SupachaiZ594 เขียน:ถอยมาแล้วครับจาก B2S เซ็นทรัลปิ่นเกล้าเมื่อวานนี้เอง วางขายใกล้กับหนังสือของพี่สุมาอี้เลยครับ
อ่านแล้วงงๆครับ
ผมก็ไปเดินเล่นเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ตอนบ่ายเมื่อวาน
เข้าไปสำรวจในซีเอ็ด หนังสือขายได้หมดทั้งสิบเล่ม
:lol: :lol:
แต่แพร่พิทยาขายได้แค่สามหรือสี่เล่ม
แต่ที่ บีทูเอส ไม่เห็นหนังสือของผมวางขาย
เห็นแต่หนังสือของคุณสุมาอี้
" วิธีวัดมูลค่าหุ้นฯ" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2
จัดวางไว้อยางสวยงามเป็นรูปเครืองหมาย #
ส่วน" เศรษฐ์ศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร"
ติดอันดับหนังสือขายดี อันดับที่ 4
:cheers: :cheers: :cheers: :cheers: :cheers:
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง
ที่ช่วยกรุณาอุดหนุนหนังสือครับ
ที่คุณ hot โพสว่า
"ถ้า ไม่พิมพ์ซ้ำ"
มีโอกาสเป็นไปได้สูงครับ
เพราะบางที่ วางขายมาเป็นอาทิตย์
ขายไม่ได้เลย แม้แต่เล่มเดียว
(สำรวจมาแล้วจากคาร์ฟูร์ สาขาอิสรภาพและบางปะกอก)
สาขาอิสรภาพ พอขายไม่ได้
พนักงานก็หยิบไปกองรวมๆ แบบไม่ได้จัดวางหมวดหมู่
เพื่อหลีกทางให้หนังสือเล่มใหม่ๆที่ทะยอยออกมา
แรกๆ ผมหลงดีใจ นึกว่าขายหมดทั้งสามเล่ม
พอไปเดินดูอย่างละเอียดทั่วร้านก็เลยรู้ความจริง
เหตุผลที่หนังสืออาจจะขายไม่ได้ เท่าที่ผมคิดไว้คือ
1 ชื่อและปกหนังสือสะดุดตาจริง
แต่ไม่สามารถสื่อความหมาย
ให้คนทั่วๆไปรู้ว่า
เป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้น
นอกจากคนที่รู้อยู่แล้วว่า
มีหนังสือเล่มนี้วางขาย
ดังนั้น
"ถ้าหนังสือถูกนำไปวางในมุมที่ไม่เกี่ยวกับหนังสือหุ้น"
ความเด่นของปกหนังสือและชื่อที่แปลกๆ
จะไม่สามารถสื่อความหมายกับ "คนเล่นหุ้นทั่วๆไป"
ให้สนใจหยิบขึ้นมาพลิกอ่านดู
คงเหมือนกับที่หลายๆท่าน เดินหาหนังสือไม่เจอ
ถามพนักงานก็ไม่รู้เรื่อง เพราะเขาคงจำไม่ไหว
แต่ละอาทิตย์มีหนังสือออกใหม่ น่าจะไม่น้อยกว่ายี่สิบปก
2 คนเขียนโนเนม
คนที่กล้าบอกผมตามตรงคือ
หุ้นส่วนตัวที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ภรรยาผมบอกว่า
คนเดินดูหนังสือ เห็นชื่อคนแต่งแล้วโนเนม
จะมองข้ามหนังสือไปทันที
ยิ่งถ้าหนังสือถูกนำไปวางรวมกับหนังสือแนวอื่นๆ
คนเล่นหุ้นที่ไม่รู้ว่ามีหนังสือเล่มนี้จากสื่อในวงแคบ
จะมองข้ามหนังสือไปเลย
เหตุผลนี้ พอผมมาคิดดูแบบไม่เข้าข้างตัวเอง
คำตอบมันเป็นอย่างที่ภรรยาผมพูดไว้
คนนอกเวป ไม่มีใครรู้จักผมเลย
แม้แต่มาร์เก็ตติ้งของผม
ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเล่นเวปบอร์ดหุ้น
เพราะไม่เคยบอกใคร
ยังนับว่ามีโชคดีอยู่บ้าง
ที่คุณสวลีจากโพสทูเดย์
ได้กรุณานำบทความจากหนังสือ
ไปย่อเป็นบทความ ลงในคอลัมส์"มันนี่ทิปส์"
นั่นแหละ จึงเป็นครั้งแรก
ที่คนอยู่นอกเวปบอร์ดหุ้น พอจะได้รู้จักผมบ้าง
๓ ข้อนี้อาจจะสำคัญกว่าข้ออื่น
คือผมดันไปบอกความในใจไว้ในคำนำว่า
ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นเซียนหุ้นแล้ว
หรือคิดว่าจะกลายเป็นเซียนหุ้น จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
ก็อย่าได้เสียเวลายืนอ่านฟรี
ยิ่งไม่สมควรเสียเงินซื้ออ่าน
ประโยคนี้คงจะทำให้คนจำนวนมาก
หยิบหนังสือแล้วก็วาง
หลังจากยืนอ่านฟรีจนจบด้วยความสนุกสนาน
เจ๊งเป็นเจ๊ง ชั่งโลเป็นชั่งโล
ผมไม่กล้าพูด ในสิ่งที่มันไม่มีอยู่ในหนังสือหรอก
เพราะอ่านซ้ำอีกสามสิบรอบ
คนอ่านก็ไม่มีทางกลายเป็นเซียนหุ้นได้
คนแต่งเอง ยังเป็นไม่ได้เลย
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
สรุปแล้ว
ไม่มีสื่อในวงกว้าง ช่วยประชาสัมพันธ์ให้
ถ้าหนังสือไม่ดีจริง แบบโดนใจคนอ่าน
หนังสือใหม่ ๆ คนแต่งหนังสือหน้าใหม่ๆ จะแจ้งเกิดยากมาก
เหมือนกับหุ้นนั่นแหละ
ดีแค่ไหน นักวิเคราะห์ไม่เชียร์ รายใหญ่ไม่ปั่น
มันก็เข้าเกียร์ว่าง แถมขึ้นเบรคมือด้วย
:oops: :oops: :roll:
ได้แต่หวังไว้ลึกๆว่า
หนังสือของผม น่าจะขายได้
ด้วยแรงกรรมของผลประกอบการ แบบค่อยเป็นค่อยไป
มั่นใจมากๆว่า
ถ้าคุณสุนันท์ชูออกโทรทัศน์ซักสองสามครั้ง
หนังสือของผมจะขายได้ดี
ด้วยแรงกรรมของคนในตลาดหุ้น
ซึ่งอยู่นอกเวปบอร์ดหุ้น
แต่ผมคงไม่ไป ขอรื้อฟื้นความหลังกับคุณสุนันท์
เพื่อขอให้ชวนเชียร์หนังสือหรอกนะ
ไม่เชื่อก็ลองไปยืนอ่าน
หน้าแรกของบทสุดท้าย "พูดคุยกับพี่คลายเครียด" ดู