หน้า 3 จากทั้งหมด 8
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 25, 2015 9:10 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 26, 2015 2:11 am
โดย Saran
ขอบคุณลุงขวดมากๆครับ ติดตามอ่านอยู่ตลอดครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 03, 2015 7:58 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 08, 2015 7:06 pm
โดย ลุงขวด
5. หุ้นไม่มีสภาพคล่อง.....ผมยอมรับครับว่า สภาพคล่องในการซื้อขายมีความสำคัญ เราจะสามารถซื้อขายได้ทุกวัน แล้วแต่สถานะการณ์...สำหรับผมแล้วผมลงทุนในหุ้นต้องเป็นเงินที่เราไม่ต้องใช้ เอาเงินมาทำประโยชน์ให้มากกว่าแหล่งอื่น ๆ....ผมเลยถือว่าสภาพคล่องของหุ้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ...จากประสบการณ์ หุ้นหลายตัวที่ไม่มีสภาพคล่อง ความต้องการน้อย ก็สามารถกลายเป็นหุ้นมีสภาพคล่องขึ้นมาได้เพราะความต้องการมาก เนื่องจากกิจการดี และ เติบโตสูงนั่นเอง.....ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือ ขอให้ผลประกอบการดี หุ้นก็ขึ้นนั่นเอง....ผมจึงยึดหลักหุ้นจะขึ้นหรือไม่อยู่ที่ผลประกอบการ ผมคิดถึงปัจจุบันมากกว่าอนาคต.....มีหลายคนพูดว่าซื้อหุ้นเพราะเห็นอนาคตดี จนบางทีผมก็คิดว่า หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นขายฝัน...เราให้ค่าอนาคตมัน 2-3 เท่าเลย ให้ P/E เป็นร้อยเท่า P/BV มากกว่า 10 เท่า....หุ้นเหล่านี้ผมไม่กล้าจะไปเสี่ยงกับเขา......กลับมาพูดถึงหุ้นไม่มีสภาพคล่อง มีหุ้นตัวหนึ่ง พอผมมีเงินเหลือเมื่อไรก็จะหาจังหวะซื้อหุ้นตัวนี้ เพราะวิเคราะห์แล้วพบว่า เขามีเงินสดต่อหุ้นก็เกือบ 100 บาทเลย (ไม่ใช่หุ้นสิ่งทอที่กล่าวในหัวข้อ 4)..ปันผลแย่ที่สุดก็จะได้ 2% แต่เมื่อไรที่กิจการดีขึ้นเขาก็ปันผลให้มากขึ้น เคยถึงระดับเกือบ 10% เลย.....พูดถึงราคาหุ้นก็ไม่ไปไหนอยู่ในระดับปัจจุบันนี้ ไม่มีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาหุ้นเท่าไหร่.....รอเพียงว่าเมื่อไรเขาจะพัฒนาผลิตภัณท์ใหม่ ๆ ออกมาหรือเอาหุ้นออกจากตลาดหรือเลิกกิจการเท่านั้นเอง...เตือนก่อนห้ามเอาเงินที่ต้องการจะใช้มาซื้อหุ้นแบบนี้เพราะไม่เหมาะสม....(เวลาซื้อง่ายแต่เวลาขายยาก).
.....................................
ข้างบนนี้คือหุ้นที่ผมบอกไว้ คือหุ้น TIW และที่สุดก็มีคนมาเห็นและขอซื้อหุ้นทั้งหมดจากญี่ปุ่นและรายย่อยในราคา 143 บาท ดังนี้-
เรื่อง : การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
ชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ถูกทำคำเสนอซื้อ : บริษัท ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ จำกัด (มหาชน) (TIW)
ผู้ทำคำเสนอซื้อ :
ดร.ประสิทธิ์ กาญจนศักดิ์ชัย
ระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ : วันที่ 19 มิ.ย. 2558 ถึงวันที่ 24 ก.ค. 2558
ราคาเสนอซื้อ
หุ้นสามัญ (บาท/หุ้น) : 143.00
..........
ขอดูต่อไปว่าจะจบอย่างไรสำหรับหุ้นตัวนี้
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 09, 2015 10:09 am
โดย opengn
อ่านแล้วได้ความรู้มากเลยครับ ขอบคุณลุงขวดมากๆครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2015 9:20 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 08, 2015 8:12 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 27, 2015 7:54 am
โดย ลุงขวด
เมื่อวันศุกร์ 24/7/58 ได้มีโอกาสไปประชุมหุ้น TIW ว่าจะปรับปรุงธุรกิจกันอย่างไร ก็เข้าใจว่า
1. เขาต้องพยายามทำการตลาดให้ดีกว่าเก่า ตอนนี้กำลังหาคนมีความสามารถในด้านนี้มาช่วยอยู่ในจุดปกพร่องเดิม เช่น มีผู้ขายในแต่ละเขต 2-3 รายจะเพิ่มเป็น 10 ราย แต่ก่อนขายเงินสดตอนนี้ปรับเป็นขายเครดิต เป็นต้น
2. กำลังพิจารณาหาผลิตภัณท์ให้เพิ่มขึ้น เพราะกำลังผลิตยังเหลือเฟืออยู่
3.พยายามลดต้นทุนเปรียบเทียบราคาสินค้ากับผุู้ผลิตรายอื่น ปกติซื้อจากมิตซุยอยู่ งานนี้คงไม่ง่ายเพราะความสัมพันธ์ของ ดร ประสิทธิ์มีอยู่กับ มิตซุยยังเหนียวแน่นอยู่
4.ยังใช้ตรายี่ห้อเดิมและยอมจ่ายค่าเครื่องหมายการค้าเหมือนเดิม สัญญาละ10 ปี ค่าตอบแทนต่อสัญญา 1 ล้านบาท
5.ตอนนี้ผลิตอยู่ที่ 25000 ตันต่อปี กำลังผลิตสามารถทำได้ 60000 ตันต่อปี
6.ดร ประสิทฺธิ์แจ้งว่า ภายใน 2 ปีข้างหน้าจะเห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้น
7.คู่แข่งเริ่มลดลง เพราะสินค้าสำเร็จรูปจากจีนมาตีตลาดอยู่ แต่อนาคตรัฐบาลกำลังพิจารณาเก็บภาษี surcharge สำหรับผลิตภัณท์ประเทศนี้อยู่
ที่สำคัญ ดร ประสิทธิ์ มาซื้อธุรกิจนี้เพราะมีความสัมพันธ์กับประธานบริษัทนี้มานานหลายปี และทางมิตซุยต้องการเลิกธุรกิจปลายน้ำแบบนี้และกิจการที่ขาดทุนออก เป็นโอกาสที่ ดร ประสิทธิ์ได้มาเป้นเจ้าของแทน ท่านก็ยังแปลกใจว่าทำไมคนทำ tender น้อยกว่าที่คาดมาก การจะเอาหุ้น tiw ออกจากตลาด ยังไม่แนวคิดไม่ยอมบอก เหมือนกันการที่จะเอาหุ้นของท่านมาควบรวมเพื่อเป็นการ back door listing ก็ไม่บอกเหมือนกัน เลยดูความคิดของท่านไม่ออกครับ
แต่โดยสรุปเรื่องธรรมาภิบาลก็คงเป็นคนดีและคนเก่งระดับหนึ่ง ท่านเป็นอาจารย์สอนที่ NIDA ด้วย และได้เอา อาจารย์ของท่านที่ NIDA มาช่วยเป็นกรรมการด้วย ก็แสดงว่า ท่านคงมาทำให้บริษัทฯ ดีขึ้นค่อนข้างแน่
ผมพยายามดูความคิดของท่านเรื่องการมีบริษัท มีเงินส่วนเกินเหลือมาก ตามที่ท่านบอกจะปันผลออกมาให้ระหว่างกาล 20-25 บาท ต่อหุ้น ขณะนี้บริษัท มีเงินสดและเทียบเท่า ตามงบล่าสุดอยู่ที่ 384 ล้าน จ่ายปันผลรอบนี้ 12 ล้าน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ปีละ 41 ล้านบาท) ก็แสดงว่าขณะนี้มีเงินเหลือประมาณแถว น่าจะ 350 ล้าน ถ้าปันผลอีก 25 บาทหรือเอาเงินออกอีก 150 ล้านบาท ก็ยังเหลือเงินอีก แถว 200 ล้่านบาท ก็ลองติดตามดูกันต่อไปว่า ท่านจะเอาเงินเงิน 200 ล้่านบาทมาสร้างกำไรให้่บริษัทได้อย่างไร......ผมคงถือไปเรื่อย ๆ เพราะราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นอยู่
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 28, 2015 8:36 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2015 8:50 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2015 9:17 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2015 9:38 pm
โดย ดำ
คุณลุงขวดมีน้ำใจจริงๆ ครับ ผมอ่านที่คุณลุงโพสต์ไว้แล้วพอจะนึกภาพแต่ละบริษัทออก ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิสัยคนเลยอ่ะครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 11, 2015 6:59 pm
โดย C05
เข้ามาอ่านกระทู้เพราะกำลังคิดว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหน อ่านเพลินได้ความรู้พอ ๆ กับอ่าน 56-1 เลยค่ะ
ขอบคุณลุงขวดมากค่ะ ที่มาแบ่งปัน
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 12, 2015 1:25 am
โดย เหล็งฮู้ชง
offer 1 like
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 16, 2015 9:40 am
โดย amornkowa
ขอบคุณลุงขวดที่มาแบ่งปันครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 16, 2015 7:02 pm
โดย ลุงขวด
ตลาดช่วงนี้ เดือน กรกฏาคมและสิงหาคม 2558 ... ผมคิดว่าตลาดกำลังชั่งใจว่าจะทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจโลก แย่ลงเรื่อย ๆ ผมว่าอยู่ในช่วงถดถอย มีแต่ทางอเมริกาที่ว่าเริ่มดีขึ้น ทางเอเซียเริ่มนิ่งและทำท่าจะไม่ดีเอาด้วย ทางจีนก็บอกว่าขอรักษา GDP แถว 7% ก็พอแล้ว .... ผมสังเกตุดัชนีไทยเรา รายย่อยนี้ก็เล่นหุ้นเก่ง ดัชนีขึ้นก็มักจะขาย และดัชนีลงก็มักจะเป็นฝ่ายซื้อ ผมว่าถูกต้องแล้ว.....ส่วนฝ่ายต่างชาติขายตลอดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว นับเป็นฝ่ายทุบอย่างเดียว เมื่อไรกองทุนขายด้วย ดัชนีก็ลงอย่างเห็นได้ชัด.....ผมเลยพอสรุปได้ว่า
กองทุนน่าจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของตลาดเรา....ส่วนผมลงทุนในหุ้นตัวเล็กและตัวกลางเป็นส่วนใหญ่ ในหุ้น SET50 ผมมีไม่กี่ตัวและจำนวนน้อยมาก เอาไว้เทียบกับหุ้นที่ผมมีว่าเป็นอยางไร (หุ้นset50ที่มีมากสุดคือหุ้น BDMS)....ผมถือหลักที่ว่าหุ้นที่ผมมีต้องให้ปันผลสม่ำเสมอ ถ้ากิจการดี ก็ ปันผลมาก แต่ถ้าแย่ ก็ ปันผลน้อย แต่ต้องมีกำไรตลอด .... ผมจะมีเงินในช่วงเดือนปันผลออก ส่วนใหญ่ก็เดือนพฤษภาคม และปันผลระหว่างกาลซึ่งมักจะออกในเดือนสิงหาคม และ กันยายน .. และก็เอาปันผลมาลงทุนเพิ่ม ในที่สุด การลงทุนของผมก็มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำแบบนี้ไปตลอด เงินก็จะทำงานให้เรา และ เราก็จะพบอิสระภาพทางการเงินในที่สุด ... ซึ่งต้องใช้เวลาอันยาวนานพอควร....การลงทุนในหุ้นก็เหมือนกับการฝากเงินแหละครับ เราฝากเงินกับเจ้าของกิจการที่เป็นคนดี มีความสามารถ มีงบการเงินที่ดี ก็ปลอดภัยไปอีกแบบหนึ่ง ผมยอมรับการลงทุนมีความเสี่ยง แต่จะเสี่ยงน้อยถ้าเราเข้าใจในกิจการและติดตามผลการดำเนินงานนั้นดีพอ.....โชคดีในการลงทุนนะครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2015 8:11 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2015 7:38 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2015 8:01 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 10, 2015 6:26 pm
โดย ลุงขวด
เรื่องที่ข้อเสียที่ผมไม่ชอบ ก็ ยังไม่เกิดขึ้นง่าย ๆ คงเป็นโครงการอีกหลายปี ....ส่วนข้อดีที่ผมชอบคือ คุณไน ยวน ชิ เป็นคนพูดตรง และบอกว่า สิ่งที่จะอยากให้เป็นคือให้บริษัท มีงานทำเรื่อย ๆ มีงานสม่ำเสมอ และเขาก็บอกว่ามีงานแล้ว 2 แสนตัน ถึงปี 2562 หรือ อีก 4 ปี เฉลี่ยก็ปีละ 4 หมื่นตันแน่นอนอยู่แล้ว นั่นคือความพยายามของเขา และการไปซื้อ โรงงาน Natsu ก็จะเพิ่มกำลังผลิตได้อีก 18000 ตันต่อปี แสดงว่าเห็น ๆ ก็ต้องมี 40000+18000=58000 ตันต่อปี....เขาซื้อและขายสินค้าเป็นเงิน YEN เขาไม่ได้คิดทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน...เขากล่าวถึงอัตราแลกเปลี่ยนในอดีต 3-4 ปีอยู่แถว 100 yen ได้ 32 บาท เคยอยู่ต่ำสุดที่ 27 บาท ตอนนี้ค่อย ๆ ขยับเป็น 30 บาท แล้ว เขาก็บอกว่าจะได้กำไรในอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนนี้อีก นั่นก็แสดงว่า ถ้าเกิดกลับไปที่เดิม 32 บาท บริษัทก็จะมีกำไรมากขึ้นไปอีก ปีนี้เขาคาดกำไร NM ได้แถว 18-20% งานก่อสร้างตึกใหญ่ ๆ สูง ๆ มีเพิ่มมากขึ้นทีเดียว เพื่อต้อนรับ งาน โอลิมปิค ที่จะมีใน ปี 2563 ผู้รับเหมามีงานมากขึ้น จึงสบายได้ว่า MCS มีงานแน่นอน และ มากพอควร ผมถามถึงช่างเชื่อมคุณภาพ เขาบอกกำลังสร้างเด็กอยู่ ก็คงจะทำได้ เขาบอก บริษัทฯ มีสิ่งสำคัญที่สุด คือ ช่างเชื่อม ซึ่งทำประโยชน์ให้แก่บริษัท จากประวัติเขาดูแลช่างเชื่อมได้ดีมาก ใครทำงานมากก็จะได้มาก งานลำบากก็ให้ค่าแรงสูง....เขาบอกเขาดูแลพวกนี้มากกว่า ผู้ถือหุ้นอีก เขาเห็นความสำคัญของพนักงานมากที่สุด ซึ่งผมเห็นด้วยและชอบแนวคิดของเขา .... นาย ไน ยวน ชิ ยังมีสัญญาทำงานให้อีก 3 ปี ผมเลยสรุปได้ว่า 3 ปีนี้ไม่มีปัญหาครับ มีการเติบโตแน่นอน
เสียดายนะครับ ที่ ผู้ถือหุ้น ที่ post ก่อนหน้านี้ว่าได้ขายหุ้นไปแล้ว เพราะเห็นผม post ในสิ่งที่ผมไม่ชอบ ดีนะที่ได้กำไร....แต่ถ้าอยากได้กำไรมากขึ้นก็ลองคิดตัวเลขกำไรปีนี้ซิครับ ถ้าได้ NM ถึง 18-20% ก็นับว่าดีทีเดียวนะ แต่ก็ต้องวัดดวงกับอัตราแลกเปลี่ยนด้วยว่าจะเป็นอย่างไร...ในหุ้นตัวนี้ รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 รายที่ผู้รู้จักและคงถือยาวไปอีกหลายปี คงไม่ขายออกมาง่าย ๆ เป็นแน่เลยครับ เพราะผมรู้นิสัยเขาว่าเป็นนักลงทุนในหุ้นที่กิจการดี และถือยาว...ส่วนรายใหญ่ที่ขายไปแล้วก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวครับ เขาเก่งจริง ๆ.... โชคดีในการลงทุนนะครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 11, 2015 7:37 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 7:50 am
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 10:14 am
โดย ดำ
ขอบคุณครับคุณลุงขวด
ผมสงสัยว่าโครงการย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดินนี่ แล้วพวกสารพัดสายอื่นๆ ที่ทุกวันนี้เห็นห้อยระโยงระยางเต็มไปหมดตามเสาไฟฟ้า จะทำยังไงกับพวกมันต่อไปครับ จะไม่เป็นปัญหาเหรอครับ
อีกเรื่องคือ ตัวเลขโครงการก่อสร้างแต่ละปี ทำไมฟังจาก ARROW เหมือนปีนี้โตมากพอควร แต่พอฟังจากเจ้าอื่นๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้างถึงดูเหนื่อยๆ ค่อนข้างต่างกันมากครับ
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 10:38 am
โดย Ii'8N
เห็นข่าวในห้อง ADVANC กทสช. ก็เรียก operator คุยเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... start=4834
เสาส่วนใหญ่ เป็นของการไฟฟ้า แล้ว operator เช่าวางสาย fiber มีส่วนน้อย ที่ปักเพิ่มเอง
แต่จะสำเร็จเมื่อไหร่ต้องรอผล เพราะต้องใช้งบเยอะ
ต้องใช้งบในการขุด สร้างท่อใหม่ แล้วยกเลิกของเก่า โละของเก่าทิ้งหมดอีกด้วย
ข่าวก่อนหน้า แนวคิด คือจะให้ TOT CAT เป็นเจ้าของท่อ แล้วให้ operator เอกชนเช่า เริ่มจากในเมืองโดยเฉพาะกทม. ก่อน
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/651988
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 11:32 am
โดย ดำ
แล้วแบบนี้คนที่จะมาลากสายทีหลังก็ลำบากขึ้นเยอะสิครับ ถือเป็น Barrier to entry อย่างนึงรึเปล่า?
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 1:49 pm
โดย Ii'8N
สำคัญอยู่ที่คนทำท่อครับ ว่าทำไว้ใหญ่ขนาดไหน เผื่อขนาดไหน มีพื้นที่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว
เพราะตอนดึงจริงๆ มีเครื่องมือช่วย ทั้ง manual และ machine (เรียกว่า winch คล้ายๆ เครื่องดึงรถติดหล่ม หน้ารถ jeep)
ปกติระหว่าง 2 ด้านของสาย มีช่องเปิดเป็นระยะ ภาษาคนทำระบบ Outside Plant เรียกว่า Man hole ถ้าใหญ่มากๆ ถึงขั้นคนลงไปทำงานได้เลย เหมือนท่อระบายน้ำ ถึงเป็นที่มาของชื่อ "Man hole"
แต่ระบบเล็ก ก็แค่มือเอื้อมลงไปทำงาน แต่ก็ยังใช้ชื่อเดิม
อันนี้ที่บอก หน้า jeep เอามาฝากเผื่อคนไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติเอาไว้ช่วยดึงแล้วติดหล่ม แต่อันนี้โชว์พาว
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 1:50 pm
โดย Ii'8N
พิมพ์ตกนิดครับ
ปกติเอาไว้ช่วยดึงตอนออกลุยมาราธอน ออกทริปแล้วติดหล่ม
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 13, 2015 7:43 pm
โดย amornkowa
ขอบคุณลุงขวด คุณดำ และคุณli'8N ที่มาให้ความรู้ ครับ พอดีเสาร์ที่ผ่านมาติดธุระเลยไม่ได้จองไปด้วย
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 24, 2015 1:25 pm
โดย ลุงขวด
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 12, 2015 5:01 am
โดย ลุงขวด
Undertaker wrote:
ขอบคุณมากครับลุงขวดที่มาแบ่งปัน
ว่าแต่ลุงขวดไป company visit EPG ได้ยังไงเหรอครับ
...................................
ผมสนใจตัวนี้ ก็ติดต่อบริษัท เขาไป เขาบอกจะจัดให้มี company visit ผมเลยขอให้เขาลงชื่อไว้ เข้าใจว่า พวกที่ไปฟัง opp day ที่ตลาดหลักทรัพย์ ก็ลงชื่อไปกันหลายคน.......นี่ผมว่า opp day มันเปิดโอกาสให้เราได้รู้จักบริษัท และ ผู้บริหาร นะครับ ใครสนใจบริษัทไหน ก็ ไป ฟัง บางทีเขาก็บอกจะให้ชมโรงงาน เราก็ได้มีโอกาสไปชม หรือ ไม่ในเวปไซด์ของบริษัทต่าง ๆ มักมี แผนก IR ก็เขียนบอกเราสนใจ ก็มีโอกาสได้ไปแน่นอน นักลงทุนก็ต้องทำงานหนักกันหน่อย กว่าจะเข้าใจบริษัทต่าง ๆ
วันนี้ราคาหุ้นตัวนี้ก็ขึ้นมามากพอควร ผมได้ตัดสินใจซื้อเพิ่มไปแล้ว หลังจากพิจารณาว่า ถ้าผลประกอบการออกมาดีแบบนักวิเคราะห์ ที่บอกอยู่ในระดับ 310-380 ล้าน ราคาหุ้นก็คงไม่รอให้เราซื้อได้ ถึงแม้จะแพง ก็ จำใจต้องยอม เพราะมันจะชดเชยโดย eps ที่เพิ่มขึ้นได้ บังเอิญได้อ่านหนังสือของ นายซิวซี แซ่ตั้ง เรื่อง ตะวันออกที่เมืองไทย พิมพ์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เริ่มพิมพ์เมื่อ 1 ธันวาคม 2553 แล้วผมก็ชอบ....ท่านยังมีชีวิตอยู่ อายุ 90 ปีแล้ว ดร.ภวัฒน์ เป็นลูกชายคนโต ที่ท่านพูดถึงในหนังสือเล่นนี้ด้วย ผมเชื่อว่า ฝากเงิน(ซื้อหุ้น)กับเจ้าของที่เป็นคนดี คนเก่ง ก็สบายใจครับ....และการที่ไปชมโรงงาน มี ดร. เฉลียว เป็นผู้อธิบายให้พวกที่ไปชมโรงงานได้เข้าใจกิจการ เหมือนได้ฟัง talk show เลยครับ สนุกและได้ความรู้มากทีเดียว เป้าหมายของเขาขั้นแรกจะเข้าใน SET 100 และที่สุด อยากอยู่ใน SET 50 ... อันนี้เหมือนกับหุ้น PTG เลยที่เขาวางเป้าไว้คล้าย ๆ กัน ผมพลาด PTG ไม่ได้ตามเท่าไหร่....เลยไม่อยากพลาดเป็นตัวที่ 2...
ตอนนี้ก็คงรอผลประกอบการว่าเป็นอย่างไร (ในการชมโรงงาน ดร.เฉลียวไม่ได้บอกว่ากำไรไตรมาสนี้เท่าไหร่ เพราะเขาไม่มีสิทธิที่บอก ...แต่เขาบอกว่า มีนักวิเคราะห์ที่มีสิทธิที่บอก ว่า มี 3 ราย ด้วยกัน ผมจำตัวเลขไม่ได้ แต่รู้ว่าแต่ละรายให้กว่า 300 ล้านทั้งนั้น)....ก็ลองตามกันดูว่าตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ ที่จะประกาศในไม่กี่วันจากนี้ไป...โชคดีในการลงทุนนะครับ