Thai VI

กระทู้เยี่ยมครับ

ตอนนี้ลุงวอเร็น บุฟเฟ่ต์แกอายุเท่าไหร่น้า   พอร์ตแกกี่เหรียญกันน้า   แกยังกินแมคเล่นโป๊กเกอร์อยู่มั้ยน้า   แล้วแกยังมีความสุขตามประสาเดิมๆแกอยู่อ๊ะป่าว????

อย่าไปซีเรียสครับ   ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดทั้งงานประจำและการลงทุน พัฒนาคุณภาพตัวเราตลอดเวลา  ทำทุกอย่างด้วยสติรอบคอบเต็มกำลัง ไม่เกี่ยงงานหนัก ไม่ทักเงินน้อย   ประเดี๋ยวเงินมันก็มาเองแหละครับ

ตอนนี้ผมอายุ 33 ปีครับ ตั้งเป้าเกษียณ ไว้ 45 ปีครับ จากงานประจำนะครับ หลังจากนั้นจะเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทในสายงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน แล้วเอาเวลาที่เหลือดูแลครอบครัว ทำสวนเป็นงานอดิเรกไปเรื่อยๆ ตอนนี้ที่เตรียมการไว้แล้ว คือปลูก ไม้ยืนต้นไว้แล้ว ประมาณ 550 ต้น อายุ 3-5 ปี คาดว่าอีก 12-15 ปีจะตัดขายได้ต้นละประมาณ 5,000 บาท นี่คิดราคาปัจจุบันนะครับราคาอนาคตคาดว่าต้นละ 10,000 บาทน่าจะเป็นไปได้ ปัจจุบัน port ยังเล็กเพราะเอาเงินมาซื้อบ้าน,ที่ดิน ตั้งไว้เป็นที่อยู่และสินทรัพย์ ตั้งใจไว้ตอนที่ 45 ปีมี port สัก 7.5 ล้านบาท ก็ o.k. แล้วเพราะตอนนี้ ภรรยาให้ติดตัวแค่วันละ 100 บาทมาครบ 1 ปี แล้วหลังจากแต่งงาน ผมก็ยังอยู่ได้และชินแล้วแถมเป็นผลดีกับสุขภาพด้วย เพราะเงินที่ว่าพอแค่ค่าหนังสือ ค่าข้าว เลยไม่มีเงินสำหรับค่าเหล้าและบุหรี่  

port 2 ล้านบาท ในปี 2011 ครับ
อายุ 29.9 ปี


ตั้งเป้าเล็กๆ ไปถึงไวๆ  ^ ^


ใช้หลักการ 'ไมล์ต่อไป' ใน หนังสือ ดร นิเวศน์ ครับ

ส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมายไว้ที่อายุ 45 ปี  ตัวที่จะหน่วงเหนี่ยวให้เป้าหมาย
ยืดยาวออกไปคือ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาของลูกๆ  เชื่อเถอะ จะมีอิสระ
ก็ต่อเมื่อลูกคนสุดท้ายเรียนจบทำงานนั่นแหละ

อ่านกระทู้นี้แล้วชอบมากค่ะ ขอร่วมแจมด้วยคน

ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี  ตั้งใจเกษียณ อายุ 29 ปี ไม่หวังมากมายพอร์ตแค่ 7M ก็พอค่ะ อยากมีความสุขกับทุกสิ่งที่มีในโลกใบนี้ (พูดให้ดูดี แต่จริงๆอยากเที่ยวรอบโลกค่ะ)

เห็นด้วยกับทุกความเห็นนะคะ การจะมีความสุขระหว่างทางเดินไปสู่เป้าหมายสำคัญ  แต่ทำได้ยากเพราะโลกใบนี้มักจะให้ปัญหามาทดสอบความเข้มแข็งของเราตลอดเวลา แล้วสุดท้ายเราจะถูกหล่อหลอมให้เป็นคนมากขึ้น สู้ต่อไปค่ะ ^^

[quote="Fon^^"]อ่านกระทู้นี้แล้วชอบมากค่ะ ขอร่วมแจมด้วยคน

ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี

Fon^^ เขียน:ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี  ตั้งใจเกษียณ อายุ 29 ปี ไม่หวังมากมายพอร์ตแค่ 7M ก็พอค่ะ อยากมีความสุขกับทุกสิ่งที่มีในโลกใบนี้ (พูดให้ดูดี แต่จริงๆอยากเที่ยวรอบโลกค่ะ)

ขอให้สมหวังเช่นกันครับ


ปล. เที่ยวรอบโลก เป็นอะไรที่น่าสนเหมือนกันนะครับ
โดยเฉพาะเที่ยวแบบ Bag Pack << สะกดถูกป่าวหว่า 55+
ผมว่าได้อะไรใหม่ๆเยอะดีครับ

   
     ตั้งใจว่าจะเลิกทำงาน office อีก 5-7 ปีข้างหน้าครับ
เมื่อมีรายได้เพียงพอจาก ปันผล ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องมีพอรท์ใหญ่เท่าไร ราคาหุ้นในพอรท์ไม่ได้มองครับ มองความเป็นเจ้าของกิจการในธุรกิจที่ยั่งยืนมากกว่า


NET-NET can save your ass.

ตั้งเป้าอยากเกษียณที่50ปีคับ...แต่ไม่เร่งรีบอะไรมากคับ...แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดคับ...

[quote="Fon^^"]อ่านกระทู้นี้แล้วชอบมากค่ะ ขอร่วมแจมด้วยคน

ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี

รู้สึกสาวๆจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเลยนะ

แซวเล่นครับ :lol:  :lol:  :lol:

จะได้มีขวัญใจ เวปบอร์ดเราเยอะๆไงครับ อิอิ

[quote="kornjackrit"][quote="Fon^^"]ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี

[quote="Fon^^"]อ่านกระทู้นี้แล้วชอบมากค่ะ ขอร่วมแจมด้วยคน

ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี

ขอต่ออีกรอบ อันนี้เรื่องจริงชีวิตผม

ตอนผม 24 ผมคิดว่า ถ้ามี passive income ได้เดือนละ 10,000 ผมจะมีอิสรภาพทางการเงิน

ตอนนี้ผมอายุ 29 มี passive income จากเงินลงทุนแล้วเดือนละ 10,000 แต่ผมมีค่าผ่อนคอนโด ค่ากินค่าใช้ประมาณเดือนละ 20k
ผมเลยต้องตั้งเป้าใหม่ว่า passive income ต้องเป็น 25,000 บาทต่อเดือน

ผมเลยคิดว่า ถ้าตอนที่อายุซัก 35 แล้วมี PI ระดับนั้นแล้ว ผมคงมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่น โดยเฉพาะที่เกื่ยวกับลูก กับครอบครัว ถึงเวลานั้น ค่าใช้จ่ายน่าจะอยู่ที่ 50k

ถ้าผมอายุ 45 ล่ะ? ค่าใช้จ่ายอะไรจะเพิ่มขึ้นบ้าง?
แล้วถ้าผมอายุ 55-65 ล่ะ ค่ากินอยู่ การรักษาคุณภาพชีวิต ค่ารักษาพยาบาลจะซักเท่าไหร่

ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักพอ เพียงแต่โลกสมัยนี้ ไม่มีเงิน มันไม่ได้ครับ
ความพอเพียง มันใช้ไม่ได้ ในเวลาที่คุณเจ็บป่วย ในเวลาที่เป็นโรคหัวใจ เป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัด
ถึงเวลานั้น ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องมี PI เท่าไหร่ ถึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน???

จากข้อความข้างต้น จึงเห็นควรซื้อหุ้น RAM, BH, BGH, AHC   :lol:   :lol:   :lol:
ไม่ได้ใบ้หุ้นนะครับ

ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับ เข้ามาอ่านนานแล้ว แต่เพิ่งจะสมัครสมาชิกครับ
โดยส่วนตัวผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กับการตั้งเป้าการเกษียณ
โดยผมมองว่าเป็นการวางแผนชีวิตที่ดีครับ
ได้ข้อคิดจากการดูโฆษณามาครับ ของKBANK และส่วนหนึ่งก็ประสบพบเจอมากลับตัวเองด้วยครับ อาศัยดูจากพ่อแม่ตัวเองเป็นหลักเพราะใกล้ตัวดี
ลำบากมาตั้งแต่เล็กจนมีลูกโตพ่อแม่ก็ไม่ได้สบายสักที เพราะเรียนน้อยมากผมโชคดีที่มีพ่อแม่ส่งเสริม ให้ได้เรียนสูงๆ ประกอบได้ที่เรียนที่ดีด้วย
แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาจากการวางแผนชีวิตของผมด้วย ทำให้สามารถได้เรียนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผมจึงเห็นว่าการเป้าหมายการเกษียณเป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราจะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และการตั้งเป้าหมาย (Goal Setting) ในทางจิตวิทยาเป็นกระบวนการของความคิดที่นำไปสู่ผลสำเร็จ เมื่อเราตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้แล้ว ก็เปรียบเสมือนว่าได้มีแผนที่ในการดำเนินชีวิตเช่นกัน
ตอนนี้เพิ่งเริ่มลงทุน พอร์ตเล็กมาก โดยเน้นการออมเงินมาลงทุน ประมาณ 50% ของรายได้ครับ เงินเดือนไม่สูงมาก ถือคติว่ามีมากออมต้องออมมากกว่า  ตัวเงินไม่อาจคาดได้แต่ตั้งเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตไว้ว่าจากนี้ไป 15 % แบบทบต้นทบดอกครับ
เกษียณผมนั้นตั้งไว้ที่ 45 ปี ครับ (อีก 20 ปี)
แต่ไม่ใช้หยุดงานประจำเลยแต่อาจจะทำให้น้อยลง และกะว่าจะใช้ชีวิตและความรู้ที่มีให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมบ้าง

[quote="Invisible_heart"][quote="kornjackrit"][quote="Fon^^"]ตอนนี้อายุ 24 ปี เริ่มลงทุนมาแล้ว 3 ปี

akekarat เขียน:ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักพอ เพียงแต่โลกสมัยนี้ ไม่มีเงิน มันไม่ได้ครับ ความพอเพียง มันใช้ไม่ได้ ในเวลาที่คุณเจ็บป่วย ในเวลาที่เป็นโรคหัวใจ เป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัด
ถึงเวลานั้น ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องมี PI เท่าไหร่ ถึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน???

เห็นด้วยนะครับ บางครั้ง Passive Income
ที่เราคำนวณไว้และคิดว่าพอนั้นก็พอเฉพาะแค่ค่าใช้จ่ายประจำวัน
หรือค่าใช้จ่ายปกติ ไม่รวมในกรณีที่เกิดวิกฤติ
อย่างไรก้ตามผมว่าปัญหานั้นอาจจะพอแก้ไขได้
ด้วยการทำประกันสุขภาพ และประกันชีวิต

สำหรับรายจ่ายหรือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ผมว่าอันนี้อยู่กับความพอ และวิธีการดำเนินชีวิตของตัวเรา
ซึ่งเราควรจะประเมินไว้ครับ

ในการประเมินจำนวน Passive Income ที่ควรจะมีเมื่อจะเกษียณนั้น
ผมคิดว่าเราน่าจะประเมินค่าใช้จ่ายพื้นฐานตามช่วงอายุไว้ด้วยครับ
เราอาจจะประเมินผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็ยังพอเป็นแนวทาง
หรือ เป็นเป้าหมายคราวๆของเราได้

ผมว่าไม่มีคำว่า Passive Income ที่พอ หรือ ตายตัวครับ
ถ้าหากคนเราไม่ยอมจำกัดความอยากที่เกินความจำเป็นของตัวเรา

ส่วนคำว่าเกินความจำเป็นคือเท่าไหร่นั้น
ผมว่าแล้วแต่คนครับ ที่สำคัญอยู่ที่ต้องแยกให้ออก
ว่าสิ่งไหนจำเป็นและสิ่งไหนเพียงแค่ต้องการ

สุดท้ายผมเชื่อว่า คนเราต้องการวัตถุแต่เพียงในระดับหนึ่งเท่านั้น
สิ่งที่ต้องการจริงๆ คือ สิ่งที่เรียกว่า "ความต้องการความสมหวังของชีวิต"
( Self-Actualization ) หมายถึง ความต้องการที่จะบรรลุความสมหวัง
ของตนเองด้วยการใช้ความสามารถ ทักษะ และศักยภาพอย่างเต็มที่
( ความต้องการขั้นสูงสุดของมนุษย์ตามทฤษฎีของมาสโลว์ )




หรือ อาจจะเป็นเพียงแค่ความสงบของจิตใจ

ท่าน LOSO ยังล้ำลึกเหมือนเดิม นับถือๆ  :D

ก็ขอแชร์ด้วยคนน่ะครับ ผมตั้งเป้าซัก 20 ล้านเป็นอย่างน้อย ก็จะแบ่งออกเป็นส่วนๆ
 2 ล้าน เอาไว้ปลูกบ้าน
 5 ล้าน เอาไว้ลงทุนร้านทองกับพี่สาว
 10 ล้าน ฝากประจำ หรือซื้อหุ้นกู้ เอาดอกผลไว้ใช้สอย
  3 ล้าน ไว้ใช้ยามเจ็บป่วย
    จะพยายามใช้ให้น้อย ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ทำบุญ เผื่แผ่คนที่เดือดร้อนรอบตัว เลี้ยงเด็กพิการ บ้านพักคนชรา

  เห็นแต่ VI พูดถึงแต่ตัวเองเป็นซ่ะส่วนใหญ่ เห็นแต่ชวนกันไปจิบเบียร์กัน  ลองเปลี่ยนไปเป็นแบบ นัดกันไปทำบุญเลี้ยงเด็กตาบอดที่มหาไถ่ บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน บ้านพักคนชรา พวกเราจะดูดีขึ้นเยอะน่ะครับในสายตาของสังคม อันนี้ก็แชร์กันไป ไม่หวังมากมาย

เพื่อนๆครับ อารย์ ดร. ได้เข้ามาเตือนพวกเราครับ
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=37021

eupatcha เขียน:เห็นแต่ VI พูดถึงแต่ตัวเองเป็นซ่ะส่วนใหญ่ เห็นแต่ชวนกันไปจิบเบียร์กัน  ลองเปลี่ยนไปเป็นแบบ นัดกันไปทำบุญเลี้ยงเด็กตาบอดที่มหาไถ่ บ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน บ้านพักคนชรา พวกเราจะดูดีขึ้นเยอะน่ะครับในสายตาของสังคม อันนี้ก็แชร์กันไป ไม่หวังมากมาย

น่าสนใจครับ

ตอนนี้ 30 แล้ว เริ่มสนใจ ลงทุน มา 2 ปี แต่ยังไม่ได้เริ่มลงทุน ตั้งเป้าไว้ที่ 40 ครับ ขอสัก 10 ล้านใน port  :D

ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักพอ เพียงแต่โลกสมัยนี้ ไม่มีเงิน มันไม่ได้ครับ
ความพอเพียง มันใช้ไม่ได้ ในเวลาที่คุณเจ็บป่วย ในเวลาที่เป็นโรคหัวใจ เป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัด
ถึงเวลานั้น ต้องมีเงินเท่าไหร่ ต้องมี PI เท่าไหร่ ถึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน???

แหม่ มันโดนใจ

newbie_12 เขียน: แหม่ มันโดนใจ

ผมว่าคุณ akekarat คงจะยังไม่เข้าใจความพอเพียงอย่างแท้จริงครับ  :)  

ลองหาสิ่งที่ดร.สุเมธ กล่าวเกี่ยวกับความพอเพียงมาฟังก็ดีนะครับ

ได้อ่านบทความ ของอาจารย์ ดร นิเวศน์แล้ว ได้ปรับเปลี่ยน
เป้าหมาย กันใหม่หรือยังครับ หรือ ว่ายังคงเ้อาไว้ที่เดิม

ส่วนตัวผมคำแนะนำของอาจารย์มีค่ามากครับ
ผมนำมาปรับกับเป้าหมายในระยะสั้น และ
ปรับให้เข้ากับการทำงาน และรายได้ปัจจุบัน

ปรับความคาดหวัง ผลตอบแทนการลงทุนใหม่ ให้เหมาะสมกับความสามารถตัวเอง, เงินลงทุนเพิ่ม
และ กิจกรรมการดำเนินชีวิตที่จะเกิดค่าใช้จ่าย
อย่างเป็นนัยยะ เช่น การบวช แต่งงาน มีลูก และซื้อบ้าน

ส่วนเป้าหมายระยะยาว ยังคงคาดหวังไว้ใกล้เคียงเป้าเดิม
แล้วเพื่อนๆ ได้อะไรบ้างจากบทความดีๆของอาจารย์

เข้ามาอ่านความฝันของแต่ละท่าน ช่างมีความมุ่งมั่นโดยแท้และบทความของ ดร. นิเวศน์ ได้ข้อคิดดีๆ เตือนใจตลอด

ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายแน่นอนหรอก เพราะอนาคตไม่แน่นอนและไม่มีใครรู้
ขอให้ได้ใช้ชีวิตไปวันๆ ได้มากก็เก็บมาก ได้น้อยก็เก็บน้อย หาความสำราญใส่ตัวเองมั่ง ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ fix ว่าต้อง port เท่าไร ตอนอายุเท่าไร
แล้วก็ไม่รู้จะอยู่ถึงอายุเท่าไร

"รักในสิ่งที่ทำ" ดีกว่ามัวแต่ค้นหา "ทำให้สิ่งที่รัก"

ตั้งเป้าหมายปัจจุบันไว้ว่า  

จะสนุกกับการศึกษาความรู้ที่จำเป็นต่อการลงทุนและสุขภาพ
จะมีความสุขทุกครั้งที่มีเงินมาลงทุน                          
จะลงทุนด้วยความคิดที่แจ่มใสเท่านั้น
                                                       
เหตุที่ว่า........พอร์ตจะขยายได้มาก/น้อย แค่ไหน ไม่มีใครรู้

ทำให้....

ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ว่า

วันนึงที่พร้อม...ผมจะลงทุน 100 % ของรายรับ/เดือน
(ตอนนี้ 65% ของรายรับ/เดือน)

Voldtrest เขียน:
ตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ว่า

วันนึงที่พร้อม...ผมจะลงทุน 100 % ของรายรับ/เดือน
(ตอนนี้ 65% ของรายรับ/เดือน)

ไม่ต้องถึง 100% แค่
ทำได้ 80% ของรายได้ทั้งหมดก็รวยแล้ว

ผมก็เริ่มเอาเงินเดือนมาลงทุนตอนนั้น
ใช้ 80 เหลือ 20 มาลงทุน

เป้าหมายแรกผม คือ "เปลี่ยน" ใช้แค่ 20 ลงทุน 80
จะบอกว่า ทำได้ตามเป้าหมายแล้วครับ
แต่ยังม่ายรวยยยย

ปล.เข้ามาเป็นกำลังใจ ให้เพื่อนๆ มนุษย์เงินเดือนด้วยกันครับ
สู้ต่อไปครับ