Thai VI

ยอดเกินดุลการค้าจีนหดตัว หลังนำเข้าพุ่ง

ยอดเกินดุลการค้าของจีนลดลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบเก้าเดือนหลังตัวเลขการนำเข้าพุ่ง จนเป็นการสนับสนุนถึงเหตุผลของรัฐบาลจีนก่อนหน้าการประชุม G20 ของบรรดารัฐมนตรีคลัง ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ว่า ทางการได้ดำเนินมาตรการที่เพียงพอแล้วสำหรับการกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศ โดยปราศจากการใช้ค่าเงินเป็นเครื่องมือ
ยอดเกินดุลการค้าเดือนม.ค.หดตัวลงไปอยู่ที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม ขณะตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs กล่าวว่า การขยายตัวของการนำเข้าและการส่งออก เป็นสัญญาณที่แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและทั่วโลกเป็นไปอย่างน่าพอใจ โดยภาคส่งออกได้รับแรงหนุนจากการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าหลักๆ ส่วนการนำเข้าได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของดีมานด์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง

รองผู้ว่าแบงก์ชาติจีนชี้หยวนแบบลอยตัวเป็นทางเลือกที่ดี

นายยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวที่มีการจัดการโดยอิงตลาด ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของจีน นอกจากนี้ นายยี่กล่าวว่า การที่จะผลักดันให้ใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวต่อไปนั้น รัฐบาลควรพิจาณาเรื่องระยะเวลา รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจของทั้งภายในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในรายงานระบุ จีนควรดำเนินการปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนภายในประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นค่าเงินหยวนแบบครั้งเดียว

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2548 ธนาคารกลางจีนได้ยุติการใช้นโยบายผูกติดค่าเงินหยวนกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นในวันที่ 19 มิ.ย.ปี 2553 ธนาคารกลางจีนประกาศใช้มาตรการปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน เพื่อปรับเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่น แทนการปรับขึ้นค่าเงินหยวนแบบครั้งเดียว

สื่อคาดจีนอาจขึ้นสำรองฯ ธนาคารพาณิชย์อีกในเดือนนี้

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.ของจีนอาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% เนื่องจากราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น

ไชน่า ซิเคียวริตีส์ คาดการการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีกในเดือนก.พ. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อและจัดการกับสภาพคล่อง

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวคาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์ของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2 ล้านล้านหยวนในเดือนม.ค. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะบีบให้ธนาคารกลางจีนต้องควบคุมการขยายตัวของสิน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx
ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel

จีนเผยเงินเฟ้อม.ค. 4.9% ต่ำกว่าที่คาดไว้

อัตราเงินเฟ้อของจีนออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ด้วยตัวเลข 4.9% ในเดือนมกราคม ขณะแรงกดดันทางด้านราคายังคงดำเนินต่อไป และน่าจะบีบให้ธนาคารกลางเดินหน้าใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดต่อ

ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ที่จัดทำโดยรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้น 5.3% โดยเร่งตัวขึ้นจาก 4.6% ในเดือนธันวาคม

แรงกดดันเงินเฟ้อของจีนยังสะท้อนผ่านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ไม่รวมราคาสินค้าหมวดอาหาร ซึ่งตอนนี้ได้ทะยานขึ้นไปเป็น 2.6% แล้ว เมื่อเทียบกับ 2.1 %ในเดือนก่อนหน้า

และอีกสัญญาณที่แสดงถึงแรงกดดันด้านราคาก็คือ ราคาผู้ผลิตที่ปรับตัวขึ้น 6.6% ในเดือนที่ผ่านมา โดยเร่งตัวขึ้นจาก 5.9% ในเดือนธันวาคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สำนักงานสถิติของจีนได้ทำการเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค โดยเพิ่มน้ำหนักให้แก่ภาคครัวเรือนมากขึ้นในตะกร้า CPI ขณะเดียวกัน ก็ได้ลดปัจจัยด้านราคาอาหารลง ทางด้านผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดต่างคาดว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ที่จัดทำขึ้นทุก ๆ ห้าปี จะทำให้ตัวเลข CPI ต่ำลง ขณะที่ทางหน่วยงานที่จัดทำสถิติบอกว่า การปรับปรุงนี้ได้เพิ่มตัวเลขเงินเฟ้อขึ้นอีก 0.024%

สำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์บางคนที่เชื่อในการจัดทำสถิติดังกล่าว มีความเห็นว่า อย่างน้อยๆ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ต่ำลงน่าจะลดความจำเป็นในการใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวด

นักเศรษฐศาตร์จาก Bank of America-Merrill Lynch ให้ข้อสังเกตว่า สิ่งที่น่าประหลาดใจจากตัวเลขเงินเฟ้องวดนี้ก็คือ ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น 10.6 % ขณะหลายคนคิดว่าน่าจะเป็นตัวเลขที่สูงกว่านี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบงก์ชาติของจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองเพียงในรอบกว่าหกสัปดาห์ ทำให้หลายคนกังวลถึงความเสี่ยงที่จีนอาจใช้มาตรการทางการเงินที่เข้มงวดและดุเดือดกว่าที่ตลาดคาดไว้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

แนวโน้มเงินเฟ้อจีนจะชะลอตัวช่วงครึ่งหลังของปี

นายเหยา จิงหยวน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนจะยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี

NBS รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนี CPI เดือนม.ค.ของจีนขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนก.พ. และราคาสินค้าทางการเกษตรที่เป็นอาหารหลักและราคาอาหารในตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ แม้แรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับสูง แต่นายเหยาคาดว่าจีนจะสามารถควบคุมราคาสินค้าทั่วไปให้มีเสถียรภาพได้ โดยจีนได้กำหนดให้ดัชนี CPI ขยายตัวในกรอบ 4% ต่อปี ในปี 2554

จีนปล่อยกู้น้อยเป็นผลดีต่อตลาดบอนด์ในประเทศ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารพาณิชย์จีนที่ระดับ 1.04 ล้านล้านหยวนในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.2 ล้านล้านหยวนนั้น จะช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายในตลาดพันธบัตรของจีนให้คึกคักขึ้น

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่เดือนม.ค.ที่ขยายตัวน้อยเกินคาดนั้น แสดงให้เห็นว่าการบังคับใช้นโยบายการเงินอย่างรอบคอบนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

นอกจากนี้ เงินเฟ้อเดือนม.ค.ขยายตัวน้อยเกินคาดที่ 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่ ธ.กลางจีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นนั้นลดน้อยลงด้วย ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดพันธบัตรจีน
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันที่จะทำให้ธนาคารกลางต้องควบคุมสภาพคล่องต่อไปนั้น ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ยังคงอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านหยวน

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากแบงก์พาณิชย์อีก 0.50%

ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.นี้เป็นต้นไป โดยการเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การประกาศเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากยังมีขึ้นเพียง 10 วันหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25%

ส่วนเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของจีน พุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น และราคาบ้านใน 70 เขตเมืองยังคงปรับตัวสูงขึ้น แม้จีนประกาศใช้มาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม

ก่อนหน้านี้ ไชน่า ซิเคียวริตีส์ คาดการการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีกในเดือนก.พ. โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ

จีนขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล

คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ประกาศว่า จีนปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลอีก 350 หยวน (ประมาณ 53.2 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตัน

NDRC ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า การปรับราคาครั้งล่าสุดนี้จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซีนเพิ่มขึ้น 0.26 หยวนต่อลิตร และดีเซลเพิ่มขึ้น 0.3 หยวนต่อลิตร
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

G20 ได้จีนหนุนหาเครื่องชี้สกัดวิกฤติรอบใหม่

การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าแบงก์ชาติกลุ่ม G20 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุดก็สามารถหาทางประนีประนอมได้ และเกลี้ยกล่อมให้จีนสนับสนุนดัชนีชี้วัดปัญหาความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าทางกลุ่มจะยังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน สำหรับวิธีปฏิบัติภายใต้เครื่องมือดังกล่าว

จุดเริ่มต้นที่จะใช้เครื่องมือเพื่อมาชี้วัดปัญหาดังกล่าวมาจากการประชุมสุดยอด G20 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่จัดขึ้นที่กรุงโซล ภายใต้วัตถุประสงค์คลายความตึงเครียดจากข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่ารัฐบาลปักกิ่งรักษาค่าเงินหยวนให้อ่อนกว่าที่ควรเป็นเพื่อกระตุ้นการส่งออก

แน่นอนว่า ทางการจีนได้ปฏิเสธที่จะไม่ยอมรวมอัตราแลกเปลี่ยนและทุนสำรองไว้ในชุดเครื่องมือชี้วัดนี้ จนเริ่มเป็นอุปสรรคกีดขวางความสำเร็จของแผนดังกล่าว จนกระทั่งมาตอนท้ายๆ ที่บรรดาประเทศร่ำรวย ยอมถอนสองรายการดังกล่าวออกไป

จีนยังประสบผลสำเร็จในการคัดค้านไม่ให้ใช้ดุลบัญชีเดินสะพัด และผลักดันให้ไปใช้ ดุลบัญชีการค้า ที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของดุลการค้าแทน ขณะที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งคาดหวังว่าการเกินดุลของตนจะปรับตัวลง หลังจากที่ทำการกระตุ้นดีมานด์ในประเทศภายใต้แผนห้าปี

จีนเล็งบีบธนาคารพาณิชย์เตรียมแผนรับวิกฤติ

แหล่งข่าว Bloomberg เปิดเผยว่า หน่วยงานควบคุมธนาคารของจีนมีแผนบังคับให้ธนาคารผู้ปล่อยกู้จัดตั้งแนวทางที่จะสามารถช่วยฟื้นฟูสถานะการเงินของตนในช่วงวิกฤติได้ ซึ่งแหล่งข่าวระบุด้วยว่าแผนดังกล่าวรวมถึงการที่ธนาคารอาจต้องขายหนี้ที่สามารถแปลงเป็นทุนได้

นอกจากนี้ หน่วยงานควบคุมภาคการเงินจะได้อำนาจที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับการดูแลธนาคารผู้ให้เงินกู้เหล่านั้น เพื่อที่จะได้ช่วยตรวจสอบให้เจอปัจจัยเสี่ยงเร็วยิ่งขึ้น

จีนกำลังหาทางหลีกเลี่ยงวิกฤติการณ์ภาคธนาคารที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ เมื่อรัฐบาลต้องใช้เงินกว่า 650,000 ล้านเหรียญ ในช่วงกว่าทศวรรษเพื่อช่วยเหลือธนาคารต่างๆ หลังจากที่รัฐเป็นผู้กำกับการปล่อยกู้อยู่นานหลายปี


จีนขึ้นราคาน้ำมันเครื่องบิน ฉุดหุ้นการบินร่วง

คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ประกาศขึ้นราคาหน้าโรงงานของเชื้อเพลิงเครื่องบิน 650 หยวน เป็น 6,430 หยวน/ตัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

การขึ้นราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินครั้งนี้สร้างแรงกดดันให้กับหุ้นกลุ่มสายการบินจีน โดยหุ้นของ 3 สายการบินใหญ่อย่าง ไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์, แอร์ ไชน่า และ ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์สร่วงลงประมาณ 2%

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่า การขึ้นราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินจะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อหุ้นสายการบิน เนื่องจากตามกลไกราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินแล้ว สายการบินจีนสามารถขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันเพื่อชดเชยกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันได้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนให้คำมั่นรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ

คณะกรรมการกลางกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุในที่ประชุมว่า จีนจะเดินหน้าใช้นโยบายการคลังที่มีความคล่องตัวและนโยบายการเงินที่รอบคอบ และจะรักษาสมดุลการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับการปฏิรูปเศรษฐกิจและคุมเงินเฟ้อ และ จะป้องกันมิให้เศรษฐกิจผันผวนรุนแรง ขณะเดียวกันก็เตือนว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปี 2554 จะมีความซับซ้อนมากขึ้น

นอกจากนั้นคณะกรรมการฯ ยังให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เพิ่มการบริโภคในประเทศ เพิ่มการลงทุนด้านการเกษตร เร่งปฏิรูปอุตสาหกรรม ส่งเสริมการศึกษา พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและให้บริการด้านวัฒนธรรม

ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ ก็ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปฏิรูปภาคส่วนสำคัญต่างๆ ส่งเสริมการเปิดประเทศ และต่อต้านการคอร์รัปชั่น

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

คาดอัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ของจีนจะสูงกว่า 4%
วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 15:43 น.
นายเซียะ ปิง กรรมการนโยบายการเงินฝ่ายวิชาการ ธนาคารกลางจีนกล่าวว่า จีนจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงติดลบอยู่ โดยเขาเห็นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงให้ติดลบเป็นเวลานานไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภท 1 ปีของจีนอยู่ที่ 3.0% ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ 4.9% ในเดือนมกราคม โดยเขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ของจีนจะสูงกว่า 4% นอกจากนี้ยังคาดว่า จีนจะต้องเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ขึ้นอีกถ้าหากสภาพคล่องยังคงล้นตลาด ซึ่งความเห็นของนายเซียะ ปิงมีขึ้น หลังจากธนาคารกลางจีนตัดสินใจเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ขึ้นอีก 0.50% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มครั้งที่ 2 ในปีนี้

http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=525

จีนทุ่มงบ 1.5 ล้านล้านหยวนในอุตฯ การบิน

นายหลี เจียเซียง ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของจีนเผยรัฐบาลจีนเตรียมทุ่มเงินกว่า 1.5 ล้านล้านหยวน (227,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการบินในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจีนจะก่อสร้างสนามบินกว่า 45 แห่งในช่วง 5 ปีที่จะถึงนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีสนามบินรวมทั้งสิ้นกว่า 220 แห่งภายในปี 2558 นอกจากนี้ จีนมีแผนที่จะเพิ่มขนาดฝูงบินมากกว่า 4,500 ที่นั่ง ภายในสิ้นปี 2558

สถิติระบุว่า บรรดาสายการบินของจีนรายงานผลกำไรที่ 35,100 ล้านหยวนเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ของสายการบินทั่วโลก
ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนเตรียมออกกฎคุมเข้มธนาคาร เพื่อวางระบบป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกที่ผันผวน...

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในของทางการจีนว่า สำนักงานคุมกฎระเบียบภาคการเงินของจีน กำลังมีแผนจะออกกฎข้อบังคับใหม่ เพื่อกำหนดให้อุตสาหกรรมการเงิน และ ธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม เช่น อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) ธนาคารรายใหญ่ของโลกในด้านมูลค่าการตลาด ตลอดจนถึง ไชน่า คอนมูนิเคชั่น โค ต้องจัดวางระบบเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันอาจจะเกิดขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจการเงินของโลกเกิดความผันผวน

รัฐบาลจีน ยังมีแผนจะให้เจ้าหน้าที่คุมกฎ มีอำนาจตรวจสอบธนาคารเพื่อให้พบความเสี่ยงที่เร็วขึ้น และทำให้ธนาคารฟื้นฟูฐานะทางการเงินได้รวดเร็ว เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดวิกฤติภาคการธนาคารขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะกรณีธนาคารใหญ่ภาคอุตสาหกรรมต้องใช้เงินมากถึง 650,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นานร่วม 10 ปี เพื่อฟื้นฟูกิจการที่ซบเซาอย่างหนักหลังปล่อยกู้ตามคำสั่งของรัฐบาลกลางมานานหลายปี
http://www.thairath.co.th/content/eco/151915

จีนตั้งเป้าเศรษฐกิจขยายตัวโดยเฉลี่ย 7%

นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าเศรษฐกิจขยายตัวโดยเฉลี่ย 7% ต่อปีในช่วงแผนพัฒนา 5 ปี ซึ่งแผนดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเป็นปีแรกในปี 2554 นับเป็นตัวเลขที่ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 7.5% ของแผนพัฒนา 5 ปีที่สิ้นสุดลงเมื่อปีที่แล้ว

นายกฯจีนกล่าวว่า รัฐาลจะไม่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากและมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวอย่างไม่ยั่งยืน โดยจะเห็นได้จากการผลิตที่สูงเกินไปในภาคอุตสาหกรรมและการใช้ทรัพยากรที่มากจนเกินไป

นายเหวินยังได้พูดคุยแบบออนไลน์กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีน พร้อมกับให้คำมั่นในระหว่างการตอบคำถามกับประชาชนว่า เขาจะไม่ปล่อยให้ราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น การดูแลราคาสินค้าให้มีเสถียรภาพนั้นเป็นหนึ่งในภาระกิจที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆของรัฐบาล เพราะราคาผู้บริโภคที่สูงเกินไปนั้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนละเสถียรภาพในสังคม

นายกฯจีนกล่าวถึงความมุ่งมั่นในการควบคุมราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน หลังจากที่ประชาชนซึ่งคุยผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ร้องเรียนเรื่องราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนพุ่งขึ้น 4.9% ในเดือนม.ค. จากระดับปีที่แล้ว เนื่องจากราคาอาหารที่สูงขึ้น 10.3% เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นและสภาพแห้งแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่เพาะปลูกธัยพืชที่สำคัญของประเทศ
ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

ครม.จีนจะหารือแผนการขึ้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคลในวันพุธนี้
วันอังคารที่ 01 มีนาคม 2011 เวลา 06:57 น.
นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีจีนจะหารือกันเกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีเงินได้ส่วนบุคคลในวันพุธนี้ ซึ่งแผนการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ อย่างไรก็ตาม นายเหวินกล่าวว่า แผนการดังกล่าวจะส่งเข้าสู่การทบทวนของสภานิติบัญญัติจีน แต่ไม่ได้ระบุว่าแผนฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=525

จีนเผยปี 53 บริโภคพลังงานต่อหน่วยจีดีพีลดลง 4.01%
วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 23:29 น.
วันนี้ (28 ก.พ.) สำนักข่าวซินหัว ประเทศจีนรายงานว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของประเทศจีนเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานของจีนพบว่าในปี 2553 การบริโภคพลังงานของจีนต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หรือคิดเป็นเงิน 10,000 หยวน ลดลงไป 4.01% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำนักงานสถิติระบุว่าในปี 2553 การบริโภคพลังงานต่อปีของจีนมีทั้งสิ้น 3.25 พันล้านตันของถ่านหินมาตรฐาน (standard) เพิ่มขึ้น 5.9% จากปีก่อนหน้า

โดยการบริโภคก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 18.2% ส่วนปริมาณการบริโภคถ่านหิน น้ำมันดิบและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3% 12.9% และ 13.1% ตามลำดับ
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=525

จีนถือพันธบัตรสหรัฐ 1.16 ล้านล้านเหรียญในปี 2553

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐ โดยในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2553 จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 1.16 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนเข้าแทรกแซงตลาดเงินด้วยการรักษาค่าเงินหยวนให้อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนญี่ปุ่นเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐ โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ญี่ปุ่นได้ถือครองพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 882,300 ล้านดอลลาร์ เฉพาะในเดือนก.ย.ปี 2553 เพียงเดือนเดียว ญี่ปุ่นได้ถือครองพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น 28,300 ล้านดอลลาร์ หลังจากญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่มูลค่า 2.1249 ล้านล้านเยนเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 54 เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน

ภาคการผลิตจีนแผ่ว หลังรัฐคุมเข้มนโยบายการเงิน

ภาคการผลิตของจีนขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบหกเดือน ขณะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นผนวกกับการควบคุมการปล่อยกู้ที่มีจุดประสงค์ยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบต่อดีมานด์ในประเทศ

สหพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีน เผยผ่านเว็บไซต์วันนี้ว่า ดัชนีคำสั่งซื้อหรือ PMI ร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 52.2 จาก 52.9 ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่สามแล้ว ขณะตัวชี้วัดทางด้านราคาของปัจจัยการผลิตไต่ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 70.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเปา เพิ่งจะออกมาให้คำมั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะทำการยับยั้งการเพิ่มขึ้นของราคาผู้บริโภค และจัดการกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นจนถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางสังคมของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกแห่งนี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

นายกฯ จีนประกาศแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ

เวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีของจีน ให้คำมั่นว่าจะเร่งจัดการปัญหาเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน พร้อมลดช่องว่างในสังคมเป็นอันดับแรก เพื่อกระจายความมั่งคั่งจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปให้อย่างทั่วถึง
นายเวิน กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 4% ขณะเดียวกันยังกำหนดเป้าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงมาอยู่ที่ 8% หลังจากเมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจจีนเติบโตสูงถึง10.3%

จีนได้จัดการประชุมสภาประชาชนจีนประจำปีอย่างเป็นทางการที่กรุงปักกิ่ง นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ซึ่งมีลักษณะเหมือกับการแถลงนโยบายประจำปีของผู้นำสหรัฐ ต่อสมาชิกทั่วประเทศ เกือบ 3 พันคน
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนเตรียมสร้างสนามบินใหม่เพิ่ม 56 แห่ง

ผู้อำนวยการด้านการบินพลเรือนของจีน ระบุว่า ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2558 จีนจะเดินหน้าสร้างสนามบินใหม่ให้ได้ปีละร่วม 11 แห่ง เนื่องจากจีนตั้งเป้าที่จะสร้างสนามบินใหม่ให้ได้ทั้งสิ้น 56 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปีนี้

นอกจากนี้ จีนยังมีแผนที่จะย้ายสนามบิน 40 แห่ง รวมทั้งปรับปรุงและขยายสนามบินอีกกว่า 90 แห่ง โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณสูงถึง 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท สำหรับสนามบินแห่งใหม่ที่จะสร้างขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนกลาง และทางตะวันตกของจีน

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

การควบคุมราคาอาหารของจีนลดแรงกดดันเงินเฟ้อโลก

นายเฉิน เต๋อหมิง รมว.พาณิชย์ของจีน กล่าวว่า การควบคุมราคาอาหารที่สูงขึ้นในระดับมหภาคของจีนจะช่วยบรรเทาแรงกดดันจากเงินเฟ้อทั่วโลกลง โดยในสถานการณ์ทั่วไปนั้น ผลผลิตธัญพืชในปัจจุบันของจีนมีความสมดุลกับอุปสงค์ โดยผลผลิตมีปริมาณสูงกว่าเล็กน้อย ส่วนในระยะกลางและระยะสั้น ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและธรรมชาติอาจมีผลกระทบต่อการขาดแคลนธัญพืชในทั่วโลก

นอกจากนี้ นายฉินกล่าวว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจในระยะยาวก็คือการให้เงินอุดหนุนโดยรัฐบาลในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งจะส่งเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพด้านการส่งออกอาหารและธัญพืชของประเทศนั้นๆ แต่ก็จะเป็นอุปสรรคต่อโอกาสด้านเศรษฐกิจของประเทศในการพัฒนาการเกษตร และนี่เป็นประเด็นที่ต้องเร่งหาทางแก้ไขในการประชุมรอบโดฮา (Doha)

ต้นทุนแรงงานจีนที่สูงขึ้นดีต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

นายหยิน เหว่ยหมิน รมว.ทรัพยากรบุคคลและสวัสดิการสังคมเปิดเผยว่า โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆในจีนได้รับผลกระทบจากต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นายหยินกล่าวว่า ต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงจะเป็นผลดีต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเชิงกลยุทธ์ของจีน

นายหยินกล่าวว่า แม้จีนกำลังเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อคนงานที่ได้รับค่าแรงต่ำกว่ามาตรฐานได้พากันเรียกร้องค่าแรงที่สูงขึ้น ขณะที่โรงงานขนาดเล็กที่ต้องพึ่งพาการส่งออกนั้น ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้ แต่ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นจะช่วยผลักดันให้จีนเดินหน้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ

ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 (2554 - 2558) นั้น จีนตั้งเป้าที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในเมืองและชนบทอีกอย่างน้อย 7% ต่อปี ซึ่งจะทำให้ค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานจีนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 13% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนยอมรับดีมานด์อสังหาฯ ในประเทศมาจากแรงเก็งกำไร

นาย ชี จี รองรัฐมนตรีของจีน ที่ดูแลงานทางด้านที่อยู่อาศัย และพัฒนาเมืองและชนบท เปิดเผยว่า ราคาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ส่วนหนึ่งเกิดจากดีมานด์ที่มากเกินไปของนักเก็งกำไร

เขาบอกว่า การควบคุมอสังหาฯของรัฐโดยส่วนใหญ่ พุ่งเป้าไปที่คนที่ไม่ได้ต้องการที่อยู่อาศัยอย่างเร่งด่วน โดยจุดมุ่งหมายพื้นฐานของรัฐคือ การจัดสรรที่อยู่อาศัยซึ่งมีจำกัดให้แก่ผู้ที่ต้องการมากที่สุด

นายกรัฐมนตรี เหวิน เจี่ย เป่า บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า จีนพยายามรุกเรื่องการควบคุมตลาดอสังหาฯ เพื่อสกัดการเก็งกำไร พร้อมกับย้ำว่าจะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับที่คนทั่วไปหาซื้อได้ โดยรัฐบาลจะลงโทษอย่างรุนแรงกับผู้ที่กระทำผิดกฏเกณฑ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ออกนโยบายภาษีและสินเชื่อที่แยกแยะตามกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐในท้องที่ เป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเรื่องระดับราคาบ้าน

จีนพยายามควบคุมราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคาไต่ขึ้นมาเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมาตรการควบคุมตั้งแต่เปิดต้นปีมา รวมถึงการขึ้นเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่สอง นอกจากนั้น ยังสั่งให้องค์กรท้องถิ่นตั้งเป้าราคาในอสังหาริมทรัพย์ใหม่ และเริ่มเก็บภาษีบ้านในเซี่ยงไฮ้และเมืองชง ชิง นอกจากนี้ ทางฟากธนาคารกลางก็ยังได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบสามปีอีกด้วย

ราคาบ้านใหม่ในจีนเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ขณะสำนักสถิติของจีนมีกำหนดที่จะรายงานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เดือนกุมภาพันธ์ในวันที่ 18 มีนาคมนี้

ราคาบ้านของจีนสูงขึ้น 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นตัวเลขการเติบโตที่ช้าที่สุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังรัฐบาลเพิ่มมาตรการควบคุมด้านที่อยู่อาศัย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนทุ่มงบ 1.3 ล้านล้านหยวนพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาถูก

ฉี จือ รองนายกรัฐมนตรีด้านการพัฒนาเมือง-ชนบทและการเคหะ กล่าวว่า จีนจะลงทุนประมาณ 1.3 ล้านล้านหยวน (196,900 ล้านดอลลาร์) เพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยาจำนวน 10 ล้านหลังในปีนี้ โดยรัฐบาลกลางและท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดหาเงินจำนวน 5 แสนล้านหยวนจากงบทั้งหมดดังกล่าว ส่วนที่เหลือจะเป็นการระดมทุนจากภาคธุรกิจและองค์กรของรัฐ

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวยังรวมถึงการยกระดับที่อยู่อาศัยคุณภาพต่ำจำนวน 4 ล้านหลังในปีนี้ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดในส่วนนี้จะอยู่ที่ 5 แสนล้านหยวน ซึ่งรัฐบาลกลางจะให้เงินสนับสนุนจำนวน 4 หมื่นล้านหยวน ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลกลางได้เดินหน้ามาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนในเมืองใหญ่ๆ ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถึงกระนั้นราคาอสังหาริมทรัพย์ก็ยังยืนอยู่ในระดับสูงต่อไป
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนขาดดุลการค้า ก.พ. สูงสุดในรอบ 7 ปี

Posted on Thursday, March 10, 2011
กรมศุลกากรจีนระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าของจีนในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 7,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลลการค้ามากที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ในเทศกาลตรุษจีน ทำให้การส่งออกลดลง

ทั้งนี้ยอดส่งออกของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวเพียง 2.4% ชะลอลงมากที่สุดนับแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2552 ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 19.4%
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/New ... fault.aspx

จีนผลักดันการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยน-ดอกเบี้ยต่อเนื่อง

จาง เสี่ยวฮุย ผู้อำนวยการแผนกนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนระบุในบทความที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของธนาคารว่า ธนาคารกลางจีนจะสนับสนุนการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ เนื่องจากการปฏิรูปดังกล่าวเป็นกุญแจสู่การปฏิรูประบบการเงินของประเทศ และจะช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อและะฟองสบู่สินทรัพย์ อีกทั้งยังสอดคล้องกับผลประโยชน์ระยะยาวของจีนด้วย

นายจางย้ำว่า ธนาคารกลางจะสนับสนุนกลไกการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และสร้างความเชื่อมั่นว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและสมดุล ขณะที่ตลาดจะได้อำนาจเพิ่มขึ้นในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยและมีบทบาทพื้นฐานในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน

ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงสิ้นปี 2553 เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 14% เมื่อเทียบกับเงินยูโร
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนย้ำเป้าหมายเศรษฐกิจโต 7% ต่อปี ไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือรัฐสภาจีนได้อนุมัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ระยะเวลา 5 ปีแล้วในการประชุมวานนี้ (14 มี.ค.54)

นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวภายหลังการประชุมสิ้นสุดลงว่า จะไม่มีการนำ “แผนพัฒนาดังกล่าว” มาใช้แทนที่ “แผนพัฒนาของฮ่องกง”

นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวต่อไปว่า เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการจีนเดียว 2 ระบบต่อไป ชาวฮ่องกงจะเป็นผู้บริหารฮ่องกงเอง และยังมีอิสระในการปกครองตนเองอยู่ในระดับสูง ส่วนจีนจะดำเนินการอย่างสอดคล้องกับกฎหมายพื้นฐานอย่างเข้มงวด

นายเหวินกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จีนจะบรรลุเป้าหมายอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 7% ต่อปี ในช่วงปี 2554-2558 เนื่องด้วย 1) เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ของจีนได้มีการรวมตัวกันมากขึ้น ประกอบกับ 2) มีความจำเป็นต้องเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพของการเติบโต ดังนั้น อัตราการเติบโตที่ 7% จึงไม่ใช่เป้าหมายที่ต่ำ

ทั้งนี้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับใหม่ของจีน ได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตเหลือ 7% ต่อปี ในช่วงปี 2554 - 2558 จากเป้าหมาย 7.5% ในช่วง 5 ปีก่อนหน้านี้

นายเหวินกล่าวเสริมว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นแต่ก็นำไปสู่แรงกดดันจากเงินเฟ้อมากขึ้น ขณะที่การเติบโตที่ช้าลงหมายถึงการจ้างงานที่ลดลงและความเสี่ยงต่อภาวะถดถอย ดังนั้น จีนต้องสร้างสมดุลระหว่างอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการควบคุมเงินเฟ้อ
จีนจะปล่อยเงินหยวนยืดหยุ่นมากขึ้น

นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนจะค่อยๆเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน แต่การแข็งค่าของเงินหยวนนั้น จะต้องเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและเพิ่มแรงกดดันให้กับบริษัทและการจ้างงานมากขึ้น ในขณะที่จีนต้องรักษาเสถียรภาพทางสังคมโดยรวม

ทั้งนี้ เงินหยวนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 57.9% จากระดับปี 2547 และนับตั้งแต่ปีดังกล่าว จีนก็ได้ปฏิรูปกลไกจัดตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนครั้งสำคัญถึง 3 ครั้ง

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

ก.พ.ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้ใหม่ต่ำกว่าคาดการณ์เป็นเดือนที่ 2
วันพุธที่ 16 มีนาคม 2011 เวลา 22:37 น.
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่าธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้ใหม่ 5.356 แสนล้านหยวน (8.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 6.50 แสนล้านหยวน โดยนายเหริน เซียนฟัง นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอชเอส โกลบอล อินไซท์ในปักกิ่งกล่าวว่าธนาคารกลางจีนจะยังคงระมัดระวังในการดำเนินมาตรการต่อไป โดยธนาคารกลางจะไม่คุมเข้มนโยบายการเงินมากเกินไปจากการเรียนรู้บทเรียนความผิดพลาดด้านนโยบายในปี 2008 ทั้งนี้ นับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่การปล่อยกู้ของภาคธนาคารต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อ โดยทางการจีนได้สั่งเพิ่มสัดส่วนกันสำรองฯของธนาคารพาณิชย์อย่างต่อเนื่องและสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ลดการปล่อยสินเชื่ออันเป็นความพยายามที่จะชะลอการขยายตัวของปริมาณเงินซึ่งทำให้เงินเฟ้อปรับตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=525

จีนเผชิญแรงกดดันด้านการจ้างงานหลังลดเป้าหมายทางเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีน กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะใช้ความพยายามเพื่อรับมือกับแรงกดดันที่สูงขึ้นด้านการจ้างงาน หลังจากที่จีนได้ตัดสินใจลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจลงเหลือ 7% ในช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกฯจีนกล่าวในการแถลงข่างภายหลังการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนว่า แรงกดดันดังกล่าวถือเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับรัฐบาล แต่เราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรเทาแรงกดดันดังกล่าวต่อไป

นายเหวินกล่าวว่า รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดเล็กที่ทำธุรกิจไฮเทค และพัฒนาธุรกิจบริการ ตลอดจนบริการด้านผู้ผลิต ซึ่งธุรกิจเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการจ้างงาน

ความเชื่อมั่นแนวโน้มเศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นใน Q1/54

ผลสำรวจของธนาคารกลางจีนระบุว่า กลุ่มนายธนาคารจีนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มากขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นของนายธนาคารเพิ่มขึ้น 1.9% จากไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา แตะที่ระดับ 55.3%

ผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า 43.9% ของนายธนาคารมองว่าระบบเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันของจีนอยู่ในระดับที่ "ร้อนแรง" หรือ "ร้อนแรงเกินพิกัด" ขณะที่ 51.6% ของนายธนาคารระบุว่า เศรษฐกิจอยู่ในภาวะ "ปกติ"
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 2 นั้น 34.6% ของนายธนาคารคาดว่า เศรษฐกิจจะยังคง "ร้อนแรง" โดย 59.1% กล่าวว่าเศรษฐกิจจะยังอยู่ในภาวะ "ปกติ" และที่เหลือคิดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจธนาคารลดลง 3.2% จากไตรมาสก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ 84% ในไตรมาสแรกของปีนี้ อันเนื่องมาจากมาตรการคุมเข้มทางการเงินของจีนเพื่อควบคุมการพุ่งขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนเตรียมขึ้นอัตราเงินสดสำรองอีก 0.50 จุด
วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2011 เวลา 09:26 น.
ธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC - The People's Bank of China) ประกาศเมื่อวันศุกร์ (18 มี.ค.) ปรับอัตราเงินสดสำรองของธนาคารในประเทศขึ้น 0.50 จุด โดยจะมีผลตั้งแต่วันที 25 มีนาคม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่สามตั้งแต่ต้นปีนี้และครั้งที่เก้าตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดเพื่อควบคุมสภาพคล่องและเงินเฟ้อภายในประเทศ

หลังจากการปรับอัตราเงินสดสำรองในครั้งนี้ ธนาคารรายใหญ่ในประเทศจะต้องกันเงินสำรองไว้เพิ่มเป็น 20% ขณะที่ธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจะต้องกันเงินไว้ 16.5% ของเงินฝากในธนาคาร

“มันอยู่เหนือการคาดหมายของผม การออกมาตรการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนาของธนาคารกลางที่จะควบคุมสภาพคล่องไว้เนื่องจากมีแนวโน้มว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนมีนาคม” นายเจียง ชาว นักวิเคราะห์จาก Guotai Junan กล่าว
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... Itemid=525

จีนขึ้นสัดส่วนกันสำรองอีก 0.50% มีผล 25 มี.ค.

ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นสัดส่วนการกันสำรองอีก 0.50% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของแบงก์ชาติจีนในการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

การขึ้นสัดส่วนการกันสำรองครั้งล่าสุดนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 9 นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จะส่งผลให้สัดส่วนการกันสำรองสำหรับธนาคารรายใหญ่ของจีนอยู่ที่ 20% ของเงินฝาก ส่วนธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อมจะต้องกันสำรอง 16.5% ของเงินฝาก

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยายตัวขึ้น 4.9% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนม.ค

จีนมุ่งเน้นกระตุ้นความต้องการบริโภคในประเทศ

นายจาง ผิง รัฐมนตรีประจำคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน กล่าวว่า จีนจะพยายามจัดตั้งกลไกระยะยาวเพื่อกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยจะมีการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นความต้องการ ทั้งการเพิ่มการจ้างงาน การพัฒนาเมือง การปรับปรุงระบบการกระจายรายได้ การปรับปรุงเครือข่ายความมั่นคงในสังคม และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริโภค

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายจางกล่าวต่อไปว่า การกระตุ้นความต้องการผู้บริโภคนั้น จะเป็นภารกิจสำคัญในการใช้ยุทธศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความต้องการภายในประเทศช่วงแผนพัฒนาระยะ 5 ปี (2554-2558) เนื่องจากการบริโภคในประเทศนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับ 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ และยังต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของโลกที่ประมาณ 70% อีกด้วย

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนคาดเศรษฐกิจปีนี้ชะลอตัวลง

นายจาง ยู่ไถ หัวหน้าศูนย์วิจัยพัฒนาประจำคณะรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงในปีนี้ แต่จังหวะการขยายตัวยังคงแข็งแกร่ง โดยการขยายตัวจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยจีนตั้งเป้าการขยายตัวของเศรษฐกิจไว้ที่ 8% ในปีนี้ ต่ำกว่าเป้าหมายของปีที่แล้วที่ 10.3%

การลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูก โครงการน้ำ และรถไฟความเร็วสูงนั้น จะช่วยกระตุ้นให้การขยายตัวเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จะมีการปรับขึ้นค่าแรงและการปฏิรูปภาษีเงินได้ ซึ่งการฟื้นตัวของประเทศพัฒนาแล้วจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์สินค้าส่งออกในจีนด้วยเช่นกัน

แม้ว่า ปัจจุบันจีนจะต้องรับมือกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง แต่รัฐบาลจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับประมาณ 4% ได้ โดยสต็อกอาหารที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และการขยายเครือข่ายการกระจายสินค้า ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านโยบายคุมเข้มด้านการเงินของจีนเพื่อควบคุมสภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ เริ่มจะเห็นผล ก็จะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปีนี้จะค่อยๆผ่อนคลายลง
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

เอกชนสหรัฐกังวลเรื่องอนาคตการทำธุรกิจในจีน

ผลสำรวจประจำปีของสภาหอการค้าอเมริกัน ระบุว่า บริษัทเอกชนสหรัฐมีแผนขยายธุรกิจในประเทศจีน แต่ยังวิตกกังวลเรื่องข้อกำหนดต่างๆ ที่บังคับใช้กับผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติ

ผลสำรวจเผยว่า บริษัทเอกชนสหรัฐทำผลงานได้ดีในจีนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยกลับมามีกำไรเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงิน ขณะที่ 83% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนว่าจะขยายการลงทุนและขยายธุรกิจในจีน

อย่างไรก็ดี ผลสำรวจบ่งชี้ว่าผู้ประกอบธุรกิจรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของข้อกำหนดต่างๆ ที่บังคับใช้กับผู้ประกอบธุรกิจต่าง

ทางการจีนออกกฎให้ขายบ้านตามราคาที่กำหนด

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนได้ประกาศกฎเกณฑ์ใหม่เมื่อวานนี้ โดยกำหนดให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำหน่ายบ้านในราคาที่บริษัทได้กำหนดไว้ คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้

กฎเกณฑ์ใหม่มีการกำหนดให้ผู้ขายบ้านแจ้งราคาขายโครงการอสังหาฯของบริษัทในตลาด รวมทั้งจำนวนอพาร์ทเมนท์ที่ได้มีการเปิดขายในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนรับทราบ โดยกฎเกณฑ์ใหม่นี้

ครอบคลุมถึงบริษัทอสังหาฯที่ขายอพาร์ทเมนท์ที่สร้างเสร็จแล้ว และโครงการอสังหาฯที่ได้รับอนุมัติให้ทำการขายก่อน ตลอดจนตัวแทนขายอสังหาฯที่ให้บริการด้านการขายอพาร์ทเมนท์มือสอง

ภายใต้กฎเกณฑ์ดังกล่าว ผู้ขายบ้านจะต้องกำหนดค่าธรรมเนียมก่อนที่จะมีการทำธุรกรรมซื้อขาย เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมในการบริหารอสังหาฯ และปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อควบคุมราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น

จีนชี้ราคาอาหารในประเทศชะลอตัวลง

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ราคาข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้ปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ที่วันหยุดเทศกาลตรุษจีนได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ปรากฏว่าราคาขายส่งไข่ไก่ร่วงลง 14% และราคาผักที่สำคัญๆ ลดลง 10% ขณะที่ราคาเนื้อแกะลดลง 7% และเนื้อวัวอ่อนตัวลง 3%

กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า ราคาจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภัยแล้งที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของประเทศได้เริ่มคลี่คลายลง และรัฐบาลได้เพิ่มการสนับสนุนการผลิตสินค้าเกษตรด้านผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ราคาอาหารที่ชะลอตัวลงนี้จะช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนี CPI ของจีนขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเมื่อเดือนม.ค.

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

ธนาคารโลกคาดจีนบรรลุเป้าหมายการขยายตัว 8% ต่อปี

จัสติน ยีฟู หลิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และรองประธานอาวุโสของธนาคารโลก ระบุว่า จีนมีศักยภาพที่จะบรรลุการขยายตัวที่ 8% ต่อปีไปอีก 20 ปีข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากวิธีการรับมือกับความท้าทายต่างๆนานาทางด้านเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่อาวุโสของเวิลด์แบงก์กล่าวว่า ภายในปี 2573 ขนาดเศรษฐกิจของจีนอาจจะใหญ่กว่าสหรัฐถึงสองเท่า เมื่อพิจารณาจากดุลยภาพของอำนาจซื้อ และคาดว่ารายได้ต่อหัวของจีนจะอยู่ที่ 50% ของรายได้ต่อหัวของสหรัฐ

ขณะเดียวกันเขากล่าวด้วยว่า จีนควรจะพิจารณาสนับสนุนความต้องการภายในประเทศเพื่อรักษาสมดุลของเศรษฐกิจ หลังจากที่การส่งออกชะลอตัวลงและความจำเป็นที่จีนต้องลดยอดเกินดุลการค้า นอกจากนี้ จีนยังจำเป็นต้องลดความแตกต่างด้านรายได้ และรักษาสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

ภาคการผลิตจีนเร่งตัวขึ้นในเดือน มี.ค.

ดัชนี PMI ของจีน ในเดือนมีนาคมอยู่ที่ระดับ 53.4 ปรับขึ้นจากระดับ 52.2 ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นการเร่งตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และช่วยลดความกังวลที่ว่าการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางจีนจะมีผลกระทบทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ในขณะที่ดัชนี PMI ที่เผยแพร่โดย HSBC Holdings ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือน มี.ค. สะท้อนว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนก็ปรับดีขึ้นเช่นกัน

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ Bank of America มองว่าตัวเลขอาจบิดเบือนเพราะน่าจะเป็นช่วงที่คนงานกลับมาทำงานหลังจากวันหยุดตรุษจีน ส่วนนักเศรษฐศาสตร์ Nomura ซึ่งมองว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นเรื่องของปัจจัยฤดูกาล

ทางด้าน ที่ปรึกษาธนาคารกลางของจีนกล่าวว่า ยิ่งขึ้นดอกเบี้ยเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดี สวนทางกับ รองผู้ว่าการแบงก์ชาติจีน นาย Yi Gang ที่กล่าวว่า ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว และคาดว่าราคาที่เห็นว่าสูงในขณะนี้ในครึ่งปีหลังจะชะลอลง ทั้งนี้ จีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วสามครั้ง และขึ้นอัตราส่วนการดำรงเงินสดสำรองทางการของธนาคารพาณิชย์ ไปแล้วถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่กลางเดือนตุ.ค. 2553 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 4.9 ในเดือนกุมภาพันธ์

ติดตาม Money Insight ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 6.00 น. ทาง Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx

จีนขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% นั้น เป็นความพยายามล่าสุดที่จะสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของดัชนีเงินเฟ้อภายในประเทศ หลังจากดัชนีซีพีไอเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 4.9% สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ระดับ 4% แต่การดำเนินการดังกล่าวอยู่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 6 เม.ย. 54 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.31% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.25%

ทั้งนี้ นายหลิว ยูฮุย นักวิเคราะห์จากสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนและนายฮาน ฟูหลิง นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเศรษฐกิจและการเงินแห่งกรุงปักกิ่งมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเป็นการดำเนินการที่เหนือความคาดหมาย เพราะธนาคารกลางเลือกประกาศขึ้นดอกเบี้ยในช่วงวันหยุดและประกาศก่อนที่ทางการจีนจะเปิดเผยดัชนีซีพีไอเดือนมี.ค.ในวันที่ 15 เม.ย.นี้
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Mon ... fault.aspx