หน้า 19 จากทั้งหมด 21

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 23, 2013 8:12 pm
โดย vim
วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:
แมวตัวกลมๆ เขียน:
วรันศ์ บัฟเฟต เขียน:
vim เขียน:29 ตุลามาลุ้นกันใหม่ครับ
Ben เค้าเพิ่งเพิ่มมุกใหม่มา
พูดเมื่อคืนนะครับว่าไม่จำเป็นต้องรอ fomc meeting
Taper มาเมื่อไหร่ก็ได้ประกาศได้ทุกเมื่อ
ทาง fed เองถ้าจะ taper ก็ไม่จำเป็นต้องรอการแถลงเป็นทางการหลัง meeting ใดๆ ถ้าเห็นว่าเหมาะสมก็จะจัดเลย
ลองหา press conference minutes อ่านดูนะ

ดังนั้นรู้นะครับแปลว่าอะไร โลกนี้อยู่ไม่ง่ายจริงๆ
ข่าวเบนข้างบนมาจากแหล่งไหนคะ กำลังหาข่าวเมื่อวันศุกร์อยู่ว่าใครพูดอย่างไนกันแน่
อันนี้เป็นข่าววันพฤหัสค่ะ

[url]http://www.kaohoon.com/online/71688/%E0 ... 2-.htm[url]
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 12:58:48 น.
ผู้เข้าชม : 785 คน

รอยเตอร์รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า เฟดจะไม่ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสิ้นสุดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 29-30 ต.ค. เนื่องจากไม่มีกำหนดการแถลงข่าวของประธานเฟดหลังเสร็จสิ้นการประชุม

นางแอนิตา มาร์โคว์สกา นักเศรษฐศาสตร์จากโซซิเอเต้ เจเนอราล กล่าวว่า ถ้าเฟดมีกำหนดการแถลงข่าวในเดือนหน้าจะถือเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการประกาศปรับลดมาตรการ QE จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสั่นคลอนตลาดการเงินในแบบที่เฟดไม่ต้องการ โดยครั้งต่อไปที่เฟดมีกำหนดจัดการแถลงข่าวคือหลังการประชุมในวันที่ 17-18 ธ.ค.

อย่าหาข่าวไทยครับไม่รู้เรื่องแน่ๆ ช้าแถมอาจไม่แม่นยำด้วย
ผมแนะนำฟังสดเลย ไม่ก็หาเทป
ส่วนนี่ก็ minutes

3:00 PM: Bernanke says the FOMC does not need a scheduled press conference to make a major decision like the first reduction in quantitative easing. It could hold a press conference with reporters or find some other way to get the rationale behind the decision out to the public.

Read more: http://www.businessinsider.com/fomc-pre ... z2fiTGsBBc
ผมมองว่าตรงนี้แล้วแต่การตีความครับ ผมเข้าใจว่าในบริบทในการพูดนี้ ก่อนหน้านี้ FOMC ก็ทำอย่างนี้มาตลอดอยู่แล้ว ครั้งนี้้เป็นการยกความจริงมาพูดซ้ำให้นักข่าวเข้าใจประเด็นเดิมครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 23, 2013 8:20 pm
โดย แมวตัวกลมๆ
ขอบคุณค่ะคุณวรันศ์ คุณ vim

สื่อลงข่าวกันทั้งทางบวก ลบ เล่นเอามึน

ให้สัมภาษณ์อย่างกำกวมเหมือนเดิม แต่นักลงทุนก็เอาเป็นประเด็น ดีที่รอบนี้วันนี้ต่างชาติไม่ขายออกมามาก

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 23, 2013 8:46 pm
โดย Nevercry.boy
ผมว่าสิ่งที่สำคัญกว่าเค้าจะทำอะไร คือ

เราจะทำอะไร น่ะครับ ไม่ทำอะไร ก็คือ ทำอะไรแบบนึง

ถ้าหุ้นตก ผมคงทะยอยซื้อ โดยเฉพาะช่วงเงินเดือนออก

ถ้าเงินหมด

ผมก็จะหายใจผ่านวิกฤตไปอีกครั้ง

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 23, 2013 8:50 pm
โดย kongkiti
Nevercry.boy เขียน:ผมว่าสิ่งที่สำคัญกว่าเค้าจะทำอะไร คือ

เราจะทำอะไร น่ะครับ ไม่ทำอะไร ก็คือ ทำอะไรแบบนึง

ถ้าหุ้นตก ผมคงทะยอยซื้อ โดยเฉพาะช่วงเงินเดือนออก

ถ้าเงินหมด

ผมก็จะหายใจผ่านวิกฤตไปอีกครั้ง
ขอคารวะ ซือแป๋ NB :D :mrgreen: :B

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 23, 2013 9:21 pm
โดย แมวตัวกลมๆ
ขอบคุณค่ะคุณ nb กำลังทยอยซื้อเหมือนกันค่ะ
หาจังหวะอยู่ ดูว่าตลาดรับข่าวแค่ไหน เผื่อมีส่วนลด :D

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 24, 2013 12:25 am
โดย leky
แงซาย เขียน:
leky เขียน:จะว่าไปความคิดเหล่านี้มันฟังดูมีเหตุผลหรือไม่ แนวโน้มเศรษฐกิจอเมริกายังไม่ดีจึงยังคง QE ต่อไป แต่แทนที่ตลาดจะมองว่าเป็นเรื่องร้ายที่เศรษฐกิจยังไม่ดีกลับมองว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะได้พิมพ์เงินเก๊กันต่อ เงินจะได้ไหลเข้าตลาดหุ้น มันเหมือนกับคนที่กำลังหลอกตัวเองอยู่นั่นเองแหละครับ เหมือนรู้อยู่แก่ใจว่าถึงวันนี้จะพิมพ์เงินเก๊กันต่อ หุ้นที่ขึ้นมันก็เหมือน "ภาพลวงตา" แต่เรากลับดีใจ เหมือนคนที่กำลังตั้งวงเล่นการพนัน ถึงแม้จะรู้โทษของการพนัน ถึงแม้จะโดนเจ้ามือกินไปมากแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้เจ้ามือเลิกวงพนัน เพราะยังมีคนเติมเงินให้เล่นพนันอยู่เรื่อย ๆ วันหนึ่งเดี๋ยวก็ต้องลด QE อยู่วันยังค่ำ เมื่อถึงวันนั้น วันที่ข่าวออกมา ก็คงไม่พ้นที่หุ้นจะลงกันแรง ๆ อีกรอบ แต่คราวนี้เนื่องจากทุกคนมีประสบการณ์จากข่าวลด QE รอบแรกมาแล้ว ดีไม่ดีผมว่าข่าวออกรอบหลังคงตัดสินใจทิ้งหุ้นกันได้ง่ายกว่ารอบแรก เพราะต่างคิดว่าทิ้งก่อนได้เปรียบ ประเทศทุนนิยมจะว่าไปก็พังเพราะตัวเองนั่นแหละครับ เพราะความโลภ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหลายที่อ้างว่าใช้บริหารความเสี่ยงถูกสร้างขึ้นมา แต่เอาเข้าจริงแล้วคนที่จะใช้เครื่องมือแบบนี้เพื่อลดความเสี่ยงได้อย่างได้เปรียบมันก็มีแต่พวกรายใหญ่ ๆ ทั้งนั้น สุดท้ายเมื่อคุมความโลภไม่ได้ทุกอย่างก็พัง
นักลงทุนดูจะเสพติด QE เอามากๆ ทุกคนtraceดูความสัมพันธ์ของQEกับS&P500 พบว่าเหมือนกับว่ามันสัมพันธ์กันมาก จนคิดไปว่าถ้าลดQEหรือหยุดQEเมื่อไหร่ ตลาดมันจะหยุดกระทิง

จริงๆแล้วตลาดหุ้นสัมพันธ์มากๆกับการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายปันผลของบริษัท นักลงทุนบางคนอาจจะไม่ได้สังเกตุหรือไม่รู้ ว่า บริษัทในS&P500ได้อัดฉีดเงินเข้าตลาดหุ้นมหาศาลขนาดไหน ตั้งแต่Q1/2009-Q2/2013 บริษัทในS&P500 ได้ซื้อหุ้นคืนไป $1.5 trillion และจ่ายปันผล $1.1 trillion
รูปภาพ

ใครจะคิดว่า QE ทําให้ตลาดหุ้นเมกามีperformanceแบบนี้ เป็นกระทิงแบบนี้ ก็แล้วแต่นะครับ ........

แต่ผมว่า performanceของบริษัทจดทะเบียน มันทําให้ตลาดหุ้นเมกาเป็นแบบนี้ครับ .....
ขอบคุณคุณแงซายสำหรับข้อมูลครับ

ผมว่าน่าจะแยกดูเป็น 2 เรื่องนะครับ

ประเด็นแรก QE ส่งผลต่อ "ผลประกอบการของบ." ในอเมริกาหรือไม่ ถ้าเป็นแบบที่คุณแงซายบอกก็ต้องเรียกได้ว่ามีผลครับ จะว่าไปก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหนึ่ง ทีนี้มันจะส่งผลต่อ "ผลประกอบการของบ." ในไทยหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ผมคิดว่าบ.ที่มีการส่งออกหรือมีการพึ่งพิงกับเศรษฐกิจโลกก็น่าจะได้รับอานิสงค์โดยตรง แต่ผลในลักษณะแบบนี้น่าจะเป็นแบบ "ระยะยาว" แบบค่อยเป็นค่อยไป

ประเด็นที่สอง เงินของ QE ส่งผลต่อ "ตลาดหุ้น" หรือไม่ ในส่วนของที่อเมริกา ผมเองก็ไม่ทราบว่ามันจะมีผลมากน้อยแค่ไหนนะครับ คงต้องให้คนที่รู้มาช่วยตอบ แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย ผมว่าคงยากที่จะปฏิเสธว่ามันไม่มีผล ตรงนี้ผมหมายถึงในแง่ของการ "เคลื่อนย้ายของเงิน" นะครับ เพราะอย่างที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าในรอบที่ผ่านมา ต่างชาติขายหนัก ตลาดลงหนัก เงินบาทอ่อนค่าลง ผมคิดว่าด้วยปริมาณเงินที่มากมายแบบนั้น ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีขนาดเล็ก ถึงแม้ว่าเงินส่วนใหญ่จะเข้ามาหากินกับดอกเบี้ยของตราสารหนี้ มีส่วนที่เข้ามาในตราสารทุนน้อยกว่า ผลกระทบมันก็เลยมีมากกว่าตลาดที่ใหญ่กว่า เพียงแต่ผลที่เกิดขึ้นผมคิดว่ามันน่าจะเป็นผลใน "ระยะสั้น" กว่าเมื่อเทียบกับแบบแรก ซึ่งสมมติถ้าเงินไหลออกไปหมด สุดท้ายแล้วราคาหุ้นก็ย่อมต้องเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของผลประกอบการของบ.จดทะเบียน เพียงแต่การเคลื่อนย้ายของเงินที่ "รุนแรง" นั้น มันก็ทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวรุนแรงเช่นกัน ทั้งในแง่ over value มาก ๆ ยามตลาดขึ้นแรง ๆ รวมถึงอาจจะ under value มาก ๆ ยามตลาดตกอย่างรุนแรงหรือเกิดภาวะ panic ครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 24, 2013 4:46 pm
โดย multipleceilings
micky1115 เขียน:
multipleceilings เขียน:อาจได้เห็นกระทู้ +70 จุด :B
อาจจะเป็น -70 จุดแทนก้ได้นะครับ

พอดีเลยครับพี่ micky สองวัน -70 จุด :mrgreen:

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 24, 2013 6:07 pm
โดย PLUSLOVE
multipleceilings เขียน:
micky1115 เขียน:
multipleceilings เขียน:อาจได้เห็นกระทู้ +70 จุด :B
อาจจะเป็น -70 จุดแทนก้ได้นะครับ
พอดีเลยครับพี่ micky สองวัน -70 จุด :mrgreen:
-70แล้ว หาอะไรที่พอจะช้อนได้หรือยังครับ คุณ multipleceiling

รูปที่ 13 น่าจะตอบคำถามเราได้นะครับ ว่า ต่อไปจะเป็นยังไง จาก13 มา14

แล้วจาก14 ไป ไม่ต้องพูดครับ คิดในใจกันไว้

ข่าวที่รับรู้ไปแล้ว ข่าวร้าย ลดQE เศรษฐกิจตกต่ำ ข่าวดี 2 ลล

ผมมองว่า กิจการอะไรที่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ยังไงเสียก้ต้องกินต้องใช้ QEลดไม่ลด

ก้ไม่ได้ทำให้คนไปเดินห้าง มากขึ้นหรือน้อยลง ไม่ได้ทำให้คนกินน้อยลงใช้ไฟหรือน้ำ

น้อยลง ตรงกันข้าม ถ้าราคาลดลงมากๆ ผมสะกดได้ถึงคำว่า โอกาศ ครับ

ในช่วงที่คิดว่า เอาไม่อยู่ทุกคนจะแห่หนีไปจากตลาด ของถูกและของห่วยๆก้จะลอยมา

ผสมๆกันไป เราก้เลือกตักเอาของดีๆเข้ามา ลดไม่ลดQE ยังไงกิจการเราก้ไม่เกี่ยว


สงครามกำลังจะจบ เราเตรียมบุกออกไปหลังจากฝึกซ้อมอาวุธจนร่างกายแข็งแรง

เลือกตีหัวเฉพาะ ของถูกๆเข้าบ้านครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 24, 2013 6:44 pm
โดย PLUSLOVE
14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 24, 2013 8:32 pm
โดย สิปาดัน
[quote="micky1115"]14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 5:26 am
โดย leky
โอ้ว วัฎจักรของรายย่อยอันลือลั่น ใครไม่เคยเป็นแบบนี้บ้างครับ ผมก็เคยเป็นนะครับ ดูเหมือนไม่น่าจะยากอะไรที่จะไม่เป็นแบบนั้น แต่เราก็อาจจะกำลังเป็นแบบนั้นไปแล้ว

ผมว่าช่วงนี้คนคงสับสนไม่น้อย ลงแรง ขึ้นแรง แล้วก็กลับมาลงแรงอีก

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 5:41 am
โดย leky
โอ้ว วัฎจักรของรายย่อยอันลือลั่น ใครไม่เคยเป็นแบบนี้บ้างครับ ผมก็เคยเป็นนะครับ ดูเหมือนไม่น่าจะยากอะไรที่จะไม่เป็นแบบนั้น แต่เราก็อาจจะกำลังเป็นแบบนั้นไปแล้ว

ผมว่าช่วงนี้คนคงสับสนไม่น้อย ลงแรง ขึ้นแรง แล้วก็กลับมาลงแรงอีก

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 7:34 am
โดย PLUSLOVE
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 7:51 am
โดย PLUSLOVE
ห่านป่ามักบินตามกันไปครับ อินโดนิิเซียบินก่อน ฟิลิปินส์ก้บินแล้ว อีกหน่อย ไทยก้จะบิน

อีกหน่อยเราอาจจะไม่ได้เห็น แม่น้ำแยลูอีก เพราะ เราอาจจะต้องไปเจอกันที่ ปักกิ่ง

ใน4-5ปี หลังปรับโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเราก้จะเหมือนญี่ปุ่นที่สมัยเริ่มมีรถไฟชิงกันเซ็นแรกๆ

ขนาดของเศรษฐกิจก้จะโตกว่า ใหญ่กว่า เดิมอีกหลายเท่า

แลก้คงต่อเนื่องยาวนานไปอีกหลายสิบปี และก้จะเข้าสู่ช่วงถดถอยแบบเดียวกับยุโรป

กว่าจะถึงตอนนั้น ทุกคนในเวปก้คงมั่งคั่งอย่างต่ำๆ 8หลัก+ ทุกคนครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 9:53 am
โดย leky
micky1115 เขียน:
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว

:cheers: :cheers: :cheers: เยี่ยมครับ ท่านกุนซือ

ขอเพียงแต่เราอย่าใช้อารมณ์ เห็นหุ้นขึ้นกลัวตกรถ เห็นหุ้นเพิ่งตกกระโจนเข้าไปรับเพราะมองว่ามันลงจากยอด ประเมินก่อนครับ ว่าราคาไหนคือ "ถูก" อย่าใช้ความรู้สึกครับ หุ้นหลายตัว ผมเคยรู้สึกว่ามันถูก แต่พอไปประเมินอย่างจริงจัง มันกลับไม่ใช่เลยครับ ซื้อหุ้นผิดแล้วต้องไปตามแก้ไข ยุ่งกว่าไม่ซื้อตั้งแต่แรกมากเลยครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 9:59 am
โดย leky
micky1115 เขียน:
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว

:cheers: :cheers: :cheers: เยี่ยมครับ ท่านกุนซือ

ขอเพียงแต่เราอย่าใช้อารมณ์ เห็นหุ้นขึ้นกลัวตกรถ เห็นหุ้นเพิ่งตกกระโจนเข้าไปรับเพราะมองว่ามันลงจากยอด ประเมินก่อนครับ ว่าราคาไหนคือ "ถูก" อย่าใช้ความรู้สึกครับ หุ้นหลายตัว ผมเคยรู้สึกว่ามันถูก แต่พอไปประเมินอย่างจริงจัง มันกลับไม่ใช่เลยครับ ซื้อหุ้นผิดแล้วต้องไปตามแก้ไข ยุ่งกว่าไม่ซื้อตั้งแต่แรกมากเลยครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 9:09 pm
โดย PLUSLOVE
ผมมองว่า คนไทยวันนี้รวยกว่า10ปีที่แล้ว 10ปีที่แล้วใครมีร้อยล้านถือว่าสุดๆ

แต่วันนี้ นักลงทุนร้อยล้านพันล้าน มีเกิดขึ้นมาเยอะมาก ความมั่งคั่งของเศรษฐีใหม่เกิดขึ้น

คนรวยในประเทศมากขึ้นกว่าเดิม ถามผมว่าการกินใช้จะไปทางไหน แน่นอน เค้าต้องกิน

ใช้มากขึ้นแน่นอน ดูเมืองจีนสิครับ สมัยก่อนมีแต่อะไร ไปถนนก็ลูกรัง ชนบท

ข้าวนี่ก้หม้อนึงกินยกครอบครัว กับข้าวก้อย่างสองอย่าง เสื้อผ้าก้ซอมซ่อ

เด๋วนี้ โรงแรมหรูๆ ถนนก้ดีลาดยาง ร้านอาหาร ร้านค้า ทุกอย่างเปลี่ยนไป

เมืองไทยก้เช่นกัน อีกหน่อยคุณไม่ได้เห็นหรอก เพราะความเจริญจะขยายตัวออกต่าง

จังหวัดมากขึ้น คนในภูธรจะมั่งคั่งมากขึ้น การกินใช้จะดีขึ้น GDPจะโตกว่าตอนนี้อีกมาก

แน่นอนดัชนี ตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน เราล้าหลังว่าอินโดนิเซียและฟิลิปินส์

ทั้งๆที่ศักยภาพเรา ดีกว่าเค้า เราเป็นเมืองศูนย์กลาง ของSA อีกหน่อยจะมีทั้งรถไฟความ

เร็วสูงวิ่งจาก กทมไปเชียงใหม่ไป มาเลย์ ไปลาว

ความมั่งคั่งกำลังจะเดินทางมา มันอาจเป็นภาพที่ดูเหมือนฝันกลางวันแต่เชื่อเถอะ

มันเกิดขึ้นจริงแน่ๆ

เช่นกัน ภาพใหญ่ๆในอีก5ปี+ ยังไงเสียเราก้เจริญขึ้น เส้นทางสู่ ปักกิ่งกำลังจะเริ่ม


ฝรั่งไม่เคยมองไปแค่ 1วัน 2ัวัน 1อาทิตย์ หรือ 1เดือน เค้ามองไปยาวๆว่า ประเทศไทยจะ

ไปทางไหน ถ้าอนาคตประเทศโตขึ้น ดัชนีไม่มีทางจะลดหรอกครับ

เรากำลังจะ้ก้าวไปสู่ถนนแห่งความมั่งคั่งอีกครั้ง หลังผ่านพายุลูกนี้ไป ขอเพียงมีสติ

เราจะรู้เองว่า เราต้องทำยังไง


ขอบคุณทุกท่านและกระทู้นี้ ก้คงเป็นกระทู้สุดท้ายในวันที่เซท -70 จุด เพราะกาลข้างหน้า

ปักกิ่ง รอเราอยู่ ผมเองได้เตรียมพร้อมประจันบานแล้ว ก้ได้แต่หวังว่า เราคงพบทุกท่าน

ที่ปักกิ่ง หนทางต่อจากนี้อีก5ปี ไม่ไกลเกินไป ความอดทนจะทำให้เราผ่านทุกอย่างไปได้

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและคอยตอบกระทู้ ขอให้โชคดีทุกท่านครับ

จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 25, 2013 9:17 pm
โดย สิปาดัน
leky เขียน:
micky1115 เขียน:
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว

:cheers: :cheers: :cheers: เยี่ยมครับ ท่านกุนซือ

ขอเพียงแต่เราอย่าใช้อารมณ์ เห็นหุ้นขึ้นกลัวตกรถ เห็นหุ้นเพิ่งตกกระโจนเข้าไปรับเพราะมองว่ามันลงจากยอด ประเมินก่อนครับ ว่าราคาไหนคือ "ถูก" อย่าใช้ความรู้สึกครับ หุ้นหลายตัว ผมเคยรู้สึกว่ามันถูก แต่พอไปประเมินอย่างจริงจัง มันกลับไม่ใช่เลยครับ ซื้อหุ้นผิดแล้วต้องไปตามแก้ไข ยุ่งกว่าไม่ซื้อตั้งแต่แรกมากเลยครับ
ขอบคุนมากกกกครับพี่ๆทั้งหลาย^_^ ผมโชคดีจิงๆเลยที่รู้จักเว็บไซด์นี้ :)

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 26, 2013 7:56 pm
โดย แมวตัวกลมๆ
ฝรั่งไม่เคยมองไปแค่ 1วัน 2ัวัน 1อาทิตย์ หรือ 1เดือน เค้ามองไปยาวๆว่า ประเทศไทยจะ

ไปทางไหน ถ้าอนาคตประเทศโตขึ้น ดัชนีไม่มีทางจะลดหรอกครับ

เรากำลังจะ้ก้าวไปสู่ถนนแห่งความมั่งคั่งอีกครั้ง หลังผ่านพายุลูกนี้ไป ขอเพียงมีสติ

เราจะรู้เองว่า เราต้องทำยังไง
อ่านแล้วเคลิ้มเลยค่ะ :D

เพียงแต่เราต้องไม่ลืมว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ก็ไม่ได้กระทบกิจการของหุ้นหลายๆตัวในตลาด
แต่ก็มีส่วนลดให้เราอย่างไม่คาดคิดนะคะ
แล้วดูเหมือนว่า อเมริกาเองก็ยังมีวิกฤตหนี้สาธารณะก้อนเบ้อเริ่มรออยู่

แต่ส่วนตัวก็คิดเหมือนกันว่า ถ้า 4-5 ปีนี้ อเมริกา ยุโรปประคองตัวไว้ได้ เราคงได้เห็นปักกิ่ง

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 06, 2013 11:01 pm
โดย bestberry
micky1115 เขียน:
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 06, 2013 11:05 pm
โดย bestberry
micky1115 เขียน:
spluzifer เขียน:
micky1115 เขียน:14 เห็นมั้ยละบอกแล้ว

หลายคนกลัวว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี จะพังหุ้นจะตกมากกว่านี้ ตุ๊กแกทักก้กังวล ท้องผูกก้กังวล

สรุป ทุกคนกำลังกังวล ตอนนี้ตัว Y Y Y Y หายไปไหน ผมเห็นแต่ตัว N N N N

เวลาที่คนอยากออกจากตลาด หลายคนหลายกระทู้ในพันทิป ไม่ค่อยสนใจหุ้นแล้ว

งั้น หาหุ้นดีๆ ที่ลดราคากันเถอะครับ ลดQEแล้ว กิจการเราจะพังหรือ ปล่าวเลย

ทุกคนคิดไปเอง ข่าวร้ายก้ยิ่งกัดกร่อนความเป็นVIในตัวเราให้รู้สึกท้อแท้ และอยากจะปาๆ

หุ้นออกไปเพราะกลัวจะลง ทั้งๆที่กิจการเราบางทีก้ไม่ได้กระทบเลย

ดังนั้น มันคือโอกาศ ในการตั้งรอคนที่จะหนีทัพ โยนซ้ายออกมาทุกราคา


ในการมองหาบริษัทที่จะซื้อ เราได้ประยุกต์ใช้แนวความคิดเดียวกับการที่คนคนหนึ่งมองหาคู่

ชีวิตนั้นคือจะต้องกระตือรือร้น น่าสนใจ และใจกว้าง แต่ที่แตกต่างคือ เราจะไม่ทำด้วยความ

รีบร้อน

วอเรนท์ บัฟเฟต[/quote

ทำไมท่านกุนซือถึงมองว่าเป็นจุดที่ 14 ละครับ
เพราะตลาดมีประสิทธิภาพครับ สิ่งที่เห็นในวันนี้ ตลาดตอบรับตั้งแต่ 1650แล้วครับ

เรื่องลด QEเอย soft landing เอย นักลงทุนในระยะกลางๆมองเห็นและเริ่มทยอยลด

พอรท์เพื่อกลับมาซื้อกันตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ราคากับพื้นฐานตอนนี้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก

ซือแป๋ผมเคยบอกว่า หุ้นมักจะลงก่อน ข่าวถึงค่อยตามมา ดังนั้นยามที่หุ้นลงไปรับข่าวแล้ว

downside riskจะต่ำกว่า upside และเวลาที่คนกลัวที่สุด นั่นแหล่ะ คือเวลาที่เราต้อง

ออกทำงานหาหุ้น เพราะคนเหล่านั้นจะไม่สนใจว่า กิจการคืออะไร แล้วกระทบไม่กระทบ

คลื่นแห่งอารมณ์จะเข้าครอบงำจิตใจ ให้สั่งสมองว่า ต้องขายๆๆ มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

เมื่อข่าวร้ายมามากๆขึ้น สุดท้ายเราก้จะ กลัว ครับ ตอนนี้ผมก้เห็นแต่ข่าวที่ไม่ดี และคน

ส่วนมากก้เอาอารมณ์มานำเหตุผล เอาความกลัวเข้ามาในจิตใจ

ผมเชื่อปู่บัฟเฟต และท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ กิจการที่มันไม่กระทบนี่ ลดราคามาถือเป็น

โอกาศในการลงทุนครับ เราไม่ได้มั่งคั่งแค่ใน1วันหรือ 1เดือน แต่ความมั่งคั่งจะมาเมื่อเรา

ซื้อหุ้นที่ดี ตั้งแต่ในราคาที่ยังถูก มันเหมือนการปลูกต้นไม้ กิจการที่ดี จะมีเวลาเป็นเครื่อง

พิสูจน์มันว่า มันจะเป็นไม้ใหญ่ หรือจะเป็นผักชี เราคงไม่มีไอเท็มวิเศษที่เร่งโต แบบในเกม

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ต้องมองกิจการได้ขาด และซื้อมัน

และถือมันไว้ จนถึงวันที่มันเป็นไม้ใหญ่



ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ

จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้นจงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับ

คุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร

บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไร

เท่านั้นที่ขาดทุน” วอเรนท์ บัฟเฟต

ให้พวกเรานึกถึง ของที่อยากได้ตอนราคาแพงๆไว้ นี่แหล่ะเค้ากำลังจะลดราคา คุณจะหนี

ในช่วงเค้ากำลังจะลดราคาลงมา??? ของถูกซื้อแล้วดื่มวีต้าแล้วก้ไปนอนซะ จบข่าว
ตามที่ท่านได้กล่าวมา เรื่องราว และเหตุการณ์ ต่างๆนาๆ พอนึกย้อนกลับไป มันชัดมากครับท่าน

ขออภัยครับ ตะกี้ ด้านบน โพสพลาดไป ครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 04, 2013 1:01 pm
โดย KittipongS
ครึ่งเช้าวันนี้ลากกันลงมาถึง 32 จุดแล้ว เกือบครึ่งของ 70 จุดแล้วครับ :B :B :B

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 06, 2013 9:41 pm
โดย kongkiti
ฝรั่งจัดหนัก!!

Thailand's Bubble Economy Is Heading For A 1997-Style Crash
http://www.forbes.com/sites/jessecolomb ... e-crash/1/

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 07, 2013 5:31 pm
โดย kongkiti
Banyong Pongpanich
1 hour ago
เราจะเจอวิกฤติเศรษฐกิจ แบบเดียวกับปี 2540 กันอีกไหม? ....(7 พย. 2556)

Jesse Colombo เขียนบทความลงใน Forbes ชื่อว่า Thailand's Bubble Economy Is Heading For A 1997-Style Crash อาจารย์ Sivabudh จากวิศวะ จุฬาฯ ถามว่าผมมีความเห็นอย่างไร

ผมเห็นด้วยว่า เศรษฐกิจไทยในเวลานี้ มีความอ่อนแอ มีปัจจัยน่าห่วงหลายอย่าง ซึ่งปัจจัยทั้งหลายที่อยู่ใน articleนี้ ก็ตรงกับที่ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ได้เคยวิเคราะห์มาตลอด เช่น หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นค่อนข้างมาก การส่งออกที่ไม่เพิ่ม การขาดดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัด กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ฯลฯ

แต่ขอฟันธงไปเลยว่า...จะไม่มีวิกฤติร้ายแรงทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน อย่างปี 2540 ...ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของวิกฤติ หรือระดับความรุนแรง

ขอท้าวความสั้นๆถึงลักษณะ และสาเหตุของ "วิกฤติต้มยำกุ้ง" ปี1997 (ซึ่งตอนนั้นคุณJesse เพิ่งมีอายุ 12 ขวบเอง ไม่แน่ใจว่าท่านรู้ละเอียดหรือเปล่า) ซึ่งชัดเจนว่าเป็นวิกฤติที่เกิดในภาคเอกชน (Corporate Crises) จากการลงทุนเกินตัว โดยใช้แหล่งเงินที่ผิดพลาด ใช้เงินกู้ต่างประเทศระยะสั้น (เกือบแสนล้านเหรียญ..พอๆกับGDPตอนนั้น) มาลงทุนในNontradable Sectors จำนวนมหาศาล เมื่อผลผลิตไม่ออก อุปสงค์ไม่มีจริง ก็เลยมีสถานะ Insolevence (คือเจ๊งน่ะครับ) ไปทั่ว พอเขาเรียกเงินคืน ธปท.ซึ่งทำหน้าที่คำ้ประกันค่าเงิน ในระบบ Fixed Exchange Rate ก็เลยหมดตัว เงินตราสำรองหมดเก๊ะ ต้องปล่อยค่าเงินลอยตัว ค่าเงินบาทลดลงเหลือครึ่ง สถาบันการเงินทั้งธนาคาร ทั้งบริษัทเงินทุน ที่ปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนก็เลยล้มตามๆกันเกือบหมด นั่นคือประสพการณ์คราวก่อน

มาปัจจุบัน ที่จะเกิดวิกฤติค่าเงิน ไม่น่าเป็นไปได้ เรามีเงินทุนสำรองสูงถึง 170,000 ล้านเหรียญ ขณะที่มีหนี้ระยะสั้นต่างประเทศแค่ไม่เกิน 60,000ล้านเหรียญ เงินลงทุนในพันธบัตร ของตปท.ก็มีแค่ 25,000ล้าน เงินในตลาดหุ้นที่พอจะไหลออกได้ก็ไม่เกิน 10,000ล้าน เพราะฉะนั้น ถึงจะขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดบ้าง ก็ยังมีกันชนอีกเยอะ ไม่เหมือนอินเดีย กับ อินโดนีเชีย ที่แทบไม่มีกันชน ขอเพียงว่า อย่าได้มายุ่ง มาเอาเงินสำรองนี้ไปตั้งกองทุน ไปทำอะไร อย่างที่รัฐแย้มๆออกมาก็แล้วกัน (ถ้าขืนทำ ผมจะชวนเพื่อนๆไปช่วยเป่านกหวีดอีกนะครับ)

สถานะของสถาบันการเงิน ก็แข็งแกร่งอย่างมาก เงินกองทุนสูง สำรองตั้งไว้เกิน NPLsที่ยังอยู่ในระดับตำ่ ถึงจะเพิ่มขึ้นได้ ถ้าศก.ชะลอตัว แต่ก็จะไม่ทำให้ถึงกับเจ๊งได้ อย่างมากก็แค่กำไรหด

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ โดยเฉพาะรายใหญ่ ก็มีงบดุลที่เข้มแข็ง ระดับหนี้ตำ่ มีเงินสดสำรองกันค่อนข้างมาก (ก็หงอ ไม่ค่อยกล้าลงทุนกันมาพักใหญ่แล้วนี่ครับ)

ที่น่าห่วงหน่อยก็มีแต่ภาครัฐ ที่ถึงแม้ระดับหนี้สาธารณะที่เป็นทางการจะดูตำ่มาก แต่มีหนี้แอบซ่อน รวมทั้งภาระแฝงต่างๆ เช่น ภาระที่จะเกิดจากโครงการมหาอัจฉริยะ"จำนำข้าว" ภาระจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ฯลฯ รวมกับที่มีโครงการจะลงทุนขนานใหญ่ กับต้องเร่งประชานิยมอีกเยอะ เพื่อชดเชยคะแนนเสียงที่หายไปกับเรื่อง"เหมาเข่ง" อาจทำให้หนี้บานอีกเยอะ แต่จะสูงจนเกิดวิกฤติได้ คงต้องเหลวไหลไปเช่นนี้อีกไม่ตำ่กว่าห้าปี ไม่ล้นคอออกมาในเร็ววัน

สรุป ผมมีความเห็นว่า เราจะไม่มีวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่มีวิกฤติการเงินแบบ ต้มยำกุ้ง ส้มตำปู นอกจากจะเกิดวิกฤติการเมือง เกิดความรุนแรง เกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งถ้าอย่างนั้น ก็คงจะหายนะหนัก

อย่างมาก ศก.ก็คงจะแค่ชะงัก การเติบโตตำ่ หรือไม่โต อาจจะมี Mild Recession ในระยะสั้นๆ ผมค่อนข้างเชื่อว่า ถ้าไม่มีการปรับโครงสร้าง ที่เน้นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน มุ่งเพิ่ม "ผลิตภาพ"(Productivity)กันอย่างจริงจัง เศรษฐกิจไทย คงเติบโตในระดับค่อนข้างตำ่ เทียบกับพวก Emerging Economy ด้วยกัน ซึมๆเซาๆไปอย่างนี้

การโตช้าหรือไม่โต ในที่สุดก็จะทำให้ปัญหาความเหลื่อมลำ้สูงขึ้น หรือปะทุเป็นปัญหาการเมือง (เพราะพวกชั้นบน พวกคนรวย พวกการศึกษาดี พวกนักกินนักโกง ไม่ยอมไม่โตนี่ครับ พวกนี้จะเบียดบังคนขาดโอกาสหนักขึ้นอีก) ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ผมคิดว่า น่าเป็นห่วงที่สุดครับ

หมายเหตุ: อ่านบทความได้ที่ forbes.com

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 12:00 pm
โดย xsutt
วันนี้จะลงมาแข่งกับ -70 มั้ย

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 6:40 pm
โดย cyberman
-67.94 เกือบๆ 70 จุดครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 6:54 pm
โดย kongkiti
จำได้ว่า วันแรกที่พี่ leky โพสก็ไม่ได้ลบ 70 จุดนิครับ
วันนี้น่าจะลบเยอะสุดในรอบหลายปี...

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 7:19 pm
โดย luz666
ปี 2013 ทั้งปี SET -7.05%
วันแรกของปี 2014 SET -5.23%

Cr. เพจ ปันหุ้น ครับ

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 7:36 pm
โดย amornkowa
กำไรปีที่แล้วห้าเปอร์เซ็นต์ วันนี้เท่าทุนเลย

Re: ในวันที่ SET - 70 จุด

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 02, 2014 9:34 pm
โดย vim
กระทู้นี้ใช้ได้ข้ามปีเลยครับ :B