Thai VI

ขอบคุณพี่หน่องครับ
เห็นด้วยกับพี่ๆครับว่าการลงทุนวัดกันที่ระยะยาว การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ
เป็นดังที่พี่Skyforeverบอกครับ
ความมั่นใจในหุ้นตัวแรกมากกว่าตัวที่2-3มากๆ
ลงทุนสองตัวพร้อมกันแล้วไม่สบายใจเท่าตัวเดียว
อีกทั้งเรี่องสภาพคล่องยังไม่เป็นปัญหากับผมในช่วงนี้ครับ
ปัจจุบัน wที่ผมถือนั้นสามารถโยนทั้งพอร์ตได้โดยกระทบราคาแค่2-3ช่องในวันที่ราคาพักฐาน คิดเป็น1/6ของปริมาณการเทรดทั้งวัน
หากเป็นวันที่มีการไล่ราคา โยนทั้งพอร์ตก็ไม่กระทบ
อนาคตพอร์ตใหญ่ขึ้นก็อาจมีปัญหาได้

สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ ผมเคยเข้ามาอ่านในกระทู้นี้หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้โพสในนี้เลย ผมตั้งใจไว้ว่าถ้าสามารถมาถึงล้านแรกได้เมื่อไหร่ ผมจะเข้ามาโพสในกระทู้นี้ของพี่Skyforever เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับล้านถัดๆไป วันนี้ผมมาถึง 1 ล้านบาทแรกในชีวิตได้แล้วครับ

ผมเริ่มลงทุนได้ประมาณปลายปี2555 แต่เริ่มตัดสินใจเดินมาในแนวทางVIก็1ปีหลังจากนั้น ผ่านมา4ปีถึงได้สัมผัสล้านแรกในชีวิต เดือนมีนาคมปีหน้านี้ผมก็จะเป็นพ่อคนแล้ว ความตั้งใจที่จะไปถึงล้านถัดๆไปก็เพิ่มมากขึ้นตามเช่นกันครับ ขอร่วมเป็นสมาชิกในกระทู้นี้อีกคนนะครับ

4 ปีเต็มพอดีครับ ในการสะสมเงินลงทุน จากการทำงานประจำ
รวมUnrealized Profit แล้ว แตะ 1 ล้านบาทแรกแล้ว
จากการเริ่มต้นในกองทุนทองโดยไม่มีความรู้ใดๆ และเริ่มขยับมาเป็นกองทุนเน้นปันผล
เนื่องจากช่วงต้นปี56 ดัชนีขยับตัวขึ้นมาก จึงลงทุนโดยไม่มีความรู้มากนัก
จากนั้นมาลงที่หุ้นที่เน้นปันผลแทนโดยดูพื้นฐานกิจการเป็นหลัก เน้นที่กิจการสาธารณูปโภค
และปัจจุบันดู DCA ของกิจการ และTrendของธุรกิจต่างๆ รวมถึงการสังเกตุพฤติกรรมของผู้บริโภคในภาพรวม

ต้องขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ ThaiVI ด้วยครับ

เป็นแบบอย่างที่ดีครับ ลงทุนโดยไม่หวังรวยเร็ว ไม่คาดหวังผลเกินความรู้ที่มี
และเพิ่มพูนทักษะและความรู้ไปเรื่อยๆจนพอร์ตเติบโตได้ สะสมไปเรื่อยๆสักวันพอร์ตก็ใหญ่ขึ้นอีก เป็นกำลังใจให้ครับ

ยินดีด้วยครับ ผมจะครึ่งทางแล้ว
ปีนี้จะรีบตามไปนะครับ

สวัสดีครับ เพื่อน ๆ ทุกท่าน

ผมลงทุนมา 7 ปีเต็มสำหรับภาคสนาม เงินลงทุนเริ่มแรก 5 พันบาท ไปเปิดบัญชีโบรคส่วนใหญ่จะเบ๊ปาก บอกไปเล่นทางโน้นไป๊ -*- จนได้เปิดบัญชีสมใจกับโบรคเล็ก ๆ แห่งนึง (แต่ตอนนี้ไม่ได้เทรดกับโบรคดังกล่าวแล้วน่ะคับ) ไม่รวม 3 ปีที่อยู่ขอบสนามอ่านหนังสือสะสมความรู้ จนปีที่ผ่านมา Port เลย 7 หลักได้สำเร็จ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนของแท้ เป็นพนักงานเอกชนธรรมดา ที่เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่อาศัยประหยัด อดออม ไม่ดื่ม ไม่เที่ยว ไม่ซื้อบ้าน แต่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์ อาศัยอยู่กับพ่อแม่

ออกนอกเรื่องซะนาน ผมมีข้อคิดจะฝากถึง นักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังจะเดินทางสาย ลงทุน ดังนี้คับ

1. อ่านให้มาก คิดให้มาก ค่าหนังสือ ความรู้อย่าไปเสียดาย ขาดทุนหุ้นทีแพงกว่า ค่าหนังสือหลายเท่านัก ช่วงลงทุนแรก ๆ อย่างไปสนใจกำไรขาดทุนมาก (มีผลน้อย เพราะเม็ดเงินน้อย เพราะ port ยังเล็ก) มุ่งหาประสบการณ์ สไตล์การลงทุน ผิดเยอะ ๆ จะได้จำ จะได้ไม่ล้มตอน port ใหญ่

2. การไปฟังแนวคิด จากคนเก่งกว่าจะช่วยย่นระยะเวลาในการศึกษาเราได้มาก และเปิดมุมมองใหม่ ๆ ดังนั้นถ้ามีโอกาสอย่าได้ลังเล และเสียดาย

3. ฟังแล้วต้องคิดตาม อย่าเชื่อทันทีที่ได้ยิน ได้ฟัง ถึงแม้จะมาจากปากคนที่เรานับถือ เซียน ท่านใดก็ตาม จนกว่าเราจะได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพราะเซียนก็อาจจะผิดได้ (ต่อให้เป็นพระเจ้ามาพูด ผมก็ต้องขอคิดดูก่อน)

4. ไม่ว่ามั่นใจแค่ไหน เราก็ไม่ควรใส่เงินทั้งหมดของเราไว้ในหุ้นแค่ตัวเดียว ต้องกระจายการลงทุน เพราะในความเป็นจริง มักมีเรื่องคาดไม่ถึงเสมอ แล้วเรื่องที่คาดไม่ถึงนี่แหล่ะจะทำให้ เราเสียหายยับเยิน ( ผมเคยลงทุนในหุ้นสื่อสารตัวนึง สภาพแวดล้อมทุกอย่างดีหมด แต่เพราะการเข้าไปร่วมวงไพบูลย์ license คลื่นช่วงนึง ทำให้ภาพกิจการเปลี่ยนไปทันที และมีผลต่อผลประกอบการที่เราพอจะมองออก และตามมาด้วยการลดลงของราคาหุ้นอย่างมหาศาล ยาวนานหลังประมูลได้ และแน่นอนผมคัทไปที่จุดเกือบต่ำสุด T^T จากนั้นก็ขึ้นยาว)

5. การมี idol ในการลงทุนนั้นดี แต่เราต้องมองให้ออกว่า วิธีการ หลักการที่เค้าใช้มันเสี่ยงมากเกินไป เหมาะกับเราหรือไม่ บางท่านอาจจะมีผลตอบแทนน่าประทับใจ เพราะไปอัดที่หุ้นตัวเดียว แล้วถูกต้อง หุ้นเติบโตเป็นเด้ง ๆ แต่ถ้ากลับกัน เค้าคงไม่ได้มายืนพูดหรือให้ความรู้ เพราะ คนตายไม่ได้พูด

ุ6. อย่าไปเที่ยวเปรียบเทียบผลตอบแทน ตัวเองกับ ชาวบ้าน เด็ดขาด เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์การลงทุนต่างกัน นอกจากนั้นยังทำให้เรา เขว ออกจากการลงทุนที่มีเหตุผล และคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

7. ถ้าชอบเทรดหุ้นซิ่ง ต้องชิ่ง ให้ทัน / อย่าเก็บวัชพืชไว้ เพียงเพราะหวังว่ามันจะมีดอกไม้งอกขึ้นมา วัชพืชก็คือ วัชพืช ยอมรับแล้วก็เด็ดทิ้งไปซ่ะ

8. การเร่งผลตอบแทนโดย การใช้มาร์จิ้นมาก ๆ ใช้อนุพันธ์ ก็เหมือนการขับรถบนถนน ที่ความเร็ว 120 อยู่ตลอดเวลา คุณอาจจะรอดมาพักใหญ่ แต่เชื่อเหอะถ้ายังขับแบบเดิมอยู่ สักวัน รถคว่ำแน่นอน (การลงทุนน่ะคับไม่ใช่แข่ง F1)

9. จงมีความคิดอิสระ และตัดสินจากข้อเท็จจริงเท่านั้น คนอื่น เห็นไม่เหมือนเรา ไม่ได้แสดงว่าเราคิดผิด

10. ทักษะการเลือกหุ้นสำคัญ แต่การบริหาร port สำคัญกว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือ การบริหารใจเราเอง

11. บางครั้งการอยู่เฉย ๆ ก็ทำให้ผลตอบแทนเราดีขึ้น อย่างคาดไม่ถึง !!!

12. จงต้องเป้าหมายให้ชัดเจน มีกำหนดเวลาแน่นอน และประกาศให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้ จะได้ช่วยพลักดันให้เรา ไปยังจุดที่ต้องการให้ได้ (ปากดีไปล่ะ ทำไม่ได้เสียหมาน่ะเออ ๆๆๆ )

ขอบคุณสังคมแห่งการเรียนรู้ และแบ่งปัน ณ web แห่งนี้ครับ ^^

เมื่อวานได้คุยกับน้องสะใภ้
เริ่มจากต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกแฝด 2 คน
เมื่อประมาณ10 ปีก่อน จึงได้ขายรถที่ตนเองใช้ขับไปทำงานได้เงิน
มา 2 แสน ก็เริ่มลงทุนในหุ้นเป็นต้นมา ในระหว่างทางก็เติมเงินลงไปบ้าง
(แต่ไม่ทราบว่าเท่าไร) หลักการของเขาคือ ต้องไม่หวั่นไหวกับการเหวี่ยง
ของราคา ต้องคิดเสมอว่าเมื่อราคาหุ้นตก บริษัทนั้นพิ้นฐานเปลี่ยนหรือเปล่า
ถ้าไม่เปลี่ยนก็ถือต่อและอาจซื้อเพิ่ม
10ปีผ่านไป port ของเธอทะลุ 8 หลักไปแล้ว

Radio เขียน:เมื่อวานได้คุยกับน้องสะใภ้
เริ่มจากต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกแฝด 2 คน
เมื่อประมาณ10 ปีก่อน จึงได้ขายรถที่ตนเองใช้ขับไปทำงานได้เงิน
มา 2 แสน ก็เริ่มลงทุนในหุ้นเป็นต้นมา ในระหว่างทางก็เติมเงินลงไปบ้าง
(แต่ไม่ทราบว่าเท่าไร) หลักการของเขาคือ ต้องไม่หวั่นไหวกับการเหวี่ยง
ของราคา ต้องคิดเสมอว่าเมื่อราคาหุ้นตก บริษัทนั้นพิ้นฐานเปลี่ยนหรือเปล่า
ถ้าไม่เปลี่ยนก็ถือต่อและอาจซื้อเพิ่ม
10ปีผ่านไป port ของเธอทะลุ 8 หลักไปแล้ว

จริงๆแล้วพื้นฐานของวีไอ มันก็มีแค่นี้ไม่ใช่เหรอครับ

ขอบคุณ skyforever ที่จุดประการวิธีคิดครับ ได้เวลาเริ่มใหม่ คิดใหม่ ทำใหม่ครับ

ถึงซะที

ถึงซะที
ถึงช้ากว่าที่คาดหวังไปสามปีกว่า
ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดทาง
แต่ก็มาถึงจนได้ครับ รอไปที่หลักต่อไป หวังว่าจะเร็วขึ้น