
รอฟังแนวคิดอยู่ครับ
คนที่ตอบ 15 กับ 16 ใกล้เคียงกันมาก
ถ้าไม่โดนปั่นราคา ที่ 100
คำตอบอาจจะอยู่ที่ 15
แสดงว่า
ตลาดหุ้นในระยะสั้น...ต้องเดาให้ออกว่าคนส่วนใหญ่กำลังจะคิดว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะขึ้น ...ยังต้องดูด้วยว่าขาใหญ่จะเอาไง
55555555Accidental Hero เขียน:ยินดีกับคุณ Capo ครับ![]()
รอฟังแนวคิดอยู่ครับ
คนที่ตอบ 15 กับ 16 ใกล้เคียงกันมาก
ถ้าไม่โดนปั่นราคา ที่ 100
คำตอบอาจจะอยู่ที่ 15
แสดงว่า
ตลาดหุ้นในระยะสั้น...ต้องเดาให้ออกว่าคนส่วนใหญ่กำลังจะคิดว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะขึ้น ...ยังต้องดูด้วยว่าขาใหญ่จะเอาไง
ของน้อง โอ๊ต พี่จดไว้ว่า 5 ครับ สงสัยน้องคงลืมไป เลยไปเชียร์แถว 15 ซะงั้น:)โอ@ เขียน:คือผมลืมไปแล้วว่าผมตอบอะไรอ่ะพี่ 15 หรือเปล่า T_T
อุตสาห์พยายามกุข่าวให้มันเข้าใกล้ตัวเลขที่ทายไว้มากที่สุด
1.เลือกหุ้นอย่างพิถีพิถันเพียงไม่กี่ตัวโดยดูจากราคาที่น่าจะต่ำเมื่อเทียบกับคุณค่าของมันในอีกหลายปีข้างหน้าและต่ำเมื่อเทียบกับราคาของ asset class อย่างอื่นในขณะปัจจุบัน
2.ถือลงทุนอย่างสงบนิ่งเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานานอาจจะหลายปีจนกว่าหุ้นเหล่านั้นจะแสดงศักยภาพของมันออกมาหรือมีหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่าเลือกผิดตัว
3.พอร์ตต้องมีความสมดุลกล่าวคือหุ้นแต่ละตัวที่ถือควรจะมีความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกันและถ้าเป็นไปได้เป็นความเสี่ยงที่ hedge กันเองด้วยก็จะดี
ครับผมเคยเล่นมาก่อนตอนเรียน Game Theory นี่แหละ แต่ตอนนั้นผมตอบหนึ่ง แล้ว คนชนะตอบสี่สุมาอี้ เขียน:เกมนี้มีชื่อว่า Beauty Contest (คุณ adi รู้จักเกมนี้แฮะ) ชื่อของเกมนี้มาจากความคิดเห็นของ John Maynard Keynes เกี่ยวกับตลาดหุ้น...
ผมว่าไม่มีข่าวก็มีผลเยอะครับสุมาอี้ เขียน:ชาว TVI หรูกว่า เด็ก Wharton อีกครับ ตอบน้อยกว่า หรือชอบคิดลึกก็ไม่รู้ เหอะๆ
อ่อแต่ว่าเกมนี้ที่ Wharton เล่น ทุกคนต้องส่งกระดาษคำทายพร้อมกันหมด ไม่มีโอกาสได้ฟังคำแนะนำจากคนอื่น อาจจะเป็นตรงนี้ด้วยที่มีผล
จริงด้วยครับ เนี่ยถ้าไม่มีการปล่อยข่าวกันช่วงหลังๆ รับรองว่าคำตอบต้องเป็น 23 แบบที่ผมตอบแน่นอนเลย... :lol:สุมาอี้ เขียน:ชาว TVI หรูกว่า เด็ก Wharton อีกครับ ตอบน้อยกว่า หรือชอบคิดลึกก็ไม่รู้ เหอะๆ
อ่อแต่ว่าเกมนี้ที่ Wharton เล่น ทุกคนต้องส่งกระดาษคำทายพร้อมกันหมด ไม่มีโอกาสได้ฟังคำแนะนำจากคนอื่น อาจจะเป็นตรงนี้ด้วยที่มีผล