หน้า 3 จากทั้งหมด 3
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 13, 2010 12:53 pm
โดย picklife
GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n เงินกู้ก็คือPที่ติดลบ เงินลงทุนก็คือPที่บวก
iคือ%การเปลี่ยนแปลงของเงิน ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง ผลตอบแทน ดอกเบี้ย ดอกเงินกู้ หรือแม้นกระทั้งเงินเฟ้อก็ตาม....
ดังนั้นผมจึงเป็นโรคกลัวการถือเงินสด ครับ อิอิ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 13, 2010 1:33 pm
โดย Belffet
[quote="picklife"]GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 13, 2010 1:43 pm
โดย Jnos
[quote="picklife"]......
ปล3.ขอสรุปสูตรนะครับ สำหรับคนมีเงินลงทุน1ก้อน และเพิ่มทุนด้วย
สูตร
F=P*(1+i)^i
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 13, 2010 2:13 pm
โดย [v]
ที่ต้องเงินสด 20 % เพราะว่าอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ถ้าเราเกิด โดนรถชนหรือ เป็นมะเร็งตอนหุ้นตก ตกงาน บ้านไฟไหม้ โจรขึ้นบ้าน อย่าลืมว่าในชีวิตพอจะมีเรื่องร้ายๆ มันจะมาเป็นชุดๆนะครับ
ถ้าเงินทั้งหมดเราอยู่ในตลาดหุ้น พอร์ตของเราติดลบ 50 % ถ้าถอนออกมาใช้แน่นอน ก็เจ็บอีก
20 % คือ จังหว่ะและโอกาส สำหรับซื้อเฉลี่ย หรือ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในชีวิต ถ้ากลัวเงินเฟ้อ เอาไปฝากประจำสามเดือนหรือฝากประจำไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ นิดนึง
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 9:25 am
โดย picklife
[quote="Jnos"][quote="picklife"]......
แล้วจริงๆสูตรที่สรุปใครเอาไปใช้อาจจะสับสนได้ครับ ตัวอย่างเช่นถ้าผมลงทุนเพิ่มปีละ100000บาททุกๆต้นปีเป็นเวลา 5ปี(ปีที่5ยังใส่เงินเพิ่มแต่ไม่ได้ลงทุนต่อ) และเริ่มลงทุนโดยที่เงินต้นเป็น0นะครับ โดยได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ 20% โดยไม่ถอนเงินลงทุนออกมาเลย ใส่เพิ่มอย่างเดียว
ปีที่1 ผมจะมีเงิน (0+100000)*1.2=120000
"
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 9:30 am
โดย picklife
[quote="[v]"]ที่ต้องเงินสด 20 %
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 1:51 pm
โดย ziannoom
[quote="picklife"][quote="[v]"]ที่ต้องเงินสด 20 %
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 14, 2010 4:21 pm
โดย หมักเตา
picklife เขียน:ผมโชคดีครับมีพี่ๆเยอะครับ กรณีฉุกเฉิน
แผน1 ผมเตรียมบัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิตเอาไว้ประมาณ2แสนครับ เผื่อฉุกเฉินจริงๆสามารถกดได้ทันทีครับ
แผน2 เหอะๆเป็นน้องชายคนเล็กครับพี่ๆเยอะครับ:P
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต
เท่าที่จำได้คือ nominal rate 20% กว่าๆ ขึ้นไปทั้งนั้น
คิดเป็น effective rate รวมด้วยค่าธรรมเนียมหลากหลายจิปาถะก็ 20% กว่าๆๆๆ แก่ๆๆๆ
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 10%
ถ้ามั่นใจว่า เมพขิงๆ หรือ เใพชิงๆ ก็ตามอัธยาศัยครับ ขอให้โชคดี
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 12:43 pm
โดย ziannoom
หมักเตา เขียน:
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต
เท่าที่จำได้คือ nominal rate 20% กว่าๆ ขึ้นไปทั้งนั้น
คิดเป็น effective rate รวมด้วยค่าธรรมเนียมหลากหลายจิปาถะก็ 20% กว่าๆๆๆ แก่ๆๆๆ
ผลตอบแทนตลาดหุ้นเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 10%
ถ้ามั่นใจว่า เมพขิงๆ หรือ เใพชิงๆ ก็ตามอัธยาศัยครับ ขอให้โชคดี
ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklife
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 12:45 pm
โดย ziannoom
ziannoom เขียน:
ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklife
แก้ไข 28/12 = 2.33% ต่อเดือนครับ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 3:54 pm
โดย doo_meau
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 4:24 pm
โดย vivitawin
doo_meau เขียน:ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
ไม่คิดว่าใน thaivi จะมีอาชีพ ตำรวจ ด้วยครับ
ดีใจจังเลยครับ มีตำรวจ ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่าด้วย :D
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 6:43 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
vivitawin เขียน:
ไม่คิดว่าใน thaivi จะมีอาชีพ ตำรวจ ด้วยครับ
ดีใจจังเลยครับ มีตำรวจ ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่าด้วย
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 6:50 pm
โดย picklife
ziannoom เขียน:
ผมเข้าใจว่า คุณ picklife เตรียมไว้สำหรับเวลาตลาด panic หากไม่มีเงินสดเหลือก็สามารถนำเงินกู้จากบัตรกดเงินสดมาใช้ก่อน ไว้ทำกำไรตอนตลาดเด้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่เกินเดือน สรุปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อเดือนก็คือ 28/2 = 1.4% ต่อเดือน แบบว่าเป็นการลงทุนแบบ ดันโด แต่ก็อีกนั่นล่ะ เราจะรู้ได้ไงว่าตลาดมันจะเด้งภายในเวลาอันสั้น ผมเข้าใจถูกไม๊ครับคุณ picklife
ครับผม มันคือเงินฉุกเฉินครับ ใช้ในยามฉุกเฉินครับ อิอิ
แต่ผมก็เคยนำมาใช้ในตอนแรกๆที่ไม่รู้จักบัญชีประเภทมาร์จิ้นเหมือนกันนะครับ แต่ไม่มาก กรณีแบบหุ้นบางตัวผมคิดว่าใน1-2weekนี้น่าจะขึ้นแน่ๆ ก็เข้าซื้อโดยแยกเงินส่วนนี้ไว้ชัดเจนเพื่อนกรณีศึกษาครับ ผลลัพก็ออกมากำไรประมาณ20กว่า%ใน1Week ก็ขายออกมาครับ
เท่ากับผมเสียดอก28/365*7=0.5%ครับ ผมได้วิธีการนี้เพราะตอนแรกผมลองแบ่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งผมมาDayTradeครับแต่ผมพบว่าผมต้องเสียค่าคอมวันละ 0.2*2=0.4% ซึ่งถือว่าเยอะมาก แต่ถ้าผมใช้สิ่งนี้ผมจะเสียวันละ0.08%ครับ ผมเรียกว่าเป็นการDayTradeข้ามวันครับ แล้วก็จบไปครับเป็นกรณีศึกษาเพราะเสียวๆอยู่เหมือนกันช่วงนั้น 555+
แต่ในกรณีที่ถือยาวทั้งปี....ผมว่าในTVIไม่น่าจะมีคนคิดอย่างนั้นนะครับ เสียดอกปีละ20% กำไรก็ไม่เหลือแล้วครับ 555+
อื้มมได้ยินคนพูดถึงดันโดกันบ่อย คืออะไรหรอครับ มีแบบคร่าวๆไหมครับ
(สงสัยต้องไปซื้อหนังสืออ่านบ้างละครับ อิอิ)
เออ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 6:52 pm
โดย picklife
doo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
ห๊า......2% สุดยอดครับ ชักอยากทำงานธนาคารแล้วซิ กู้มาซื้อตราสารหนี้ง่ายๆเลยนะครับเนี๊ย
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 9:56 pm
โดย doo_meau
ผมอ่านแล้วครับ ดันโด
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
ประมาณนี้แหละครับแนะนำให้อ่านเองนะครับดีมากๆเลย
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:26 pm
โดย เหยี่ยวเดือน9
doo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
80 เท่าเลยเหรอ
แค่ 8 เท่ามั้งครับ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 15, 2010 10:57 pm
โดย peacedev
doo_meau เขียน:ขอแสดงความคิดเห็นด้วยครับเวลาตลาดตกต่ำผมจะกู้มาซื้อครับแฟนผมทำธนาคารกู้ได้80เท่าเงินเดือนดอกประมาน2%
ส่วนผมเป็นตำรวจกู้ได้อีกหลายแสน
และผมยังมีธุรกิจส่วนตัวที่เดือนสเตจเม้นไว้ตลอดอีกสามารถกู้ไปซื้อที่ดินของแม่ยายผมแฟนผมบอกว่าถ้าเราเดินสเตจเม้นไว้ที่เท่านี้สามารถกู้ได้3-4ล้านบาท พอตท์ผมมีแค่ประมาน1ล้านแต่เตรียมไว้หลายไม้ครับถ้าตลาดยังไม่ตกหนักจริงๆผมก็ไม่ใช่ไม้ตายครับ
ผมว่าเราสรางทางเลือกให้กับตัวเองได้ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมได้ ทุกวันนี้ขับรถเก่าที่พ่อซื้อให้ ไม่กู้ ไม่ต้องผ่อน
ปล.ไม่ได้จะมาอวดนะครับอยากแชร์วิธีสร้างทางรอดเวลาหุ้นตกหนักพอดีผมลงทุน100%เกือบตลอดเวลา
โหว
หาแฟนทำธนาคารมั่งน่าจะดีนะครับ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 12:10 am
โดย nathapon_m
ผมจำได้ว่า John Neff ที่เป็นเซียนด้านการลงทุนคนนึงที่ได้รับการยอมรับ
ตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้จัดการกองทุน ผลตอบแทนทบต้นยังได้ประมาณ 15-17% ไม่ถึง 20% อย่างที่ตัวอย่างได้สมมติเอาไว้
ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นคนธรรมด๊า ธรรมดา จึงถือว่า ผลตอบแทนทบต้น 20% ต่อปีติดต่อกัน 40 ปีเป็นเรื่องที่ยากมากๆ และไม่มีวันเป็นไปได้สำหรับผม
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 8:45 am
โดย picklife
[quote="doo_meau"]ผมอ่านแล้วครับ ดันโด
เป็นหนังสือที่ดีมากเลยครับ คือการลงทุนที่มีโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุน
หรืออาจจะไม่ขาดทุนแต่ได้น้อยหน่อย
"ออกหัวผมได้เงินออกก้อยผมเสียเงินนิดหน่อย"
เป็นการลงทุนแบบvalueดีๆนี่เอง โดยเน้นที่timingและมูลค่าของสิ่งที่เราจะลงทุนให้มีmosมากที่สุดและมีupsideมากที่สุดเช่นกัน โดยใช้หลักความน่าจะเป็นของเคลลี่มาออกแบบการบริหารเงินลงทุนให้ได้ผลประดยชนืสูงสุด
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 8:52 am
โดย picklife
[quote="nathapon_m"]ผมจำได้ว่า John Neff ที่เป็นเซียนด้านการลงทุนคนนึงที่ได้รับการยอมรับ
ตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้จัดการกองทุน ผลตอบแทนทบต้นยังได้ประมาณ 15-17%
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 9:00 am
โดย picklife
ปล.ที่เขียนไปด้านบนไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆทั้งสิ้นนะครับ ผมแค่กลัวน้องๆที่เป็นคนประเภทเดียวกับผมจะอ่านแล้วตั้งเป้าต่ำแล้วทำได้ต่ำกว่าเป้า
เช่นตั้งไว้20ทำได้10 ก็จะไม่เกิดความพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกครับ
อยากให้ตั้งเป้า40แล้วทำได้20ครับ
และที่แน่นอนนะครับ ถ้าคุณตั้งเป้า40 คุณจะมัวมานั่งลอยชายอีเรื่อยเฉื่อยแฉะไม่ได้ อย่างๆน้อยๆ1วันคุณต้องรู้อะไรเพิ่ม1อย่าง และ1เดือนคุณต้องเติบโตอย่างเห้นได้ชัดครับ....
คุณyoyoลงทุนมาตั้งแต่อายุ21-22 บัฟเฟตตั้งแต่เด็ก น้องๆที่รู้จักยังอยู่แค่ม.ปลาย ดังนั้นหากใคร เพิ่งมาศึกษาในช่วงจะ30 หรือ30กว่าแล้วจงตระหนักว่าเราช้าไปเยอะครับ ช้าแล้วยังมาลอยชายไม่ดีแน่ๆครับ....
แค่อยากกระตุ้นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่แว๊ปๆเข้ามานะครับไม่มีอะไร อิอิ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 16, 2010 10:00 am
โดย ซากคน
picklife เขียน:
ผมจะขยับตัวก็ต่อเมื่อผมเห้นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และชัดเจนเท่านั้น ผมตั้งเป้าไว้ที่36%ครับ และจะพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อไปถึงจุดนั้นแม้นพลาดก็ครึ่งทาง คนประเภทผมไม่สามารถตั้งเป้าต่ำๆได้จริงๆครับเพราะจะไม่มีแรงดันครับ....
ความฝันทั้งมวลล้วนมีใจเป็นใหญ่
สำหรับพวก "เล็กๆมิต้าไม่ ใหญ่ๆมิต้าทำ"
การเร่งผลตอบแทนให้ได้ 36% ในระยะยาว
นอกจากต้องเพิ่มความรอบรู้ให้สูงขึ้นไล่ตามเป้าหมายแล้ว
ออมมากขึ้นอย่างมีวินัย + เพิ่มรายรับในงานประจำ
เป็นการเร่งผลตอบแทนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดแล้ว
36 % ของแต่ละคน อาจไม่เหมือนกัน ขึ้นกับความถนัด+ระดับความเสี่ยง
ที่ยอมรับไหว
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 17, 2010 9:15 pm
โดย doo_meau
ดันโดมีเล่มเดียวครับ แต่ครบเครื่อง
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 19, 2010 11:54 pm
โดย GERRARD007
[quote="Belffet"][quote="picklife"]GERRARD007
ผมคิดว่าเราควรที่จะทำงานไปด้วย...และก็ลงทุนไปด้วยน่าจะดีกว่า
เพราะเราไม่ใช่ DAY TRADE ที่จะนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน...
-เห็นด้วยครับผม
[v]
ตราบใดที่เรามีเงินสดเราก็จะมีโอกาสเสมอ จึงต้องมีเงินสดติดพอร์ตไว้ 20%
-ผมเป็นโรคกลัวเงินสดครับ ทุกวันนี้ไม่กล้าถือเงินสดครับ เพราะรู้สึกว่าการถือเงินสดเทียบเท่ากับการถือเงินร้อนครับ
เงินร้อนคือ การที่มีหนี้แล้วหนี้นั้นมีดอกติดตามอยู่ทำให้มูลค่าเงินติดลบมกชึ้นเรื่อยๆ สมมุติกู1แสน ดอก10% เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น
ส่วนการลงทุน ผมคิดว่าศัยภาพขอมผมคือ10% ดังนั้นการไม่นำเงินมาลงทุนก็เทียบเท่าเสียผลประโยชน์ เท่ากับทบต้นปีละ1หมื่น เช่นเดียวกัน
ตัวเลขทางการเงินอะไร ผมไม่รู้เพราะผมไม่ได้เรียน
ผมรู้แค่สูตร F=P*(1+i)^n
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 20, 2010 2:51 pm
โดย picklife
doo_meau เขียน:ดันโดมีเล่มเดียวครับ แต่ครบเครื่อง
เว้ากัยเยอะจังครับ วันนี้ต้องถอยมาซะแล้วววว อิอิ
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 20, 2010 2:58 pm
โดย [v]
นั่นดิ เห็นวางขาย เดียวสอยมาอ่านมั่ง
เงินเดือนน้อยๆ ก็มีเงินเป็นล้านกับเขาได้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 23, 2010 11:50 pm
โดย romulus
20 % ดูเหมือนไม่เยอะ แต่ถ้าต้องให้ได้ต่อเนื่อง 20 % สำหรับมือใหม่อย่างผมต้องขยันทำการบ้านกันหน่อยครับ