หน้า 4 จากทั้งหมด 18

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:05 am
โดย yoyo
naris เขียน:[quote="yoyo ปีที่แล้วหุ้นลงมาเยอะๆ ผมก็โดนไปไม่น้อย แต่ผมก็ปรับ port เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และหวัง Capital Gain ที่มาขึ้นในปีนี้ ผลลัพธ์เรียกว่าเกินคาดแบบถล่มทลายเหมือนกัน... ปีที่แล้วผมขาดทุนไปประมาณ 55% แพ้ตลาดที่ลบไปประมาณ 40กว่า% .. ปีนี้ยังไม่อยากเชื่อเลย ตลาดบวกมาประมาณ 66% ในขณะที่ port ผมบวกไป 300 กว่า% แล้ว แต่ก็ยังไม่อยากดีใจอยู่ดีแหละครับ หนังเรื่องการลงทุนมันต้องดูยาวๆ ผมว่าดูที่ผลตอบแทนทบต้นในระยะยาวน่าจะดีที่สุด ผลตอบแทนปี 2 ปีน่าจะยังวัดฝีมืออะไรกันไม่ได้
ยังไงเสือก็เป็นเสือนะโย. มองยังไงพี่ก็มองไม่เป็นแมวสักที ไม่ว่าจะเป็นปีที่ลบ55%หรือปีนี้ ไม่เหมือนพี่ๆมองยังไงพี่ก็ยังเป็นเต่าอยู่

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:10 am
โดย yoyo
[quote="Jimmy"]หวัดดีครับ คุณโย

อยากถามมุมมองของคุณโย ว่าปีหน้าถ้าเศรษฐกิจฟื้นตัว อุตสาหกรรมไหนจะได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มส่งออกที่พึ่งตลาดอเมริกาเป็นหลัก หรือพัฒนาอสังหา

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:12 am
โดย yoyo
i_sarut เขียน:ขอถามเกี่ยวกับ Portfolio Management ครับ

ปกติพี่ yoyo ใช้ระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ถึงจะอัพเดต Portfolio ครับ ว่าตัวนี้ลงเท่านี้ upside เป็นเท่านี้แล้ว ควรจะปรับ Port ได้แล้ว

รายวัน หรือ รายสัปดาห์ หรือ รายเดือน ครับ
ก็ทำเมื่อราคาหุ้น หรือ ราคาเป้าหมายของหุ้นมันมีการเปลี่ยนแปลงแบบมีนัญสำคัญครับ ไม่ได้มีเวลาเป็นเครื่องกำหนด อย่างช่วงอาทิตย์ที่แล้วที่หุ้นลงเยอะๆ นี่ทำราย 10-15 นาทีเลยมั๊ง แต่ช่วงที่หุ้นนิ่งๆไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ บางทีเป็นเดือนก็มีเหมือนกัน

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:13 am
โดย yoyo
[quote="young_5432"]เวลาลงบางตัวมันลงเยอะ บางตัวมันลงน้อย เราก็คำนวณ upside ใหม่ซะแล้วก็ปรับสัดส่วนใหม่ให้มันเหมาะสม ซึ่งผลคร่าวๆมันก็จะเป็นขายตัวที่ลงเยอะมาซื้อตัวที่ลงน้อยๆ หรือบางทีอาจจะมีหุ้นน่าสนใจตัวอื่นโผล่เข้ามาในเรดาร์เราก็เพิ่มหุ้นใหม่เข้าไปในตาราง แล้วก็ปรับไปตาม upside เหมือนเดิมครับ


ไม่ใช่วะลงเยอะ upside จะยิ่งห่างมาก นั่นก็คือ ubside มากขึ้น เราควรซื้อเพิ่ม และขายตัวที่ยังลงน้อยกว่าไม่ใช่หรอครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:21 am
โดย yoyo
[quote="young_5432"]ถามพี่ yoyo ว่า หุ้น TRC PDI UEC

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 10:25 am
โดย winkung
สวัสดีครับพี่โย  แวะเข้ามาอ่านคำวิเคราะห์ของพี่ครับ
ขอบคุณสำหรับมุมมอง  ผมยึดพี่เป็นแนวทางการลงทุนนะเนี่ย (รองจากท่าน ดร.นิเวศน์ น่ะครับ)  :cheers:  :cheers:

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 21, 2009 11:23 am
โดย kewin
ขอถามหน่อยครับ irp ทำ pet resins ซึ่งเป็นปลายน้ำ
มันเป็นสินค้า commodity ใช่ไหมครับไม่ต่างจากราคาน้ำมัน
ใช่มะคือไม่มี knowhow อะไรใครผลิตเยอะกว่าก็ประหยัดกว่า


2.ปีหน้า supply petresin ออกมาเยอะไหมครับถ้าเยอะ irp คงแย่แน่
ปีนี้ supply น้อยราคาดีแต่คู่แข่งคงไม่ปล่อยให้ irp กำไรดีคนเดียวหรอก

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 12:18 am
โดย young_5432
[quote="yoyo"][quote="young_5432"]ถามพี่ yoyo ว่า หุ้น TRC PDI UEC

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 11:17 am
โดย Jimmy
ขอบคุณครับ คุณโย

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 1:48 pm
โดย i_sarut
ขอบคุณมากครับ  :P

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:18 pm
โดย green-orange
ขอถามคุณ YOYO หน่อยนะครับว่าคุณ YOYO มีหลักในการตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่อย่างไรครับ ผมเองคิดว่าตัวเองมักจะมีปัญหาเรืองนี้ทุกครั้งเลยครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 28, 2009 11:32 pm
โดย frontosa
คุณ yoyo ไม่ลองรวบรวมบทความใน blog เป็นเล่มพิมพ์เหรอครับ อยากได้เป็นเล่มมากกว่าเข้ามาอ่านที่ blog

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 10:35 am
โดย yoyo
kewin เขียน:ขอถามหน่อยครับ irp ทำ pet resins ซึ่งเป็นปลายน้ำ
มันเป็นสินค้า commodity ใช่ไหมครับไม่ต่างจากราคาน้ำมัน
ใช่มะคือไม่มี knowhow อะไรใครผลิตเยอะกว่าก็ประหยัดกว่า


2.ปีหน้า supply petresin ออกมาเยอะไหมครับถ้าเยอะ irp คงแย่แน่
ปีนี้ supply น้อยราคาดีแต่คู่แข่งคงไม่ปล่อยให้ irp กำไรดีคนเดียวหรอก
PET เป็น commodity ครับ เพราะฉะนั้นความสำคัญของการวิเคราะห์ก็คือ Supply Demand ของอุตสาหกรรมว่าแนวโน้มเป็นยังไง แล้วใครทำต้นทุนได้ต่ำกว่าก็ได้เปรียบครับ แม้ในช่วงที่ภาวะอุตสาหกรรมแย่ๆ คนที่ต้นทุนยิ่งต่ำกว่ายิ่งได้เปรียบ เพราะคู่แข่งพากันเดี้ยงกันหมด IRP ก็น่าจะเข้าข่ายนี้ครับ

จากข้อมูลที่ฟังจากผู้บริหาร ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าไม่มี supply ใหม่ๆที่เข้ามานอกจากโรงงานที่เมกาของ IRP ครับ ในขณะที่ Supply เก่าๆมีแนวโน้มที่จะลดลง โดยเฉพาะหลังจากเมื่อ IRP เปิดโรงงานที่อเมริกาเมื่อไหร่คงต้องมีโรงอื่นๆที่ปิดตัวกันไปบ้าง

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 10:38 am
โดย yoyo
[quote="young_5432"][quote="yoyo"][quote="young_5432"]ถามพี่ yoyo ว่า หุ้น TRC PDI UEC

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 10:45 am
โดย yoyo
green-orange เขียน:ขอถามคุณ YOYO หน่อยนะครับว่าคุณ YOYO มีหลักในการตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่อย่างไรครับ ผมเองคิดว่าตัวเองมักจะมีปัญหาเรืองนี้ทุกครั้งเลยครับ
ขายเมื่อ
1. วิเคราะห์ผิด
2. เกินมูลค่า
3. เจอตัวอื่นทีดีกว่า (รวมถึงการปรับ port ขายบางส่วนไปซื้อตัวอื่นๆบางส่วนด้วย: อ่านจากเรื่องปรับ port ที่เพิ่งเขียนไปนะครับ)

ง่ายๆแค่นี้แหละครับ
- ส่วนใหญ่ผมจะขายเพราะข้อ 3
- ข้อ 2 นี่นานๆทีจะมีโอกาสได้ทำ .. เพราะถือหุ้นทีไรมันไม่ค่อยจะเกินมูลค่าที่คิดเอาไว้เท่าไหร่ ... จำได้ว่ามีแค่ uec ums ตอนวิ่งกันไป 40 บาทมั๊งครับที่ได้ขายเพราะเหตุผลนี้ ส่วนใหญ่จะชิงขายหมดซะก่อนตั้งแต่ข้อ 3 เพราะยิ่งหุ้นใกล้มูลค่าเท่าไหร่ upside มันก็น้อยลงเท่านั้น เลยทำให้ตัวอื่นๆมันน่าสนใจกว่า
- ขายเพราะวิเคราะห์ผิดนี่ไม่ค่อยอยากเจอเลยจริงๆ แต่มันก็มีบ้างรองจากข้อ 3 ถ้ารู้ว่าวิเคราะห์ผิดเมื่อไหร่.. ราคาเท่าไหร่ก็ขายครับ ไม่อยากให้เงินจมอยู่กับหุ้นที่เราผิดพลาด เพราะเงินก้อนเดียวกันนี้สามารถนำไปงอกเงยจากหุ้นตัวอื่นได้ง่ายกว่ากันเยอะ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 10:47 am
โดย yoyo
frontosa เขียน:คุณ yoyo ไม่ลองรวบรวมบทความใน blog เป็นเล่มพิมพ์เหรอครับ อยากได้เป็นเล่มมากกว่าเข้ามาอ่านที่ blog
ไม่กล้าเอาไปเสนอที่ไหนหรอกครับ อายเค้า วิเคราะห์ผิดๆถูกๆเต็มไปหมด หลักการการลงทุนของผมเองมันก็ยังไม่นิ่งด้วย ยังต้องปรับต่อไปครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 29, 2009 3:31 pm
โดย frontosa
แหม ถ่อมตัวจริงๆ

ไม่เป็นไรครับ ลองเสนอความคิดเฉยๆ ถ้ามีพิมพ์ออกมาเมื่อไหร่ผมอุดหนุนแน่นอนครับ  :D

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 12:54 pm
โดย young_5432
[quote="yoyo"][quote="young_5432"][quote="yoyo"][quote="young_5432"]ถามพี่ yoyo ว่า หุ้น TRC PDI UEC

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 06, 2009 11:07 am
โดย kewin
คุณโย ปกติใช้เวลาในการนั่งเฝ้าหน้าจอนานไหมครับต่อวัน และคิดว่าการนั่งเฝ้าหน้อจอเพื่อดู bid offer จำเป็นสำหรับการลงทุนมากไหมครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 08, 2009 10:44 am
โดย green-orange
yoyo เขียน: ขายเมื่อ
1. วิเคราะห์ผิด
2. เกินมูลค่า
3. เจอตัวอื่นทีดีกว่า (รวมถึงการปรับ port ขายบางส่วนไปซื้อตัวอื่นๆบางส่วนด้วย: อ่านจากเรื่องปรับ port ที่เพิ่งเขียนไปนะครับ)

ง่ายๆแค่นี้แหละครับ
- ส่วนใหญ่ผมจะขายเพราะข้อ 3
- ข้อ 2 นี่นานๆทีจะมีโอกาสได้ทำ .. เพราะถือหุ้นทีไรมันไม่ค่อยจะเกินมูลค่าที่คิดเอาไว้เท่าไหร่ ... จำได้ว่ามีแค่ uec ums ตอนวิ่งกันไป 40 บาทมั๊งครับที่ได้ขายเพราะเหตุผลนี้ ส่วนใหญ่จะชิงขายหมดซะก่อนตั้งแต่ข้อ 3 เพราะยิ่งหุ้นใกล้มูลค่าเท่าไหร่ upside มันก็น้อยลงเท่านั้น เลยทำให้ตัวอื่นๆมันน่าสนใจกว่า
- ขายเพราะวิเคราะห์ผิดนี่ไม่ค่อยอยากเจอเลยจริงๆ แต่มันก็มีบ้างรองจากข้อ 3 ถ้ารู้ว่าวิเคราะห์ผิดเมื่อไหร่.. ราคาเท่าไหร่ก็ขายครับ ไม่อยากให้เงินจมอยู่กับหุ้นที่เราผิดพลาด เพราะเงินก้อนเดียวกันนี้สามารถนำไปงอกเงยจากหุ้นตัวอื่นได้ง่ายกว่ากันเยอะ
ขอบคุณมากเลยครับ แต่มีคำถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ การที่คุณโยได้ผลตอบแทนสูงๆหลายๆปีติดต่อกันเนี่ย เกิดจากการถือหุ้นตัวเดียวนานๆเป็นส่วนใหญ่ หรือเกิดจากการกระทำของข้อ 3 แล้วไปซื้อตัวที่ดีกว่า แล้วทำแบบนี้บ่อยๆ จึงทำให้ผลตอบแทนสูงครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 9:34 pm
โดย DevilCupid
รบกวนถามพี่ YOYO หน่อยนะครับ (แอบตีซี้เรียกพี่ซะงั้น)

คือผมเพิ่งเป็นมือใหม่ครับ
เข้าใจหลักการที่ว่าซื้อเมื่อถูกขายเมื่อแพงนะครับ
แต่ปัญหาของผมมีอยู่ว่าผมไม่รู้ว่า pe ที่ควรให้ควรเป็นเท่าไหร่
ส่วนมากที่อ่านๆเจอก็บอกว่าอาศัยประสบการณ์ บ้างก็ว่าใช้กึ๋น

พี่พอมีวิธีแนะนำมั้ยครับ ว่าพี่ประเมินคร่าวๆอย่างไรครับ
พอมีหลักการให้ผมใช้เป็นจุดสังเกตได้บ้างมั้ยครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 12:20 am
โดย yoyo
kewin เขียน:คุณโย ปกติใช้เวลาในการนั่งเฝ้าหน้าจอนานไหมครับต่อวัน และคิดว่าการนั่งเฝ้าหน้อจอเพื่อดู bid offer จำเป็นสำหรับการลงทุนมากไหมครับ
ผมไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่ครับ จะดูก็เฉพาะตอนที่ตั้งใจว่าจะปรับ port เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นสำหรับผมว่าไม่จำเป็นต้องดู bid offer ก็สามารถลงทุนได้ดีครับ จริงๆ ผมว่าการดูมากเกินไปจะยิ่งเป็นผลเสียต่อการลงทุนด้วยครับ เพราะทำให้ใจเราไม่นิ่ง ยิ่งเวลาเห็นหุ้นตัวเองลงเอาๆ หรือเวลาเห็นหุ้นคนอื่นขึ้นเอา เราก็อาจจะขายหุ้นเราไปซื้อหุ้นคนอื่นแทนได้

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 12:25 am
โดย yoyo
young_5432 เขียน: ขอบคุณครับ แล้วพี่พอจะรู้ไหมครับว่า ทำไมค่าเงิน แข็งถึงกระทบกำไรของ PDI ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยได้ส่งออก และวัตถุดิบส่วนใหญ่ก็นำเข้าด้วยครับ มันน่าเป็นผลบอกมากกว่าไม่ใช่หรอครับ
อย่างที่เข้าใจถูกต้องแล้วครับ แต่ว่าบางครั้งบริษัทที่นำเข้า เมื่อค่าเงินบาทแข็งอาจจะมีขาดทุนจากค่าเงินได้เหมือนกัน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
- ขึ้นอยู่กับระยะเวลาจ่ายเงิน หลายบริษัทได้รับ credit หลายเดือน ทำให้งวดที่ต้องจ่ายเงินจริงๆ อาจจะไม่ตรงกับค่าเงินที่เราดูจากภายนอก
- บางบริษัทมีการซื้อ us ล่วงหน้าไว้ เมื่อค่าเงินแข็งขึ้นก็จะขาดทุนจากค่าเงิน
ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากรณีของ pdi นั้นเป็นแบบไหน ยังไม่มีโอกาสไปได้แกะงบตัวจริงเลยครับ

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 12:30 am
โดย yoyo
green-orange เขียน: ขอบคุณมากเลยครับ แต่มีคำถามเพิ่มเติมหน่อยนะครับ การที่คุณโยได้ผลตอบแทนสูงๆหลายๆปีติดต่อกันเนี่ย เกิดจากการถือหุ้นตัวเดียวนานๆเป็นส่วนใหญ่ หรือเกิดจากการกระทำของข้อ 3 แล้วไปซื้อตัวที่ดีกว่า แล้วทำแบบนี้บ่อยๆ จึงทำให้ผลตอบแทนสูงครับ
ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นข้อ 3 นี่แหละครับ
ถือไปซัก 6 เดือน - 1 ปี หุ้นมันขึ้นมาระดับนึง บางทีอาจจะไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยิ่งหุ้นมันขึ้นมาเท่าไหร่ upside มันก็จะน้อยลงเท่านั้น พอ upside น้อยลง ความน่าสนใจของมันก็น้อยลงเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น
ที่ทำได้กำไรได้เยอะก็เพราะแบบนี้แหละครับ ถือหุ้นตัวแรก 100 บาท ขึ้นไป 60% เป็น 160 ไปซื้อตัวใหม่ขึ้นไปอีก 80% กลายเป็น 288 สมมติว่าจบปีที่ตรงนี้ก็คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 188% .... อันนี้เป็นตัวอย่างง่ายๆนะครับ ผมไม่ได้ถือหุ้นตัวเดียวทั้ง port แบบนี้ ผมว่ามันเสี่ยงเกินไป ควรจะถืออย่างน้อยก็ต้องซัก 3 ตัวขึ้นไป แล้วแต่ขาดของ port กับความมั่นใจในหุ้นตัวที่เราถือด้วย

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 12:45 am
โดย yoyo
DevilCupid เขียน:รบกวนถามพี่ YOYO หน่อยนะครับ (แอบตีซี้เรียกพี่ซะงั้น)

คือผมเพิ่งเป็นมือใหม่ครับ
เข้าใจหลักการที่ว่าซื้อเมื่อถูกขายเมื่อแพงนะครับ
แต่ปัญหาของผมมีอยู่ว่าผมไม่รู้ว่า pe ที่ควรให้ควรเป็นเท่าไหร่
ส่วนมากที่อ่านๆเจอก็บอกว่าอาศัยประสบการณ์ บ้างก็ว่าใช้กึ๋น

พี่พอมีวิธีแนะนำมั้ยครับ ว่าพี่ประเมินคร่าวๆอย่างไรครับ
พอมีหลักการให้ผมใช้เป็นจุดสังเกตได้บ้างมั้ยครับ
ก็ตรงตามที่อ่านมาแหละครับ p/e ที่เหมาะสมนั้นมาจากประสบการณ์ + การอ่านเยอะๆ...

ประสบการณ์จะช่วยบอกให้เราได้รู้ได้ว่า หุ้นประเภทไหนตลาดมักจะให้ p/e ระดับไหน แต่หลายๆครั้งตลาดก็มักจะให้ p/e ได้ไม่เหมาะกับที่ควรจะเป็นได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น แค่ประสบการณ์อย่างเดียวยังไม่พอ จะต้องผนวกเข้ากับความรู้จากการอ่านเยอะๆด้วย...

บริษัทที่มีคุณภาพก็ควรจะมี p/e ที่สูงกว่า ที่นี้บริษัทแบบไหนเรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่ดี เราต้องอ่านเยอะๆ หนังสือพิมพ์ pocketbook ทั้งแนวกลยุทธ์ case study การตลาด

นอกจากนี้ p/e นั้นยังเป็นค่าที่ dynamic ด้วย เพราะมันไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ .. เพราะการลงทุนนั้นจริงๆแล้วคือการเปรียบเทียบผลตอบแทนของสินทรัพย์แต่ละประเภท หุ้นที่มี p/e 8 เท่า เราอาจจะมองว่าต่ำในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ในภาวะที่เราสามารถหาหุ้นที่มี p/e 4-5 เท่าเต็มไปหมด หุ้น p/e 8 เท่าก็อาจจะดูแพงขึ้นมาได้ทันที

ศาสตร์การประเมินมูลค่าด้วย p/e นั้นผมว่าเป็นทั้ง วิทย์และศิลป์ คือเราต้องเข้าใจที่มาของตัวเลข ทั้งนี้ยังต้องประเมินข้อมูลเชิงคุณภาพของแต่ละบริษัทมาเทียบกับแล้วจึงพอจะบอกได้ว่า p/e แบบไหนถูกแบบไหนแพง การจะกำหนดตัวเลขออกมาเป็นสูตร นั้นเป็นเรื่องยากเกิน และไม่เหมาะกับการใช้งานจริง

ฟังดูยากนะครับ แต่ถ้าเราลงทุนไปนานๆ ให้เวลากับการอ่านความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ sense ตรงนี้มันจะเกิดขึ้นได้เองเหมือนกันครับ....

ลองหาอ่านเรื่อง dcf ดูนะครับ หนังสือของพี่สุมาอี้อธิบายเรื่องนี้เอาไว้ได้เข้าใจง่ายมาก ถ้าเข้าใจเรื่อง dcf แล้ว เอามาโยงกับเรื่องของ p/e ที่เหมาะสมจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ เพราะบริษัทที่ทำ dcf ออกมาได้สูงๆ มันก็จะเป็นบริษัทกลุ่มเดียวกับที่ควรมี p/e สูงๆเช่นกันครับ

ปล. (สำคัญมาก) ตัวเลข p/e ของหุ้นบางตัวอาจจะดูสูงหรือต่ำอย่างยาวนาน หลายๆครั้งเป็นความผิดพลาดของ Mr.Market ที่ให้ p/e หุ้นบางตัวมากเกินไป หุ้นให้ p/e บางตัวต่ำเกินไป ถ้าเรามั่นใจแล้วว่าบริษัทนั้นดีมากๆ แล้ว p/e ต่ำๆ เราก็ควรมั่นใจในหลักการลงทุนของเรา อย่าไปเชื่อตลาดว่าถ้าหุ้นตัวนี้ p/e ต่ำมาตลอด มันก็ควรต่ำอยู่อย่างนั้น

จุดนีแหละครับที่จะแยกความแตกต่างของนักลงทุนที่โดดเด่นกับนักลงทุนทั่วๆไป
นักลงทุนที่โดดเด่นจะเชื่อตัวเอง
นักลงทุนทั่วไปจะเชื่อคนอื่น

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 9:44 am
โดย picatos
yoyo เขียน:...
ปล. (สำคัญมาก) ตัวเลข p/e ของหุ้นบางตัวอาจจะดูสูงหรือต่ำอย่างยาวนาน หลายๆครั้งเป็นความผิดพลาดของ Mr.Market ที่ให้ p/e หุ้นบางตัวมากเกินไป หุ้นให้ p/e บางตัวต่ำเกินไป ถ้าเรามั่นใจแล้วว่าบริษัทนั้นดีมากๆ แล้ว p/e ต่ำๆ เราก็ควรมั่นใจในหลักการลงทุนของเรา อย่าไปเชื่อตลาดว่าถ้าหุ้นตัวนี้ p/e ต่ำมาตลอด มันก็ควรต่ำอยู่อย่างนั้น

จุดนีแหละครับที่จะแยกความแตกต่างของนักลงทุนที่โดดเด่นกับนักลงทุนทั่วๆไป
นักลงทุนที่โดดเด่นจะเชื่อตัวเอง
นักลงทุนทั่วไปจะเชื่อคนอื่น
:cool:  :cool:  :cool:

เหาฉลามที่ธรรมดาจะเลือกเกาะนักลงทุนที่โดดเด่น
เหาฉลามที่โดดเด่นจะมีนักลงทุนที่โดดเด่นให้เลือกเกาะหลายคน

:lol:  :lol:  :lol:

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 10:08 am
โดย pacabee
ปล. (สำคัญมาก) ตัวเลข p/e ของหุ้นบางตัวอาจจะดูสูงหรือต่ำอย่างยาวนาน หลายๆครั้งเป็นความผิดพลาดของ Mr.Market ที่ให้ p/e หุ้นบางตัวมากเกินไป หุ้นให้ p/e บางตัวต่ำเกินไป ถ้าเรามั่นใจแล้วว่าบริษัทนั้นดีมากๆ แล้ว p/e ต่ำๆ เราก็ควรมั่นใจในหลักการลงทุนของเรา อย่าไปเชื่อตลาดว่าถ้าหุ้นตัวนี้ p/e ต่ำมาตลอด มันก็ควรต่ำอยู่อย่างนั้น
เช่น ศุภาลัยหรือเปล่าครับพี่โย  ผมก็รอเมื่อไร Mr.Market เขาจะ
ส่อง spotlight ให้มันจ้า ๆ หน่อย  รอจนเมื่อยตุ้มแล้วเนี่ย :lol:

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 05, 2009 9:11 am
โดย dome@perth
ขอชม น้องโยหน่อย เก่งมากๆ
เสือก็ยังเป็นเสือตลอดกาล
ล่าแต่เนื้อก้อนโตๆ เรายังเป็นแมว
จับได้แต่หนูตัวเล็กๆ คงต้องใช้เวลาประสบการณ์อีกนาน

เข้ามาอ่านเก็บเอาเคล็ดไม่ลับ ของน้องโย ไปเรื่อยๆ ครับ
ชอบวิธีการ แมนเนจ พอร์ต มากๆครับ
ผมก็ใช้คล้ายๆโดยไม่รู้ตัว

นอกจากบริหารสัดส่วน การถือหุ้นที่มีในพอร์ต
ผมใช้วิธี กางร่ม หุบร่ม เพิ่มเติมครับ
ตอนหุ้นลง ผมก็กางร่ม หุ้นขึ้นผมก็หุบรวม

เมื่อหุ้นตก(ลดราคา) เหมือนฝนตก
ผมก็กางร่มหมายถึงผมจะแบ่งพอร์ต
ที่มีอยู่สมมุติ 3- 5 ตัว ผมซื้อหลายตัวขึ้นเพื่อรับหุ้นที่ตก
ที่เราติดตามอยู่ สมมุติรวม 10 ตัว
เหมือนเป็นการกระจายความเสี่ยงหุ้นขาลงด้วย
หากหุ้นไม่มีสภาพคล่องจะออกก็ง่ายขึ้น

หุ้นขึ้น (ให้กำไร) ผมก็หุบร่ม คือ ขายตัวที่ขึ้นมาเท่าเป้าหมาย
เพื่อลดจำนวนตัว แต่ถือตัวที่ยังไม่ขึ้นและเรามั่นใจมากสุด
3-5 ตัว เหมือนเดิม โฟกัสหุ้นที่มีอยู่ได้เต็มที่
อย่างหลายคนบอก ถ้าถูกตัว มันทำผลตอบแทนได้ดีกว่า

แฮะๆ.....อุ้ย....เข้ามาฝอยด้วย ไม่ได้มาอ่านอย่างเดียว
:oops:

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 08, 2009 1:16 am
โดย yoyo
dome@perth เขียน:
หุ้นขึ้น (ให้กำไร) ผมก็หุบร่ม คือ ขายตัวที่ขึ้นมาเท่าเป้าหมาย
เพื่อลดจำนวนตัว แต่ถือตัวที่ยังไม่ขึ้นและเรามั่นใจมากสุด
3-5 ตัว เหมือนเดิม โฟกัสหุ้นที่มีอยู่ได้เต็มที่
อย่างหลายคนบอก ถ้าถูกตัว มันทำผลตอบแทนได้ดีกว่า

แฮะๆ.....อุ้ย....เข้ามาฝอยด้วย ไม่ได้มาอ่านอย่างเดียว
:oops:
เข้ามาแบ่งๆกันบ้างครับพี่โดม.. ผมนิ่งมานานแล้วไม่มีอะไรใหม่เลย
ว่าแต่เข้าใจคิดเน๊อะ กลยุทธ์หุบกาง... ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ได้ผลเป็นยังไงเอามาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ  :lol:

รบกวนถามน้อง yoyo เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 08, 2009 11:33 pm
โดย dome@perth
[quote="yoyo"]
เข้ามาแบ่งๆกันบ้างครับพี่โดม.. ผมนิ่งมานานแล้วไม่มีอะไรใหม่เลย
ว่าแต่เข้าใจคิดเน๊อะ กลยุทธ์หุบกาง... ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ได้ผลเป็นยังไงเอามาเล่าให้ฟังกันอีกนะครับ