเปิดประมูลรวดเดียว ใบอนุญาต 1 ใบได้สิทธิสูงสุด 20 MHz ยาว 15 ปีเท่ากัน "กสทช." มั่นใจตุลาฯนี้ประมูลพลิกโฉมธุรกิจสื่อสารไทยตามแผนเร่งสรุปราคาตั้งต้น


พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ในวันที่ 15 พ.ค. 2555 มีมติเลือกวิธีการประมูลใบอนุญาต 3G เรียบร้อยแล้ว โดยตัดแบ่งคลื่นความถี่ 2100 MHz ที่มีอยู่ 45 MHz เป็น 9 สลอต สลอตละ 5 MHz ทดแทนการใช้เงื่อนไขจำนวนใบอนุญาตแบบ n-1 (จำนวนใบอนุญาตน้อยกว่าผู้เข้าร่วมประมูล 1 ใบ) เนื่องจากผู้ให้บริการแต่ละรายต่างต้องการคลื่นความถี่มากกว่า 5 MHz พร้อมทั้งกำหนดว่า 1 ใบอนุญาตห้ามไม่ให้ถือครองคลื่นเกิน 20 MHz และใบอนุญาตการใช้คลื่นมีอายุ 15 ปีเท่ากัน ไม่ว่าผู้ชนะจะประมูลได้กี่สลอต

สำหรับวิธีที่ใช้ในการประมูลเรียกว่า "การประมูลด้วยวิธีการเพิ่มราคาทุกสลอตพร้อมกันในเวลาเดียว" (Simultaneous ascending bid auction) คือเปิดประมูลคลื่นทุกสลอตพร้อมกันหมด โดยให้ผู้เข้าประมูลเสนอราคาเพื่อรักษาสิทธิของตนทุกรอบ และแข่งเสนอราคาไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีผู้เสนอราคาเพิ่มอีก และจะระบุแถบคลื่นความถี่ของแต่ละสลอตเมื่อได้ผู้ชนะการประมูลชัดเจนแล้ว ซึ่งคณะอนุกรรมการจะพิจารณาต่อไปว่าจะใช้วิธีใดในการกำหนดแถบคลื่นความถี่ให้โอเปอเรเตอร์แต่ละราย อาจเปิดประมูลอีกรอบหรือให้ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดเลือกก่อนก็ได้

"ที่เลือกวิธีนี้เพราะไม่ต้องการให้การประมูลซับซ้อนเกินไป เนื่องจากมีบทเรียนจากต่างประเทศที่การประมูลไม่ประสบความสำเร็จเพราะซับซ้อนเกิน ส่วนการจ่ายเงินค่าประมูล คณะอนุกรรมการกำลังพิจารณาว่าจะให้จ่ายหมดในครั้งเดียวหรือทยอยจ่ายกี่งวด"

ส่วนการกำหนดราคาตั้งต้นในการประมูลและเงื่อนไขที่จำเป็นในการประมูลใบอนุญาต 3G ได้ว่าจ้างคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้วิจัยแทน NERA ที่เคยเป็นที่ปรึกษาการจัดประมูล 3G ของ กทช.ครั้งก่อน คาดว่าจะประกาศราคาตั้งต้นในการประมูลคลื่นแต่ละสลอตได้ภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้

พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวต่อว่า ตามกระบวนการจะนำเสนอให้ที่ประชุมบอร์ด กทค. ครั้งต่อไปประมาณสิ้นเดือน พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณา ก่อนบรรจุเป็นวาระในการประชุมบอร์ด กสทช.ในกลางเดือน มิ.ย. จากนั้นเมื่อจัดทำร่างหนังสือชี้ชวนการลงทุนเสร็จแล้วก็จะนำขึ้นเว็บไซต์เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งถือเป็นการเริ่มเข้าสู่กระบวนการประชาพิจารณ์จากผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นสาธารณะในเดือน ก.ค. ก่อนปรับปรุงแก้ไข และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือน ส.ค.เพื่อให้สามารถดำเนินการประมูลใบอนุญาตใหม่ 3G ได้เป็นครั้งแรกในไทยในเดือน ต.ค.นี้ เท่ากับพลิกโฉมหน้าธุรกิจไปสู่ระบบใหม่

ขณะที่งบประมาณที่ใช้ในการประมูลใบอนุญาตดังกล่าวไม่เกิน 40 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ไปกับการจ้างบริษัทต่างประเทศเพื่อวางระบบการประมูล ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการฯรวบรวมข้อมูล เพื่อพิจารณาหาบริษัทที่เหมาะสมแล้ว

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ราคาตั้งต้นไม่ควรน้อยกว่า 12,800 ล้านบาท ต่อ 15 MHz หากประมูลตามไอเดียใหม่ราคาตั้งต้นแต่ละสลอตต้องไม่ต่ำกว่า 4,300 ล้านบาท ซึ่งโอเปอเรเตอร์ที่สนใจเข้าร่วมประมูลพร้อมจ่ายสูงกว่าราคาตั้งต้มาก ทั้ง 3 รายจ่ายค่าสัมปทานปี 2554 รวมกันกว่า 48,000 ล้านบาท

ถ้าเริ่มต้นประมูลราคาเดิมจะคืนทุนภายใน 1 ปีเท่านั้น

วิธีประมูลแบบสลอตละ 5 MHz มีข้อดี คือ สร้างการแข่งขันมากขึ้น และไม่ต้องห่วงว่าจะมีผู้ประกอบการปลอมแฝงตัวเข้ามา แต่มีความเสี่ยง คือผู้ประกอบการฮั้วกัน ประมูลคลื่นรายละ 3 สลอต (15 MHz) ทำให้ไม่มีการแข่งขัน หรืออาจมีรายใหญ่ 2 ราย ได้คลื่นไปรายละ 20 MHz รายสุดท้ายเหลือ 5 MHz ซึ่งไม่พอสร้างการแข่งขัน สิ่งที่ กสทช.ควรเร่งทำคือ สร้างความชัดเจนของเงื่อนไขการประมูล รวมถึงการตีความความถูกต้องของสัญญาบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่ ระหว่าง กสทฯกับกลุ่มทรู เนื่องจากมีผลต่อการกำหนดโครงสร้างตลาด 3G ในอนาคต

ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 0&catid=00

กสทช.มั่นใจประมูล 3G ได้ก.ย.–ต.ค.นี้


พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานด้านกิจการ โทรคมนาคม หรือ กทค. บอกว่า จะสามารถเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ให้ทันภายในเดือนกันยายน – ตุลาคม 2555

หลังจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการ เตรียมความพร้อมสำหรับการบริหารคลื่น ความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิร์ตซ หรือ 3G เพื่อรองรับเทคโนโลยี IMT-2000 ได้มีมติเลือกรูปแบบการประมูลแบบประมูลคลื่นความถี่ทุกสล็อตพร้อมกัน ซึ่งจะมีการนำมติดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กทค.ในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

ก่อนส่งให้คณะกรรมการ กสทช. พิจารณาอนุมัติ และเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ก่อนนำประกาศบนเว็บไซต์ ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรองรับการเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ให้ทันตามกำหนด

moneychannel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

แนะกสทช.ดูแลหวั่น 3 จีเก็บแพง [ โพสต์ทูเดย์, 21 พ.ค. 55 ]

นักวิชาการแนะ กสทช. เร่งควบคุมการเก็บค่าใช้งานดาตา หวั่นประมูล 3 จี ทำต้นทุนพุ่งผลักภาระ
ขึ้นค่าบริการเก็บผู้บริโภค

นายอนุภาพ ถิรลาภ นักวิชาการ อิสระด้านสื่อสารโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันการใช้งานดาตา
มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผุ้ใช้ขยายตัวต่อเนื่อง แต่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือ กสทช. ยังไม่มีหลักเกณฑ์ควบคมุดูแลบริการดาตา ทั้งในเชิงคุณภาพ
และค่าบริการ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีการกำกับดูแลในส่วนนี้ ทั้งที่มีบริการ 3จี ผ่านคลื่นความถี่เดิมอยู่
แล้ว

สัญญา 3จี กสท-ทรู สรุป 28 พ.ค. [ บ้านเมือง, 28 พ.ค. 55 ]

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบสัญญา 3จี ระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ได้ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ทั้งด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐศาสตร์ และด้านเทคนิค จะได้ดำเนินการตามกรอบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ