หน้า 3 จากทั้งหมด 3

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 8:14 pm
โดย sai
ขอบคุณครับ :D

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 8:31 pm
โดย Leesak
ขอบคุณครับ /ธรรมจากท่านอาจารย์ถึงใจผมจริงๆ..แกงหม้อเล็ก...

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 8:39 pm
โดย untrataro25
อ่านรอบแรกผมไม่เข้าใจ รู้สึก งงๆ
จนต้องมาอ่านซ้ำ 2-3 รอบ
ก็รู้สึกได้ถึงความห่วงใย ต่อนักลงทุนตัวเล็กๆอย่างเราๆท่านๆ อ่ะครับ :mrgreen:

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 8:56 pm
โดย canuseeme
สบายใจ กันได้ครับ งานนี้
เพราะอาจารย์ หมายถึงผม เอง (แล้ว ผมเป็นใคร ฟะ)

ไม่ต้องไปคาดเดา ว่า เป็น เรา หรือ เขา หรือ ใคร
ผมบอกได้ เลย อาจาร์ย หมายถึง ผมเอง 555555 :B :B :B

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 9:46 pm
โดย MO101
พวก avatar หน้าการ์ตูนนี้โดนหมดเลยนะ
แบบว่าแก่แล้วทำตัวเด็ก 555

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:10 pm
โดย drsp
ชีวิตคือละคร
ทุกคนก็อยากมีภาพพจน์ทางสังคมที่ดี
ทั้งที่ตัวจริงเราอาจไม่ได้ดีขนาดนั้น
หรือบางคนถึงขั้นเลวด้วยซํ้า

ผมว่าอาจารย์เขียนแรงและตรงไปตรงมาดี
แต่คนที่โยงไปว่าอาจารย์หมายถึงคุณชิณณ์
ผมว่าไม่แฟร์
ผมว่าอาจารย์พูดกลางๆไม่ได้หมายถึงใครเฉพาะ
โยงแบบนี้เสียหายทั้งอาจารย์และคุณชิณณ์
ขอร้องอย่าโยงคําพูดอาจารย์ไปกล่าวหาใครเลยครับ

บทความของอาจารย์ทุกๆตอนมีคุณค่าในตัวเอง
ทั้งเตือนสติและให้ความรู้
แถมได้อ่านฟรีทุกอาทิตย์
แม้จะเห็นด้วยทั้งหมดหรือไม่ก็ตาม
อย่าทําให้อาจารย์หมดกําลังใจเขียนเลยครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:28 pm
โดย chukieat30
ผมว่าควรอ่านเพื่อประดับความรู้ครับ อย่าไปตีโพยตีพายว่าใคร ผมว่าท่านอาจารย์แค่สั่งสอน

เพราะท่านห่วง นักลงทุนหลายๆคน ความห่วงดั่งอาจารย์ห่วงศิษย์เดินทางผิด

ห่วงเหมือนลูกหลาน จะหาใครมาเขียนเพื่อเตือนสติแบบนี้ได้ครับ

บางทีถ้าเราเป็นอย่างนั้นจริงๆๆ เราก้แก้ไขตัวเราได้ อย่างน้อยผมคนนึงที่กล้าออกมายืดอก

แมนๆเลยว่า ก้เคยหลายอย่าง
แต่เรื่องมาจิ้นท์ไม่เคย และไม่คิดครับ

แต่ถ้าถามผมว่า จริงใจอยากเห็นคนอื่นได้ดี ไหม ผมก้ตอบตามซื่อว่า อยากครับ

อย่างน้อยถ้าเพื่อนเรารวยขึ้น ปัญหาความยากจนก้ลดลง

ถึงแม้ผมจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่า ผมจริงใจไม่ไก่กาครับ


ดังนั้นอ่านแล้ว ถ้าเราเคยเป็นหรือทำ เราแมนๆก้ยอมรับได้แก้ไขได้ ผู้ใหญ่ท่านอายุมาก

กว่าเรา คำเตือนของผู้ใหญ่ระดับอาจารย์ก้เหมือนดั่งคำเตือนของบุพการีคนที่2


อ่านและนำไปใช้ครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:32 pm
โดย junejee
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ติดตามอ่านบทความและผลงานของอาจารย์มาตลอดคะ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:42 pm
โดย leky
ในฐานะของ Value Investor การรู้เรื่องของวัฒนธรรมเภทนั้น น่าจะมีประโยชน์อย่างน้อยในแง่ที่ว่ามันช่วยให้เราได้รู้จักโลกหรือคนมากขึ้นว่า คนเรานั้น บางทีก็มีสองบุคลิก สิ่งที่เราได้เห็นได้ยินได้ฟังจากปากของคนอาจจะไม่ใช่ของจริง เขาอาจจะบอกในสิ่งที่ทำให้เขาดูดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำจริง กลยุทธ์และเท็คนิกที่เขาใช้ลงทุนที่ออกมาจากปากของเขาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาปฏิบัติจริง ๆ เช่นเดียวกัน ชีวิตและความคิดของเขาก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคน ๆ หนึ่งนั้นมีตัวตนที่แท้จริงอย่างไร เราควรจะเชื่ออะไร
บทความนี้ผมอ่านหลายรอบ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าคนเขียนจะสื่อว่าคนที่เล่นมาร์จิ้น เก็งกำไร ซื้อหุ้นแบบทุ่มสุดตัว จะศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิไม่ได้ หรือทำเพื่อเอาหน้านะครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ "การแสดงให้คนได้เห็น" กับ "สิ่งที่ทำจริง" มากกว่า

ยกตัวอย่างสองเรื่องก็แล้วกันครับ

1) เสี่ย...ชื่อดังของตลาดหุ้น ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์เวลาที่สื่อไปถามเรื่องหุ้น ถ้าท่านไม่เคยทราบเกี่ยวกับข่าวของเสี่ยคนนั้น บทสัมภาษณ์ที่ท่านได้อ่านไม่ว่าจะกี่ครั้ง มันก็เต็มไปด้วย แนวทางวิธีการลงทุนที่เต็มไปด้วย "หลักการ" หลายคนอาจจะยกเป็นไอดอล แต่ในความเป็นจริงหลายคนในตลาดต่างก็ทราบว่าวิธีการที่เสี่ย...ใช้คืออะไร

2) พระ... ชื่อดังเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ที่มีคนนับถือศรัทธาในคำสอนลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นมีลูกกับสีกา ยังไม่นับเรื่องที่ไปเที่ยวที่อโคจรที่ต่างประเทศแบบมีใบเสร็จเป็นหลักฐาน จนสุดท้ายต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ

ผมเข้าใจว่าอ.คงต้องการให้ผู้อ่านพิจารณาถึงเรื่องแบบนี้มากกว่าครับ เซียนหรือไม่เซียนท่านไหนที่กลัวว่าใครจะมาพาดพิงท่าน ถ้าท่านไม่ได้ทำท่านก็อย่าไปสนใจครับ จะว่าไปคนที่รู้ดีที่สุดว่าความจริงเป็นอย่างไรก็คือ "ตัวท่านเอง" ถ้าท่านไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ท่านก็อย่าท้อแท้ครับ ความดีที่ท่านทำจะทำให้ชีวิตของท่านดีขึ้นแน่ครับ ถ้าท่านคิดจะเป็นคนดังมีชื่อเสียง มันก็หนีไม่พ้นที่จะโดนวิจารณ์จากคนที่อาจจะไม่ชอบท่าน ถ้าท่านคิดว่ารับไม่ได้กับเรื่องเหล่านี้ ท่านอยู่เงียบ ๆ ชีวิตท่านจะมีความสุขกว่าครับ

ถามว่าทำไมเราควรจะสนใจเรื่องเหล่านี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี นลท.หน้าใหม่เข้ามาในตลาดกันเยอะมาก หลายคนหาไอดอล หลายคนเรียนรู้หลักการหรือแม้แต่เข้าไปศึกษาหุ้นที่ "เซียน" ซื้อขาย ในความคิดผม "การสร้างภาพ" ไม่ว่าจะเป็นให้คนรู้สึกเก่ง รู้ เซียน เทพ ถ้า "คนสร้าง" มี "เจตนาแฝง" มันก็คงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะหาประโยชน์จาก "ผู้ที่ตาม" หน้าที่ของคนที่คิดจะ "ตาม" ก็คงต้องแยกแยะให้ออกครับว่า "ควรตามหรือไม่ควร"

มันคงไม่ต่างกับเราเจอหุ้นในตลาดที่ธุรกิจดูดีมีอนาคต งบการเงินสวย แต่สุดท้ายเราต้องเลือกที่จะไม่สนใจ "หุ้น" ตัวนั้น เพียงเพราะเหตุผลแค่ผบห. "ไม่มีธรรมาภิบาล" ผมว่ามันก็คงใช้ได้กับการที่จะยึดใครเป็นไอดอลได้เช่นกัน

ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้รู้จักใครที่อยู่ในข่ายที่จะถูกพาดพิง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ไม่เคยลอกหุ้นใคร เพียงแต่อยากจะแชร์ความคิดเท่านั้น

สำหรับอ.นิเวศน์ ผมอ่านบทความของท่านมาหลายปี ยอมรับว่าตอนแรกผมไม่รู้จักท่าน แต่หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือที่ท่านเขียน ก็ทำให้ผมต้องไปตามหาหนังสือเล่มเก่า ๆ มาอ่านจนครบ ผมไม่เคยเจอตัวจริงนะครับ เรื่องเล่าที่บอกกันว่าอ.อยู่บ้านชั้นเดียวผมก็ไม่เคยเห็น แต่สิ่งที่ผมประทับใจท่านมาจากเรื่องสองเรื่องครับ ซึ่งผมรู้สึกว่าผู้อ่านอย่างผมจับต้องได้จริง โดยไม่จำเป็นต้องไปรู้จักตัวจริงของท่าน

1) หลายครั้งที่ในเว็บมีประเด็น เช่น "หุ้นร้อนของเซียน" ท่านเป็นคนที่กล้าเขียนบทความออกมาเบรค ซึ่งถ้าเป็น "ตาสีตาสา" มาเขียนแบบนั้น ผมเชื่อว่าคนเขียนจะโดนคนเสียผลประโยชน์ "รุม" เนื่องจากจะไปตัดจังหวะของหุ้นที่กำลังขึ้น
2) ผมอ่านบทความของท่านมาหลายปี โดยเฉพาะตามสื่อ ถ้าผมไม่ได้ตกหล่นไป สิ่งที่ผมรู้สึกว่าท่านมีความเป็นกลาง คือ "ท่านไม่เคยใบ้หุ้นผ่านสื่อ" ครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:43 pm
โดย chukieat30
ผมยังเชื่อคำท่านอาจารย์ เพราะอย่างน้อย วันนี้สิ่งที่อาจารย์เขียน สิ่งที่อาจารย์ลงทุน

ก้ยังเป็นแนวทางเดียวกับวันนั้น ที่อาจารย์สัมภาษณ์เมื่อนานมาแล้วในวันตลาดนัดผู้ลงทุน

ที่ผมไปฟัง ไม่ได้มีการลงทุนแบบอื่นเลย ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เป็นการลงทุนคุณค่าแท้

สังเกตุดูว่า ท่านเองก้ห่วง ถึงได้เตือน คนเราผมว่าฟังผู้ใหญ่ไว้บ้างก้ดีนะครับ

รู้ว่าอะไรผิด ก้ปรับปรุง ไม่ดีก้แก้ไข การแก้ไขทำให้เก่งขึ้น

สิ่งที่ท่านอาจารย์เขียน ผมกลับมองว่า เป็นเรื่องสง่างาม ที่ต้นตำรับการลงทุนด้านคุณค่า

อย่าง ท่านอาจารย์ ได้เขียนออกมาด้วยความจริง และสัมผัสได้ถึงความจริง

อย่างน้อย ข้อเขียนของอาจารย์ก้พิสูจน์ได้ในการลงทุนครับ

ปล ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ผมพูดตามเนื้อผ้า เห็นยังไงก้พูดอย่างงั้น ถูกก้ว่าไปตามถูก

ผิดก้ว่าไปตามผิด

แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้คือ ความสำเร็จและอิสรภาพทางการเงินครับ

ในชีวิตผมไม่เคยอิจฉาคนอื่น เพราะคิดเสมอว่า ถ้าเราตั้งใจ สักวันมันก้ต้องเป็นวันของเรา

ถึงแม้จะช้าหน่อย ดูไกลไปบ้าง แต่เชื่อว่า ถ้าตั้งเป้าไว้แล้ว ก้ต้องทำใ้ห้สำเร็จ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 10:53 pm
โดย chukieat30
leky เขียน:
ในฐานะของ Value Investor การรู้เรื่องของวัฒนธรรมเภทนั้น น่าจะมีประโยชน์อย่างน้อยในแง่ที่ว่ามันช่วยให้เราได้รู้จักโลกหรือคนมากขึ้นว่า คนเรานั้น บางทีก็มีสองบุคลิก สิ่งที่เราได้เห็นได้ยินได้ฟังจากปากของคนอาจจะไม่ใช่ของจริง เขาอาจจะบอกในสิ่งที่ทำให้เขาดูดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำจริง กลยุทธ์และเท็คนิกที่เขาใช้ลงทุนที่ออกมาจากปากของเขาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาปฏิบัติจริง ๆ เช่นเดียวกัน ชีวิตและความคิดของเขาก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคน ๆ หนึ่งนั้นมีตัวตนที่แท้จริงอย่างไร เราควรจะเชื่ออะไร
บทความนี้ผมอ่านหลายรอบ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าคนเขียนจะสื่อว่าคนที่เล่นมาร์จิ้น เก็งกำไร ซื้อหุ้นแบบทุ่มสุดตัว จะศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิไม่ได้ หรือทำเพื่อเอาหน้านะครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ "การแสดงให้คนได้เห็น" กับ "สิ่งที่ทำจริง" มากกว่า

ยกตัวอย่างสองเรื่องก็แล้วกันครับ

1) เสี่ย...ชื่อดังของตลาดหุ้น ถ้าใครเคยอ่านบทสัมภาษณ์เวลาที่สื่อไปถามเรื่องหุ้น ถ้าท่านไม่เคยทราบเกี่ยวกับข่าวของเสี่ยคนนั้น บทสัมภาษณ์ที่ท่านได้อ่านไม่ว่าจะกี่ครั้ง มันก็เต็มไปด้วย แนวทางวิธีการลงทุนที่เต็มไปด้วย "หลักการ" หลายคนอาจจะยกเป็นไอดอล แต่ในความเป็นจริงหลายคนในตลาดต่างก็ทราบว่าวิธีการที่เสี่ย...ใช้คืออะไร

2) พระ... ชื่อดังเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ที่มีคนนับถือศรัทธาในคำสอนลูกศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นมีลูกกับสีกา ยังไม่นับเรื่องที่ไปเที่ยวที่อโคจรที่ต่างประเทศแบบมีใบเสร็จเป็นหลักฐาน จนสุดท้ายต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ

ผมเข้าใจว่าอ.คงต้องการให้ผู้อ่านพิจารณาถึงเรื่องแบบนี้มากกว่าครับ เซียนหรือไม่เซียนท่านไหนที่กลัวว่าใครจะมาพาดพิงท่าน ถ้าท่านไม่ได้ทำท่านก็อย่าไปสนใจครับ จะว่าไปคนที่รู้ดีที่สุดว่าความจริงเป็นอย่างไรก็คือ "ตัวท่านเอง" ถ้าท่านไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ท่านก็อย่าท้อแท้ครับ ความดีที่ท่านทำจะทำให้ชีวิตของท่านดีขึ้นแน่ครับ ถ้าท่านคิดจะเป็นคนดังมีชื่อเสียง มันก็หนีไม่พ้นที่จะโดนวิจารณ์จากคนที่อาจจะไม่ชอบท่าน ถ้าท่านคิดว่ารับไม่ได้กับเรื่องเหล่านี้ ท่านอยู่เงียบ ๆ ชีวิตท่านจะมีความสุขกว่าครับ

ถามว่าทำไมเราควรจะสนใจเรื่องเหล่านี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี นลท.หน้าใหม่เข้ามาในตลาดกันเยอะมาก หลายคนหาไอดอล หลายคนเรียนรู้หลักการหรือแม้แต่เข้าไปศึกษาหุ้นที่ "เซียน" ซื้อขาย ในความคิดผม "การสร้างภาพ" ไม่ว่าจะเป็นให้คนรู้สึกเก่ง รู้ เซียน เทพ ถ้า "คนสร้าง" มี "เจตนาแฝง" มันก็คงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะหาประโยชน์จาก "ผู้ที่ตาม" หน้าที่ของคนที่คิดจะ "ตาม" ก็คงต้องแยกแยะให้ออกครับว่า "ควรตามหรือไม่ควร"

มันคงไม่ต่างกับเราเจอหุ้นในตลาดที่ธุรกิจดูดีมีอนาคต งบการเงินสวย แต่สุดท้ายเราต้องเลือกที่จะไม่สนใจ "หุ้น" ตัวนั้น เพียงเพราะเหตุผลแค่ผบห. "ไม่มีธรรมาภิบาล" ผมว่ามันก็คงใช้ได้กับการที่จะยึดใครเป็นไอดอลได้เช่นกัน

ผมบอกไว้ก่อนนะครับว่าผมไม่ได้รู้จักใครที่อยู่ในข่ายที่จะถูกพาดพิง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ไม่เคยลอกหุ้นใคร เพียงแต่อยากจะแชร์ความคิดเท่านั้น

สำหรับอ.นิเวศน์ ผมอ่านบทความของท่านมาหลายปี ยอมรับว่าตอนแรกผมไม่รู้จักท่าน แต่หลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือที่ท่านเขียน ก็ทำให้ผมต้องไปตามหาหนังสือเล่มเก่า ๆ มาอ่านจนครบ ผมไม่เคยเจอตัวจริงนะครับ เรื่องเล่าที่บอกกันว่าอ.อยู่บ้านชั้นเดียวผมก็ไม่เคยเห็น แต่สิ่งที่ผมประทับใจท่านมาจากเรื่องสองเรื่องครับ ซึ่งผมรู้สึกว่าผู้อ่านอย่างผมจับต้องได้จริง โดยไม่จำเป็นต้องไปรู้จักตัวจริงของท่าน

1) หลายครั้งที่ในเว็บมีประเด็น เช่น "หุ้นร้อนของเซียน" ท่านเป็นคนที่กล้าเขียนบทความออกมาเบรค ซึ่งถ้าเป็น "ตาสีตาสา" มาเขียนแบบนั้น ผมเชื่อว่าคนเขียนจะโดนคนเสียผลประโยชน์ "รุม" เนื่องจากจะไปตัดจังหวะของหุ้นที่กำลังขึ้น
2) ผมอ่านบทความของท่านมาหลายปี โดยเฉพาะตามสื่อ ถ้าผมไม่ได้ตกหล่นไป สิ่งที่ผมรู้สึกว่าท่านมีความเป็นกลาง คือ "ท่านไม่เคยใบ้หุ้นผ่านสื่อ" ครับ



+1 ครับ สิ่งที่ผมยอมรับในตัวท่านอาจารย์คือ ท่านเป็นนักลงทุนที่เสมอต้นเสมอปลาย

ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่สไตล์การลงทุนไม่เคยเปลี่ยน มุมมองและวิชั่นก้ยังเนี๊ยบ

และความตรงที่ เที่ยงธรรม สิ่งไหนดีท่านก้ว่าดี สิ่งไหนไม่ดีท่านก้เตือนผ่านหลายบทความ

ความสง่างามในการลงทุน ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆๆครับ ขอนับถือท่านอาจารย์

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 20, 2012 11:51 pm
โดย Hughes
ชอบบทความนี้ครับกด like หนึ่งที
:mrgreen:

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 12:02 am
โดย kongkiti
ขอบคุณครับ ชอบๆ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 12:12 am
โดย pakhakorn
ในฐานะของ Value Investor การรู้เรื่องของวัฒนธรรมเภทนั้น น่าจะมีประโยชน์อย่างน้อยในแง่ที่ว่ามันช่วยให้เราได้รู้จักโลกหรือคนมากขึ้นว่า คนเรานั้น บางทีก็มีสองบุคลิก สิ่งที่เราได้เห็นได้ยินได้ฟังจากปากของคนอาจจะไม่ใช่ของจริง เขาอาจจะบอกในสิ่งที่ทำให้เขาดูดีแต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำจริง กลยุทธ์และเท็คนิกที่เขาใช้ลงทุนที่ออกมาจากปากของเขาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาปฏิบัติจริง ๆ เช่นเดียวกัน ชีวิตและความคิดของเขาก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคน ๆ หนึ่งนั้นมีตัวตนที่แท้จริงอย่างไร เราควรจะเชื่ออะไร คำตอบของผมก็คือ ถ้าจะดูบุคลิกที่เป็นจริงของใคร การดูในช่วงวัยเด็กหรือดูพื้นฐานทางสังคมที่เขาผ่านมาในวัยเด็กน่าจะเป็นตัวบอกที่ดีที่สุด จริงอยู่ คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้ แต่นั่นเป็นข้อยกเว้น เราจะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนจริง ๆ แต่ถ้าเราไม่รู้จักเขาในวัยเด็ก และไม่รู้จักพื้นเพของเขาเลย การที่จะรู้จักเขาได้ถูกต้องจริง ๆ น่าจะดูจากการกระทำมากกว่าที่มาจากคำพูดถ้าสองสิ่งนั้นไม่ตรงกัน


สิ่งที่ผมเห็นในบทความนี้ ที่ท่านดร.เขียน

1. เป็นความจริงในสังคม ที่มีเกิดขึ้นจริง และเป็นสิ่งที่ทำใจยอมรับยาก เราจึงมักทำเป็นไม่เห็น(ไม่รับรู้) หรือบอกว่าเลือกเฉพาะส่วนดีสำหรับเราก็แล้วกัน

2. ท่านดร. ไม่ได้เจาะจง หมายถึงใคร แล้วไปตัดสินว่า ใครคนนั้นดีหรือเลว แต่ท่านกำลังให้เราได้ฉุกคิด ตระหนักคิด ในฐานะของ Value Investor

3. คนเรานั้น บางทีก็มีสองบุคลิก ส่วนนี้บางครั้งการแสดงออกอาจจะ สามารถเห็นได้ชัดเจนบ้าง หรือไม่ชัดเจนบ้าง เป็นมากบ้าง เป็นน้อยบาง ผมก็ยังเห็นว่ามันมีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว(หรือผมเห็นบ่อยมากจนชินแล้ว) เพราะผมเชื่อว่า เราทุกๆคน(รวมทั้งผม)ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม การมีสองบุคลิก มากบ้างน้อยบ้างก็เป็นช่วงหนึ่งในการพัฒนาการ ของชีวิตของคนคนนั้น(ทั้งความคิด การดำเนินชีวิต หรืออื่นๆ) จนกว่าจะตกผลึกได้ ซึ่งใช้เวลาเท่าใดก็ไม่รู้

4. ท่านดร.คงต้องการย้ำ ในฐานะของ Value Investor เราควรรู้ทันความจริงเล่านี้ รู้ทันในสิ่งที่เรารับรู้มาใส่ตัวเรา"ช่วยให้เราได้รู้จักโลกหรือคนมากขึ้น"

ขอบคุณมากๆ อีกครั้ง ครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 1:08 am
โดย sakkaphan
pakhakorn เขียน:

3. คนเรานั้น บางทีก็มีสองบุคลิก ส่วนนี้บางครั้งการแสดงออกอาจจะ สามารถเห็นได้ชัดเจนบ้าง หรือไม่ชัดเจนบ้าง เป็นมากบ้าง เป็นน้อยบาง ผมก็ยังเห็นว่ามันมีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว(หรือผมเห็นบ่อยมากจนชินแล้ว) เพราะผมเชื่อว่า เราทุกๆคน(รวมทั้งผม)ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม การมีสองบุคลิก มากบ้างน้อยบ้างก็เป็นช่วงหนึ่งในการพัฒนาการ ของชีวิตของคนคนนั้น(ทั้งความคิด การดำเนินชีวิต หรืออื่นๆ) จนกว่าจะตกผลึกได้ ซึ่งใช้เวลาเท่าใดก็ไม่รู้
กำลังจะพิมพอดี

เท่าที่ผมเข้าใจ โรคจิตเภททางวัฒนธรรม น่าจะเกิดจากกรอบของวัฒนธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น กรอบที่เรียกว่าความประสบความสำเร็จ กรอบที่เรียกว่าความดี กรอบที่เรียกว่าความร่ำรวย ความเก่ง ความสวยความหล่อ....อะไรทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งผู้ที่ทำได้ดีในกรอบเหล่านี้ก็จะได้รับการยอมรับจากสังคม ทำให้เกิดความต้องการเข้าไปอยู่ในกรอบพวกนี้ ทั้งที่อาจจะไม่ตรงกับตัวตนจริงๆของเรา เกิดการสร้างภาพตัวตนของเราอีกคนที่อยู่ในกรอบตรงนั้นขึ้นมาซึ่งขัดแย้งกับความรู้สึกหรือตัวตนจริงๆข้างใน....

แล้วไม่ใช่เราทุกคนหรือที่เป็นอย่างงี้ แค่ เป็นมาก หรือ เป็นน้อย ก็แค่นั้น ถ้าเป็นน้อย ก็คนทั่วๆไป เป็นมาก ก็อาจจะแบบ นาธาน หรือ คนอีกเยอะแยะที่จ่ายเงินเพื่อไปออกรายการทีวีเพื่อโปรโมตตัวเอง หรือทำความดีเอาหน้า อะไรเทือกนี้

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 9:00 am
โดย koh
แปลกดีจัง ทำไมต้องลบความเห็นผมครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 9:29 am
โดย บูรพาไม่แพ้
drsp เขียน:ชีวิตคือละคร
ทุกคนก็อยากมีภาพพจน์ทางสังคมที่ดี
ทั้งที่ตัวจริงเราอาจไม่ได้ดีขนาดนั้น
หรือบางคนถึงขั้นเลวด้วยซํ้า

ผมว่าอาจารย์เขียนแรงและตรงไปตรงมาดี
แต่คนที่โยงไปว่าอาจารย์หมายถึงคุณชิณณ์
ผมว่าไม่แฟร์
ผมว่าอาจารย์พูดกลางๆไม่ได้หมายถึงใครเฉพาะ
โยงแบบนี้เสียหายทั้งอาจารย์และคุณชิณณ์
ขอร้องอย่าโยงคําพูดอาจารย์ไปกล่าวหาใครเลยครับ

บทความของอาจารย์ทุกๆตอนมีคุณค่าในตัวเอง
ทั้งเตือนสติและให้ความรู้
แถมได้อ่านฟรีทุกอาทิตย์
แม้จะเห็นด้วยทั้งหมดหรือไม่ก็ตาม
อย่าทําให้อาจารย์หมดกําลังใจเขียนเลยครับ
ถูกต้องแล้วครับ.....ชูสองมือเชียร์เต็มที่เลยครับ :D :D :D

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 11:22 am
โดย leky
อดีต

VI = VI

ปัจจุบัน

VI =

1.1 VI สาย Technical

1.2 VI สาย VS

1.3 VI สาย Fund flow

1.4 VI สาย CI

อนาคต ที่อาจจะมี

VI =

1.1 VI สาย Technical

1.2 VI สาย VS

1.3 VI สาย Fund flow

1.4 VI สาย CI

1.5 VI สาย เก็งกำไร

1.6 VI สาย โหราศาสตร์และไสยศาสตร์

1.7 VI สาย Day trade หรือเรียกให้ไม่น่าเกลียดคือ VI ระยะสั้นมากกกกก


ไม่ว่าเราจะเป็น VI สายไหน คงไม่สำคัญว่าเราเอาคำว่า VI มาประดับกับแนวทางของเราแล้วเราก็เป็น VI แต่มันสำคัญว่า "วิถี" ที่เราใช้คืออะไรมากกว่าครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 12:35 pm
โดย chukieat30
leky เขียน:อดีต

VI = VI

ปัจจุบัน

VI =

1.1 VI สาย Technical

1.2 VI สาย VS

1.3 VI สาย Fund flow

1.4 VI สาย CI

อนาคต ที่อาจจะมี

VI =

1.1 VI สาย Technical

1.2 VI สาย VS

1.3 VI สาย Fund flow

1.4 VI สาย CI

1.5 VI สาย เก็งกำไร

1.6 VI สาย โหราศาสตร์และไสยศาสตร์

1.7 VI สาย Day trade หรือเรียกให้ไม่น่าเกลียดคือ VI ระยะสั้นมากกกกก


ไม่ว่าเราจะเป็น VI สายไหน คงไม่สำคัญว่าเราเอาคำว่า VI มาประดับกับแนวทางของเราแล้วเราก็เป็น VI แต่มันสำคัญว่า "วิถี" ที่เราใช้คืออะไรมากกว่าครับ

เด๋วนี้ลูกครึ่งเยอะครับ ไม่เว้นกระทั่งการลงทุน ลูกครึ่งก้ยังดี ดีกว่าครึ่งควบลูก

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 21, 2012 12:43 pm
โดย chukieat30
1.6 VI สาย โหราศาสตร์และไสยศาสตร์

ชอบครับ +1

ผมขอเรียกว่า GI Ghost Investor หรือนักลงทุนผีบอก ครับ

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 22, 2012 1:53 pm
โดย peacedev
สุดยอดดดด มากกกกก ๆ ครับ

อาจารย์เตือนสติได้ดีมากเลยครับ

ดูคนและคุณค่าของเขาจากสิ่งที่เขา"ทำ" ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
ไม่ใช่สิ่งที่เขาพยายามแสดงออกให้คนอื่นเห็น

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 25, 2012 10:55 am
โดย simpleBE
ขอบคุณครับอาจารย์
ผมจะเก็บไว้เตือนตัวเอง
ผมจะมองแต่สิ่งดีของคนอื่น
เพ่งและกำจัดจุดบกพร่องของตัวเองครับ
:bow:

Re: วัฒนธรรมเภท/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 27, 2012 2:47 am
โดย BIRDeyeView
บนเส้นทางของนักลงทุน

มี V.I. สายบุ๊น กับ V.I. สายบู๊

V.I.สายบุ๊น
มั่งคั่งในธุรกิจที่แข็งแกร่ง เติบโตอย่างยั่งยืน และยาวนาน

V.I.สายบู๊
อาศัย อินทิสิดแวลู่ เส้นกร๊าฟ และจิตวิทยามวลชน เข้าต่อกรอย่างองอาจ และห้าวหาญ กับทัพฟันด์โฟลว์ กองทุน และสุดยอดเซียนนักเก็งกำไรระดับตำนาน อย่างไม่เกรงหน้าอินหน้าพรหม

ความมั่งคั่งอย่างมหาศาลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว "ดั่งเนรมิต" ของ V.I. สายบู๊ สร้างความแตกตื่น และงวยงง กลายเป็นกระแส ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่คฤหาสน์หรูราคาหลายร้อยล้าน ไปจนถึงห้องเช่าซอมซ่อ ในย่านสลัม

เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาด

เป็น Idol ของนักลงทุนรุ่นใหม่ และนักลงทุน V.I. ที่ยังต้องอาศัยรอยเท้าของเซียนเพื่อบรรลุเส้นทางฝัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------

จะมีสักกี่คน ที่จะมองไปที่

"ที่มาของกำไร"

คุณชินไม่ได้บอกตรงๆ
แต่คุณชินก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่า
ที่มาของกำไรก้อนนั้นมาจาก. . .

การทุ่มเทความมานะ พยายาม อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ให้กับการศึกษา-ค้นคว้า-ฝึกฝน-เรียนรู้ มาอย่างหนัก มาทั้งชีวิต

กว่าจะบรรลุผลตรงนั้น ! ! !

คุณชิน บอกเป็นนัยๆ ว่า

*** โชคดี ไม่เคยเดินมาเคาะประตูบ้านใคร ถ้าอยากได้ คุณต้องออกไปแสวงหาเอาเอง

จะมีสักกี่คนที่มองข้ามเงิน 100 ล้าน แล้วมาดูตรงส่วนนี้

การไม่รู้ที่มาของกำไร . . .
การไม่รู้ที่มาที่แท้จริงของกำไร
เป็นหายนะภัยของการลงทุนที่แท้จริง


นี่คือ สิ่งที่ อาจารย์นิเวศ รู้สึกเป็นห่วงเป็นใย คอยตักเตือนนักลงทุนอยู่เสมอมิได้ขาด
ซึ่งผมคิดว่าเป็นกุศลจิต และเมตตาจิต อันสูงส่งอันหาที่เปรียบมิได้แล้วครับท่าน.