หน้า 4 จากทั้งหมด 5

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 01, 2009 12:46 am
โดย kornjackrit
เห็นด้วยกับพี่กล้วยไม้ขาวครับ

จริงๆต้องโทษตัวผมเองที่ตั้งชื่อกระทู้แบบเจาะจงเกินไป

ผมยอมรับว่าตอนคุยกันแรกๆกับนักธุรกิจแอมเวย์ที่ชวนผมทำ
ผมมักจะเคลิ้มตาม โดยไม่ได้ตั้งสติเพียงพอ เลยทำให้เกิดความเข้าใจ
ทั้งที่ถูกและผิดมากมาย

อันที่จริงวัตถุประสงค์ของการที่ผมตั้งกระทู้นี้
ก้เพื่อที่จะให้ตัวผมเอง และท่านที่สนใจในธุรกิจเครือข่าย
ได้มีเวลาตั้งสติ ทบทวนและพิจารณาในธุรกิจเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง
เพราะการที่พูดคุยกันต่อหน้านั้น ผู้ที่ถูกชวนคุยจะรู้สึกปฎิเสธยากมาก
และหลายครั้งก็ทำให้้ตัดสินใจไปโดยไม่มีสติ จึงทำให้เกิดข้่อผิดพลาด
และทำให้เข้าใจธุรกิจเครือข่ายผิดไปด้วย ผมจึงคิดว่าถ้าตั้งกระทู้ขึ้นมา
และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเ็ห็นกัน ได้นั่งอ่าน นั่งคิด ไตร่ตรอง
น่าจะช่วยทำให้ตัดสินใจได้ดีและถูกต้ิองยิ่งขึ้นครับ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 01, 2009 2:35 am
โดย ซากคน
ผมอดคิดไม่ได้ว่า  ต้นแบบที่ต่างประเทศ  เมื่อถูก copy ไปยังประเทศอื่นๆที่หลายหลากวัฒนธรรมและทัศนคติ  มีสักกี่ % ที่ copy ได้ถูกต้องเสียทีเดียว
ธุรกิจนี้มีความมั่นคงได้ ถ้าต้นฉบับดี+copy แล้วผิดเพี้ยนไม่มาก....ok

ความจริงที่ทำให้ระบบธุรกิจเหล่านี้อยู่ได้ยาวนาน คือ ยอดขายที่โตแน่นอนจากไม่กี่กลุ่มเท่านั้น  กลุ่มที่ว่านั้นคือกลุ่มที่สามารถ copy ได้เนียนสุด  กลุ่มอื่นๆย่อยที่ประกอบด้วยคนจำนวนมากไม่สามารถ copy ได้ดีพอ  ก็เลยดูเหมือนเป็นฐาน (ลูกโซ่ในสายตาของคนมักง่ายหลายคนที่คิดทำอะไรฉาบฉวย)  เพราะบริษัทตอนตบรางวัล ใครทำมากย่อมได้มาก ใครทำน้อยก็ได้น้อย      

ปล.  มีใครบ้างไหมที่อยากทุ่มเทให้กับกิจกรรม/คน ที่ทำผลประโยชน์ให้เราน้อย  

ในเมื่อธุรกิจนี้ คนทุกคนเข้ามาทำได้ง่ายนัก ในแง่ของโครงสร้างธุรกิจแล้ว
หากมีความตั้งใจที่จะทำงานนี้เพื่อ cash flow จริงๆละก้อ  อีกคำถามที่คนทำต้องตอบคือ

เราจะกลายเป็นคนกลุ่มน้อย ได้อย่างไร  ทั้งๆที่
* เราใช้สื่อ+สินค้าเดียวกัน (ราคาเดียวกัน)
* เราอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน
* โอกาสที่จะเจอ upline ที่มีคุณภาพ+มีเวลาให้เรา...น้อย  
  (หลังจากที่เขาบินขึ้นสูงแล้ว น้อยคนที่จะโฉบลงมาดูชั้นล่างๆ)

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 01, 2009 12:18 pm
โดย anaconda
ขอเพิ่มเติมมุมมองส่วนตัวผมนิดหนึ่งครับ
1) ก่อนที่เราจะถามหา u/l ที่ทำเพื่อเรา เสียสละเพื่อเรา ตัวเราเองคงต้องจะต้องถามตัวเราเองก่อนว่า ที่ผ่านมา เราเคย เสียสละและทำอะไรให้คนอื่นบ้าง โดยไม่หวังผลตอบแทน
2) ตอนที่เราเรียนจบใหม่ๆ ไปสมัครงานกับบริษัทใหญ่ๆ สมมุติว่า บ การบินไทย คุณจะคาดหวังให้ MD การบินไทยเดินมาจับมือต้อนรับคุณหรือเปล่า คุณคาดหวังให้ MD บ มาสอนงานคุณมั้ย
3) นักเรียนที่เรียนมาด้วยกันจบพร้อมกัน ทำไมผลการเรียนต่างกัน ทำไมผลการทำงานต่างกัน ทั้งๆที่ ใช้สื่อ+ครูคนเดียวกัน มีธุรกิจหรืองานอะไร ที่ทุกคนทำแล้วได้ผลลัพธ์ เท่ากันหมด ผมไม่เคยเจอ และผมก็ไม่คิดว่าจะมี แต่ทำไมเราถึงติดลบกับธุระกิจเครือข่าย เพราะเหตุผลเหล่านี้

ผมชอบคำพูดของ JFK ที่ว่าก่อนที่คุณจะถามว่าประเทศชาติให้อะไรคุณ คุณต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณให้อะไรกับประเทศชาติบ้าง แต่ขอปรับนิดหนึ่งเป็น

ก่อนที่คุณจะถามว่าใครจะทำอะไรให้คุณ คุณคงต้องถามตัวเองก่อนว่าคุณเคยทำอะไรให้คนอื่นบ้าง

แค่นำเสนอมุมมองอีกมุมหนึ่ง ให้ลองคิดดูเท่านั้นครับ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 01, 2009 3:39 pm
โดย ซากคน
แล้วแต่ว่าใครจะเปิดอะไรออกมาครับ  ประเด็นมันเยอะมาก  
ผมถนัดที่จะประเมินภาพรวมที่เห็นได้ชัดก่อน แล้วค่อยไล่ทำให้ผ่านเป็นจุดๆ  

ผมสะดวกที่จะ "พูดทีละคำ ฟังทีละเสียง" ครับ  การทำอะไรที่นอกเหนือข้างต้นนี้ รังแต่ทำให้ผลงานโดยรวมผมแย่ลงเรื่อยๆๆครับ
   
หากใครสะดวกจะ "พูดหลายๆคำ ฟังหลายๆเสียง" ก็ตามสะดวกครับ ถ้ามันทำให้ผลงานคุณดีขึ้น  
 
หลังจากอ่านแล้ว คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ผมเป็นคนยังไง

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 01, 2009 7:03 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
พอได้มาอ่านที่ตัวเองโพสแล้วอยากจะเำพิ่มเติมเหตุผลที่ผมคิดว่าควรจะคุยกันในขอบเขตของคำว่า "ธุรกิจเครือข่าย" โดยไม่เจาะจงบริษัทมากไปครับ

ข้อแรกคือ น้องกอร์นเองไม่ได้ต้องการที่จะศึกษาเพื่อจะเลือกทำที่ใดที่หนึ่งอยู่แล้วแต่ต้องการความเข้าใจในตัวธุรกิจมากกว่า
สองคือ การให้รายละเอียดที่เฉพาะของแต่ละบริษัทควรให้กับคนที่เขาสนใจศึกษารายละเอียดลึก ๆ และเป็นการเฉพาะตัวมากกว่า
เพื่อที่จะได้เกิดความเข้าใจจริง ๆ เพราะแต่ละคนมีการรับรู้ที่มากน้อยต่างกัน อีกย่างนึงข้อมูลในเว็บนั้นมักจะคงอยู่ถาวร แต่รายละเอียดแต่ละบริษัทอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้
สาม การที่ำพูดถึงภาพรวมธุรกิจนั้นให้คนทั่ว ๆ ไปเข้าใจจะเป็นการดีต่อทุกบริษัท และทำให้ไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งจากการกระทบกระทั่งกันได้ครับ
เพราะผมเห็นคนหลายคนที่ทำธุรกิจนี้มักจะโจมตีบริษัทคู่แข่งกันอยู่บ่อย ๆ ครับ  :8)

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 05, 2009 11:29 am
โดย คนคอน
ตอนนี้ผมกำลังทำอยู่ บริษัทนึงอะครับ

ฟังแผนการตลาดแล้ว เวิร์คมาก ไม่ใช่ แอมกะเฮอ นะ

ที่ผมเข้าไปทำ บ นี้เพราะผมเห็นว่าเป้นธุรกิจแบบยั่งยืน

และก้อตอบโจทย์สำหรับตัวผมได้หมด

เป็น บ อาหารเสริมกึ่งยา ที่อยู่มากว่า100ปีแล้วฮะ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 10, 2009 7:00 am
โดย revlis
คุณคนคอนระวังนิดนะครับเพราะยาบางตัวมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
หากทานยาไม่ระวังอาจจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมได้
ไม่ว่าคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือโรคเรื้อรัง หรือโรคที่ติดตัวอยู่
การใช้ยาเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากระวังด้วยนะครับ
ปล.อาหารเสริมบางตัวมีผลข้างเคียงไม่เว้นแม้แต่ยาบางชนิดก็เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่นการทำดีท้อกซ์จะทำให้แบคทีเรียE.colloiในร่างกาย
คนหายไป(มันอยู่ในลำไส้นะครับ)ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้ช่วยผลิตวิตามิน
ให้แก่ร่างกายครับ
ลองดูดีๆนะครับของพวกนี้ต้องพิจารณานานๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ การตลาด
ตัวผู้ซื้อ และตัวเราเองด้วย(บางอย่างต้องใช้ความรู้เฉพาะทางในเชิงลึกมากๆในการขาย)
ขอให้โชคดีกับธุรกิจครับ สู้ๆ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 12, 2009 11:37 pm
โดย คนคอน
อ่อ อย่างที่บอกครับ บ ผม อาหารเสริมทุกตัวจะต้องผ่านการทดลองกับมนุษย์จำลอง99.99%ซึ่งในโลกนี้มีแค่สองตัวเท่านั้นครับ

ถ้าหากมีผลข้างเคียงอะไร นักวิจัยเค้าก้อจาทิ้ง แล้ววิจัยใหม่

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 12, 2009 11:41 pm
โดย คนคอน
แต่ยังไง ก้อขอบคุณครับที่เป็นห่วงง

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 10:55 am
โดย กล้วยไม้ขาว
เงียบ ๆ ไปสักพักมาต่อกันดีกว่าครับ

ธุรกิจเครือข่ายมีที่มาจากระบบแฟรนไชน์ อย่าง 7-11 นั่นเอง
ต่อมาได้ทีคนคิดที่จะนำระบบแฟรนไชน์ มาผนวกเข้ากับระบบขายตรง
จนกลายมาเป็นการตลาดแบบเครือข่ายในที่สุด

นั่นหมายความว่า การตลาดแบบเครือข่ายเป็นระบบขายตรงรูปแบบหนึ่ง
แต่ระบบขายตรงไม่ใช่การตลาดแบบเครือข่าย

ปัจจุบันในประเทศไทยทางราชการเขาจัดใหุ้การตลาดแบบเครือข่ายถือว่าเป็นระบบขายตรงรูปแบบหนึ่ง

แต่ต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศเขาจะเรียกว่าระบบแฟรนไชน์ส่วนบุคคล

ดังนั้นในประเทศไทยระบบการขายตรงจะจำแนกได้ดังนี้

ขายตรง
... ขายตรงชั้นเดียว
   ... TV Direct
   ... ขายประกัน
   ... Tele sale
   ... misteen
   ... knock door ต่าง ๆ
... ขายตรงหลายชั้น (การตลาดแบบเครือข่าย)
   ... MLM
   ... Binary

สาเหตุที่การตลาดแบบเครือข่ายเติบโตได้เำพราะมีข้อดีหลายประการเช่น
- เป็นการตลาดที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้สินค้าได้มีส่วนร่วมในธุรกิจและผลกำไรของบริษัท
  ซึ่งว่ากันตามหลักการตลาดแล้วถือว่าเป็นการตลาดในอุดมคติทีเดียว
  เำพราะจะส่งผลให้เกิดความยากในการเปลี่ยน brand และความมั่นคงในการเติบโตจะสูงตามไปด้วย
- สินค้ามีต้นทุนลดลงเนื่องจากตัดรายจ่ายในด้านการผ่านพ่อค้าคนกลางและการโฆษณา
  จึงทำให้เกิดการจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่ต่ำลงแถมยังมีส่วนต่างมาปันผลให้ผู้บริโภคด้วย
  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ทุกบริษัทจะเป็นเช่นนี้จริง ๆ นะครับต้องเช็คกันดูอีกที

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 10, 2009 4:49 pm
โดย kornjackrit
ขอบคุณพี่กล้วยไม้ขาวครับ

ผมหายจากกระทู้นี้ไปนาน
เพราะใช้เวลาส่วนหนึ่งไปทำความเข้าใจกับธุรกิจเครือข่ายมากขึ้น

ผมพอจะได้ข้อสรุปกับตัวเองอย่างที่ตั้งใจไว้
ตอนตั้งกระทู้นี้ในตอนแรกแล้ว
( หลังจากนี้ผมก็คงอาจจะหายจากกระทู้นี้ไปอีก
เพราะผมคิดว่ากระทู้นี้ได้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่ผมหวังไว้แล้ว
เว้นแต่ว่าจะมีประเด็นอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจ มาพูดคุยกันอีก)

ผมคิดว่าตัวแผนธุรกิจของธุรกิจเครือข่าย
เป็นอะไรที่ค่อนข้างดีมากคับ
คนที่มาก่อนไม่จำเป็นต้องมีรายได้มากกว่าคนที่ทำทีหลัง
เพราะเวลาคิดรายได้จะเฉลี่ยกันไปตามยอดที่แต่ละคนทำได้
( ตรงนี้ผมคิดว่ามันค่อนข้างยุติธรรมมากๆ )

การที่คนส่วนนึงมองธุรกิจเครือข่ายในทางลบนั้น
ผมคิดว่าเป็นเพราะตัวคนที่เป็นนักธุรกิจเครือข่ายจริงๆครับ
บางคนทำผิดวิธีด้วยการยัดเยียดให้สมัครสมาชิก หรือ ขายของเพิ่มยอด
หรือ ตามตื้อไม่เลิก ทั้งๆที่คนที่ถูกตามตื้เขาก็บอกอย่างชัดเจน
แล้วว่าเขาไม่อยากทำ หรือการแนะนำสินค้าว่าดี และราคาไม่แพง
เมื่อใช้อย่างถูกวิธี ( ผมคิดว่าสินค้า Amway ไม่แน่ว่าจะใช่สินค้าที่ดีและคุ้มค่าที่สุดเสมอไป แต่แน่นอนว่า
ถ้าเราเป็นสมาชิกหรือนักธุรกิจเครือข่ายของ Amway แล้ว
เราก็มีแนวโน้มที่จะคิดว่ามันดีที่สุดคุ้มที่สุด เพราะมันมีผลประัโยชน์
เข้ามาเกี่ยวข้อง )

ผมคิดว่าธุรกิจเครือข่ายมันเป็นแค่ทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง
ไอเดียต่างๆที่ผมได้รับจากการไปร่วมสัมมนาหรือประชุมของธุรกิจเครือข่าย
เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆกับหลายๆคน
โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ได้วางแผนอนาคตของตัวเองไว้ หรือ คนที่ไม่ได้ติดตามว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนแล้ว

แต่สุดท้ายธุรกิจเครือข่ายก็ยังคงเป็นแค่ทางเลือกอยู่ดี
เพราะคนเราไม่จำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต
จากการทำสิ่งที่เหมือนกัน บางคนสำเร็จจากการเล่นกีฬา
บางคนสำเร็จจากการร้องเพลง สุดท้ายเขาเหล่านั้น
ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตเช่นเดียวกัน

ผมอยากฝากไปถึงนักธุรกิจเครือข่ายที่อาจจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า
ถ้าคุณอยากหาคนที่สนใจทำธุรกิจเครือข่ายหรือเข้าเป็นสมาชิก
เครือข่ายของธุรกิจคุณ สิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในมุมมองของผม
คือ ความจริงใจ และการให้เวลากับคนที่คุณได้ชวนมาร่วมธุรกิจเครือข่าย
ได้พิจารณาด้วยตัวเขาเองว่าเขานั้นเหมาะสมกับการทำธุรกิจเครือข่ายมาก
น้อยแค่ไหน ไม่ใช่เร่งรัด หรือ พยายามทำให้เขาูรู้สึกว่าธุรกิจเครือข่ายคืออะไรที่ดีที่สุด
เหมาะสมที่สุด และเขาควรจะต้องรีบสมัคร ( ด้วยการให้ฟัง CD ที่มีเนื้อหา
ในเชิงชักชวนให้เข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่าย
หรือ ชวนไปเข้าร่วมสัมมนาทีมักจะพูดแต่ว่าธุรกิจ
เครือข่ายดีอย่างนู่นดีอย่างนี้ ้)

สิ่งนี้จะทำให้เขามองธุรกิจเครือข่ายดีขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง
เพราะคนที่พิจารณาด้วยตัวเองและเห็นว่าธุรกิจเครือข่ายดีจริงและเหมาะ
กับเขาจะมาสมัครกับคุณ  และทำให้เครือข่ายของคุณเข็มแข็ง ส่วนคนที่
รู้ว่าไม่เหมาะกับตัวเองและไม่ได้มาสมัคร ก็จะไม่มองคุณในแง่ลบ
แต่กลับจะยกย่ิองคุณว่ามีจรรยาบรรณ และเป็นนักธุรกิจเครือข่ายที่ดี

สำหรับผมเองนั้น หลังจากที่ได้ศึกษา
และพิจารณาข้อดีข้อเสีย ของธุรกิจเครือข่ายแล้ว
ผมคงเลือกจะเป็นอย่างมากที่สุด แค่สมาชิกไม่ใช่นัักธุีรกิจเครือข่าย
สมาชิกซึ่งมีสิทธิในการซื้อสินค้า แต่ไม่มีสิทธิในการแนะนำหรือขายสินค้า
(ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นนะคับ) แต่แค่การเป็นสมาชิก
ผมก็คงจะต้องถูกเพื่อนๆ และคนรอบข้างที่ยังไม่เข้าใจ
มองในแง่ลบไว้ก่อนแล้ว ซึ่งผมก็คงต้องใช้เวลาไปอธิบาย
ทำความเข้าใจกับเขาเหล่านั้นอีก ที่ผมจะเป็นสมาชิกนั้นก็เป็นเพราะ
อยากซื้อสินค้าบางตัวมาใช้เองหรือซื้อให้กับคนที่ผมรักและห่วงใยเท่านั้น

ผมหวังว่ากระทู้นี้จะช่วยทำให้คนที่คิดว่าทำธุรกิจเครือข่าย
หรือสนใจธุรกิจเครือข่ายแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ
เช่นเดียวกับผม ได้ความรู้และความเข้าใจเพิ่มขึ้น
ซึ่งทั้งหมดก้ต้องขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยมาให้ความรู้
และมาพูดคุยกัน

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 4:56 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
kornjackrit เขียน:ผมเพิ่งเห็นว่ามีกระทู้นี้ด้วย 55
แต่มันนานมากแล้วว ตั้งกะปี 47
:shock:  :shock:



พอดีผมตั้งอีกกระทู้ที่ห้อง Alternative investing ไว้ตั้งแต่ปี 51
และก็มีพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นที่มีความรู้ และ/หรือ เคยทำธุรกิจ
เครือข่ายมาช่วยตอบคำถามครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 2&start=90
ต้องขอโทษด้วยนะคับที่ไปตั้งกระทู้ซ้ำในห้ิองอื่น
:oops:

ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับพี่ zeroshock ทุกอย่างครับ

หลังจากได้ศึกษามาพักนึง ( ผมไม่ได้ทำนะคับ)
ถึงแม้ว่าจะเห็นว่าธุรกิจเครือข่ายดีแต่ผมคิดว่า
มันก็มีจุดบอด หรือ จุดเสี่ยงที่ทำให้ผมไม่อยากทำ
( ณ ตอนนี้ ในอนาคตไม่สามารถบอกได้)
ที่สำคัญมากๆ คือ เรื่องความสัมพันธ์กับญาติพี่น้อง
กับเพื่อนๆ กับคนรอบข้าง ผมคิดว่าการทำธุรกิจเครือข่าย
ผู้ที่ตั้งใจ และมุ่งมั่นจะทำจริงๆจังๆนั้น มักจะเริ่มเสนอขาย
หรือ ชวนบุคคลใกล้ตัวก่อนเป็นลำดับแรก
ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลที่ ว่า ชวนง่าย หรือ อยากให้เขาได้ประโยชน์
จากสินค้าก็ตาม แต่สิ่งที่ผมคิดว่าต้องระวังก็คือ การพูดคุย
เรื่องธุรกิจเครือข่ายระหว่างญาติพี่น้ิอง หรือ เพื่อนฝูงที่มากจนเกินไป
ซึ่งมักจะทำให้เขาเหล่านั้นเบื่อหน่าย กับธุรกิจเครือข่าย
ทั้งๆที่มันมีข้อดีอีกเยอะมากมาย

เรื่องนี้มักจะทำให้ควา่มสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และภาพความรู้สึก
ที่คนรอบข้างมีต่อตัวเราเปลี่ยนไป บางคนที่ไม่เข้าใจอาจจะคิดว่า
เราเป็นพวกโลภเห็นแก่เงิน หวังประโยชน์จากเพื่อน หรืออื่นๆ
ซึ่งจริงๆ ณ ตอนนี้ผมก็คิดว่ามันไม่ใช่ เพียงแต่สิ่งเหล่านี้
คือ สิ่งที่คนไม่เข้าใจ(ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รวมทั้งตัวผมเองในตอนแรก)คิด
เนื่องจากในบางครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นจนเกินไป ความตั้งใจจนเกินไป
ที่จะสร้างเครือข่ายหรือทำยอด ทำให้ความโลภซึ่งมีในตัวมนุษย์แทบทุกคน
ถูกแสดงออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว และการแสดงออกเหล่านั้นสามารถเห็นได้
ง่ายดายมากๆจากลักษณะคำพูด และการกระทำของคนๆนั้น
ซึ่งเมื่อแสดงออกมาแล้ว ความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลรอบข้าง
หรือ ญาติพี่น้อง ก็คงจะไม่ดีนัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าเงินทดแทนไม่ได้
ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน ถ้าความสัมพันธ์เสียไป มันเรียกกลับคืนมาไม่ได้
:wink:  :wink:

ยังไงก็ระวังเรื่องเหล่านี้ไว้หน่อยนะคับสำหรับผู้ที่ทำ และ คิดจะทำ
ธุรกิจเครือข่ายทุกท่าน
ไปอ่านเจอในอีกกระทู้ 555

เรื่องทำผิดวิธีนี่เป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจนี้เลยครับ
บางคนต้องเสียเำพือนไปเลยก็มี

ผมจึงใช้เวลาอย่างมากเวลามีใครมาชวนทำธุรกิจนี้เำพื่อที่จะดูว่าที่ไหนตอบโจทย์ผมได้ครบทุกอย่างจริง ๆ ตามหลัก Five force Model of MLM 5 ข้อที่ผมเคยพูดถึง

ผมจึงเลือก Unicity ครับ

ธุรกิจนี้เหมือนทุเรียนครับ
คนที่เคยกินก็จะรู้ว่าอร่อย
แต่ด้วยความตื่นเต้นยินดี เลยเอาทุเรียนที่ยังไม่ได้ปลอกเปลือกไปยัดปากเำพื่อน
แน่นอน คนโดนแบบนั้นต้องเกลียดเำพื่อนคนนี้ไปเลย

ผมเลือก Unicity เำพราะเขามีระบบที่สอนให้ผมปลอกเปลือกทุเรียนได้ดีที่สุดเป็นเหตุผลแรกเลยครับครับ

:8)

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 6:53 pm
โดย kornjackrit
Unicity นี่ธุรกิจเครือข่ายอันใหม่หรอคับพี่ ???

ผมไม่เคยได้ิยินเลย

ไว้พี่กล้วยไม้ขาวว่างๆ
ผมรบกวนเล่าให้ฟังในกระทู้หน่อยนะคับ

ขอบคุณมากคับ
:D

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 03, 2009 12:06 pm
โดย กล้วยไม้ขาว
หลาย ๆ คนพอได้ยินคำว่าธุรกิจเครือข่ายมักจะมองในแง่ลบ
แล้วมักจะเหมารวมว่ามันเหมือน ๆ กัน

จริง ๆ แล้วคำว่า คำว่าธุรกิจเครือข่าย ก็เหมือนคำว่า อุตสาหกรรมเหล็ก
คืออยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่แค่เปลี่ยนบริษัท ก็จะแตกต่างกันมาก ๆ

ยกตัวอย่างเรื่องสินค้า แต่ละที่ก็จะคุณภาำพไม่เท่ากัน

และที่ผมเลือก Unicity เำพราะสินค้าที่มีคุณภาพระดับ PDR และ MIMS และมีขายเจ้าเดียวในโลก

ที่สำคัญมันช่วยคนได้จริง ๆ เำพราะเป็นสินค้าที่ใช้รักษาแทนยาได้ โดยไม่มีผลข้างเคียง (ผลข้างเคียงของยาแรงขนาดไหนลองถามคุณหมอ)
อย่างตัว ลดคลอเรสเตอรอล ควบคุมเบาหวาน ที่ชื่อ Bios Life

ผมอยากให้คุณหมอในเว็บช่วยรีวิว หน่อยนะครับ ถือว่าช่วยคนให้พ้นโรคร้าย กุศลมากนะครับ
Unicity PDR Book 2005

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 28, 2009 1:58 am
โดย luckyman
สวัสดีครับ
แต่ก่อนผมก็ยังไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเครือข่ายเหมือนกันครับ
แบบค่อนข้างอ่อนต่อโลกมากมาก เป็นเด็กบ้านนอกเพิ่งเข้า กรุง
ปลายปีที่แล้ว ผมก็ได้สมัคร ABO ของ amway ไปครับ 900 บาท และไปเรียนรู้ที่เซ็นเตอร์ได้ประมาณ 3 เดือน ครับ
สมัครวันแรกที่ไปฟังเลย ด้วยความเกรงใจครับ ตอนแรกว่าจะไม่ได้สมัครแต่โดนพี่ในกลุ่มชวนแล้วผมก็เกรงใจและคิดว่าไม่น่าเสียหายมากเลยทำไป
ผมไปฟังสัมนาสามเดือนแรกสม่ำเสมอครับ โดยส่วนตัวผมว่าแนวคิดเขาโอเคครับ
เขาสอนให้เรา วางเป้าหมายในชีวิตว่าอีก 3,5,10 ... ปีจะเป็นตำแหน่งอะไร
สอนให้เราเข้าใจชีวิตครับ รักพ่อแม่ ตอบแทนผู้มีบุญคุณ คล้ายๆ แนวคิดการมีอิสรภาพทางการเงินครับ ตรงนี้ผมว่าเวริคครับ ชอบ

เปรียบเทียบแอมเวย์กับการเป็นลูกจ้าง การเปิดบริษัทเอาเอง การเป็นทำงานหลายๆ แบบ ซึ่งสรุปว่าแอมเวย์ดีสุดครับ เพราะลงทุนแค่ปีแรก 900 บาท ปีต่อไป 450 บาท (แต่จริงๆ มันมีต้นทุนแอบแฝงเยอะกว่านั้นครับ ดังที่พี่พี่กล่าวไว้แล้ว)

มีการเปิดวีดีโอไปเที่ยวต่างประเทศให้ดูด้วย เพื่อกระตุ้นต่อมกิเลสให้ผู้มาฟังสัมนา

มีการสาธิตสินค้าโชว์ เอาเครื่องกรองน้ำมากรองน้ำสีแล้วออกมาใสแจ๋ว
สาธิตน้ำยาสารพัดประโยชน์ LOC

ให้คนที่เคยทำมาแชร์ประสบการณ์ ว่าชอบสินค้าไรมั่ง

ช่วงแรกๆ ผมรู้สึกกดดันมากมากครับ คือเขาจะให้เราตั้งเป้าหมายทุกครั้งที่ไปสัมนาครับ อาจจะคิดไปเองด้วย แต่ผมก็ชวนพี่ที่บริษัทมาเป็นดาวน์ไลน์ได้ 1 คน

ผมลองใช้สินค้าบางอย่างครับ เช่น
ยาสีฟัน อันนี้ถ้าเปรียบเทียบกับใกล้ชิด คอลเกตแล้วดีกว่าเห็นๆ ครับ ใช้เท่าเม็ดถั่วเขียว แทบไม่มีกลิ่นปากตอนตื่น แต่ผมยังไม่เคยใช้เดนทิสเต้นะครับเลยไม่รู้อันนั้นดีไหม
แต่ผมใช้ไปแล้วปากจะชอบแห้งครับ พอใช้หมดหลอดเลยเลิกใช้กลิสเตอร์กลับไปใช้คอลเกตดังเดิม เพราะไม่แพ้ (โดนอัพไลน์พูดเสียดสีประจำ :cry:  เซ็ง )

แปรงสีฟัน อันนี้ก็ชอบครับขนนุ่มดี หัวแปรงเล็ก

แชมพู ซาทินิค อันนี้ผมใช้แล้วมันแสบตาครับ เลยเลิกใช้

น้ำยาสารพัดประโยชน์ LOC อันนี้ยังใช้อยู่ครับ ใช้ขัดห้องน้ำ ขัดพื้น ไม่แสบมือดี ใช้ซักผ้าด้วย

ผงซักฟอก SA8 เพิ่งใช้หมดไปครับ ก็โอเคครับ

โปรตีน และ โปรตีน ชาเขียว อันนี้ผมกินตอนดึกๆ เวลาอ่านหนังสือครับ แต่ไม่ได้กินทุกวันนะ บางวันกินนม กินโอวัลตินแทนครับ
เขาบอกว่า อาหารเสริมแอมเวย์เป็นอาหารเสริมเจ้าเดียวในโลกที่มีฟาร์มชีวภาพเป็นของตัวเองครับ คือ ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลย ใช้ไส้เดือนพรวนดิน ใช้เต่าทองกินเพลี้ย

เครื่องกรองน้ำ อันนี้ไม่ได้ซื้อครับ เพราะผมคิดว่าราคาแพงไป แต่เครื่องกรองน้ำนี้ ผ่านมาตรฐาน NSF ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลระดับโลก ที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ 3 มาตรฐาน ครับ มากกว่าเครื่องกรองน้ำเจ้าอื่นๆ โดยมีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรค ไวรัสได้เกือบ 100% เลย

เท่าที่ลองใช้สินค้า ผมว่าคุณภาพก็โอเคครับ ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง
แต่ถ้าเปรียบเทียบราคา อาจจะขายแพงกว่ายี่ห้ออื่นครับ

สมัยทำแอมเวย์ผมก็รู้สึกว่าสินค้าแพงไปครับ เริ่มไม่อยากทำ และของทุกอย่างก็อิมพอร์ตเข้ามาซึ่งก็เป็นสาเหตนึงที่ขายแพง
และก็สงสัยว่า อาหารเสริมนี่จำเป็นต้องผลิดจากฟาร์มชีวภาพไหม
เครื่องกรองน้ำเราก็ต้องการขนาดนั้นไหม
เลยไปถามคนในแอมเวย์เขาก็บอกจำเป็น
เพราะ เขาบอกว่าน้ำดื่มเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นเราควรเลือกน้ำที่สะอาดที่สุด ซึ่งเครื่องกรองน้ำของแอมเวย์นั้นมั่นใจได้แน่
อาหารเสริมนั่นก็ต้องมาจากฟาร์มชีวภาพ เพื่อแน่ใจได้ว่าไม่มีสารพิษ ยาฆ่าแมลง
แต่ผมก็สังเกตเห็นคนแอมเวย์กินข้าวจากร้านธรรมดาที่น่าจะซื้อผักจากตลาดไม่ได้มาจากฟาร์มชีวภาพ ซื้อน้ำขวดจาก 7-11 มากิน ซึ่งมีเพียงน้ำคริสตัลเท่านั้นที่ผ่านมาตรฐาน NSF มาดื่ม   :?:

ผมเลยเกิดความสับสนขึ้นและได้มาเจอกิฟฟารีนครับ
ผมเลยตัดสินใจลองไปฟังสัมนากิฟฟารีนดู ผมไปฟังหมอต้อย นลินี พูดครับ ประมาณ สี่ครั้ง ก็ค่อนข้างชอบ business model และชื่นชมตัวหมอต้อยครับ
ธุรกิจกิฟฟารีนจะประมาณ
มีโรงงานของตัวเองในไทยที่ผ่านมาตรฐาน ISO, GMP, HACCP
สั่งซื้อวัตถุดิบจากไทย ถ้าหาไม่ได้ค่อยอิมพอร์ตวัตถุดิบจากต่างประเทศ อันนี้ผมเห็นด้วยครับ คือในไทยก็มีวัตถุดิบดีดีตั้งเยอะ
ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศด้วย
เปิดมาแล้วประมาณสิบปี รายได้โตเรื่อยๆ ทุกปี
โดยส่วนตัว ผมก็แอบชอบกิฟฟารีนเหมือนกันครับ เพราะเป็นขายตรงไทยแท้ และ CEO ก็เก่งและเป็นคนดีครับ

สินค้ามีเหมือนแอมเวย์เลย
เครื่องกรองน้ำ จะใช้สารกรอก KDF-55 ซิ่งสารกรองนี้ผ่านมาตรฐาน NSF 1 มาตรฐานครับ และน้ำดื่มจากเครื่องกรองน้ำนี้ได้ผ่านการรับรองคุณภาพน้ำจากสถาบันวิจัยหลายๆ สถาบันว่าดื่มได้ทั้งในและต่างประเทศ
อันนี้ผมไม่ค่อยมีความรู้เชิงลึกนะครับ ว่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และเครื่องกรองน้ำที่มนุษย์ใช้ได้อย่างปลอดภัยมันต้องผ่านมาตรฐานอะไรบ้าง

แชมพู อันนี้ลองใช้แล้ว ก็ดีครับ กลิ่นหอม มีหลายกลิ่นให้เลือก

ผงซักฟอก อันนี้ยังไม่ได้ลองครับ แต่ว่าไม่ใช้สูตรฟอสเฟตครับ และย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เหมือนของแอมเวย์เลย ไม่ทำให้น้ำเสีย
*ผงซักฟอกบางยี่ห้อจะใช้สูตรฟอสเฟตครับซึ่งจะราคาถูก แต่จะทำให้น้ำเน่าเสียได้ครับ
เวลาเราเลือกซื้อเราควรอ่านรายละเอียดข้างกล่องว่า ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมไหม

น้ำยาสารพัดประโยชน์ คล้าย LOC ของแอมเวย์ครับ อันนี้ก็ยังไม่ได้ลอง

อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ก็มีครับ

ราคาสินค้าของกิฟฟารีนจะถูกกว่าแอมเวย์มากครับ 10-50% แล้วแต่ตัวครับ
เท่าๆที่ผมวิเคราะห์ดู สาเหตุที่ราคาถูกกว่าอาจเป็นเพราะ
วัตถุดิบส่วนมากอยู่ในประเทศ
โรงงานอยู่ในประเทศ
ค่าขนส่งถูกกว่าเพราะในประเทศ
ค่าแรงงานถูกกว่า
ภาษีนำเข้า

แต่ตัวสินค้าผมใช้ไม่กี่ตัวครับ ใครใช้สินค้าแอมเวย์ กิฟฟารีนตัวไหน มาแชร์กันหน่อยนะครับ

ปล ตอนนี้ผมยังเป็น ABO ของแอมเวย์เเบบ inactive อยู่ครับ คือยังไม่อยากทำตอนนี้
ผมก็บอกอัพไลน์ ดาวไลน์ไปว่ายังไม่อยากทำตอนนี้ อยากอยู่เฉยๆ และขอโทษดาวไลน์ที่ชวนมาเพราะตอนนั้นยังไม่รู้อะไร แต่พอเจอหน้ากันทีไร
โดนกดดัน ไซโค ทุกทีเลยครับ   :cry: หนักใจ  ตอนผมสมัครไม่เห็นบอกเลยว่าถ้าสมัครแล้วหยุดทำจะโดนกดดัน

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 11:22 am
โดย กล้วยไม้ขาว
ไม่ได้เข้ามานาน พอจะมีอะไรมาอัพเดทหน่อย

วันนี้อยากจะมาเล่าถึงจุดอ่อนของธุรกิจนี้บ้าง
หลังจากที่ำได้วิเคราะห์ลงไป ในตัวธุรกิจทำให้มองเห็นสิ่งที่ คนส่วนใหญ่รู้สึก แต่อธิบายไม่ถูก

สิ่งนั้นก็คือ ค่า Goodwill นั่นเองครับ
ค่า Goodwill ของอุตสาหกรรมนี้ มีค่าติดลบครับ
ตรงนี้จึงเป็นสาเหตุให้ต้นทุนทางสังคมของอุตสาหกรรมนี้สูงครับ

และจุดนี้คือจุดที่หลาย ๆ คนตัดสินใจไม่ทำ และถ้าคนที่ทำเข้าไปตื้อมาก ๆ ก็จะรำคาญครับ

ค่า Goodwill นั้นมีความสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก
ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ ครับ

ระหว่างโค้ก กับ กระทิงแดงโคล่า

โค้กกระป๋องละ 13 กระทิงแดงโคล่ากระป๋องละ 10 วางอยู่ติดกัน
คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่จะเลือกกินอะไร

จะเห็นได้ว่าค่า Goodwill ที่มากกว่าทำให้คนตัดสินใจเลือกมากกว่า
แม้ว่าราคาจะสูงกว่า

ตรงจุดนี้เองที่ทำให้คนส่วนใหญ่ เลือกที่จะทำธุรกิจของตัวเองที่ลงทุนเยอะกว่า ประสบความสำเร็จยากกว่า และใช้ระยะเวลานานกว่าในการประสบความสำเร็จ แทนที่จะเลือกทำธุรกิจเครือข่าย

พอจะนึกภาพออกไหมครับว่า ค่า Goodwill ของธุรกิจนี้มันติดลบเท่าไหร่ ?


ถึงอย่างนั้นเองธุรกิจนี้ก็ยังเติบโตได้เพราะอะไร ?
เอาไว้มาต่อวันหลังดีกว่า

ใครมีความเห็นยังไงก็มาแชร์กันได้ครับ

ผมอาจจะถูก และผมก็อาจจะผิดครับ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 2:53 pm
โดย ซากคน
กรณีที่ 1
หากเป็นตัวอย่าง  นมเปรี้ยวแลคโตบาซิลลัสอย่าง ไพเก้น  บีทาเก้น  ยาคู้ลท์      ล่ะครับ   ผมว่า brand ไม่มีผลเท่าไหร่

เห็นวางขายพร้อมกัน  ในขนาดขวดใกล้เคียงกัน  ผมจะดูที่ 1. ราคาครับ  2. ซีซีที่จุได้จริง  (เคยเจอกรณีนมกล่อง กล่องขนาดใกล้ แต่จุ cc. ไม่เท่ากัน)   อันไหนทานได้จุใจกว่าเมื่อเทียบกับราคา ผมซื้ออันนั้น

กรณีที่ 2
หากเป็น  เปปซี่  กับ โค้ก  ขนาดบรรจุเดียวกัน  วางขายพร้อมกัน    
ผมจะสลับกันซื้อ  เพราะด้วยความแตกต่างของ ความซ่า / ความหวาน  ที่เด่นกันคนละด้าน  ซึ่งผมนิยมทั้ง 2 คุณลักษณะ    

วันนี้ทานโค้ก  วันต่อมาจะทานเปปซี่    

กรณีที่ 3
หากเป็นธุรกิจเครือข่าย ในสายตาผมแล้ว ไม่มีอะไรที่เอาไปเทียบกับ
เครื่องดื่มทั้ง 2 กรณีที่ผมยกมาเลย   หากจะถามว่า ธุรกิจเครือข่าย มี่กี่แบรนด์
ผมคิดว่า ทุกค่ายใช้แบรนด์เดียวกัน  :lol:

การแสดงออกของคนที่ทำธุรกิจนี้ ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
- สโลแกนของทีมงาน (ตอบแทนบุญคุณ, เกษียณเร็วเกษียณไว, ท่องเที่ยว
   ฯลฯ)
- แนวทางการฝึกอบรมของทีมงานที่เราได้ฟังมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทีม
  ใคร
- กิจกรรมสันทนาการสำหรับหมู่มวลชนที่มาฟัง  
- การชักชวน/การปิดการขาย
ฯลฯ

สินค้า แผนการตลาด บุคคลตัวอย่าง เป็นเพียงฉลาก ที่ทำให้ผู้บริโภคมองว่า มีหลายแบรนด์ ครับ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 3:04 pm
โดย ซากคน
หากถามผมว่า ทำไมไม่ค่อยอยากทำธุรกิจนี้เท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับ งานอื่นๆ

ผมมีคำตอบว่า  ผมไม่ต้องการมีเอกลักษณ์ร่วมกับอีกหลายๆคนที่เข้ามาในธุรกิจนี้ เนื่องจากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการฝึกฝนเหมือนกัน แม้กระทั่งการลงทุนแบบ vi  ที่เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน  เพียงแต่ผมสามารถนั่งเฉยๆได้ ในเวลาที่ทุกคนกำลังเต้น  และผมสามารถเต้นได้ โดยที่ทุกคนกำลังนั่งเฉยๆๆ  

หากโอกาสเปิดและผมพร้อม  ผมขอเลือกที่จะสร้างอัตลักษณ์ เข้าแทนที่เอกลักษณ์ที่เคยทำมาตั้งแต่เด็กๆ  และหากมีเวลาเหลือ ผมจะพยายามผลักอัตลักษณ์นี้ให้กลายเป็นเอกลักษณ์ ที่คนใช้ร่วมกัน

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 30, 2009 6:21 pm
โดย purinho
น่ารำคาญชอบตื้อให้ซื้อของแพงๆ เครื่องกรองน้ำ สองสามหมื่น

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 11:20 am
โดย kornjackrit
ตอนนี้ขอเข้ามาอ่านกระทู้อย่างเดียวนะคับ
ผมยังไม่มีความเห็นใหม่เพิ่มเติม

ขอบคุณพี่ๆที่ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ครับ
:D

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 11:42 am
โดย กล้วยไม้ขาว
[quote="Voldtrest"]กรณีที่ 1
หากเป็นตัวอย่าง

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 11:44 am
โดย กล้วยไม้ขาว
[quote="Voldtrest"]หากถามผมว่า ทำไมไม่ค่อยอยากทำธุรกิจนี้เท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับ งานอื่นๆ

ผมมีคำตอบว่า

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 09, 2009 10:14 pm
โดย luckyman
อยากถามว่า มีท่านใดกินอาหารเสริมบ้าง กินยี่ห้อใดอยู่ และทำไมถึงชอบยี่ห้อนั้น

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 16, 2009 6:17 pm
โดย aodetmat
ธุรกิจเครือข่ายเองก็ยังแบ่งออกเป็นหลายๆแขนง

แต่ละบริษัทก็จะมีแผนการตลาดของตัวเอง ไม่เหมือนกันซะทีเดียว

กลุ่มเครือข่ายเองก็ยังมีวิจารณ์แผนการตลาดกันเองบ้าง

ส่วนตัวผมนั้นได้ฟังแผนการตลาดของเหล่าธรุกิจเครือข่ายมาก็ประมาณสี่ถึงห้าบริษัท มีเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

สิ่งที่จะทำให้เราประทับใจก็คือ อัพไลน์ เพราะเป็นคนที่เราเจอคนแรก ถ้าอัพไลน์ไม่เป็นที่ประทับใจแล้ว ภายในจิตใจเราเองก็พาลจะมีอคติไปด้วย

ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่ดีเหมือนกัน แต่อยู่ที่ความสามารถของแต่ละบุคคลว่าจะพัฒนาตัวเองไปถึงจุดไหน

บางคนลงทุนไปเป็นหมื่นๆแต่ก็ไม่ได้รับผลตอบแทนอะไรกลับมาเลย(อันนี้มาจากประสบการณ์จากคนใกล้ตัว)

บางคนลงทุนไม่เท่าไหร่แต่ก็สำเร็จภายในระยะเวลาไม่นาน

ส่วนตัวผมเอง ต้องบอกว่าไม่ค่อยจะอะไรเท่าไหร่กับธุรกิจเครือข่าย แต่ในใจตัวเองก็ยังคิดว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นอะไรที่ดีหรือดีมากด้วยซ้ำ

มันขึ้นอยู่กับบุคลิกของแต่ละคน

สิ่งใดทำแล้วไม่มีความสุขก็อย่าทำเลย (ต้องขึ้นอยู่กับหลักศีลธรรมด้วยเน้อ เหอะๆ)

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 20, 2009 9:57 pm
โดย kornjackrit
ขอบคุณ คุณ aodetmat ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ครับ
:D

ปล.รอฟังท่านที่ทานอาหารเสริมมาตอบคำถามพี่ Piggyman007 เหมือนกันครับ

โดยส่วนตัวผมค่อนข้างรู้สึก 55% ไม่เห็นด้วยกับการทานอาหารเสริมจำพวก
วิตามิน อีก 45% เห็นด้วย

สาเหตุสำคัญที่ผมไม่เห็นด้วยมากกว่าเป็นเพราะ
ผมรู้สึกว่าการทานอาหารเสริมที่เป็นเม็ดมันอาจจะตกค้าง
ในร่างกายได้ อันนี้แค่ความรู้สึกผมนะครับ รบกวนท่านที่รู้เรื่องนี้ช่วย
แนะนำด้วยว่าสิ่งที่ผมคิดถูกหรือผิดอย่างไร

นอกจากนั้น ผมคิดว่าการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอ
ในแต่ละวันเป็นสิ่งที่ผมพอจะทำได้ แม้จะไม่ได้ทำได้ทุกวันก็ตาม
ผมจึงรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่

แต่ข้อดีของการทานอาหารเสริมคือ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ทานอาหาร
ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย ก็จะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน

ไม่ทราบผมเข้าใจถูกผิดอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยนะคับ
ขอบคุณคับ

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 21, 2009 9:19 am
โดย killyz
piggyman007 เขียน:อยากถามว่า มีท่านใดกินอาหารเสริมบ้าง กินยี่ห้อใดอยู่ และทำไมถึงชอบยี่ห้อนั้น
Blackmores ,MEGA, NutraHerbal,PHARMANEX ไม่ชอบสักยี่ห้อ
เพราะที่บ้านชอบยัดเยียดมาให้ โดนคนรู้จักกล่อมขายง่าย

วิตามินบางชนิดกินแล้วสะสม ร่างกายไม่สามารถขจัดออกได้
อย่ากินพร่ำเพรื่อ มันเป็นวิตามินสังเคราะห์ ให้กินตาม Dose

kornjackrit คิดได้ถูกต้องแล้วครับ ถ้าเรากินอาหารให้ครบหมู่
ออกกำลังกายและงดสุรา บุหรี่ อาหารเสริมล้วนไร้สาระ

ทำไมไม่มีธุรกิจเครือข่ายหรือ mlm เกี่ยวกับผักผลไม้และเนื้อปลอดสารพิษ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ อาหารกึ่งสำเร็จรูปที่ใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ

มัวแก้ที่ปลายเหตุก็แก้ไม่รู้จบสักที
ในเมื่อพวกคุณก็อ้างว่าคนเราบริโภคอาหารที่แฝงสารพิษ
แล้วให้กินอาหารเสริมเพื่อ detox หรือลดปริมาณสารพิษลง
แต่สุดท้ายก็กลับมาบริโภคอาหารที่แฝงสารพิษ

ชอบเอารายได้ ผลตอบแทน ทริปเมืองนอก มาล่อทำให้ไขว้เขว
จากความจริง สร้างความเชื่อใหม่ขึ้นมาแทน

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 21, 2009 2:00 pm
โดย luckyman
ผมว่า สาเหตที่คนเราควรกินอาหารเสริมคือ เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับร่างกาย เพราะอาหารหลักที่กินยังไม่พอ

เช่น คนแก่ คนท้อง ควรเพิ่มแคลเซียม แมกนีเซียม
คนไม่ชอบกินผัก ควรกินไฟเบอร์ ผักผลไม้รวม
คนป่วยที่ต้องผ่าตัด ควรกินโปรตีน

ไรพวกนี้ครับ เพราะจะให้มากินนมเพื่มเพิ่มแคลเซียม ท้องเสียกันพอดี
คนป่วยจะให้มานั่งกินสเตก กินหมู ก็ไม่ไหว

อีกอย่างผมว่า พวกแบรนด์ รังนก ลูกพรุน โยเกิด นมขวด บีอิ้ง ซุปไก่ มันก็คืออาหารเสริมนะ
แต่คนเราอาจเห็นจนชินตา เลยไม่มีอคติต่อของพวกนี้

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 22, 2009 5:08 pm
โดย kornjackrit
เห็นด้วยกับทั้งพี่ Killyz และพี่ Piggyman007 ครับ
:D

สุดท้าย ... ผมว่าก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคลมากกว่า มันคล้ายๆกับว่าในโลกไม่มีสื่งที่ถูกและ ผิดอย่างแท้จริง มีแต่สิ่งที่เหมาะสมและไม่เหมาะสม
ต่างหาก

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 24, 2009 9:02 am
โดย NDD
หลักของ MLM คือ เขาต้องการขายสินค้า โดย ตัดไปว่า ให้ส่วนลด 45%-50% ดังนั้น จึงทำเป็นโครงสร้างว่า ถ้าขายของชิ้นนี้ สมาชิกช่างสุดได้ ส่วนลด 20 %... upline ได้ 10% ....upline ต่อไป ได้ส่วนแบ่งไป จนครบกำหนด ที่ว่า 45-50% จึงหยุด ไม่สามารถให้ส่วนลดมาแบ่งกันอีก จึงใช้คำสวยหรูว่า คนทีทำยอดไดัระดับนี้ จะตัดสายออกไปขึ้นสายใหม่ไม่ต้องไปขึ้นกับ upline จริงแล้ว เป็นเพราะ การให้ส่วนลดมันตันแล้ว

ดังนั้น สินค้าที่ขายในระบบนี้ต้องขายแพง(แม้ว่าสินค้าจะดีก็ตาม โดยส่วนตัวผมก็เห็นด้วยว่า สินค้าหลายอย่างของ amway คุณภาพดีผมยังอยากใช้ แต่ยังแพงแน่ๆ เมื่อเทียบมูลค่า)

สรุป เป็นการขายที่ตั้งเป้าส่วนลดไว้แล้วให้คนใน Line ไปแบ่งกัน และต้องขายสินค้าในราคาแพงเพื่อ ครอบคลุมส่วนลดนั้น

ว่าด้วยธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย หรือ AMWAY

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 07, 2009 11:16 pm
โดย นิดา
ทำกิฟฟารีนอยู่ค่ะ  เริ่มทำกิฟฟารีน  พร้อมๆ กับการศึกษาและลงทุนในตลาดหุ้นเมื่อ 7-8 ปีก่อน   และทำทั้งสองอย่างมาตลอดไม่เคยหยุด   เหตุผลที่เข้าสู่ธุรกิจเครือข่ายในระยะแรกทั้งๆที่ไม่ชอบและไม่อยากทำ    คืออยากฝึกฝนตัวเองในการทำการตลาดและการบริหารองค์กรเพื่อการเป็นเจ้าของกิจการ
ที่ดี  (จากการอ่านหนังสือ เงินสี่ด้าน) หลังจากนั้น อ่านหนังสือหนังสือ ของ ดร.นิเวศน์ เกือบทุกเล่มที่ท่านเขียนและแปล  และหนังสืออีกหลายๆ เล่มที่ท่านผู้รู้ในเวปแนะนำ  เมื่อเอาหลักการในการคัดเลือกหุ้นตามแนวของท่านบัฟเฟตต์ หรือแนวทางของวีไอ  กิฟฟารีนเป็นบริษัทที่น่าลงทุนมากที่สุดบริษัทหนึ่ง (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)

1.ความโปร่งใสของผู้บริหาร(พญ.นลินี ไพบูลย์และคณะ, ระบบบัญชี,การเสียภาษี
2.สินค้า จำเป็นต้องใช้ ใช้แล้วหมดไป ต้องซื้อซ้ำ ในราคาสมเหตุสมผล
3.มีโรงงาน และ central lab ที่ได้มาตรฐานระดับสากล  มูลค่า 700 ล้านบาท รองรับการผลิตสินค้าได้ถึง เดือนละ 20 ล้านชิ้น  และพร้อมจะผลิตสินค้าได้ทุกชนิดที่มีงานวิจัยและตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์
4.ทรัพย์สินรวม 6,000  ลบ. ไม่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินใดๆ ทั้งสิ้น
5.ยอดจำหน่ายสินค้าปัจจุบันเดือนละ 5 ล้านชิ้น
6.อัตราการเจริญเติบโตประมาณ 10% ติดต่อกันมาตั้งแต่เปิดบริษัทจนถึงปัจจุบัน(ปีที่ 13) ปี 52   11เดือนโต 10.2%
7.ยอดขาย 13 ปี 30,000 ล้านบาท
8.ปันผลสู่สมาชิก 14,000 ล้านบาท
9.ปัจจุบันมีสมาชิก 5 ล้านระหัส
10. มีศูนย์กระจายสินค้า 100 ศูนย์ โครงการ 400 ศูนย์ ใน 5 ปี


คุณหมอไม่มีนโยบายนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น

จากความคิดเดิมที่จะไปลงทุนในกิจการของตัวเอง จึงเปลี่ยนไป เพราะที่กิฟฟารีนให้เราเป็นเจ้าของกิจการ คือเป็นเจ้าของเครือข่ายผู้ใช้สินค้าที่เราเป็นผู้สร้างโดยมีบริษัทกิฟฟารีนรักษาลิขสิทธินั้นไว้ให้เราตลอดไป  ขณะเดียวกันเราก็มีอิสระทางด้านเวลาที่จะมาลงทุนและศึกษาในเรื่องของตลาดหุ้น  จึงคิดว่าชีวิตมีความสุขและลงตัวคะ