Thai VI

อืม น่ามีกราฟตอนนั้นมาดูเนอะ จะได้เป็นบทเรียนสำหรับตอนนี้ เพราะจำไม่ได้แล้ว ว่าหักหัวตอนไหน

Jeng เขียน:อืม น่ามีกราฟตอนนั้นมาดูเนอะ จะได้เป็นบทเรียนสำหรับตอนนี้ เพราะจำไม่ได้แล้ว ว่าหักหัวตอนไหน

ไม่มีกร๊าฟหรูๆนะคะ มีแต่ของฟรีให้ดู :lol:


กราฟ

โดยทั่วไป มันจะขึ้นไม่ไหวต่อเมื่อมันขึ้นจนปรี๊ด แอ่นจัดจนเรียกว่าเกือบ 90องศาเลยนะบางตัว บางตัวนี่แอ่นซัก 60 องศาก็ไม่ไหวแล้ว

จากในรูปกร๊าฟฟรีที่มี ดูยาวๆแบบนี้ ตรงนี้ยังถือว่าอยู่เขตก้นกะทะอยู่เลย ยังไม่ทำก้นกะทะด้านซ้ายให้เห็นเลยด้วย แต่ดูเหมือนกำลังพยามจะทำอยู่
ความเสี่ยงคือ ถ้างัดก้นซ้ายไม่รอด ต้องลงมาอีกที

ปล มั่วนะมั่วค่ะ ไม่ได้เซียนกร๊าฟไรหรอก ก้แค่ดูมั่วๆไป  :lol:  :drink:[/url]

หันมาดู jutha 10.50 แย้ว เหอๆ แต่ไม่ได้ซื้อ

่ข่าวรอยเตอร์ ยิงมาว่า

ธปท. เผยผู้่่ส่งออกแห่ขายดอลล่าหลังบาทแข็ง /ทุนนอกไหลเข้าหุ้นไทย 1.2 แสนล้าน.

อืม ยิงมาตะกี้นี้

มูลค่าการซื้อขายสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม 2550
หน่วย: ล้านบาท
นักลงทุน ซื้อ ขาย สุทธิ
มูลค่า % มูลค่า % มูลค่า %
นักลงทุนทั่วไปในประเทศ 889,622.99 47.35 992,665.05 52.83 -103,042.06 -
สถาบันในประเทศ 237,058.15 12.62 258,278.98 13.75 -21,220.83 -
ต่างประเทศ 752,132.19 40.03 627,869.29 33.42 124,262.90 -

สรุปจากตาราง ต่างชาติซื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ดัชนี 679.84

ซื้อสะสม 124,262.90 ล้านบาท

ดัชนี เมื่อวานวันที่ 10 กรกฎาคม 2550 ดัชนี 858.45

ดัชนีขึ้นมา 178.61 ขึ้นมา 26.27 %

มาร์เก็ตแค๊บขึ้นมาเท่าไร คำนวณไม่เป็นใครคำนวณเป็นช่วยหน่อยก็ดี คริๆ

อย่างไรก็ตาม ต่างชาติเพิ่งซื้อสะสม มากๆ เมื่อ 10 วันนี้เอง

มูลค่าการซื้อขายสะสมในช่วง 1 - 10 กรกฎาคม 2550
หน่วย: ล้านบาท
นักลงทุน ซื้อ ขาย สุทธิ
มูลค่า % มูลค่า % มูลค่า %
นักลงทุนทั่วไปในประเทศ 136,791.38 53.53 161,709.57 63.28 -24,918.19 -
สถาบันในประเทศ 31,600.15 12.37 33,419.26 13.08 -1,819.11 -
ต่างประเทศ 87,163.78 34.11 60,426.48 23.65 26,737.30 -

10 วันซื้อไป 26,737.30 ล้านบาท

ผมยังจำคุณ  jeng เชียร์ให้ซื้อ pttep ได้เลย ตอน 89-90 บาท  

ขอบคุณครับ ที่จำได้ เจอเพื่อนๆบางคน ตอนไปตีแบด ทุกวันพุธ กับพี่พอใจ บางคนก็ซื้อ pttep ตอน 90 แล้วถือมาถึงทุกวันนี้ ก็ดีเหมือนกัน

เพราะตอน 90 อะไรๆก็ดูแล้วแย่เหมือนกัน

เหมือน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์นี่ สำหรับนักเก็งกำไร ผมคิดว่า ถ้าเงินทุนยังไม่ขึ้นเยอะๆ เหมือนสมัยปี 2545 2546 ตลาดหุ้นก็ยังไม่ กระทิงจริง

เล่นหุ้นเหมือนเล่มเกม ไม่มีไรเลย ชนะก็มันส์ แพ้ก็ได้บทเรียน สุดท้าย ใครอยู่นานที่สุด ก็ไม่แพ้ แต่จะได้กำไรแค่ไหน ขึ้นอยู่กับพี่พอใจ

:lol: เพิ่งเห็น....พี่พอใจนี่มีอิทธิพลมากจริงๆ

007-s อารมณ์ดี ท่าทางพักนี้รวย

คริๆ

สบายดีตามอัตภาพค่ะ เฮียเจ๋ง  :lol: กำไรเท่าไหร่เด๋วต้องถามพี่พอใจก่อง อิอิ

ถ้า set ปรับฐานแรงๆนี่น่าจะเป็นผลดีต่อชาว vi ทั้งหลาย แ่ต่ผมขอเดาว่า set ไปต่อที่ 900 - 950 จุดก่อนประกาศ หรือในช่วงประกาศ Q2

Jeng เขียน:ถ้า set ปรับฐานแรงๆนี่น่าจะเป็นผลดีต่อชาว vi ทั้งหลาย แ่ต่ผมขอเดาว่า set ไปต่อที่ 900 - 950 จุดก่อนประกาศ หรือในช่วงประกาศ Q2

8) คุณเจ๋ง signature ที่เขียนน่ะผิดนะ
    น้องเขามาแซวแล้ว ยังไม่รู้อีก
    ต้องเขียนว่า ที่พอใจ ไม่ใช่ พี่พอใจ
    กำไรขาดทุนอยู่ที่คุณพอใจ ไม่ใช่ผมพอใจ
    แฮะ...signatureจะให้ดีเว้นเป็น2บรรทัดอย่างเมื่อก่อนก็ดีนะ
    จะได้ไม่ต้องลากmouse ไปอ่าน

แก้แล้วครับ เป็นแบบเดิม มะเกียวกะผมนะพี่ พอใจ

สงสัย หน้ายาวมี scroll bar เพราะ link ของน้อง oo7-s เป็นแน่เยย

มีกีเหตุผลกันแน่ที่หุ้นจะขึ้น

1. อดีตกำไรดี

2. ปัจจุบันกำไรดี

3. อนาคตน่าจะโต

4. ผู้บริหารธรรมาภิบาลดี

5. ปัจจุบันราคาต่ำกว่ามูลค่า

6. พื้นฐานดี

7. ตลาดกำลังกระทิงอะไรก็ขึ้น

8. ฝรั่งซื้อ

9. ข้อมูลวงใน

10. รายใหญ่ปั่นขึ้น

11. ปันผลมาก

12. มั่นคง หนี้น้อย ถือแล้วปลอดภัย

มีอะไรกีหรือ ที่หุ้นจะขึ้น







มี

13. คือ






13. หุ้นมันขึ้น คนก็เลยงง แล้วตาม กลัวตกรถ

ปัจจุบัน มีหุ้นตัวไหนดี แล้วยังไม่ขึ้น

ums par 50 ตัง วันนี้ราคา 17.30 นั่นหมายถึงก่อนแตกพาร์ ums พาร์ 1 บาท ราคาลากขึ้นไปถึง 34.60 อืม แพงหรือไม่คิดเอง แล้วจะหาเหตุผลไรขึ้นต่อ

uec par 1  บาท วันนี้ 23.10 อืม บอกผมหน่อยว่า uec จะขึ้นต่อด้วยเหตุผลอะไร

team 7.65 ลองคำนวณดูว่า pe นี้ถูกจริงหรือ แล้วควรขึ้นไปอีกด้วยเหตุผลอะไร

snc 12.60 พาร์ 1 บาท อืม หลัง visit company ในวันที่ 14 นี้ จะเป็นไงต่อ  ควรขึ้นต่อ ด้วยเหตุผลอะไร

dsgt 7.85 pe เท่าไร แล้ว บริษัทนี้ คุณรู้จักจริงๆหรือ เข้าตลาดมานานหรือยัง ควรขึ้นต่อด้วยเหตุผลอะไร

ppm 4.58 มากี่วันแล้ว ลงควรซื้อ หรือว่า ควรขาย ควรขึ้นต่อด้วยเหตุผลอะไร

ptt 302 ควรขึ้นต่อด้วยเหตุผล อะไร เช่น ค่าเงินแข็ง ต้นทุนต่ำ ประกาศขึ้นราคาน้ำมัน กำไรเพิ่ม ใช่หรือไม่ vi ควรยุ่งกะ ptt ช่วงนี้หรือไม่

เอาหละพอแล้ว

สรุปว่า หุ้นขึ้น มา 26 % vi รุ่นเก่ายังไม่เลิกเล่น แต่ vi รุ่นใหม่ ควรเข้ามาเล่นหุ้น vi หรือไม่

ถ้าดัชนี ขึ้นไปถึง 1000 จุด ก่อนปลายปี vi ควรถือหุ้นหรือควรขาย เพราะอะไร

ในแง่ vs ควรถือนะ แต่ในแง่ vi ขายไปก่อนดีกว่าหรือไม่

สรุปของสรุปช่วงนี้ คือ

แต่จะออกก่อนราคาไหน ดูอย่างไร





ilink 7.25 ราคานี้แข็ง แล้วควรขึ้นด้วยเหตุผลอะไร

เล่นหุ้นนานๆ ก็เลิกถามคำถามที่ไม่มีคำตอบ เห็นหุ้นขึ้นอย่างนี้ ไม่ต้องคิดมาก เล่นไฟอย่างเดียว

โห นี่เว็บ vi นะครับ พี่ก็ถือไฟเต็มพอร์ท ต้องเคารพสถานที่เด้อ

แก้คำผิด คือ ออกก่อนรวยกว่า

สาเหตุที่ถาม เพราะ vi รุ่นใหม่กำลังจะเข้ามาตอนหุ้นตก แต่ vi รุ่นใหม่อาจจะซื้อเร็วไป สำหรับหุ้น vi

เพราะถ้าดัชนี ไป 1000 จุด

เหอๆ ออกก่อนรวยกว่านะ แม้แต่ วอเรนยังออกเลย ตอน ปี 2000

ตอนตลาดดอทคอมล่ม

หุ้นขึ้นก็เล่นหุ้นซักหน่อย แต่เล่นแบบวีไอมีการประเมินมูลค่าด้วย ผมว่าไฟยังถูก ถ้าปีนี้ยังเทรดกันขนาดนี้

Oops ไม่ได้ปั่น หรือเชียร์นะ ผมเข้ามาหลายวันแล้ว เดี๋ยวเกิดมีคนตามยุ่งเลย

หุ้นไฟไม่น่าเล่นหรอก ปู่โกศล บอกว่า ใครอยากเจ๊ง มาเล่นหุ้นไฟ

555

ถามว่า ไฟตัวไหนถูกสุด เพราะอะไร ต้องตอบ แบบเดาๆ กับไฟทุกตัวนะ

ท่าน

ยกตัวอย่าง ถ้าซื้อกิมเอ็ง อืม ถูกจริงหรือ pe 39.71

ถามว่าหุ้นขึ้น ขึ้นจริงหรือ ถ้าพรุ่งนี้ดัชนี -15 เทรด15000 ตลาดเหงาๆ ควรขายไฟหรือไม่

ไปนอนหละ

คุณ Boring Stock Lover มาต่อเรื่องไฟกันดีมั๊ย

ทีว่ามีบางตัวยังถูกนั้น ดูอย่างไรครับ

ระยะ 3 ปีมานี้ ต่างชาติซื้อสุทธิทุกปี ปีละแสนล้านเศษ มาปีนี้ทะลุแสนล้านตั้งแต่ช่วงกลางปี

http://www.set.or.th/th/info/statistics ... arket.html

ภาพหลอนไฟแนนล้ม คงคิดตามใครบางคนมา รวมทั้งวอเรนไม่ได้พูดว่าธุึรกิจไฟแนน มี DCA

อย่างไรก็ตาม หันมาดูในเมืองไทย ซึ่งธุรกิจ เกียวกับ แบงค์ เงินทุน เงินทุนหลักทรัพย์นั้น ไม่ได้เสรีอย่างเมกา ต้องการมีใบอนุญาติ

ลองเข้าไปดูเล่นๆใน kest asp cns อิอิ โห conservative จริงๆ บริษัทพวกนี้ คร่าวๆที่เห็นคือ ไม่มีหนี้ที่ต้องไปจ่ายดอกเบี้ยเลย

แถมเวลาหุ้นบูม นอกจาก ได้ค่าคอมที่สูงขึ้น ยังได้ ดอกเีบี้ยมาร์จิ้นอีก ซึ่งมีหุ้นเป็นตัวค้ำประำกัน

แต่ราคาของ kest asp ผมก็ว่าแพงไปแล้ว ซึ่งก็อาจจะมีแพงกว่าก็ได้คับ

ต้องแยกระหว่างโบรกเกอร์ กับไฟแนนที่ปล่อยกู้ เช่นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์

เพราะโบรกเกอร์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ ไม่ได้ปล่อยกู้กับกิจการต่างๆ แต่ มีรายได้จาก

1. ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์

2. ดอกเบี้ยรับจากการปล่อยกู้มาร์จิ้น หรือดอกเบี้ยจากการนำเงินไปฝากแบงค์

3. กำไรขาดทุน จากการลงทุึนในหลักทรัพย์ ( พักหลังๆ ส่วนใหญ่ โบรกเกอร์ ไม่กล้าซื้อหุ้น มักจะเอาเงินไปฝากตราสารหนี้ ทั้งๆที่ตัวเองออกบทวิเึคราะห์ทุกวันให้คนซื้อ คนขาย เพื่อได้ค่านายหน้า)

4. ค่าธรรมเนียม ( ค่าที่ปรึกษาทางการเงิน เช่น การเทกโอเวอร์ การนำบริษัทเข้าตลาด เป็นต้น )


บริษัทหลักทรัพย์ ทำกิจการลักษณะนี้ แล้วไม่มีการกู้เงินเลย มีแต่เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

ในเมืองไทย มีการจำกัด ไม่ให้เสรี ยิ่งทำให้ การแ่ข่งขันไม่เสรี ณ เวลานี้ แต่อนาคตไม่ทราบ

ก่อนหน้านี้ มาร์เก็ตติ้งจะย้ายค่าย ก็มีการออกกฎเพื่อประโยชน์ของ โบรกเกอร์ อีก คือใครจะลาออก ต้องตกงาน 6 เดือน

อืม ประเทศเสรี แต่ไม่เสรีจริง

ผลคือ โบรเกอร์เหล่านี้ ก็ได้กำไรดี เพราะค่าคอมก็เก็บแพงๆได้

จริงๆธุรกิจหลักทรัพย์นั้น ผมว่าคนในเวบนี้มีความสามารถที่จะแกะงบและประเมินมูลค่าได้

อย่างตอนนี้บางตัวเราจะเห็นพัฒนาการอย่างชัดเจนว่า โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไป อย่างบัวหลวงมีพันธมิตรใหม่เข้ามาก็มียอดลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น

แนวทางของตลท.เองก็คงจะขยับขยายสินค้าใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ปีที่แล้วบริษัทที่ทำ surprise ก็ kgi ไม่น่าเชื่อว่ากำไร แต่ก็มาจากตลาดอนุพันธ์

เรื่อง dtac เองก็ตัวนำร่อง เราคงจะเห็นหุ้นทั้งในและตปท.ที่อาจจะทำ dual listing มากขึ้น และเราก็คงจะมีบริษัทดีๆมาให้ลงทุนในตลาดมากขึ้น

อย่างหุ้นหลักทรัพย์หลายตัว div yield ก็ยังอยู่ 3-4% (บางตัวยิวด์จริงบางตัวยิวด์ปลอม เหมือนธุรกิจอื่นๆ ต้องศึกษาหน่อย) ขนาดเป็นฐานรายได้จากปีที่แย่ๆ ในบางตัวในนั้นถ้าหากเราเข้าใจธุรกิจ มีช่วงเวลาที่ลงทุนยาวนานพอ ไม่ใส่ใจมากกับราคาหุ้นที่อาจต่ำลง 50% การถือยาวๆ กินปันผลไป ก็เป็นฐานล่าง แต่คงมีน้อยคนที่จะถือยาวหุ้นไฟ เพราะผู้นำความคิดในสังคมคอยห้ามคอยเตือนตลอดเวลา

วันนี้ไม่เหมือนสมัยอ.โกศล ผมยังพอจำราคา ASL สมั้ยนั้น 250-3xx บาทมั้ง ถ้าราคาอย่างนั้น ก็น่ากลัวกว่าวันนี้ คำพูดอ.โกศลมีค่าแห่งการรับฟังและใส่ใจ ด้วยความเคารพในตัวท่าน แต่เราคงควรพิจารณาบริบทที่เราเป็นอยู่ประกอบไปด้วย

โดยรวมๆระดับอุตสาหกรรมมีข่าวดีมากหลายเรื่องที่เข้ามากระทบโครงสร้าง ส่วนเรื่องร้ายๆ ก็เป็นเรื่องเดิมๆที่เรารู้กันอยู่แล้ว ปริมาณการเทรดต่อวันพวกนั้น แต่มีอีกเรื่องก็คือการเข้ามาของคู่แข่งต่างชาติ

เรื่องหุ้นเป็นตัวๆคงขอเว้นไว้ เดี๋ยวกลายเป็นผมปั่นหุ้น และก็หุ้นที่กล่าวถึงบางตัวผมมี บางตัวผมไม่มี ซื้อหากันเองผมไม่เกี่ยว