หน้า 150 จากทั้งหมด 160
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 23, 2011 9:37 am
โดย VIB007
viim เขียน:ขอบคุณครับพี่วิบูลย์ ผม virasit ครับ ขอใช้ username นี่แล้วกันมีคำว่า vi ดีช่วงนี้ผมเป็นช่วงเก็บความรู้ครับ ยังไม่ได้เริ่มลงทุนหรือเปิดบัญชีที่ไหน เพราะยังรู้สึกว่ายังวิเคราะห์บริษัทไม่แตก ขออ่านไปก่อนซักระยะ แล้วจะค่อยๆลงทุนทีละน้อยก่อน ว่าแต่ว่าถ้าผมจะถามว่าโบรกเกอร์ที่เราสามารถดูข้อมูลของหุ้นย้อนหลัง 10 ปีนี่ นอกขาก kimeng แล้วยังมีที่ไหนอีกหรือป่าวครับ เพราะว่าที่ต่างจังหวัดที่ผมอยู่ไม่มี kimeng
สวัสดีครับ
เรื่องโบรกไหนมีข้อมูลย้อนหลัง ผมไม่ทราบเหมือนกัน
คงต้องลองถามดูครับ
ลองหาข้อมูลใน Settrade มีข้อมูลสรุป 5 ปีย้อนหลัง
เข้าไปดูในหัวข้อบน tab ของหุ้นแต่ละตัวครับ ลองดู
ข้อมูงพี่ครรชิตนี่ก็ย้อนหลังมากกว่า 10 ปีอีกครับ ลองขอพี่เขาดูนะ
ในกระทู้ในห้อง vi
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 23, 2011 8:46 pm
โดย viim
หวัดดีครับพี่ Viboon ผมกำลังสนใจเรื่อง DCF และ FCF และได้ไปดูวิธีการคำนวณตอนที่ Buffet ซื้อหุ้น Coca cola โดยใช้ Owner earnings ของปี 1988 และก็คิดว่า Annual income (NIAT หรือ กำไรสุทธิ) เพิ่มขึ้น 15% นับจากที่เขาซื้อเป็นเวลา 10 ปี โดยถือว่า Growth rate นี้เป็น first stage growth และปีที่ 11 ให้เป็น second stage growth ที่ 5% จากนั้นก็ให้ discount rate ที่ 9% เพื่อคำนวณมูลค่า FCF มาที่ปีปัจจุบันที่เขาซื้อ (1988) อ่านแล้วก็เข้าใจครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ยังไม่ทราบว่าวิธีคำนวณแบบนี้จะสามารถใช้ได้กับทุกบริษัทหรือไม่ เพราะว่า
1. ในสูตรที่เขาใช้หา FCF ของอนาคต อยู่บน assumption ว่าบริษัทมีการลงทุน (Cap ex) ต่อเนื่องไปตลอด??
2. ในสูตรนั้น Owner earnings ไม่ได้นำค่า delta WC (changes in working capital) มาคิดเลย ไม่ทราบว่าเป็นการคำนวณที่เราสามารถนำไปใช้ได้กับทุกกิจการหรือไม่ หรือค่อยไปเผื่อตอน MOS เอา
3. เข้าใจว่า discount rate ที่ 9% ก็คือ WACC (Weighted average cost of capital) ซึ่งคำนวณมาจากสูตร WACC = %dept*(1-T)*cost of dept + %equity*cost of equity โดยที่ไอ้เจ้า cost of equity พูดง่ายๆก็คือผลตอบแทนที่เราๆคาดหวังเช่น 10% อะไรทำนองนี้ โดยปกติแล้วก็จะทำให้ได้ WACC ออกมาประมาณ 9% ใช่หรือไม่ครับ
ผมว่านักลงทุนหน้าใหม่ๆ รวมทั้งผมด้วยที่กำลังศึกษาวิธีการลงทุนแนว VI พออ่านๆไปซักพัก นอกจาก qualitative analysis โดยการดูงบการเงินแล้ว สุดท้ายก็ต้องการหาค่า intrinsic value นี่แหละครับ เป็นตัวเจ้าปัญหา เพราะว่า ไม่เห็นตัวอย่างการคำนวณของรุ่นพี่ๆ ให้ดูเป็นนวทางอย่างละเอียด หนังสือก็หาอ่านยากที่ยก case จริงๆ มีของคุณสุมาอี้ ก็ยังงงๆอยู่ในบางตัวเลข เพราะตอนหลังๆของหนังสือ เริ่มจะรวบรัดไปหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า มันต้องใช้เวลาและความละเอียด ทุ่มเท หรือ เป็นเพราะว่ามันมี assumption ของ growth แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากๆๆๆ สำหรับ Brand new investor เพราะว่าผมเองก็ยังไม่เริ่มเปิดพอร์ตเลย เพราะติดตรง intrinsic value นี่หละครับ หวังว่าพี่ๆคงจะช่วยชี้แนะนวทางให้มือใหม่ที่ยังไม่ได้ลงสนามเลยครับ ผมเริ่มอ่านหนังสือมาประมาณ 2 เดือนครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 9:49 am
โดย VIB007
Option ที่ให้ทำโพสแบบ Quote ถูกปิดไป
เลยทำเป็นสีเทาไม่ได้ อ่านยากหน่อยนะครับ
ไม่รู้จะทำอย่างไร
Admin ช่วยดูให้หน่อยแล้วกันครับ
viim เขียน:หวัดดีครับพี่ Viboon ผมกำลังสนใจเรื่อง DCF และ FCF และได้ไปดูวิธีการคำนวณตอนที่ Buffet ซื้อหุ้น Coca cola โดยใช้ Owner earnings ของปี 1988 และก็คิดว่า Annual income (NIAT หรือ กำไรสุทธิ) เพิ่มขึ้น 15% นับจากที่เขาซื้อเป็นเวลา 10 ปี โดยถือว่า Growth rate นี้เป็น first stage growth และปีที่ 11 ให้เป็น second stage growth ที่ 5% จากนั้นก็ให้ discount rate ที่ 9% เพื่อคำนวณมูลค่า FCF มาที่ปีปัจจุบันที่เขาซื้อ (1988) อ่านแล้วก็เข้าใจครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ยังไม่ทราบว่าวิธีคำนวณแบบนี้จะสามารถใช้ได้กับทุกบริษัทหรือไม่
DCF เป็นการหามูลค่าหุ้นวิธีหนึ่ง
บางคนก็ใช้วิธีง่ายๆอย่าง PE Ratio
แต่นักวิเคราะห์และนักการเงินมักใช้ DCF ในการหามูลค่ากิจการในการซื้อขายกิจการมากกว่าวิธีอื่น
ใช้ได้กับทุกบริษัทครับแต่สมมุติฐานจะแตกต่างกันไปในแต่ละกิจการ
viim เขียน:เพราะว่า
1. ในสูตรที่เขาใช้หา FCF ของอนาคต อยู่บน assumption ว่าบริษัทมีการลงทุน (Cap ex) ต่อเนื่องไปตลอด??
บางบริษัทบอกถึงการลงทุนในอนาคตไว้ด้วย
เอามาใช้ได้
viim เขียน:2. ในสูตรนั้น Owner earnings ไม่ได้นำค่า delta WC (changes in working capital) มาคิดเลย ไม่ทราบว่าเป็นการคำนวณที่เราสามารถนำไปใช้ได้กับทุกกิจการหรือไม่ หรือค่อยไปเผื่อตอน MOS เอา
ถ้ามีข้อมูลเอามาคิดได้ครับ
viim เขียน:3. เข้าใจว่า discount rate ที่ 9% ก็คือ WACC (Weighted average cost of capital) ซึ่งคำนวณมาจากสูตร WACC = %dept*(1-T)*cost of dept + %equity*cost of equity โดยที่ไอ้เจ้า cost of equity พูดง่ายๆก็คือผลตอบแทนที่เราๆคาดหวังเช่น 10% อะไรทำนองนี้ โดยปกติแล้วก็จะทำให้ได้ WACC ออกมาประมาณ 9% ใช่หรือไม่ครับ
WACC ขึ้นกับ Cost of Debt ก็คือดอกเบี้ย
และ cost of equity คือผลตอบแทนที่เราคาดหวังนั่นถูกต้องแล้ว
บางครั้งดอกเบี้ยสูงทำให้ WACC สูงขึ้นได้ครับ
viim เขียน:ผมว่านักลงทุนหน้าใหม่ๆ รวมทั้งผมด้วยที่กำลังศึกษาวิธีการลงทุนแนว VI พออ่านๆไปซักพัก นอกจาก qualitative analysis โดยการดูงบการเงินแล้ว สุดท้ายก็ต้องการหาค่า intrinsic value นี่แหละครับ เป็นตัวเจ้าปัญหา เพราะว่า ไม่เห็นตัวอย่างการคำนวณของรุ่นพี่ๆ ให้ดูเป็นนวทางอย่างละเอียด หนังสือก็หาอ่านยากที่ยก case จริงๆ มีของคุณสุมาอี้ ก็ยังงงๆอยู่ในบางตัวเลข เพราะตอนหลังๆของหนังสือ เริ่มจะรวบรัดไปหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า มันต้องใช้เวลาและความละเอียด ทุ่มเท หรือ เป็นเพราะว่ามันมี assumption ของ growth แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากๆๆๆ สำหรับ Brand new investor เพราะว่าผมเองก็ยังไม่เริ่มเปิดพอร์ตเลย เพราะติดตรง intrinsic value นี่หละครับ หวังว่าพี่ๆคงจะช่วยชี้แนะนวทางให้มือใหม่ที่ยังไม่ได้ลงสนามเลยครับ ผมเริ่มอ่านหนังสือมาประมาณ 2 เดือนครับ
ของอย่างนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป
ค่อยๆศึกษาไปครับ
ลองไปเปิดพอร์ตดู
แล้วนำเงินสัก 10% มาทดลองดูก่อน
ทำตอนนี้เลยก็ได้ครับ ไม่ต้องรอ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2011 2:00 pm
โดย viim
ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับข้อแนะนำ ตอนนี้ผมกำลังทะยอยอ่านกระทู้นี้ถึงหน้าที่ 19 ใช้เวลามากเลยเพราะว่ามีตั้ง 150 หน้าแล้ว ตั้งแต่ปี 2003 เป็นกระทู้ที่ดีมาก และที่สำคัญพี่วิบูลย์ให้ความกรุณามากที่ยังคงมาให้ข้อแนะนำอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายปีมากๆ ผมอ่านไปที่หน้า 10 กว่าๆ ก็รอดูวิธีการคำนวณ FCF ของ Aprint จากพี่ฉัตรชัย แต่ก็ยังไม่เห็น ไม่แน่ใจว่าอยู่ช่วงกลางๆของกระทู้หรือป่าวครับ ถ้าได้เห็นตัวอย่างซักเคสสองเคสน่าจะไปต่อได้ เห็นพี่วิบูลย์บอกว่าให้ใช้ PE เลย ผมอ่านเล่มของ peter lynch เขาบอกว่าเราสามารถใช้ PEG = PE/Growth อยากจะเรียนถามพี่ต่อว่า เราควรจะเอา growth ของเงินสดที่บริษัททำได้หรือกำไรสุทธิดีครับ แล้วถ้าย้อนหลังไปซัก 5 ปี (ข้อมูลจาก settrade มีแค่ 5 ปี) จะพอใช้ได้หรือไม่ครับ ในการวิเคราะห์ถ้าในกรณี 5 ปีผลออกมาเป็นลักษณะนี้จะถือว่า Growth เป็นอย่างไรครับ
ปี 2553 2552 2551 2550 2549
กำไรสุทธิ (ลบ) 1200 1000 942 850 1100
ทีนี้เวลาเราดู PE เราจะรู้ได้ยังไงว่า การเติบโตของราคาตลาดวิ่งแซงหน้าการเติบโตของผลประกอบการของกิจการครับ
เพราะ lynch บอกว่าให้หาหุ้นที่ราคาตลาดวิ่งตามอัตราการเติบโตของกำไรไม่ทัน กล่าวคือ PEG < 1 ซึ่งถ้า PEG = 0.5 ถือว่ามี MOS สูง
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 10:01 am
โดย VIB007
viim เขียน:ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับข้อแนะนำ ตอนนี้ผมกำลังทะยอยอ่านกระทู้นี้ถึงหน้าที่ 19 ใช้เวลามากเลยเพราะว่ามีตั้ง 150 หน้าแล้ว ตั้งแต่ปี 2003 เป็นกระทู้ที่ดีมาก และที่สำคัญพี่วิบูลย์ให้ความกรุณามากที่ยังคงมาให้ข้อแนะนำอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายปีมากๆ ผมอ่านไปที่หน้า 10 กว่าๆ ก็รอดูวิธีการคำนวณ FCF ของ Aprint จากพี่ฉัตรชัย แต่ก็ยังไม่เห็น ไม่แน่ใจว่าอยู่ช่วงกลางๆของกระทู้หรือป่าวครับ ถ้าได้เห็นตัวอย่างซักเคสสองเคสน่าจะไปต่อได้ เห็นพี่วิบูลย์บอกว่าให้ใช้ PE เลย ผมอ่านเล่มของ peter lynch เขาบอกว่าเราสามารถใช้ PEG = PE/Growth อยากจะเรียนถามพี่ต่อว่า เราควรจะเอา growth ของเงินสดที่บริษัททำได้หรือกำไรสุทธิดีครับ แล้วถ้าย้อนหลังไปซัก 5 ปี (ข้อมูลจาก settrade มีแค่ 5 ปี) จะพอใช้ได้หรือไม่ครับ ในการวิเคราะห์ถ้าในกรณี 5 ปีผลออกมาเป็นลักษณะนี้จะถือว่า Growth เป็นอย่างไรครับ
ปี 2553 2552 2551 2550 2549
กำไรสุทธิ (ลบ) 1200 1000 942 850 1100
ทีนี้เวลาเราดู PE เราจะรู้ได้ยังไงว่า การเติบโตของราคาตลาดวิ่งแซงหน้าการเติบโตของผลประกอบการของกิจการครับ
เพราะ lynch บอกว่าให้หาหุ้นที่ราคาตลาดวิ่งตามอัตราการเติบโตของกำไรไม่ทัน กล่าวคือ PEG < 1 ซึ่งถ้า PEG = 0.5 ถือว่ามี MOS สูง
จะใช้เงินสดหรือกำไรสุทธิก็ได้ทั้งนั้นหละครับ
ทำมันทั้งสองวิธีเลย
การเติบโตคิดเป็นปอร์เซนต์ครับ
ยกตัวอย่างในช่วงห้าปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 15 เปอร์เซนต์
ถ้าตามสูตรของลินซ์
PE=15
PEG = PE/G = 15/15 = 1
ถ้า PE= 10
PEG = PE/G = 10/15 = 0.66
แสดงว่าอย่างหลังน่าสนใจกว่า
"ทีนี้เวลาเราดู PE เราจะรู้ได้ยังไงว่า การเติบโตของราคาตลาดวิ่งแซงหน้าการเติบโตของผลประกอบการของกิจการ"
อันนี้ก็ต้องดูประมาณการผลประกอบการในอนาคตแล้วนำมาคำนวณครับ
ข้างล่างผมไปหามาจากอากู๋
What Does Price/Earnings To Growth - PEG Ratio Mean?
A ratio used to determine a stock's value while taking into account earnings growth. The calculation is as follows:
PEG = PE/Growth
Investopedia explains Price/Earnings To Growth - PEG Ratio
PEG is a widely used indicator of a stock's potential value. It is favored by many over the price/earnings ratio because it also accounts for growth. Similar to the P/E ratio, a lower PEG means that the stock is more undervalued.
Keep in mind that the numbers used are projected and, therefore, can be less accurate. Also, there are many variations using earnings from different time periods (i.e. one year vs five year). Be sure to know the exact definition your source is using.
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 10:10 am
โดย hongvalue
หวัดดีครับเฮีย สบายดีไหมครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 10:39 am
โดย viim
ขอบคุณครับสำหรับคำอธิบายเรื่อง PEG เมื่อวันเสาร์ที่แล้วผมมีโอกาสเข้าไป search หนังสือใน AMAZON ที่เกี่ยวกับการหาค่า intrinsic value ของหุ้น ก็เจอหนังสือเล่มนี้ครับ
Valuations - 30 Intrinsic Value Estimations in the style of Warren Buffett and Charlie Munger เขียนโดย Bud Labitan ก็เลยสั่งไปแล้ว คงจะได้อีกประมาณ 1 เดือน เดี๋ยวอ่านแล้วยังไงจะมาแชร์สิ่งที่ได้อีกทีครับ
และเมื่อวานก็มีโอกาสเข้าร้าน Se-ed ไปสอยเล่ม Super stock เล่มล่าสุดของ อ.นิเวศน์ มาอ่าน ยังอ่านไม่จบครับ เห็นอาจารย์บอกว่าตอนนี้เรามี active and young VI investors เยอะมากทำให้หุ้นพื้นฐานดีแนว VI เดี๋ยวนี้หาถูกๆยากกว่าแต่ก่อนมาก อันนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 1:57 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:หวัดดีครับเฮีย สบายดีไหมครับ
สบายดี
คงต้องเรียกว่า"ท่านฮง"แล้วเพราะ
ได้ข่าวว่าเราได้กำไรปีที่แล้วหลายพันเปอร์เซนต์เลย นิ
จริงไหม ทำอย่างไร แชร์หน่อย
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 2:01 pm
โดย VIB007
viim เขียน:ขอบคุณครับสำหรับคำอธิบายเรื่อง PEG เมื่อวันเสาร์ที่แล้วผมมีโอกาสเข้าไป search หนังสือใน AMAZON ที่เกี่ยวกับการหาค่า intrinsic value ของหุ้น ก็เจอหนังสือเล่มนี้ครับ
Valuations - 30 Intrinsic Value Estimations in the style of Warren Buffett and Charlie Munger เขียนโดย Bud Labitan ก็เลยสั่งไปแล้ว คงจะได้อีกประมาณ 1 เดือน เดี๋ยวอ่านแล้วยังไงจะมาแชร์สิ่งที่ได้อีกทีครับ
มีเล่มนี้ด้วยเหรอครับ ไม่เคยเห็นเลย
หลังๆผมไม่ค่อยได้อ่านหนังสือลงทุนเท่าไหร่
วันก่อนไปคิโนะซื้อหนังสือมาเกือบสิบเล่ม
ไม่มีหนังสือลงทุนเลยสักเล่ม....!!!!!
viim เขียน:และเมื่อวานก็มีโอกาสเข้าร้าน Se-ed ไปสอยเล่ม Super stock เล่มล่าสุดของ อ.นิเวศน์ มาอ่าน ยังอ่านไม่จบครับ เห็นอาจารย์บอกว่าตอนนี้เรามี active and young VI investors เยอะมากทำให้หุ้นพื้นฐานดีแนว VI เดี๋ยวนี้หาถูกๆยากกว่าแต่ก่อนมาก อันนี้พี่มีความเห็นอย่างไรครับ
ก็เป็นไปได้ครับโดยเฉพาะหุ้นเล็กๆ
เพราะใช้เงินไม่มากก็ทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปมากได้
อย่าลืมอุดหนุน"เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก"นะครับ
เริ่มวางแผงบ้างแล้ว
ต้นเดือนมีนาคงครบทั้งประเทศ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 5:23 pm
โดย babyboom
ผมเข้าถามแต่ว่าหนังสือยังไม่มาเลยครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" รออ่านครับพี่วิบูลย์
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 28, 2011 7:17 pm
โดย viim
เสาร์ที่แล้วก็ถามครับ ยังไม่มาเลย เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2011 9:26 am
โดย VIB007
babyboom เขียน:ผมเข้าถามแต่ว่าหนังสือยังไม่มาเลยครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" รออ่านครับพี่วิบูลย์
viim เขียน:เสาร์ที่แล้วก็ถามครับ ยังไม่มาเลย เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก
ใจเย็นๆ
เพิ่งพิมพ์เสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง
ภายในหนึ่งถึงสองอาทิตย์น่าจะวางแผงได้
ลองไปดูสักอาทิตย์ละครั้งนะครับที่ซีเอ็ด
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2011 9:50 am
โดย RONNAPUM
VIB007 เขียน:babyboom เขียน:ผมเข้าถามแต่ว่าหนังสือยังไม่มาเลยครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบรรลือโลก" รออ่านครับพี่วิบูลย์
viim เขียน:เสาร์ที่แล้วก็ถามครับ ยังไม่มาเลย เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก
ใจเย็นๆ
เพิ่งพิมพ์เสร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้เอง
ภายในหนึ่งถึงสองอาทิตย์น่าจะวางแผงได้
ลองไปดูสักอาทิตย์ละครั้งนะครับที่ซีเอ็ด
มาแล้วครับ ลองไปดูได้ที่ซีเอ็ด ครับผม
เล่มสีดำ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 05, 2011 7:04 pm
โดย viim
สอยมาแล้วและอ่านนจบแล้วครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" ได้อะไรเพิ่มเติมเยอะเลย ได้ทราบเกี่ยวกับชาลี มังเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นจอหงวนและเพื่อนคู่คิดที่สุดยอดของบัพเฟต อ่านเพลินดีครับ ได้ทราบ GYP คืออะไร ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับสิ่งดีๆอีกแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นตัวไหนเลย แต่มีรายชื่อบริษัทที่อยู่ใน list ที่จะศึกษาเชิงคุณภาพประมาณ 10 กว่าตัว แต่เวลาเริ่มจริงๆ คงจะเริ่มจากเงินซัก1-2 แสน ชิงลางดูก่อน เพราะ ดร.นิเวศน์บอกว่า คู่มือนักลงทุน ต้องมี 3 อย่าง คือ 1. ข้อมูล 2. ความรู้ และ 3. ประสบการณ์ และอาจารย์แนะนำว่าให้เริ่มต้นทีละน้อยจากนั้นเราจะค่อยๆรู้เองจากการลงทุน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น ว่าเราควรจะลงทุนเท่าไหร่ จริงๆผมมีทุนที่ไม่มาก และมีทุนเพิ่มขึ้นสำหรับลงทุนเดือนละ 3 หมื่นบาท แต่คิดว่ากะจะเก็บไว้เป็นเงินสดก่อน แล้วนานๆเมื่อมีราคาที่หมาะสมค่อยเข้าซื้อ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 07, 2011 10:57 am
โดย VIB007
viim เขียน:สอยมาแล้วและอ่านนจบแล้วครับ "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" ได้อะไรเพิ่มเติมเยอะเลย ได้ทราบเกี่ยวกับชาลี มังเกอร์ ผู้ซึ่งเป็นจอหงวนและเพื่อนคู่คิดที่สุดยอดของบัพเฟต อ่านเพลินดีครับ ได้ทราบ GYP คืออะไร ขอบคุณครับพี่วิบูลย์สำหรับสิ่งดีๆอีกแล้ว ตอนนี้ผมยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นตัวไหนเลย แต่มีรายชื่อบริษัทที่อยู่ใน list ที่จะศึกษาเชิงคุณภาพประมาณ 10 กว่าตัว แต่เวลาเริ่มจริงๆ คงจะเริ่มจากเงินซัก1-2 แสน ชิงลางดูก่อน เพราะ ดร.นิเวศน์บอกว่า คู่มือนักลงทุน ต้องมี 3 อย่าง คือ 1. ข้อมูล 2. ความรู้ และ 3. ประสบการณ์ และอาจารย์แนะนำว่าให้เริ่มต้นทีละน้อยจากนั้นเราจะค่อยๆรู้เองจากการลงทุน เมื่อประสบการณ์มากขึ้น ว่าเราควรจะลงทุนเท่าไหร่ จริงๆผมมีทุนที่ไม่มาก และมีทุนเพิ่มขึ้นสำหรับลงทุนเดือนละ 3 หมื่นบาท แต่คิดว่ากะจะเก็บไว้เป็นเงินสดก่อน แล้วนานๆเมื่อมีราคาที่หมาะสมค่อยเข้าซื้อ
เงินน้อยเงินมากไม่สำคัญ
สำคัญที่ความคิดที่ถูกต้อง
ค่อยๆครับ ไม่ต้องรีบ
เริ่มด้วยเงินไม่มาก เสียหายยังหาใหม่ได้
ถ้าเริ่มด้วยเงินมากๆ เสียหายแล้วมันหาใหม่ยาก
ลงทุนไปเรื่อยๆ เดือนละ 3 หมื่นสามปีแค่เงินเก็บก็ได้เป็นล้านแล้วหละ
ลงทุนแบบวีไอ มันได้น้อยช่วงแรกๆ ปีละ 10-20%
ต่อๆไปจะเป็นมหัศจรรย์เงินทบต้นได้
โชคดีครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 09, 2011 10:08 am
โดย Saran
สวัสดีครับ พี่วิบูลย์ พอดีผมลองประมาณการณ์กำไรของ PTTEP ดูนะครับ เลยอยากให้พี่ช่วย comment หน่อยนะครับ
ปี ---------------------------------- 2011 ---------- 2012 ---------- 2013 --------- 2014 --------- 2015
กำลังการผลิตต่อวัน (BOED)
Gas ---------------------------- 191,100 ------- 191,400 ------- 205,260 ------ 228,900 ----- 227,520
Liquid -------------------------- 81,900 -------- 127,600 ------- 105,740 ------- 98,100 ------ 88,480
ราคาขาย Gas ปี 2006-2010 เป็นดังนี้ ($/MMBTU) 4.16 ---> 4.57 ---> 5.17 ---> 5.19 ---> 5.51 โดย 5.8 MMBTU ~ 1 BBL
ราคาขาย Liquid ปี 2006-2010 เป็นดังนี้ ($/BBL) 60.54 ---> 67.37 ---> 91.38 ---> 57.67 ---> 73.73
สมมติฐานว่า อัตราการผลิตอยู่ที่ 95%, ราคาขายปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีล่ะ 5% โดยกำหนดให้ปี 2011 มีราคาขาย Gas = 6 $/MMBTU ~ 34.8 $/BBL
และราคาขาย Liguid = 80 $/BBL จะได้ดังนี้
ปี ---------------------------------- 2011 ---------- 2012 ---------- 2013 --------- 2014 --------- 2015
รายได้ (ล้านเหรียญ) ------------- 4,565 ---------- 6,125 ---------- 5,948 -------- 6,330 -------- 6,303
OPEX (ล้านเหรียญ) -------------- 1,325 ---------- 1,041 ---------- 1,050 -------- 1,076 -------- 1,208
ค่าภาคหลวง (ล้านเหรียญ) -------- 548 ------------ 735 ------------ 714 ---------- 760 -----------756
DD&A (ล้านเหรียญ) -------------- 1,444 ---------- 1,759 ---------- 1,995 -------- 2,206 -------- 2,369
Operating Profit (ล้านเหรียญ) --- 1,249 ---------- 2,590 ---------- 2,190 -------- 2,289 -------- 1,970
สมมติว่าใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 30 บาทต่อ $
Operating Profit (ลบ.) ---------- 37,464 -------- 77,705 -------- 65,686 ------ 68,678 ------- 59,111
ดอกเบี้ยจ่าย (ลบ.) ---------------- 2,872 --------- 3,941 --------- 3,832 --------- 3,170 -------- 2,890
ภาษีเงินได้ (ลบ.) ----------------- 13,837 -------- 29,505 -------- 24,742 ------ 26,203 ------- 22,488
กำไรสุทธิ (ลบ.) ------------------ 20,755 -------- 44,258 -------- 37,112 ------- 39,305 ------- 33,732
โดย ค่าภาคหลวง คิดที่อัตราเก็บ 12% จากรายได้จากการขายปิโตรเลียม
และ DD&A ประมาณโดยใช้ DD&A + 1/10 ของยอด CAPEX ปีที่ผ่านมา
ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเนื่องจากสิ้นปี 2010 บริษัทมีหนี้ 77,800 ลบ. ดอกเบี้ยเฉลี่่ยที่ 3.69% ผมลองคำนวณดู FCF ในปี 2011 แล้วคิดว่าคงต้องกู้เงินเพิ่มอีกเกือบ 1,000 ล้านเหรียญ ถ้าลงทุนขนาดนี้จริงๆ แล้วคงลดลงในปีถัดๆไป ภาษีเงินได้ก็ใช้อัตราภาษีที่ 40% ครับ จากที่เทียบสัดส่วนที่จากในอดีตดู
ซึ่งตรงส่วนนี้ยังไม่รวม รายได้จากท่อส่งก๊าซ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน กำไรพิเศษจากค่าสินไหมทดแทนที่จะเข้ามาในปี 2011 และรายได้อื่นๆ อีกนะครับ
มั่วๆเอานะครับ ไม่ได้เรียนทางนี้โดยตรงเลยอยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 10, 2011 10:28 am
โดย VIB007
กำลังการผลิตต่อวัน (BOED)
Gas ---------------------------- 191,100 ------- 191,400 ------- 205,260 ------ 228,900 ----- 227,520
Liquid -------------------------- 81,900 -------- 127,600 ------- 105,740 ------- 98,100 ------ 88,480
ดูกำลังการผลิต Liquid ลดลงหลังจากปี 2012
อันนี้มาจากประมาณการของบริษัทหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็น่าเป็นห่วง
เพราะจะทำให้รายได้แบะกำไรในปีหลังๆลดลง
ไม่เพียงพอต่อการขยายตัวในอนาคตแน่นอน
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 10, 2011 11:57 am
โดย Saran
เป็นประมาณการณ์ของบริษัทครับ โดยยังไม่รวมส่วนที่ทำการสำรวจเพิ่มเติมอยู่ กับนโยบายทำ M&A ในอนาคตอีก
ผมกลัวว่าบริษัทจะเร่งขยายการลงทุนมากเกินไปเพื่อสนองนโยบายด้านพลังงานของประเทศ (ข่าวก็มีออกมาว่าอาจต้องเพิ่มทุน หรือออกหุ้นกู้เพิ่มด้วย) ผลตอนแทนอาจจะได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนะครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2011 12:33 pm
โดย aonanfield
เข้ามาสวัสดีและ ขอบคุณ พี่วิบูลย์ครับ สำหรับหนังสือ เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก ซึ่งผมได้อุดหนุนเรียบร้อยแล้ว
ขอชื่นชมว่าเนื้อหาต่างๆในเล่ม มีประโยชน์มากๆ รวบรวมแนวคิดสำคัญๆของนักลงทุนระดับโลกแนว VI ไว้หลากหลายเลยครับ
โดยส่วนตัวผมศึกษาและลงทุนแนว VI มา 3 ปีนิดๆแล้วครับ แต่ยอมรับเลยครับว่า เพิ่งจะเริ่มเข้าใจแนวคิดการลงทุนแบบ VI เมื่อไม่นานนี้เอง และยังคงต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป
อยากถามความคิดเห็นพี่วิบูลย์ครับ ว่าทำไมคนที่สนใจการลงทุนแนวนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกที่จบ สายวิทย์ เช่นพวก หมอ-วิศวะ เป็นต้น ส่วนพวกที่จบทางสายศิลปะ หรือภาษาจะมีสัดส่วนน้อยกว่า
แล้วส่วนตัวพี่คิดว่าการเรียนสายวิทย์กับสายศิลป์ มีผลในการลงทุนแบบ VI มั้ยครับ
ขอบคุณมากครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2011 3:13 pm
โดย VIB007
Saran เขียน:เป็นประมาณการณ์ของบริษัทครับ โดยยังไม่รวมส่วนที่ทำการสำรวจเพิ่มเติมอยู่ กับนโยบายทำ M&A ในอนาคตอีก
ผมกลัวว่าบริษัทจะเร่งขยายการลงทุนมากเกินไปเพื่อสนองนโยบายด้านพลังงานของประเทศ (ข่าวก็มีออกมาว่าอาจต้องเพิ่มทุน หรือออกหุ้นกู้เพิ่มด้วย) ผลตอนแทนอาจจะได้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนะครับ
ถ้าบริษัทเร่งขยายงานมากเกินไป
อาจทำให้เกิดผลเสียได้
ถ้าการตัดสินใจไม่รอบคอบ
อย่าง Canada OilSand สำหรับผมไม่ค่อยเห็นด้วย
เพราะลงทุนไปมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
แต่รายได้และกำลังการผลิตต้องรอไปอีกเป็นสิบปีกว่าจะผลิตได้เต็มที่
ปีแรกๆทำรายได้ได้นิดเดียว
สู้ไปซื้อแหล่งที่ทำเงินตั้งแต่วันแรกเลยจะดีกว่า
ยิ่งถ้าราคาน้ำมันลดลง
OilSand จะขากทุนก่อน Conventioanl Oil แน่นอน
เพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า
ธุรกิจแบบ ปตท สผ ต้องระมัดระวังมากเรื่องขุดไปไม่เจอน้ำมันหรือแกส
เพราะค่าใช้จ่ายต่อหลุมสูงมาก
เท่าที่ทราบหลุมหลังๆไม่ค่อยเจอสักเท่าไหร่
โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม อิหร่าน อัลจีเรีย
เป็นความเสี่ยงของธูรกิจอย่างหนึ่ง
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2011 3:17 pm
โดย VIB007
aonanfield เขียน:เข้ามาสวัสดีและ ขอบคุณ พี่วิบูลย์ครับ สำหรับหนังสือ เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก ซึ่งผมได้อุดหนุนเรียบร้อยแล้ว
ขอชื่นชมว่าเนื้อหาต่างๆในเล่ม มีประโยชน์มากๆ รวบรวมแนวคิดสำคัญๆของนักลงทุนระดับโลกแนว VI ไว้หลากหลายเลยครับ
โดยส่วนตัวผมศึกษาและลงทุนแนว VI มา 3 ปีนิดๆแล้วครับ แต่ยอมรับเลยครับว่า เพิ่งจะเริ่มเข้าใจแนวคิดการลงทุนแบบ VI เมื่อไม่นานนี้เอง และยังคงต้องศึกษาและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป
อยากถามความคิดเห็นพี่วิบูลย์ครับ ว่าทำไมคนที่สนใจการลงทุนแนวนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกที่จบ สายวิทย์ เช่นพวก หมอ-วิศวะ เป็นต้น ส่วนพวกที่จบทางสายศิลปะ หรือภาษาจะมีสัดส่วนน้อยกว่า
แล้วส่วนตัวพี่คิดว่าการเรียนสายวิทย์กับสายศิลป์ มีผลในการลงทุนแบบ VI มั้ยครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณที่อุดหนุนครับ
โดยส่วนตัวผม
ผมไม่คิดว่าคนเรียนสายศิลป์จะเข้าใจวีไอน้อยกว่าคนสายวิทย์
เพียงแต่คนที่ลงทุนด้านนี้มาจากสายวิทย์เสียเยอะกว่าเท่านั้นเอง
นอกเหนือจากการคำนวณแล้ว
จิตวิยาการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับวีไอ
สายวิทย์สายศิลป์ไม่น่าต่างกัน
เพราะต่างมีความโลกและความกลัวเหมือนกัน
นักลงทุนระดับโลกอย่างปีเตอร์ ลินซ์จบสายศิลป์ด้านปรัชญาและบริหาร
หรือบิล มิลเลอร์จบป.ตรี ปรัชญา
จริงๆแล้วอาจารย์เบนจามิน เกรแฮมจบด้านปรัชญาเช่นเดียวกันนะครับ
ไม่ได้จบวิศวหรือหมอสักคน
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 14, 2011 8:27 pm
โดย hongvalue
กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 15, 2011 9:33 am
โดย VIB007
hongvalue เขียน:กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
ไปซื้อดิ มีขายทุกร้านหละตอนนี้
จะรอของฟรีคงไม่มีให้นะ เพราะได้มาน้อยแจกหมดแล้วด้วย ฮา
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 15, 2011 10:05 am
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:hongvalue เขียน:กรี๊ดดดดดดดด อยากได้หนังสือเล่มใหม่ น่าอ่านมาก
ไปซื้อดิ มีขายทุกร้านหละตอนนี้
จะรอของฟรีคงไม่มีให้นะ เพราะได้มาน้อยแจกหมดแล้วด้วย ฮา
แหม นึกว่ามากรี๊ดแล้วจะได้ของฟรี
อิอิ ล้อเล่น ไปซื้ออยู่แล้วหนังสือดีๆแบบนี้
ต้องสนับสนุน 1 เล่มครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 15, 2011 4:52 pm
โดย aonanfield
ขอบคุณความเห็น พี่วิบูลย์เกี่ยวกับเรื่องสายวิทย์ สายศิลป์มากๆเลยครับ
ตอนนี้กำลังอยากเริ่มอ่านกระทู้นี้ของพี่วิบูลย์ซ้ำอีกรอบ หลังจากอ่านจบมาแล้ว 1 รอบ เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน
คิดว่าอ่านรอบนี้คงได้อะไรเพิ่มเยอะขึ้นกว่าตอนอ่านรอบแรกครับ หลังจากได้ผ่านประสบการณ์โดยตรงจากตลาดหุ้นมาบ้าง
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 15, 2011 5:09 pm
โดย Juninho
พี่ครับ ซึนามิที่ญี่ปุ่น พี่ว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจโลกมากเจค่ไหนครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 16, 2011 12:04 pm
โดย extraordinary
สวัสดีครับพี่วิบูลย์
ผมอ่านกระทู้พี่เป็นกระทู้แรกของที่นี่เลย
ได้หลักคิดเรื่องการลงทุนมากๆเลยครับ
พอดีอ่านหนังสสือเล่มใหม่ของพี่ แล้วมีจุดนึงที่ผมสงสัย
เรื่องGYP ratioอ่ะครับ
ค่าGYP ถ้าเปนของหุ้นเฉพาะตัวผมก็พอคิดแบบคร่าวๆได้อ่ะครับ
แต่เหนในหนังสือบอกว่า เนฟฟ์ให้ความสำคัญกับGYPของพอร์ทเทียบกับตลาดมากกว่า
หากตลาดขึ้นสูงมากจนราคาหุ้นสูงเกินไปให้เปลี่ยนมาถือเงินสดไว้ราว 20%
เพื่อเตรียมตัวสำหรับโอกาสครั้งหน้า
GYP ของพอร์ท เราเอาของหุ้นแต่ละตัวมาถ่วงน้ำหนักแล้วเฉลี่ยออกมาใช่ไหมครับ
แล้วถ้าเป็นของเซตเราคิด earning growthมันยังไงอ่ะครับ
เอาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเซตแบบหยาบๆที่10% มาแทนได้ไหม
อีกข้อคือจุดที่เนฟฟ์ให้เปลี่ยนมาถือเงินสด20%นี้GYP ของพอร์ทกับเซตต้องอยุ๋ถึงระดับไหนครับเราถึงลดพอร์ท
จุดนี้ผมรุ้สึกว่าค่อนข้างมีปัญหาสำหรับผม เลยอยากถามพี่วิบูลย์ดู
เพราะว่าเวลาที่ตลาดกระทิง มีแนวโน้มที่ผมจะถือหุ้นไปเรื่อยๆเพราะเอนจอยราคาหุ้นโดยไม่สนพื้นฐาน
ที่ผ่านมาก็อาศัยว่าปรับเป็นตัวๆไป ขายตัวนุ้นไปซื้อตัวนี้ ถ้าตลาดพานิกจริงๆผมก็คงไม่รอดอยุ่ดี
ผมว่าจังหวะการถือเงินสดนี่ก็สำคัญมากๆเพราะมันช่วยให้ปลอดภัยเวลาตลาดลงหนัก
(ซึ่งผมเองยังไม่เคยผ่านมันเลย)
เลยอยากรุ้ว่าจุดที่ผู้รุ้ที่มีประสบการณ์บอกว่าตลาดโดยรวมเริ่มแพงแล้วนี่ดูยังไง
อย่างตอนต้นปีผมฟังดร.นิเวศน์ ท่านก็บอกว่าถ้าปีนี้setขึ้นไป30% ท่านจะเริ่มลดพอร์ทแล้ว
ผมก็สงสัยอยุ่ว่าทำไมต้องเป็นที่30% เป็น20% ก็ลดเลยไม่ได้เหรอ หรือ รอซัก50%ก่อน
ดร.ท่านก็คงมีวิธีการที่จะดูตลาดเหมือนกัน
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 2:00 pm
โดย Saran
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆครับ พี่วิบูลย์
ตอนนี้กำลังอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" อยู่ครับ
กะซื้ออีก 2 เล่ม แจกให้เพื่อนอ่านด้วย หนังสือดีๆต้องสนับสนุน
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 11:13 am
โดย VIB007
Saran เขียน:ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆครับ พี่วิบูลย์
ตอนนี้กำลังอ่าน "เคล็ดลับเซียนหุ้นบันลือโลก" อยู่ครับ
กะซื้ออีก 2 เล่ม แจกให้เพื่อนอ่านด้วย หนังสือดีๆต้องสนับสนุน
ขอบคุณครับ
Re: คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 11:18 am
โดย VIB007
Juninho เขียน:พี่ครับ ซึนามิที่ญี่ปุ่น พี่ว่ามันจะกระทบเศรษฐกิจโลกมากเจค่ไหนครับ
ขอโทษที่มาตอบช้า
ระยะสั้นคงมีผลกระทบมาก
เพราะโรงงานหลายโรงหยุด
ญี่ปุ่นเป็นซัพพลายเออร์ในส่วนอุปกรณ์ไฮเทคอยู่เยอะเหมือนกัน
ผู้บริโภคญี่ปุ่นคงช็อคกับเหตุการณ์นี้
ตนไม่ค่อยมีกระจิตกระใจอยากช๊อป
อาจทำให้เศรษฐกิจโลกสะดุดนิดหน่อย
โดยเฉพาะในแวดวงที่ต้องอาศัยสินค้าจากญี่ปุ่น
และส่งออกสินค้ามาที่ญี่ปุ่น
รวมถึงการหวาดกลัวกัมมันตภาพรังสีในสินค้าญี่ปุ่นด้วย
แต่ในระยะกลางและยาวแล้ว
น่าเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเองและโลก
และรัฐบาลและคนของญี่ปุ่นต้องนำเงินออกมาก่อสร้างซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
ทั้งบ้านเรือน โรงงาน ถนน สถานที่ราชการต่างๆ
ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้อีกครั้ง