หน้า 4 จากทั้งหมด 5

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 10:51 am
โดย สามัญชน
ถามว่ากองหลังมีโอกาสแข้งแกร่งขึ้นไหม

มีครับ.....สมมติว่า roe อยู่ที่ 60 % (บริษัทมีประวัติย้อนหลังให้ดูแค่สามปี ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับนี้ เราไม่รู้ว่าจะรักษาระดับนี้ได้อีกไหม แต่สมมติว่าได้ ) บริษัทจะใช้เวลาประมาณอีกหนึ่งปีเศษๆทำให้ค่า p/b อยู่ที่ 2 เท่า  และใช้เวลาประมาณ 3 ปี ค่าp/b จะอยู่ที่ 1 เท่า และเกือบห้าปี จะอยู่ที่ 0.5 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นกองหลังที่แข้งแกร่งมาก  แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่เงื่อนไขว่า  บริษัทต้องทำ roe ให้ได้ 60% ทุกไตรมาส  (โดยที่ e ทุกไตรมาสจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยนะ)

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 10:53 am
โดย สามัญชน
อ้าว....เพิ่งเห็นข้อความน้องลูกอิสาน

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 2:53 pm
โดย Jeng
ทำไมได้แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ UMS ใช้การเช่าที่ดิน ซึ่งทำให้ roe สูง

แต่ปัจจุบัน ซื้อที่ดินสร้างโรงงาน ทำให้ roe ต่ำอย่างแน่นอน

ซึ่งผมเองก็ค่อนข้างไม่ชอบในเรื่องการซื้อที่ดิน

เพราะโอกาสทางธุรกิจคือการขยายตัว ครองมาร์เก็ตแชร์มากๆ

การซื้อที่ดิน สร้างโรงงานไม่ได้เป็นหลักประกันความอยู่รอดของตัวธุรกิจ แต่ทำให้การจัดการสดวกสบาย และสบายใจมากขึ้น

UMS คงคิดแบบคนจีนรุ่นเก่า เน้นความมั่นคงเป็นหลัก

เรื่องอะไรไปเช่า เช่าแล้วก็สร้างโรงงานไม่ได้ พอหมดสัญญา ถ้าไม่ต่อสํญญาก็โดนขึ้นราคา ซื้อดีกว่า

.............................................................................................

แต่ bigC ไม่คิดอย่างนั้น

ด้วยเม็ดเงินที่จำกัด bigC เช่าทุกที่ หลักๆเช่าจากจิราธิวัฒน์ และ bigC ก็สร้างสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งดูแล้วจะลงทุนมากว่า UMS ด้วยซ้ำ ทำไม bigC ไม่กลัว ว่าหมดสํญญาแล้วจะยังไง

major ก็เหมือนกัน ใช้วิธี แบ่งผลตอบแทนให้เจ้าของที่ดิน แต่ตอนตกแต่งภายใน หรือสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมา major ก็ใช้เงินมหาศาล ต้องแต่งให้สวย major ก็ไม่ได้ซื้อที่ดิน

สองตัวอย่างนี้สะท้อนให้เห็นว่า การซื้อที่ดินมาสร้าง จะทำให้การขยายงาน ของ UM ช้าลง

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 4:12 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Code: 
ถ้าพี่เจ๋งซื้อ UMS แล้วติดเกาะจริงๆสิบปี  ผมว่าพี่เจ๋งน่าจะขาดทุนนะครับ  เพราะอะไรรู้ไหมเอ๋ย 

ยิ่ง UMS จะมียอดขายเพิ่มเป็น 2000 ล้านแค่เอื้อม  ก็น่าจะยิ่งขาดทุน 

เพราะผมว่า UMS ต้องเพิ่มทุนครับ  และน่าจะขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม 

ดังนั้นในเมื่อพี่เจ๋งติดเกาะ  เลยไม่ได้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน  ดังนั้นเมื่อลูกหุ้นเข้าก็จะ Dilute ลง 


เป็นข้อสังเกตุ ของคุณฉัตรชัยที่ดีมากครับ ในเรื่องการเพิ่มทุน พี่จะคอยตามดู UMS ซัก 10 ปี ว่าจะเพิ่มทุนหรือไม่ 

จริงๆแล้วโดยส่วนตัวมองกว่า margin ของ UMS ดีมาก และในอนาคตจะทำกระแสเงินสดได้ดีมาก เนื่องจากโรงงานไม่ได้สร้างกันบ่อยๆ 

คงต้องดูกันต่อไป ระดับคุณฉัตรชัยมองว่าต้องเพิ่ม ต้องเพิ่ม อืม
เอามาใส่กระทู้นี้ดีกว่า เมื่อกี้นี้ไปตีกอร์ฟ ปังย่ามา

กลับมานั่งคิดดู

เอ UMS กำไรปีละ 180 ล้าน ในขณะที่ยังไม่ต้องขยายงาน

และดูแล้วการขยายงานของ UMS ถ้ายังทำแบบเดิม คือยังไม่เพิ่มไลน์ใหม่ ซึ่งก็ไม่น่าจะเพิ่ม ไลน์ใหม่

ผมดูแล้วไม่น่าที่จะต้องเพิ่มทุน ลำพังโรงงานที่สร้างเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บฐานหิน 2 เท่าจากเดิม ใช้เงิน 200 ล้าน จริงๆก็ใช้กำไรแค่ปีเดียว

และเมื่อยอดขายเพิ่ม กำไรก็จะเพิ่มมากว่า 180 ล้าน

อะไรทำให้ UMS ต้องเพิ่มทุน

อืม ดีเหมือนกัน ลองดู 10 ปี ดูคำทำนายของคุณฉัตรชัยว่าเป็นไง แต่ผมไม่เชื่อนะ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 4:22 pm
โดย Tiger
จริงครับ
เห็นด้วยกับพี่ Jeng ที่ post ไว้ก่อนหน้าครับ
การซื้อที่แล้วสร้างที่เก็บใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า เป็นการการันตีความมั่นคงระยะยาว
มากกว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเติบโตครับ

จะโตต่อให้ได้จังหวะ ไม่เร็วก็ช้า ต้องเพิ่มทุนอีก เพราะเงินไปจมกับการซื้อที่มากเกินไปครับ
ทั้งที่ค่าเช่าก็ไม่ได้แพงจนเกินไป และปีแรกก็ไม่น่าปันผลเยอะไปครับ
เพราะมีโครงการทำท่าเรือไว้ในใจอยู่แล้วปี 49
แต่ก็เข้าใจผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งสามคนครับ ยังไง ๆ เงินต้นก็คืนแล้ว กล้า ๆ สู้ได้เต็มที่ครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 4:33 pm
โดย สามัญชน
มีท่านใดจะนำเสนอเหตุผลว่า ums จะสามารถทำได้ 60% ทุกปีอย่างน้อยสักสามสี่ปีไหมครับ แบบที่ค่อนข้างชัวร์  ไม่ต้องร้อยเปอร์เซนต์  (แค่ชัวร์แปดสิบเปอร์เซนต์ก็แจ๋วแล้วหละครับ)

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 5:05 pm
โดย CK
การซื้อรถบรรทุกเพิ่ม ซื้อที่ดิน และสร้างโรงงาน เป็นเหตุผลที่ ums ยื่นจดทะเบียน
ในตลาด MAI ครับ (อยู่ในหนังสือชี้ชวน) เท่าที่คำนวณคร่าวๆ IRR ของ project
นี้ตก 15% ต่อปี บนสมมุติฐานว่า ยอดขายถ่านหินอยู่ในระดับ 600,000 ตันต่อปี

ปีนี้ผู้บริหารคาดว่าทำได้ประมาณ 700,000 - 800,000 ตัน savings น่าจะมากขึ้น

ลูกค้าที่เริ่มสั่งซื้อใหม่ของ ums ในปีนี้ คือลูกค้าใหม่ของปีที่แล้ว

ถ้าปีนี้ ums ได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม 20 รายตามเป้า (จาก 80 รายปีที่แล้ว)
ปีหน้ายอดขายน่าจะเพิ่มประมาณ 25%

ส่วนปี 2550 นี่ ยังนึกภาพไม่ออก แต่การที่บางจากจะสามารถ
ลดปริมาณน้ำมันเตาลงจากการเปลี่ยน cracking process ใหม่
น่าจะทำให้ มีลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยน boiler มาเป็นถ่านหินมากขึ้น
แต่ผมคาดว่าอัตราการเติบโตในปี 2550 น่าจะตก 20% เท่านั้น

ส่วนปี 2551 และ 2552 หวังว่าจะสามารถเริ่มโตมากๆ ได้อีกครั้ง
เนื่องจากปริมาณน้ำมันเตาในประเทศที่จะลดจำนวนลง และ
ถ่านหิน Lignite ของบ้านปูน่าจะหมดพอดี (ทำให้ ums สามารถ
เจาะขึ้นภาคเหนือได้)

หลังจากนั้น ดูไม่ออกแล้วครับ :) แต่หวังว่า จะสามารถรักษาอัตรา
การเติบโตที่ 10% ต่อปีไว้ได้สักระยะหนึ่ง

แต่กำไร อาจจะไม่เพิ่มเร็วเท่ายอดขายนะ margin คงมีแนวโน้ม
ลดลง

ส่วน ROE 60% ไม่ทราบครับ :lovl: ไม่เคยดู ไม่เคยใช้ แต่ถ้ามอง
ด้าน Equity ด้วยนโยบายจ่ายปันผล 40% ขึ้นไป น่าจะทำให้
E ของบริษัทไม่โตมากนะครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 6:06 pm
โดย Mon money
มีสัญญาเช่าดำเนินงานซ่อนอีกนิดหน่อยครับ ROA กับ ROE ก็จะเพี้ยนไปหน่อย รายการสินทรัพย์และทุนเหล่านี้ Off Balance sheetอยู่ครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 9:16 pm
โดย เพื่อน
คุณJeng wrote:
การซื้อที่ดิน สร้างโรงงานไม่ได้เป็นหลักประกันความอยู่รอดของตัวธุรกิจ แต่ทำให้การจัดการสดวกสบาย และสบายใจมากขึ้น

UMS คงคิดแบบคนจีนรุ่นเก่า เน้นความมั่นคงเป็นหลัก

เรื่องอะไรไปเช่า เช่าแล้วก็สร้างโรงงานไม่ได้ พอหมดสัญญา ถ้าไม่ต่อสํญญาก็โดนขึ้นราคา ซื้อดีกว่า
bic c เค้าเช่าจากผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงนะครับคุณเจ๋ง กำไร(ของเค้า)ไม่หนีไปไหนแน่นอน
ถ้าคุณเจ๋งจะลงทุนสร้างโรงงานมูลค่าเกิน30ล้าน คุณเจ๋งอยากจะสร้างบนที่ดินเช่าจากคนที่เราไม่รู้จักรึปล่าวครับ ถ้าสัญญาเช่า10ปี เท่ากับเราต้องยกโรงงานให้เค้าไว้ล่วงหน้า10ปีเลยนะครับ แล้วถ้าเค้าไม่ต่อสัญญาก็หมายความว่าต้องไปหาที่อื่นสร้างโรงงานใหม่อีกในราคาอนาคตที่น่าจะแพงกว่า
แต่ถ้ามีเงินพอซื้อที่ดินได้สร้างโรงงานเอง ผ่านไปอีก10ปี โรงงานก็ยังเป็นของเราอยู่ พร้อมกับค่าที่ดินที่เราซื้อไว้ก็เพิ่มมูลค่าตามมาด้วย
ผมว่าแบบนี้ดีแล้วครับ ดีกว่าไปเช่าที่ดินของกรรมการหรือเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นใหญ่  เพียงแต่ขอให้ซื้อแบบตรงไงตรงมา ไม่บวกราคาค่าที่ดินเข้ากระเป๋าใครบางคนไปซะก่อน

ต่างกับกรณีเช่าทั้งโรงงานทั้งที่ดินนะครับ เพราะไม่ต้องลงทุนก่อสร้างเอง เบื่อกันเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนได้

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 9:41 pm
โดย CK
ผมดูแล้วไม่น่าที่จะต้องเพิ่มทุน ลำพังโรงงานที่สร้างเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บฐานหิน 2 เท่าจากเดิม ใช้เงิน 200 ล้าน จริงๆก็ใช้กำไรแค่ปีเดียว

และเมื่อยอดขายเพิ่ม กำไรก็จะเพิ่มมากว่า 180 ล้าน

อะไรทำให้ UMS ต้องเพิ่มทุน
ผมเคย raise ประเด็นนี้แล้วครั้งนึงครับ เพราะแค่ ums ไม่ปันผลออกมา ไม่เข้าตลาด
แค่ DCF ของ 4 ไตรมาสรวมกัน (Q3/04 - Q2/05) ก็พอทั้งสร้างโรงงานและซื้อที่ดิน
แล้วครับ ไม่ต้องกู้ด้วยซ้ำ

ถ้าคิดแบบมองโลกในแง่ร้ายสุดๆ ก็ต้องว่าเข้ามาเพื่อหวังดูดเงินเพิ่ม โดยผู้บริหาร
มีโครงการเม็กกะโปรเจ็คในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ถ้าเข้าเสียก่อน ก็จะทำให้ตอนเพิ่มทุน
ง่ายขึ้น

ถ้าคิดแบบ logical sense ผมคิดว่า ums เข้าตลาดเพื่อ

1. ตามวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ (ซื้อที่ดิน สร้างโรงงาน) แต่เผอิญน้ำมันเตาราคา
พุ่งขึ้นไปสูงมาก ประกอบกับเกิดวิกฤตถ่านหินในปีที่แล้ว ทำให้ ums ทำกำไรได้
เกินคาดไปมาก

2. เพื่อสร้าง credibility ในการขยายการขาย

3. เพื่อลดภาษีเงินได้จาก 30% เหลือ 20% (เริ่ม ม.ค. 48 )

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 9:53 pm
โดย woody
ส่วนเรื่องเอื้ออาทร
รัฐมีโครงการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับการเปลี่ยนเชื้อเพลิง
จากน้ำมันมาใช้ฟอสซิลครับ
ผมก็คงจะยื่นไฟล์ลิ่งขอกู้ด้วยเพื่อเปลี่ยนมาใช้ถ่านหินครับ
ดอกเบี้ย fix 4 % 7ปี ปีแรกไม่ต้องคืนเงินต้น
พี่ tiger ครับ ไม่ทราบว่าในวงการอุตสาหกรรมที่ต้องใช้นำมันเตาเนี่ยะรู้เรื่องนี้กันเยอะไหมครับ แล้วไม่ทราบว่าซาวเสียงดูได้อย่างไรบ้าง (หวังว่าโรงงานอื่นๆ จะคิดกันแบบโรงงานพี่ tiger เยอะๆ นะครับ)....

ปล. ว่าแต่ย้ายกระทู้นี้ไปร้อยคนร้อยหุ้นด้วยจะดีไหมครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 10:13 pm
โดย por_jai
8)   เรื่องp/e กะ p/bvเนี่ย ขอแสดงความเห็นหน่อยนึง
     ไม่เกี่ยวกะหุ้นตัวนี้นะ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 10:24 pm
โดย สามัญชน
ท่าน woody บอกว่า
ปล. ว่าแต่ย้ายกระทู้นี้ไปร้อยคนร้อยหุ้นด้วยจะดีไหมครับ
ผมเห็นด้วยครับ  จะได้อยู่กันเป็นหมวดเป็นหมู่  ค้นหาในภายหลังได้ง่ายๆ

ในร้อยคนร้อยหุ้น  หุ้น ums มีอยู่สามหน้า  บวกจาก various question อีกสี่หน้า  เท่ากับอัตราเติบโตเป็น 133 % เลยนะครับ ถือเคล็ดเอาฤกษ์เอาชัยก่อนก็ดีเหมือนกันนะ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 10:55 pm
โดย por_jai
Jeng เขียน: แต่ bigC ไม่คิดอย่างนั้น

ด้วยเม็ดเงินที่จำกัด bigC เช่าทุกที่ หลักๆเช่าจากจิราธิวัฒน์ และ bigC ก็สร้างสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งดูแล้วจะลงทุนมากว่า UMS ด้วยซ้ำ ทำไม bigC ไม่กลัว ว่าหมดสํญญาแล้วจะยังไง

major ก็เหมือนกัน ใช้วิธี แบ่งผลตอบแทนให้เจ้าของที่ดิน แต่ตอนตกแต่งภายใน หรือสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมา major ก็ใช้เงินมหาศาล ต้องแต่งให้สวย major ก็ไม่ได้ซื้อที่ดิน
8) เรื่องนี้ผมมีประสบการณ์พอดี

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 11:09 pm
โดย naris
ผมว่าเรื่องหุ้นก็เหมือนกัน คำตอบมันก็อยู่ที่คุณตีความได้ว่าอะไร เท่าไร เมื่อไร  อย่างไร  จริงไหมครับ
จริงครับ
ปล.เพิ่ม และของใครไว้อีกข้อครับ :lovl:

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 12, 2005 11:58 pm
โดย เพื่อน
จริงครับ
แต่ต้องไม่ลืมด้วยนะครับว่า ที่ดินทำเลสำหรับค้าขาย ราคามันต่างกับที่ดินสร้างโรงงานมากมายนักนะครับ โรงงานมันไม่ต้องอยู่ริมถนนใหญ่ที่แสนจะแพงกว่าหลายสิบหรือหลายร้อยเท่าครับ ยิ่งไกลชุมชนก็ยิ่งดี และเมื่อเข้าไปตั้งโรงงานแล้ว ราคามันจะขึ้นทันที ไปซื้อทีหลังจะยิ่งแพงมากครับ

ถ้าคุณลงทุนหุ้นตัวไหนที่สร้างโรงงานบนที่เช่า ก็สมควรตีมูลค่าทรัพย์สินหักค่าโรงงานไว้เป็นศุนย์ก่อนเลย จะปลอดภัยกว่า นอกจากว่าผู้ให้เช่าเป็นคนในที่อาจจะกินค่าเช่าเข้ากระเป๋าไปเรื่อยๆจนต้องการเงินก้อนเมื่อไหร่ก็อาจจะขายให้โรงงานต่อได้ในราคาแพงมาก เพราะคุณไม่มีทางเลือก ก็ยังดีกว่าไม่เหลือมูลค่าของโรงงานเลย

ทั้งนี้คงต้องชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบระหว่างราคาซื้อหรือเช่า อันไหนคุ้มกว่ากัน
ในกรณีโรงงานผมว่าซื้อคุ้มกว่านะ....ความเห็นส่วนตัวครับผม

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 1:20 am
โดย Jeng
เช่าที่ดิน 30 ปี แล้วสร้างโรงงาน

แล้วตีเป็นศูนย์ไปเลยครับ

ดูว่า ลงทุนตรงนี้ไปแล้ว return กลับมาเท่าไร

ผมคิดว่า bigC major เขาคิดแบบนั้นครับ

และก็คงเหมือนซื้อเรือมาอะครับ

เช่น เรื่อนี้อายุ 7 ปี เรือนี้อายุ 20 ปี เราจะซื้อเท่าไร return กลับมาเป็นอย่างไร

ตีไปเลยว่า 7 ปี 20 ปี เหลือศูนย์

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 9:19 am
โดย CK
ศูนย์ logistics ของ BigC ที่เก็บคลังสินค้ากลางก่อนกระจายส่งไปให้
retail store ต่างๆ เช่าหรือซื้อครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 10:08 am
โดย Tiger
ตอบคุณ woody ครับ

สิ่งนึงที่คอยกวนใจผมอยู่บ้าง ที่จะลงทุนเพิ่ม ก็ตรงประเด็นที่คุณ woody ถามแหละ

ไม่รู้เป็น stratigic planning หรือ ความอยู่นิ่งของทีมขายครับ

โรงงานผมไม่เคยมีใครรู้เรื่อง UMS เลย ถ้าเพื่อนไม่พูดถึง
โรงงานที่ผมชักชวนมาใช้ก็ไม่เคยรู้เรื่อง UMS เลย
ผมแสดงความสนใจมากตั้งแต่สอบถามครั้งแรก ใช้เวลาอาทิตย์กว่า
กว่าจะสรุปได้ข้อมูล ที่ใช้งานต่อได้

ก็เลยเข้าคอนเซป ปาก-ต่อ-ปาก มั้ง
หรืออาจเข้าคอนเซป ขยายงานแบบคุมคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ก็เซลเขาให้เหตุผลกับผมว่า
" ยิ่ง 2 ปีที่แล้วนะพี่ บางวันไม่วิ่งออกไปหาลูกค้าเลย หัวหน้าก็ไม่ว่า
แกบอก ค่อย ๆ ขาย เดี๋ยวของไม่พอ คุมไม่ได้ พึ่งไฟเขียวให้ลุย มาปีกว่า"
ความหมายคล้าย ๆ อย่างนี้ครับ สำนวนนะแต่งเอง  :lol:

ถ้าทำ Marketing จริง ๆ ผมว่า โต aggressive กว่านี้มากครับ
แต่ดีหรือเปล่า แล้วแต่ชอบครับ

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:19 am
โดย por_jai
jeng เขียน: เช่าที่ดิน 30 ปี แล้วสร้างโรงงาน

แล้วตีเป็นศูนย์ไปเลยครับ

ดูว่า ลงทุนตรงนี้ไปแล้ว return กลับมาเท่าไร
เพื่อน เขียน: จริงครับ
แต่ต้องไม่ลืมด้วยนะครับว่า ที่ดินทำเลสำหรับค้าขาย ราคามันต่างกับที่ดินสร้างโรงงานมากมายนักนะครับ โรงงานมันไม่ต้องอยู่ริมถนนใหญ่ที่แสนจะแพงกว่าหลายสิบหรือหลายร้อยเท่าครับ ยิ่งไกลชุมชนก็ยิ่งดี และเมื่อเข้าไปตั้งโรงงานแล้ว ราคามันจะขึ้นทันที ไปซื้อทีหลังจะยิ่งแพงมากครับ
8) มองอย่างคุณเจ๋ง
    เจ้าของควรมีลักษณะใจถึง ใจกว้าง ไมคิดร่ำรวยคนเดียว
    และก็เป็นพ่อมดการเงินหน่อยๆ
    ผมว่ามีคนอย่างนี้เยอะๆในสังคมเราก็ดีนะครับ
    คนที่มีลักษณะเป็น entreprenaur(สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้)
    เหมือนมันเหมาะกับระบอบทุนนิยม ดีอ่ะ
    วิธีคิดของคุณเพื่อน ก็เป็นเถ้าแก่อีกลักษณะ
    ผมก็คิดแบบนี้นะ เป็นอีกเหลี่ยมนึงที่ดี
    เป็นอะไรที่รอบคอบสุขุม มองได้ทั่วถึง และก็ปลอดภัย
    คนนึงก็ดำเนินธุรกิจแบบที่เหมาะกับตัวละครับ
    ตัดสินใจทำลงไปแต่ขัดแย้งกับบุคลิก
    มันจะพานนอนไม่หลับ กลุ้มใจไปปล่าวๆ
    ให้แมนยู เล่นตั้งรับคอยสวน มันก็เล่นไม่ออก
    เพราะเวลาจัดทีมเลือกผู้เล่น ก็เลือกมาตามปรัชญา บุก บุก บุก
    มันก็เป็นไปตามนั้น

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:40 am
โดย CK
Phoenix Suns มีทีมบุกที่ดีที่สุดในยุคนี้

พอเข้ารอบเพลย์ออฟ ไปเจอทีมรับขนานแท้อย่าง Spurs
ก็พ่ายไปอย่างหมดรูป 4-1

แต่ผมก็ยังเชียร์ทีมที่เน้น offense อยู่ดีครับพี่ por_jai
มันสนุกกว่าเยอะตอนเชียร์ :lovl:

ไม่สงสัยเลย ว่าทำไมทีมที่ผมเชียร์ถึงไม่เคยได้ถ้วยเลย

ทั้ง Buffalo Bills และ Phoenix Suns

ส่วนเรื่อง ums ตอนแรกผมก็ไม่เห็นด้วยที่ซื้อที่สร้างโกดัง สร้างท่าเรือเอง

แต่เมื่อได้ฟังวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ตรงนี้คือ  A Must ครับ

ถ้าเทียบกับ BigC ศูนย์บัญชาการกระจายสินค้า คงต้องเป็นที่ของเขาเอง
เพราะการทำ Logistics ทั้งหมด จะต้องเน้นประสิทธิภาพสูงสุดจากจุดนั้น

ส่วน Outlets ควรเป็นที่เช่า เพื่อให้ได้ return สูงสุด

ที่ UMS จำเป็นต้องขยายโกดังขึ้นไป 120,000 ตันนั้น เพราะในการบริหาร
logistics จำเป็นมาก เนื่องจากการขนถ่านหินเพื่อให้ค่าใช้จ่ายต่ำสุด จะต้อง
ขนทีเดียว 50,000 ตัน ถ้าโกดัง 60,000 ตัน หมายความว่าตอนสินค้าเทียบท่า
ต้องมีที่ว่างประมาณ 50,000 ตันขึ้นไป ถึงจะรองรับได้ ไม่งั้นไม่รู้จะไปเก็บที่ไหน

นั่นหมายความว่า เหลือสินค้าน้อยสุดเพียง 10,000 ตันเท่านั้น

การขยายไป 120,000 ตัน ทำให้ ums สามารถสั่งถ่านหินเข้ามาเมื่อ stcok
เหลือต่ำกว่า 70,000 ตัน! แสดงว่า ถ้าคำนวณศักยภาพขนาดสั่งสินค้า 50,000
ตันทุก 2-3 วัน ก็ยังสามารถจัดการได้

คิดคร่าวๆ คือ คลังถ่านหินนี้ สามารถรองรับยอดขายขนาด 500,000 ตันต่อเดือน
ได้อย่างสบาย

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 6:32 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

500,000 ตันต่อเดือน 
[/color][/size]

:roll:  :roll:  :roll:

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:10 pm
โดย ksnk
มีแนวโน้มว่าตั้งแต่ปี 2549ราคาถ่านหินอาจจะ "ปรับลึก" ลงจาก 52 ดอลลาร์ต่อตัน เหลือเพียง 45-48 ดอลลาร์ต่อตันเท่านั้น หรือตกลงมากว่า 10-20%

ไม่รู้ว่า factor นี้จะมีผลกับ PM ของ UMS แค่ไหน

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:24 pm
โดย CK
มีแนวโน้มว่าตั้งแต่ปี 2549ราคาถ่านหินอาจจะ "ปรับลึก" ลงจาก 52 ดอลลาร์ต่อตัน เหลือเพียง 45-48 ดอลลาร์ต่อตันเท่านั้น
PM ที่เป็น % คงไม่ลดลงมาก แต่ PM ที่เป็นตัวเงินคงจะลดลงครับ
จะเป็น  factor ที่จะทำให้กำไรไม่โตมากเท่ายอดขาย

ตอนนี้ BJI เริ่ม "ปรับลึก" แล้วครับ

รูปภาพ

Barlow Jonker Index เป็นดัชนีของราคาถ่านหินเกรดดีมากๆ ครับ เท่าที่
ผู้บริหารบอก เป็น non-steam coal มั้ง ส่วนอีกสองตัวที่เหลือเป็น steam coal
ซึ่งยังมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:31 pm
โดย woody
ก็คงต้องดูกันว่าระหว่างยอดขายเชิงปริมาณ (ตัน) ที่จะเกิดขึ้นจากลูกค้ามากขึ้น กับ ตัวกำไร ตัวไหนจะวิ่งเร็วกว่ากัน

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 8:12 am
โดย por_jai
CK เขียน: Phoenix Suns มีทีมบุกที่ดีที่สุดในยุคนี้

พอเข้ารอบเพลย์ออฟ ไปเจอทีมรับขนานแท้อย่าง Spurs
ก็พ่ายไปอย่างหมดรูป 4-1

แต่ผมก็ยังเชียร์ทีมที่เน้น offense อยู่ดีครับพี่ por_jai
มันสนุกกว่าเยอะตอนเชียร์  
8) ถาม คุณ CK หน่อยว่า
    ถ้าต้องไปทำทีมอย่างSuns กะ Spurs
    คุณจะเลือกทีมไหน
    (ตัวผู้เล่น ห้ามเปลี่ยน)

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 8:22 pm
โดย CK
por_jai เขียน:ถาม คุณ CK หน่อยว่า
   ถ้าต้องไปทำทีมอย่างSuns กะ Spurs
   คุณจะเลือกทีมไหน
   (ตัวผู้เล่น ห้ามเปลี่ยน)
พูดยากครับพี่ ตัวผู้เล่นห้ามเปลี่ยน นี่ Suns ก็ได้ Kurt Thomas มาแล้ว
เน้น rebound ทีมรับ ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่ม defense พอควร และล่าสุดก็เพิ่ง
สอย Raja Bell มาเพิ่มความเหนียวทีมรับอีก

ถ้าในฐานะนักบาส ก็ต้องอยากได้ทีมรับที่แข็งแกร่งก่อนครับ :) เรื่องทำแต้ม
ไม่ค่อยยาก ผมเคยเล่นชนะฝรั่งผิวขาวแบบสบายๆ โดยทำแต้มคนเดียวกว่าครึ่ง
แต่พอไปเจอพวกคนดำที่มันกระโดดดังค์จากหัวกระโหลกได้ก็เลิกเล่นบาสไปเลย
ครับ ฮ่าๆๆ สรีระผิดกันมากไป แพ้เกมศูนย์เลยมั้ง

ถ้าพูดถึง ums ผมคิดว่าเหมาะกับการเล่น division สองต่อไปก่อน ถ้าเปรียบกับ
ฟุตบอลผมว่ากองหลังไม่เลวครับ แต่โกลเท่านั้นที่อ่อนไปนิด กองหลังของ
ums คือฐานลูกค้าครับ การที่วันดีคืนดี ลูกค้าจะเลิกสั่งถ่านหินไปเลยไม่ใช่
เกิดขึ้นไดง่ายๆ หรือไม่ใช่จะเกิดขึ้นพร้อมกันหมดหลายๆ ราย นอกจากเจอ
รายใหญ่จริงๆ ดัมพ์ตลาด และพร้อมที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปปรับแต่ง boiler
ให้ลูกค้า ums ทุกราย แต่ผมว่าตลาดนี้เล็กเกินกว่าที่จะทำเช่นนั้น

อีกอย่าง แค่ banpu หรือ lanna คุยกับรายใหญ่รายเดียวและขายถ่านหินให้ได้
1 contract ทั้งปี รายได้ก็มากกว่า ums ทั้งบริษัทแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะเหนื่อย
ทำแบบนี้ไปทำไม ไม่คุ้มเงิน

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 16, 2005 10:13 pm
โดย bigshow
โหทำไมขายเยอะจัง ว่าจะเข้าไปเก็บสักหน่อย

ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส บมจ.(UMS) สมบูรณ์  สิริไพบูลย์พงศ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/08/2548 11/08/2548 500,000 16.00 ขาย

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 16, 2005 11:06 pm
โดย Jeng
ธรรมดาครับ คนก็ต้องใช้เงิน ทุน บาท ขาย 16 แต่ถามว่าเยอะมั๊ย

ก็ต้องดูครับ ว่าทั้งหมดถืออยู่เท่าไร

ตั้งแต่เล่นหุ้นมา 3 ปี ไม่เคยเห็นหุ้นตัวไหนอนาคตสดใสเท่า UMS

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 16, 2005 11:20 pm
โดย CK
รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันที่ 28 ก.พ. 2005

ลำดับ