Thai VI

USA:นักลงทุนแห่ถอนเงินกองทุนหุ้นสหรัฐ 6 พันล้านดอลล์ หนักสุดในกองทุน ETF
นิวยอร์ค--30 ก.ย.--รอยเตอร์

บริษัทลิปเปอร์ในเครือธอมสัน รอยเตอร์เปิดเผยว่า นักลงทุนสหรัฐ
ถอนเงินลงทุน 5.892 พันล้านดอลลาร์ออกจากกองทุนหุ้นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุด
วันที่ 28 ก.ย. โดยส่วนใหญ่เป็นการถอนเงินลงทุนออกจากกองทุน ETF
ลิปเปอร์จัดทำรายงานรายสัปดาห์โดยรวบรวมข้อมูลมาจากกองทุน
ETF และกองทุนรวมที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ โดยตลาดมองว่าตัวเลขของ
กองทุน ETF สะท้อนความเห็นของนักลงทุนสถาบัน
ลิปเปอร์ระบุว่า นักลงทุนถอนเงินทุน 4.246 พันล้านดอลลาร์
ออกจากกองทุนหุ้นบริษัทสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการถอนเงินลงทุน 2.7 พันล้าน
ดอลลาร์ออกจากกองทุน ETF
นักลงทุนยังได้ถอนเงินลงทุน 1.646 พันล้านดอลลาร์ออกจาก
กองทุนหุ้นบริษัทต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ที่ถอน
ออกจากกองทุน ETF
นายทอม โรซีน นักวิเคราะห์ของลิปเปอร์กล่าวว่า เงินลงทุน
ส่วนใหญ่ที่ถอนออกจากกองทุนหุ้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นเงินของนักลงทุนสถาบัน
โดยบางส่วนเป็นเงินสำหรับระยะเวลาการลงทุนที่สั้นมาก โดยอยู่ในระดับ
4 วันหรือต่ำกว่านั้น
"นักลงทุนจำนวนมากใช้ ETF เพื่อจุดประสงค์ทางการลงทุนระยะสั้น
ซึ่งความเคลื่อนไหวขนาดใหญ่แบบนี้ทำให้เรามองว่าเป็นความเคลื่อนไหวของ
นักลงทุนสถาบัน" นายโรซีนกล่าว
เงินลงทุนที่ไหลออกจาก ETF กระจุกตัวอยู่ในกองทุนดัชนีขนาดใหญ่
4 แห่ง โดยมีการถอนเงินลงทุน 1.29 พันล้านดอลลาร์ออกจากกองทุน iShares
Russell 2000 Index ETF, 800 ล้านดอลลาร์ออกจากกองทุน SPDR S&P 500
ETF, 647 ล้านดอลลาร์ออกจากกองทุน iShares MSCI Emerging Markets
ETF และ 594 ล้านดอลลาร์ออกจากกองทุน iShares Russell 1000 Growth
Index ETF
ถ้าหากไม่นำตัวเลขของกองทุน ETF มารวมในการคำนวณ นักลงทุน
ก็ถอนเงินลงทุนออกจากกองทุนหุ้นบริษัทสหรัฐเพียง 1.55 พันล้านดอลลาร์ และ
ถอนเงินออกจากกองทุนหุ้นบริษัทต่างประเทศเพียง 132 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน กองทุนพันธบัตรเทศบาลมีเงินไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่ 4
ติดต่อกัน โดยมีเงินไหลเข้า 600 ล้านดอลลาร์ ส่วนกองทุนตลาดเงินมีเงิน
ไหลเข้า 6.261 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด
กองทุนพันธบัตรเทศบาลมีเงินไหลเข้า 11 สัปดาห์ในช่วง 13 สัปดาห์
ที่ผ่านมา
กองทุนตราสารหนี้ที่ต้องเสียภาษีมีเงินไหลเข้า 1.581 พันล้านดอลลาร์
ในสัปดาห์ล่าสุด--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)
(([email protected];โทร 0-2648-9741;

CHINA:ภาคการผลิตจีนหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ในก.ย.จากผลกระทบศก.โลกชะลอตัว
ปักกิ่ง--30 ก.ย.--รอยเตอร์

ภาคการผลิตของจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ย.
ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้รับผลกระทบจากชะลอตัว
ของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทรงตัวที่
49.9 ในเดือนก.ย. โดยไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค. โดยดัชนี PMI บ่งชี้
ถึงภาวะธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
ตัวเลข PMI ที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะการผลิตที่หดตัวลง
และขณะนี้ดัชนี PMI ได้อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งถือ
เป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินระดับโลก ซึ่งขณะนั้น
ดัชนีร่วงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเวลา 8 เดือนติดต่อกันตั้งแต่เดือนส.ค.2008
สัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนทำให้เกิดความวิตกว่า จีนจะ
ไม่สามารถช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเหมือนในช่วงหลายปี
ที่ผ่านมา เพื่อชดเชยกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป
"ดัชนี PMI ตอกย้ำมุมมองของเราที่ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้ม
ที่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป" นางคอนนี เซียะ นักเศรษฐศาสตร์
ของฟอร์แคสต์ในสิงคโปร์กล่าว
"ภาคการค้าจะเผชิญกับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวของ
การส่งออกในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจีนยังไม่ได้เผชิญกับการ
ทรุดตัวของอุปสงค์ทั่วโลกเหมือนในปี 2009"--จบ--

(รอยเตอร์ โดย กัลยาณี ชีวะพานิช แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)
(([email protected];โทร 0-2648-9741;

EUROPE:คาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดร่วง ขณะมีแนวโน้มปิดไตรมาสนี้ย่ำแย่สุดในรอบ 3 ปี
ลอนดอน--30 ก.ย.--รอยเตอร์

ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าตลาดหุ้นยุโรปจะเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้
และไตรมาสนี้มีแนวโน้มดิ่งลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ราคาโลหะ
ที่อ่อนแอจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์วัสดุอุตสาหกรรมทั่วโลกเป็นปัจจัย
กดดันหุ้นกลุ่มเหมือง
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษจะเปิดตลาด
ปรับตัวลง 17-30 จุดหรือ 0.6%, ดัชนี DAX ของเยอรมนีจะเปิดตลาด
ปรับตัวลง 6-19 จุดหรือ 0.3% และดัชนี CAC-40 ของฝรั่งเศสจะ
ปรับตัวลง 8-14 จุดหรือ 0.5%
ดัชนี FTSEurofirst 300 ปิดบวก 0.6% สู่ 933.26
เมื่อวานนี้หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐดีเกินคาด แต่ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลง
เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน และดิ่งลงประมาณ 16% ในไตรมาสนี้--จบ--

(รอยเตอร์ โดย กัลยาณี ชีวะพานิช แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)
(([email protected];โทร 0-2648-9741;

sci เขียน:

thaloengsak เขียน:

jo7393 เขียน:

KimVi เขียน:

jo7393 เขียน:ปัจจุบัน set เริ่มเข้า หมี สมบูรณ์แล้ว แปลว่าจะมีจุดต่ำสุดให้เราซื้อ ไม่เกิน 2ปีนับจากนี้ บางทีอาจจะเป็นแค่ 6 เดือน หรือ 1ปีก็ได้ ครับ

เรียนถามครับ เพื่อเป็นความรู้ต่อไป การดูตลาดเริ่มเข้าสู่หมีแล้ว ดูอย่างบ้างครับ มีเกณฑ์ไหมครับ เพราะบ้างครั้งก็ว่าพักฐาน บางครั้งก็ว่าถดถอย

ผมก็๋จำเขามาอีกทีนะครับ เขาว่า
price>ema50>sma200 = กระทิง
ema50>price>sma200 = กระทิงป่วย
ema50>sma200>price = ลูกหมี
sma200>ema50>price = หมี

ถ้าอ้างอิงดูจากกราฟ ผมตีความว่า หมี ถูกไหมครับ?

Ema50 sma200 คืออะไรครับ แล้วมันใช้ได้จริง ตลอดรึเปล่าครับ

มันคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ครับ
EMA50 คือ Exponential moving average 50 วัน
SMA200 คือ Simple moving average 200 วัน

ผมก็ใช้ดูแนวตลาดเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่ผมจะดูแค่ว่าที่ผ่านมาตลาดช่วงไหนเป็นหมี หรือเป็นกระทิง แต่ดูอนาคต มันก็กึ่งๆเดาเหมือนกันครับ(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนนะครับ)

jittapat เขียน:

sci เขียน:

thaloengsak เขียน:

jo7393 เขียน:

KimVi เขียน:

jo7393 เขียน:ปัจจุบัน set เริ่มเข้า หมี สมบูรณ์แล้ว แปลว่าจะมีจุดต่ำสุดให้เราซื้อ ไม่เกิน 2ปีนับจากนี้ บางทีอาจจะเป็นแค่ 6 เดือน หรือ 1ปีก็ได้ ครับ

เรียนถามครับ เพื่อเป็นความรู้ต่อไป การดูตลาดเริ่มเข้าสู่หมีแล้ว ดูอย่างบ้างครับ มีเกณฑ์ไหมครับ เพราะบ้างครั้งก็ว่าพักฐาน บางครั้งก็ว่าถดถอย

ผมก็๋จำเขามาอีกทีนะครับ เขาว่า
price>ema50>sma200 = กระทิง
ema50>price>sma200 = กระทิงป่วย
ema50>sma200>price = ลูกหมี
sma200>ema50>price = หมี

ถ้าอ้างอิงดูจากกราฟ ผมตีความว่า หมี ถูกไหมครับ?

Ema50 sma200 คืออะไรครับ แล้วมันใช้ได้จริง ตลอดรึเปล่าครับ

มันคือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ครับ
EMA50 คือ Exponential moving average 50 วัน
SMA200 คือ Simple moving average 200 วัน

ผมก็ใช้ดูแนวตลาดเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่ผมจะดูแค่ว่าที่ผ่านมาตลาดช่วงไหนเป็นหมี หรือเป็นกระทิง แต่ดูอนาคต มันก็กึ่งๆเดาเหมือนกันครับ(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนนะครับ)

ใช้โปรแกรมอะไรดูครับ บางครับผมว่าเอาไว้ดู เพื่อ ตัดbias บ้างก็ดี จะได้รู้เทรน

ข่าวกรีซ จันทร์ที่ 3 ต.ค. 2011
ส.ส.เยอรมนีชี้กรีซล้มละลายแล้ว ระบุอาจจะต้องยอมลดหนี้ให้ 50%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 1 ชั่วโมง 37 นาทีที่แล้ว
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสมาชิกคนสำคัญของฝ่ายอนุรักษ์นิยมของเยอรมนี เปิดเผยว่า กรีซอยู่ในภาวะล้มละลายแล้ว และมีความเป็นไปได้ว่า จะต้องมีการลดหนี้ให้กรีซอย่างน้อย 50% นายไมเคิล ฟุคส์ หนึ่งในผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU) ของนายกรัฐมนตรีแองเจลา แมร์เคล กล่าวกับหนังสือพิมพ์ Rheinische Postอ่านต่อ

ข่าวกรีซ จันทร์ที่ 3 ต.ค. 2011
World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 3 ตุลาคม 2554
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 9 นาทีที่แล้ว
กระทรวงการคลังกรีซเปิดเผยว่า กรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 2554 2555 ตามที่ได้ตกลงไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นสองสถาบันที่ปล่อยเงินกู้ให้กับกรีซในขณะนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของกรีซจะอภิปรายร่างงบประมาณในการประชุมรัฐสภาในวันนี้อ่านต่อ

เห็นหลายคนถามเรื่อง ema sma
แต่ในเวบมีกฎไม่ให้โพส เทคนิค ผมเลยไม่อยากโพสเรื่องนี้มากไป
สำหรับท่านที่สนใจการดูเทรนด์โดยกราฟ แนะนำใช้ meta stock ครับ หาซื้อแผ่นโปรแกรมได้จากฟอร์จูน หรือพันทิพ หรือจะหาโหลดจากเนทก็เคยเห็นผ่านตา ถ้าจำไม่ผิดพี่ครรชิตก็มีให้โหลดครับ
ที่เหลือก็ลองหาหนังสือเกี่ยวกับกราฟมาอ่านเล่นดูบ้างครับ รู้ไว้ไม่เสียหาย ไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรครับ

13 ต.ค.จับตายูโรโซนชี้ชะตาปล่อยกู้กรีซ 8 พันล้านยูโร


วันจันทร์ที่ 03 ตุลาคม 2554 เวลา 17:52:26 น.
ผู้เข้าชม : 12 คน


รอยเตอร์รายงานว่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะหารือกันในวันนี้เกี่ยวกับแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) แต่จะยังไม่ตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวในวันนี้ และจะหารือกันเรื่องการกดดันรัฐบาลกรีซให้ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างตามที่ตกลงกันไว้เพื่อให้เศรษฐกิจกรีซเติบโตขึ้นอีกครั้งด้วย

รัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศจะประชุมกันที่ลักเซมเบิร์กในวันนี้ หลังจากรัฐบาลกรีซยอมรับว่าจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการคลังที่กำหนดไว้ ถึงแม้เป้าหมายดังกล่าวเป็นเงื่อนไขหนึ่งสำหรับการรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินต่อไปจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

ในการหลีกเลี่ยงจากภาวะล้มละลายนั้น กรีซจำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินงวดถัดไปซึ่งมีวงเงิน 8 พันล้านยูโร (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์) จากอียูและไอเอ็มเอฟ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลกรีซจะไม่มีเงินเหลือไว้ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

รัฐมนตรียูโรโซนจะยังไม่ตัดสินใจในวันนี้ว่าจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลืองวดถัดไปหรือไม่ โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะมีขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปในวันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค.

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลืองวดถัดไปเนื่องจากยูโรโซนยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ จนกว่า EFSFจะได้รับอำนาจใหม่ในการแทรกแซงตลาดเมื่อทุกประเทศสมาชิกยูโรโซนให้สัตยาบันรับรองประเด็นนี้ภายในเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้า

แต่ถึงแม้ EFSF ได้รับมอบอำนาจใหม่ในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาด, ในการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์ และในการปล่อยกู้แก่รัฐบาลในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า EFSF ก็อาจจะยังไม่มีเงินสดมากพอที่จะใช้ตอบสนองความต้องการทางการเงินทั้งหมด

สหรัฐเป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ EFSF แต่เจ้าหน้าที่ยูโรโซนบางรายคัดค้านแนวคิดนี้ เนื่องจากกังวลว่าวิธีการนี้อาจส่งผลให้ประเทศสมาชิกยูโรโซนต้องแบกรับหนี้เพิ่มขึ้นจากระดับการค้ำประกัน EFSF ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 7.80 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ วิธีการนี้อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ EFSF ลงจาก AAA หรือปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศผู้ค้ำประกัน EFSF ลงจาก AAA ด้วย

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จะมีการสำรวจเฉพาะทางเลือกที่ไม่ส่งผลให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเท่านั้น ในบรรดาแนวคิดที่อยู่ภายใต้การพิจารณาในขณะนี้ วิธีการหนึ่งก็คือการอนุญาตให้ EFSF สามารถรีไฟแนนซ์ตัวเองผ่านทางปฏิบัติการของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในการอัดฉีดสภาพคล่องให้แก่ ธนาคารพาณิชย์ ส่วนอีกวิธีการหนึ่งคือการให้ EFSF รับประกันว่าจะชดเชยยอดขาดทุนบางส่วนที่นักลงทุนได้รับในกรณีที่รัฐบาลบางประเทศผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่ว่ายูโรโซนจะนำวิธีการใดก็ตามมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ EFSF วิธีการดังกล่าวก็ไม่ควรจะต้องผ่านการให้สัตยาบันรับรองจากทุกประเทศอีกรอบ เนื่องจากกระบวนการรับรองดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานานมาก ในขณะที่หลายประเทศในยูโรโซนเผชิญกับกระแสคัดค้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอ

บรรดารัฐมนตรียูโรโซนจะตัดสินใจเรื่องการสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งแทนนายเจอร์เกน สตาร์คในคณะกรรมการบริหารอีซีบีด้วย โดยนายสตาร์คลาออกโดยอ้างเหตุผลส่วนตัว แต่แหล่งข่าวกล่าวว่าสาเหตุสำคัญที่เขาลาออกเป็นเพราะเขาคัดค้านมาตรการของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล

รัฐมนตรียูโรโซนจะหารือกันเรื่องการปรับเปลี่ยนระบบควบคุมเศรษฐกิจยูโรโซนด้วย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในวันจันทร์ที่ 17 ต.ค.
ที่มา ..http://www.kaohoon.com/online/21384/13- ... นยูโร-.htm

คงเป็นการวัดใจว่าสหภาพยุโรปจะรอดหรือไม่รอดครับ หากประเทศที่แข็ง ๆ อย่าง เยอรมัน ฝรั่งเศส ไม่ช่วยก็คงจบ กรีซคงไม่รอด ตลาดหุ้นก็คงจะพังอีกรอบ

ตอนนี้คงจับตามองความช่วยเหลือที่ประเทศอื่นในสหภาพยุโรปจะช่วยกรีซละครับ

ถ้ากรีซทำตัวให้เหมือนคนน่าช่วยเหลือ ป่านนี้อะไรๆก็คงง่ายขึ้นเยอะ

ข่าวกรีซ อังคารที่ 4 ต.ค. 2011
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวถ้วนหน้าเช้านี้ เหตุวิตกหนี้กรีซ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 5 นาทีที่แล้ว
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช้านี้ เนื่องจากที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนยังไม่สามารถสรุปมาตรการคลี่คลายวิกฤตหนี้ยุโรปได้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกและแบงก์ร่วงลง ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,426.39 จุด ลดลง 119.09 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,731.58 จุด ลดลง 90.57 จุดอ่านต่อ

ประชุมยูโรโซนไม่คืบ คาดส่งผลกรีซผิดนัดชำระหนี้ 3.5 แสนล้านยูโร


วันอังคารที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 11:16:03 น.
ผู้เข้าชม : 305 คน


รอยเตอร์รายงานว่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนประชุมกันวานนี้เพื่อหารือวิกฤติหนี้ของกรีซอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ประชุมกันนานกว่า 6 ชั่วโมง แต่ที่ประชุมก็ไม่ได้ประกาศมาตรการที่ชัดเจนออกมา และมีแนวโน้มว่าการประชุมในครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์มีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น โดยนักลงทุนบางรายคาดว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้วงเงิน 3.57 แสนล้านยูโรในอนาคต

นายโอลลี เรห์น กรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินของอียูกล่าวว่ายุโรปเผชิญกับอุปสรรค 3 ประการ ซึ่งได้แก่ การที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก, ความตึงเครียดในภาครัฐบาล และการที่ภาคธนาคารยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง

โดยความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลในทางบวกในทันทีเพียงอย่างเดียวที่เกิดจากการประชุมครั้งนี้ ก็คือการคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำเนินมานานหลายเดือนในเรื่องข้อเรียกร้องของฟินแลนด์ที่ต้องการให้มีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมสำหรับสินเชื่อใหม่ของกรีซ

ขณะเดียวกันที่ประชุมก็ได้พิจารณาทบทวนการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อมาตรการให้ความช่วยเหลือ และเพิ่มความเป็นไปได้ที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มยูโรกรุ๊ปกล่าวว่า ทางกลุ่มกำลังพิจารณาทบทวนเรื่องขอบเขตการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในมาตรการให้ความช่วยเหลือรอบ 2 สำหรับกรีซ โดยมาตรการดังกล่าวได้มีการตกลงกันในวันที่ 21 ก.ค.

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหนี้เอกชนตกลงที่จะปรับลดมูลค่าการถือครองพันธบัตรกรีซลง 21 % เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินของกรีซ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการขาดดุลงบประมาณของกรีซย่ำแย่ลงมาก ข้อตกลงดังกล่าวจึงจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาใหม่

นายยุงเกอร์กล่าวว่า "ในส่วนของ PSI (การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน) จำเป็นต้องพิจารณาความจริงที่ว่าได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นนับตั้งแต่ตัดสินใจเรื่องนี้ในวันที่ 21 ก.ค. ดังนั้นจึงพิจารณาเรื่องการปรับแก้ทางเทคนิค
ที่มา.. http://www.kaohoon.com/online/21439/ประ ... นยูโร-.htm

วิกฤติหนี้ยุโรปลามธนาคารสหรัฐ ลือหึ่งมอร์แกนฯ เสี่ยงปล่อยกู้ธ.ฝรั่งเศส


วันอังคารที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 12:37:48 น.
ผู้เข้าชม : 59 คน


รอยเตอร์รายงานว่าวิกฤติหนี้ยุโรปได้ลุกลามมาถึงธนาคารสหรัฐแล้ว โดยส่งผลให้ต้นทุนในการชำระหนี้ของธนาคารสหรัฐพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติปี 2008 และทำให้นักลงทุนกังวลกับขนาดความเสี่ยงที่ธนาคารสหรัฐอาจได้รับจากวิกฤติหนี้ยุโรป ขณะที่ไม่มีแนวโน้มว่าวิกฤติดังกล่าวจะได้รับการคลี่คลายในระยะอันใกล้นี้

ธนาคารสหรัฐซึ่งรวมถึงมอร์แกน สแตนเลย์และแบงก์ ออฟ อเมริกาพบว่าต้นทุนของตราสาร CDS (credit default swap) ของธนาคารสหรัฐพุ่งขึ้นในขณะที่ธนาคารแห่งอื่นๆ ทำประกันความเสี่ยงจากคู่สัญญา และนักเก็งกำไรลงทุนตามการคาดการณ์ที่ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ลงไปอีกในอนาคต

ทั้งนี้ นักลงทุนได้หันไปใช้ตราสาร CDS เพื่อรองรับความเสี่ยงในกรณีที่มูลค่าตราสารหนี้ของตนร่วงลงในอนาคต ในขณะที่สภาพคล่องในตลาดหุ้นกู้เอกชนหดหายไป

มอร์แกน สแตนเลย์เป็นธนาคารที่เผชิญกับความผันผวนมากที่สุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบริษัทมาร์กิตระบุว่า ต้นทุน CDS ของมอร์แกน สแตนเลย์พุ่งขึ้นกว่า 2% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทะยานขึ้นสู่ 5.18 % เมื่อวานนี้ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2008 ที่ตัวเลขนี้ขึ้นมาอยู่เหนือ 5.00 %

มอร์แกน สแตนเลย์ได้รับแรงกดดันนับตั้งแต่ Zero Hedge ซึ่งเป็น blog ทางการเงินระบุเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า มอร์แกน สแตนเลย์เผชิญความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ให้แก่ธนาคารฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวกล่าวว่ามอร์แกน สแตนเลย์ไม่ได้มีสถานะปล่อยกู้สุทธิแก่ฝรั่งเศส

การพุ่งขึ้นของต้นทุน CDS ของมอร์แกน สแตนเลย์สร้างความกังวลต่อนักลงทุนในตลาดหุ้นและส่งผลให้ราคาหุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ดิ่งลง และการดิ่งลงของราคาหุ้นก็เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อ CDS ของมอร์แกน สแตนเลย์มากยิ่งขึ้น และส่งผลให้ต้นทุนCDS พุ่งขึ้นไปอีก และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลให้นักลงทุนต้องการซื้อสัญญาคุ้มครองความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ความกังวลเรื่องความเสี่ยงของธนาคารสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ตลาดก็อาจจะเผชิญกับภาวะวงจรสะท้อนกลับในเชิงลบ ซึ่งอาจส่งผลให้มูลค่าตราสารหนี้และหุ้นดิ่งลงต่อไป และทำให้สภาพคล่องในตลาดสินเชื่อหดหายไป ขณะที่ทำให้นักลงทุนรีบถือครองเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

การอ่อนค่าลงของยูโร/ดอลลาร์อาจจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารยุโรปมากยิ่งขึ้นด้วย ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปเผชิญปัญหาอยู่แล้วในช่วงนี้จากการที่ธนาคารสหรัฐไม่เต็มใจจะปล่อยกู้แก่ธนาคารยุโรป

นายจอห์น กวาร์เนรา นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารโซซิเอเตเจเนอราล กล่าวว่า "ความกังวลเรื่องหนี้รัฐบาลยูโรโซนเริ่มส่งผลกระทบต่อสหรัฐในขณะที่ตลาดกังวลว่าธนาคารสหรัฐบางแห่งมีสถานะการลงทุนอย่างไรในตลาดยุโรป"

"กระแสความกังวลคือปัจจัยที่กระตุ้นความเคลื่อนไหวในตลาดขณะนี้ โดยเป็นความกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เราไม่รู้ และด้วยเหตุนี้นักลงทุนจึงใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเป็นอย่างมาก"

หนึ่งในปัจจัยหลักที่สร้างความกังวลในภาคธนาคารสหรัฐคือการขาดแคลนข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการลงทุนของธนาคาร โดยเฉพาะเมื่อธนาคารลงทุนในตราสารอนุพันธ์และเมื่อธนาคารเปิดเผยเพียงแค่ข้อมูลขั้นต้นเกี่ยวกับสถานะการลงทุนของตน

นายกวาร์เนรากล่าวว่า "มีความสับสนในเรื่องสถานะการลงทุนในตราสารอนุพันธ์" และกล่าวเสริมว่า "ตัวเลขที่ทุกคนนำมาใช้พิจารณาเป็นตัวเลขที่ย้อนหลังไปนานมาก โดยเป็นตัวเลขตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.ของปีที่แล้ว"

ธนาคารอาจจะมีโอกาสชี้แจงสถานะการลงทุนของตนผ่านทางงบกำไรขาดทุนรายไตรมาสที่จะเปิดเผยออกมาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้นตลาดก็อาจจะตกอยู่ภายใต้กระแสความกังวลและความไม่แน่นอน ในขณะที่สถานการณ์ในยุโรปเลวร้ายลงในแต่ละวัน

สื่อมวลชนรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คอาจจะขอให้ธนาคารยุโรปเปิดเผยข้อมูลด้านสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น ในขณะที่สหรัฐจับตาดูความเสี่ยงจากวิกฤติยูโรโซน

นายเยนส์ นอร์ดวิก หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารหนี้ของบริษัทโนมูระกล่าวว่า"ประเด็นหลักที่เรากังวลก็คือว่า เรายังคงเผชิญกับภาวะสูญญากาศทางนโยบาย"และตั้งข้อสังเกตว่าผู้กำหนดนโยบายของประเทศสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศจำเป็นต้องให้สัตยาบันต่อมาตรการแก้ปัญหาในเรื่องนี้

นายนอร์ดวิกระบุว่า ในขณะที่ยูโรโซนยังไม่มีแนวโน้มแก้วิกฤติได้ในเร็วๆ นี้การอ่อนค่าของยูโรก็อาจส่งผลลบต่อการลงทุนของต่างชาติในยูโรโซน

ธนาคารพาณิชย์ของยุโรปได้รับความเสียหายในระยะนี้ เนื่องจากเจ้าหนี้ในตลาดเงินสหรัฐไม่ยอมปล่อยกู้ผ่านทางตราสารพาณิชย์ระยะสั้นแก่ยุโรป

นายนอร์ดวิกกล่าวเสริมว่า "ถ้าหากเกิดวงจรสะท้อนกลับทางความเชื่อมั่นเมื่อนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆในเรื่องการถือครองสินทรัพย์ยุโรปโดยเป็นผลจากการที่ราคาสินทรัพย์ร่วงลงและจากการที่ยูโรอ่อนค่าลง ภาวะดังกล่าวก็อาจสร้างความลำบากมากยิ่งขึ้นในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่ตลาดพันธบัตร"

ต้นทุนของธนาคารยุโรปในการกู้เงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดสัญญาสว็อปสกุลเงินยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อวานนี้ โดยอยู่ในระดับใกล้จุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2008 ทำให้ธนาคารยุโรปจำเป็นต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในการกู้ยืมเงินระยะสั้นระหว่างธนาคาร โดยอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ณ ตลาดลอนดอน (LIBOR) สำหรับการกู้เงินดอลลาร์ระยะ 3 เดือนได้ถูกกำหนดไว้ที่จุดสูงสุดรอบ 13 เดือน ที่ 0.37761 %

ธนาคารเครดิต อะกริโคลของฝรั่งเศส, โซซิเอเต เจเนอราลของฝรั่งเศส,RBS ของอังกฤษ และเครดิต สวิส ต่างก็รายงานว่าทางธนาคารจำเป็นต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า LIBOR เล็กน้อย
ที่มา.. http://www.kaohoon.com/online/21443/วิก ... ่งเศส-.htm

ยูโรโซนยกเลิกประชุม 13 ต.ค. เลื่อนปล่อยกู้กรีซเป็นเดือนพ.ย.


วันอังคารที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 11:09:34 น.
ผู้เข้าชม : 347 คน


รอยเตอร์รายงานว่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือกลุ่มยูโรกรุ๊ป ได้ตกลงกันหลังการประชุมวานนี้ที่ลักเซมเบิร์กว่า กรีซสามารถรอจนถึงกลางเดือนพ.ย.สำหรับการรับเงินช่วยเหลือฉุกเฉินงวดถัดไปภายใต้มาตรการให้ความช่วยเหลือรอบแรก โดยการตกลงกันในเรื่องนี้ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลกรีซให้แก้ไขปัญหาหนี้สินของตนเอง

การตกลงดังกล่าวส่งผลให้การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนครั้งถัดไปที่กำหนดไว้ในวันที่ 13 ต.ค.ได้ถูกยกเลิก และผู้ตรวจสอบของสหภาพยุโรป (อียู),กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)หรือกลุ่ม "ทรอยกา" ก็จะมีเวลา 2-3 สัปดาห์ในการจัดทำรายงานเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณของกรีซ

นายดิดิเยร์ เรย์นเดอร์ส รมว.คลังเบลเยียมกล่าวว่า "กรีซบอกเราว่ากรีซจำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพ.ย." โดยถ้อยแถลงนี้เป็นการกำหนดเส้นตายครั้งใหม่ให้กับการจ่ายเงินช่วยเหลืองวดดังกล่าว

"เราได้ทบทวนแผนการของกรีซ และขณะนี้เราก็กำลังรอดูรายงานฉบับสุดท้ายจากทรอยกา เพราะเรามีเวลาสำหรับการตัดสินใจในเรื่องนี้" นายเรย์นเดอร์สกล่าว
ที่มา.. http://www.kaohoon.com/online/21437/ยูโ ... นพ.ย.-.htm

ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 15 เดือนในวันนี้


วันอังคารที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 15:40:45 น.
ผู้เข้าชม : 108 คน


รอยเตอร์รายงานว่าตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 15 เดือนในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนจากความไม่แน่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของกรีซในการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดวิกฤติภาคธนาคารครั้งใหญ่ในยุโรป และทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างรุนแรง

ดัชนี MSCI สำหรับตลาดหุ้นโลก ร่วงลง 1% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2010 โดยดัชนีดิ่งลงกว่า 18% แล้วนับตั้งแต่เดือนม.ค. และกว่า 24% นับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือนมี.ค. โดยหุ้นยุโรปร่วงลง 1.5% ในวันนี้ ส่วนหุ้นตลาดเกิดใหม่ร่วงลง 1.4% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2009 ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปดิ่งลง 2.3%

ขณะที่หลายคนในตลาดคาดว่ากรีซจะผิดนัดชำระหนี้ แต่ภาคธนาคารที่เปราะบางอยู่แล้วก็ยังไม่ได้ปรับตัวรับผลกระทบอย่างเต็มที่ โดยหุ้นเด็กเซียทรุดลงถึง 31% ในการซื้อขายช่วงแรกในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลง 10% เมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนของธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส-เบลเยี่ยมแห่งนี้ในกรีซ

"สิ่งที่คุณกำลังจะเริ่มเห็นก็คือ นักลงทุนกำลังทิ้งหุ้นธนาคาร และหุ้นเด็กเซียก็เป็นหุ้นที่อ่อนแอที่สุด" นายจัสติน อูร์กูฮาร์ท สจ๊วต ผู้อำนวยการจากเซเว่น อินเวสเมนต์ แมเนจ เมนต์กล่าว

เด็กเซียประกาศว่าจะแก้ไขงบดุลบัญชี หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสได้ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของเด็กเซียโดยมีแนวโน้มปรับลดลง และเตือนถึงสภาพคล่องของธนาคาร ขณะที่หนังสือพิมพ์เบลเยี่ยมรายงานว่า อาจจะมีการแยกธุรกิจเด็กเซียและสินทรัพย์ "ที่ดี" จะถูกขายภายในสิ้นปีนี้
ที่มา... http://www.kaohoon.com/online/21471/ตลา ... ันนี้-.htm

หุ้นแบงก์กรีซทรุดกว่า 7% ผวาผิดนัดชำระหนี้


วันอังคารที่ 04 ตุลาคม 2554 เวลา 15:51:04 น.
ผู้เข้าชม : 65 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาเรีย คาเนลโลปูลู นักวิเคราะห์จาก EuroxxSecurities เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซดิ่งลงกว่า 7% ในวันนี้จากการที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากรัฐบาลกรีซไม่สามารถบรรลุเป้าลดยอดขาดดุลงบประมาณ และรมว.คลังยูโรโซนตัดสินใจทบทวนโครงการสว๊อปตราสารหนี้

"การทบทวนปรับเพิ่มยอดขาดดุลที่ระบุไว้ในร่างงบประมาณปี 2012ทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ในตลาด ขณะที่หุ้นกรีซก็ร่วงตามหุ้นยุโรปด้วย"

โดย ณ เวลา 14.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารในตลาดหุ้นกรีซดิ่งลง 7.4% ขณะที่ตลาดหุ้นกรีซร่วงลง 4.6%ทั้งนี้หุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซทรุดตัวลงกว่า 67% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้
ที่มา... http://www.kaohoon.com/online/21474/หุ้ ... ะหนี้-.htm

ข่าวกรีซ พุธที่ 5 ต.ค. 2011
กรีซเหลืองบจ่ายเงินเดือน ขรก.ถึงปลายปี
หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- 33 นาทีที่แล้ว
ข่าวต่างประเทศ โดยอ้างคำแถลงของ นายอีวานเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลังกรีซ ว่า ขณะนี้ รัฐบาลกรีซ เหลืองบประมาณสำหรับจ่ายเงินเดือนข้าราชการ เงินบำนาญ และเงินให้ผู้ถือพันธบัตรได้ถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ยังพอมีเวลาให้นักลงทุนได้พิจารณาว่า จะอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินก้อนใหม่แก่กรีซหรือไม่อ่านต่อ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หวั่นกรีซผิดนัดชำระหนี้ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปร่วงระนาว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 2 ชั่วโมง 11 นาทีที่แล้ว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากผู้นำยุโรปเลื่อนเวลาการเจรจาแผนให้ความช่วยเหลือกรีซออกไป เพราะต้องการทบทวนเงื่อนไขต่างๆให้รอบด้าน หลังจากรัฐบาลกรีซยอมรับว่าอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่ากรีซอาจจะไม่รอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้อ่านต่อ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ร่วง 131.06 จุดหลังประชุมยูโรโซนคว้าน้ำเหลว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 2 ชั่วโมง 32 นาทีที่แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยดัชนีปิดที่ระดับต่ำกว่า 5,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2553 หลังจากที่ประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนไม่ได้ประกาศใช้มาตรการที่ชัดเจนในการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะและแนวทางป้องกันไม่ให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ดัชนี FTSE 100 ดิ่งลง 131.06 จุด ปิดที่อ่านต่อ

รายงานพิเศษ: เบียร์ย้ำไม่เพิ่มเงินกองทุนอีก รบ.แมร์เคิลขับกรีซ
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พุธที่ 5 ตุลาคม 2554
เบอร์ลิน/ลิสบอน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี กล่าวกับนิตยสารซูเปอร์ อิลลู ว่า เยอรมนีจะไม่อนุมัติเงินเพิ่มเติมเพื่อเข้าสมทบในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินของยุโรปอีกต่อไป หลังจากที่รัฐสภาเยอรมนีได้อนุมัติเงินสมทบไปแล้ว 211,000 ล้านยูโร รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่าอ่านต่อ

เบอร์ลุสโคนี" ไม่แคร์มูดี้ส์หั่นเครดิต มั่นใจการคลังเข้าเป้า งบสมดุลภายในปี 2013


วันพุธที่ 05 ตุลาคม 2554 เวลา 11:35:16 น.
ผู้เข้าชม : 66 คน


นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนีของอิตาลีระบุว่าการประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออิตาลีของมูดี้ส์เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยไม่ได้แสดงความกังวลต่อการปรับลดอันดับดังกล่าว โดยระบุว่ารัฐบาลมีพันธกรณีต่อการบรรลุเป้าหมายฐานะการคลังสาธารณะ ซึ่งจะทำให้งบประมาณสมดุลภายในปี 2013

ทั้งนี้ มูดี้ส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของอิตาลีลง 3 ขั้น สู่ระดับ A2 จากระดับ Aa2 พร้อมทั้งคงแนวโน้มเชิงลบ โดยระบุว่า "มูดี้ส์มองเห็น ความเสี่ยงในการระดมทุนที่ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" สำหรับประเทศยูโรโซนที่มีระดับหนี้สินสูงและเตือนว่าอาจจะมีการลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีก โดยอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีที่ A2 นั้นต่ำกว่าอันดับความน่าเชื่อถือ ของเอสโตเนีย และอยู่ในระดับเดียวกับมอลต้า
ที่มา.. http://www.kaohoon.com/online/21546/เบอ ... -2013-.htm

ขอขอบคุณคุณchom13 ที่มาUpdateข่าวเรื่องกรีซในกระทู้นี้ตลอด ทำให้หาข้อมูลได้ง่ายขึ้นครับ

ขอนำ.... Hamburger Crisis รอบใหม่? จาก คม ชัด ลึก มารวบรวมไว้ จากกระทู้

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 24#p921024

ถ้าเราตรวจสอบในเหตุการณ์ ใน 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ที่เรารับมา...

แล้วเปรียบเป็นหนังต่อสู้ หรือนักมวยกำลังชกกันอยู่ มันช่างเขย่าขวัญ และลุ้นกัน จนตัวโกร่งจริงๆ

แต่แล้วมา 2 วันนี้ซิ เหมือนหนังขาดตอน(หยุดเพื่อโฆษณาขายของ) หรือนักมวยในช่วงระฆังพักยกเลย

ขนาดbankในยุโรปถูกลดเครดิตเท่าไรเมื่อวานนี้ ก็ไม่สนใจแล้ว มันดีดกลับ เหมือนดูหนังคนละม้วนเลย

แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตลอด 2 เดือน หลายรอบแล้ว (ลืมจดและนับไว้)

ยิ่งดู ยิ่งสนุก จริงๆ หรือจะบอกว่า บ้าจริงๆหัวใจจะวาย ดีนะ

pakhakorn เขียน:ถ้าเราตรวจสอบในเหตุการณ์ ใน 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ที่เรารับมา...

แล้วเปรียบเป็นหนังต่อสู้ หรือนักมวยกำลังชกกันอยู่ มันช่างเขย่าขวัญ และลุ้นกัน จนตัวโกร่งจริงๆ

แต่แล้วมา 2 วันนี้ซิ เหมือนหนังขาดตอน(หยุดเพื่อโฆษณาขายของ) หรือนักมวยในช่วงระฆังพักยกเลย

ขนาดbankในยุโรปถูกลดเครดิตเท่าไรเมื่อวานนี้ ก็ไม่สนใจแล้ว มันดีดกลับ เหมือนดูหนังคนละม้วนเลย

แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตลอด 2 เดือน หลายรอบแล้ว (ลืมจดและนับไว้)

ยิ่งดู ยิ่งสนุก จริงๆ หรือจะบอกว่า บ้าจริงๆหัวใจจะวาย ดีนะ

ใช่ครับขาวทำนอเง้ดียวกันทำให้หุ้นหรือลงได้ทั้งสองทาง แปลกแต่จริง หรือแมงเม่าอย่างผมคิดไปเองนี่

ziannoom เขียน: ใช่ครับขาวทำนอเง้ดียวกันทำให้หุ้นหรือลงได้ทั้งสองทาง แปลกแต่จริง หรือแมงเม่าอย่างผมคิดไปเองนี่

พี่ziannoom ครับ ผมดูและร่วมแสดงหนังชุดนี้ ทั้งสนุก ทั้งเครียด และได้รับบาดแผลด้วย ครับ

ใครเลือกเส้นทางเช่นไรไม่มี ผิด หรือ ถูก (สำหรับผมคิด) ทำตามความพร้อมและที่เราสบายใจดีที่สุด ครับ เราเข้าและออกได้ตลอดเวลา เรามีอิสระกันทุกๆคน ครับ

ผมยังติดบ่วง ชอบอยู่ร่วม ก็ต้องยอมรับผลนั้นไม่ว่าจะ + หรือ - ที่จะตาม ไม่มีใครรู้อนาคตจริงๆ

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2554
Dexia Bank ธนาคารใหญ่ ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลเบลเยียม กับรัฐบาลฝรั่งเศส หวิดล้มเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2011 หลังมีข่าวออกไปว่า บรรดารัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป มีแนวโน้มจะให้ธนาคารยุโรป ที่เป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาลกรีซ เฉือนเนื้อตัวเอง ด้วยการแฮร์คัตหนี้ให้กรีซมากกว่าที่ตกลงกันไว้เมื่อกลางปี โดยจะให้เพิ่มจาก 21% เป็นอ่านต่อ
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2554
เอเอฟพี สมาชิกชาติยูโรโซน เมื่อวันที่ 3 ต.ค. เลื่อนตัดสินใจว่าจะให้เงินช่วยเหลือก้อนต่อไปแก่กรีซหรือไม่ โดยโยนให้กลับไปรัดเข็มขัดเพิ่มเติม แต่ปฏิเสธหนักแน่นถึงความเป็นไปได้ที่เอเธนส์จะผิดนัดชำระหนี้ ฌอง โคลด จุงก์เกอร์ ประธานยูโรโซนแถลงหลังการหารือของบรรดารัฐมนตรีคลังจากพวกประเทศยูโรโซน ที่ลักเซมเบิร์ก ว่าอ่านต่อ

แผนอุ้มธนาคารยุโรปหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 1.68%


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 06:15:32 น.
ผู้เข้าชม : 139 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานตลาดหุ้นสหรัฐดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวันพฤหัสบดีพุ่งขึ้น 183.38 จุด หรือ 1.68% สู่ระดับ 11,123.33 จุด ปรับขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดพุ่งขึ้น ขณะที่แผนการของยูโรโซนในการคุ้มครองธนาคารพาณิชย์ยุโรปช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าภัยคุกคามจากวิกฤติการเงินกำลังจางหายไป

ดัชนี S&P 500 ปิดทะยานขึ้น 20.94 จุด หรือ 1.83% สู่ระดับ 1,164.97 จุด หลังจากดัชนีร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดรอบ 13 เดือนใกล้ 1,075 จุด ในวันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีก็พุ่งขึ้นมาแล้ว 8.4% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 46.31 จุด หรือ 1.88% สู่ระดับ 2,506.82 จุด

ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 9.14 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งสูงกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีนี้ที่ 8.02 พันล้านหุ้น จำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วนสูงกว่า 11 ต่อ 2 ในตลาดนิวยอร์คและในสัดส่วนสูงกว่า 3 ต่อ 1 ในตลาด
ที่มา... http://www.kaohoon.com/online/21669/แผน ... -1.68-.htm

ธ.กลางยุโรปประกาศตรึงดอกเบี้ยพร้อมเล็งออกมาตรการหนุนสภาพคล่อง


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 06:23:05 น.
ผู้เข้าชม : 111 คน


ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% วานนี้ตามความคาดหมาย และคาดว่าจะออกมาตรการด้านสภาพคล่องใหม่ๆเพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในการรับมือกับวิกฤติหนี้ที่ย่ำแย่ลงของยูโรโซน
ที่มา...http://www.kaohoon.com/online/21671/ธ.ก ... คล่อง-.htm

หุ้นยุโรปปิดระดับสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ ปรับขึ้นตามหุ้นแบงก์, เหมืองแร่


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 07:16:21 น.
ผู้เข้าชม : 108 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานตลาดหุ้นยุโรปดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดวันพฤหัสบดีพุ่งขึ้น 24.03 จุด หรือ 2.62% สู่ระดับ 940.65 จุด หลังเคลื่อนตัวในช่วง 915.44-940.65 จุด ปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าผู้กำหนดนโยบายจะประกาศมาตรการร่วมกันในการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารพาณิชย์

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดพุ่งขึ้น 172.22 จุด หรือ 3.15% สู่ระดับ 5,645.25 จุด หลังเคลื่อนตัวในช่วง 5,465.55-5,645.25 จุด ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดทะยานขึ้น 101.47 จุด หรือ 3.41% สู่ระดับ 3,075.37 จุด หลังเคลื่อนตัวในช่วง 2,995.38-3,075.37 จุด
ที่มา...http://www.kaohoon.com/online/21674/หุ้ ... องแร่-.htm

ยูโรแข็งค่าต่อเนื่องรับ ECB ประกาศมาตรการอัดฉีดแบงก์ยุโรป


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 07:28:01 น.
ผู้เข้าชม : 119 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานค่าเงินยูโร/ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องอย่างแข็งแกร่งเพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ที่อ่อนแอในยุโรป และประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ตามความคาดหมาย

อย่างไรก็ตามผู้จัดการกองทุนยังคงคาดการณ์ในทางลบต่อยูโร โดยผู้จัดการกองทุนบางรายปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต ในขณะที่ทีมงานทรอยกาหรือคณะผู้ตรวจการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), สหภาพยุโรป (EU) และ ECB จะนำเสนอรายงานเรื่องกรีซในช่วงต่อไปในเดือนนี้

ดอลลาร์อยู่ที่ 76.67 เยน อ่อนลงจากระดับปิดตลาดวันพุธที่ 76.76 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.3432 ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 1.3346 ดอลลาร์ ส่วนยูโร/เยน
อยู่ที่ 102.99 เยน ปรับขึ้นจาก 102.48 เยน
ที่มา...http://www.kaohoon.com/online/21677/ยูโ ... ยุโรป-.htm

กรีซ -- ข่าวกรีซ
ข่าวกรีซ ศุกร์ที่ 7 ต.ค. 2011
ไอเอ็มเอฟชี้ปีหน้าเศรษฐกิจจ่อถดถอย
หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- 6 ชั่วโมง 49 นาทีที่แล้ว
เจนีวา (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) ไอเอ็มเอฟระบุ ปี 2555 เศรษฐกิจโลกมีสิทธิถดถอย โดยเฉพาะในยุโรป ขณะที่กรีซวุ่นวายหนัก ประชาชนประท้วงหยุดงานทั่วประเทศ นายอันโตนิโอ บอร์เกส ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นยุโรปของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเตือนเมื่อวันพุธว่า ภาวะถดถอยของโลกในปี 2555 ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อ่านต่อ

ชัดเจน รมว.เศรษฐกิจเยอรมนีไม่ต้องการให้สมาชิกถอนตัวจากการใช้เงินยูโร


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 10:59:00 น.
ผู้เข้าชม : 51 คน


นายฟิลิปป์ โรสเลอร์ รมว.เศรษฐกิจเยอรมนี เปิดเผยว่าเขาไม่ต้องการให้ประเทศใดๆในยูโรโซนถอนตัวจากการใช้เงินยูโร พร้อมเสริมว่ากลุ่มประเทศมั่งคั่งในยูโรโซนจำเป็นต้องช่วยเหลือประเทศที่ยากจนบนพื้นฐานของความรอบคอบ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้นายโรสเลอร์กล่าวระหว่างเดินทางเยือนกรุงเอเธนส์ ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน นักธุรกิจเยอรมันราว 70 คนเพื่อสำรวจธุรกิจในกรีซ
ที่มา...http://www.kaohoon.com/online/21717/ชัด ... นยูโร-.htm

เนเธอร์แลนด์ลงมติ ไฟเขียวแผนเพิ่มอำนาจกองทุนฯยุโรป


วันศุกร์ที่ 07 ตุลาคม 2554 เวลา 11:24:59 น.
ผู้เข้าชม : 21 คน


สภาเนเธอร์แลนด์มีมติเห็นชอบแผนการเพิ่มอำนาจและบทบาท ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) วานนี้ และส่งผลให้เหลือประเทศสมาชิกยูโรโซนอีกเพียงแค่ 2 ประเทศในรัฐสภา มี่ยังไม่ได้ลงมติอนุมัติแผนการนี้ ซึ่งได้แก่ สโลวาเกียและมอลตา

ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเนเธอร์แลนด์ 96 จาก 150 คน ลงมติเห็นชอบแผนการเพิ่มอำนาจและบทบาท EFSF วานนี้ โดยอำนาจและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของกองทุน EFSF จะช่วยให้ทางกองทุนสามารถเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตร, ขยายวงเงินสินเชื่อสำรองให้แก่รัฐบาลของประเทศต่างๆ และปล่อยกู้ให้แก่รัฐบาลสำหรับเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงในการเพิ่มทุนธนาคาร
ที่มา...http://www.kaohoon.com/online/21721/เนเ ... ยุโรป-.htm