Thai VI

ถามเรื่อง exel ของอจ.ใหญ่ นะครับ ตรง Weight of Equity ปี 48 ทำไมใช้ สูตร ='48'!K60/'48'!K61 ? เค้าไม่ได้ใช้  I62/I63 หรอครับ

เรื่องที่ถามว่าสินค้าที่ผลิตนั้นเอาเป็นอะไร อันนี้แล้วแต่บริษัทครับ สามารถเอามาเป็นต้นทุนได้ เพราะอ้างว่าเป็นการทดสอบ(บางบริษัทเอาไว้ขายนอกVAT เพราะอ้างว่าเป็นของเสีย) เอามาขายก็ได้เพราะเป็นสินค้า คิดต้นทุนอย่างไรแล้วแต่บริษัท (อันนี้ช่างถามจริงๆ)

อีกเรื่องหนึ่งในfile excelนั้น ผมเอาเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยมาคิด แต่พอเวลาคิดwaccก็ต้องเอาเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยมาคิดเท่านั้น ลองบวกดูจะไม่เท่ากับ100%ครับ จริงๆแล้วเอาหนี้ทั้งหมดก็ได้ แต่คิดwaccต้องเอามาทั้งหมดด้วยนะครับ ยอดรวมจะเท่ากันครับ

ท่านที่ไปแล้วไม่เข้าใจตรงไหน postถามได้ครับ หรือส่งemailมาถามก็ได้ ผมยินดีตอบ

ส่วนหุ้นที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น เอาไปศึกษาดูให้ดีๆ ทั้งงบการเงิน Biz Model แล้วเอาเป็นตัวอย่างเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หุ้นตัวต่อๆไปนะครับ อย่ามาตามผมโดยไม่ได้คิดเป็นอันขาด

ที่บอกคุณมนเรื่องการรับรู้ขาดทุนในส่วนได้เสีย ที่เกินกว่าเงินลงทุน
แล้วต้องรับรู้ไปถึงหุ้นบุริมสิทธิ หรือเงินกู้ระยะยาว
อยู่ในมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 45 ข้อ 28 ที่ข้อความ
"มูลค่าตามบัญชีของเงินลงทุนในส่วนได้เสีย รวมถึงส่วนได้เสียระยะยาวใดๆ
ซึ่งโดยเนื้อหาแล้วถือเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนสุทธิในบริษัทร่วมเช่น
....รายการดังกล่าวอาจหมายรวมถึงหุ้นบุริมสิทธิและลูกหนั้ระยะยาวหรือ
เงินให้กู้ยืม..."
มาตรฐานนี้ใช้บังคับปี2550

อยากได้ppt บัญชีที่อ.พูดทบทวนให้ก่อนจะเข้าเรื่องอ่าค่ะ  :lol:

รบกวนพี่มนหน่อยนะครับ พอดีจะลองหา inventory turnover ดู ในสูตรที่หนังสือที่พี่แจกมา มันให้ใช้ Cost of goods sold/ Avg. Inventory แล้ว cost of goods sold นี่หามาจากไหนอ่ะครับ ขอบคุณครับ

Mon money เขียน:เรื่องที่ถามว่าสินค้าที่ผลิตนั้นเอาเป็นอะไร อันนี้แล้วแต่บริษัทครับ สามารถเอามาเป็นต้นทุนได้ เพราะอ้างว่าเป็นการทดสอบ(บางบริษัทเอาไว้ขายนอกVAT เพราะอ้างว่าเป็นของเสีย) เอามาขายก็ได้เพราะเป็นสินค้า คิดต้นทุนอย่างไรแล้วแต่บริษัท (อันนี้ช่างถามจริงๆ)

อีกเรื่องหนึ่งในfile excelนั้น ผมเอาเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยมาคิด แต่พอเวลาคิดwaccก็ต้องเอาเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยมาคิดเท่านั้น ลองบวกดูจะไม่เท่ากับ100%ครับ จริงๆแล้วเอาหนี้ทั้งหมดก็ได้ แต่คิดwaccต้องเอามาทั้งหมดด้วยนะครับ ยอดรวมจะเท่ากันครับ

ท่านที่ไปแล้วไม่เข้าใจตรงไหน postถามได้ครับ หรือส่งemailมาถามก็ได้ ผมยินดีตอบ

ส่วนหุ้นที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น เอาไปศึกษาดูให้ดีๆ ทั้งงบการเงิน Biz Model แล้วเอาเป็นตัวอย่างเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หุ้นตัวต่อๆไปนะครับ อย่ามาตามผมโดยไม่ได้คิดเป็นอันขาด

    พี่มนครับ รบกวนส่งไฟล์สัมนาหัวข้อ "Basic Accounting" ให้หน่อยครับ ตอนจบสัมนาวันที่ 15/09/07 ที่ผ่านมาพี่มนบอกว่าจะ Upload ขึ้น www.thaivi.com ให้น่ะครับ กำลังรอ Load เพื่อไปทำความเข้าใจร่วมกับ หัวข้อของวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ รบกวนหน่อยนะครับ....ขอบคุณครับ

ขอโทษที่ช้าครับ เข้าไปที่
http://www.4shared.com/account/home.jsp ... 1228320168

sign in [email protected]

Password newman

พี่มน คับ  

อยากได้ไฟล์ของ ดร.วรศักดิ์ ที่บอกว่าตอนแรก จะให้ยืมไป zerox น่ะคับ
ตอนแรก คุยกับ พี่ jinny wan แกบอกว่า จะปล่อยให้ d/l ในเวปคับ

อยากได้มากๆคับ  

จะหาได้ที่ไหน  ขอขอบพระคุณล่วงหน้าคับ

ขอถามตรง CSL ครับพี่มน
CSL เรโช แสดงสัดส่วนการใช้เงินผู้ถือหุ้น ลงทุนในสินทรัพย์ คือต้องนับเฉพาะFIX ASSET
หรือต้องรวมสินทรัพย์หมุนเวียนด้วยครับ
ถ้าใช้เงินจาก EQUITY น้อย CSL จะสูง มีวิธีหา CSL ยังไงครับ
ต้องนำCEL CSL ไปคูณ ROA เลยใช่ไหมครับ แล้วอัตราส่วนจะเป็นเท่าไร จึงจะเหมาะสมครับ

เอ CEL กับ CSL ย่อมาจากอะไรครับ

EVA ตามที่ผมเข้าใจคือมูลค่าของส่วนผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นใช่ไหมครับ เข้าใจว่ามาจาก
EQUITY VALUE ADD หรือเปล่าครับ

คำถามบางอันอาจดูง่ายแต่ผมยังไม่เข้าใจครับขออภัย (ผมมันคนGETยาก)

poppo เขียน:พี่ Raphin ลืมผมไปได้ไงครับ ผมคนที่นั่งหน้าง่วงๆอยู่โต๊ะเดียวกับพี่ naris และพี่ขาวครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ พี่ poppo ตอนแรกผมคิดว่าพี่คือพี่ tanapol สงสัยจำสับสน ช่วงนี้ยิ่งสับสนในชีวิตอยู่ด้วย ตั้งแต่แอร์หล่นทับ แถมอาจารย์มนช่วยให้กำลังใจโดยการซ้ำเติม อิอิ (แซวอาจารย์เล่นนะครับ)

Raphin Phraiwal เขียน:ขอบคุณอาจารย์มนมากครับ

ขอบคุณคุณพรรณที่จัดครับ

วันนี้ได้เจอพี่ๆ เพื่อนๆ หลายคนครับ
มีทั้งพี่ VI_Junior และพี่สาว
พี่ naris
พี่ Kao
พี่ tanapol (ถ้าจำผิดก็ขออภัยด้วย)
พี่ Misterjai (ถามชื่อพี่ 2 ครั้ง เบลอจริงๆ เลยครับ สงสัยเป็นผมมากกว่า ที่อดหลับอดนอน)
พี่ House นี่แม่นบัญชีจริงๆ ครับ ขอบอก อาจารย์ถามอะไร ตอบได้หมด
พี่ กระทิงแดง และ พี่หมอ crazyrisk สุดหล่อทั้งคู่


..... ต้องออกไปธุระพอดีครับ เดี๋ยวมาต่อ.......

ต่อครับ.....

ยินดีที่ได้เจอพี่ kiri
พี่ Salty
พี่ Noonino และเพื่อน
พี่ Pol
พี่ แม่แฝด 3
พี่ Sunny โปรเฟสชั่นเนิ่ล บัญชี
พี่ Oatty
พี่ PrasitS
พี่ You too (ไม่แน่ใจว่าสะกดอย่างไร)
พี่ BenjaMinburee

ขอบคุณทุกท่านครับ
ถ้าลืมใครก็ขออภัยด้วยนะครับ

พี่รพินทร์ครับ

ผมน่ะ แม่นบัญชีแค่พอใช้ แต่ประสบการณ์ขาดแคลนครับ โดยมากแล้ว ผมแค่ท่องๆเอา ใช้ไม่ค่อยเป็น เลยต้องมาเรียนนี่แหละ

ขอบคุณพี่มนสำหรับ file ดีๆนะครับผม

BenjaMinburee เขียน:ขอถามตรง CSL ครับพี่มน
CSL เรโช แสดงสัดส่วนการใช้เงินผู้ถือหุ้น ลงทุนในสินทรัพย์ คือต้องนับเฉพาะFIX ASSET
หรือต้องรวมสินทรัพย์หมุนเวียนด้วยครับ
ถ้าใช้เงินจาก EQUITY น้อย CSL จะสูง มีวิธีหา CSL ยังไงครับ
ต้องนำCEL CSL ไปคูณ ROA เลยใช่ไหมครับ แล้วอัตราส่วนจะเป็นเท่าไร จึงจะเหมาะสมครับ

เอ CEL กับ CSL ย่อมาจากอะไรครับ

EVA ตามที่ผมเข้าใจคือมูลค่าของส่วนผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นใช่ไหมครับ เข้าใจว่ามาจาก
EQUITY VALUE ADD หรือเปล่าครับ

คำถามบางอันอาจดูง่ายแต่ผมยังไม่เข้าใจครับขออภัย (ผมมันคนGETยาก)

CSL(capital Structure Leverage) เอา Total Assets ครับ , CEL = common Earning Leverage ไม่มีอะไรตายตัวเรื่องสักส่วนครับ แล้วแต่ธุรกิจและสภาพแวดล้อมเวลานั้น คือดอกเบี้ยต่ำ ใช้ทุนจากหนี้มากหน่อยก็ได้ ถ้าดอกเบี้ยสูง หนี้มากจะเสี่ยง และถ้า ROA < อัตราดอกเบี้ย , ROE จะต่ำ นั้นหมายถึงว่าอย่างไรก็ตามการมีหนี้สูงๆนั้นจะเกิดประโยชน์ได้ตราบเท่าที่ ROA>อัตราดอกเบี้ย

EVA = Economic Value Added คือมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นั้นคืออัตราการใช้สินทรัพย์(การใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่เอาเงินทุนลงไป),ROA จะต้องมากกว่า ต้นทุนของเงินลงทุนที่ใช้ลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆ  เช่นกู้เงินมากซื้อcondo เสียดอกเบี้ย 7% เอาcondoไปให้เช่า ได้ผลตอบแทน 10% แสดงว่าcondoนั้นก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่เรา 3% ครับ

EVA เรียกได้อีกอย่างว่า Return on Capital Employed หรือผลตอบแทนจากเงินทุนที่ลงทุนไปทั้งหมด(ไม่สนใจว่ากู้มาหรือเงินตัวเอง)

คนนี้แสดงว่ากลับไปทบทวน ปลื้มจริงๆ

file เรื่อง finanacial shenanegan เสร็จแล้วครับ hostอยู่ที่เดียวกัน

http://www.4shared.com/account/home.jsp ... 1228320168

sign in [email protected]

Password newman

สวัสดีพี่รพินทร์ครับ ผมก็คือคนที่พี่บอกคุ้นๆหน้าแหละครับ เคยเรียนกับพี่มนมากรุ๊ปเดียวกัน และสวัสดีพี่มน คุณป๊อบโป้ พี่หมอฟัน คุณคิริ และคนอื่นด้วยครับ เมือชาติต้องการเจอกันใหม่ครับ

ยินดีที่ได้เจอพี่ รพินทร์  
เจอกันที่ คอร์ส Biz Model อีกนะพี่

ขอบพระคุณ พี่มน สำหรับ ไฟล์อันล่าสุดคับ

ประทับใจคับ

ทำไม่ผมโหลดไฟล์อาจารย์มนไม่ได้คับใครโหลดได้ช่วยส่งให้ที่

[email protected]

ขอบคุณคับ

ผมก็โหลดไฟล์อาจารย์มนไม่ได้คับใครโหลดได้ช่วยส่งให้ที่

[email protected]

ดีใจที่ได้เจอทุกคนนะคะ ขอบคุณพี่มน คุณพรรณและทีมงานมากค่ะ
ไว้คราวหน้าเจอกันอีกค่ะ

kiri เขียน:ดีใจที่ได้เจอทุกคนนะคะ ขอบคุณพี่มน คุณพรรณและทีมงานมากค่ะ
ไว้คราวหน้าเจอกันอีกค่ะ

อาจจะได้เจอกันนะคะ ถ้ารอบสองเปิดแล้วเชิญคุณ Yong มาเรียนด้วยนะคะพรรณยังเก็บที่นั่งในคอร์สนี้ให้อยู่ค่ะ รอรับรู้รายได้ในรอบสองค่ะ  ยังไงพรรณจะแจ้งกลับให้ทราบอีกครั้งค่ะ

ขอบคุณมากนะคะคุณพรรณ

อ่านไฟล์ของ financial shenahegan แล้ว

เดาไม่ค่อยออกว่า  ธุรกิจที่ยกมาเป็นตัวอย่างมีอะไรบ้าง

ใครพอรู้ช่วยบอกหน่อยสิคับ

รู้อยู่ตัวเดียว

P-ENERGY - picni

salty เขียน:ขอบคุณพี่มน ครับ

WACC = cost of dept + cost of equity

Cost of dept = weight of dept (19.81) * ดอกเบี้ย (5.55) = 1.10 (หนังสือเขียนว่า 1.98 ผมว่าพิมพ์ผิดครับ)

Cost of equity = weight of equity (56) * ความคาดหมายผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (12.5) = 6.98

WACC = 1.10+6.98 = 8.06 ครับ

สงสัยนิดนึงครับ ที่เรียนกับ ดร.วรศักดิ์ weight ทั่งสองอัน จะรวมเป็น 100% น่ะครับ ในที่พิมมา มันหายไป เพราะเหตใดหรอครับ

ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ Raphin เช่นเดียวกันครับ

MindTrick เขียน: สงสัยนิดนึงครับ ที่เรียนกับ ดร.วรศักดิ์ weight ทั่งสองอัน จะรวมเป็น 100% น่ะครับ ในที่พิมมา มันหายไป เพราะเหตใดหรอครับ

อ.มนใช้ Dept ที่มีภาระดอกเบี้ยเท่านั้น ในกรณีนี้ผมเข้าใจว่า dept ทั้งหมดเป็น 100-56 = 46%. ถ้าจะใช้ 46% แทน 19.81% ก็ได้ (เพื่อให้บวกกันได้ 100%) แต่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยจะเหลือ 5.55*19.81/46 ครับ

salty เขียน:ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ Raphin เช่นเดียวกันครับ

อ.มนใช้ Dept ที่มีภาระดอกเบี้ยเท่านั้น ในกรณีนี้ผมเข้าใจว่า dept ทั้งหมดเป็น 100-56 = 46%. ถ้าจะใช้ 46% แทน 19.81% ก็ได้ (เพื่อให้บวกกันได้ 100%) แต่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยจะเหลือ 5.55*19.81/46 ครับ

อ่อครับ
ผมยังมือใหม่น่ะครับ ที่บอก 19.81% นี่ตรงชื่อรายการ จะเป็น "เงินกู้ยืมระยะสั้น/ยาว" ใช่ไหมครับ มีชื่อื่นรวมอีกไหมครับ

ว่าแต่ งบนี้งบอะไร(กระแสเงินสด/ดุล), ของปีไหน ,และหุ้นตัวไหนหรอครับ

เรียน ถาม อ. มน

Weigth  of debt    19.81%  หาจากไหนค่ะ
Wegth  of Equity  56%       ด้วยค่ะ

คำนวณหาไม่ได้  
ขอบคุณล่วงหน้า ค่ะ

( ขออภัย กำลัง แกะ ตัวเลขอยู่ ไม่ได้เรียนบัญชีมา ขอโทษที   )

ไม่ต้องขอโทษแต่ประการใด เป็นหน้าที่ที่ผมจะต้องตอบให้ชัดเจน

อันexcelที่ให้ไปนั้น ตั้งใจทำให้สลับซับซ้อน เพื่อจะดูว่ามีคนกับไปทบทวนกันบ้างหรือไม่ เห้นมาถามกันก็ดีใจครับ แต่ต้องขออภัยที่ทำให้ งงกันนิดหน่อย

19.8%มาจากหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยเท่านั้น

ที่นี้ถ้าคุณเอา ดอกเบี้ยจ่าย หาร ด้วยหนี้ทั้งหมด แล้วเอาสัดส่วนหนี้ทั้งหมดมารวมกับสัดส่วนทุนทั้งหมดก็ได้ ง่ายกว่า

ที่ผมทำอย่างนี้เพื่อจะดูว่าอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายของบริษัทนี้ประมาณเท่าไร แต่ถ้าเอาหนี้ทั้งหมดจะได้อัตราดอกเบี้ยที่เฉลี่ยทั้งหนี้ที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยกับหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย ซึ่งจะต่ำมากครับ

อันหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยนั้น เช่นหนี้สินระยะยาว เงินกู้ยืม เงินเบิกเกินบัญชี(ระยะสั้น)ฯลฯ

ส่วนหนี้สินที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยก็เช่น เจ้าหนี้การค้า รายได้รับล่วงหน้า ฯลฯ

ตัวเลขที่ได้มานั้น
เงินเบิกเกินบัญชี +เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระในหนึ่งปี+เงินกู้ยืมระยะยาว

รวมแล้วได้ 91,791,012 จากนั้นเอาสินทรัพย์สุทธิหรือ หนี้สินและทุนก็ได้มาหาร จะได้ 19.8% (91,791,012/463,322,892) ที่นี้ถ้าไม่ใช้หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยก็เอาหนี้สินสุทธิมาคิดจะได้ 205,374,313/463,322,892 = 43.33%

ที่หนี้หาอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย =5,094,670/205,374,313= 2.48% ถ้าใช้หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย(19.8%)จะเห็นว่าได้ 5.55%

ตัวเลขทั้งหมดใช้ค่าเฉลี่ยสองปี ยกเว้นดอกเบี้ยจ่ายนะครับ

สรุปคือ wacc = (43.33% x 2.48%) + (55.67 %x 12.50%) = 8.06% เหมือนกัน ครับ

[quote="kotnet"]ถามเรื่อง exel ของอจ.ใหญ่ นะครับ ตรง Weight of Equity ปี 48 ทำไมใช้ สูตร ='48'!K60/'48'!K61 ? เค้าไม่ได้ใช้

ขอบคุณ อาจารย์  มน   มากค่ะ   กระจ่ายแจ้ง จริงๆๆ