VI บ้าน ๆ
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 451
ชอบครับ ความสุขเกิดจากการใช้อย่างพอเพียง และรู้จักใช้จริง ๆ
ส่วนการใช้แบบไม่รู้จักพอ มันเป็นการส่งเสริมสร้างความทุกข์อย่างเดียว และเป็นส่วนใหญ่ของสังคมซะด้วย
และขอบคุณอีกครั้งสำหรับตัวอย่างที่ดีทุกท่าน และนำมาบอกต่อ
ส่วนการใช้แบบไม่รู้จักพอ มันเป็นการส่งเสริมสร้างความทุกข์อย่างเดียว และเป็นส่วนใหญ่ของสังคมซะด้วย
และขอบคุณอีกครั้งสำหรับตัวอย่างที่ดีทุกท่าน และนำมาบอกต่อ
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 452
สวัสดีทุกท่านครับ
Dalat เป็นเมืองที่โตเร็วและสวยแห่งหนึ่งของเวียดนาม สนามบินใหม่ครับถึงจะเล็กแต่ทันสมัยเพราะพึ่งสร้างได้ 4-5 ปี
ทัศนียภาพของเมืองครับ
Dalat เป็นเมืองที่โตเร็วและสวยแห่งหนึ่งของเวียดนาม สนามบินใหม่ครับถึงจะเล็กแต่ทันสมัยเพราะพึ่งสร้างได้ 4-5 ปี
ทัศนียภาพของเมืองครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 453
อากาศเย็นสบายมากครับ โรงแรมที่นี่ไม่ติดแอร์ในห้อง แค่แง้มหน้าต่างไว้ ก็เย็นมาก ๆ ครับ เป็นเมืองแห่ง ดอกไม้ กาแฟ และการท่องเที่ยว
ผมก็ไม่เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ครับ
ทราบว่าคุณนุชและหลายท่านชื่นชมดอกไม้ ผมพยายามเก็บภาพมาฝาก ภาพนี้เป็นภาพที่สวนดอกไม้ของเมืองครับ
ความงามของดอกไม้ คงไม่ดรอปไปตามฝีมือของคนถ่ายรูปนะครับ
ผมก็ไม่เชี่ยวชาญด้านดอกไม้ครับ
ทราบว่าคุณนุชและหลายท่านชื่นชมดอกไม้ ผมพยายามเก็บภาพมาฝาก ภาพนี้เป็นภาพที่สวนดอกไม้ของเมืองครับ
ความงามของดอกไม้ คงไม่ดรอปไปตามฝีมือของคนถ่ายรูปนะครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 455
ชีวิตผมนั้น 90% ของการเดินทางเป็นการไป Business Trip
เศรษฐกิจเวียดนามนั้นโตและคนเวียดนามก็มองเห็นว่าประเทศเค้ากำลังโตครับ ธนาคารอันดับหนึ่งก็คือ Agribank อันดับสอง คือ VietinBank
ผมไปถึงก็ซื้อซิม ของ Mobifone แล้วก็ใช้เน็ตได้ รู้สึกว่าเร็วกว่าของไทยอีกนะ เมืองท่องเที่ยวก็คงเป็นแบบนี้ เงินไทยใช้ได้ที่นี่ไม่ต้องแลกเงินไปมาก เดินในตลาดก็เจอคนไทย นักธุรกิจไทย
น้ำตกที่นี่ก็สวยครับ
เศรษฐกิจเวียดนามนั้นโตและคนเวียดนามก็มองเห็นว่าประเทศเค้ากำลังโตครับ ธนาคารอันดับหนึ่งก็คือ Agribank อันดับสอง คือ VietinBank
ผมไปถึงก็ซื้อซิม ของ Mobifone แล้วก็ใช้เน็ตได้ รู้สึกว่าเร็วกว่าของไทยอีกนะ เมืองท่องเที่ยวก็คงเป็นแบบนี้ เงินไทยใช้ได้ที่นี่ไม่ต้องแลกเงินไปมาก เดินในตลาดก็เจอคนไทย นักธุรกิจไทย
น้ำตกที่นี่ก็สวยครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 456
เป็นการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวได้จืดชืดจริง ๆ
สงสัยผมเหมาะจะรีวิวหุ้นอย่างเดียว
สงสัยผมเหมาะจะรีวิวหุ้นอย่างเดียว
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 457
ไม่จืดชืดหรอกค่ะ คุณ NBNevercry.boy เขียน:เป็นการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวได้จืดชืดจริง ๆ
สงสัยผมเหมาะจะรีวิวหุ้นอย่างเดียว
แต่ตอนรีวิวหุ้น กับการลงทุนที่คุณ NB ถนัดกว่า ก็เลยจะ "คม" กว่าค่ะ
ขอบอกว่า "ปูเสื่อรอ" อยู่หลายวัน จนเสบียงร่อยหรอ
นึกว่าคุณ NB ลืมซะแล้ว อิ อิ...ก็คุณ NB บอกว่า
แบบนี้เลย 555Nevercry.boy เขียน:พรุ่งนี้กลับไทยมีรูปและเรื่องราวของดาลัท เวียดนาม มาฝาก
ขอบคุณมากเลยค่ะ...ไม่ได้มีแค่ภาพมาฝากยังมีวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจด้วย
เป็นการรีวิว style นักลงทุน...พวกเราก็ได้ความรู้ไปด้วยค่ะ
ภาพดอกไม้น่ารักมาก ดอกแดงๆ save ภาพออกไปขยายดูชัดๆ
ต้นมันมีขนอ่อนๆ เยอะเลยนะคะทีแรกนึกว่าคะนิ้งเกาะ...เข้าใจเลือกถ่ายได้น่าสนใจค่ะ ^_*
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 458
เข้ามาชมรูปสวยๆจากทริปของพี่NBด้วยอีกคนtheenuch เขียน:ไม่จืดชืดหรอกค่ะ คุณ NBNevercry.boy เขียน:เป็นการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวได้จืดชืดจริง ๆ
สงสัยผมเหมาะจะรีวิวหุ้นอย่างเดียว
แต่ตอนรีวิวหุ้น กับการลงทุนที่คุณ NB ถนัดกว่า ก็เลยจะ "คม" กว่าค่ะ
ขอบอกว่า "ปูเสื่อรอ" อยู่หลายวัน จนเสบียงร่อยหรอ
นึกว่าคุณ NB ลืมซะแล้ว อิ อิ...ก็คุณ NB บอกว่าแบบนี้เลย 555Nevercry.boy เขียน:พรุ่งนี้กลับไทยมีรูปและเรื่องราวของดาลัท เวียดนาม มาฝาก
ผมรับแต่ของฝากจากคนอื่น วันนี้เลยถือโอกาสเอาปูม้าที่อร่อยที่สุดในโลก(ปูม้าดอนสัก)
มาเติมเสบียงบนเสื่อของพี่นุช
แลกเปลี่ยนกับของฝากที่พี่NBเอาไปฝากในกระทู้วีไอหาดใหญ่น๊ะครับ
(ปล.พี่นุชครับ ผมทำน้ำจิ้มไม่เป็น
รบกวนพี่ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดส์เพื่อกินกับปูให้ถ้วยนึงน๊ะครับ)
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 459
เคยผ่านไปดอนสักเมื่อปี 2544 ไปส่งพี่ย้ายไปทำงาน ปตท อ.ขนอม แต่ไม่มีวาสนาได้ชิมปูดอนสักเลย
รอเมื่อไหร่จะมี ดอนสักมิตติ้ง จะได้ขอวีซ่า
รอเมื่อไหร่จะมี ดอนสักมิตติ้ง จะได้ขอวีซ่า
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 460
555+oatty เขียน:เคยผ่านไปดอนสักเมื่อปี 2544 ไปส่งพี่ย้ายไปทำงาน ปตท อ.ขนอม แต่ไม่มีวาสนาได้ชิมปูดอนสักเลย
รอเมื่อไหร่จะมี ดอนสักมิตติ้ง จะได้ขอวีซ่า
พี่โอ๊ตขอวีซ่าได้เลยครับ
จากนั้นบอกผมว่าขอได้วันไหน ผมจะจัดงานดอนสักมีทติ้งให้พี่ทันทีครับ
(แฮ่...ถ้าไม่มีใครมาร่วมงาน เราก็มีทติ้งกัน2คน... )
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 461
บางครั้งผมก็หาหุ้นจากเงินปันผลนะครับ โดยเฉพาะในยามที่ตลาดเป็นขาลงหรือไม่เป็นใจ เท่าที่สังเกตดูถ้า yield นั้นสูงถึงสูงมาก เช่น 8% ขึ้นไป โอกาสที่หุ้นตัวนั้นจะลงไปอีกจะค่อนข้างน้อยครับ ถ้าตลาดไม่ panic มากจริง ๆ เพราะคนที่อยากจะได้เงินปันผลที่สูง ๆ ก็จะเข้ามารับหุ้น ซึ่งโอกาสแบบนี้มักจะเห็นได้มากขึ้นเวลาที่ตลาดไม่ดีครับ ซึ่งถ้าอารมณ์ตลาดดีขึ้นหรือใกล้ช่วงที่จะจ่ายเงินปันผลราคาหุ้นก็จะขยับขึ้นไป มากน้อยก็แล้วแต่ว่าจะเป็นหุ้นแบบไหน แต่การคาดการณ์เงินปันผลที่จะได้รับนั้น โอกาสจะผิดพลาดก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหุ้นแบบไหนด้วย ถ้าเป็นหุ้นที่กำไรสมำเสมอโอกาสผิดก็น้อยNevercry.boy เขียน:ขอบคุณคุณนุชมากครับ
เงินปันผล นี่เป็นเกณฑ์หนึ่งที่ผมใช้ในการเสาะหาเลือกหุ้น ไม่ใช่เพราะว่าเราจะเลือกหุ้นปันผลสูงอย่างเดียว ผมมองในลักษณะนี้ครับ
1. เงินปันผลคือสิ่งที่แสดงถึงความสามารถของบริษัทที่จะมอบให้กับเราได้ทางตรง (ทางอ้อมคือ capital gain ซึ่งขึ้นกับ Mr.Market, Growth ฯลฯ)
2. เมื่อบริษัทบริหารงานได้ดีมีการเจริญเติบโต เงินปันผลก็จะสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้าง passive income ของเราให้เข้มแข็งขึ้นครับ
ที่สำคัญถ้าเกิดโชคดีเจอหุ้น yield สูงแล้วยังมี story ที่กำไรโตขึ้นด้วย อันนี้ถือว่าเป็นโบนัสครับ หลายบ.มี story แบบนี้อยู่ แต่บางครั้งตลาดก็มองข้ามไปเฉย ๆ อาจจะเพราะความเชื่อที่ว่าหุ้นปันผลสูงไม่น่าสนใจ ไม่โต หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมคนหนึ่งครับ ถ้าเจอจะไม่มีทางเฉยแน่ครับ โอกาสจะเจอหุ้นแบบนี้ถึงแม้จะไม่บ่อย แต่ถ้าเจอแล้วมันไม่ใช่ว่าจะได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างเดียวนะครับ ดีไม่ดี capital gain ที่ได้นี่มากกว่าปันผลมากมายครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 462
ผมเคยไปเขาสกครับ ตอนกำลังจะเรียนจบ ราว ๆ 15 ปีก่อน ถ้าจะไปจริง ๆ ผมว่าควรไปเป็นหมู่คณะครับ ยกเว้นว่าจะมีความชำนาญในการไปเที่ยวป่า เพราะว่าในอุทยานนี่ถ้าเป็นส่วนที่เลยจะบ้านพักไปจะเดินเข้าไปได้เรื่อย ๆ เป็น 10 กม.เลยครับ แต่ละจุดก็จะมีน้ำตก ยิ่งลึกยิ่งไม่ค่อยมีคน บางจุดก็ต้องเดินบนทางแคบ ๆ มองลงไปเป็นเหวน้ำตก บางจุดต้องเดินตัดทางน้ำ อย่างดอกบัวผุดถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะอยู่ในป่าส่วนลึก ๆ หน่อยครับ ความประทับใจในการไปครั้งนั้นที่จำได้แม่นคือ วันแรกเข้าไปเดินป่าอยู่ ๆ ฝนตก แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีทากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเจอทากเพราะเดิมคิดว่ามีแต่ที่ภูกระดึง สุดท้ายทุกคนวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ใครอยู่ท้ายจะโดนทากกระโดดใส่เพราะมันจะจับความสั่นสะเทือน บางคนไม่ยอมเอาทากออก บอกว่าให้มันกัดแล้วไปแกะทีเดียว ผลที่ได้คือทากตัวใหญ่ขึ้นมาก คราวนี้แกะทีเลือดไหลไม่หยุดครับ อีกเรื่องหนึ่งที่จำได้ขึ้นใจคือป้ายบอกทางครับ ทุก ๆ 2-3 กม.จะมีน้ำตกหรือสถานที่สำคัญ ๆ ผมจำได้ว่ามันจะมีน้ำตกหินวิ่งซึ่งใกล้ที่สุดระยะทาง 2 กม.จากจุดเริ่มต้น พอเดินมาได้ซักพักซึ่งคิดว่าไกลพอควร มองไปที่ป้ายอันใหม่ก็ยังคงเป็นน้ำตกหินวิ่งอีก 2 กม.theenuch เขียน:ขอบคุณ คุณ jverakul นะคะ...สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมjverakul เขียน: แนะนำสำหรับขาลุยครับ
ผมเคยไปเขาสก ตรงที่เป็นอุทยาน ตอนนั้นผมนั่งรถมาจากพังงา....ธรรมชาติค่อนข้างสวย เพราะไม่ค่อยมีคนมาพลุกพล่านเท่าใหร่ ส่วนใหญ่ที่เจอก็จะเป็นฝรั่งมากกว่า คนไทย ใช้เวลาเดินไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไม่ได้นอนบ้านพัก แต่กางเต็นนอนข้างลำธารใกล้ๆ ที่ทำการอุทยาน อากาศค่อนข้างเย็นสบายดี ในช่วงนั้น แต่อยู่แค่ 2 คืน ก็กลับ
PS. ไปคนเดียวเลยไม่ค่อยสนุกเท่าใหร่
(ที่เดียวกับคุณหมอ dr1 บอกค่ะ)
และยินดีต้อนรับสู่บ้านของพวกเราด้วยค่ะ
ดอกไม้ที่ว่าน่าจะเป็นดอก "บัวผุด" ตามรูปนี้ค่ะ ดูข้อมูลพบว่าบานช่วง พฤศจิกายน - มีนาคม ค่ะ
"ดอกบัวผุด" คือหนึ่งในเป้าหมายที่อยากไปเจอเช่นกันค่ะ
แต่ก็ต้องแล้วแต่ธรรมชาตินะคะเราคงไปกำหนดยาก
ไปดอยแม่สลองมาปีนี้ยังไม่เจอพญาเสือโคร่งบานเลยค่ะ...ทั้งที่อยู่ในช่วง
เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าน่าจะบานเดือน กุมภา'....ให้กลับไปใหม่อีกรอบค่ะ
แต่ก็ชอบบรยากาศดอยแม่สลองเท่าที่ได้สัมผัสแล้วค่ะ
"Become a risk taker, not a risk maker"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 463
สวัสดีจารย์หมอเล็กครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 464
สวัสดีครับ หลังจากศึกใหญ่ คุณ Nevercry.boy ยังสบายดีอยู่นะครับ ว่าง ๆ อาจจะเข้าไปทักทายในห้องแมนฯยูครับ ผมเพิ่งเห็นเหมือนกันว่ามีห้องนั้นอยู่ด้วยNevercry.boy เขียน:สวัสดีจารย์หมอเล็กครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 465
โห ไม่ได้แวะเข้ามาดูแป๊บเดียวบ้านเราคึกคักน่าดูsaichon เขียน: เข้ามาชมรูปสวยๆจากทริปของพี่NBด้วยอีกคน
ผมรับแต่ของฝากจากคนอื่น วันนี้เลยถือโอกาสเอาปูม้าที่อร่อยที่สุดในโลก(ปูม้าดอนสัก)
มาเติมเสบียงบนเสื่อของพี่นุช
แลกเปลี่ยนกับของฝากที่พี่NBเอาไปฝากในกระทู้วีไอหาดใหญ่น๊ะครับ
(ปล.พี่นุชครับ ผมทำน้ำจิ้มไม่เป็น
รบกวนพี่ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดส์เพื่อกินกับปูให้ถ้วยนึงน๊ะครับ)
รอพี่ทำน้ำจิ้ม...เกรงว่าพวกเราจะอดกินกันหมดน่ะสิ...น้องสายชล
เรื่องทำอาหารกับเย็บปักถักร้อย...พี่สอบไม่ผ่าน
ให้ไป จับจอบ จับเสียม ขุดดิน จะถนัดกว่ามากเลยค่ะ
ขอบคุณ "ปูม้าดอนสัก" น่ากินมาก...ได้แต่นั่งมองอีก...แกะไม่เป็น
ครั้งหน้าน้องสายชลแกะมาเลยนะ...พร้อมน้ำจิ้ม 555
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 466
แอบดู "น้อง oatty" กับ "น้องสายชล"...แอบนัดแนะกัน
จะตกลงกันได้มั้ยนะ...555
และดูเหมือนจะไปกระทำการอันมิชอบใดๆ
ต้องฝากชาว "VI หาดใหญ่" ช่วยจับตาดูสองหนุ่มนี้เป็นพิเศษแล้วค่ะ
คนนี้...เค้าบอกให้น้องสายชลกำหนดวันจัด "ดอนสักมิตติ้ง" ก่อน...จะได้มีข้ออ้างขอวีซ่าoatty เขียน:รอเมื่อไหร่จะมี ดอนสักมิตติ้ง จะได้ขอวีซ่า
ส่วนคนนี้...เค้าก็บอกให้คนข้างบนขอวีซ่าให้ได้ก่อน...แล้วจะจัดมิตติ้งให้saichon เขียน:555+
พี่โอ๊ตขอวีซ่าได้เลยครับ
จากนั้นบอกผมว่าขอได้วันไหน ผมจะจัดงานดอนสักมีทติ้งให้พี่ทันทีครับ
(แฮ่...ถ้าไม่มีใครมาร่วมงาน เราก็มีทติ้งกัน2คน... )
จะตกลงกันได้มั้ยนะ...555
และดูเหมือนจะไปกระทำการอันมิชอบใดๆ
ต้องฝากชาว "VI หาดใหญ่" ช่วยจับตาดูสองหนุ่มนี้เป็นพิเศษแล้วค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 467
ดีใจ...คุณหมอ leky แวะมาทักทาย และขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวเขาสกเพิ่มเติมค่ะ...ขำสีน้ำเงินค่ะleky เขียน:ถ้าจะไปจริง ๆ ผมว่าควรไปเป็นหมู่คณะครับ ยกเว้นว่าจะมีความชำนาญในการไปเที่ยวป่า
ความประทับใจในการไปครั้งนั้นที่จำได้แม่นคือ วันแรกเข้าไปเดินป่าอยู่ ๆ ฝนตก แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีทากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเจอทากเพราะเดิมคิดว่ามีแต่ที่ภูกระดึง สุดท้ายทุกคนวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ใครอยู่ท้ายจะโดนทากกระโดดใส่เพราะมันจะจับความสั่นสะเทือน บางคนไม่ยอมเอาทากออก บอกว่าให้มันกัดแล้วไปแกะทีเดียว ผลที่ได้คือทากตัวใหญ่ขึ้นมาก คราวนี้แกะทีเลือดไหลไม่หยุดครับ อีกเรื่องหนึ่งที่จำได้ขึ้นใจคือป้ายบอกทางครับ ทุก ๆ 2-3 กม.จะมีน้ำตกหรือสถานที่สำคัญ ๆ ผมจำได้ว่ามันจะมีน้ำตกหินวิ่งซึ่งใกล้ที่สุดระยะทาง 2 กม.จากจุดเริ่มต้น พอเดินมาได้ซักพักซึ่งคิดว่าไกลพอควร มองไปที่ป้ายอันใหม่ก็ยังคงเป็นน้ำตกหินวิ่งอีก 2 กม.
leky เขียน: บางครั้งผมก็หาหุ้นจากเงินปันผลนะครับ โดยเฉพาะในยามที่ตลาดเป็นขาลงหรือไม่เป็นใจ เท่าที่สังเกตดูถ้า yield นั้นสูงถึงสูงมาก เช่น 8% ขึ้นไป โอกาสที่หุ้นตัวนั้นจะลงไปอีกจะค่อนข้างน้อยครับ ถ้าตลาดไม่ panic มากจริง ๆ เพราะคนที่อยากจะได้เงินปันผลที่สูง ๆ ก็จะเข้ามารับหุ้น ซึ่งโอกาสแบบนี้มักจะเห็นได้มากขึ้นเวลาที่ตลาดไม่ดีครับ ซึ่งถ้าอารมณ์ตลาดดีขึ้นหรือใกล้ช่วงที่จะจ่ายเงินปันผลราคาหุ้นก็จะขยับขึ้นไป มากน้อยก็แล้วแต่ว่าจะเป็นหุ้นแบบไหน แต่การคาดการณ์เงินปันผลที่จะได้รับนั้น โอกาสจะผิดพลาดก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหุ้นแบบไหนด้วย ถ้าเป็นหุ้นที่กำไรสมำเสมอโอกาสผิดก็น้อย
ที่สำคัญถ้าเกิดโชคดีเจอหุ้น yield สูงแล้วยังมี story ที่กำไรโตขึ้นด้วย อันนี้ถือว่าเป็นโบนัสครับ หลายบ.มี story แบบนี้อยู่ แต่บางครั้งตลาดก็มองข้ามไปเฉย ๆ อาจจะเพราะความเชื่อที่ว่าหุ้นปันผลสูงไม่น่าสนใจ ไม่โต หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมคนหนึ่งครับ ถ้าเจอจะไม่มีทางเฉยแน่ครับ โอกาสจะเจอหุ้นแบบนี้ถึงแม้จะไม่บ่อย แต่ถ้าเจอแล้วมันไม่ใช่ว่าจะได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างเดียวนะครับ ดีไม่ดี capital gain ที่ได้นี่มากกว่าปันผลมากมายครับ
ขอบคุณมากนะคะ...เห็นด้วยเลยค่ะ
มาทักทายกันที่นี้นะคะ...เพื่อนๆ ก็รอรับความรู้จากทั้งสองท่านด้วยค่ะ ^_*leky เขียน:สวัสดีครับ หลังจากศึกใหญ่ คุณ Nevercry.boy ยังสบายดีอยู่นะครับ ว่าง ๆ อาจจะเข้าไปทักทายในห้องแมนฯยูครับ ผมเพิ่งเห็นเหมือนกันว่ามีห้องนั้นอยู่ด้วยNevercry.boy เขียน:สวัสดีจารย์หมอเล็กครับ
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 468
ปีนี้อากาศหนาวเย็นได้ยาว และ หนาวมากกว่าทุกปีนะครับ คุณนุช
เมื่อวานขับรถ อุณหภูมิที่รถผมวัดข้างนอกได้ 14 องศา ต่ำสุดเท่าที่เคยวัดได้มา
วันนี้เริ่มอุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว
สงกรานต์วางแผนเที่ยวหรือยังครับ ของผมเริ่งวางแผนเที่ยวอีกละครับ
ปีนี้จะไปเที่ยว คันไซ แถบโอซากา เกียวโต นาราครับ
ว่าจะไป โกเบ ด้วยครับ เพราะโปรแกรมทัวร์ส่วนมากไม่ได้ไปที่นั่นกัน
แต่เดือนหน้าจะยุ่งๆ หลายเรื่องไปพร้อมๆกันเลยครับ
เมื่อวานขับรถ อุณหภูมิที่รถผมวัดข้างนอกได้ 14 องศา ต่ำสุดเท่าที่เคยวัดได้มา
วันนี้เริ่มอุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว
สงกรานต์วางแผนเที่ยวหรือยังครับ ของผมเริ่งวางแผนเที่ยวอีกละครับ
ปีนี้จะไปเที่ยว คันไซ แถบโอซากา เกียวโต นาราครับ
ว่าจะไป โกเบ ด้วยครับ เพราะโปรแกรมทัวร์ส่วนมากไม่ได้ไปที่นั่นกัน
แต่เดือนหน้าจะยุ่งๆ หลายเรื่องไปพร้อมๆกันเลยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 469
อากาศหนาวตามพี่หมอมุขมาแน่เลยค่ะPaul VI เขียน:ปีนี้อากาศหนาวเย็นได้ยาว และ หนาวมากกว่าทุกปีนะครับ คุณนุช
เมื่อวานขับรถ อุณหภูมิที่รถผมวัดข้างนอกได้ 14 องศา ต่ำสุดเท่าที่เคยวัดได้มา
วันนี้เริ่มอุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว
สงกรานต์วางแผนเที่ยวหรือยังครับ ของผมเริ่งวางแผนเที่ยวอีกละครับ
ปีนี้จะไปเที่ยว คันไซ แถบโอซากา เกียวโต นาราครับ
ว่าจะไป โกเบ ด้วยครับ เพราะโปรแกรมทัวร์ส่วนมากไม่ได้ไปที่นั่นกัน
แต่เดือนหน้าจะยุ่งๆ หลายเรื่องไปพร้อมๆกันเลยครับ
ที่นุชไปญี่ปุ่นมาสองครั้งก็ไปเที่ยวแถวโกเบ โอซากา และเกียวโตค่ะ
คิดถึงญี่ปุ่นอยู่เสมอ แต่ยังไม่มีโอกาสไปอีก...รอติดตามบรรยากาศผ่าน trip ดีๆ ของพี่หมอมุขค่ะ ^_*
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 470
555+theenuch เขียน: โห ไม่ได้แวะเข้ามาดูแป๊บเดียวบ้านเราคึกคักน่าดู
รอพี่ทำน้ำจิ้ม...เกรงว่าพวกเราจะอดกินกันหมดน่ะสิ...น้องสายชล
เรื่องทำอาหารกับเย็บปักถักร้อย...พี่สอบไม่ผ่าน
ให้ไป จับจอบ จับเสียม ขุดดิน จะถนัดกว่ามากเลยค่ะ
ขอบคุณ "ปูม้าดอนสัก" น่ากินมาก...ได้แต่นั่งมองอีก...แกะไม่เป็น
ครั้งหน้าน้องสายชลแกะมาเลยนะ...พร้อมน้ำจิ้ม 555
น้ำจิ้มไม่อร่อยหรือไม่มีก็ไม่เป็นไรครับพี่นุช
ปูม้าที่นี่เค้าดีจริงๆ เราไม่ต้องใช้น้ำจิ้มก็ได้
ส่วนเรื่องแกะนี่ก็ไม่ยาก
แกะไม่ไปทานไป จะเพิ่มอรรถรสการทานมากกว่าทานที่คนอื่นแกะให้เยอะเชียวครับ
(ถ้าพี่มีแผนมาเที่ยวเขาสกอย่าลืมแวะมาลองน๊ะครับ
หรือให้ดี จะพาผมไปเลี้ยงด้วยก็ไม่ขัดข้องครับ ฮ่า.. )
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 471
ขอขอบคุณ "ท่านนายกโจ ของพวกเรา" สำหรับพรที่มีค่าและเป็นแนวทางสำหรับการลงทุนและการดำเนินชีวิตPaul VI เขียน:ข้อความและความในใจที่อยากจะสื่อถึงสมาชิกชาว ThaiVI ของท่านนายกโจ ของพวกเราล่ะครับ
อ่านแล้วสรุปได้ใจความและเป็นสัจธรรมมากๆครับ
นับถือความคิดจริงๆครับ
ขอพื้นที่เล็กๆตรงนี้ กราบสวัสดีปีใหม่ 2557 พี่ๆ น้องๆ สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า ทุกท่าน กราบสวัสดีอาจารย์ ดร.นิเวศน์ อ.ไพบูลย์ พี่ปรัชญา พี่ครรชิต ลุงขวด เฮียคลายเครียด พี่หมอ jfk พี่กะละมัง พี่พี พี่วัฒน์ พี่หลิน พี่หนิง พี่หมอสามัญชน พี่พรรณ พี่ไก่ พี่มน พี่บู พี่วิบูลย์ พี่นัน พี่ตี้ พี่จรัญ หมอหนึ่ง พี่เวป พี่ฉัตร พี่มุข พี่คนขายของ พีเจ๋ง พี่นริศ พี่พอใจ ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองให้ทุกท่านปลอดภัย ปลอดโรคเบียดเบียน พอร์ตโตเฟื่องฟูลอย เหมือนดั่งที่ตั้งใจครับ
ปี 2556 ผ่านไปอีกปี คนมองโลกแง่ร้าย มักบอกตัวเองว่าแก่ขึ้นอีกหนึ่งปี คนมองแง่ดีแบบผม บอกว่าเราโชคดี ได้อยู่รอดปลอดภัยบนโลกใบนี้ ได้พบเจอสิ่งดีๆ มีประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี สภาพตลาดหุ้นปีที่ผ่านมาเป็นแบบ “ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปเป็นบ้องกัญชา” ครึ่งปีแรกดัชนีไต่สูงขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้วพร้อมกับข่าวดีที่โถมทะลักเข้ามา นักลงทุนทุกคนกำไรมากบ้างน้อยบ้าง งานสัมมนาหุ้นผู้คนล้นห้อง หนังสือหุ้นติดชาร์ทซีเอ็ด หนุ่มๆสาวๆใผ่ฝันหาอิสรภาพทางการเงิน แต่โลกนี้ยุติธรรม เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ข่าวร้ายก็ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ สิ้นปีดัชนีที่รวมเงินปันผล(3.23%) ให้ผลตอบแทนสุทธิ -3.47% ติดลบครั้งแรกตั้งแต่วิกฤติซับพลามปี 2551 จากสิ้นปี2555 ดัชนีอยู่ที่ 1391.93 จุด ระหว่างปีทำจุดสูงสุดประมาณ 1650 ต่ำสุดประมาณ 1260 และปิดปลายปีที่ 1298.71 จุด
ผลตอบแทนส่วนตัวก็ยังน่าพอใจ เหมือนทุกๆปี แม้ลดลงจากปีก่อนๆมาก ที่จริงผลตอบแทนหลายปีก่อนๆอาจจะดีเกินไป ตอนนี้กลับสู่ความเป็นจริง >> regression to the mean กลยุทธ์การลงทุนส่วนตัวยังกระจายความเสี่ยงถือหุ้นประมาณ 20 ตัว ไม่ใช้อินไซด์ ไม่กู้เงินมาลงทุน หรือกู้แต่มีเงินสดค้ำประกันทั้งจำนวน ถือหุ้น 90-100% เหมือนที่เคยทำ เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพดี ราคาถูก ไม่ซื้อหุ้นดี พีอีสูง ดังคำพูดที่ว่า “ แสวงหาการลงทุนที่ดี มิใช่แสวงหาหุ้นคุณภาพดีๆ” พยายามมองหาโอกาสจากการมองสั้นๆของตลาด เข้าซื้อหุ้นที่ประสบปัญหาชั่วคราวที่จะแก้ไขได้ในเวลาไม่นาน ราคาที่ลดลงมาก เป็นโอกาสสำหรับคนที่มองยาวกว่า วิธีนี้ซื้อหุ้นแบบนี้ใช้ได้ผลดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ทุกๆปีก็ยังมีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขบ้าง บางคนพูดว่า “ความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” นี่น่าจะจริง สิ่งทิ่ผิดพลาดในปีที่แล้วคือซื้อหุ้นบางตัว ในเวลาที่ตัวเลขอะไรๆดูดีเกินจริง ซึ่งสุดท้ายมันก็ไม่ยั่งยืน โดยคาดหวังว่าจะขายได้ทันก่อนที่มันจะกลับไปแย่ คิดได้แต่ทำไม่ทัน หรือการไม่ยอมแพ้ในหุ้นบางตัวที่เราคิดผิด แต่มิจฉาทิฐิ เป็นอคติบังตาให้เราถัวสู้ สุดท้ายความเสียหายลุกลามเพิ่มขึ้น แต่ข้อดีก็ยังพอมีบ้าง หุ้นบางตัวเราคิดผิด ยอมแพ้แต่เนิ่นๆ ขาดทุนเล็กน้อย ดีกว่าเสียหายหนักหรือเสียโอกาส การไม่ยอมจำนนโดยไปซื้อกิจการที่พีอีสูงๆ กิจการที่สิ่งดีๆถูกสะท้อนเข้าไปในราคาหมดแล้ว ทำให้หลีกเลี่ยงการขาดทุนหนักๆในปีที่ผ่านมาได้
ระยะเวลาการลงทุนในตลาดหุ้นตลอด 14 ปีที่ผ่านมา พอจะเข้าใจบ้างแล้วว่า ไม่มีแนวทางการลงทุนแบบใดๆที่ทำได้ดี ทุกครั้ง ทุกช่วงเวลา แม้กระทั่งแนวทางแบบวีไอ แต่จากที่เห็นและที่พิสูจน์ด้วยตัวเองยังเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า ในระยะยาวที่ผ่านทั้งช่วงดีและร้าย หลักการลงทุนแบบวีไอจะยังเป็นแนวทางการลงทุนที่ดีที่สุด สามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ สร้างคุณภาพชีวิต รักษาสมดุลของสภาพจิตใจ โดยแทบไม่มีข้อจำกัดของอายุนักลงทุนหรือขนาดพอร์ตการลงทุน… บนเส้นทางการลงทุน ซึ่งขอเรียกเท่ห์ๆว่า เส้นทางเกียรติยศ เส้นนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่ถึงจุดหมาย คนที่ทำได้ ต้องทนในสิ่งที่คนอื่นทนไม่ได้ ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำได้ยาก นี่เป็นหน้าที่ของเราที่จะทำอย่างเต็มใจ (วันแรกของปี2557 ที่เขียนบทความนี้หุ้นตก 5.23% ) ยิ่งหุ้นตกเท่าไหร่ ความเสี่ยงในมุมมองของนักลงทุนวีไอ ย่อมลดลงเท่านั้น ดังนั้นเวลาหุ้นตก อย่าทำหงอย แต่ควรกระตือรือร้นศึกษาบริษัทให้มากขึ้น มองหาโอกาสที่ตลาดมีความผิดพลาดระหว่าง "ราคา" กับ "มูลค่า" มากที่สุด ฉกฉวยโอกาสนั้น ในเวลาที่คนอื่นแห่ขายหนีตาย การชนะคนอื่นนั้น เราควรชนะใจตัวเองก่อน การเรียนรู้เท่าทันอารมณ์ การมองความเสี่ยงก่อนเสมอ การไม่หวังผลเลิศเกินไป การแยกตัวออกจากฝูงชน ควรระลึกเสมอว่า อะไรที่มันดูดี มักดีเกินจริง แต่อะไรที่มันดูแย่ ทุกคนหมางเมิน มักจะมีสิ่งดีๆรออยู่เช่นกัน
สิ่งดีๆอีกอย่างในปีที่ผ่านมาคือได้ร่วมงานแสดงมุฑิตาจิตครบ 60 ปี ของท่านอาจารย์ดร.นิเวศน์ ซึ่งสำหรับผมและอีกหลายๆคน คงไม่ได้พูดเกินจริง ที่จะพูดว่า “มีวันนี้เพราะอาจารย์ให้” ขอขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจากอาจารย์ครับ และในปีนี้เองท่านดร.นิเวศน์ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 99 นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในหนังสือที่ชื่อว่า The World’s 99 Greatest Investors-The Secret of Success. สำหรับชีวิตนักลงทุน การเลือกอาจารย์ให้ถูกคน เปรียบเสมือนการเริ่มต้นได้ครึ่งทางแล้ว ขอยืนยันอีกเสียงว่านี่เป็นความจริง !!
โดยส่วนตัวเข้าไปอ่านซ้ำเป็นระยะๆ (จริงๆ แล้ว print ออกมาเก็บไว้ด้วยค่ะ ^_*)
ขอขอบคุณพี่หมอมุขสำหรับ "ข้อความและความในใจที่อยากจะสื่อถึงสมาชิกชาว ThaiVI ของท่านนายกโจ ของพวกเรา"
ที่พี่หมอมุขกรุณานำมาฝาก จึงได้ขออนุญาตพี่หมอมุขเพื่อนำมาฝากเพื่อนๆ และเพื่อความเป็นมงคลแก่กระทู้
และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พวกเราจะได้แวะเข้ามารับพรจากท่านนายกโจของพวกเราได้บ่อยๆ ด้วยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 472
555+theenuch เขียน:แอบดู "น้อง oatty" กับ "น้องสายชล"...แอบนัดแนะกัน
จะตกลงกันได้มั้ยนะ...555
และดูเหมือนจะไปกระทำการอันมิชอบใดๆ
ต้องฝากชาว "VI หาดใหญ่" ช่วยจับตาดูสองหนุ่มนี้เป็นพิเศษแล้วค่ะ
พี่นุชจับประเด็นเก่งจัง
ผมกับพี่โอ๊ต เราเจอกันเมื่อไหร่ นอกจากเรื่องหุ้นแล้วเราก็คุยกันแค่เรื่องลูกๆ,เรื่องครอบครัว
หรือเรื่องการศึกษาธรรมมะ แค่นั้นแหละครับ
ที่ผ่านมาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางไปไหนเลยจริงๆครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 473
อิ อิ..แซวน้องๆ ยามว่างค่ะ 555saichon เขียน:555+theenuch เขียน:แอบดู "น้อง oatty" กับ "น้องสายชล"...แอบนัดแนะกัน
จะตกลงกันได้มั้ยนะ...555
และดูเหมือนจะไปกระทำการอันมิชอบใดๆ
ต้องฝากชาว "VI หาดใหญ่" ช่วยจับตาดูสองหนุ่มนี้เป็นพิเศษแล้วค่ะ
พี่นุชจับประเด็นเก่งจัง
ผมกับพี่โอ๊ต เราเจอกันเมื่อไหร่ นอกจากเรื่องหุ้นแล้วเราก็คุยกันแค่เรื่องลูกๆ,เรื่องครอบครัว
หรือเรื่องการศึกษาธรรมมะ แค่นั้นแหละครับ
ที่ผ่านมาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางไปไหนเลยจริงๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 474
theenuch เขียน:ดีใจ...คุณหมอ leky แวะมาทักทาย และขอบคุณข้อมูลท่องเที่ยวเขาสกเพิ่มเติมค่ะ...ขำสีน้ำเงินค่ะleky เขียน:ถ้าจะไปจริง ๆ ผมว่าควรไปเป็นหมู่คณะครับ ยกเว้นว่าจะมีความชำนาญในการไปเที่ยวป่า
ความประทับใจในการไปครั้งนั้นที่จำได้แม่นคือ วันแรกเข้าไปเดินป่าอยู่ ๆ ฝนตก แล้วก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีทากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเจอทากเพราะเดิมคิดว่ามีแต่ที่ภูกระดึง สุดท้ายทุกคนวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ใครอยู่ท้ายจะโดนทากกระโดดใส่เพราะมันจะจับความสั่นสะเทือน บางคนไม่ยอมเอาทากออก บอกว่าให้มันกัดแล้วไปแกะทีเดียว ผลที่ได้คือทากตัวใหญ่ขึ้นมาก คราวนี้แกะทีเลือดไหลไม่หยุดครับ อีกเรื่องหนึ่งที่จำได้ขึ้นใจคือป้ายบอกทางครับ ทุก ๆ 2-3 กม.จะมีน้ำตกหรือสถานที่สำคัญ ๆ ผมจำได้ว่ามันจะมีน้ำตกหินวิ่งซึ่งใกล้ที่สุดระยะทาง 2 กม.จากจุดเริ่มต้น พอเดินมาได้ซักพักซึ่งคิดว่าไกลพอควร มองไปที่ป้ายอันใหม่ก็ยังคงเป็นน้ำตกหินวิ่งอีก 2 กม.
"Become a risk taker, not a risk maker"
- Paul VI
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 10538
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 476
ผมเคยโดน ทาก ดูดเลือดครั้งแรก ตอนไปปีนเขา ที่ดอยลังกา สมัยยังเรียนอยู่เหมือนกันครับ
ความรู้สึกเหมือนคันๆ แต่ไม่ได้เอะใจ จนเดินไปตั้งไกล ช่วงพักเลย ถอดรองเท้ามาผึ่งขา
พอดึงขากางเกงขึ้นมาหน่อย ก็มีลูกอะไรไม่รู้ สีเขียวเข้มๆ ตกหล่นลงมา กลิ้งไปนิดหน่อย
เลยถามนายพรานว่ามันคือ ลูกอะไร นายพรานหัวเราะใหญ่เลยครับ
ก็ทาก ไงหมอ 555 มันดูดเลือดซะพุงปลิ้น กลมดิ๊กเลย
ความรู้สึกเหมือนคันๆ แต่ไม่ได้เอะใจ จนเดินไปตั้งไกล ช่วงพักเลย ถอดรองเท้ามาผึ่งขา
พอดึงขากางเกงขึ้นมาหน่อย ก็มีลูกอะไรไม่รู้ สีเขียวเข้มๆ ตกหล่นลงมา กลิ้งไปนิดหน่อย
เลยถามนายพรานว่ามันคือ ลูกอะไร นายพรานหัวเราะใหญ่เลยครับ
ก็ทาก ไงหมอ 555 มันดูดเลือดซะพุงปลิ้น กลมดิ๊กเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1219
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 477
ผมเจอบทสัมภาษณ์ของพี่นักลงทุนคนหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจ
ขออนุญาตก๊อปมาเก็บไว้ในกระทู้นี้หน่อยน๊ะครับพี่นุช...
ขออนุญาตก๊อปมาเก็บไว้ในกระทู้นี้หน่อยน๊ะครับพี่นุช...
pakapong_u เขียน:'พอเพียง' หลักคิดลงทุน 'วราพรรณ วงศ์สารคาม'
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Monday, January 27, 2014 06:56
เราควรให้ความสำคัญกับ "จังหวะการเข้าซื้อหุ้น"และ "จิตวิทยามวลชน" ส่วนตัวใช้มาตั้งแต่วันแรกในการลงทุนจนถึงปัจจุบัน
หากทุกคนสามารถนำหลักธรรมประจำใจอย่าง "พรหมวิหาร 4" "เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา" มาปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ "ใจคงเป็นสุข" "วราพรรณ วงศ์สารคาม" แม่บ้านนักลงทุนวีไอวัย 43 ปี ผู้นำหลักธรรมะมาปรับใช้ในชีวิตการลงทุน เธอไม่หวังผลตอบแทน "มหาศาล" ขอแค่สมำเสมอทุกปี จากนีขอยึดหลัก "อนุรักษนิยม" เพราะนันคือ หนทางแห่ง "ความสุขใจ"
"วราพรรณ วงศ์สารคาม" แม่บ้านนักลงทุนวีไอ วัย 43 ปี ผู้นำหลักธรรมะมาปรับใช้ในชีวิตการลงทุน เธอไม่หวังผลตอบแทน "มหาศาล" ขอแค่สม่ำเสมอทุกปี จากนี้ขอยึดหลัก "อนุรักษนิยม" เพราะนั่นคือ หนทางแห่ง "ความสุขใจ"
หากทุกคนสามารถนำหลักธรรมประจำใจอย่าง "พรหมวิหาร 4" ประกอบด้วย "เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา"มาปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ "ใจคงเป็นสุข" เราไม่จำเป็นต้องนำหลักธรรมทั้ง 4 ข้อมาปฏิบัติ ขอเพียงนำหลัก "มุทิตา" (ความยินดี ในเมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข) มาใช้เพียงข้อเดียวเท่านี้ชีวิตเราก็ประสบความสำเร็จแล้ว "นุชวราพรรณ วงศ์สารคาม" นักลงทุนแนววีไอ กล่าวทักทาย"กรุงเทพธุรกิจ Biz Week"
ด้วยการถ่ายทอดคติธรรมสอนใจประจำตัวได้ยินแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า เราเข้าวัดนั่งสมาธิทุกวันนะ แต่ซึมซับหลักธรรมะมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ทุกครั้งที่เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันมีชีวิตลำบากทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตคนเราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความสุขแม้ตลอดชีวิตจะอยู่อย่างสุขสบาย แต่ยังคงใช้เงินอย่างรู้คุณค่า เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ไม่เคยซื้อแพงๆ ซื้อแค่พอใส่ได้ หลักธรรมะง่ายๆเหล่านี้นำมาใช้ในการลงทุนในตลาดหุ้นได้นะ
ความคิดเรื่องการใช้เงินของ "นุช" คล้ายๆ กับ "โจ-อนุรักษ์ บุญแสวง" นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) เจ้าของนามแฝง "โจ ลูกอีสาน" ในเว็บไซต์ Thaivi.com เธอบอกว่า ครั้งหนึ่งเคยเข้าไปอ่านบทความของคุณโจ เรื่องการประหยัด" แกเห็นคุณค่าของเงินทุก บาททุกสตางค์ คุณโจจะไม่นำเงินไปทำอะไรหรือลงทุนอะไรเสี่ยงๆ ฉะนั้นก่อนทำอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้ดี
เธอบอกว่า ส่วนตัวเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก ไม่ได้งกนะ (หัวเราะ) นิสัยรักการออมมีมาตั้งแต่วัยเยาว์ เราเห็นพ่อ-แม่ ใช้เงินประหยัดมากๆ (ยิ้ม) ขณะที่ "อาม่า" ที่เดินทางมาจากเมืองจีน โดยมีเพียงเสื่อผืนหมอนใบ ทำให้เรารู้จักเก็บเงินเข้าธนาคารออมสินมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ โรงเรียนอยู่ใกล้บ้านไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ "บิสวีค" ได้รับการแนะนำให้รู้จัก "นุชวราพรรณ" จาก "โจ ลูกอีสาน" ผู้หญิงคนนี้แม้จะลงทุนไม่นานแค่ 4 ปี แต่เขาถือเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง ลองคุยดูนะ" ประโยคเชื้อเชิญของ "โจ-อนุรักษ์""หญิงวัย 43 ปี" เจ้าของนามแฝง Theenut ในเว็บไซต์ Thaivi.com ย้อนประวัติชีวิตให้ฟังว่า พื้นเพเป็นคนจังหวัดอ่างทอง เราเป็นลูกสาวคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 3 คน คุณพ่อคุณแม่ยึดอาชีพครูชั้นประถมหาเลี้ยงลูกๆ
หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาตอนปลายครอบครัวส่งเรามาอาศัยกับญาติ เพื่อให้เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ณ โรงเรียนเบญจมราชาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรียนถึงแค่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ย้ายกลับไปเรียนต่อที่จังหวัดอ่างทอง ด้วยการสอบชิงทุน ก่อนจะมาศึกษาต่อในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีศรีธัญญา จังหวัดนนทบุรี
เริ่มทำงานแห่งแรกในสถานีอนามัย อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง จากนั้นย้ายไปทำงานใช้ทุนการศึกษาประมาณ 4 ปี ณ สาธารณสุขชุมชน (หมออนามัย) ตอนนั้นได้เงินแค่เดือน 2,800 บาท ระหว่างทำงานใช้ทุนพยาบาล มีโอกาสได้เรียนต่อคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาสุขศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ปี
เมื่อเรียนจบก็สอบเปลี่ยนตำแหน่งเป็นนักวิชาการสาธารณสุข และเข้ามาทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพ ตั้งแต่ปี 2537-2545 จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (มศว.) เรียนรุ่นเดียวกับ "อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์" นักจัดรายการวิทยุ และพิธีกร เรานั่งเรียนข้างกัน เธอ บอก
ด้วยความที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนทำงานเป็นนักวิชาการสาธารณสุข เคยอยากย้ายตัวเองไปทำงานเกี่ยวกับสังคมสงเคราะห์บนดอย แต่ "พ่อ" บอกว่า ไม่จำเป็นหากเรามีจิตใจอยากช่วยเหลือคนอยู่ที่ไหนก็ช่วยได้
จากนั้นตัดสินใจไปทำงานที่เทศบาลรังสิต จังหวัดปทุมธานี ประมาณ 5 ปี ก่อนจะย้ายไปทำตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำอยู่ 4 ปี ย้ายงานอีกครั้ง คราวนี้มาทำงานในโรงพยาบาล ศูนย์มหาวชิราลงกรณ์ ธัญบุรี ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน
ถามถึง "จุดเริ่มต้น" ของการลงทุนในตลาดหุ้นเธอบอกว่า จริงๆลงทุนครั้งแรกด้วยการซื้อคอนโดมิเนียม แถวมหาวิทยาลัยบูรพา ถือเป็นการลงทุนแบบไม่ตั้งใจ บังเอิญมีคนจะขายคอนโดมิเนียม เพราะเขาร้อนเงิน เราจึงตัดสินใจซื้อ เพื่อปล่อยให้นักศึกษาเช่าเดือนละ 3,000 กว่าบาท ซื้อมาในราคา 385,000 บาท พื้นที่ประมาณ 28 ตารางเมตร
ด้วยความที่เป็นคนชอบทำความสะอาดและดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง ขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ไกลมากไปทุกวันคงไม่ไหวจึงตัดใจขายทิ้งในราคา 450,000 บาท ได้กำไรมานิดหน่อย จากนั้นเรานำเงินที่ได้จากการขายคอนโดมิเนียมมาลงทุนในตลาดหุ้นต่อ ด้วยการเปิดพอร์ตลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) "เวลาจะทำอะไรสักอย่างไม่ชอบถามใคร ชอบอ่าน และหาข้อมูลเอง ถามว่า หาความรู้จากไหนตามเว็บไซต์ทั่วไป หรืออ่านหนังสือ"
ก่อนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นปี 2553 มีโอกาสได้ศึกษาหาข้อมูลต่างๆ ด้วยการอ่านหนังสือ "ตีแตก" ของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" หนังสือ "ออมเงินให้ได้เป็นล้าน" และอ่านบทความต่างๆตามเว็บไซต์ "ไทยวีไอ" และ เว็บไซต์พันทิป
"นุช" นิยามให้ตัวเองเป็น "นักลงทุนวีไอบ้านๆ" เธอบอกว่า ระหว่างที่อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ บังเอิญไปเจอหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก"ของ "โรเบิร์ต คิโยซากิ" เมื่ออ่านจบพร้อมพิจารณาตามทำให้พบว่า หากทำตามผู้เขียนแนะนำน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะครอบครัวของเราอยู่ในสายงานที่มีสามีทำงานเป็นพนักงานเอกชน ขณะที่เราเป็นข้าราชการ ฉะนั้นหากวันใดบริษัทเอกชนปิดกิจการ พนักงานถูกเลิกจ้าง ครอบครัวเราคงแย่ เพราะรายได้หลักมาจากงานของ "สามี"
เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงเกิดความคิดว่า ต้องลงทุนอะไรสักอย่างที่ให้ "ผลตอบแทนกลับคืนมา"ครั้นจะไปทำธุรกิจส่วนตัวก็ไม่มีความรู้ไม่ถนัด ฉะนั้นจึงลองลงทุนในตลาดหุ้น จริงๆ เข้ามาลงทุนไม่ได้หวังว่า จะมีผลตอบแทนงอกเงยมากมาย หวังแค่ "เงินปันผล" ที่ มากกว่าดอกเบี้ยธนาคาร ช่วงนั้นดอกเบี้ยแบงก์อยู่ระดับ 4-5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะปรับลดลงเหลือ 2-3 เปอร์เซ็นต์
"หุ้นตัวแรกที่ตัดสินใจซื้อ" คือ หุ้น ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA และ หุ้น ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) หรือ TRUBB ถามว่าทำไมถึงสนใจหุ้น 2 ตัวนี้? ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า "กรุณาอย่าทำตาม คุณอาจตายแบบฝังกลบได้" เธอเตือนเหตุผลที่เลือกซื้อหุ้น ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี เพราะไปอ่านเจอในเว็บไซต์แห่งหนึ่งว่าหุ้นตัวนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จากหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท ในเว็บไซต์ยังบอกอีกว่า เจ้ามือกำลังจะไล่ราคา!!
ตอนนั้นช้อนที่ระดับ 60 บาทต่อหุ้น ซื้อไม่นานราคาหุ้นถูกไล่ราคาขึ้นไปถึง 100 กว่าบาท ใช้เวลาเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น ตอนนั้นธุรกิจยางพาราดีมาก ยางมีราคาสูงเวอร์ ขณะที่บริษัทยังส่งออกไปขายในเมืองจีนด้วย ดูภาพรวมๆธุรกิจน่าจะเติบโตต่อเนื่อง
หลังจากนั้นไม่นานเราไปอ่านเจอในเว็บไซต์อีกว่า จะมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งขายหุ้นออกมาหลังบริษัทแตกพาร์ ขณะที่มีอีกฝ่ายบอกว่า อย่าเพิ่งขายหุ้นหลังแตกพาร์ เพราะราคาหุ้นจะขึ้นไปอีก สุดท้ายตัดสินใจขายหุ้นในราคา 20 กว่าบาท ราคาพาร์ใหม่ แต่ถ้าเป็นราคาพาร์เดิมราคาน่าจะอยู่ระดับ 100 กว่าบาท ส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาค่อนข้างเยอะ
ส่วนสาเหตุที่ช้อนหุ้น ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น พฤติกรรมจะคล้ายๆ กัน นั่นคือ อ่านเจอข่าวในเว็บไซต์แห่งหนึ่งว่า บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หุ้นตัวนี้จำต้นทุนที่ซื้อมาไม่ได้ แต่ถือนานพอสมควร เราขายหุ้นแม่ออกไปก่อน เมื่อราคาหุ้นปันผลปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็ขายออกไปจนหมด ทำให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาพอสมควร
เชื่อหรือไม่!!ช่วงแรกๆ ของการลงทุนชีวิตแทบไม่มีความสุขเลย นั่งไม่ติดเก้าอี้ต้องคอยเช็คข่าวตลอดเวลาว่า มีข่าวอะไรออกมาหรือไม่ หลายคนอาจสงสัยทำไมช่วงแรกของการลงทุนถึงไม่ขาดทุน นั่นเป็นเพราะเราเข้าไปซื้อตอนตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น หลังเพิ่งผ่านวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2551 มาใหม่ๆ ไม่เช่นนั้นพอร์ตลงทุนคงติดลบ
"ควรให้ความสำคัญกับ "จังหวะการเข้าซื้อหุ้น" และ "จิตวิทยามวลชน" เราใช้มาตั้งแต่วันแรกของการลงทุนจนถึงปัจจุบัน"
เธอ บอกว่า ระหว่างการลงทุนยังคงศึกษาหาความรู้จากการอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นเกิดความรู้สึกไม่อยากเป็นนักลงทุนที่มีแต่ความกระวนกระวายใจ ต้องคอยนั่งตามข่าว คิดได้เช่นนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการลงทุน ด้วยการหันมาลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่ดี เพื่อถือลงทุนระยะยาว
ปัจจุบันมีหุ้น 3 ตัว แต่หลักๆจะมีแค่ 2 ตัว สัดส่วนเงินลงทุนประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะเก็บไว้เป็นเงินสดรอจังหวะช้อนหุ้นดีๆในช่วงราคาถูกๆ เธอเล่าถึงหุ้นตัวแรกให้ฟังว่า เป็น "กลุ่มค้าปลีก" เลือกหุ้นตัวนี้ เพราะดูงบการเงินย้อนหลัง 3-5 ปีก่อนเขาเติบโตตลอด แถมมีหนี้สินน้อยนิด
เขาเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้วยเงินสด มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นทุกปี เรารู้สึกว่า หุ้นลักษณะนี้มี "ความปลอดภัย" ไม่ต้องคอยนั่งตามข่าว เธอย้ำ ที่สำคัญเวลาบริษัทแถลงแผนธุรกิจเขาสามารถทำได้จริง
ส่วนหุ้นตัวที่สองเป็น "กลุ่มสื่อสาร" เลือกลงทุนเพราะเขาจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงเฉลี่ย 7 เปอร์เซ็นต์ แถมสม่ำเสมอทุกปี ในอนาคตอาจจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงขึ้นไปอีก เนื่องจากบริษัทมีค่าสัมปทานลดลงบนคลื่นความถี่ใหม่ 3G และเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตสูงตลอด เขาทำธุรกิจที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ตาม นั่นคือ ข้อได้เปรียบของเขา
ก่อนจะซื้อหุ้น 1 ตัว มักดูงบการเงินย้อนหลัง 3-5 ปี โดยต้องเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทต้องมีการจ่ายเงินปันผลเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ส่วนตัวชอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการ "อุปโภค-บริโภค" ภายในประเทศ เพราะว่าไม่มี "ความเสี่ยง" เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินบาท รวมทั้งไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในต่างประเทศ หุ้นประเภทนี้มักมีกำไรขั้นต้นดี และมีอำนาจต่อรองกับคู่ค้าสูง
"เราลงทุนในตลาดหุ้นหวังเพียงมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนประจำ เพื่อรองรับชีวิตวัยเกษียณ จากนี้จะขอยึดหลักลงทุนแบบ "อนุรักษ์นิยม" ไม่จำเป็นต้องมีกำไรมากมาย ขอแค่ทำทุกวันให้ดี เมื่อเหตุดี ผลที่ดีจะตามมา ก่อนจะลงทุนในหุ้นพื้นฐานสักตัวควรศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อน อย่าคิดแค่ว่า ทุกแห่งที่คุณเข้าไปแล้วจะสามารถหยิบอะไรกลับมาง่ายๆ" "นักลงทุนวีไอบ้านๆ" ทิ้งแง่คิดให้เม่าน้อยพิจารณาตาม--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 479
ขอบคุณพี่หมอมุขกับน้องสายชลมากนะคะ
ขออนุญาตนำ "พรจากคุณโจ" มาด้วยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจทุกๆ วัน
ประโยคสั้นๆ แต่มีคุณค่าและความหมายต่อจิตใจมากค่ะ
เกรงใจคุณโจจัง อุตส่าห์ให้โอกาสไปพูดถึงการลงทุนแนว VI...แต่ออกมาไม่ค่อยดีเท่าที่ควรค่ะ
จริงๆ แล้วที่บอกว่าพรหมวิหาร 4 เน้นข้อเดียวนั้น เฉพาะกับการลงทุน
ในชีวิตจริงเราควรเน้นทั้ง 4 ข้อ อย่างสม่ำเสมอค่ะ
ยังมีสิ่งต่างๆ ที่เรายังต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต...
"มุทิตา"...สำคัญมาก...ถ้าเราชื่นชมในความสำเร็จของผู้อื่นได้ง่าย
จิตใจของเราจะเปิดและพร้อมที่จะเรียนรู้จากผู้อื่นได้ง่ายเช่นกัน
ครูดีมีอยู่รอบตัว...แม้แต่ผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่าเรายังเป็นครูของเราได้
.....................................
ภาพใน bizweek ตลกมากเลยค่ะ...เหมือน "พี่เสก โลโซ" ลืมกีตาร์กับแว่นดำค่ะ
ขอเล่าถึงนิดนึงนะคะ...กระเซอะกระเซิงขึ้น MRT ไปค่ะ
เสื้อผ้าดีๆ ก็ไม่ค่อยมีลงทุนซื้อเสื้อใหม่ 1 ตัว (เจอลดราคา 70 % พอดี)
ทาง bizweek บอกว่าจะแต่งหน้าทำผมสวยๆ มาก็ได้ถ่ายรูปออกมาจะได้ดูดี
แต่...ไม่เคยแต่งเราจึงไม่มีร้านที่จะไปแต่ง ตอนรับปริญญาก็ไม่ได้แต่งค่ะ
ตอนถ่ายรูปก็ทำท่าไม่ถูกเลย..ยืนตรงแบบเคารพธงชาติซะเลย 555
ช่างภาพและน้องอั้ม (ทนดูไม่ได้) เห็นตรงกันว่าควร (ทำเป็น) จับอะไรข้างๆ นิดหน่อย
เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น...ก็ทำตามค่ะ...ออกมาได้แค่นี้เองค่ะ ^_*
ขออนุญาตนำ "พรจากคุณโจ" มาด้วยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจทุกๆ วัน
ประโยคสั้นๆ แต่มีคุณค่าและความหมายต่อจิตใจมากค่ะ
และของคุณหมอ dr1 ก็ถูกใจมากค่ะ "อนุรักษ์ (บุญแสวง) นิยม" จริงตามนั้นเลยค่ะลูกอิสาน เขียน:ขอบคุณพี่นุชที่ถ่ายทอดเรื่องราวครับ
สิ่งที่ดูเหมือนธรรมดาๆ แต่ทำทุกวัน ทำต่อเนื่อง ทำสม่ำเสมอ
สุดท้ายมันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
รู้สึกว่าตัวเองพูดวกไปวนมามากๆ ต้องชมน้องอั้มที่สัมภาษณ์ค่ะ...เก่งdr1 เขียน:ผมก็"อนุรักษ์(บุญแสวง)นิยม"เหมือนท่านtheenuchด้วยคนนะคร้าบ..
เกรงใจคุณโจจัง อุตส่าห์ให้โอกาสไปพูดถึงการลงทุนแนว VI...แต่ออกมาไม่ค่อยดีเท่าที่ควรค่ะ
จริงๆ แล้วที่บอกว่าพรหมวิหาร 4 เน้นข้อเดียวนั้น เฉพาะกับการลงทุน
ในชีวิตจริงเราควรเน้นทั้ง 4 ข้อ อย่างสม่ำเสมอค่ะ
ยังมีสิ่งต่างๆ ที่เรายังต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต...
"มุทิตา"...สำคัญมาก...ถ้าเราชื่นชมในความสำเร็จของผู้อื่นได้ง่าย
จิตใจของเราจะเปิดและพร้อมที่จะเรียนรู้จากผู้อื่นได้ง่ายเช่นกัน
ครูดีมีอยู่รอบตัว...แม้แต่ผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่าเรายังเป็นครูของเราได้
.....................................
ภาพใน bizweek ตลกมากเลยค่ะ...เหมือน "พี่เสก โลโซ" ลืมกีตาร์กับแว่นดำค่ะ
ขอเล่าถึงนิดนึงนะคะ...กระเซอะกระเซิงขึ้น MRT ไปค่ะ
เสื้อผ้าดีๆ ก็ไม่ค่อยมีลงทุนซื้อเสื้อใหม่ 1 ตัว (เจอลดราคา 70 % พอดี)
ทาง bizweek บอกว่าจะแต่งหน้าทำผมสวยๆ มาก็ได้ถ่ายรูปออกมาจะได้ดูดี
แต่...ไม่เคยแต่งเราจึงไม่มีร้านที่จะไปแต่ง ตอนรับปริญญาก็ไม่ได้แต่งค่ะ
ตอนถ่ายรูปก็ทำท่าไม่ถูกเลย..ยืนตรงแบบเคารพธงชาติซะเลย 555
ช่างภาพและน้องอั้ม (ทนดูไม่ได้) เห็นตรงกันว่าควร (ทำเป็น) จับอะไรข้างๆ นิดหน่อย
เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้น...ก็ทำตามค่ะ...ออกมาได้แค่นี้เองค่ะ ^_*
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: VI บ้าน ๆ
โพสต์ที่ 480
เป็นคนเก่งและถ่อมตน
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/