Thai VI

top 9 เดือนกำไร  14,754.33

ptt มีหุ้น ใน pttep 49.54 ถ้าจะแบ่งกำไร ก็เท่ากับ 7309.30

เมื่อเทียบกับกำไร ptt ที่ 79,701.14  

คิดเป็น 9.17 %

pttch 9 เดือนกำไร 12,948.63

ptt มีหุ้น 50.84 ถ้าแบ่งกำไร ก็เท่ากับ 6583.08

คิดเป็น 8.26 %

atc 9 เดือนกำไร 4,253.70

ptt มีหุ้น 49.84 ถ้าแบ่งกำไร ก็เท่ากับ 2120.04

คิดเป็น 2.66 %

อืม รวมเท่าไรแล้วนี่ อ๋อ pttep + top + pttch + atc กำไรเท่ากับ 30507.54

เท่ากับ เท่ากับ 38 % ของกำไรทั้งหมด

เองนะครับ

rrc 9 เดือนกำไร 6,940.52

ptt มีหุ้น ใน rrc 48.75 % ถ้าจะแบ่งกำไร ก็เท่ากับ 3383.50

เมื่อเทียบกับกำไร ptt ที่ 79,701.14  

คิดเป็น 4.25 %

irpc 9 เดือนกำไร  9,105.13

ptt มีหุ้น ใน irpc 31.50 % ถ้าแบ่งกำไร ก็เท่ากับ 2868.12

คิดเป็น 3.60 %

..................................................................

อืม

กำไร pttep + top + pttch + atc + rrc + irpc = 36759.16

หรือเท่ากับ 46.12 % จากกำไรทั้งหมด 79,701.14

มีบริษัทไหนอีก ที่ ptt ถืออยู่ แล้วยังอยู่ในตลาดครับ

ดูไปดูมา สรุปได้ว่า ptt โดยตัวของ ptt เอง ทำรายได้ให้กับ ptt สูงที่สุด

สมัยแรกๆเคยได้ยินจากวิบูลย์ว่า ptt ไม่มีกำไร และ pttep อยู่ได้เพราะถือหุ้น pttep

แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไปมากจริงๆ

ติดตามต่อ หนุกดี

อืมย์ ข้อมูลจากรายงานประจำปี 48(ไม่updateนะครับ) นะครับหน้า 179 หมายเหตุ 32

 ธุรกิจ                       กำไรขั้นต้น
น้ำมัน                         12,481ลบ.
ก๊าซธรรมชาติ                41,290ลบ.
สผ                             44,804ลบ.
การกลั่น                       13,158ลบ.
ปิโตรเคมี                      2,117ลบ.
อื่นๆ                            -
ปรับปรุงบัญชีระหว่างกัน    2,017ลบ.
รวม                             115,871

ตามตัวเลขนี้กำไรจาก สผ. ก็น่าอยู่ในราว 40%
แต่ก็มีค่าเสื่อมมากกเหมือนกัน สำหรับ สผ. ที่ 9,429ลบ.

อย่างไรก็ดีพอพลิกไปหน้า 11 ของงบปีเดียวกัน (ปี48) ส่วนกำไรของ สผ.อยู่ที่ 18% ของกำไรปตท.เท่านั้น

อันนั้นกำไรขั้นต้น สผ เสียภาษี 50 % คับ

มาถึงตรงนี้ส่วนต่างของกำไรของ สผ.(ที่แสดงในงบปี 48 หน้า 11 และหน้า 179) น่าจะอยู่ที่ บ.ย่อยของ สผ.นะครับ PTTEPO,
PTTEP IR, DPC , PTTEPM ข้อมูลจากงบปี 48 หน้า 156 นะครับ ผิดถูกอย่างไรเชิญชี้แนะนะครับ

แสดงว่า ptt กำไรจากก๊าช ที่ซื้อมาจาก สผ. มากจริงๆ

และตอนนี้ก็มีการเปลี่ยนมาใช้ก๊าซ กันเยอะ

ในขณะที่น้ำมัน ก็อย่างต้นกระทู้ คือ ค่าเงินบาทแข็ง นำเข้า ต้นทุนต่ำ และน้ำมันลง ทำให้ ต้นทุนต่ำเข้าไปอีก

ผมสรุป เหมือนเดิม น่าซื้อมาก

แต่ความเห็นของคุณ eto คือ กฎหมายดั้มปิ้ง + ราคาน่าจะรอที่ 100 ก็น่าสนใจ

อิอิ

อันนั้นกำไรขั้นต้น สผ เสียภาษี 50 % คับ

ขอบคุณคับ

Jeng เขียน:ดูไปดูมา สรุปได้ว่า ptt โดยตัวของ ptt เอง ทำรายได้ให้กับ ptt สูงที่สุด

สมัยแรกๆเคยได้ยินจากวิบูลย์ว่า ptt ไม่มีกำไร และ pttep อยู่ได้เพราะถือหุ้น pttep

แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไปมากจริงๆ

ติดตามต่อ หนุกดี

แต่ก่อนโรงกลั่นก็ขาดทุน ปิโตรเคมีก็ขาดทุน
เฮียปออยู่ได้เพราะแกสอย่างเดียว
เลยขาย IPO ที่ 35 บาท

ตอนนี้โรงกลั่นกำไร ปิโตรกำไร
แกสก็ยังกำไรอยู่ ราคาเลยขึ้นมาหลายเท่า

ถามว่าอนาคตเป็นอย่างไร
ก็คงต้องดูเป็นส่วนๆไป
โรงกลั่นไม่ค่อยดี
ปิโตรเคมียังทรงๆ
แกสยังขายดีเหมือนเดิม

สรุปคือรายได้และกำไรคงไม่เพิ่มขึ้นจากปี 48 มากนัก

Eto Demerzel เขียน:มาตรฐานบัญชีใหม่จะมีผลกับ PTT มากสิครับ
เพราะจะ book กำไรจากปันผลเท่านั้น

งบรวมก็กระทบด้วยหรือครับ

เรื่องราคาหุ้นอาจจะต่างมุมมองกันนะครับ

อยากทราบเรื่องเงินปันผลมากกว่า ส่วนตัวเห็นว่า PTT คงไม่ได้เติบโตร้อนแรงเหมือนปีทองที่ผ่านมาแต่อาจจะกลายเป็นหุ้นปันผลแทน (Dividened Stock) ครับ ปีที่ผ่านมาปันผลสองครั้ง 9.25 บาทกับ 5 บาทรวมเป็น 14.25 บาท ถ้าราคาที่ 200 บาทก็เป็น yield=7.125% ครับ

ถ้ารายได้โดยรวมคาดว่ายังคงเดิม โดยรายได้ส่วนใหญ่จากบริษัทที่ลงทุนอยู่ยังมีการทำรายได้อยู่ดีพอสมควรครับ จึงน่าจะเป็นการส่งรายได้ให้ PTT ได้ค่อนข้างดีนะครับ ดังนั้นถ้าคาดว่าปีนี้ปันผล ที่ 10 บาทต่อหุ้นที่ราคา 200 จะได้เป็น yield=5% ครับ (ไม่รวมความเสี่ยงเรื่องราคาหุ้น)

พี่ๆเห็นว่าไงครับ

คุณ ply333 ครับ ปันผลสำหรับงวดปี2548ที่มาจ่ายตอน2549 9.25บาทครับ

ส่วนห้าบาทที่มาจ่ายในปีนี้เป็นระหว่างการของปีงบประมาณ 2549 คาดว่าครึ่งหลังน่าจะจ่ายอีก 5 บาท เพราะฉะนั้น ปันผลของปีนี้น่าจะ 10 บาทครับ ไม่ใช่ 14.25 อย่างที่เข้าใจ

แต่กระทู้นี้ดีจัง ทำให้เข้าใจอะไรของ ปตท ขึ้นเยอะ ถือมาตั้งนาน ม่ายรู้เรื่องเลยยยย

poppo เขียน:คุณ ply333 ครับ ปันผลสำหรับงวดปี2548ที่มาจ่ายตอน2549 9.25บาทครับ

ส่วนห้าบาทที่มาจ่ายในปีนี้เป็นระหว่างการของปีงบประมาณ 2549 คาดว่าครึ่งหลังน่าจะจ่ายอีก 5 บาท เพราะฉะนั้น ปันผลของปีนี้น่าจะ 10 บาทครับ ไม่ใช่ 14.25 อย่างที่เข้าใจ

แต่กระทู้นี้ดีจัง ทำให้เข้าใจอะไรของ ปตท ขึ้นเยอะ ถือมาตั้งนาน ม่ายรู้เรื่องเลยยยย

จริงๆด้วยครับ พอดีดูใน Settrade แต่ไม่ได้ดูปีงบประมาณครับ ขอบคุณครับคุณ poppo

มาตรฐานบัญชีใหม่จะมีผลกับ PTT มากสิครับ
เพราะจะ book กำไรจากปันผลเท่านั้น

มาตรฐานบัญชีใหม่จะมีผลกับ PTT มากสิครับ
เพราะจะ book กำไรจากปันผลเท่านั้น

อันนี้มองกันอย่างไรครับ หมายความว่า บ.ย่อยของ PTT กำไร 100 ปันผล 50 จะบันทึกในBook เพิ่มขึ้น 50 หรือเปล่าครับ แต่ถ้ามองในเชิงธุรกิจ น่าจะนับกำไรทั้งหมดนะครับ

มาตรฐานบัญชีใหม่จะมีผลกับ PTT มากสิครับ

มาตรฐานบัญชีใหม่เค้าว่าไงมั่งครับ ผมศึกษาบริษัทแม่-ลูกตัวนึงอยู่เหมือนกัน น่าจะมีผลกระทบมากทีเดียวโดยเฉพาะกรณีกำไรจากลูกมากกว่าธุรกิจแม่และไม่ได้ปันผลให้แม่มากมายนัก

อืม

กำไร pttep + top + pttch + atc + rrc + irpc = 36759.16

หรือเท่ากับ 46.12 % จากกำไรทั้งหมด 79,701.14

มีบริษัทไหนอีก ที่ ptt ถืออยู่ แล้วยังอยู่ในตลาดครับ

พี่เจ๋งครับ ยังมี BCP กับ BAFS นะครับ  :shock:

มาตรฐานบัญชีใหม่จะมีผลกับ PTT มากสิครับ

ผมคิดว่าไม่มีนะครับ เพราะ PTT ใช้ Cost Method  ในการทำงบการเงินรวม ซึ่งเป็นวิธีที่ Fair มากกว่า Equity Method แต่พวกบริษัทฯ Holding (อย่าง SCC)น่าจะมีปัญหาเรื่องการจ่ายปันผล

ตัว PTT ผมมองคล้ายคุณ ply33 ว่ากำลังจะเปลี่ยนจาก Growth Stock เป็น Defensive Stock แต่อย่าลืมกระแสเงินสดของ PTT ในแต่ละปีสูงมาก ซึ่งอาจจะ Take over กิจการอื่นอีกก็เป็นได้ ราคาแถว 180 - 195 ถือว่าน่าสนใจ  :nm:  :nm:  (แต่ผมเองไม่มีสักหุ้นเลย เฮ้อ...)

ไม่แน่ใจว่าพี่เจ๋งเคยเชียรืให้ซื้อ KTC ตอนไหนนะครับ แต่จำได้ว่าพี่เจ๋งบอกว่าให้ซื้อที่ P/BV = 0.5 อะครับ ถ้าจำพลาดก็ขออภัยครับผม

อย่างไรก็ดี ขอบพระคุณพี่เจ๋งที่ตั้งกระทู้ครับ เพราะความรู้จากพี่เจ๋ง พี่สามัญชน และพี่ๆอีกหลายท่านทำให้สมองผมนั้นมีรอยหยักเพิ่มครับ ขอบคุณครับ  :D

ลองช่วยวิจารณ์ความเสี่ยง เรื่องที่ถูกฟ้องให้ออกจากตลาด หน่อยครับ

ขอบคุณครับ คุณ pekko

ไว้พรุ่งนี้มาดูต่อ

6.สามสี่ปีที่ผ่านมาการค้นหาแหล่งน้ำมันเป็นไปอย่างคึกคักเพราะเป็นช่วงสดใสเหมือนงานเลี้ยงซินเดอเรล่าที่ใครๆก็กระเป๋าตุง  แท่นขุดเจาะน้ำมันเกิดขึ้นจำนวนมาก  แม้แต่ สผ.เองยังสยายปีกไปหาน้ำมันกับเขาถึงตะวันออกกลาง  แล้วประเทศต้นตำหรับเขาจะไม่ทำหรือ  ใครล่ะที่จะไม่ไปงานเลี้ยงแล้วเลือกที่จะนอนอยู่บ้านเฉยๆเงียบๆเหงาๆทั้งที่กระเป๋าตุงกันหละ  ซินเดอเรล่าจนแสนจนยังไปกับเขาเลย......
_________________
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้  การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด

Back to top      


สามัญชน
Regular


Joined: 16 Aug 2003
Posts: 2873

Posted: Sat Jan 06, 2007 1:51 pm    Post subject:    

--------------------------------------------------------------------------------

7.อันนั้นเป็นเรื่องวัตถุดิบ  ถ้าดูเรื่องโรงกลั่นน้ำมัน  ก็จะพบว่า  ในเมืองไทยมีการขยายโรงกลั่นน้อยมาก โรงกลั่นในมือ ptt คงจะยังดูมีอนาคตอีกยาวนาน  เพราะ supply ไม่ได้เพิ่มเท่าไหร่  

8. ซึ่งแตกต่างจากโรงงานปิโตรเคมี  ลำพังการขยายโรงงานในประเทศไทยก็ถือว่ามหาศาลแล้ว  ถ้าดูต่างประเทศจะยิ่งมากมายยิ่งกว่านี้

9. ทั้งหมดนี้วิเคราะห์โดยยอมปิดตามองข้ามความเสี่ยงทางการเมืองนะครับ  ถ้า ptt โดนยึดกลับไปเป็นของรัฐเหมือนเดิมคงดูไม่จืดจริง  และเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับรัฐบาลแบบนี้   ใครเคยคิดไหมล่ะครับว่ารูปแบบการบริหารประเทศจะพลิกกลับไปกลับมาเหมือนเด็กเล่นขายของได้

 
ที่พี่สามัญชนวิเคราะห์ส่วนตัวของผมเองคิดว่ามีเหตุผลและเราควรจะระวังไว้ครับ
อย่างน้อยสำหรับผมผมคงจะต้องตัดกำไรในส่วนของธุรกิจวัฏจักรออกไปเลยในปีที่ย่ำแย่
และราคาควรจะต้องมีส่วนเผื่อความปลอดภัยจากกำไรที่ไม่ใช่วัฎจักรครับ
                                  ขอบพระคุณครับ

แล้ว RRC ละครับ ตอนนี้ต่ำ IPO อยู่ ฉุดกำไรของ PTT ลงมากี่เปอร์เซนต์

เห็นด้วยกับพี่มีความสมเหตุสมผลหลายอย่างที่ทำให้ PTT ราคาร่วงนะครับ

เรื่องความเสี่ยงที่จะต้องกลับไปเป็นของรัฐน่าจะเป็นประเด็นใหญ่สุด หุ้น low probability of massive loss เป็นหุ้นที่ผมหลีกเลี่ยงครับ เหมือน itv ตอน 6 บาทน่ะครับ มันดูถูกมากเมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ราคา 30 บาท แต่ถ้าเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องแบกรับแล้ว 6 บาท แพงน่ะครับ

ถึง PTT จะรอดตายจากวิบากกรรมครั้งนี้ ผมก็คิดว่าต่อไปนี้ PTT จะไม่ใช่บริษัทที่กระเสือกกระสนที่จะสร้าง Mkt Cap เหมือน 5 ปีที่ผ่านมาอีกต่อไป ด้วยเหตุผลอะไรก็คงจะทราบๆ กันอยู่ แรงขับดันมันหายไปแล้วน่ะครับ

ที่ยากขึ้นไปอีกก็คือ PTT เป็น conglomerate ยากมากที่จะประเมินว่ามันควรมีราคากี่บาทกันแน่ ดูอย่างหุ้น Shin สิครับ ราคาต่ำกว่า Mkt Cap ของหุ้นของ บ.ลูกที่ Shin ถืออยู่นานมาก แต่ปรากฏว่า ราคายังต่ำลงไปได้อีกกว่า 50%

เล่นยากจริงๆ ครับ PTT ผมขอ bye[/code] ผมเห็นด้วยกับข้อคิดพี่สุมาอี้และคุณWOODYตามข้างบนนี้ครับ แต่ผมโดยสารกับเครื่องบินที่ว่ามาแล้วนี่สิ

ptt นี่ตัวแปรตลาดจริงๆ

ptt บวกตลาดบวก ptt ลบตลาดลบ เฮ่อ

ขืนเอา ptt ออกจากตลาด จะเป็นไงนี่

ตลาดก็ไม่บวกไม่ลบซิ  

[quote="Boring Stock Lover"]ตลาดก็ไม่บวกไม่ลบซิ

metro เขียน:ไม่แน่ใจว่าพี่เจ๋งเคยเชียรืให้ซื้อ KTC ตอนไหนนะครับ แต่จำได้ว่าพี่เจ๋งบอกว่าให้ซื้อที่ P/BV = 0.5 อะครับ ถ้าจำพลาดก็ขออภัยครับผม

จำได้ด้วยครับ... ผมก็เลยรอให้มันลงต่อเหมือนกัน  :)

ไม่รู้ว่าวันนี้ใครเห็นช่วง Santa' แจกKTCลงไปที่ 22.50ในไม้เดียว
ใครได้ไว้ก็ขอให้โชคดีครับ

แล้วนี้อีกละ

ธปท.คึกจัดสอนวิชาโยกเงิน [11 ม.ค. 50 - 04:10]

นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายกำกับการแลกเงินและสินเชื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่บริษัท ปตท.จำกัด จะหารือ ธปท.เรื่องการกู้เงินจากต่างประเทศ เพื่อนำเข้ามาลงทุนขยายกิจการ ว่าจะเข้าข่ายการกันสำรองเงินทุน 30% หรือไม่ ว่าได้คุยกับ ปตท.แล้วว่าเนื่องจากเกณฑ์กันสำรองเงินทุน เป็นเกณฑ์ที่ใช้ครอบคลุมกับทุกกรณี รวมทั้งเงินกู้ กรณีนี้จึงจำเป็นที่จะต้องเข่าข่าย จึงต้องกันสำรองเงินทุนนำเข้า 30% ด้วย  

ธปท.ได้แนะนำ ปตท.ว่าในส่วนวงเงินที่จะกู้เข้ามาลงทุน ให้แยกระหว่างส่วนที่ต้องใช้ในการซื้อวัตถุดิบเครื่องจักร หรืออุปกรณ์การก่อสร้างจากต่างประเทศ ส่วนนี้ให้ถือเป็นเงินดอลลาร์ ฝากไว้ในต่างประเทศไม่ต้องนำมาแลกเป็นเงินบาท ซึ่งส่วนนี้ ทำให้ไม่ต้องเสียต้นทุนในการกันสำรองเงินทุน 30% แต่จะช่วยลดต้นทุนได้มาก เพราะการลงทุนของ ปตท.ใช้อุปกรณ์จากต่างประเทศค่อนข้างมาก

นายสุชาติกล่าวว่า สำหรับเงินกู้อีกส่วนหนึ่งที่ ปตท.ต้องเอาเข้ามาลงทุนในประเทศ และต้องแลกเป็นเงินบาท ส่วนนี้ยอมรับว่าต้องกันสำรอง 30% ทำให้ ปตท.ต้องกู้มามากกว่าที่ต้องการจริง 30% แต่เมื่อแยกเงินอย่างนี้แล้ว จะทำให้ส่วนที่กู้เพิ่มไม่มากนัก และการกู้เงินจากต่างประเทศ ดอกเบี้ยที่ต้องเสียรวมกับต้นทุน ที่เกิดจากกันสำรองเงินทุน 30% ยังต่ำกว่าการกู้ในประเทศมาก

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด กล่าวว่า ปตท.และบริษัทในเครือ ต้องกู้เงินภายใน 5 ปี รวม 100,000 ล้านบาท จากเงินลงทุนรวม 600,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ ปตท.ลงทุนเอง 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินกู้ 50,000 ล้านบาท เมื่อทราบความชัดเจนจาก ธปท. แล้ว ปตท. ก็จะกำหนดแนวทางการกู้เงิน หรือออกพันธบัตรของเครือ ปตท.ต่อไป ส่วนจะกู้ในประเทศหรือต่างประเทศ ต้องดูถึงความเหมาะสมเพื่อให้มีผลต่อต้นทุนน้อยที่สุด และยอดขายของ ปตท.ปีนี้จะขยายตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 10% ซึ่งปลายปีนี้ ปตท.จะสามารถนำหุ้นของโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง ที่ ปตท.ถือหุ้นร่วมกับเชฟรอนเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้.