หน้า 24 จากทั้งหมด 30
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 9:16 pm
โดย Windy
คนที่ทำงานอยู่และมีประกันสังคม ก็ต้องใช้สิทธิประกันสังคม
ถ้าไม่มีประกันสังคมหรือออกจากงานแล้ว ถึงจะใช้สิทธิบัตรทอง
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 9:29 pm
โดย SunShine@Night
naris เขียน:
ถ้าเราวิเคราะห์แยกเป็นปัจจัยเชิงปริมาณและปัจจัยเชิงคุณภาพ
พี่ขอถามกลับว่า ส่วนตัวน้องซันชอบภาพลักษณ์ของโฮมโปรและโกลบอลมากกว่ากันครับ และในส่วนไฟแนนซ์เคยใช้บริการของทั้งสองที่แล้วหรือยังครับ ถ้าพี่จะซื้อลงทุนพี่จะพยายามไปทดลองการใช้บริการดูและพยายามหารูปแบบการทำธุรกิจของเขา หาจุดอ่อนจุดแข็งของทั้งสองแห่งโดยดูจากรูปแบบการทำธุรกิจครับ
ส่วนปัจจัยเชิงปริมาณนั้นน่าจะหมูกว่า เพราะเราสามารถดูความสามารถการบริหารทรัพย์สิน ความเสี่ยง โอกาสที่จะโต จากการกระทำในอดีตได้ครับ ลองไปเทียบดูแล้วน่าจะเห็นภาพค่อนข้างชัดเจนสำหรับมวยทั้งสองคู่ครับ
พอได้ภาพรวมของทั้งสี่บริษัทแล้ว สุดท้ายนำมาเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันครับ เพราะถึงแม้นบางตัวจะมีทุกอย่างที่ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่ราคาที่ต้องลงทุนในปัจจุบันกลับแพงกว่า จึงยังไม่ใช่จังหวะที่ควรจะลงทุนครับ
ตอบพี่นริสนะครับ
ส่วนตัวชอบ HMPRO มากกว่าครับ เพราะที่บ้านเวลาไปซ์อของแต่งบ้านก็ไปที่ HMPRO ตลอดอาจจะเพราะมีสาขาที่ใกล้บ้านมากว่า (บ้านผมอยู่ราชพฤกษ์) เลยถือเอาความสะดวกเป็นที่ตั้งครับ
ส่วนไฟแนนซ์ไม่เคยใช้เลยครับ มองไปอีก 2-3 ปีก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องไปใช้บริการเขา เลยไม่รู้ว่าจะประเมินอย่างไรดีว่าภาพลักษณ์ตัวไหนดีกว่าในตลาด
ส่วนการเติบโตผมมองว่า GLOBAL จะโตมากกว่า HMPRO ครับ แต่โตไปพร้อมกับความเสี่ยงเรื่องการเพิ่มทุน เหมือน HMPRO ช่วงขยายสาขาช่วงแรกๆ ในขณะที่ตอนนี้ HMPRO ขยายสาขาในสัดส่วนที่น้อยกว่า แต่ปัญหาเรื่องเงินทุนได้หมดไปแล้ว
สำหรับ KCAR ยังทำได้ดีอยู่ในแง่การเติบโตช่วง 2-3 ปีหลัง แต่ราคาหุ้นไม่ไปตามเลยครับ
รบกวนพี่นริสเสริมต่อด้วยครับ

นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 18, 2010 1:38 am
โดย doc_zodi
naris เขียน:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่แบบพี่ที่มีทั้งบัตรประกันสังคมและบัตรทองนี่หมายความว่า ถ้ามีการใช้ใน รพ.นี่สามารถใช้ได้บัตรเดียวเหรอครับ(พี่ก็ไม่เคยใช้ทั้งสองบัตร แต่เคยพนักงานฝ่ายบัญชีเคยแจ้งว่าพี่มีทั้งสองบัตร แต่นานมาแล้ว)
และที่ว่าทุกคนจะมีได้บัตรเดียวนี่แล้วถ้าคนๆนั้นลาออกจากงานแล้วทำอย่างไรครับ ในเมื่อประกันสังคมก็ไม่ได้ต่อในปีถัดไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลอีกครั้งครับ
พีต้องใช้สิทธิประกันสังคมครับ ตามที่ผมเรียงลำดับไว้ (ขอโทษ ไม่ใช่ผมเรียง เป็นกฎหมาย)
แต่ในความเป็นจริง
บางโรงพยาบาลจะขึ้นสิทธิให้คนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเอง เพราะเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของ สปสช. คือ %coverage ของการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ ที่สำคัญถ้าไม่มีการโต้แย้งโรงพยาบาลได้เงินเหมาจ่ายรายหัวครับ (โรงพยาบาลผมก็ทำ ใครสิทธิว่างขึ้นให้เลย จริงๆผิดนะครับ

)
พี่มีสองบัตรน่าจะเพราะตอนแรกที่ทำบััตรประกันสังคมต้องใช้เวลา ช่วงรอก็จะเป็นสิทธิว่าง ตอนนี้แหละครับ ถ้าบังเอิญ รพ.เจอ ก็จะขึ้นสิทธิให้ ก็เลยมีโอกาสได้ 2 บัตร แต่หลักการก็คือถ้าเจอว่ามี 2 บัตรต้องยกเลิกบัตรทองครับ แต่กรณีพี่ที่มีคนเจอว่ามี 2 บัตรแล้วยังเฉยๆ ก็อาจเป็นได้ว่าคนเจอไม่รู้ระเบียบ หรือรู้แต่ลักไก่ เพราะโรงพยาบาลได้ 2 เด้ง เหมาจ่ายรายหัวจากทั้งประกันสังคมและ จาก สปสช. ต้องระวังครับเพราะ สปสช.จะสุ่มตรวจ ถ้าเจอคงโดนปรับครับ
ถ้าลาออกจากงาน บัตรประกันสังคมยังใช้ได้อีก 6 เดือนครับ นับจากเดือนสุดท้ายที่เราถูกหักเงินส่งกองทุนประกันสังคม ระหว่างนั้นก็แจ้งโรงพยาบาลที่เราจะขอขึ้นทะเบียนบัตรทอง ทำบัตรทองแทนครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 18, 2010 9:50 am
โดย naris
doc_zodi เขียน:
พีต้องใช้สิทธิประกันสังคมครับ ตามที่ผมเรียงลำดับไว้ (ขอโทษ ไม่ใช่ผมเรียง เป็นกฎหมาย)
แต่ในความเป็นจริง
บางโรงพยาบาลจะขึ้นสิทธิให้คนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลเอง เพราะเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของ สปสช. คือ %coverage ของการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ ที่สำคัญถ้าไม่มีการโต้แย้งโรงพยาบาลได้เงินเหมาจ่ายรายหัวครับ (โรงพยาบาลผมก็ทำ ใครสิทธิว่างขึ้นให้เลย จริงๆผิดนะครับ

)
พี่มีสองบัตรน่าจะเพราะตอนแรกที่ทำบััตรประกันสังคมต้องใช้เวลา ช่วงรอก็จะเป็นสิทธิว่าง ตอนนี้แหละครับ ถ้าบังเอิญ รพ.เจอ ก็จะขึ้นสิทธิให้ ก็เลยมีโอกาสได้ 2 บัตร แต่หลักการก็คือถ้าเจอว่ามี 2 บัตรต้องยกเลิกบัตรทองครับ แต่กรณีพี่ที่มีคนเจอว่ามี 2 บัตรแล้วยังเฉยๆ ก็อาจเป็นได้ว่าคนเจอไม่รู้ระเบียบ หรือรู้แต่ลักไก่ เพราะโรงพยาบาลได้ 2 เด้ง เหมาจ่ายรายหัวจากทั้งประกันสังคมและ จาก สปสช. ต้องระวังครับเพราะ สปสช.จะสุ่มตรวจ ถ้าเจอคงโดนปรับครับ
ถ้าลาออกจากงาน บัตรประกันสังคมยังใช้ได้อีก 6 เดือนครับ นับจากเดือนสุดท้ายที่เราถูกหักเงินส่งกองทุนประกันสังคม ระหว่างนั้นก็แจ้งโรงพยาบาลที่เราจะขอขึ้นทะเบียนบัตรทอง ทำบัตรทองแทนครับ
อ๋อ..เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากที่ให้ความรู้ครับ

นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 18, 2010 10:35 am
โดย pacabee
ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่นริศ ผมจะขยันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 18, 2010 7:45 pm
โดย โว้กว้าก
naris เขียน:
ของ ดร.ภาพร ครับ สี่ห้าเล่มที่พิมพ์ออกมาขาย มีทั้งแบบง่ายๆพื้นฐาน และยากๆแบบจับผิดงบครับ น่าอ่านทุกเล่มครับ

ส่วนเรื่องเรียนพี่เคยเรียนจากสำนักเดียวครับ สำนักอาจารย์มนตรี ครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 3:12 pm
โดย vi_tal signs
พี่นริศครับ อยากทราบว่าเวลาเลือกหุ้นตัวนึงนี่พี่ดูละเอียดจัง
พี่มีหาความรู้เพิ่มเติมขนาดไหนครับ
ที่ถามคือ HTECH หนะครับ ไม่ทราบว่าพี่มีความรู้ด้านนี้มาก่อนขนาดไห
แล้วพี่มี source ในการเพิ่มเติมความรู้สำหรับหุ้นตัวนี้ ( หรือตัวอื่น )
ได้อย่างไรครับ ( ธุรกิจของพี่นริศเป็น supermarket ใช่ไหมครับ )
เวลาผมศึกษาตัวนี้ก็จะพยายามค้นๆ source หลายแหล่งจาก internetครับ
แต่คงไม่มีโอกาสได้คลุกคลีหรือคุยกับผู้ประกอบการเช่นนี้
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 4:37 pm
โดย wit163
สวัสดีครับ
อยู่จังหวัดเลย
เพิ่งรู้จัง VI ลองเข้ามาเจอ
คุณ นริศ
มีโอกาศอาจจะได้พบนะครับ :lol:
ขอบคุณครับตามอ่านเนื่อหาต่างๆในยามว่างต่อ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 5:32 pm
โดย naris
[quote="vi_tal
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 5:32 pm
โดย naris
[quote="wit163"]สวัสดีครับ
อยู่จังหวัดเลย
เพิ่งรู้จัง VI ลองเข้ามาเจอ
คุณ นริศ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 9:42 pm
โดย Dekfaifah
เข้ามาแวะทักทายปี 2010 ครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของพี่นริศที่ให้กับน้องๆ ตลอดมากนะครับ แหมแอบขาย KYE ไปกว่าจะรู้ตั้งนาน เหอะๆ
ปีนี้ก็เอาหลักการปรับ Port ของพี่นริศที่เคยบอกมาใช้ด้วย คิดว่าปีนี้คงเป็นอีกปีที่ลงทุนยากขึ้นมาก งั้นขอถามคำถามสำหรับปีนี้เลยนะครับ
--ถ้ากิดค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา พี่นริศว่าอุตสาหกรรมใดจะมีผลกระทบบ้างครับ จากมากไปหาน้อย
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 11:37 pm
โดย neo_potato_Th
รบกวรถามพี่ นริศ ครับ
ใน case ของ NBC ผมสังเกตุเห็นว่าพี่นริศ ค่อนข้างมอง trend ได้ค่อนข้างตรงกับแนวความคิดของผู้บริหาร (ก่อนคนทั่วๆไป)
ผมอยากว่าตัวอย่างในcase นี้พี่มีกลไกลการคิดอย่างไรถึงมอง catalyst แต่ละตัวได้ขาดขนาดนี้ครับ
ขอบคุณครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 21, 2010 11:58 pm
โดย vi_tal signs
ปกติพี่นริศศึกษาธุรกิจ หรือหุ้นตัวนึงนานไหมครับ
สมมติถ้าศึกษาเสร็จ หุ้นที่สนใจ ดันขึ้น จนไม่มี MOS แล้ว
พี่จะตัดสินใจอย่างไรครับ :oops:
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 7:46 am
โดย naris
[quote="Dekfaifah"]เข้ามาแวะทักทายปี 2010 ครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 7:47 am
โดย naris
neo_potato_Th เขียน:รบกวรถามพี่ นริศ ครับ
ใน case ของ NBC ผมสังเกตุเห็นว่าพี่นริศ ค่อนข้างมอง trend ได้ค่อนข้างตรงกับแนวความคิดของผู้บริหาร (ก่อนคนทั่วๆไป)
ผมอยากว่าตัวอย่างในcase นี้พี่มีกลไกลการคิดอย่างไรถึงมอง catalyst แต่ละตัวได้ขาดขนาดนี้ครับ
ขอบคุณครับ
ไม่มีกลไกอะไรในการคิดหรอกครับ การมองหน่ะมองได้ แต่อนาคตจะเป็นไปตามที่พี่มองไว้หรือเปล่ายังต้องรอพสูจน์ครับ :lol:
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 7:51 am
โดย naris
[quote="vi_tal signs"]ปกติพี่นริศศึกษาธุรกิจ หรือหุ้นตัวนึงนานไหมครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 8:20 pm
โดย neo_potato_Th
naris เขียน:
ไม่มีกลไกอะไรในการคิดหรอกครับ การมองหน่ะมองได้ แต่อนาคตจะเป็นไปตามที่พี่มองไว้หรือเปล่ายังต้องรอพสูจน์ครับ :lol:
ต้องใช้จินตนาการใช่มั้ยครับ

นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 22, 2010 9:07 pm
โดย TavanTa
คำถามนี้ น่าจะต้องมีคนเคยถามพี่นริศมาก่อนบ้างแล้ว
ผมขอถามซ้ำสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาก็แล้วกันน่ะครับ.
1. พี่ธีกระจายความเสี่ยง โดยถือหุ้นในพอร์ตอยู่กี่ตัว
2. ในพอร์ตมีหุ้นครบกลุ่มอุตสาหกรรม หรือว่าถือเฉพาะตัวที่มั่นใจเท่านั้น
3. ในตลาดปัจจุบัน พี่คิดว่าอุตสาหกรรมใดที่ค่อนข้างแข็งแรง หรือพี่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
4. ในภาวะที่การเมืองเริ่มตั้งเค้าจะรุนแรงอย่างอาทิตย์นี้ พี่จะลดพอร์ตการลงทุนลงหรือไม่ หรือจะซื้อเพิ่มครับ เพราะเหตุใด
ขอจบคำถาม 4 ข้อก่อน
ขอบคุณครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 24, 2010 11:00 am
โดย naris
TavanTa เขียน:คำถามนี้ น่าจะต้องมีคนเคยถามพี่นริศมาก่อนบ้างแล้ว
ผมขอถามซ้ำสำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาก็แล้วกันน่ะครับ.
1. พี่ธีกระจายความเสี่ยง โดยถือหุ้นในพอร์ตอยู่กี่ตัว
-ปกติจะถือ7-15ตัวครับ โดยจะกระจายความเสี่ยงโดยยึดหลักเปอร์เซนต์การถือครองจากความชอบและความรู้จริงในตัวนั้นๆ
2. ในพอร์ตมีหุ้นครบกลุ่มอุตสาหกรรม หรือว่าถือเฉพาะตัวที่มั่นใจเท่านั้น
-ไม่ครบกลุ่มครับ หุ้นโภคภัณฑ์และแบงค์ไฟแนนซ์จะพยายามหลีกเลี่ยงเพราะคิดว่าไม่รู้จริง
3. ในตลาดปัจจุบัน พี่คิดว่าอุตสาหกรรมใดที่ค่อนข้างแข็งแรง หรือพี่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
-แข็งแรงในพื้นฐานนะครับ ไม่ใช่ราคาหุ้น ถ้าแข็งแรงตามพื้นฐาน ในเมื่อเราดูผลกำไรในอนาคตคือคุณค่าที่เราได้รับ แสดงว่าปัจจัยที่มีผลต่อกำไรในอนาคตก็มี รายได้ในอนาคต และ ระดับอัตรากำไรขั้นต้นในอนาคต ถ้าเราวิเคราะห์หาธุรกิจที่รายได้ในอนาคตโอกาสลดลงน้อยกว่าโอกาสโตขึ้น และจุดแข็งของบริษัทนั้นๆเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นคิดว่าไม่ลด กำไรในอนาคตก็มีโอกาสขึ้นมากกว่าลง ลองไปหาดูนะครับถ้าเจอแล้วลองมาคุยกัน
4. ในภาวะที่การเมืองเริ่มตั้งเค้าจะรุนแรงอย่างอาทิตย์นี้ พี่จะลดพอร์ตการลงทุนลงหรือไม่ หรือจะซื้อเพิ่มครับ เพราะเหตุใด
-ในเมื่อรู้ว่าการเมืองส่อเค้ารุนแรง ถ้าเราเป็นกลุ่มคนที่เล่นรอบ ก็ควรขาย แต่จริงๆควรขายไปตั้งแต่ต้นอาทิตย์ที่แล้วมากกว่านะครับ ส่วนคนที่ลงทุนในบ.ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองก็คงจะมองหาจุดที่จะสวิทย์หรือเพิ่มพอร์ตในช่วงเลวร้ายสุดๆมากกว่าที่จะขายครับ
ขอจบคำถาม 4 ข้อก่อน
ขอบคุณครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 24, 2010 5:50 pm
โดย TPH
ขอบคุณพี่นริศที่คอยมาตอบคำถามและแบ่งปันความรู้ ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่ถามคำถามดี ๆ :)
ผมเองยังเป็นมือใหม่ครับ การเดินทางในเส้นทางการลงทุนยังอ่อนนักประมาณ 2 ปีนิด ๆ แต่ก็โชคดีหรือเปล่าไม่แน่ใจที่ได้รู้จัก web tvi ก่อนที่จะเริ่มเปิดพอร์ท ไม่อย่างนั้นตอนนี้อาจจะเข็ดขยาดตลาดหุ้นไปอีกนาน :lol:
อยากจะสอบถามพี่นริศว่าพี่มีมุมมองหรือวิธีสังเกตุ qualitative ของหุ้นแต่ละตัวยังไงบ้างครับ พี่มีหนังสือแนะนำบ้างหรือเปล่า และอีกข้อครับผมเห็นพี่ค่อนข้างจะลงทุนในหุ้น ipo ที่มีข้อมูลค่อนข้างจะน้อยสำหรับนักลงทุนรายย่อย พี่มีวิธีดูหุ้นพวกนี้ยังไงบ้าง จะเห็นได้จากการที่พี่ลงทุนใน HTECH, NBC,SIS เป็นต้น
ขอบคุณมากครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 10:21 am
โดย moonchild
ถามต่อจากพี่ TPH ครับ
ถ้าเป็นช่วงตลาดปกติพี่นริศจะสนใจหุ้น ipo หรือปล่าวครับ
ขอบคุณครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 10:54 am
โดย nun08
รอฟังเหตุผลใด พี่นริศถึงสนใจลงหุ้น ipo.......

:D ขอบคุณพี่ด้วยครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 2:45 pm
โดย naris
[quote="TPH"]ขอบคุณพี่นริศที่คอยมาตอบคำถามและแบ่งปันความรู้ ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่ถามคำถามดี ๆ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 2:49 pm
โดย naris
moonchild เขียน:ถามต่อจากพี่ TPH ครับ
ถ้าเป็นช่วงตลาดปกติพี่นริศจะสนใจหุ้น ipo หรือปล่าวครับ
ขอบคุณครับ
การที่ตลาดดีไม่ดี ไม่ใช่เหตุในการซื้อIPOครับ เพียงแต่พี่ให้ข้อสังเกตุว่าในช่วงตลาดไม่ดี มีสองสิ่งที่ทำให้หุ้นIPOน่าสนใจคือ
1.กำไรน่าจะเป็นจุดต่ำเกือบที่สุด และถ้าเขายังสามารถทำกำไรได้ดี แสด
งให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ
2.ราคาที่ขาย จะขายแพงไม่ได้ เพราะกลัวขายไม่หมด
ราคาจึงเป็นที่น่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา
แต่ไม่ไดหมายความว่า พอตลาดดีๆ จะไม่มีหุ้นที่น่าสนใจ พอมีหุ้นipoออกมา ถ้าเราว่างเราควรดูและวิเคราะห์เช่นเดียวกันกับช่วงตลาดไม่ดี ถ้าเขาขายแพงเราก็ตั้งราคาในใจของเราไว้ และคอยซื้อช่วงที่ราคาถูกลงมาครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 7:44 pm
โดย TPH
[quote="naris"]การที่เราจะรู้คุณภาพของธุรกิจ พี่ว่ามีองค์ประกอบสามเรื่อง
1.เราก็ต้องรู้ธรรมชาติของอุตสาหกรรม
2.เราต้องรู้โมเดลธุรกิจของเขา
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 7:51 pm
โดย chatchai
สิ่งที่ผมกลัวสุดของหุ้นเข้าตลาดใหม่ๆก็คือ การตกแต่งบัญชี หรือที่เรียกกันว่าแต่งตัวเข้าตลาด
สมัยก่อน ต้องแต่งตัวกันนานเป็นปีหรือสองปีทีเดียว
เราจึงมักจะได้พบบริษัทที่ก่อนเข้าตลาดงบการเงินดีเชียว ผลการดำเนินงานเยี่ยม แต่พอเข้าตลาดเสร็จ หน้ามือเป็นหลังมือ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 8:07 pm
โดย TPH
[quote="chatchai"]สิ่งที่ผมกลัวสุดของหุ้นเข้าตลาดใหม่ๆก็คือ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 25, 2010 9:06 pm
โดย chatchai
TPH เขียน:ได้ข่าวมาว่าพี่ Chatchai เนี่ยนักบัญชีที่ตรวจสอบงบการเงินยังวิเคราะห์ หรือตรวจพบความผิดปกติงบได้ไม่เท่าพี่ Chatchai พี่มีหนังสือวิเคราะห์งบดี ๆ ซักเล่มสองเล่มไหมครับ ผมมีเพียงเล่มเดียวซื้อจากคำแนะนำในห้องร้อยคนร้อยเล่ม่อว่า Financial Statement Analysis โดย John J. Wild และคณะ ตอนนี้ยังอ่านไม่ถึงไหนเลย อ่านยากมาก ๆ สำหรับคนไร้พื้นฐาน

เป็นเพียงแค่ข่าวลือครับ เป็นนักลงทุนต้องอย่าหลงเชื่อข่าวลือครับ :\/:
ผมว่าการฝึกวิเคราะห์บ่อยๆก็จะช่วยได้มากครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 26, 2010 9:18 am
โดย naris
chatchai เขียน:
เป็นเพียงแค่ข่าวลือครับ
นริศสอนน้อง
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 26, 2010 10:57 am
โดย nasesus
สวัสดีครับพี่นริศ ขอรบกวนถามพี่หน่อยครับ พี่คิดว่ากองทุนโรงแรมของ ci จะสำเร็จมั้ยครับ ผมมองว่า ci แบกหนี้ก้อนใหญ่ไว้ส่วนนึงก็เพราะโรงแรมอ่ะครับ