หน้า 4 จากทั้งหมด 5
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 03, 2004 10:19 am
โดย sunrise
ch_army เขียน:อยากเอา PER แบบไหนอ่ะครับ เผื่อ ผมมีอ่ะ ไม่งั้นพี่ครรชิตมีแน่ๆ
มุมมองในการมอง per น่ะครับ
เช่นว่า p/e มีผลต่อการตัดสินใจต่อการลงทุนของแต่ละคนขนาดไหน
หรืออาจเพิ่มอย่างที่พี่ๆ เค้าเอา Roe มาแตกให้ดูน่ะครับ แล้วเผื่อว่าเราก็จะได้รู้ว่า p/e สามารถบอกอะไรเราได้มากกว่าเวลาที่จะคืนทุน
หรือการเจริญเติบโต ของ EPS ก็น่าสนใจ vbvb[/list]
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 4:25 pm
โดย JoJotaro
เอ๋ ผมคิดอย่างนี้ได้หรือเปล่า
สมมติบริษัท ROE = 20%
แต่ถ้าซื้อราคาปัจจุบัน PBV = 2.00
ดังนั้นถ้าผมซื้อตอนนี้ก็เหมือนกับว่าผมได้ ROE = 10%
ในทางกลับกัน ROE=5%
PBV=0.50 ก็ได้ ROE adjusted = 10%
ได้หรือเปล่าครับ ใครรู้บ้าง
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 11:25 pm
โดย Ent'
ROE กับ P/B ใช้ดูคนละอย่างกัน
คือ ROE ใช้ดูว่า บริษัทแห่งนี้ มีความสามารถในการทำ Return On Equity ได้เท่าไหร่ ? ก็เหมือนกับเวลาประเมินโครงการลงทุนใหม่ๆ เค้าใช้ ROI กันว่า แต่ละปี จะได้ Return On Investment เท่าไหร่
แต่ P/B เป็นการ เทียบ Book Value กับราคาตลาดปัจจุบันของหุ้นตัวนั้น
เป็นตัวบอกเราว่า เราซื้อหุ้นได้แพงหรือถูก
ทีนี้การมองว่า หุ้น ที่ P/B = 0.5 และ ROE = 10% นะครับ เทียบกับ P/B =1 แต่ ROE = 20% ในความหมายของคุณ jojotaro ว่าซื้อที่ discount ครึ่งนึง (P/B=0.5) ก็เหมือนกับว่า เราได้ ROE 20% มันก็แล้วแต่จะมองนะครับ (สมมิตว่าอย่างอื่นเหมือนกันหมดเลย) แล้วแต่จะตีความนะครับ ถ้ามองว่าเราไป TakeOver บริษัท ทั้งบิรษัท แน่นอนว่า บริษัทที่ P/B ถูกกว่า ก็น่าจะเข้าไปเทคมากว่าอยู่แล้วละ แล้วก็แน่นอน ถ้าคุณไป Take บริษัทที่ ROE = 10% ในราคาถูกกว่า Book Value ครึ่งนึง Return on Equity(ของเงินที่คุณเอาไปเทค ไม่ใช่equityของบริษัทนั้นนะ) ก็จะเป็น 20% นะครับ ถ้าบริษัทได้ ROE =10 เหมือนเดิมต่อๆไปอีก
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 12:15 am
โดย ch_army
ผมว่าเรื่อง PB เนี่ยคงต้องมองหลักการบันทึกบัญชีแล้วก็พวกค่าลิขสิทธิ์ประกอบด้วยครับเพราะ PB สูงแต่ค่าลิขสิทธิ์แพงก็คุ้มนะครับ และอย่าลืม PB จริงๆแล้วน่าจัเป็นตัวเปรียบเทียบราคาแบบที่เปรียบกับหุ้นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันว่าควรมี PB ที่เท่าไร
แทนที่จะทำอย่างนั้นให้มุ่งไปที่การหามูลค่ากิจการที่แท้จริงมากกว่าหามูลค่าเปรียบเทียบ
แต่ PE เนี่ยผมว่าไม่ต้องคิดมากครับ มันคือระยะคืนทุนในกรณีที่กำไรมีค่าคงทีครับ(เป็นสมมุติฐานของ PER นะ) ส่วนองค์ประกอบคือ ROE กับ PB เนี่ยปกติเราดูแยกอยู่แล้วนี่ครับจริงไหม
หมายถึงดูประกอบไปด้วยอยู่แล้วดังนั้นจะผูกเป็นสูตรหรือไม่คงไม่สำคัญมากมั้งครับ
หากดูหลักของ บัฟเฟตเค้าเน้น ROE D/E ในการกรองหุ้นขั้นแรกเพราะแสดงถึง DCA(ผมว่าง้นะครับ) ดังนั้นเราก็ copy วิธีการเค้ามาก็ดีกว่าครับผมว่ามันดีนะไม่ต้องคิดมากด้วย
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 01, 2005 9:14 pm
โดย chatchai
วันเวลาผ่านไป บริษัทที่เคยถูกคัดเลือกโดยพิจารณา ROE และ ROA เป็นหลัก มีผลการลงทุนยังไงบ้าง
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 01, 2005 11:13 pm
โดย คัดท้าย
... เข้ามาดู
จากคุณ : Mr. Fusion
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 12:10 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
วันเวลาผ่านไป บริษัทที่เคยถูกคัดเลือกโดยพิจารณา ROE และ ROA เป็นหลัก มีผลการลงทุนยังไงบ้าง
นี่คุณฉัตรชัย กำลังท้าทายหลักการของวอเรน บัพเฟตนะ
และคำว่าผลการลงทุนเป็นยังไงบ้างหมายถึงราคาหุ้นทีสูงขึ้น หรือกิจการที่กำไรมากขึ้น ???
บางทีกรอบระยะเวลา อาจจะสั้นเกินไปที่จะพิสูจน์ก็ได้นะ
เรื่องแบบนี้ ยังไม่แน่นะ ว่าในประเทศไทย ต้องใช้ กระแสเงินสด หรือ ROE
ผมยังไม่ได้สรุปนะ
( แลกเปลี่ยน )
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 12:28 am
โดย CEO
ผมเพิ่งเห็นกระทู้นี้
ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้ ROE
บริษัทที่มีหนี้มากๆ ช่วงดอกเบี้ยถูกๆ
ROE สูงปรี๊ด ROA อาจจะต่ำก็ได้
พอดอกเบี้ยขึ้นหรือต้องจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นขึ้นมา แม่คุณเอ๋ย หน้ามืดครับ
การวัตประสิทธิภาพการทำงานของผู้บริหารนั้นผมใช้ ROA เป็นหลัก
แต่เป็นคนละเรื่องกับการวัดผลการดำเนินงานของบริษัท
ROE จะใช้ได้ดีในการปั่นหุ้นเพื่อออกของเท่านั้นครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 8:13 am
โดย Jeng
บริษัทที่เลือกในแนว VI นิยมเลือกบริษัทที่มีหนี้น้อย หรือไม่มีหนี้เลย
และหลังจากนั้นค่อยมาดู ROE ครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 8:40 am
โดย Jeng
ROE คือกำไรเมื่อเทียบกับส่วนของเจ้าของ
ROE ก็เหมือนกับกำไรเมื่อเทียบกับเงินทุนที่ลงไป
ส่วน ROA เป็นเหมือนกำไรเมื่อเทียบกับเงินทุนที่ลงไป + หนี้สิน
ดู ROE เพื่อบอกว่าให้รู้ว่าผู้บริหารกำลังทำอะไรอยู่ และทำได้ดีแค่ไหน
WG มีเงินสด 125 ล้าน เงินฝาก 85 ล้าน เงินลงทุนในกองทุนอสังริมทรัพย์ 100 ล้าน
ถ้าคิด ROE แบบไม่คิด เงินสด 100 ล้าน + เงินฝาก 85 + เงินลงทุนในกองทุน 100 ล้าน รวม 285 ( เหลือเงินสดให้ WG หมุนเป็นเงินหมุน 25 ล้าน )
WG จะมี ROE 69.50/433 = 16 %
นั่นหมายความว่าเงินสดส่วนเกิน 285 ล้าน ถ้าผู้บริหารไม่สามารถนำไปขยายกิจการของตัวเอง เพื่อให้ได้กำไร 16 % ก็ควรนำไปลงทุนต่อให้ได้มากกว่า 16 %
ถ้าไม่ทำให้ได้สองกรณีดังกล่าว ก็ควรปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น
แต่อย่างไรก็ตามผมมักจะแนะนำเพื่อนๆในเว็บเสมอให้ซื้อ WG ด้วยเหตุผล
1. ยอดขายโต
2. กำไรโต
3. ไม่มีหนี้
4. เงินสดท่วม
5. ราคา 30 - 32 ซื้อได้
6. book 40
7. งบดูง่าย
8. ถือแล้วสบายใจ เพราะมีปันผลมากว่าฝากแบงค์อีก
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 8:55 am
โดย Jeng
บริษัทที่ควรเลือกตามกรอบ ROE คือ TR ครับ
ปัจจุบัน E = 8806.29 สามารถทำกำไรได้ 815.14 x 2 เท่ากับ 1630.28 ล้าน
เทียบแล้ว เท่ากับได้ 18.52 % ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
หรือถ้าเทียบปีที่แล้ว ทำได้ 1256.51 ล้าน ก็ยังได้ 14.27 %
นับว่าเป็นผลตอบแทนที่ดีพอควร
ที่สำคัญราคาปัจจุบัน 7257.60 เป็นราคาที่ซื้อขายต่ำกว่า book อีก
ซื้อที่ book ยังได้ผลตอบแทนที่ ok นี่พวกเรามีโอกาสซื้อต่ำกว่า book แต่ก็ยังมานั่งบ่นกันว่าหาหุ้นไม่ได้
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 9:18 am
โดย por_jai
มีคนมาต่อยอดแล้ว
จากคุณch_army dec9,2004
มาคุณch atchai jun1,2005
กระทู้นี้เป็นกระทู้ในดวงใจ
รู้สึกว่าคุณJengช่วงนั้นกะลังpeak
รออ่านต่ออยู่ครับ....
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 9:36 am
โดย Eak71
กำลังอยากรู้อยู่พอดีเกี่ยวกับ ROE, ROA ขอบคุณครับที่ขุดขึ้นมาให้สมาชิกใหม่ได้อ่าน ผมว่าน่าจะปักหมุดไว้นะครับ ข้อมูลมีประโยชน์มากครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 10:01 am
โดย chatchai
[quote="Jeng
นี่คุณฉัตรชัย กำลังท้าทายหลักการของวอเรน บัพเฟตนะ
และคำว่าผลการลงทุนเป็นยังไงบ้างหมายถึงราคาหุ้นทีสูงขึ้น หรือกิจการที่กำไรมากขึ้น ???
บางทีกรอบระยะเวลา อาจจะสั้นเกินไปที่จะพิสูจน์ก็ได้นะ
เรื่องแบบนี้ ยังไม่แน่นะ ว่าในประเทศไทย ต้องใช้ กระแสเงินสด หรือ ROE
ผมยังไม่ได้สรุปนะ
( แลกเปลี่ยน )[/quote]
ผมไม่ได้ท้าทายครับ เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เชื่อใครโดยไม่ได้คิด
การถกเถียงกันด้วยเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีครับ
บางครั้งผู้ที่เพิ่งเข้ามาอ่าน อาจจะไม่ได้เห็นกระทู้ที่มีประโยชน์นี้ไปนะครับ
เสียดาย
ถ้ามีใครรวบรวมเนื้อหา ความรู้ต่างๆในกระทู้ทั้งหมด ผมว่าดีกว่าหนังสือตำราวิชา Investment อีกนะครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 10:13 am
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมไม่ได้ท้าทายครับ เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เชื่อใครโดยไม่ได้คิด
การถกเถียงกันด้วยเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีครับ
อิอิ ผมแซวเล่นครับ เพราะผมรู้ว่าคุณฉัตรชัย เป็นบุคคลที่มีวุฒิภาวะ ทางอารมณ์สูง
CK อีกคน ครับ ที่เก่งเรื่อง EQ เหมือนคุณฉัตรชัยเลย
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 10:24 am
โดย Eak71
บางครั้งผู้ที่เพิ่งเข้ามาอ่าน อาจจะไม่ได้เห็นกระทู้ที่มีประโยชน์นี้ไปนะครับ
เสียดาย
ถ้ามีใครรวบรวมเนื้อหา ความรู้ต่างๆในกระทู้ทั้งหมด ผมว่าดีกว่าหนังสือตำราวิชา Investment อีกนะครับ
ตามมาสนับสนุนความคิดครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 10:27 am
โดย chatchai
เรื่อง EQ ผมไม่เก่งหรอกครับ
ยังดุลูกบ่อยๆเลยครับ แต่พยายามอยู่
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 11:03 am
โดย Jeng
กระทู้นี้มีการสรุปใหม่ โดยคุณมนครับ และมีแจกในงานสัมนาด้วย
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 11:49 am
โดย harry
ผมอ่านในหนังสือของวอร์เรน บอกไว้ว่า
เขาสนใจ ธุรกิจที่มี ROE สูง และมีหนี้น้อย หรือไม่มีเลยครับ
และมี ROE สูงต่อเนื่องหลายปีครับ
เมืองไทยมันไม่สามารถหาแบบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี เป็นเวลาหลายปีได้เหมือนที่อ่านในหนังสือครับ (หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้)
ผมก็เลยเลือกว่า ขอให้มันสูงไว้ก่อน จากนั้น ค่อยไปเจาะลึกรายละเอียดเพิ่มเติมครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 12:18 pm
โดย tenkafubu
กำไรเพิ่ม-หุ้นตก คัดมาบางส่วนครับ..
"ประเด็นสำคัญต่อมาก็คือ Value Investor จะต้องรู้ว่าอะไรแปลว่า มีกำไรเกินควร ตัวเลขที่ใช้บอกนั้นคงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมแต่ละอย่างก็มีกำไรไม่เหมือนกัน แต่ถ้าศึกษาให้ดีและมีประสบการณ์ก็พอจะมองออก โดยตัวเลขที่ใช้ได้ดีที่สุดน่าจะเป็น กำไรต่อยอดขาย หรือ Net Profit Margin
โดยเฉลี่ย บริษัทในระบบเศรษฐกิจทั่ว ๆ ไป กำไรต่อยอดขายน่าจะอยู่ประมาณ 5-10% ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่โดยทั่วไปจะมีกำไรเพียงประมาณ 3-4% ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะกิจการเหล่านี้มียอดขายมากเมื่อเทียบกับเงินลงทุน ธุรกิจขายสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าที่มียี่ห้อโดดเด่นมากมักจะทำกำไรต่อยอดขายสูง เช่นเดียวกับธุรกิจขายความรู้ขายซอฟท์แวร์ เหล่านี้ ยอดขายอาจจะไม่สูงแต่กำไรคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายจะมาก
ธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉลี่ยในระยะยาวแล้ว กำไรต่อยอดขายก็มักจะไม่สูงเนื่องจากเป็นสินค้าที่คนซื้อไม่สนใจยี่ห้อแต่ซื้อเพราะราคา แต่กำไรต่อยอดขายในแต่ละปีจะแตกต่างกันได้มาก บางปีอาจจะกำไรถึง 30-40% ของยอดขาย แต่บางปีก็ตกต่ำจนขาดทุนก็มี อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยในระยะยาวไม่น่าจะเกิน 5-6% ต่อปี
เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่ดูกำไรของบริษัท ลองคำนวณดูว่ากำไรต่อยอดขายของบริษัทที่เราสนใจนั้นสูงเกินปกติหรือเปล่า ถ้าคำตอบก็คือ 20% และดูแล้วกิจการอยู่ในธุรกิจที่ควรมีกำไรเพียง 5-6% เราต้องรู้ว่ากำไรที่เห็นในระยะยาวจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ และกำไรที่จะอยู่ได้น่าจะเป็นเท่าไรที่จะถือว่าเป็นกำไรปกติ"
ขอบคุณ ดร.นิเวศน์ครับ..
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2005 12:31 pm
โดย tenkafubu
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 09, 2006 9:43 pm
โดย NinjaTurtle
ขุดทรัพย์สินอันมีค่าของ Thaivi ขึ้นมาครับ :P
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 10, 2006 7:23 am
โดย por_jai
8) กระทู้อมตะระดับนี้แหละครับ
ดีกว่าอ่านหนังสือการเงินกะหุ้นบางเล่มซะอีก
และกระทู้แบบนี้แหละครับที่คุณเจ๋งเขาใช้สร้างชื่อเสียงให้กะเวปนี้
ข้อสังเกตุเจ๋ง'2003 กับ เจ๋ง'2006
ไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ
คิดปุ๊บลงมือปั๊บ
ศัพท์ทางวรรณกรรมเขาว่า
พอประดาบก็เลือดเดือด
ฮุ..ฮุ..
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 6:47 pm
โดย doodeemak
พอดีพบกระทู้นี้โดยบังเอิญ อ่านแล้วน่าจะมีประโยชน์สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ครับ ...
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 8:07 pm
โดย Pn3um0n1a
ดีจัง
ผมเลยได้อ่านไปด้วย
ได้ความรู้ อีก
สังเกตว่าจะมีคนค้นพบสมบัตินี้ ประมาณปีละครั้งแฮะ ... 8)
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 9:56 pm
โดย Jeng
กระทู้นี้มีอะไรดีเหรอ เห็นนานๆที ก็จะมีคนงัดขึ้นมาอ่าน
ผมเคยพยายามเข้าไปอ่าน ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ
อืม
งั้นเดี่ยว ตั้งใจกลับไปอ่านอีกรอบ
ว่ามีอะไรดี
อิอิ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 10:14 pm
โดย Pn3um0n1a
Jeng เขียน:กระทู้นี้มีอะไรดีเหรอ เห็นนานๆที ก็จะมีคนงัดขึ้นมาอ่าน
ผมเคยพยายามเข้าไปอ่าน ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ
อืม
งั้นเดี่ยว ตั้งใจกลับไปอ่านอีกรอบ
ว่ามีอะไรดี
อิอิ
ว่ากันว่าคนเซียนจริง จะบอกไม่ถูกว่า ทำอย่างไร เพราะทำไปตาม reflex
เหมือนไปถามดินโญ่ ว่า เตะลูกนี้ ต้องวาดเท้ายังไง มันก็จะตอบมาว่า ไม่รู้(ว่ะ)พวก ตูเตะไปตามความรู้สึก
ก็คงเหมือนพี่เจ๋ง ตอนเขียนอะไรออกมา ก็ใช้ reflex ไม่ได้ ต้องใช้ความคิดหนักๆ :D
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 10:33 pm
โดย Jeng
โห ไม่ขนาดนั้นครับ เดี่ยวลอย อย่างไรก็ขอบคุณครับ ที่ชม
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 10:36 pm
โดย Jeng
ผมชอบอันนี้ครับ เด็ดมาก แต่หาหุ้นแนวนี้ยากจัง หุ้นอะไรที่ roe โตสม่ำเสมอ ต่อเนื่องยาวนาน เป็น 10 ปี
ใครหาเจอ คนนั้นรวย โห พูดเลียนแบบเสียยักซะงั้น 555
โค้ด: เลือกทั้งหมด
พูดแล้วไม่เคลียเดี๋ยวขออธิบาย หลัก ROE ใน WORK BOOK ต่อ
คือ เขาซื้อโค๊ก ในปี 1988 592,540,000 เหรียญ จำนวน 113,380,000 หุ้น ราคา 5.22 ซึ่งขณะที่ซื้อ มีโค๊กกำไรต่อหุ้น .36 book = 1.07
PE= 5.22/.36 เท่ากับ 14.5 ซึ่งถือว่าสูงมากในความคิดของผม
แต่เมื่อดูการคำนวณแล้วตกใจ
คือ
ROE = .36 / 1.07 = 33.6
เขาเล่นคำนวณซื่อๆเลยว่า
1988 book 1.07 กำไร .36 ปันผล .15 เข้าบริษัท .21
1989 book 1.28 กำไร .43 ปันผล .18 เข้าบริษัท .25
1990 book 1.53 กำไร .51 ปันผล .21 เข้าบริษัท .30
1991 book 1.83 กำไร .61 ปันผล .26 เข้าบริษัท .35
1992 book 2.18 กำไร .72 ปันผล .30 เข้าบริษัท .42
1993 book 2.60 กำไร .87 ปันผล .37 เข้าบริษัท .50
1994 book 3.10 กำไร 1.04 ปันผล .44 เข้าบริษัท .60
1995 book 3.70 กำไร 1.24 ปันผล .52 เข้าบริษัท .72
1996 book 4.42 กำไร 1.48 ปันผล .62 เข้าบริษัท .86
1997 book 5.28 กำไร 1.77 ปันผล .75 เข้าบริษัท 1.02
1998 book 6.30 กำไร 2.12 ปันผล .90 เข้าบริษัท 1.22
1999 book 7.52 กำไร 2.53 ปันผล 1.07 เข้าบริษัท 1.46
2000 book 8.98 กำไร 3.02 ปันผล 1.27 เข้าบริษัท 1.75
ปันผล รวม 7.04 เข้าบริษัทหรือ Retained Earnings 9.66
ปันผล 7.04 x 113.38 ล้านหุ้น หลังจากหักภาษี 14 เปอร์เซ็นต์
ได้เม็ดเงินกลับมา 686 ล้านเหรียญ
ในปี 2000 ประมาณการกำไร 3.02 เมื่อเมื่อคิด PE ที่ 15
จะมีมูลค่า 3.02 x 15 x 113.38 ล้าหุ้น เท่ากับ 5.136 พันล้านเหรียญ
สรุปว่า เม็ดเงินลงทุน 592.4 ล้านเหรียญในปี 1988 จะได้รับเงินต้นคืน 686 ล้านเหรียญ คงเหลือหุ้นฟรีๆ 113.38 ล้านหุ้น มูลค่า 5.136 พันล้านเหรียญ หลังจากการลงทุน และถือยาว 12 ปี
พิมพ์ซะเหนือยเลย
ข้อสังเกตุ คือไม่ได้นำ EPS ย้อนหลัง 10 ปี มาคำนวณ ในแบบ The New Buffetology
และไม่ได้บอกเรื่อง ROA ครับ
แต่ที่พี่ประจวบบอกไว้ ดีแล้วครับ
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 10:39 pm
โดย Jeng
โห ดู roe ums ซิ คริๆ เข้าเต็มๆ
ROE(%)* 48.24 41.13 43.78 38.89
แถมสูงกว่าโค๊กอีกนะ
ผมถึงว่า อีก 5 ปี มาดูกันว่า uec ums snc ใกรจะโตกว่ากัน ผมว่า ums ครับ
เพราะอะไร เพราะผมดู roe ครับ