VI บ้าน ๆ

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 511

โพสต์

thitaphat168 เขียน:สอบถามเรื่องประกันหน่อยครับ
พี่ก็รู้กว้างๆ นะคะ ไม่ละเอียดมาก แต่จะตอบเท่าที่พอจะตอบได้
ทั้งนี้ จะให้แม่นยำควรถามจากตัวแทนประกันเพิ่มเติมด้วยนะคะ
thitaphat168 เขียน:พอดีพี่สาวผมเคยทำประกันไว้ เห็นเขาว่าส่งเบี้ย 18ปี ระหว่างนั้นมีการเครมมดลูก
ระหว่างนั้นก็ได้เบี้ยคืนเป็นก้อนบ้าง ทีนี้พอครบ18ปี ที่บริษัทประกันจะให้ต่อประกัน ปรากฎในสัญญาเขาไม่รับประกันในส่วนของมดลูกที่เคยเครม สรุปพี่สาวเลยไม่ทำประกันต่อ และเสียความรู้สึกกับการทำประกันไปเลย
เป็นธรรมดาเลยค่ะ บางคนบริษัทไม่รับโรคบางโรคตั้งแต่ขอซื้อกรมธรรม์ฉบับแรกเลยก็มีค่ะ
ทั้งนี้เพราะ
-ลูกค้าอย่างเราทำประกันเพื่อบริหารความเสี่ยง
-บริษัทประกันบริหารความเสี่ยงด้วยการเลือกปฏิเสธโรคที่ลูกค้าอาจเคลมซ้ำๆ เช่นกันค่ะ

กรณีทำประกันครั้งแรกเค้าจะมีใบมาให้กรอกเรื่องประวัติการเจ็บป่วย
โดยมีคำเตือนประมาณว่าห้ามโกหกนะถ้าบอกไม่หมดออกกรมธรรม์
มาแล้วเค้าก็มีสิทธิ์ยกเลิก และถ้ามีประวัติเจ็บป่วยบางโรคบ่อยอาจ
ถูกตัดสิทธิตั้งแต่กรมธรรม์ฉบับแรกเลย....ซึ่งผู้จะซื้อก็สามารถปฏิเสธที่จะไม่ทำได้ในตอนนั้น

กรณีพี่สาวของน้อง thitaphat168 ยิ่งชัดเจนเลยประวัติการรักษา
และการเคลมประกันทราบทั้งหมด และเค้ามีสิทธิปฏิเสธด้วยเหตุผลที่พี่บอกไปค่ะ

อาจต้องลองแบบนี้นะคะ
- ขอซื้อฉบับใหม่กับบริษัทอื่นแต่ต้องเว้นระยะเวลานานมาก เพราะบริษัท
ประกันมักสนใจประวัติสุขภาพ 2-3 ปีก่อนหน้า แต่ต้องกรอกตามจริงนะคะ
เค้ามีสิทธิบอกเลิกถ้าค้นประวัติพบ

ถ้าบริษัทใหม่ก็ปฏิเสธโรคเกี่ยวกับมดลูกนั้นอีก ก็อาจต้องทำใจยอมรับ
และลองพิจารณาด้วยกรอบความคิดใหม่ ดังนี้ค่ะ
-ตัดออกแล้วที่เหลือคิดว่าคุ้มหรือไม่ อาจพิจารณาจากประวัติการเจ็บป่วย
ในครอบครัวของเราเองว่า มีโรคทางกรรมพันธุ์หรือไม่ เช่น เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจ ถ้ามีพี่สาวก็มีความเสี่ยง
-ผลการตรวจสุขภาพที่ผ่านมาเคยมีไขมันในเลือดสูงบางปีหรือไม่
ถ้ามีก็มีแนวโน้มที่จะมีมากขึ้นเมื่อสูงวัย
ฯลฯ
แล้วลองคิดดูว่ายอมตัดเรื่องมดลูกออกแต่โรคอื่นๆ (โดยเฉพาะโรคเรื้อรังอื่นๆ)
ยังได้รับความคุ้มครอง คิดว่าคุ้มหรือไม่ ทำนองนี้ค่ะ
พี่สาวประกันสุขภาพอื่นๆ อีกหรือไม่เช่น สิทธิราชการ
ฯลฯ

ถ้ากรณีของพี่สาวทำประกันแบบตลอดชีพไว้แต่ต้นพอครบสัญญาแล้ว
สามารถซื้อประกันสุขภาพต่อได้นานถึง 80 ปี โดยแม้จะป่วยด้วยโรคแบบที่เล่ามา
บริษัทก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธเพราะกรมธรรม์ของประกันตลอดชีพคุ้มครองไว้แล้ว
แม้จะเลิกจ่ายเบี้ยหลักไปแล้ว
แต่เพราะไม่ใช่แบบตลอดชีพ เลยต้องซื้อประกันฉบับใหม่
ถ้าป่วยและเคลมบ่อยก็มักจะพบปัญหาแบบที่พี่สาวของน้องค่ะ

และนี่คือความโดดเด่นของประกันแบบตลอดชีพ (ต้องจ่ายเบี้ยประกันหลัก 20 ปี)

แต่ล่าสุดที่บอกว่าเป็นข่าวดีที่มีประกันแบบสะสมทรัพย์ ที่ส่งเบี้ยหลักแค่ 10 ปี
แต่ซื้อประกันสุขภาพได้ถึง 80 ปี เพราะตัดความเสี่ยงที่จะต้องถูกปฏิเสธประกันสุขภาพ
แบบที่พี่สาวของน้องเจอไปเลย เพราะกรมธรรม์คุ้มครองการซื้อประกันสุขภาพได้ยาวถึง 80 ปี
thitaphat168 เขียน:ผมไม่เคยมีประกัน แต่มีความสนใจอยากจะทำ
- เห็นพี่คุยเรื่อง ประกันแบบตลอดชีพ ที่ส่งเบี้ย10ปี แล้วสามารถซื้อประกันสุขภาพไพ้จนถึง80ปี ตัวนี่จะมีข้อจำกัดในเรื่องการเครมแบบในกรณีพี่สาวผมไหมครับ

-ตอนนี่ผมอายุ29ปี อาชีพค้าขาย มีออมไว้ในหุ้น รักษาสุขภาพ ต้องการวางแผนในเรื่องการทำประกันสุขภาพ ให้วงเงินรักษาค่อนข้างครอบคลุมค่ารักษา ทั้งในอนาคต5-10 ปี และในยามเกษียร
ควรเลือกกรมธรรม แบบไหนยังไงดีครับ รบกวนพี่ช่วยไกด์ลาย ด้วยครับ
คำตอบทีตอบด้านบนอาจพอเป็นแนวทางได้บ้างแล้ว

แต่ขอย้ำว่าเป็นแบบออกมาใหม่พี่เองยังไม่เห็นรายละเอียดเพียงแต่เป็น
แบบที่พี่เคยบอกตัวแทนของพี่ไว้ว่าอยากได้แบบนี้ พอออกมาใหม่
และตอบโจทย์ที่พี่เคยบอกไว้เค้าเลยรีบโทรมาแจ้งค่ะ
thitaphat168 เขียน:ขอบคุณบทความต่างๆของพี่ที่ช่วยกระตุ้นต่อมการเรียนรู้ของผมครับ
ยินดีค่ะ...อาจเพราะ น้อง thitaphat168 มีความขยันและไฝ่รู้เป็นฐานอยู่แล้ว
ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ...จึงสะดุดและอยากหาข้อมูลต่อค่ะ ^_*

ทั้งนี้ ข้อมูลเรื่องประกันเป็นข้อมูลเฉพาะทาง แม้เราจะหาข้อมูลเบื้องต้นไว้ดีแล้ว
ก็ยังต้องถามจากตัวแทน และอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด เพราะมีบางกรณีตัวแทน
อาจลืมบอกบางอย่าง และถ้าอ่านแล้วไม่ตอบโจทย์ก็สามารขอยกเลิกกรรมธรรม์
และได้เงินคืนเท่านที่จ่ายไป - 500 บาท (ภายใน 15 วัน หลังวันที่ลงชื่อรับกรมธรรม์)
ตามที่พี่เคยเขียนไปค่ะ....ขอให้เลือกได้ตอบโจทย์นะคะ :wink:
thitaphat168
Verified User
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 512

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
เดี๋ยวคงไปหาตัวแทนเพื่อปรึกษา

ขอถามอีกนิดเดียวครับ
-ประกันแบบนี่ เวลาไปบอกความต้องการกับตัวแทน ต้องบอกว่ายังไงอ่ะครับ
-แล้วเบี้ยประกันสุขภาพสามารถซื้อเพิ่มoptionภายหลังได้ไหม หรือควรซื้อให้ดีๆไปเลย
-แบบเก่าส่งเบี้ย20ปี แบบใหม่เหลือ10ปี มีสิทธอะไรที่หายไปไหมครับ

ขอบคุณมากๆครับ ^^
Nutth147
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 513

โพสต์

แวะมาแปะครับ เพื่อนสนใจพาลูกหลานไปครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 514

โพสต์

Nutth147 เขียน:แวะมาแปะครับ เพื่อนสนใจพาลูกหลานไปครับ
ขอบคุณมากค่ะน้อง Nutth147
พี่เคยไปหนังสือภาษา ENG เยอะค่ะ...ราคาถูกจริงๆ

ใครจะไปเตรียมน้ำดื่มและร่มไปด้วยนะคะ
ระหว่างรอขึ้นคิวยาวมากๆ เลยออกมานอกเตนท์ค่ะ

มีหลายคนบ่นว่า "ไม่เห็นดีเลย...มีแต่หนังสือภาษาอังกฤษ"
จริงๆ ก็มีหนังสือภาษาไทยด้วยค่ะ...แต่น้อยกว่า ENG

สงสัยเพราะร้อนแดดด้วยเลยหงุดหงิดกัน ^_*
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 515

โพสต์

thitaphat168 เขียน:ขอบคุณมากครับ
เดี๋ยวคงไปหาตัวแทนเพื่อปรึกษา

ขอถามอีกนิดเดียวครับ
-ประกันแบบนี่ เวลาไปบอกความต้องการกับตัวแทน ต้องบอกว่ายังไงอ่ะครับ
-แล้วเบี้ยประกันสุขภาพสามารถซื้อเพิ่มoptionภายหลังได้ไหม หรือควรซื้อให้ดีๆไปเลย
-แบบเก่าส่งเบี้ย 20 ปี แบบใหม่เหลือ 10 ปี มีสิทธอะไรที่หายไปไหมครับ

ขอบคุณมากๆครับ ^^
ถามหาแบบที่สามารถซื้อ "ประกันสุขภาพ" ได้จนถึง 80 หรือยาวๆ กว่านี้
(เพิ่งทราบมาว่าบางบริษัทซื้อเบี้ยประกันสุขภาพได้ถึง 90 ปี)

ตอบสีน้ำเงินด้านบน...ซื้อทีหลังได้ค่ะ..และซื้อเป็นบางปีก็ได้
แต่ถ้าซื้อบ้างไม่ซื้อบ้างจะเสี่ยงกับการไม่ได้รับการคุ้มครองบางโรคหรือไม่
น่าจะต้องเก็บเป็นคำถามไว้ถามตัวแทนด้วย
แต่เบี้ยประกันหลักต้องซื้อทุกปี...และมีข้อควรคำนึงดังนี้ค่ะ
20140212_074204.jpg
จำนวน "เงินเอาประกันภัย" ถ้าสูงเบี้ยประกันหลักและความคุ้มครองจะสูงตาม
มีผลต่อการเลือกซื้อ package ประกันสุขภาพด้วยค่ะ
"เงินเอาประกันภัย" ก็ยิ่งซื้อความคุ้มครองสุขภาพได้สูงขึ้น
ถ้า "เงินเอาประกันภัย" จะซื้อได้ package ความคุ้มครองสุขภาพ ได้ต่ำตามค่ะ

ถ้าซื้อแบบ "เงินเอาประกันภัย" ต่ำไปแล้ว อยากได้ความคุ้มครองสุขภาพเพิ่ม
บางบริษัทต้องซื้อกรมธรรม์ใหม่เลย...แต่บางบริษัทให้ลูกค้าขยายสิทธิได้

และข่าวดีสำหรับคนที่เคยซื้อกรรมธรรม์ฉบับเดิมไว้แล้วซื้อประกันสุขภาพได้ไม่ยาวพอ
ตอนนี้หลายบริษัทประกันเองก็พยายามปรับปรุงให้ยืดหยุ่นขึ้น และตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นค่ะ...มิฉนั้นจะสู้คู่แข่งไม่ได้...เห็นบูธประกันที่ไหน
อย่าเดินหนีค่ะ...แวะเข้าไปนั่งคุย เล่าความต้องการและให้ตัวแทนช่วยเสนอแบบ
ไม่จำเป็นต้องซื้อทันที...เงินอยู่ในกระเป๋าเรา ไม่มีใครสามารถดึงออกไปได้...ถ้าเราไม่ยินยอมค่ะ

เหมือนๆ เป็นกิจการที่แข่งกันลดราคาแบบอ้อมๆ โดยการเพิ่มสิทธิ (หรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ)

ดังนั้น เลือกและ "ถาม" ให้มากที่สุด "คำตอบจะดี" ถ้า "คำถามดี"
จะถาม "คำถามดี" ได้ "ต้องมีข้อมูลมากพอ" ด้วยค่ะ
พี่เชื่อว่าน้อง thitaphat168 สามารถถามคำถามได้ดีค่ะ
สีแดง ในคำถามของน้อง thitaphat168 ก็เป็นคำถามที่ดีที่ควรถามจากตัวแทนด้วยค่ะ

ที่จริง "การเลือกแบบประกัน" ก็คล้ายๆ "การเลือกหุ้นที่จะลงทุน" นิดๆ (คล้ายมั้ยเนี่ย :B )

ตรงที่...ท่ามกลางข้อมูลมากมาย แบบประกันที่หลากหลาย ของหลายค่าย
เราจะเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์และลงตัวกับวิถีชีวิตของเราที่สุด ^_*

บางคนเลือกผิดก็เวนคืน (cut loss)
บางคคนเลือกดีแล้วแต่ประกันก็พัฒนาแบบใหม่ๆ ออกมา
ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าคุ้มกว่าในระยะยาว อาจยอมเปลี่ยนแบบ

แต่จะให้ดีที่สุด...ต้องพิจารณาจากข้อมูลรอบด้านแล้วตัดสินใจด้วยตัวเองค่ะ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 516

โพสต์

วันแห่งความรัก

ตอนครบรอบแต่งงานปีแรก...ครบในวันที่ 14 กพ. พอดี

ได้ของขวัญเป็นนาฬิกาข้อมือ รูปลักษณ์สวยงาม...จนต้องถามราคา

ทีแรกเจ้าตัวจะไม่ยอมบอก...(อาจเพราะสีหน้าที่เรียบเฉยเกินของคนถาม 555)
แต่ทนคาดคั้นไม่ไหวจึงยอมบอกว่า 3,200 บาท (เมื่อปี 2538)
เงินจำนวน 3,200 (สมัยนั้น...หรือแม้แต่สมัยนี้) เราว่ามันแพงเกิน
และเราก็มีนาฬิกาใช้แล้ว แม้จะเก่าและราคาไม่แพง
"บอกเวลา_เที่ยงตรง" เป็นสาระสำคัญที่นาฬิกาควรจะเป็น..ก็พอ
(พอมีโทรศํพท์มือถือ...ไม่ได้ใช้นาฬิกาข้อมืออีกเลย)

..........................

บอกไปว่า "ขอบคุณ" แต่..."ต่อจากนี้ไป...อย่าให้ของขวัญเราอีกเลย"
แม้แต่ดอกไม้...เพราะฐานนิสัยเราไม่ให้ความสำคัญกับของขวัญ"

"วันเกิด"...ยังนึกออกเมื่อต้องกรอกในเอกสาร...นอกนั้นไม่ได้นึกถึง

ส่วนการนับอายุตัวเองนั้น...ชอบนับเมื่อขึ้นปีใหม่เลย (แม้จะเกิดปลายปี)
พอปีใหม่ก็นับเพิ่มขึ้นอีกปี...พร้อมกับการตั้งเป้าหมายสำหรับปีต่อไป

แต่พ่อของลูกชอบส่งข้อความมาบอกว่า..."วันนี้วันอะไร...จำได้มั้ย"
ทำให้นึกได้ว่า...อ๋อ...วันคล้ายวันเกิดเรานั่นเอง...ลืมนึกถึง

มันคือ "วิถี" ที่เราเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ

..............................

แม้แต่ "งานแต่งงาน" โดยส่วนตัวยังมองข้ามไม่อยากจัด
แต่เตี่ยกับแม่ไม่ยอม...จึงต้องตามใจ แต่จัดแบบประหยัด
ตามที่เคยเล่าไว้ใน money talk...สินสอดไม่ต้องมีค่ะ

การ์ดแต่งงานทำเอง..ไปซื้อการ์ดราคาส่งที่ "สำเพ็ง"
เอาไปจ้างโรงพิมพ์ๆ เป็นร้อยใบละเท่าไหร่...ซื้อริบบิ้นสีทอง
มาเป็นม้วนแล้วมาผูกโบว์เอง...เอาปืนกาวยิงติดบนการ์ด

................................

ปีนี้ครบรอบแต่งงานปีที่ 20 ปี แล้ว
บรรยากาศ...คงเส้นคงวา...เหมือนปีแรกๆ
เรียบๆ ยังไง...ก็ยังเรียบๆ อยู่อย่างงั้น..
ระดับความสุขเสมอต้นเสมอปลาย :wink:

เล่าถึง...เพื่อให้เข้าบรรยากาศวันแห่งความรัก...กับเค้าบ้าง :oops:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 517

โพสต์

ดูแล้วมีความสุขดีค่ะ...นำมาฝากเพื่อนๆ ด้วยดีกว่าค่ะ ^_*

[youtube]7AzBpCK4rn0[/youtube]
http://www.youtube.com/watch?v=7AzBpCK4rn0
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 518

โพสต์

งานเสริมเพิ่มรายได้_สำเร็จได้ถ้ามุ่งมั่นพอ (Team Money Talk 4)
..................................

อาจารย์ท่านให้ post ข้อเขียนพร้อมรูป หาตั้งนาน.ไม่ค่อยถ่ายรูปค่ะ
พูดถึงรูปถ่ายแล้วนึกถึงสมัยวัยรุ่น ที่บ้านแม้ว่าเตี่ยกับแม่จะเป็นครู
แต่ก็มีอาชีพเสริมตลอดค่ะ ตอนประถมแม่นำมะยมจากต้นมากวน
แล้วห่อเป็นลูกอมให้ไปขายที่โรงเรียน แม่ยังรับผ้าไหม ทองรูปพรรณ
มาให้เพื่อนครูผ่อน (หลังๆ ปล่อยเงินกู้ด้วยอันนี้ไม่ดีค่ะ...อย่าทำตาม)
.....................................

ส่วนเตี่ยก็รับจ้างถ่ายภาพตามงานต่างๆ เช่น งานแต่ง งานบวช งานศพ
บางเดือนฤกษ์งามยามดี คนนิยมจัดงานวันเดียวกัน ถ้าไม่ฝึกคนเพิ่ม
ก็ต้องปฏิเสธงานไปอย่างน่าเสียดาย เลยถูกฝึกให้ช่วยถ่ายภาพด้วย
ขี้อายมากๆ แต่ก็ต้องฝึกออกจาก comfort zone ของตัวเองค่ะ
ตอนนั้นไม่ได้เงินเองหรอก...ช่วยทำมาหากิน เงินที่ได้ก็เข้าบ้านหมด
.........................................

แต่สอนให้เรารู้ว่า...ถ้าขยันพอ เราสามารถหาเงินเพิ่มได้เสมอ
และทำให้เห็นคุณค่าของเงิน กว่าจะได้มาแต่ละบาทนั้นไม่ง่ายค่ะ
เวลาไปถ่ายภาพขี่มอเตอร์ไซค์ไป ใส่เสื้อแขนยาวและหมวกกันน็อค
ฝนตก แดดแรงอย่างไร ถ้ารับงานแล้ว เราก็ต้องไป “ตรงเวลา” เสมอ
ได้นิสัยเรื่องความตรงต่อเวลามาด้วย สมัยก่อนยังเป็นกล้องใส่ฟิล์ม
นำไปล้างอัด จัดลงอัลบั้ม...กว่าจะได้เงินครบต้องส่งมอบงานก่อนค่ะ
............................

ติดตัวมาจนโตว่าเราควรมี “งานเสริมเพิ่มรายได้” ส่งผลให้ชีวิตต่อจากนั้น
เห็นคุณค่าของเวลามาก ไม่ค่อยปล่อยทิ้ง รับขึ้นเวรห้องพยาบาลโรงงาน
12 ชม. / 800 บาท กลับอ่างทองก็นำไข่ไก่แบบแผงติดรถมาส่งร้านค้า
มีช่องทางทำเงินโดยสุจริตใดๆ อยากทำไปหมด...ต้องประหยัดด้วยนะคะ
...............................

“หนักเอา เบาสู้” ชีวิตนี้ไม่มียากจน...ใครลำบากอยู่สู้ ๆ ค่ะ
ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันที่ดีขนาดนี้ คิดแค่ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด
เมื่อมาลงทุนก็จริงจังและมุ่งมั่น เหมือนตอนที่ทำงานเสริมอื่นๆ
คุ้มค่ากับการยอมปฏิเสธความสุขเฉพาะหน้าตั้งแต่วัยต้นๆ จริงๆ
ใครเคยทำงานเสริมเพิ่มรายได้บ้าง มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ^_*
DSC_0090.JPG
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ปลูกหุ้นกินผล
Verified User
โพสต์: 111
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 519

โพสต์

แวะมาทักครับ พี่นุช
อ่านที่พี่นุชเขียนแล้วได้ความรู้ แล้วก็เพลินดี ^__^
ปลูกหุ้นกินผล
http://www.facebook.com/PookHoonKinPhol
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 520

โพสต์

ปลูกหุ้นกินผล เขียน:แวะมาทักครับ พี่นุช
อ่านที่พี่นุชเขียนแล้วได้ความรู้ แล้วก็เพลินดี ^__^
หลายๆ คนบอกอย่างงั้นหละ เพลินๆ
ถ้าลองอ่านย้อนดู...จะพบว่าเพื่อนๆ ในกระทู้เราก็น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ

เต้ยมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังก็ยินดีนะคะ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 521

โพสต์

ขอนำบรรยากาศโดยรวมๆ ของงานสัมมนา
Money talk@SET 16 Feb 2014
จาก fb money talk มาฝากระหว่างรอชม clip ด้วยค่ะ
มี video สั้นๆ หัดทำเองค่ะ :wink: ...(ฝีมือ 20 : ความพยายาม 80 :oops:)

https://www.facebook.com/MoneyTalkTV/po ... 7015939787
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 522

โพสต์

เด็กๆ ทุกคนคงอยากบอกเราว่า....
"I can fly. I'm proud that I can fly."
^_*
.........................

Love in your eyes. Sitting silent by my side
Going on Holding hand. Walking through the nights
Hold me up Hold me tight. Lift me up to touch the sky
Teaching me to love with heart. Helping me open my mind

I can fly. I'm proud that I can fly
To give the best of mine.Till the end of the time.
Believe me I can fly. I'm proud that I can fly
To give the best of mine. The heaven in the sky
.........................

Nothing can stop me
Spread my wings so wide
...........................

[youtube]hUhs_yFD5AA[/youtube]
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 523

โพสต์

Optimization เธอและฉัน win-win
...........................

เมื่อหลายปีก่อนเคยซื้อคอนโดใกล้ ม.บูรพาบางแสน
ซื้อมา 389,000 บาท ให้นักศีกษาเช่า 3,600/เดือน
ปล่อยเช่าอยู่ 3 ปี กว่า แล้วขายต่อได้ 450,000 บาท
............................

ซื้อต่อจากพี่ที่ทำงานที่เขาอุตส่าห์ผ่อนดาวน์มาจนครบ
แต่จำเป็นต้องขายเพราะกู้ไม่ผ่าน พี่เขาทำงานเป็นลูกจ้าง
ของส่วนราชการค่ะ..ด้วยธรรมชาติของคนในระบบทุนนิยม
หรืออย่างไรไม่ทราบ คนที่มาบอก แนะให้ “หักคอ” ซื้อ
เพราะสิ้นเดือนเค้าจะถูกยึดเงินดาวน์แล้ว สะท้อนแนวคิด
Maximization ที่แทรกอยูในจิตใจของคนยุคนี้บางส่วน
.............................

สนใจค่ะ...คำนวณหยาบๆ ได้ค่าเช่าในอัตราที่บอกถือว่าใช้ได้
พี่เค้าดูดีใจมาก มาบอกตรงๆ ว่าต่อราคาได้เขายอมขาดทุน
เพราะหมดทางจริงๆ (คงถูก “หักคอ” จนชิน) ยังมีค่าหน้าต่าง
บานเลือนที่สั่งทำเพิ่มต้องจ่ายวันโอน 4,000 พี่เค้าจะจ่ายเอง
...............................

ไปดูห้อง พบว่า..หน้าต่างบานนั้นเป็นบวกช่วยให้แสงเข้าดีขึ้น
ตกลงซือ..พี่เค้าคงอึดอัด ที่ไม่ต่อราคาเสียที เขาจึงเอ่ยปาก
ถามเอง...ตอบไปว่า ให้ราคาตามที่พี่ซื้อมา 385,000 +4,000
(ให้ค่าหน้าต่างด้วย) เป็น 389,000 พี่อายุ 50 กว่า ยกมือไหว้
เรา..ห้ามไว้ไม่ทันเลยค่ะ ยึดหลัก Optimization _win-win ดีกว่า
เขาอุตส่าห์ผ่อนดาวน์เพื่อหวังได้ค่าเช่าหลังเกษียณ แต่โอกาส
ของคนเราไม่เท่ากันทำให้ต้องตัดใจขาย คิดแล้ว..ต่อราคาไม่ลงค่ะ
..............................

ถ้าอาศัยความได้เปรียบ..ช่วงชิงโอกาสที่เขาเดือดร้อนกำไรกว่านี้แน่
แต่ต้องถามตัวเองเรื่อง “คุณค่าของชีวิต” ตลอดไป...ไม่ทำดีกว่าค่ะ
แม้ปกติใช้ชีวิตประหยัดเพียงใด...แต่ไม่คิดจะประหยัดจากโอกาสนี้
“การประหยัด” คือ ประหยัดในส่วนของเราเอง...ฝึกตนให้ประหยัด
ไม่ใช่ประหยัดเรา...แต่จ้องจะเอา “ส่วนของคนอื่น” หรือ “ส่วนรวม”
..............................

มีอีกหลายครั้งในชีวิต มีโอกาสอยู่ในจุดที่สามารถ “take profit”
ได้มากที่สุดแบบ Maximization แต่เลือก Optimization แทน
ตามที่อาจารย์ ดร.ไพบูลย์ ท่านเป็นตัวอย่างที่ดี และยังได้สอน
พวกเราและนักศึกษา รวมทั้งพูดย้ำเสมอทุกครั้งที่ท่านมีโอกาส
...............................

เงินที่ได้นำมาเปิด port ลงทุน มองย้อนกลับไปอดคิดไม่ได้ว่า
Optimization (เธอและฉัน win-win ) ส่งผลให้จิตใจเบาสบาย
ทำสิ่งใดก็เกิดสติปัญญา..ส่งผลให้ชีวิตโดยรวมดีพอสมควร ^_*

แต่ทั้งนี้..”ดูไม่ค่อยฉลาด” ในสายตาของผู้อื่นหรือเปล่านะ ??? ”
Nutth147
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 524

โพสต์

แต่ทั้งนี้..”ดูไม่ค่อยฉลาด” ในสายตาของผู้อื่นหรือเปล่านะ ??? ”
คำถามนี้น่าสนใจ ก่อนจะตอบผมขอเล่านิทานสักเรื่องนะครับ

----

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....มีขอทานตาบอดคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ทางแยก
เขาได้ยินเสียงคาราวานกำลังเดินเข้ามาที่ทางแยก พวกเขาปรึกษากันว่าทางไปเมืองนั้นไปทางไหน

มีคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับเตะ ขอทาน
"เอย ...เราต้องการรู้ว่าทางไปเมืองไปทางไหน"

ขอทานหัวเราะ เขาสายหน้าพร้อมกับตอบว่า "เราจะบอกแต่กับพระราชาเท่านั้น"

คนที่สองเดินเข้ามา ขอทานได้ยินเสียงเขาชัดดาบออกจากฝัก เขาถามด้วยเสียงอันดังและดุ
" ถ้าเจ้ารู้ทางก็บอกมา เราไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ "

ขอทานแม้จะโดนดาบจีคอ ก็ตอบว่า "เราจะพูดกับแต่พระราชาเท่านั้น"

คนที่สามเดินเข้ามา ขอทานได้ยินเสียงเขานั่งลงข้างๆ เขาจับมือขอทาน
" ถ้าท่านทราบว่าเมือง...ไปทางใด บอกเราเถิด "

ขอทางกับชีทางให้ ....บางคนในกลุ่มคิดว่า ขอทานแค่ต้องการคนพูดดีๆเฉย ก็ยอมบอกทาง
ชายคนที่สามจึงถามขึ้นว่า ท่านทราบได้อย่างไรว่าเราคือ พระราชา

" ชายคนแรก เป็นทหารไพร่ เขาเตะข้าพเจ้า เพราะเขาเป็นคนไม่มีอำนาจอะไรเลยในชีวิต จึงแสดงอำนาจในทุกอย่างที่ตำกว่าเขา
ชายคนที่สอง เป็นหมาดเล็ก เขาตะคอกข้าพเจ้า เพราะเขารู้ว่าตัวเองมีอำนาจในการสั่งผู้คนได้มากมาย
ท่าน...เป็น พระราชา เพราะท่านรู้ดีว่าอำนาจของท่านมีมากมาย จนไม่จำเป็นต้องต้องดูถูกผู้ใดเพื่อแสดงอำนาจอีกแล้ว"

----

แต่ทั้งนี้..”ดูไม่ค่อยฉลาด” ในสายตาของผู้อื่นหรือเปล่านะ ??? ”
....นั้นนะซิครับ :wink:

ปล ผมไม่ทราบว่าทำไมขอทานตาบอดรู้ทาง จำมาได้ประมาณนี้
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 525

โพสต์

theenuch เขียน: แต่ทั้งนี้..”ดูไม่ค่อยฉลาด” ในสายตาของผู้อื่นหรือเปล่านะ ??? ”
ผมว่ามันอยู่ที่ใจเราครับ ถ้าเราไป "หักคอ" เค้า วันข้างหน้าเราก็อาจจะโดนคนอื่น "หักคอ" บ้าง

การถูก "หักคอ" มันอาจจะไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในรูปแบบเดียวกัน เรียกว่า "กงกรรมกงเกวียน" ครับ

เราซื้อของได้ถูกขึ้น แต่อาจจะไม่สบายใจ อย่างน้อยคนที่ทำงานเดียวกันก็รู้จักกัน ต้องเห็นหน้ากันไปอีกนาน

การซื้อขายหุ้นก็เช่นกัน เรามักกลัวจะขายหมู จะขายหุ้นก็กลัวจะขึ้นต่อ ขายไปแล้วก็กลัวจะขึ้นต่อ ใจจดจ่ออยู่กับราคาหุ้น

ผมเคยอ่านหนังสือ ปรัชญาหุ้น ของคุณ โสภณ ด่านศิริกุล เค้าแนะนำวิธีคิดที่น่าสนใจคือ บางครั้งเรามักอยากขายให้ได้ราคา "สูงที่สุด" เรียกได้ว่าขายแล้วกะให้หุ้นมันลงเลย แต่จริง ๆ การคิดแบบนี้มันอาจจะใจแคบกับคนที่ซื้อหุ้นต่อจากเรา เพราะถ้าเค้าไม่ซื้อหุ้นต่อจากเรา เราก็คงขายหุ้นไม่ออก ลองคิดดูครับ ถ้าเค้าไม่เคาะ offer ที่เราตั้งเอาไว้ หรือตั้ง bid เข้ามารับหุ้นที่เราเคาะขายออกไป เราก็คงขายหุ้นไม่ได้

จริง ๆ เราควรจะต้องขอบคุณคนที่มาซื้อหุ้นต่อจากเราครับ เพราะเค้าทำให้เราขายหุ้นได้ เพราะเราไม่ต้องการหุ้นตัวนั้นแล้ว เราถึงขายออกไป นั่นแปลว่าเราควรจะให้ "ลูกค้า" ของเราได้กำไรจากหุ้นที่ซื้อไปจากเราบ้าง จะมากจะน้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง

ถ้าใจคิดแบบนี้ได้ เราจะไม่เครียด ไม่กลัวการขายหมูครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 526

โพสต์

Nutth147 เขียน:แต่ทั้งนี้..”ดูไม่ค่อยฉลาด” ในสายตาของผู้อื่นหรือเปล่านะ ??? ”
คำถามนี้น่าสนใจ ก่อนจะตอบผมขอเล่านิทานสักเรื่องนะครับ:wink:
ขอบคุณมากเลยค่ะน้อง Nutth147 ...ลึกซิ้งมากๆ ^_*
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 527

โพสต์

leky เขียน:ถ้าใจคิดแบบนี้ได้ เราจะไม่เครียด ไม่กลัวการขายหมูครับ :D
ขอบคุณ คุณหมอ leky ที่แนะนำวิธีคิดค่ะ

โดยปกติไม่ค่อยเครียดค่ะ อาจเพราะมีความรู้ด้านการลงทุนน้อยเกินไป
จึงลงทุนไปตามอัตภาพ ไม่ค่อยได้ซื้อๆ ขายๆ หุ้นบ่อยนักค่ะ

และอีกส่วนเกิดจาก

การลงทุนแนว VI สอดคล้องกับหลักของศาสนาพุทธที่ว่า "ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ"
ยึดหลักว่า "ตั้งใจทำเหตุให้ดีที่สุด...และสันโดษในผล" ค่ะ

โดยปกติถ้าทำเหตุให้ดี และผลก็มักจะดี
แต่เราก็ไม่ทราบหรอกค่ะว่ามันจะดีหรือเปล่า
เพราะมีปัจจัยหลายสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้
ที่มีผลต่อการขึ้น ลง ของราคา และดัชนี SET index

มันก็คือ "สัจธรรมของการลงทุนในหุ้น" เลยก็ว่าได้
และเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรทราบและยอมรับแต่ต้นค่ะ
คิดว่าถ้าเราไม่เข้าใจข้อนี้แต่ต้น เราจะอยู่ในตลาดด้วยจิตใจที่
"ฟู" "ฟุบ" และ "ขึ้น" "ลง" เกินไป...จนเสียสมดุลของการใช้ชีวิต

การลงทุนแนว VI ทำให้เราไม่ค่อยได้สนใจกับการขึ้นลงของราคาหุ้นมากนัก
แต่สนใจพื้นฐานและแนวโน้มการเติบโตของกิจการที่เราลงทุนมากกว่า

เมื่อลงทุนด้วยหลักคิดดังที่เล่ามา
เลยทำให้การลงทุนที่ผ่านมาไม่ค่อยเครียด และไม่ค่อยเสียใจว่าขายหมูค่ะ ^_*

.....................................

จริงๆ แล้วคิดว่าการลงทุนแนว VI สอดคล้องกับหลักคำสอนของศาสนาพุทธมากเลยค่ะ
และสอดคล้องกับหลักการดำเนินชีวิตแบบ optimization เพราะทำให้เรามีเวลาไปพิจารณา
เรื่องอื่นๆ ของชีวิต ที่นอกเหนือจากการลงทุน ดังจะเห็นได้จากนักลงทุนแนว VI
ที่ประสพความสำเร็จแล้วหลายท่านที่สละเวลามาเป็นกรรมการ ช่วยเหลืองานของสมาคม

ยังมีการจัดอบรม และการไปเป็นวิทยากรที่มีการจัดขึ้นในหลายๆ จังหวัด
นำความรู้และแนวคิดที่ถูกต้องไปส่งมอบให้เพื่อนๆ ที่ต่างจังหวัดแบบถึงที่เลยทีเดียวค่ะ

เฝ้ามองทุกๆ ท่านด้วยความชื่นชม และคิดว่าเราอยากมีประโยชน์
เหมือนท่านเหล่านั้นทำบ้าง แต่เราก็ไม่เก่งและไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุนมากพอ

อาจจะพอมีความรู้เรื่องบริหารการเงิน แบบบ้านๆ บ้าง
จึงตั้งใจแบ่งเวลามาเขียนกระทู้และเขียนข้อเขียนเล็กๆ น้อย ใน fb money talk บ้างค่ะ

ถ้าเราใช้เวลาทั้งหมดไปกับการติดตามราคาหุ้นที่ผันผวนมากๆ คงไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้
ต้องขอบคุณ Thaivi และการลงทุนแนว VI...ที่ทำให้รู็จักการลงทุน
ที่สามารถส้รางสมดุลให้แก่ทั้งชีวิตตนเอง และผู้อื่นได้อย่างทุกวันนี้ค่ะ :wink:
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 528

โพสต์

ไม่สวย (ไม่หล่อ) ก็เลือกได้ (Team Money Talk 4)
.............................

เคยมีเพื่อนที่บ่นเรื่องงานเสมอ...ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงาน
ทำงานอยู่แต่ก็ไม่เคยรักงานที่ทำ..น่าเศร้าใจ ทางที่ดี “เลิกบ่น”
แล้วพัฒนาตนเองเพื่อให้แม้ไม่สวย (หล่อ) ก็เลือกงานได้ดีกว่าค่ะ
ถ้าไม่ได้..ก็หาข้อดีของงานที่ทำ เช่น ใกล้บ้าน ได้ช่วยผู้อื่น ฯลฯ
..............................

แต่มีงานบางแบบที่ควรเปลี่ยน ไม่ควร "ทนทำ" คืองานที่
ไม่ใช่ “สัมมาอาชีวะ” ตามมรรค 8 เช่น งานที่เสี่ยงต่อการ
“เข้าคุกไปครึ่งตัว” วันร้าย คืนร้าย อาจได้เข้าไปนั่งเต็มตัว
แสดงว่างานนั้นเป็นงานที่ไม่ดี...คนที่ทำอยู่ได้มีสองแบบ
แบบแรกมีผลประโยชน์ร่วมเลยพลอยยินดี และแบบ “ทนทำ”
เพราะ ยัง “เลือกไม่ได้” เสี่ยงและเสียความภูมิใจในตัวเอง

แบบหลังนี้ทรมานจิตใจมากทีเดียว เช่น นักบัญชีในบริษัท
ที่รับจ้างแต่งงบ วิศวกรโยธาที่ต้องหรี่ตาจากมาตรฐานเพราะ
นายจ้างสั่งให้ลดวัสดุเพื่อรักษาต้นทุนให้ต่ำ หรืออาชีพอื่นๆ
ที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา....ด้วยเหตุพิเศษ
.............................

ดีที่สุดคือ...ไม่ว่าทำงานใด ควรพัฒนาตนเองให้ “เลือกได้”
เช่น พัฒนาทักษะด้าน IT , ภาษาอังกฤษ หรืออื่นๆ ที่จำเป็น

และสร้าง passive income ควบคู่ไป เพื่อให้สามารถปฏิเสธ
เรื่องไม่ถูกต้องได้บ้าง แม้ได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ไม่ก้าวหน้า
เงินเดือนต่ำซ้ำซาก ก็ไม่เป็นไรเพราะมีรายรับทางอื่นอยู่ด้วย
อาจเกษียณได้เร็วขึ้นถ้าเราเริ่มเร็วพอ (พลังของการทบต้น)
เช่น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ลงทุนในกองทุนรวม
หรือสะสมหุ้นของบริษัทที่มีกิจการเติบโตเพื่อรับปันผล ฯลฯ

อาจต้องทำ active income เพิ่มในบางคนที่รายได้น้อย
ทั้งนี้ ถ้า “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ตลอดทาง..จะยิ่งดีค่ะ
.............................

พัฒนาตนเองให้ แม้ “ไม่สวย (หล่อ) ก็เลือกได้” กันดีกว่าค่ะ ^_*
ภาพประจำตัวสมาชิก
นพพร
Verified User
โพสต์: 1039
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 529

โพสต์

เห็นด้วยครับผม
:mrgreen:
theenuch เขียน:ไม่สวย (ไม่หล่อ) ก็เลือกได้ (Team Money Talk 4)
.............................

เคยมีเพื่อนที่บ่นเรื่องงานเสมอ...ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงาน
ทำงานอยู่แต่ก็ไม่เคยรักงานที่ทำ..น่าเศร้าใจ ทางที่ดี “เลิกบ่น”
แล้วพัฒนาตนเองเพื่อให้แม้ไม่สวย (หล่อ) ก็เลือกงานได้ดีกว่าค่ะ
ถ้าไม่ได้..ก็หาข้อดีของงานที่ทำ เช่น ใกล้บ้าน ได้ช่วยผู้อื่น ฯลฯ
..............................

แต่มีงานบางแบบที่ควรเปลี่ยน ไม่ควร "ทนทำ" คืองานที่
ไม่ใช่ “สัมมาอาชีวะ” ตามมรรค 8 เช่น งานที่เสี่ยงต่อการ
“เข้าคุกไปครึ่งตัว” วันร้าย คืนร้าย อาจได้เข้าไปนั่งเต็มตัว
แสดงว่างานนั้นเป็นงานที่ไม่ดี...คนที่ทำอยู่ได้มีสองแบบ
แบบแรกมีผลประโยชน์ร่วมเลยพลอยยินดี และแบบ “ทนทำ”
เพราะ ยัง “เลือกไม่ได้” เสี่ยงและเสียความภูมิใจในตัวเอง

แบบหลังนี้ทรมานจิตใจมากทีเดียว เช่น นักบัญชีในบริษัท
ที่รับจ้างแต่งงบ วิศวกรโยธาที่ต้องหรี่ตาจากมาตรฐานเพราะ
นายจ้างสั่งให้ลดวัสดุเพื่อรักษาต้นทุนให้ต่ำ หรืออาชีพอื่นๆ
ที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา....ด้วยเหตุพิเศษ
.............................

ดีที่สุดคือ...ไม่ว่าทำงานใด ควรพัฒนาตนเองให้ “เลือกได้”
เช่น พัฒนาทักษะด้าน IT , ภาษาอังกฤษ หรืออื่นๆ ที่จำเป็น

และสร้าง passive income ควบคู่ไป เพื่อให้สามารถปฏิเสธ
เรื่องไม่ถูกต้องได้บ้าง แม้ได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ไม่ก้าวหน้า
เงินเดือนต่ำซ้ำซาก ก็ไม่เป็นไรเพราะมีรายรับทางอื่นอยู่ด้วย
อาจเกษียณได้เร็วขึ้นถ้าเราเริ่มเร็วพอ (พลังของการทบต้น)
เช่น ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ลงทุนในกองทุนรวม
หรือสะสมหุ้นของบริษัทที่มีกิจการเติบโตเพื่อรับปันผล ฯลฯ

อาจต้องทำ active income เพิ่มในบางคนที่รายได้น้อย
ทั้งนี้ ถ้า “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ตลอดทาง..จะยิ่งดีค่ะ
.............................

พัฒนาตนเองให้ แม้ “ไม่สวย (หล่อ) ก็เลือกได้” กันดีกว่าค่ะ ^_*
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 530

โพสต์

นพพร เขียน:เห็นด้วยครับผม
:mrgreen:
แสดงว่าน้องฉิมไม่หล่อใช่มั้ยนี่ 555
เอแล้ว "้น้องแก้ม" กับ "น้องเกรซ" น่ารักติดใครนะ

พี่ว่าน้องฉิมเลี้ยงลูกแบบนี้ดีแล้วค่ะ เค้าจะเก่งและทนทุกสภาวะดี
พี่ชอบไปแอบเปิดดูใน fb ประจำ...เห็นเขาเล่นอยู่บนกองทรายแล้วชอบค่ะ ^_*
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 531

โพสต์

ชวนดู "คนค้นคน" ตอนนึง...ประทับใจมาก
บรรยายไม่ถูกเลยค่ะ...บอกได้คำเดียวว่า "ยอดคน"
น้องกิ๊ก_คนค้นคน.jpg
หลังจากที่พ่อกับแม่ของ “กิ๊ก” หรือ ด.ญ. นิลาวัลย์ ธูปน้ำคำ
แยกทางกันตอน 2 ขวบ เธอก็ใช้ชีวิตกับแม่ท่ามกลางความยากจนเพียงลำพัง
ไม่นานแม่ตัดสินใจมีสามีใหม่และมีน้องเพิ่มมาอีก 2 คน และเมื่อไม่สามารถ
แบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น กิ๊กกับน้องจึงถูกย้ายมาอาศัยอยู่บ้านของพ่อเลี้ยง
ที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ กับปู่และย่าซึ่งไม่ใช่ญาติแท้ๆ

แม้จะรู้สึกเคว้งคว้าง ต่างบ้าน ไร้ญาติมิตร แต่เด็กสาววัย 16 ปี กลับยืนหยัด
เอาชนะความโดดเดี่ยวได้อย่างเข้มแข็ง และไม่ยอมทำชีวิตให้เป็นภาระใคร

“ ภาระต่างๆที่หนูแบกรับ หนูทำมันด้วยความเต็มใจ ทำด้วยความสุข
แม้บางครั้งอาจจะเหนื่อย แต่เวลาที่หนูได้ซื้อขนมให้น้องทั้งสองคนกิน
ได้เห็นน้องกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย หนูจะมีความสุขและรู้สึกภูมิใจมาก
และความเหนื่อยของหนูก็จะหายไปทันทีเลย ”

'กิ๊ก ดอกไม้งาม แห่งบ้านดอนกว้าง' คนต้นเรื่อง รายการคนค้นฅน

“ ท่ามกลางเงื่อนไขชีวิตที่ทั้งยากไร้ และ มืดมน หัวใจที่แข็งแกร่งดั่งเพชร
ของ “น้องกิ๊ก” ยังคงเปล่งประกาย เพราะ “เพชรแท้” แม้จะตกหล่นอยู่ที่ใด
ใต้โคลน หรือปะปนอยู่กับกรวดหินดินทราย เพชรก็คือเพชร
ยังเป็นอัญมณีล้ำค่าและคงความงดงามอยู่ในตัวเองเสมอ ”

http://www.youtube.com/watch?v=HZbabJ1O ... 5Fn2#t=302
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 532

โพสต์

(ความด้อย) โอกาสทางการศึกษา (Team Money Talk 4)
....................................

ดูรายการ “คนค้นคน” เรื่องราวของเด็กหญิงสู้ชีวิต อาศัยอยู่กับปู่ย่า
เลี้ยงดูน้องสาวเล็กๆ วัยเรียนอีกสองคน เป็นทั้งพ่อและแม่ให้น้อง
แม่ส่งให้เดือนละ 2,000 ไม่พอเลี้ยงทั้ง 5 ชีวิต เธอต้องทำงานหนัก
วันเสาร์-อาทิตย์...ไปรับจ้างทำงานบ้านและช่วยงานร้านขายของชำ
ได้วันละ 150 บาท ยังรับจ้างทำงานอื่นๆ เช่น เกี่ยวข้าว เก็บส้ม ฯลฯ
เพื่อรับผิดชอบค่ากินโรงเรียนวันละ 20 และค่ารถโรงเรียน เดือนละ
240 บาท ด้วยตนเอง แถมที่หาเพิ่มนั้น ยังเหลือช่วยทางบ้านอีกด้วย
..................................

เมื่อถูกถามเรื่องเรียนต่อ...ตอบเสียงเครือและปาดน้ำตาอยู่หลายช่วง
เธออยากเป็นครูเพื่อสอนใกล้บ้าน คนอยากเป็นครูจากใจ น่าส่งเสริม
แต่..รวมๆ ดูด้อยโอกาสมาก เพราะโรงเรียนที่มี ม.ปลาย อยู่ไกลขึ้น
ค่ารถเพิ่มเป็น 600/เดือน ทั้งห่วงว่าไม่สามารถดูแลน้องๆ ได้อย่างเคย
ลืมบอกไป..เธออยู่ ม.3 สอบได้ที่ 1 ตลอด ตั้งแต่ ม.1 น่าชื่นชมมากค่ะ
.................................

“ หนูเกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก มีปัญหา ฐานะยากจน ขาดโอกาส
มันทำให้หนูบอกกับตัวเองเสมอว่า เมื่อหนูมีต้นทุนชีวิตแบบนี้
หนูจะต้องตั้งใจเรียน ขยัน อดทน มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์
เพราะสิ่งเหล่านี้ จะเป็นใบเบิกทาง ให้หนูได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต ”

.................................

ดูจบน้ำตายังคลอๆ...เหลือบเห็นเรื่อง เงิน กยศ. ใน website หนึ่ง
ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า มีคนที่เรียนจบแล้ว ไม่ใช้หนี้กู้ยืม
กยศ. จำนวนมาก จึงออกมาตรการจูงใจ ลดดอกเบี้ยและเว้นค่าปรับ
หากชำระหนี้ทั้งจำนวน ระหว่างพฤศจิกายน 2556 – มีนาคม 2557
ในจำนวนคนที่ไม่ชำระหนี้เลยนั้น 70 % มีงานทำ และ 30% ว่างงาน
.................................

อดคิดไม่ได้ว่า ...หรือคนที่เรียนจบมีงานทำแต่ไม่ชำระหนี้ กยศ.นั้น
อาจแค่มีงานทำ แต่ก็ยังลำบากอยู่....แต่ก็อยากวิงวอนให้ชำระหนี้กัน
เชื่อว่าการไม่ชำระหนี้ที่ให้โอกาสเราได้เล่าเรียนจนจบ น่าจะส่งผลให้
คนจิตใจดีรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ซึ่งความรู้สึกผิดนี้จะฉุดรั้งให้ผู้นั้นห่างไกล
จากความสำเร็จในชีวิต สู้กัดฟันใช้หนี้ กยศ. ให้หมด แม้จะยังลำบาก

ความซื่อสัตย์ การทำสิ่งที่ถูกต้อง และความสบายใจที่ได้ส่งต่อโอกาส
ให้แก่รุ่นน้องที่ยังลำบากกว่าเรา ให้ได้มีโอกาสกู้ยืมเงิน กยศ. บ้าง
ในที่สุดจะส่งผลให้ชีวิตของเราดีขึ้นแน่นอนค่ะ...ช่วยกันส่งต่อนะคะ
เผื่อช่วยให้คนจิตใจดีที่ยังไม่ใช้หนี้ กยศ. เพราะยังลำบาก...มีแรงใจฮึดสู้
และได้ระลึกว่ายังมีเด็กด้อยโอกาสกว่าเขาอีกมาก อาจทำให้เปลี่ยนใจ
มาใช้หนี้ กยศ. กันมากขึ้น...หากได้ชม “คนค้นคน” ที่เล่าถึง..ตาม link (ด้านบน) ค่ะ
.................................

สำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้เป็นหนี้ กยศ. ที่ได้ดู จะได้พบว่าเงินไม่กี่บาท
ในกระเป๋าเรา..มีค่ามากแค่ไหน สำหรับคนด้อยโอกาส และยากจนค่ะ
GG
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 533

โพสต์

สวัสดีครับพี่นุช ผมแอบอ่านอยู่นาน ผมรบกวนขออนุญาติแชร์ให้เพื่อนๆน่ะครับ พอดีอยากทำบุญอยู่พอดีเลย ขอให้ผลบุญกลับมาหาพี่นุชและครอบครัวด้วยน่ะครับ

ปล. ยังโอนได้อยู่ใช่มั้ยครับ ไม่มีกำหนดระยะเวลาใช่มั้ยครับพี่นุช :D
How not to be your own worst enemy
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 534

โพสต์

GG เขียน:สวัสดีครับพี่นุช ผมแอบอ่านอยู่นาน ผมรบกวนขออนุญาติแชร์ให้เพื่อนๆน่ะครับ พอดีอยากทำบุญอยู่พอดีเลย ขอให้ผลบุญกลับมาหาพี่นุชและครอบครัวด้วยน่ะครับ

ปล. ยังโอนได้อยู่ใช่มั้ยครับ ไม่มีกำหนดระยะเวลาใช่มั้ยครับพี่นุช :D
ยินดีเลยค่ะ...น้อง GC นั่นคือเหตุผลที่หาเลขบัญชีมาขึ้นไว้ให้ค่ะ

ลูกพี่ก็ยังช่วยค่ะ...เค้ามีเงินเก็บของตัวเอง
ทีแรกเราถามว่าจะช่วยเท่าไหร่ดี เค้าเงียบนาน
คุณพ่อเลยบอกว่าซัก 500 ดีมั้ย...เงียบอีกครู่นึง

แล้วตอบว่า 1,000 บาท และให้คุณแม่สมทบอีกด้วย
ถ้ามีโอกาสไปทางเหนืออยากจะแวะไปเยี่ยมเค้าด้วยค่ะ

...................................

เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการทำบุญนะคะ
พี่สังเกตเห็นว่าเวลาที่มีซองผ้าป่า ซองกฐิน ของวัดมาคนจะทำบุญง่ายกว่า
ก่อนทำก็อาจอธิฐานให้ได้บุญ ฯลฯ เพราะหวังว่าจะได้บุญได้ความสบายใจ
แต่...บางวัดส้รางถาวรวัตถุมากจนวัดสวยงามมาก แต่ชุมชนรอบๆ วัดก็ยากจนเหมือนเดิม

แต่ก็มีหลายวัดที่นำเงินที่ญาติโยมทำบุญไปพัฒนาการศึกษา
หรือสร้างตึกโรงพยาบาล หรือวิทยาลัยสงฆ์ ฯลฯ

..................................

ตอนจบทำงานใหม่ๆ เงินเดือน 2,880 บาท ได้อ่านหนังสือเล่มนึงชื่อ "ลำดับสีเทา"
เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กๆ ที่ "โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก" ของมูลนิธิเด็ก ที่กาญจนบุรี
และได้หาข้อมูลเพิ่มขึ้น พบว่าเราสามารถร่ "วมอุปการะ" เด็กได้ด้วย
ใช้คำว่า "ร่วม" เพราะค่าใช้จ่ายต่อหัวของเด็กหนึ่งคนในวัยเรียนนั้นไม่น้อย

ดังนั้นเด็ก 1 คน จะมีผู้อุปการะร่วมกันหลายคนจึงจะพอกับค่าใช้จ่ายค่ะ

พี่เลือกแบบน้อยสุดค่ะ เดือนละ 250 บาท เราก็ส่งธนาณัติไปทุกเดือน
(ปัจจุบันเพิ่มเป็น 600 บาท/เดือน ตามภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น)

โครงการอุปการะเด็กของ "มูลนิธิเด็ก"
http://www.ffc.or.th/info/form_help_child.php

ทางโรงเรียนจะส่งรูปพร้อมประวัติของเด็กที่เราร่วมอุปการะมาให้
พอถึงปีใหม่ก็มีภาพวาดฝีมือน้องมาให้ด้วย (เสียดายหาไม่เจอแล้ว)

ทำอยู่อย่างนั้นได้ปีกว่า...พี่มาพบว่าในจังหวัดอ่างทองที่พี่อยู่
มีมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กมาเปิด "บ้านเด็กใกล้วัด" ที่ "วัดอ้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ"
(ปัจจุบัน "บ้านเด็กใกล้วัด" ไม่มีแล้วค่ะ...แต่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กยังมีอยู่)
จึงได้เรียนทางมูลนิธิเด็กไปว่าขอยกเลิกการอุปการะเด็กเนื่องจากเหตุผลดังกล่าว

แล้วมาติดต่อที่บ้านเด็กใกล้วัดแทน แต่ที่นี่ไม่ได้ช่วยเป็นเงินค่ะ
จะแวะเข้าไปบ่อยๆ ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
เพื่อขอยาพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ลดไข้ แก้แพ้ โรคผิวหนัง ยาหิด เหา มาให้
และคอยให้ความรู้เรื่องการใช้ยา และการคัดกรองการเจ็บป่วยเบื้องต้น

.............................

ปีใหม่ปีนึงมีความตั้งใจจะให้ของขวัญเด็กๆ สังเกตพบว่าเวลาเค้าอาบน้ำ
จะกระโดดลงแม่น้ำน้อยกันเลย พอขึ้นมาก็เอาเสื้อผ้าเช็ดตัว ถามดูพบว่า
มีผ้าเช็ดตัวไม่ครบคน (ยังไม่ค่อยมีเลยหละ...ใช้ด้วยกัน) เลยปิ๊งไอเดียว่า "ผ้าเช็ดตัวนี่หละ"

ไปสำรวจร้านค้าส่งพบว่าถ้าซื้อตามจำนวนเด็กขณะนั้น จะขายให้เฉลี่ย ผืนละ 54 บาท
เราไม่มีเงินพอหรอกค่ะ แต่ไประดมทุนจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่รู้จักกัน

พบว่า.....

การขอรับบริจาคแบบนี้ยากมาก...ถ้าเทียบกับการที่คนจะตัดสินใจ
หยิบเงินใส่ซองหรือตู้รับบริจาคของวัด ไม่ใช่เค้าไม่เชื่อถือเรานะคะ
แต่อาจเป็นเพราะทำบุญกับวัดสบายใจกว่า และยังสามารถอธิฐานได้ด้วย

ผ้าเช็ดตัวไม่กี่ผืนพี่ขี่มอเตอร์ไปซะจะรอบจังหวัด กว่าจะได้ครบ (ดีว่าจัหวัดเล็กๆ นะ)
แต่พอมาเจอคนหลังๆ เค้าบอกขอออกเองทั้งหมด (เป็นเจ้าของปั๊มเอสโซ่_สายเอเชีย)
เลยบอกไปว่าได้จะครบแล้วเดี๋ยวท่านอื่นๆ ที่ตั้งใจช่วยมาจะเสียใจ
เค้าเลยแวะมาดูด้วยและบริจาคกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำแทน...น่าปลื้มใจมาก

............................

เมื่อได้ผ้าเช็ดตัวมา เอามาป้กชื่อเล่นของเด็กๆ ที่ผ้าทุกผืนก่อนห่อของขวัญ
แน่นอนต้องติดชื่อที่กล่องด้วย ที่ทำเช่นั้นเพราะ...เด็กๆ ไม่เคยมีของใหม่ของตัวเอง
เลื้อผ้ารองเท้าก็เป็นของบริจาคมาทั้งหมด...ไม่ใช่ไม่ดีนะคะดีมากๆ ที่มีผู้บริจาค
แต่นานๆ ครั้ง...จึงอยากให้เขามีของที่เป็น "ของเขา" เองจริงๆ เลยบ้าง

ปักด้วยมือทั้งหมดค่ะ ฝีมือไม่ดี แต่ตั้งใจ (ถ้าจ้างปักต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอีก)
วันไปมอบของเพื่อนๆ ที่ว่างก็ไปด้วยกันค่ะ...ภาพประทับใจคือ
ตอนที่เด็กๆ แกะออกมาแล้วพบชื่อตัวเอง ตะโกนกันใหญ่ว่า "มีชื่อด้วย"
พวกเราทุกคนรู้สึกปลื้มใจมาก....แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เด็กๆ ได้รู้ว่า
สังคมข้างนอกไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขานะ และตัวเขาทุกคน "มีคุณค่า"

เพราะพวกเขาก็เป็นสมาชิกของสังคมเหมือนเรา ถ้าเขาได้เรียนชั้นสูงสุด
ตามแต่ความสามารถของแต่ละคน...เพราะทางมูลนิธิก็หาทุนให้เรียน
เวลาจบออกมาทำงานก็เป็นเพื่อนร่วมสังคมของเรา เพื่อนของลูกเรา
ถ้าเขารู้จัก "ความรัก" เขาก็จะมอบความรักให้ผู้อื่นเป็นเช่นกัน
ในทางตรงข้าม....ถ้าเขาไม่รู้จักรัก เขาก็จะมีจิตใจแข็งกระด้าง
และอาจาอยู่ในสังคมแบบที่ไม่พึงประสงค์เท่าที่ควรค่ะ

............................

พี่จึงให้ความสำคัญกับการให้ (ทำบุญ) ในรูปแบบนี้ที่ไม่ใช่การทำบุญที่วัด
เพราะมีคุณค่า และ ผลทางบวกอื่นๆ ตามมา...ตามที่ได้ที่เล่ามาด้วยค่ะ

ขอขอบคุณน้อง GC และเพื่อนๆ มากเลย
ที่เห็นความสำคัญเรื่องดังกล่าวควบคู่ไปกับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา...

ช่วยๆ กันหลายๆ รูปแบบนะคะ...เพื่อสร้างสมดุลหลายๆ ด้านนะคะ :wink:
GG
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 535

โพสต์

โห สุดยอดเลยครับพี่นุช รู้สึกดีที่ได้อ่านเรื่องราว มุมมองดีๆจากผู้ที่มีจิตอยากจะให้จริงๆ ผมว่ามีคนอย่างพี่นุชเยอะๆก็คงจะดีน่ะครับ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ที่สังคมเราประกอบไปด้วยคนหลายๆแบบ แตกต่างกันไป แต่ผมเชื่อครับ เชื่อว่าสิ่งเล็กๆที่พี่ทำอยู่ มันคงส่งผลบวกและยังประโยชน์กับคนอีกมากๆเลยครับ อย่างน้อยผมมาแอบอ่านเจอ ผมตระหนักว่าเป็นสิ่งดี มีประโยชน์ อยากแชร์คนอื่นๆบ้าง เกิดการบอกต่อ สิ่งดีๆมันก็เกิดไปเองอย่างที่เราอาจจะคิดไม่ถึง แต่ผมเชื่อครับ แค่นั้นพอแล้ว :B

ปล. ผมไม่ค่อยได้โพสน่ะครับ ปกติจะอ่านอย่างเดว ยังไงถ้าโพสไม่ค่อยรู้เรื่อง ขออภัยด้วยน่ะครับ
ชื่อย่อ GG น่ะครับพี่นุช ไม่ใช่ GC เดวมันจะผิดความหมายไป เพราะ GG ที่ผมใช้ มันย่อมาจาก
"Glorious Graham" หน่ะครับ :-D
How not to be your own worst enemy
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 536

โพสต์

GG เขียน:โห สุดยอดเลยครับพี่นุช รู้สึกดีที่ได้อ่านเรื่องราว มุมมองดีๆจากผู้ที่มีจิตอยากจะให้จริงๆ ผมว่ามีคนอย่างพี่นุชเยอะๆก็คงจะดีน่ะครับ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ที่สังคมเราประกอบไปด้วยคนหลายๆแบบ แตกต่างกันไป แต่ผมเชื่อครับ เชื่อว่าสิ่งเล็กๆที่พี่ทำอยู่ มันคงส่งผลบวกและยังประโยชน์กับคนอีกมากๆเลยครับ อย่างน้อยผมมาแอบอ่านเจอ ผมตระหนักว่าเป็นสิ่งดี มีประโยชน์ อยากแชร์คนอื่นๆบ้าง เกิดการบอกต่อ สิ่งดีๆมันก็เกิดไปเองอย่างที่เราอาจจะคิดไม่ถึง แต่ผมเชื่อครับ แค่นั้นพอแล้ว :B

ปล. ผมไม่ค่อยได้โพสน่ะครับ ปกติจะอ่านอย่างเดว ยังไงถ้าโพสไม่ค่อยรู้เรื่อง ขออภัยด้วยน่ะครับ
ชื่อย่อ GG น่ะครับพี่นุช ไม่ใช่ GC เดวมันจะผิดความหมายไป เพราะ GG ที่ผมใช้ มันย่อมาจาก
"Glorious Graham" หน่ะครับ :-D
ตายจริง...ไปเปลี่ยนชื่อให้เค้าซะแล้ว :oops:
ขอโทษทีค่ะน้อง GG ...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

ไม่เป็นไรค่ะ...พี่มีเวลาพี่ก็ post ไปเรื่อยค่ะ
นานๆ ครั้งก็มีคนมาแอบบอกหลังไมล์หรือใน fb ว่าพอได้ประโยน์บ้าง
ส่วนใหญ่ก็แอบๆ อ่านกันเหมือนน้อง GG เนี่ยแหละค่ะ :wink:

เพราะแนวทางและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ดี...มีหลากหลายแบบที่ต่างกัน
ซึ่งทุกคนควรเลือกแนวที่ตัวเองถนัดและเหมาะสมกับตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน...นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดค่ะน้อง GG :wink:
(อาจบังเอิญไปคล้ายกันบ้างในบางเรื่องก็มาแลกเปลี่ยนกัน)
dr1
Verified User
โพสต์: 842
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 537

โพสต์

ท่านGG จะรู้มั้ยน้อ..(รีบท้วงเนี่ย น่าจะรู้นะ แต่เอ เค้าบอกว่า"อยู่ในวงการการตลาด"นี่หว่า..)
ว่า GCในบางวงการมันย่อมาจากgonococcus น่ะ

ไปล่ะ...ฟิ้ววว..
samatah
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 538

โพสต์

dr1 เขียน:ท่านGG จะรู้มั้ยน้อ..(รีบท้วงเนี่ย น่าจะรู้นะ แต่เอ เค้าบอกว่า"อยู่ในวงการการตลาด"นี่หว่า..)
ว่า GCในบางวงการมันย่อมาจากgonococcus น่ะ

ไปล่ะ...ฟิ้ววว..
คุณหมอ dr1 อย่าไปบอกสิคะ อิ อิ..เก็บไว้รู้ในบางวงการก็พอค่ะ...555+
GG
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 539

โพสต์

theenuch เขียน:
dr1 เขียน:ท่านGG จะรู้มั้ยน้อ..(รีบท้วงเนี่ย น่าจะรู้นะ แต่เอ เค้าบอกว่า"อยู่ในวงการการตลาด"นี่หว่า..)
ว่า GCในบางวงการมันย่อมาจากgonococcus น่ะ

ไปล่ะ...ฟิ้ววว..
คุณหมอ dr1 อย่าไปบอกสิคะ อิ อิ..เก็บไว้รู้ในบางวงการก็พอค่ะ...555+
ตายล่ะ พี่หมอหนึ่งมาแซวและทิ้งข้อสงสัยไว้ให้ผมด้วยซิ ผมยิ่งเป็นคนหัวช้าอยู่ เดวต้องขอตัวไปหาความหมายและตีความที่พี่หมอหนึ่งแซวไว้ก่อนล่ะครับ
gonococcus gonococcus gonococcus.... มันคืออารายหว่า :roll: :roll: :roll:
How not to be your own worst enemy
GG
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: VI บ้าน ๆ

โพสต์ที่ 540

โพสต์

GG เขียน:
theenuch เขียน:
dr1 เขียน:ท่านGG จะรู้มั้ยน้อ..(รีบท้วงเนี่ย น่าจะรู้นะ แต่เอ เค้าบอกว่า"อยู่ในวงการการตลาด"นี่หว่า..)
ว่า GCในบางวงการมันย่อมาจากgonococcus น่ะ

ไปล่ะ...ฟิ้ววว..
คุณหมอ dr1 อย่าไปบอกสิคะ อิ อิ..เก็บไว้รู้ในบางวงการก็พอค่ะ...555+
ตายล่ะ พี่หมอหนึ่งมาแซวและทิ้งข้อสงสัยไว้ให้ผมด้วยซิ ผมยิ่งเป็นคนหัวช้าอยู่ เดวต้องขอตัวไปหาความหมายและตีความที่พี่หมอหนึ่งแซวไว้ก่อนล่ะครับ
gonococcus gonococcus gonococcus.... มันคืออารายหว่า :roll: :roll: :roll:
OIC ครับพี่หมอหนึ่งและพี่นุช ดีแล้วแหล่ะครับที่ผมไม่รุ้ และท้วงไปว่าพี่นุชเรียกชื่อย่อผมผิด เพราะถ้าเป็น GC ไม่ใช่ GG นี่แย่แน่ๆเลยคร้าบบบ หุหุ :B
How not to be your own worst enemy