หน้า 27 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 3:02 pm
โดย zippo
แฮะ แฮะ พี่วิบูลย์ขา น้องนั้นไม่ใช่ขาใหญ่แน่นอนค่ะ :x ขาน้องนั้นเล็กและสวยงาม(ขาวอีกตังหาก) มาว่าเราขาใหญ่งี้โกรธตายเลย :evil:

ปอดน้องนั้นเพิ่งเริ่มต้นค่ะ โดนพิษหวัดนกเข้าไป แดงราวกับวันนั้นของเดือน ตอนเข้ามาลงทุนประมาณเมื่อสามเดือนก่อน ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักลงทุนแบบระยะยาว(ยาวมาก สองปีขึ้น)ลงทุนหุ้นดีๆเก็บไว้กินปันผล หรือขายเมื่อหุ้นขึ้นไปสูงมากๆ

แต่พอดัชนีตกปอดแดง ก็ชักใจสั่น ถามตัวเองว่าทำไรผิดไปหรือเปล่า พอมานั่งหาข้อมูลจากหลายๆที่ แล้วอ่านกระทู้ในนี้ ก็พอจะได้คำตอบว่า เราพลาดไปซะแล้วด้วยโดนสเน่ห์ยาแฝดของตลาดหุ้นเข้า ทำให้ลืมความตั้งใจเดิม แถมยังไปวิเคราะห์หุ้นแบบนักเก็งกำไร อีกตังหาก cutloss ก็ไม่เป็น เงินสดตอนนี้มีเหลือก็ประมาณห้าแสน เลยเริ่มรู้สึกตัว กลับเข้าสู่ลู่ทางที่ตั้งใจไว้แต่เดิม

คราวนี้จะซื้อหุ้นก็ต้องดูแล้วดูอีก ดูให้ดีกว่าเลือกแฟนอีกค่ะ คือหุ้นตัวที่ถามเนียก็ยังไม่แน่ใจว่าวิเคราะห์ผิดหรือเปล่า เลขก็ไม่เก่งอยู่แล้ว แต่ก็จะพยายามไปเรื่อยๆ อ่านหนังสือที่พี่ๆแนะนำมาพยายามทำความเข้าใจแนวคิดของ VI อยู่เพราะคิดว่านี่เป็นการลงทุนที่เราตั้งใจไว้แต่แรก แต่ไม่เคยรู้มาก่อน :cry: ปอดเลยแดงไปหมด นีก็อ่าน The new buffetology กับ value investor made easy จบไปแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามคาใจอยู่อีกหลายอย่าง คงต้องมาคำแนะนำจากพวกพี่อีกน่ะค่ะ

ที่ถามเรื่องสภาะคล่องนั้นเพราะไม่รู้ว่าการที่ หุ้นแทบไม่มีการซื้อขายกันเลยนั้นมันบ่งบอกว่าเป็นหุ้นดีที่มีแต่คนเก็บไว้ไม่ขาย หรือไม่มีคนอยากได้เพราะมันไม่ดีหรือไงกันแน่
แล้วก็คิดอยู่ว่าจะมีคนขายให้เราซื้อรึเปล่า ควรเก็บเงินไว้รอเค้าขายที่ละร้อยสองร้อยหุ้นหรือ ไปหาหุ้นอื่นๆดี นี่คือเหตุผลที่ถามไปน่ะค่ะ


พี่ aye อธิบายได้เห็นภาพดีค่ะขอบคุณมาก เป็นการตอบคำถามที่อยู่ในใจเหมือนกัล ดีจังไม่ต้องพิมพ์เพราะพิมพ์ภาษาไทยได้ช้ามาก ต้องยอมรับว่าเวลาอ่านกระทู้นี่ หลายครั้งไม่รู้ว่าจะเอามาใช้ยังไง เครือว่าน้องนั้นไม่ได้เรียนเลขมานานมากตอน ม ต้นก็ต้องสอบซ่อมเป็นประจำ แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงมันมาตลอด
แต่ก็อย่างที่เค้าว่าเกลียดอะไรมักได้ยั้งงั้น ดันมาสนใจลงทุนในตลาดที่มันใช้เลขและการเงิน เป็นตัววิเคราะห์อีก :? ก็คงต้องพยายามมากหน่อย อิ อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 3:50 pm
โดย VIB007
ขอแก้ข่าวหน่อยนะครับ ผมรหัส 30 ครับ
พอดีเฮียเจ๋งแกเข้าใจผิดเลยโพสว่า ผมรหัส28
ดังนั้น ท่านAyethebing และท่านอื่นๆไม่ต้องเรียกผมว่า พี่นะครับ
เรารหัส 30 เหมือนกัน

พอดีนานๆจะมีสาวๆเข้ามาถามสักที
เห็น"ลีลา"ของคุณน้อง Zippo เข้าแล้ว
เล่นเอาผม"หนาว"ไปเลย
ไม่ว่าจะเป็น "ขาขาว" หรือ "แดงเดือด" ทำเอาผมจินตนาการไม่ถูก

แต่ อิ อิ
เห็นปอดแดงแล้วตกใจ เป็น "เรื่องธรรมด้าธรรมดา" มาก
ยิ่งปอดติดเชื้อ"หวัดนก" แบบนี้
ก็ต้อง"แดง"เป็นเรื่องธรรมดา
ตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ ผมซื้อหุ้นมา หุ้นตกแล้วตกอีก ปอดแดงเถือก
กลุ้มใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ
พอดีมีความรู้เรื่อง VI นิดหน่อย
เลยมาคิดว่า ก็เราเลือกหุ้นมาถูกแล้ว
มองไปในอนาคต ธุรกิจก็ยังดี
ราคาที่ซื้อมาก็สมเหตุสมผล
ดูแล้วผลประกอบการในอนาคตก็ยังดี
แต่ตอนนั้นยังโง่อยู่
ดูเป็นแต่ราคา ไม่ค่อยรู้จักมูลค่า
ก็เลยตกใจกลัว
กลัวเหมือน"ครั้งแรก"ยังไงยังงั้นเลยล่ะ อิ อิ น้อง Zippo คงเข้าใจดี

เลยตัดสินใจไม่ดูราคาหุ้นไปเลย
เอาเวลาไปอ่านหนังสือการลงทุน ดูหนัง ฟังเพลง
อ่านหนังสือพิมพ์ดูเรื่องราวของบริษัทที่เราลงทุน
ติดตามผลประกอบการบริษัท
ไม่สนใจราคาหุ้น
พอเวลาผ่านไปหลายเดือน
กลับมาดูปอด
อยากจะเขกกระบาลตัวเองว่า
"ทำไมตอนนั้นไม่ซื้อเพิ่มว่ะ"
ก็หุ้นที่ถืออยู่ ไม่ได้ขายออกไปสักตัวเดียว
มันดันกลับมาเขียว
เขียวชนิดที่เรียกว่า เขียวชะอุ่มพุ่มไสว อะไรทำนองนั้น

นิทานเรื่องนี้เลยสอนให้รู้ว่า
ถ้าเลือกหุ้นมาดี (ดีกว่าเลือกสามีหรือภรรยา) แล้วละก็
ถ้าราคาหุ้นตก แล้วสิ่งนั้นไม่มีผลกับผลประกอบการบริษัทในอนาคต
ก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไร
เป็นโอกาสดีที่จะทดสอบความอดทนของตัวเอง
และมีโอกาสพิจารณาถึง"ความกลัว"ที่มีอยู่ในกมลสันด....ของมนุษย์

อย่างไข้หวัดนกที่มีอยู่ตอนนี้
ผมถามจริงๆว่า หวัดนกกำลังระบาดอยู่ตอนนี้เนี่ย
จะทำให้คนทั้งประเทศเลิกใช้น้ำ ใช้ไฟ หรือไม่
คนจะเลิกใช้พลาสติกห่อของหรือเปล่า
คนจะเลิกติดต่อหากันมั๊ย
คนจะเลิกซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อฯลฯ หรือเปล่า

ลองดูแล้วกันครับว่า
ถ้าไม่ดูราคาหุ้น
แต่ดูว่าผลกระทบของโรคระบาดมีผลกับธุรกิจที่เราถืออยู่แค่ไหน
แล้วพิจารณาเอาเองครับว่า
หุ้นที่มีอยู่ควรจะถือต่อ หรือ Cutloss ....
หรือ ซื้อเพิ่ม ฮ่า ฮ่า

ส่วนเรื่องหุ้นไม่มีสภาพคล่องนั้น
ก็เพราะไม่มีคนซื้อ ไม่มีคนขาย
หรือมีคนอยากซื้อน้อย แต่มีคนอยากขายมาก
หรือมีคนอยากซื้อมาก แต่มีคนอยากขายน้อย
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Demand & Supply ครับ
ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นหุ้น"ดี" หรือ "ไม่ดี"

ดังนั้น ถ้าเป็น "ขาเล็กขาวเรียว" อย่างน้อง Zippo
ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพคล่องครับ

สวัสดีครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 5:49 pm
โดย raruen
ขอบคุณคุณเอ้ และคุณวิบูลย์สำหรับคำตอบครับ
คุณเอ้ตอบได้ตรงที่สงสัยดีมากๆครับ
นึกว่าผมจะถามไม่รู้เรื่องซะแล้ว

เจ้าหนูจำไมถามต่อเลยนะครับ
ที่คุณเอ้บอกว่าประมาณการไปข้างหน้าสักหน่อยแล้วถึงใช้ terminal value นี่มันควรจะเป็นกี่ปีครับ
และ terminal value นี่มีสูตรอย่างไรครับ
(หรือว่าให้ไปหาอ่านในหนังสือ การปรับโครงสร้างทางการเงิน เล่ม2 ของ สนพ FPM Consultant ครับ จริงๆเคยเห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะมีหนังสือรอการอ่านอยู่สองเล่มครับ ซื้อตอนนี้อาจจะทำให้เสียโอกาสการลงทุนครับ เพราะทุนน้อยมาก ฮะๆๆ ไว้อ่านเดือน กพ แน่นอน)

อีกเรื่องครับ
เรื่องการหา FCF เห็นมีการหาหลายตำรามาก
แต่ละคนก็หากันคนละแบบ
ยังงี้ แบบไหนจะใกล้ความจริงกว่ากันครับ
หรือต้องเลือกใช้ให้เหมาะแต่ละธุรกิจครับ

อ่านเวบนี้สนุกดีครับ
เนี่ยยังคิดอยู่ว่าอ่านจบแล้วยังงี้ผมคงไม่มีกระทู้ให้อ่านต่อ เซ็งแย่
ยังไงขอเชิญชวนมาตอบคำถามผมไปเรื่อยๆนะครับ
ผมมีคำถามเยอะมาก เพราะฉลาดน้อย ฮะๆ

เห็นพวกพี่ๆนับอายุกัน
พศ 2530 นี่ผมอายุได้ 6 ขวดครับ เอ็นติดตอนปี 41
ขอเรียกทุกท่านว่าพี่นะครับ
ถ้าเรียกใหญ่กว่านี้เดี๋ยวไม่มีใครมาตอบผมแน่ ฮ่าๆ

อยากถามพี่วิบูลย์เล็กน้อยครับ ถ้าไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเกินไป
คุณพี่วิบูลย์นี่รุ่นเดียวกับอาจารย์วิศณุรึป่าวครับ
อาจารย์เขาเก่งดี สอนผมด้วย

พี่ๆทุกท่านอยู่หน้าคอมนานๆ ออกกำลังกายบ้างนะครับ
ร่างกายจะได้แข็งแรง มีแรงไปเที่ยวรอบโลกตอนเกษียณตั้งแต่ยังหนุ่ม
ฮ่าๆ ^___^

ดึกๆจะเข้ามาถามต่อครับ
ขอบพระคุณอีกทีครับ.

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 6:14 pm
โดย VIB007
น้องระรื่นคงต้องรีบไปซื้อหนังสือด่วนแล้วละครับ
ปล่อยไว้ไม่ได้ เดี๋ยวคุณAyethebing จะมีงานมากเกินไป
จนรวบรวมทำหนังสือไม่เสร็จ ฮ่า ฮ่า

สูตรคำนวณ FCF มีหลายแบบจริงอย่างว่า
แต่สุดท้าย
การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่สูตรอย่างเดียวครับ

ผมเล่าให้ฟังก็ได้
ผมเคยคำนวณ DCF ของบริษัทแห่งหนึ่ง
คำนวณเสร็จ ผมพบว่าราคาบนกระดานต่ำกว่ามูลค่าที่ผมคำนวณได้กว่าครึ่ง
ผมดีใจมาก บอกตัวเองว่า หมูมาแล้วงานนี้ ใครอย่าเอาอะไรมาขวาง
ผมฟาดเข้าไปเต็มๆเลยครับ
ซื้อเสร็จ สบายใจ นอนหลับฝันดี

พอเวลาผ่านไป หลายเดือน
ผมพบว่า ที่แท้ ผมนี่เองหละที่เป็น"หมู"เอง
เพราะ เจ้าหุ้นตัวนั้นมันก็ไม่ได้ไปไหน
แถมสาระวันเตี้ยลงซะอีก
สุดท้ายทนไม่ไหว ต้อง"กำจัดวัชพืช"ไป
ขาดทุน และเสีย"ค่าโง่"ไปตามระเบียบ

ตอนนี้ ผมซึ้งแล้วครับ
กับคำพูดที่ว่า
"ถ้ามีสูตร(คำนวณ)สำเร็จในการลงทุนจริง ป่านนี้นักบัญชีก็เป็นมหาเศรษฐีกันหมดแล้ว"

ซึ้งงจริงๆครับ ซึ้งจริงๆ ขอบอก

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 6:18 pm
โดย VIB007
อ้อ ผมมีเพื่อนชื่อ วิษณุ เหมือนกันครับ
แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า
ถ้า ผอมๆสูงๆ ใส่แว่น ก็อาจจะใช่ก็ได้ครับ
ไม่รู้เหมือนกันว่า ไปเป็นอาจารย์ตั้งแต่เมือไหร่
เมื่อก่อนเป็น ผู้จัดการกองทุนรวม อยู่นี่นา

เอาล่ะครับ
กลับบ้านก่อนนะครับ
วันนี้มีงานเลี้ยงรุ่น
แถมพรุ่งนี้ไม่ได้เข้าออฟฟิศ
คงไม่ได้เข้ามาทักทาย

สวัสดีครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 7:03 pm
โดย ayethebing
ฮา ขอบคุณคุณวิบูลย์ (ต้องกลับมาเรียกคุณเหมือนเดิม รุ่นเดียวกันครับ) ที่กลัวงานหนัก เพราะเดี๋ยวจะทำงานให้ซือแป๋ไม่ทัน อิอิ ล้อเล่นนะครับ

ผมไม่ได้ชื่อ เอ้นะคุณ raruen ใช้ ayethebing แหละดีแล้ว

ถามว่า terminal value ใช้กี่ปี คงจะหมายถึงจะต้องพยากรณ์อนาคตไปอีกกี่ปีใช่มั้ยครับ ถึงจะใช้สูตร terminal value สำหรับอนาคตที่เหลือ

แล้วแต่ความสามารถครับ ยิ่งพยากรณ์ไปไกลเท่าไหร่ ความแม่นยำก้อน้อยลง โดยปกติน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ปีนะ อันนี้ลองถามพวกที่ทำสินเชื่อหรือ การเงินสำหรับโครงการน่าจะตอบได้ดีกว่า สำหรับผม 5 ปี ก้อเริ่มมั่วแล้วครับ เชื่อมั้ยเคยทำการพยากรณ์อย่างนี้กับหุ้นที่ผมถืออยู่ตัวนึงได้ค่าตั้ง 2 เท่าของราคาหุ้นปัจจุบันแหนะ ผมไม่เชื่อการคาดการณ์ของผมเลยสำหรับตัวนี้ แต่ผมดันซื้อเพิ่มอยู่ดีครับ เพราะชอบในข้อมูลเชิงคุณภาพของกิจการมากกว่า

อยากให้มองอย่างนี้ครับ การหามูลค่าที่แท้จริงจะต้องทำเป็น step

ขั้นแรก หาจุดประสงค์ให้กับตัวเองก่อนว่าซื้อหุ้นนี้ไปทำไม หาเหตุผลง่ายๆ ไม่กี่บรรทัดเพื่อประกอบ เช่น ซื้อหุ้นนี้เพราะหวังเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี และมี capital gain 20% หุ้นนี้ดีเพราะเป็นผู้นำการตลาด สินค้ามีแบรนด์ กำไรดีคงเส้นคงวา ให้ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์สูง เป็นต้น

ขั้นที่สอง เอางบการเงินของบริษัทนั้นในอดีตมาดูอย่างน้อย 5 ปีย้อนหลัง วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เช่น รอบการหมุนของสินค้าคงคลัง รอบการรับเงินของลูกหนี้ รอบการจ่ายเงินของเจ้าหนี้ สัดส่วนต้นทุนขายต่อรายได้ อันนี้จะใช้เป็นตัววัดว่างบในอนาคตของบริษัทเป็นไง

ขั้นที่สาม คาดการณ์งบดุลในแต่ละปีในอนาคต ตัวที่สำคัญคือรายได้ ผมก้อทำง่ายๆ คือ ใส่ growth % เข้าไป ถ้าติดลบก้อหมายความว่าธุรกิจถดถอย ทีนี้รายได้มันก้อจะเป็นตัวแปรที่จะบอกว่า สินค้าคงคลัง ลูกหนี้การค้า ต้นทุนขาย และ เจ้าหนี้การค้าจะเป็นยังไง และก้อทำ งบดุลกับงบกำไรขาดทุนในอนาคตออกมาได้

ขั้นที่สี่ ก้อต้องหา WACC ออกมาให้ได้ ถ้าหาง่ายที่สุดก้อโทรไปหา investor relation ของบริษัทนั้นๆ ว่าเค้าใช้ WACC เท่าไหร่ เอาง่ายๆ ยังงี้เลย ถ้า IR ไม่รู้ก้อขอคุยกับ CFO ไปเลยครับ

ขั้นที่ห้า ต้องมีการจัดรูปแบบใหม่เพื่อให้เป็นแบบ fcf หรือที่ผมใช้เป็นแบบ economic profit ครับ จากนั้นก้อเอากระแสเงินสดคงเหลือ หรือ economic profit ที่กิจการสร้างในแต่ละปีมาทำ DCF และ termnial value แค่นี้ก้อหา initrinsic value ได้แล้ว อ้ออย่าลืมไปเทียบกับจุดประสงค์ที่เราตั้งไว้นะครับ ถ้าจุดประสงค์ของเราผ่าน ก้อน่าซื้ออยู่ หลังจากที่เราหาข้อมูลเชิงคุณภาพได้อย่างน่าพอใจแล้ว

ขั้นที่หก อันนี้สำคัญที่สุดในกระบวนการ คือ การติดตามผลการดำเนินงาน และเปรียบเทียบกับการพยากรณ์ของเรา สำคัญที่สุดครับ เราจะได้วิเคราะห์ได้ว่า อะไรเป็นตัวสร้างหรือทำลาย value ของบริษัท แน่นอน ยอดขายเป็นส่วนสำคัญ แต่อย่างอื่นก้อสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เช่น รอบขอสินค้าคงคลัง ถ้ารอบของสินค้าคงคลังน้อยลง แปลว่าใช้สินทรัพย์ในการดำเนินงานน้อยลง กระแสเงินสดคงเหลือก้อจะมากขึ้นเพราะเงินไม่จม มูลค่าของกิจการก้อจะเพิ่ม

เห็นมั้ยครับ ถ้าทำครบสูตรตามนี้ได้แปลว่าเราเอาตัวเลขต่างๆ ที่เรานั่ง(เทียน)วิเคราะห์ แปลงมาเป็นเครื่องมือวัดความสามารถในการดำเนินงานของกิจการได้อย่างดี มูลค่าที่แท้จริงมันก้อจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละครั้งที่มีผลประกอบการออกมาด้วย ผมว่าอันนี้เป็นคุณค่าที่แท้จริงของการทำมูลค่า intrinsic value ครับ เพราะทำให้เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการบริหารจัดการของผู้บริหารทำได้ดีแค่ไหน เค้าบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพมั้ย เค้าจ่ายเงินเจ้าหนี้พอๆ กับรับเงินจากลูกหนี้มั้ย เค้าควบคุมต้นทุนได้อย่างดีหรือไม่ เป็นต้นครับ

เฮ้อเขียนซะยืดยาวเลย พอดีกว่า เดี๋ยวซือแป๋วิบูลย์ของผมค้อนว่าไม่ยอมทำงาน อิอิ :roll:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 7:05 pm
โดย ลูกอิสาน
ตอนเข้ามาลงทุนประมาณเมื่อสามเดือนก่อน ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักลงทุนแบบระยะยาว(ยาวมาก สองปีขึ้น)ลงทุนหุ้นดีๆเก็บไว้กินปันผล หรือขายเมื่อหุ้นขึ้นไปสูงมากๆ

แต่พอดัชนีตกปอดแดง ก็ชักใจสั่น ถามตัวเองว่าทำไรผิดไปหรือเปล่า พอมานั่งหาข้อมูลจากหลายๆที่ แล้วอ่านกระทู้ในนี้ ก็พอจะได้คำตอบว่า เราพลาดไปซะแล้วด้วยโดนสเน่ห์ยาแฝดของตลาดหุ้นเข้า ทำให้ลืมความตั้งใจเดิม แถมยังไปวิเคราะห์หุ้นแบบนักเก็งกำไร อีกตังหาก cutloss ก็ไม่เป็น เงินสดตอนนี้มีเหลือก็ประมาณห้าแสน เลยเริ่มรู้สึกตัว กลับเข้าสู่ลู่ทางที่ตั้งใจไว้แต่เดิม

คราวนี้จะซื้อหุ้นก็ต้องดูแล้วดูอีก ดูให้ดีกว่าเลือกแฟนอีกค่ะ คือหุ้นตัวที่ถามเนียก็ยังไม่แน่ใจว่าวิเคราะห์ผิดหรือเปล่า เลขก็ไม่เก่งอยู่แล้ว แต่ก็จะพยายามไปเรื่อยๆ อ่านหนังสือที่พี่ๆแนะนำมาพยายามทำความเข้าใจแนวคิดของ VI อยู่เพราะคิดว่านี่เป็นการลงทุนที่เราตั้งใจไว้แต่แรก แต่ไม่เคยรู้มาก่อน ปอดเลยแดงไปหมด นีก็อ่าน The new buffetology กับ value investor made easy จบไปแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามคาใจอยู่อีกหลายอย่าง คงต้องมาคำแนะนำจากพวกพี่อีกน่ะค่ะ

ที่ถามเรื่องสภาะคล่องนั้นเพราะไม่รู้ว่าการที่ หุ้นแทบไม่มีการซื้อขายกันเลยนั้นมันบ่งบอกว่าเป็นหุ้นดีที่มีแต่คนเก็บไว้ไม่ขาย หรือไม่มีคนอยากได้เพราะมันไม่ดีหรือไงกันแน่
แล้วก็คิดอยู่ว่าจะมีคนขายให้เราซื้อรึเปล่า ควรเก็บเงินไว้รอเค้าขายที่ละร้อยสองร้อยหุ้นหรือ ไปหาหุ้นอื่นๆดี นี่คือเหตุผลที่ถามไปน่ะค่ะ
:D :D เห็นน้อง zippo อัธยาศัยดี พูดจาก็ ตรงไปตรงมาดี
เลยขอช่วยเสริมพี่ๆ เค้าหน่อยครับ

เรื่องสภาพคล่องของหุ้น หุ้นที่สภาพคล่องน้อยส่วนใหญ่ มี 2 สาเหตุ
1.เป็นหุ้นดี ใครๆก็เลยไม่อยากขาย มีแต่คนอยากจะซื้อ
2.เป็นหุ้นแย่ๆ ที่มองไม่เห็นอนาคต ก็เลยไม่มีคนสนใจซื้อขาย

แต่หุ้นที่ zippo สนใจคงเป็นหุ้นประเภทแรกมากกว่า เท่าที่เห็นก็คงจะมี
SAUCE TR METCO ส่วน GYT นี่พีอีสูงไปนิด

มีเรื่องนึงเล่าให้ฟังเป็นความหลังครั้งเก่า
ปี 2000 ผมได้ซื้อหุ้น VNG ได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ 1.57 บาท
ตอนนั้นหุ้นตัวนี้ อยู่นอกเรดาห์ของนักลงทุน
บางสัปดาห์ซื้อขายแค่ 1 วัน
วันละไม่ถึงแสนบาท
ซื้อครั้งแรกมาร์ ยังไม่รู้จักเลย
แต่ด้วยมั่นใจว่าหุ้นตัวนี้น่าจะดี และราคาถูกกว่าพื้นฐานมาก
เลยซื้อไปครึ่งปอด
แล้วตอนนี้เป็นไงครับ นักลงทุนแทบทุกคนไม่มีใคร ไม่รู้จัก VNG
เพราะปัจจัยเดียวแท้ๆ คือผลประกอบการครับ

นิทานเรื่องนี้สอนว่า ผลประกอบการคือคำตอบครับ
สภาพคล่องเป็นเรื่องรอง
เดี่ยวผลประกอบการดี สภาพคล่องก็มาเอง
นอกจากนั้น ยังอาจเจอแจ็กพ็อต หากมีการแตกพาร์ด้วยครับ

แต่หุ้นที่สภาพคล่องน้อยเกินไป คุณภาพก็งั้นๆ ให้พึงหลีกเลี่ยงครับ เช่น
ALUCON SPG APSP

ดูไปเงิน zippo ก็ตั้งใจจะลงทุนระยะยาว
เรื่องสภาพคล่องไม่น่าจะมีปัญหานี่ครับ

เรื่องที่คิดว่า หุ้นที่ราคาต่ำเป็นหุ้นถูก หุ้นที่ราคาสูงเป็นหุ้นที่แพง
คนส่วนใหญ่มักคิดอย่างนี้ (แม้แต่คุณแม่ คุณป้าของผม)
แต่ในฐานะนักลงทุนเน้นคุณค่า เราต้องแยกแยะให้ออกครับ
ว่าราคาต้องเปรียบเทียบกับคุณภาพ (eps)
และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเสมอครับ

หวังว่าคงชัดเจนขึ้นนะครับ
หากมีคำถามก็โพสต์ถามพี่ๆผู้รู้แถวนี้ได้ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 7:16 pm
โดย harry
raruen เขียน:เห็นพวกพี่ๆนับอายุกัน
พศ 2530 นี่ผมอายุได้ 6 ขวดครับ เอ็นติดตอนปี 41
ขอเรียกทุกท่านว่าพี่นะครับ
ถ้าเรียกใหญ่กว่านี้เดี๋ยวไม่มีใครมาตอบผมแน่ ฮ่าๆ

รหัส 41 เหมือนกันเลยครับ งี้ก็คุยกันได้

แถมนิดนึงกับทุกท่ายที่ว่าง หนังสือที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ดีๆหลายเล่มครับ แวะไปอ่านกันได้ ผมไปมาเจอหนังสือเก่าๆ แต่เนื้อหาเยี่ยมหลายเล่มทีเดียวครับ ใช้กับปัจจุบันได้ดีเลย แถมมีข้อมูลหุ้นเกือบทุกตัวให้อ่านด้วย เวลาทำการ จ-ศ 9.00-18.30 ส-อา 09.00-15.00 ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 9:15 pm
โดย thanwa
ผมบอกตรงๆ อ่านกระทู้หน้า 28 นี้
ผมน่าหัวเราะ พร้อมกับอมยิ้มไปด้วย
ก็ด้วยลีลาการเขียนของคุณ zippo
ลวดลายของคุณวิบูลย์ในการโต้ตอบ
เนื้อหาที่คุณ ayethebing เขียนตอบคุณ raruen
ครบเครืองจริงๆ ครับ
ถ้าเป็นอย่างนี้ รับรอง rating พุ่งแน่นอน ขอบอก :wink:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 9:54 pm
โดย chatchai
วิษณ ถ้าจบโยธาละก็คงจะร่นเดียวกับผมละครับ รหัส 29 ครับ

ส่วนเรื่องที่น้อง Zippo กลัวเรื่องห้นดีแต่ไม่ค่อยมีการซื้อขาย ไม่ต้องกลัวครับ ถ้าบริษัทนั้นมี Margin of Safety ที่มากพอนะครับ ผมลงทนเป็นสิบล้าน ซื้อเพียงบริษัทเดียว ยังไม่กลัวเลยครับ กลัวแต่ตอนที่คิดจะซื้อมากกว่าครับ กลัวว่าจะมีขายไม่พอที่ผมคิดจะซื้อ

เรื่องความร้เกี่ยว FCF ของผมนับวันจะถอยหลังเข้าคลองหมดแล้วครับ เพราะวันๆนี่ได้แต่เลี้ยงลก และปลกต้นไม้ชมสวนอย่ที่บ้านครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 29, 2004 11:30 pm
โดย raruen
โยธาครับคุณพี่ chatchai
พรุ่งนี้มีงานใหญ่ครับ สังสันทน์
เจอใครใส่เสื้อรักบี้ 82 หน้าดำๆก็ทักได้นะครับ
ฮ่าๆ

คุณ ayethebing ตอบตรงใจอีกแล้ว

เมื่อก่อนตามอ่านอย่างเดียว สงสัยก็เก็บไว้
ตามศึกษาทีละน้อยมาเรื่อยๆ ก็สนุกดี
เพราะถ้ายังอ่านไม่จบแล้วมาถามเกรงจะทำให้กร่อย
เลยสะสมข้อสงสัยมาถามทีเดียว
สะใจดีครับ

ทีนี้ขอลาไปศึกษาต่อเงียบๆ
ลองทำการทดลองทดสอบสมมติฐานสักหน่อย
ผมว่าจะลองดูงบย้อนหลังสักห้าปี แล้วย้อนเวลาตัวเองไปอยู่ห้าปีก่อน ดิสเค้าปัจจุบันกลับไปตอนนั้นดู
ค่อยมาดูปัจจุบันอีกที ว่าถ้าซื้อตอนนั้นที่ราคาที่คิดได้
ตอนนี้จะมั่งคั่งขึ้นสักเท่าไร เอิกๆ หวังว่าจะมีแรงและเวลาพอ ฮิๆ

ไว้จะรวบรวมคำถามมาอีกระลอกครับ
ให้สาวๆโชว์ลีลาไปก่อน ท่าทางคุณพี่ๆจะชอบ ฮ่าๆ

ไหนๆก็ไหน เห็นคุณ ayethebing โปรโมทมาสองสามหนแล้ว
ถามเลยละกันครับ economic profit นี่มันจ๊าบยังไง
จุดเด่นจุดด้อยอยู่ที่ตรงไหนอย่างไร
ติดตามไปด้วยใจระทึกครับ.

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 11:24 am
โดย ayethebing
economic profit คือ กำไรหลังภาษีและค่าเสื่อมแต่ก่อนดอกเบี้ย - ต้นทุนการเงินของบริษัท

คอนเซปต์ของมันก้อง่ายว่ารายได้ต้องมาหักต้นทุนต่างๆ ในการดำเนินงานก่อนถึงจะได้เป็นกำไรสุทธิ ทีนี้เราก็ควรเอาต้นทุนการเงินที่เกิดจากการลงุทุนในบริษัท (ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้) มาหักออกด้วย ถ้า economic profit เป็นบวก มูลค่าบริษัทก้อเพิ่ม ถ้าติดลบมูลค่าก็โดนทำลาย มันเป็นคอนเซปต์คล้ายๆ EVA (economic value added) เพียงแต่ EVA มันมีการโยกย้ายรายการทางบัญชีให้เพื่อให้มันเป็นหลักเงินสดมากขึ้น EVA เรียกรายการเหล่านี้ว่า equity equivalent (EE) ผมเคยพูดถึงไปแล้วครั้งนึงครับ

การทำ economic profit กับ FCF เนี่ยแล้วแต่ใครชอบแบบไหน แต่ส่วนตัวผมชอบ economic profit มากกว่า เพราะมันใช้วัดผลการดำเนินงานได้ดีกว่าครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ

อ้อ หนังสือที่ผมอ่านเป็นของ McKinsey ครับ หนังสือเป็น text book เล่มหนา ราคาก้อเกือบ 3,000 บาทผมซื้อให้ที่ office แล้วก็ถ่ายเอกสารทำรูปเล่มเอาไว้ (เสียเงินแค่ 300 บาทเอง) หนังสือชื่อ

Valuation : Measuring And Managing The Value of The Companies by Tom Copeland, Tim Keller, and Jack Murrin
มี link ให้ด้วย
http://www.mckinsey.com/knowledge/books ... uation.asp

อีกเล่มที่ชอบมากคือของ Stern & Stewart เรื่องของ EVA ครับ
The Quest for Value by Joel M. Stern, G. Bennett, III Stewart

ผมถือว่าหนังสือสองเล่มนี้เป็นคัมภีร์เลยครับ ยังอ่านอย่างไม่เข้าใจหมดแต่ก็กลับมาอ่านอีกเรื่อยๆ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 2:34 pm
โดย zippo
เรียนพี่วิบูลย์(และทีมงานไขปัญหาหัวใจ) ที่นับถือ

คือน้องมีปัญหาหัวใจจะมาปรึกษา หวังว่าพี่จะช่วยน้องได้ คือแม่น้องพาไปดูตัว เนื่องจากกลัวลูกสาวจะขายไม่ออก หลังจากที่ ไปดูตัวมาหลายคน น้องก็ตัดคนที่ไม่ค่อยเข้าตาน้องออกไป พวกที่มีประวัติการเงินไม่ดี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ค่อยมีเงินสดนะค่ะ น้องไม่ชอบ :x กลัวว่าอนาคตจะต้องกัดก้อนเกลือ พวกรู้หน้าไม่รู้ใจ น้องตัดออกไปหมดเลย จนเหลือไม่กี่คน แต่ที่น้องสนใจคบหาจริงๆก็มีอยู่สองคน น้องกลุ้มใจไม่รู้จะเลือกใครดี เข้าทำนองรักพี่เสียดายน้องนะค่ะ :?

คนแรกเขาทำงานด้านประกันภัย น้องขอเรียกย่อๆว่า พี่ ภ นะค่ะ เท่าที่น้องดูประวัติเค้า EPS 5 ปี เค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปี
เค้าบอกว่าถ้าน้องมาคบกับเค้า เค้าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ทุกปี ส่วนProfit growth 4 ปีประมาณ 14% PE=8.5 PEG<1
เค้าขยันทำงานนะค่ะ หลายๆคนแย่งกันซื้อตัวเค้า เข้าใจว่าราคาค่าตัวของเค้าเคยไต่ไปอยู่ที่สองร้อยบาทเลยน่ะเนี่ย :shock:

คนที่สองเป็นหมอค่ะ ขอเรียกว่าพี่ อ EPS เค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปีเมือนกัน ปลายปีเค้าก็จะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ แต่ให้น้อยกว่าคนแรก 1%
Profit growth 4 ปีประมาณ 29% PE =8.9 PEG<1

ทั้งสองเค้าดีกับน้องมากค่ะ แต่เนื่องจากน้องเคยอกหักมาก่อน โดนผู้ชายหลอกค่ะ ก็นอกจากไม่ให้เงินแล้ว ยังเอาเงินน้องไปอีก น้องเกือบหมดตัวแหนะ ตอนนี้พวกนี้ก็ยังยืมเงินน้องอยู่ทุกวันเลยนะค่ะ จะตัดสัมพันธ์ก็กลัวจะไม่ได้เงินคืน :roll: ได้แต่หวังว่าซักวันพวกนี้จะกลับตัวกลับใจ เอาตังมาคืนน้อง ถึงจะต้องรอนาน แต่น้องก็ยังอยากจะให้โอกาสเค้าค่ะ จะรอดูซักปีสองปี แต่ถ้ายังทำร้ายใจกันไม่เลิก ถึงตอนนั้นก็คงตัดขาดกันไปเลย :evil:

จากอดีตที่ผ่านมาทำให้ระแวงมาก ไม่รู้จะเลือกฝากชีวิตไว้กับใครดี หมอกับประกันนี่อันไหนมันมั่นคงกว่ากันค่ะ

อ้อลืมบอกไป พี่ อ เนี่ยเค้าทำงานอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไม่ห่างจากกรุงเทพเท่าไหร่ ค่าตัวแค่ครึ่งร้อยเองค่ะ แถมยังเป็นหมอ น้องใช้คอมมอนเซนส์ดู คนเราไงไงมันก็ต้องมีเจ็บป่วย รายได้เค้าก็ควรจะดี ใช่ไม๊ค่ะ ถึงจะมีหมออีกหลายคนที่ใช้เงินมากไปหน่อย เนื่องจากเอาเงินไปรักษาตัวตอนป่วย ที่พิษต้มยำกุ้งระบาดแหละค่ะ รู้สึกพี่ อ เค้าไม่เป็นนะค่ะ เค้าไม่ชอบกินของข้างทางมั้งค่ะ แล้วเค้ายังเปิดคลีนิกรับคนไข้ที่อยู่ไกลตัวเมืองอีกด้วยค่ะ :o

เห็นไม๊ค่ะ เค้าเป็นคนดีมากเลยค่ะ แต่เค้าอยู่ไกลค่ะ น้องกลัวเค้านอกใจ แล้วน้องจะไม่ทันตัดไฟแต่ต้นลม อีกอย่างที่น้องกลัวคือพี่เค้าต้องใช้เงินซื้อเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัยอยู่เรื่อยๆนะค่ะ
เอ...แล้วที่ลุงคนขายอาหารกลางวัน เคยบอกไว้ว่า ไม่ควรสนใจผู้ชายที่ทำธุกิจที่มีแต่การแข่งขันด้านราคา พี่ อ กับพี่ ภ นี่เค้าเข้าข่ายรึเปล่าค่ะ

ที่จริงน้องก็ยังมีผู้ชายมาติดพันอยู่ในสต๊อกอีกน่ะค่ะ คงเนื่องมาจากน้องเป็นคนสวย แล้วก็อึ๋มอีกด้วย :wink:
พวกนี้ที่จริงประวัติก็ดีเหมือนกัน แต่ว่าเค้าอยู่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
เป็นพวกไฮโซกะพวกดังแล้วลืมตัว น้องกลัวเค้าจะไม่รักสาวบ้านนอกอย่างน้องจริง กลัวจะหลอกไปทิ้งยอดดอยนะค่ะ ก็เลยจะรอดูท่าทีเค้าไปก่อน ถ้าเค้าเลิกลืมตัวเมื่อไหร น้องอาจจะพิจารณาดูอีกที

หวังว่าพี่คงจะตอบ จม น้อง ตอนนี้น้องกลุ้มใจมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเอาทั้งคู่ก็กลัวชาวบ้านนินทาเอา
แถมน้องยังต้องเก็บเงินไว้ให้พวกคนเก่าที่ยังคาราคาซังกันอยู่ มายืมไปอีก น้องจะทำยังไงดีค่ะ :?: ตอนนี้น้องก็หาประวัติเค้ามาศึกษาเท่าที่ทำได้ ก็ได้ข้อมูลจากบริษัทหาคู่ชื่อ sex.or.th นี่แหละ แต่เนื่องจากน้องมาจากบ้านนอก ไม่ค่อยรู้จักวิธีดูผู้ชายดีๆ ประสบการณ์ ก็ยังน้อย :cry:
ใจจริงน้องก็ร่ำๆจะ ขนของเข้าไปอยู่บ้านเค้าแล้วนะค่ะ แต่ก็กลัวโดนฟันแล้วทิ้ง

จะปรึกษาเพื่อนๆของน้องที่โรงงาน แต่พวกนี้เค้าเป็นพวกเปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้าใครให้เงินเลี้ยงดูดี ก็ไปกับคนนั้น พวกนี้เค้าชอบตามกระแสค่ะ แต่น้องกะคบจริงจังค่ะ ไม่ชอบเปลี่ยนบ่อยๆ หรือพี่จะแนะนำวิธีดูว่า คนไหนจะจริงใจกับน้องมากกว่ากัน ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เพราะน้องเข้าใจว่า พี่มีแฟนประจำที่คอลัมน์เยอะ เลยไม่ชอบฟันธง ใช่ไม๊ค่ะ

จาก สาวโรงงานทำไฟแช๊ค ริรัก
ปล. ลายมือไม่สวยเพราะความรู้น้อย ต้องขออภัยด้วยค่ะ :oops:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 2:59 pm
โดย ayethebing
สุดฮาครับ จ.ม. นี้ ผมไม่อยากจะตอบ แต่เห็นแล้วมันมันส์จริงๆ เลยซนครับ ต้องตอบซักหน่อย
คนแรกเขาทำงานด้านประกันภัย น้องขอเรียกย่อๆว่า พี่ ภ นะค่ะ เท่าที่น้องดูประวัติเค้า EPS 5 ปี เค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปี
เค้าบอกว่าถ้าน้องมาคบกับเค้า เค้าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ทุกปี ส่วนProfit growth 4 ปีประมาณ 14% PE=8.5 PEG<1
เค้าขยันทำงานนะค่ะ หลายๆคนแย่งกันซื้อตัวเค้า เข้าใจว่าราคาค่าตัวของเค้าเคยไต่ไปอยู่ที่สองร้อยบาทเลยน่ะเนี่ย
คุณ ภ นี่กับผมสนิทกันมากครับ รู้จักกันมาสามปีแล้ว เค้าไม่หลอกครับ เลี้ยงดูผมเป็นอย่างดี ผมก้อเลยทำความรู้จักกับเค้าเพิ่มไป อ้อ ผมไม่ใช่เกย์นะขอบอก เค้าเลี้ยงผมด้วยความจริงใจไม่หวังอะไรตอบแทน สมกับที่ผมมอบกายใจให้ (เอ้ะ ชักยังไง) ประวัติเค้าดีครับ การงานก้อเติบโตอย่างมั่นคง คิดว่า ประกันอัคคีภัยที่เค้าเชี่ยวชาญอยู่น่าจะมีตลาดเพิ่มประมาณ 8 เปอร์เซนต์ในปีนี้ เค้ายังน่าจะได้เงินโบน้อย เอ้ย โบนัสจากการไปลงทุนอีก สรุปรวมแล้วผมคงคบกับเค้าไปอีกนาน อ้อ อาจต้องทำใจเวลาเค้าจ่ายค่าเลี้ยงดูนะครับ เพราะเท่าที่ผ่านมา ค่าตัวเค้าจะลดลงไป แต่ก้อจะฟื้นกลับมาเหมือนเดิมครับ

คุณ ภ เนี่ยไม่ได้แข่งราคามากหรอกครับ แต่ตลาดประกันภัยก้อไม่โตแบบหวือหวาเหมือนกัน ตอนนี้รายได้ของคุณ ภ มาจากเบี้ยประกันครึ่งนึง การลงทุนอีกครึ่งครับ net margin ประมาณ 44% ถือว่าค่อนข้างเยอะครับ

สำหรับคุณหมอ อ ผมไม่ค่อยรู้จักสนิทนัก ก้อเลยวิจารณ์ไม่ได้ แต่ ท่านดร. นิเวศน์ก้อเคยแนะนำไว้ในหนังสือของท่าน ก้อถือว่า resume ดีระดับนึงง่ะ

สำหรับผู้ชายที่มาติดคุณน้องไฟแช็ค ก้อดูไว้ละกัน ใครนิสัยไม่ดีก้อเลิกคบไปซะ ถ้าดีพอคบได้ก้อคบเป็นเพื่อนก้อได้ครับ

เอหรือ แต่งกับทั้งคู่ไปเลยดี ครับ อิอิ :D

ความเห็นส่วนตัวครับ ไว้รอลุงหนวดวิบูลย์ตอบต่อดีก่า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 3:22 pm
โดย CK
:lol:

แฟนผมก็ไปหลงไหลหนุ่มประกัน ภ. อยู่ครับ เห็นมีกระหนุงกระหนิงกันมา
หลายหนแล้ว :evil: เท่าที่ดูหน่วยก้าน ผมคิดว่าพ่อหนุ่มนี่เสมอต้นเสมอปลาย
ครับ ถ้าคบกันนานๆ ไม่เห็นจะเคยทำให้สาวไหนผิดหวัง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 3:25 pm
โดย stockms
ตอนนี้ผมก็ครบทั้งคนขายประกัน ภ และหมอ อ. มากว่าครึ่งปีแล้วรู้สึกว่าตัวเองรู้จักพวกเขาเร็วไปหน่อย แต่ก็อดทนคบเพราะคิดว่าพวกเขาน่าจะเป็นพวกจริงใจ มีอะไรก็แบ่งปันกัน จะรอดูถึงเดือนมีนาคมนี้ถ้าจริงใจจริงก็จะคบกันต่อไป ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 3:52 pm
โดย บุคคลทั่วไป
เคยรู้จักหมอ อ แบบห่างๆ..
เพราะเพื่อนเคยไปใช้บริการ
บอกว่าบริการดี เหมาะสมกับราคา

แต่หากจะเลือกพี่หมอแต่งงาน
มีัปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ

1.หมอ อ ไม่มีแผนงานที่จะขยายคลีนิค ดังนั้น
กำไรที่หมอ อ ทำได้ จุดหนึ่งจะไม่เพิ่มขึ้น เพราะคลีนิคเต็มแล้ว

2.ได้ข่าวแว่วๆ ว่าหมอจากกรุงเทพ ชื่อหมอ บี จะไปเปิดคลีนิคที่ั้นั่น
(หรือเปิดแล้วก็ไม่ทราบ) กลัวว่าจะไปแ่ย่งลูกค้าหมอ อ ครับ
เพราะหมอ บี มีพ่อรวย คงทุ่มงบไม่อั้นแย่งลูกค้า

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 5:01 pm
โดย harry
อ่านแล้วก็อารมณ์ดีเหมือนกันครับ ชอบๆๆๆ


ความคิดผมก็ถือไว้ทั้งสองตัว แต่ไม่ต้องมาก แล้วรอไปประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนหน้า ถ้าดี ก็ซื้อเพิ่ม หรือรอจังหวะราคาลง ก็ซื้อเพิ่มได้ครับ

แต่ก็มีหนุ่มๆให้เลือกอีกหลายร้อยคนที่ผลประกอบการดี ให้เงินใช้ได้อีกนาน ที่ผมเลือกคบเป็นเพื่อนไปอีกนาน กะฝากฝังไว้ให้เป็นที่พึ่งของครอบครัวด้วย เพราะผมเป็นผู้ชายครับ เลยเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นเกย์เหมือนคุณ aye

และต่อไปถ้าผมมีเงินเยอะขึ้นก็กะว่าจะไปทำความรู้จักกับหนุ่มประกัน ภ ด้วยเหมือนกัน ส่วนหมอ ผมเล็งหมอ น บ้านอยู่เมืองนนท์ไว้ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 5:16 pm
โดย ayethebing
ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ น้อง harry พี่ไม่ได้เป็นเกย์นะจ้ะ ลูกสองแล้วเมียอีกสี่ เอ้ย เมียคนเดียว

แหมมากล่าวหาอย่างนี้เดี่ยวฟ้องศาลเตี้ยเลยนิ

:evil:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 30, 2004 8:02 pm
โดย harry
ayethebing เขียน:ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ น้อง harry พี่ไม่ได้เป็นเกย์นะจ้ะ ลูกสองแล้วเมียอีกสี่ เอ้ย เมียคนเดียว

แหมมากล่าวหาอย่างนี้เดี่ยวฟ้องศาลเตี้ยเลยนิ

:evil:
ความหมายของผม ก็คือพี่ไม่เป็น ผมก็ไม่เป็นครับ สงสัยพิมพ์ไม่ชัดเจน ขอโทษคร้าบบบบบ :cry: :cry:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 31, 2004 5:09 pm
โดย บุคคลทั่วไป
:lol: :lol: :lol: มุขน้องแฮรี่เด็ดดวงดีจริงๆ
เล่นเอาคุณ aye รับแทบไม่ทัน :lol: :lol: :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 31, 2004 5:36 pm
โดย VIB007
ขอบคุณทุกท่านที่"ร่วมด้วยช่วยกัน"
ตอบปัญหาหัวใจให้น้อง Zippo คนสวย
ส่วนผมขอแปลงตัวเป็น"ศิราณี"ชั่วคราว
แต่ขอตอบเป็นข้อๆไปนะครับ
เพราะเห็นมีหลายคำถามกลัวตอบทีเดียวไม่หมด
zippo เขียน:เรียนพี่วิบูลย์(และทีมงานไขปัญหาหัวใจ) ที่นับถือ

คือน้องมีปัญหาหัวใจจะมาปรึกษา หวังว่าพี่จะช่วยน้องได้ คือแม่น้องพาไปดูตัว เนื่องจากกลัวลูกสาวจะขายไม่ออก หลังจากที่ ไปดูตัวมาหลายคน น้องก็ตัดคนที่ไม่ค่อยเข้าตาน้องออกไป พวกที่มีประวัติการเงินไม่ดี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ค่อยมีเงินสดนะค่ะ น้องไม่ชอบ :x กลัวว่าอนาคตจะต้องกัดก้อนเกลือ พวกรู้หน้าไม่รู้ใจ น้องตัดออกไปหมดเลย จนเหลือไม่กี่คน แต่ที่น้องสนใจคบหาจริงๆก็มีอยู่สองคน น้องกลุ้มใจไม่รู้จะเลือกใครดี เข้าทำนองรักพี่เสียดายน้องนะค่ะ :?
จาก 400 ตัว เอ๊ย 400 คนตัดเหลือแค่ 2 คน
นับว่าใจกล้าอาจหาญยิ่งนัก
แต่จากประสบการณ์ของพี่ก็อยากจะบอกว่า
อย่าไปทุ่มใจให้กับสองคนนี้เต็มร้อย
เดี๋ยวจะ"อกหัก"กลับมาหาหม่าม้า
ยิ่งเราเป็น"เด็กใหม่" หูตาอาจจะยังไม่กว้างไกล
อาจจะโดนคำหวานของสองหน่อนี้ทำเอาใจ"หวิวๆ"
เลยรีบชิงแต่งงานไปก่อนที่จะรู้จักกันมากกว่านี้
รู้หน้าไม่รู้ใจนะจ๊ะน้องจ๋า
ลองคบๆกันดูก่อน
ถ้าถูกใจก็ว่ากันไป
ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วง"ดูนิสัย"กันไปก่อนจะดีกว่า
ถ้ารีบเข้าหอเร็วไป จะน้ำตาตกในนะ
อันนี้ขอบอกจากประสบการณ์"แต่งแล้วหย่า"มาหลายรอบแล้วจ๊ะ

พี่ว่า คนดียังมีอีกหลายอยู่นา
ลองดูๆไว้ก็ไม่เสียหลายน่ะ
กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดีหรอกนะจ๊ะ
ลองติดตามค้นหาไป แล้วก็จะเจอเอง
zippo เขียน: คนแรกเขาทำงานด้านประกันภัย น้องขอเรียกย่อๆว่า พี่ ภ นะค่ะ เท่าที่น้องดูประวัติเค้า EPS 5 ปี เค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปี
เค้าบอกว่าถ้าน้องมาคบกับเค้า เค้าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ทุกปี ส่วนProfit growth 4 ปีประมาณ 14% PE=8.5 PEG<1
เค้าขยันทำงานนะค่ะ หลายๆคนแย่งกันซื้อตัวเค้า เข้าใจว่าราคาค่าตัวของเค้าเคยไต่ไปอยู่ที่สองร้อยบาทเลยน่ะเนี่ย :shock:

คนที่สองเป็นหมอค่ะ ขอเรียกว่าพี่ อ EPS เค้าก็เพิ่มขึ้นทุกปีเมือนกัน ปลายปีเค้าก็จะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ แต่ให้น้อยกว่าคนแรก 1%
Profit growth 4 ปีประมาณ 29% PE =8.9 PEG<1

ทั้งสองเค้าดีกับน้องมากค่ะ แต่เนื่องจากน้องเคยอกหักมาก่อน โดนผู้ชายหลอกค่ะ ก็นอกจากไม่ให้เงินแล้ว ยังเอาเงินน้องไปอีก น้องเกือบหมดตัวแหนะ ตอนนี้พวกนี้ก็ยังยืมเงินน้องอยู่ทุกวันเลยนะค่ะ จะตัดสัมพันธ์ก็กลัวจะไม่ได้เงินคืน :roll: ได้แต่หวังว่าซักวันพวกนี้จะกลับตัวกลับใจ เอาตังมาคืนน้อง ถึงจะต้องรอนาน แต่น้องก็ยังอยากจะให้โอกาสเค้าค่ะ จะรอดูซักปีสองปี แต่ถ้ายังทำร้ายใจกันไม่เลิก ถึงตอนนั้นก็คงตัดขาดกันไปเลย :evil:
พอดี พี่ ภ กัยหมอ อ นี่ พี่ไม่ได้คบด้วย
เลยไม่รู้ว่านิสัยเป็นอย่างไร
แต่ที่เล่ามาให้ฟัง ก็ดูท่าหน่วยก้านก็ดีพอใช้ได้
ถ้าแนะนำก็อยากให้ไปลองดูว่า
กระเป๋าตังค์ (FCF) ของสองคนนี้ใครตุงกว่ากัน
สมัยนี้ ไม่มีเงิน สาวไม่มองหรอกจริงมั๊ย
แต่เท่าที่ดูๆ ดูท่าหมอจะเป็นคนมือเติบพอสมควร
เพราะชอบซื้อของเล่น(ทางการแพทย์)ใหม่ๆเข้าบ้าน
ขณะที่พี่ ภ ของน้องเล่นกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเดียว
ไม่ต้องเอาเงินไปซื้อของเล่นมาประดับบ้าน

อีกอย่าง อยากให้น้องลองคิดถึงอนาคตด้วย
ว่าสองคนนี้ ใครจะหาเงินเก่งกว่ากัน
เกิดรายได้เท่าเดิมไปตลอด สงสัยจะต้องกินแกลบสักวัน
อันนี้น้องต้องไปสืบเอาเองนะจ๊ะ
เพราะพี่ไม่มีปัญญาจ่ายค่านักสืบเอกชนให้

ส่วนพวกที่มาหลอกน้องเอาไว้
ถ้าดูแล้วไม่มีอนาคต ก็ต้องตัดหางปล่อยวัด
ค่าเลี้ยงดูที่จ่ายไปก็ถือว่า"ทำบุญ"ไป
คราวหน้านิสัยแบบนี้จะได้ไม่มารังควาญกันอีก

พี่ก็"หย่า"ไปหลายคนแล้ว
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนดี ตั้งใจทำมาหากิน
ที่ไหนได้ พอแต่งแล้วถึงรู้ว่าเป็นอย่างไร
นอกจากจะไม่ช่วยหาเงินแล้ว ยังชอบใช้เงินเป็นเบี้ย
พวกนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้
สุดท้ายต้องจ่าย"ค่าเลี้ยงดู"ไป
ยังดีที่จ่ายเป็นก้อน ไม่ได้ตามมา"ขอ"ค่าเลี้ยงดูอีก

เจออย่างนี้ก็ต้อง"ทำใจ"หละนะ
ถือว่าเป็น"กรรม"เก่าแล้วกัน
จะได้สบายใจ
zippo เขียน: จากอดีตที่ผ่านมาทำให้ระแวงมาก ไม่รู้จะเลือกฝากชีวิตไว้กับใครดี หมอกับประกันนี่อันไหนมันมั่นคงกว่ากันค่ะ

อ้อลืมบอกไป พี่ อ เนี่ยเค้าทำงานอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไม่ห่างจากกรุงเทพเท่าไหร่ ค่าตัวแค่ครึ่งร้อยเองค่ะ แถมยังเป็นหมอ น้องใช้คอมมอนเซนส์ดู คนเราไงไงมันก็ต้องมีเจ็บป่วย รายได้เค้าก็ควรจะดี ใช่ไม๊ค่ะ ถึงจะมีหมออีกหลายคนที่ใช้เงินมากไปหน่อย เนื่องจากเอาเงินไปรักษาตัวตอนป่วย ที่พิษต้มยำกุ้งระบาดแหละค่ะ รู้สึกพี่ อ เค้าไม่เป็นนะค่ะ เค้าไม่ชอบกินของข้างทางมั้งค่ะ แล้วเค้ายังเปิดคลีนิกรับคนไข้ที่อยู่ไกลตัวเมืองอีกด้วยค่ะ :o

เห็นไม๊ค่ะ เค้าเป็นคนดีมากเลยค่ะ แต่เค้าอยู่ไกลค่ะ น้องกลัวเค้านอกใจ แล้วน้องจะไม่ทันตัดไฟแต่ต้นลม อีกอย่างที่น้องกลัวคือพี่เค้าต้องใช้เงินซื้อเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัยอยู่เรื่อยๆนะค่ะ
เอ...แล้วที่ลุงคนขายอาหารกลางวัน เคยบอกไว้ว่า ไม่ควรสนใจผู้ชายที่ทำธุกิจที่มีแต่การแข่งขันด้านราคา พี่ อ กับพี่ ภ นี่เค้าเข้าข่ายรึเปล่าค่ะ
ถ้าถามว่าหมอกับประกันใครเป็นคนดีกว่ากัน
พี่ก็คงตอบแทนไม่ได้
เพราะไม่รู้จักทั้งคู่
แต่ดูๆทั้งคู่ก็คงแบ่งเงินมาเลี้ยงดูน้องบ้างหละน่ะ
คงไม่ปล่อยให้อดอยาก
อันนี้แล้วแต่ชอบแล้วแต่ถนัด

ถ้าให้ดีพี่อยากให้น้อง"รู้จัก"สองคนนี้ให้มากขึ้น
อย่าทำตัวเป็นวัยรุ่นใจร้อน
การลงทุนไม่เหมาะกับวัยรุ่นนะจ๊ะ
เพราะวัยรุ่นชอบใช้อารมณ์เป็นใหญ่
สุดท้ายก็โดน Mr.Market หลอกไปข่มขืน
มีให้เห็นอยู่เป็นประจำตามหน้าหนังสือพิมพ์
กลัวหรือเปล่า
zippo เขียน: ที่จริงน้องก็ยังมีผู้ชายมาติดพันอยู่ในสต๊อกอีกน่ะค่ะ คงเนื่องมาจากน้องเป็นคนสวย แล้วก็อึ๋มอีกด้วย :wink:
พวกนี้ที่จริงประวัติก็ดีเหมือนกัน แต่ว่าเค้าอยู่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
เป็นพวกไฮโซกะพวกดังแล้วลืมตัว น้องกลัวเค้าจะไม่รักสาวบ้านนอกอย่างน้องจริง กลัวจะหลอกไปทิ้งยอดดอยนะค่ะ ก็เลยจะรอดูท่าทีเค้าไปก่อน ถ้าเค้าเลิกลืมตัวเมื่อไหร น้องอาจจะพิจารณาดูอีกที
อย่างที่บอกล่ะจ๊ะ
มีดีต้องโชว์ เอ๊ย ไม่ใช่ มีคนดีๆอีกเยอะแยะนะจ๊ะ
บางครั้งคนรวยก็ไม่ใช่ไฮโซเสมอไปนะจ๊ะ
คนรวยนิสัยดีก็เยอะไป จริงมั๊ย
zippo เขียน: หวังว่าพี่คงจะตอบ จม น้อง ตอนนี้น้องกลุ้มใจมากกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเอาทั้งคู่ก็กลัวชาวบ้านนินทาเอา
แถมน้องยังต้องเก็บเงินไว้ให้พวกคนเก่าที่ยังคาราคาซังกันอยู่ มายืมไปอีก น้องจะทำยังไงดีค่ะ :?: ตอนนี้น้องก็หาประวัติเค้ามาศึกษาเท่าที่ทำได้ ก็ได้ข้อมูลจากบริษัทหาคู่ชื่อ sex.or.th นี่แหละ แต่เนื่องจากน้องมาจากบ้านนอก ไม่ค่อยรู้จักวิธีดูผู้ชายดีๆ ประสบการณ์ ก็ยังน้อย :cry:
ใจจริงน้องก็ร่ำๆจะ ขนของเข้าไปอยู่บ้านเค้าแล้วนะค่ะ แต่ก็กลัวโดนฟันแล้วทิ้ง

จะปรึกษาเพื่อนๆของน้องที่โรงงาน แต่พวกนี้เค้าเป็นพวกเปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้าใครให้เงินเลี้ยงดูดี ก็ไปกับคนนั้น พวกนี้เค้าชอบตามกระแสค่ะ แต่น้องกะคบจริงจังค่ะ ไม่ชอบเปลี่ยนบ่อยๆ หรือพี่จะแนะนำวิธีดูว่า คนไหนจะจริงใจกับน้องมากกว่ากัน ก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เพราะน้องเข้าใจว่า พี่มีแฟนประจำที่คอลัมน์เยอะ เลยไม่ชอบฟันธง ใช่ไม๊ค่ะ

จาก สาวโรงงานทำไฟแช๊ค ริรัก
ปล. ลายมือไม่สวยเพราะความรู้น้อย ต้องขออภัยด้วยค่ะ :oops:
ความรู้น้อยก็ไม่ใช่ปมด้วยนะจ๊ะ
พี่ก็จบป.4 มาก่อน
แต่อาศัยค้นคว้าหาความรู้เลยได้มีโอกาสมาเสอหน้าอยู่อย่างนี้
ถ้าน้องอยากศึกษาการ"สวนกระแส"
น้องมาถูกที่แล้วล่ะจ๊ะ
เพราะพวกพี่ๆก็โดนไล่ออกมาเหมือนกัน
เลยมารวมกันอยู่ที่นี่

ข้อมูลในเวป SEX ที่น้องดูอยู่นั้น
ก็ใช้ได้ดี พี่ก็อาศัยดูงบการเงินกับ 56-1
ถ้าอยากดูงบสิบปี ก็ต้องใช้เวปของโบรกแล้วล่ะจ๊ะ
โบรกกิมจ้อที่พี่ใช้อยู่ก็หาข้อมูลได้ดี
ดูในหัวข้อข่าวของบริษัท ถอยหลังไปทีละสองปี

สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณพระศรีรัตนตรับย
ช่วยคุ้มครองน้อง Zippo ให้หลุดรอดจากพวกฟันแล้วทิ้ง
ขอให้เจอแต่คนจริงใจ รักจริงหวังแต่ง ด้วยเทอญ

สาธุ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 31, 2004 11:23 pm
โดย Mon money
น้องจ๋าไม่พิจารณาพี่ม.บ้างหรือ น่าจะเข้ากันได้เลยนะเพราะมีบุหรี่ติดกระเป๋าตลอดเวลา

พี่ศิลาบูลย์ครับ ได้ข่าวว่าช่วงนี้ก็หัดสูบบุหรี่เหมือนกันไม่ใช่หรือ?

กระทู้นี้มีสีสันขึ้นมาทันตาเห็นเลยเมื่อมีสาวๆเข้ามาร่วมงานด้วย สนุกดีครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 31, 2004 11:44 pm
โดย VIB007
สวัสดีครับคุณมน

ว่าไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังติดบุหรี่ครับ
ยิ่งเก็บยิ่งมัน
แต่เก็บเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็"แดง"หมดแล้ว
เลย"ติด"จริงๆ
แต่ไม่กลัวครับ
อาศัยเป็นก้นบุหรี่มีก้นกรอง เลยเหลือก้นเยอะหน่อย
เก็บไว้ได้นาน ไม่ต้องรีบสูบ
ดังนั้น หวัดนกคงทำอะไรก้นบุหรี่ผมไม่ได้ในระยะยาว

แต่แปลกแต่จริง
คนหันมาทิ้งซิการ์มวนใหม่กันเยอะแยะ
บางทีผมอาจจะอดใจไม่ไหว
ไปเก็บซิการ์ชั้นดีถูกๆเอาไว้บ้างก็ได้

ถ้า Mr.Market แน่จริงก็ลงมาให้เห็นเหลือสัก 350 จุดเลยเป็นไร
ก็ลงไป 50% ตามตำราของอาจารย์บัฟเฟตไงครับ
ผมจะได้จำนองบ้าน จำนองรถไปซื้อให้หมดตลาด

กลัวอย่างเดียว
มันจะไม่กล้าลงให้เห็นนะซิครับ ฮ่า ฮ่า

แล้วคุณมนตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ยังไงก็ระวังปอดเอาไว้บ้างนะครับ
เดี๋ยวสูบบุหรี่มากจะ"แดง"เอาเหมือนผม อิ อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 31, 2004 11:50 pm
โดย VIB007
เออ มีคำถามสำหรับทุกท่านครับ

ตอนนี้หุ้นกำลังตกๆ
เมื่อวานปิดลบไป 15 จุด
หลุดระดับ 700 ไปแล้ว เหลือ 698 จุด

อยากรู้ว่าพี่ๆน้องๆแต่ละท่านเป็นอย่างไรบ้าง
ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า
แล้วแต่ละท่านมี"กลยุทธ"อย่างไรสำหรับสถานการณ์หุ้นตกๆเพราะ"หวัดนก"อย่างนี้บ้างครับ

เอามาคุยกันเล่นๆ เป็นอุทธาหรณ์สำหรับมือใหม่หัดขับครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 7:40 am
โดย ch_army
พี่ครับผมอยากถามซักหน่อยตอนนี้หุ้นลงมาพอสมควรแล้ว และคิดว่าจะลงต่อพี่ว่าผมควรทยอยซื้อไปบ้างได้หรือยังครับ กลัวเวลาตกจนกำลังจะเด้งขึ้นแล้วจะไล่ราคาไม่ทันเค้าแล้วอดได้ของดีๆ

ตอนนี้พอร์ตของผมก็ติดลบอยุ่แต่ว่าผลกำไรรวมยังไม่ติดลบ เผอิญ ผมเข้าลงทุนตอนกลางเดือนธันวาที่ผ่านมาเองเลยไม่มีโอกาสเก็บห้นที่ดดีและต้นทนต่ำไว้ แต่ตอนนี้ดีที่ว่าขายห้นไปก่อนแล้วก่อนเกิดโรค หวัดนกเล็กน้อย :) ไม่รูคิดไงถึงขายแต่เรียกได้วง่าตัดสินใจถูกมากเพราะ "กำไรในวันนั้น ทำให้พอร์ตรวมผมยังกำไรได้ในวันนี้" ตอนนี้ที่ถือไว้ก็ไม่ใช่หุ้น แบบ VI เท่าไรแต่ก็เป็นห้นที่พื้นฐานพอใช้ได้ เลย ต้องถือไว้ก่อนแล้วไล่ซื้อเฉลี่ยแต่ ก็อย่างที่ปรึกษาไปแหละครับ กลัวย่งซื้อ ปอดยิ่ง แดง ยิ่งแดง :oops: แถมพอกำลังจะเขียวก็เงินหมด :( หรือซื้อไม่ทัน เฮ้องาน
นี้ มือใหม่ตัดสินใจลำบาก

แล้วตอนนี้พี่ๆช้อนเก็บกันเยอะไหมครับ ระวังๆหน่อยนะครับ ช้อนมากไปผมห่วงเดี๋ยวช้อนหักก่อนได้เก็บของถูกสุดๆ

ป.ล. ผมงงๆ มากกเลย ไก่เป็นโรคหวัดนกเกี่ยวไรกับ หุ้นธุรกิจที่ผมถือได้ไง งง งง งง งง เฮ้อ กลุ้มใจ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 1:14 pm
โดย harry
ผมก็นอนหลับสบายดีครับ แม้ว่าหุ้นที่ถืออยู่จะแดงต่อเมื่อเก็บได้มา แต่ก็สบายใจเพราะเราว่าเราเลือกหุ้นดีแล้ว และก็มั่นใจว่าราคาที่ได้ก็คือถูกแล้ว ถ้าลงไปอีก ก็ยิ่งถูกลงไปอีก

ถ้าผมมีเงินเพิ่มอีกตอนนี้ ใจนึงก็อยากเข้าเก็บเลย เพราะถูกกว่าที่เคยซื้อ นอกจากได้เฉลี่ยต้นทุนให้ต่ำลงแล้ว ก็ยังได้เพิ่ม ทำให้ปันผลที่จะได้รับก็เพิ่มขึ้นไปขึ้นไปตามจำนวนหุ้นด้วย ลดต้นทุนลงไปอีกต่างหาก

pttep มีจุดเสียวยังงัย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 3:32 pm
โดย carlos
สวัสดีครับ พี่ๆ tvi ผมเพิ่งจะ register เสร็จเมื่อกี้เอง ขอฝากตัว และหัวใจด้วยครับ
เห็นพี่วิบูลย้ ถามว่า pttep มีจุดเสียวยังงัย ผมเดาเอาว่าเป็นเรื่องอัตาแลกเปลี่ยนหรือเป่าคับ แต่ผมก้อยังไม่ค่อยเข้าใจ ธุรกิจเขาเท่าไหร่
ผมเดาเอาว่า สินค้าเขาขายเป้นเงินดอลใช่ปะคับ แบบ น้ำมันก้อ ดอลลาร์ต่อบาเรล ประมาณนี้
ส่วนต้นทุน ผมไม่ค่อยเข้าใจว่า เขามีต้นทุนอะไรบ้าง
ต้นทุนการซึ้อกิจการ ก้อน่าจะเป็นดอลลาร์ใช่ปะคับ อย่างตอนซื้อไทยเชลล์ ก้อตกลงกันเป้นดอลลารืใช่ปะคับ
แต่ต้นทุนด้านอื่น ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง และเป็น บาท หรือ ดอลลาร์ พี่ๆ พอจะบอกได้ไหม อย่างค่าจ้างแรงงานถ้าเป็นคนไทยก้อคงเป้นบาท
แต่ถ้าเป็นต่างชาติไม่รู้ว่า เป็นบาท หรือดอลลาร์

ทั้งหมดนี้ผมเดาเอานะคับ เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนทำงาน กับพวกสะดือทะเล เลย

เฮีย ภ ถูกจับแก้ผ้าให้ zippo มาดูตัว

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 3:37 pm
โดย carlos
เฮีย ภ ถูกจับแก้ผ้าให้ zippo มาดูตัว
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... __0127.pdf

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 01, 2004 4:10 pm
โดย บุคคลทั่วไป
เอ..จุดเสียวของพี่เทพ
เกี่ยวข้องกับสัญญา take or pay หรือเปล่าครับ
ดูเหมือนว่า พี่เทพจะตัดรายจ่ายเป็นรายได้หรือเปล่าครับ
ซึ่งจะทำให้กำไรมากกว่าปกติ
ไม่แน่ใจนะครับ เพราะไม่ได้ติดตามมาก