Thai VI

เคยตั้งกระทู้ ขอทางสว่างล้านแรก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... 3%E0%B8%81

ตอนนี้ได้มาแล้ว จากการเก็บออมและเคยนำเงินที่ไม่จำเป็นมาลงทุน
ตอนแรกคิดว่าเงินล้านหายากมากๆ อาจเพราะเป็นคนใช้เงินเก่งพอมาลงทุน
ก็รู้จักประหยัด และได้เจอพี่ๆน้องๆ ที่ช่วยแลกเปลี่ยนมุมมอง และให้ความรู้
โดยเฉพาะครูลงทุนคนแรกที่ใจดีกับผมเสมอๆ P'Pak ผู้คอยให้คำปรึกษาและกำลังใจที่ดีเสมอมา
สอนให้รู้จักการรอคอย แต่ที่ได้มาไม่ใช่เก่งนะครับ เพราะลอกถูกตัวซะมากกว่า
พี่มี่ตอนรู้จักแกแรกๆ ฟังแกพูดไม่รู้จักเบื่อ ถือว่าโชคดีที่ได้เจอพวกพี่ๆตอนหุ้นตกพอดีครับ
ตอนนี้ลุ้นล้านที่ 3 ครับ

qiwio เขียน:

qiwio เขียน:อยากจะเป็น vi กับเค้าบ้าง

ผมเพิ่งเรียนจบ ทำงานปีแรก เริ่มทำงาน เมษา 53 ตอนนี้ ธค 53
ตั้งเป้าแรก ในปีแรกที่ทำงาน จะเก็บให้ได้ หนึ่งล้าน
วันนี้สิ้นปีพอดี เป้าแรกพลาดไป เหลืออีกนิดหน่อย
แต่เป้าที่สอง หนึ่งล้านแรก เมื่อทำงานครบ หนึ่งปี คงไม่พลาด
เงินเดือน 100% เก็บไว้ลงทุน80% อีก 20% ไว้กินกับใช้จ่าย
พอดีกลับมาทำงานที่บ้าน ค่าใช้จ่ายเลยไม่เยอะมาก

กำลังอยากลงทุนในหุ้น เปิดพอร์ต ไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มซื้อ ขาย
มีแต่ลงทุนในกองทุนรวม ได้กำไรเกือบ10%
เป็นเสตปแรก ถือว่า ได้มาสังเกตุ ตลาด ดูดัชนีบ้าง

ขั้นต่อไปก็คงเข้าห้องนี้บ่อยขึ้น
แล้วเริ่มเทรดกับเค้าบ้าง

ตอนนี้เปิดพอร์ตลงทุนแล้ว เทรดมาแล้วปีกว่าครับ
พอร์ตหุ้น1ล้าน. กองทุน 5แสน ส่วนใหญ่ เงินออมเติมใส่ซะมากกว่า
ผลตอบแทนที่ผ่านมายังไม่น่าพอใจครับ. 6-7%
เปิดจอ ดูกราฟทุกวันครับ. จะพยายามเปลี่ยนมาเปิด 56-1 ทุกวันอยู่คระบ
ตอนนี้ หัดอ่านงบการเงินอยู่. รอบหน้ามาใหม่. อาจจะอ่นงบคล่อง หรือวางมันไว้ตรงนี้ ไว้มาอัพเดทอีกทีครับ

มาเล่าถึงล้านที่สอง ครับ. ถือว่าเป็นสรุปปี2556สำหรับตัวเอง
ขอท้าวความก่อน
ปีนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนไปพอสมควรครับ. จากที่สองปีแรก. อยู่ต่างจังหวัดเงินเดือน หลายหมื่น ค่าใช้จ่ายไม่มาก
ปีนี้มาเรียนต่อเฉพาะทาง. ในกทม. เหลือเงินเดือน 16000บาท กับค่าเวรกลางคืน 15วัน ได้อีก5000บาทครับ
จุดมุ่งหมายในปีนี้ที่ตั้งไว้คือ พอร์ตรวมต้องไม่ลดลง. คือ แม้ว่ารายจ่ายผมจะเยอะขึ้น แต่ก็จะไม่พยายาม เอาเงินจากพอร์ตมาใช้ครับ. อาศัยรับเวรเพิ่มเอา

พอร์ตตอนนี้. 1.3M เป็นunrealized profit ประมาณ200K
กองทุนเพิ่มมาเป็น600K
ผ่อนคอนโด ไปแล้ว 200k
ส่วนเงินใช้จ่าย ผมกันมา ประมาณ100kครับ

ปีนี้. เริ่มถือแต่ละตัวนานขึ้น. อย่างน้อยก็ถือผ่าน หนึ่งไตรมาตร.
ที่คิดไว้ตั้งแต่ต้นปีคือ. ถือเอาปันผล. และ. Capgain เป็นกำไรบ้าง
ก็ได้กำไร ดีขึ้นกว่าเดิม เป็นที่พอใจครับ. ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ setขึ้นมาจาก1000เป็น13++ด้วย
แต่หุ้นที่ผมถือขึ้นไม่มากนะlow beta เป็นส่วนใหญ่.

ปีนี้ถือว่า พอใจสำหรับการลงทุนของตัวเองครับ
เป้าหมายปีหน้าคือกำไรมากขึ้น. จาก หุ้น สองเด้ง. ในพอรต ครับ

ปักหมุดลงชื่อด้วยคนครับ

เริ่มลงทุน 9 มีนาคม 2553 ด้วยเงินต้น หลักหมื่น ก็เติมทุกเดือนพยายามไม่ให้ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท รวมๆ เริ่มปีนี้เลือกหุ้นถูกทุกตัว แต่สลับปรับเปลี่ยนบ่อยเกินไปจนสุดท้าย ติดลบอยู่ ราวๆ 8,000 กว่าบาท สิ้นปีพอร์ตอยู่ราวๆ 6xx,xxx บาท บทเรียนจากปีแรก ของการลงทุน ทั้งๆที่ตลาดนับว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากพอสมควรในปีนั้น แต่ผลตอบแทนกลับติดลบ เพราะอารมณ์ และความโลภล้วนๆ
ข้อดีของปีนี้คือรู้จัก Thaivi

เริ่มต้นปีที่ 2 (2554) ก็ทำเหมือนเดิมเติมเงินทุกเดือน พยายามไม่ให้ต่ำกว่าเดือนละ 10,000 ประหยัดทุกอย่าง เดินทางออกไซด์งานก็รอรถเมล์(ฟรี) ใกล้ๆก็เดิน ทำงานทั้งเสาร์และอาทิตย์ ก็เติมเงินเพิ่มเรื่อยๆ อ่านหนังสือมากขึ้น พยายามอ่าน 56-1 ของทุกๆบริษัทที่ลงทุน หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่หาได้ เพื่อให้ผลตอบแทนมากขึ้นจึงพยายามลดจำนวนหุ้นที่ถือลง จาก 10 ตัวเหลือ 4 ตัว จนสุดท้ายมีความคิดที่จะถือตัวเดียวเพื่อผลตอบแทนมากขึ้น แต่ไม่ได้ทำ แต่ปรับเปลี่ยนเป็นเพิ่มน้ำหนักไปที่ตัวที่มั่นใจมากที่สุดแทน (มากกว่า 60% ของพอร์ต) ซึ่งเป็นหุ้นที่คิดว่าจะเทิร์นอะราวน์ แน่ๆ และเคยมีความคิดที่จะยืมเงินมาซื้อด้วย แต่เคราะห์ดีที่ไม่ได้ทำ เพราะสุดท้ายตัวที่มั่นใจมากที่สุดกลับทำให้ขาดทุนมากที่สุด สุดท้ายตัดสินใจขายขาดทุนที่ 30% นิดๆ เจ็บพอสมควรแต่ก็นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะถ้าถือถึงทุกวันนี้ยังขาดทุนอยู่มากกว่า 50%
สิ้นปีพอร์ตอยู่ที่ 713,530 กำไรปีนั้นประมาณ 20% รวมปันผลก็ราวๆ 27%

ข้อคิดที่ได้จากปีนี้ คือ หุ้นเทิร์นอะราวน์ ไม่ใช่ของง่ายสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์, คำพูดที่ว่า "อย่าเก็บไข่ไว้ในตระกล้าใบเดียวกัน" นั้นเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์และความรู้อย่างผมมากยิ่งนัก, เมื่อรู้ว่าเดินทางผิดอย่าลังเลที่จะตัดสินใจ

เริ่มต้นปีที่ 3 (2555) ทำเหมือนเดิมใส่เงินเพิ่มเข้าเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือออกจากงานในเดือนสิงหาคม เลยทำให้ใส่เงินเพิ่มได้แค่ 102,000 ปีนี้ต้นปีเน้นไปที่หุ้นปันผลและหุ้นที่(นึกว่า) เติบโต เนื่องจากเห็นแววที่ต้องออกจากงาน แต่พอกลางปีก็ตัดสินใจขายเพราะคิดว่าด้วยคิดว่าด้วยหุ้นที่ถืออยู่ในแนวนี้จะทำให้พอร์ตเติบโตช้า (ทั้งๆที่จริงๆถ้าถือต่อก็น่าจะทำให้พอร์ตโตได้ในระดับ 40-50%)
ช่วงครึ่งหลังของปีจึงหันมาถือหุ้นแค่ 3 ตัว และสุดท้ายลดเหลือ 2 ตัวเพื่อโฟกัสไปที่ตัวที่คิดว่าจะทำให้พอร์ตโตได้ สุดท้าย 1 ใน 2 ตัวประกาศเพิ่มทุน ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงทำให้ต้องขายหุ้นบางส่วนเพื่อไปเพิ่มทุน สุดท้ายการเสี่ยง(บนพื้นฐานข้อมูลที่มีอยู่) จึงทำให้พอร์ตแตะหลักล้านในวันที่ 11/12/2555 นี้เองครับ และคาดหวังที่จะได้ 2 ล้านในปีนี้ครับ

Skyforever เขียน:

Rocker เขียน:ถ้าได้ล้านที่ 2 แล้วมาตั้งกระทู้เล่าให้ฟังอีกนะครับ

เสี่ยยักษ์เคยบอกว่า ล้านแรกเป็นล้าน 2  ช่วงนี้ยากมาก แต่จากล้าน2ไป4ล้านเริ่มง่าย จาก 4 ไป 8 ยิ่งง่ายกว่า  


จะรออ่านและเชื่อว่าคุณต้องทําได้ เป็นกําลังใจให้ครับ  :D

ล้านที่ 2 ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาที่ผ่านมาแล้วครับ
ล้านที่ 2 นี้มาแล้วมาแบบมั่นคง เกินขึ้นมาเยอะกว่าที่หวังไว้ครับ

ยืนยันว่า 1 ล้านบาทแรกนั้นยากที่สุดครับ ยากจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เงินเดือนไม่กี่หมื่นอย่างผม

จาก 0 เป็น 1 ล้านใช้เวลา 10 ปี ทั้งออมทั้งลงทุน แต่จาก 1 ล้านเป็น 2 ล้านนั้นแค่ปีเดียว เติมเงินเข้าไปประมาณ 2 แสน ถือว่ามาเร็วกว่าที่คิดมาก ซึ่งเดิมผมวางเป้าไว้ว่าจะต้องได้ล้านที่ 2 ภายในเวลาประมาณ 3 ปีหลังจากได้ล้านแรก แสดงว่าผมจะไปสู่ฝันได้เร็วขึ้นอีก 2 ปี

ใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นผมได้กำไรหลักๆจากหุ้นเพียง 2 ตัวเท่านั้น พอร์ตผมไม่หวือหวานัก หลังจากพอร์ตทะลุ 1 ล้านบาทมาได้ พอร์ตผมก็แกว่งขึ้นแก่วงลงบ้างประมาณเกือบครึ่งปี อยู่ระหว่าง 1.1 ล้าน ถึง 1.3 ล้าน และไม่เคยหลุด 1 ล้านบาทเลย หุ้นที่ผมลงทุนนั้นเป็นหุ้นเติบโต ไม่เคยติดอันดับหุ้นซื้อขายสูงสุด เลือกเองโดยเลือกธุรกิจที่มีภูมิต้านทานต่อภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงพอสมควร เน้นถือแล้วสบายใจ โดยตั้งใจว่าจะถือไปตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีเหตุให้ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนอย่างรุนแรง และหวังว่าจะได้โพสต์แชร์ประสบการณ์แบบเต็มๆหลังจากได้ 8 หลักมาแล้ว

หวังว่าจะได้ 8 หลักภายใน 5 ปี ข้างหน้าครับ สู้ๆๆ มาร่วมเดินทางไปสู่หลักกิโลต่อไปกัน

ปักหมุดไว้และเดินทางไปสู่ 8 หลักภายใน 5 ปี ข้างหน้าด้วยคนครับ

torpongpak เขียน:ขอมาเเจมกระทู้...ที่จะเป็นตำนานเเห่งเเรงบันดาลใจครับ
จากประสบการณ์ ผมว่าล้านเเรกยากที่สุดครับ....เเต่ไม่เครียด มันเป็นอารมณ์มุ่งมั่นมากกว่า

จากล้านที่ 1 มาล้านที่2 ยากคนละเเบบเพราะจะเริ่ม"หมกมุ่น"กับการหาความรู้ หาหุ้น(อ่าน56-1ในหุ้นที่สนใจ จนเหลือเวลานอนราว4-5ชม.ต่อวัน ทุกวัน) หาช่องทางกระจายการลงทุน ให้เงินทำงาน"หนักๆ"ใความเสี่ยงที่รับได้ นอกจากนี้ก็ทำงานเก็บเงินมากขึ้น เเทบจะไม่อยากจ่ายเงินเเม้เเต่บาทเดียว จากงานประจำเเละเรื่องลงทุน จนไม่เหลือเวลาให้คิดเรื่องอื่นเพราะเรามีความสุขมากๆกับ"ตัวเลข"ที่เพิ่มขึ้น "เป้าหมาย"มันเเทรกซึมอยู่ทุกรูขุมขน ความเครียดเเทบจะทำให้ได้หัว"ล้าน"มาเเบบถาวร

ล้านที่2-->ล้านที่ 3 มาง่ายกว่า มาเร็วเเละเเบบลืมๆ งงๆว่าเฮ้ยมาถึงเลข3เเล้วเหรอ ไม่หมกมุ่นขนาดล้านที่ 1-->2 เเต่ล้านที่ 3มาพร้อม"Office Syndrome"คือปวดหัวเมื่อใช้สายตากับคอมพิวเตอร์...ทำให้การก้าวสู่ล้านที่4 ต้องลดความหมกมุ่นกับ"หุ้น", Thaivi ลงไปโดยปริยาย ถึงเเม้ใจอยากจะทำเเต่ร่างกายชักไม่ไหว

พอมาถึงตรงนี้เลยมานั่งคิดว่า
-ถ้าเราป่วยเเล้วเเลกมาด้วยเงินล้านคุ้มไหม?
-มีซักกี่คนที่เตรียมว่าถ้าตายขึ้นมา พ่อเเม่หรือครอบครัวเราจะไปติดต่อใครเพื่อรับมรดกที่เราสร้างไว้เเละเงินไปกระจายอยู่ที่ไหนบ้าง?

นอกจากนี้ เเอบเสียดายที่ต้องเปลืองเงินไปกับค่าประกันชีวิตมากไปหน่อย(ผมจ่ายค่าประกันราว12%ของรายได้รวม) จริงๆเเล้วน่าจะเอาเงินตรงนี้มาเข้าPortลงทุนมากกว่า จะได้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเเละเงินมีโอกาสงอกเงยมากกว่า

เจอกันอีกทีในกระทู้นี้เมื่อรู้สึกว่า"พอ"(ผมตั้งไว้ที่8หลักเเละยืนยันไม่ขยายเป้าหมายเมื่อไปถึงครับ)ร่วมกับสุขภาพที่ดีครับ

ถึงเเล้วคับวันนี้...เเต่กลับมีความสุขน้อยกว่าสมัยตอนที่ มีเงินในportเเค่1.6ล้าน...มากๆ ตอนนั้นจำได้ว่านั่งรถไปทำงาน...ฟังเพลง"ความเชื่อ"ของBodyslamเเล้วนั่งคำนวณเงินในport...ฝันถึงเงิน10ล้าน...สุขสุดๆ มีพลังเเละท้าทายมากๆ

วันนี้ตอนเเรกที่ไปถึงเป้าหมาย ก็ดีใจอยู่ช่วงนึง โทรเเจ้งข่าวดีกับเเม่ เเละรีบกลับจากที่ทำงานตอนพักเที่ยง เอาportให้เเม่ดูเเล้วกอดกับเเม่ บอกว่า"ผมทำได้เเล้ว"

เเต่เพราะตลอดชีวิตผมเเละครอบครัวไม่เคยเห็นเงินเยอะเเบบนี้...จากนั้นความสุข เริ่มกลายเป็น"ความกลัว" กลัวเงิน11ล้านนี้จะหายไป ผมพยายามคิดหาวิธีการที่จะรักษามันไว้ คิดตลอดช่วงเย็นว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าขายหุ้นก้อเสียดายเพราะเเต่ละตัวที่ถือพื้นฐานยังดี...

เเต่โชคดีมากๆเพราะผมได้เพื่อนดี...คอยให้เเนะนำเเละให้คำปรึกษา เพื่อนบอกให้มองกลับมาถึงเป้าหมายสูงสุดที่ผมเคยตั้งไว้นั่นคือ "นิพพานทางการลงทุน" หมายถึงการลงทุนอย่างมี"ความสุขสมดุล" ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดport ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหุ้นมากเกินไป...

ผมไม่ได้ขยายเป้าหมายการลงทุนตามสัญญาเดิมกับตัวเองที่บอกไว้ เเต่ผมเปลี่ยนเป้าหมายการลงทุนใหม่เป็น...

"การลงทุนที่มีความสุข"เเทน มีความสุขกับการได้เห็นบริษัทเติบโต มีความสุขการช่วยงานบริษัทเท่าที่ทำได้ สนุกกับการเรียนรู้หุ้นใหม่ๆ ที่สำคัญมีความสุขกับการมีเพื่อนร่วมทางดีๆ ส่วนขนาดportที่โตขึ้นจะตามมาเอง

ขอให้ประสบความสำเร็จทุกท่านนะครับ บางทีขนาดportก้อไม่ใช่ทุกอย่างอะ^^

เข้ามายินดีกับหมอ torpongpak ครับ
การเดินทางยังอีกยาวไกล ขอแค่อย่าหยุดก้าวเดิน ทีละก้าวสองก้าว เดี๋ยวก็ถึงเป้าหมายครับ

ขอแสดงความยินดีกับคุณหมอ torpongpak ด้วยคนครับ ล้านแรกในชีวิตผมคงจะได้เห็นปีนี้หล่ะครับ จากเงินก้อนเล็กๆกับอาชีพพื้นๆ( ช่างทำกุญแจ ) รายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท มาถึงจุดนี้ได้ผมภาคภูมิใจตัวเองมากครับ

ยินดีกับทุกๆท่านครับ
ล้านบาทแรกมันช่างสวยหรูจริงๆนะครับ สำหรับหลายๆคน ที่มีโอกาส มีรายได้น้อย
บนพื้นฐานของครอบครัวที่ไม่มีสินทรัพย์อะไรที่จะสร้างรายได้ พ่อแม่หาเช้า ใช้เดือนชนเดือน
ผมเข้าความรู้สึกดีครับ ว่าท่านๆเหล่านี้ มีความหวังที่สร้างความมั่งคั่ง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในที่สุดก็จะได้อิสรภาพทางการงาน การเงิน และ เวลา

สู้ต่อไปครับ สู้ในหนทางที่ถูกต้อง ระหว่างทางสร้างความสูขไปพร้อมๆกันครับ

ขอแสดงความยินดีกับคุณ Torpongpak ที่ทะลุ Port 8 หลัก
ผมรับรองได้เลยว่า เลข 2 หน้า Port 8 หลักจะใช้เวลาน้อยกว่า
การทำ 10 ล้านแรกมาก (อาจใช้เวลาแค่ครึ่งเดียวเอง)

torpongpak เขียน: "ความสุขสมดุล" ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดport ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหุ้นมากเกินไป...

เพิ่งทราบคุณ torpongpak เป็นคุณหมอรึครับ? เก่งนะครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและแนวคิดนะครับ

กระทู้นี้ของคุณ sky เป็นกระทู้สร้างคนจริง ๆ นะครับ ตัวผมเองมาวันนี้ได้ส่วนนึงก็คือกระทู้คุณ sky นี่หล่ะครับ

torpongpak เขียน:[...

วันนี้ตอนเเรกที่ไปถึงเป้าหมาย ก็ดีใจอยู่ช่วงนึง โทรเเจ้งข่าวดีกับเเม่ เเละรีบกลับจากที่ทำงานตอนพักเที่ยง เอาportให้เเม่ดูเเล้วกอดกับเเม่ บอกว่า"ผมทำได้เเล้ว"

เเต่เพราะตลอดชีวิตผมเเละครอบครัวไม่เคยเห็นเงินเยอะเเบบนี้...จากนั้นความสุข เริ่มกลายเป็น"ความกลัว" กลัวเงิน11ล้านนี้จะหายไป ผมพยายามคิดหาวิธีการที่จะรักษามันไว้ คิดตลอดช่วงเย็นว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าขายหุ้นก้อเสียดายเพราะเเต่ละตัวที่ถือพื้นฐานยังดี...

เเต่โชคดีมากๆเพราะผมได้เพื่อนดี...คอยให้เเนะนำเเละให้คำปรึกษา เพื่อนบอกให้มองกลับมาถึงเป้าหมายสูงสุดที่ผมเคยตั้งไว้นั่นคือ "นิพพานทางการลงทุน" หมายถึงการลงทุนอย่างมี"ความสุขสมดุล" ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดport ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหุ้นมากเกินไป...

ผมไม่ได้ขยายเป้าหมายการลงทุนตามสัญญาเดิมกับตัวเองที่บอกไว้ เเต่ผมเปลี่ยนเป้าหมายการลงทุนใหม่เป็น...

"การลงทุนที่มีความสุข"เเทน มีความสุขกับการได้เห็นบริษัทเติบโต มีความสุขการช่วยงานบริษัทเท่าที่ทำได้ สนุกกับการเรียนรู้หุ้นใหม่ๆ ที่สำคัญมีความสุขกับการมีเพื่อนร่วมทางดีๆ ส่วนขนาดportที่โตขึ้นจะตามมาเอง

ขอให้ประสบความสำเร็จทุกท่านนะครับ บางทีขนาดportก้อไม่ใช่ทุกอย่างอะ^^

ขนาดของ Port ขึ้นกับความคิด ทัศนคติครับ

การทำงานที่ชอบอย่างมีความสุข ก็ เป็นเหตุใกล้ให้เรามีความสุข

ความสุข ความสำเร็จ อยู่ในกระบวนการที่เราเดินไปสู่เป้าหมาย

มันจะเป็นแนวการลงทุุนที่ดีมาก ถ้าสามารถมีความสุขและไม่เครียดมาก ในการลงทุน


ยากที่สุดและสนุกที่สุดสำหรับผม ก็คือ 1 ล้านบาทแรกจากการลงทุนเหมือนกัน

ถ้าแนวทางเราถูกต้องก็แค่ เดินตามแนวทางเดิมสำหรับ 1 ล้านถัด ๆ ไป

การที่ 1 ล้านบาทแรกมันยากที่สุด เพราะมันเป็นการเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติและหาแนวทางการลงทุน

ซึ่งมันไม่ใช้เรื่องง่ายเลย ที่เราจะหาแนวทาง และมีความเข้าใจที่ถูกต้อง

ต่อให้เจอแนวทางและเข้าใจ ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะถูกต้อง ต้องลองผิด ลองถูก กันอีก

เท่าที่การหาแนวทางทุกอย่างนั้นต้องอาศัย 2 อย่าง คือ

1 การศึกษา และการสังเกต ด้วยตนเอง เช่น อ่านหนังสือ มาก ๆ Post เยอะ ๆ จะช่วยได้

2 การมีมิตรดี คอยแนะนำ เช่น อ่านกระทู้เก่า ในคลังกระทู้คุณค่า

ถ้ายังไม่เจอแนวทางหรืออยู่ระหว่างเดินทาง ก็แนะนำไปทำบุญ ทำทาน แบ่งปัน หรือภาวนา ที่จะทำให้จิตใจสงบ มีความสุข ก็น่าจะพอช่วยได้


สุดท้ายยินดีกับคุณหมอต่อด้วยครับ

คุณวิศวะกรบีสไมล์

เสี่ยโดม ณ กรุงเพิร์ต

ดร.คาบุ

ก็เป็นมิตรที่ดีตลอดการเดินทาง เช่นกัน

ถ้าน้องรุ่นใหม่เข้ามาอ่านกระทู้นี้และอยากอ่านแนวคิดของ นักลงทุนวัยกลางคน ก็ติดตามทั้งสามท่านด้านบนให้มากครับ ความสำเร็จจะตามมา

Nevercry.boy เขียน:คุณวิศวะกรบีสไมล์

เสี่ยโดม ณ กรุงเพิร์ต

ดร.คาบุ

ก็เป็นมิตรที่ดีตลอดการเดินทาง เช่นกัน

ถ้าน้องรุ่นใหม่เข้ามาอ่านกระทู้นี้และอยากอ่านแนวคิดของ นักลงทุนวัยกลางคน ก็ติดตามทั้งสามท่านด้านบนให้มากครับ ความสำเร็จจะตามมา

ขอบคุณคับ ติดตามพี่ Nevercry.boy อยู่เหมือนกันคับ

ยินดีด้วยกับทุกท่านที่ทำได้ตามเป้าหมายนะครับ
ผมยังคงต้องพยายามต่อไปครับ

เมื่อไรของเราจะ8หลักบ้างนะ (ตอนนี้แค่ล้านกว่าบาทเอง)

เข้ามายินดีกับคุณ torpongpak ด้วยครับ
ผมกำลังเดินตาม (แบบห่างๆ) ครับ ฮ่าๆๆ

ชอบแนวคิด "การลงทุนที่มีความสุข"
ผมว่า หากลงทุนด้วยใจรัก ตัวเลขใน port ก็น่าจะตามมาได้เองครับ
เป้าหมาย จำนวนหลัก เอาไว้เป็น milestone ให้เราชื่นใจเวลาหันกลับมามอง

ยินดีกับ ท่าน torpongpak และท่านอื่นๆด้วยครับ
ช่วงหลังนี้ผมสนใจราคาหุ้นในกระดานมากเกินไปมองที่จุดหมายอย่างเดียว จนทำให้เครียดและกดดันตัวเองจิตใจก็ไม่เป็นสุข ลืมไปว่าระหว่างการเดินทางเส้นทางมันก็สวยงามไม่ใช่เล่น ขอบคุณแนวคิดดีๆที่ได้จากเพื่อนๆหลายๆท่านในเวบนี้ และขอให้ทุกท่าน ลงทุนอย่างมีความสุข สนุกกับทุกย่างก้าวของการเดินทาง ครับ

ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านมากครับ ผมได้ความเห็นที่มีค่ามากๆจากคนที่เคยผ่านจุดนี้มาก่อน ที่สำคัญผมได้เเรงบันดาลใจจากคนที่ยังมาไม่ถึง รู้สึกมีพลังมากๆเลยครับ

ผมขอขอบคุณSimatอีกครั้งนะครับ...ผมมีหุ้นตัวนี้ไม่เยอะเเต่มันเป็นหุ้นที่ทำให้ผม เกิด"ความเชื่ออย่างสนิทใจ" ว่า10ล้านไม่ใช่เรื่องยาก ตอนนั้นSimat วิ่งหลังจาก MBket ออกบทวิเคราะห์ เเต่ก่อนหน้านั้ ผมเเค่"พยายามเชื่อ"

ไอ้ความเชื่ออย่างสนิทใจนี่มันอธิบายยาก มันไม่ใช่เเค่เขียนเป้าหมายเเล้วท่องเช้าเย็น มันเป็นความเชื่อที่ไม่ต้องพยายาม เราจะรู้สึกได้เหมือว่าเราถึงจุดนั้นเเล้ว

เผื่อมีประโยชน์นะครับ

ขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งคับ^/\^

เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่บรรลุเป้าหมายของตนเอง
และร่วมเป็นกำลังใจให้ผู้ที่เดินทางบนเส้นทางสายนี้ด้วยอีกคนครับ

"ทัศนคติที่ถูกต้องบวกกับความต้ังใจจริง ผมเชื่ออย่างสนิทใจเช่นกัน
ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงฝั่งฝันได้อย่างแน่นอนครับ"

ผมเองคุณ 1154 แนะนำหุ้นตัวนี้ให้ผมรู้จัก แต่ผมขาดความเชื่อเลยไม่มี ทั้งที่ทำการบ้านตาม
แต่หุ้นอีกตัวผมมี ผมทำการบ้านอย่างหนัก แต่หุ้นยังนิ่งไม่ตอบรับข่าวที่มีเลย
ผมพยายามฟังเพลงนี้ให้กำลังใจตัวเองตอนหุ้นยังไม่ขึ้นมันทำให้มีพลัง
ผมมีความเชื่ออีกอย่างว่าภายในปีนี้ผมจะทำให้ถึง 8 หลักบ้างคับ
ยินดีกับคุณหมอด้วยครับ

อ่านแล้ว มีกำลังใจขึ้นมากเลยครับ ถึงแม้จะตามมาอ่านที่หลังก็เถอะ

ล้านแรกที่ผมได้ มาจากการทำงานเป็นลูกจ้าง เสื้อเปียกเหนื่อยทุกวันครับ

วันหนึ่งมาพบคนเล่นหุ้น เราก็ศึกษาดูเพราะเงินที่ได้มาไม่รู้จะไปทำอะไร

ล้านที่สองผมจะขอทำจากการเล่นหุ้นเช่นกันครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ

torpongpak เขียน: ไอ้ความเชื่ออย่างสนิทใจนี่มันอธิบายยาก มันไม่ใช่เเค่เขียนเป้าหมายเเล้วท่องเช้าเย็น มันเป็นความเชื่อที่ไม่ต้องพยายาม เราจะรู้สึกได้เหมือว่าเราถึงจุดนั้นเเล้ว
เผื่อมีประโยชน์นะครับ

ผมว่า ผมพอจะเข้าใจอารมณ์แบบนี้ของคุณtorpongpakนะ ผมเคยเป็นแบบนี้เหมือนกันไม่เฉพาะแค่เรื่องหุ้น
..อารมย์เหมือนพอถึงจุดที่เราเชื่อสนิทใจว่าอะไรๆมันเป็นไปได้แน่ๆ แล้วแปรบเดียวเราก็มาถึงจุดนั้นแล้วจริงๆ
มันสำเร็จได้เหมือนไม่ต้องพยายาม บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ..ทั้งๆที่ก่อนหน้าก็พยายามแทบตาย
..ยินดีกับคุณด้วยจริงๆ ครับ

ยินดีกับทุกๆท่านที่ ประสบความสำเร็จครับ

ต่อไปภายภาคหน้า จากล้านแรกก้ขอให้พอรท์เข้าสู่สิบล้าน สู่ร้อยล้าน

ด้วยกันทุกท่านทุกคนครับ

torpongpak เขียน: ถึงเเล้วคับวันนี้...เเต่กลับมีความสุขน้อยกว่าสมัยตอนที่ มีเงินในportเเค่1.6ล้าน...มากๆ ตอนนั้นจำได้ว่านั่งรถไปทำงาน...ฟังเพลง"ความเชื่อ"ของBodyslamเเล้วนั่งคำนวณเงินในport...ฝันถึงเงิน10ล้าน...สุขสุดๆ มีพลังเเละท้าทายมากๆ

วันนี้ตอนเเรกที่ไปถึงเป้าหมาย ก็ดีใจอยู่ช่วงนึง โทรเเจ้งข่าวดีกับเเม่ เเละรีบกลับจากที่ทำงานตอนพักเที่ยง เอาportให้เเม่ดูเเล้วกอดกับเเม่ บอกว่า"ผมทำได้เเล้ว"

เเต่เพราะตลอดชีวิตผมเเละครอบครัวไม่เคยเห็นเงินเยอะเเบบนี้...จากนั้นความสุข เริ่มกลายเป็น"ความกลัว" กลัวเงิน11ล้านนี้จะหายไป ผมพยายามคิดหาวิธีการที่จะรักษามันไว้ คิดตลอดช่วงเย็นว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าขายหุ้นก้อเสียดายเพราะเเต่ละตัวที่ถือพื้นฐานยังดี...

เเต่โชคดีมากๆเพราะผมได้เพื่อนดี...คอยให้เเนะนำเเละให้คำปรึกษา เพื่อนบอกให้มองกลับมาถึงเป้าหมายสูงสุดที่ผมเคยตั้งไว้นั่นคือ "นิพพานทางการลงทุน" หมายถึงการลงทุนอย่างมี"ความสุขสมดุล" ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดport ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหุ้นมากเกินไป...

ผมไม่ได้ขยายเป้าหมายการลงทุนตามสัญญาเดิมกับตัวเองที่บอกไว้ เเต่ผมเปลี่ยนเป้าหมายการลงทุนใหม่เป็น...

"การลงทุนที่มีความสุข"เเทน มีความสุขกับการได้เห็นบริษัทเติบโต มีความสุขการช่วยงานบริษัทเท่าที่ทำได้ สนุกกับการเรียนรู้หุ้นใหม่ๆ ที่สำคัญมีความสุขกับการมีเพื่อนร่วมทางดีๆ ส่วนขนาดportที่โตขึ้นจะตามมาเอง

ขอให้ประสบความสำเร็จทุกท่านนะครับ บางทีขนาดportก้อไม่ใช่ทุกอย่างอะ^^

ยินดีด้วยครับ ที่ทำสำเร็จ ถ้ายังจำที่ผมเคยบอกน้องไว้ได้ ว่าผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของน้องเอง น้องสามารถทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีโอกาสได้คุยกับน้อง โดยเฉพาะเรื่องงานประจำที่ทำอยู่ ยังไงผมก็ยังอยากให้อยู่บนเส้นทางเดิมนะครับ การลงทุนให้ประสบความสำเร็จมันอาจจะทำได้ไม่ยาก แต่ที่อาจจะยากกว่าคือ "งานที่ทำแล้วได้บุญไปด้วย" หรือ "การลงทุนในบุญ" ครับ

leky เขียน:

torpongpak เขียน: ยินดีด้วยครับ ที่ทำสำเร็จ ถ้ายังจำที่ผมเคยบอกน้องไว้ได้ ว่าผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของน้องเอง น้องสามารถทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีโอกาสได้คุยกับน้อง โดยเฉพาะเรื่องงานประจำที่ทำอยู่ ยังไงผมก็ยังอยากให้อยู่บนเส้นทางเดิมนะครับ การลงทุนให้ประสบความสำเร็จมันอาจจะทำได้ไม่ยาก แต่ที่อาจจะยากกว่าคือ "งานที่ทำแล้วได้บุญไปด้วย" หรือ "การลงทุนในบุญ" ครับ

ขอบคุณมากๆครับพี่เล็กสำหรับคำเเนะนำดีๆที่มีให้มาตลอดตั้งเเต่รู้จักกัน "ตอนนั้น"...ผมจะยื่นใบลาออกเเล้วด้วยซ้ำ เพราะเครียดกับงาน รวมถึงเรื่องส่วนตัวที่ประดังเข้ามา มีอาการปวดหัวทุกวัน(คิดจะลาออก โดยไม่สนใจว่าportเราเเค่ไหน ที่ทำงานใหม่ก้อยังไม่มี)...เเต่ ผ.อ. ก้อเนรเทศให้ลาไปTake Short Courseที่ญี่ปุ่น เดือนครึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์เเละพิจารณาตัวเอง...

ช่วงนั้นได้รู้จักพี่เล็ก จำได้เลยว่าpmคุยกันทุกวัน มันช่วยให้สงบเเละปรับเเนวคิดมามองโลกตามความจริงมากขึ้น...นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจรับราชการต่อคับ

ผมเองก็เคยคิดจะลาออกจากราชการ มันทั้งเหนื่อย เครียรด
แต่พอตั้งสติได้ก็มานั่งนึกดู การที่เราทำราชการมันก็จะมีสวัดิการครอบคลุม
พ่อ แม่ ครอบครัวเรา ได้ตอบแทนสังคมบ้าง อีกอย่างที่ทำงานตอนนั้น
เรี่มจะปั่นป่วนมาก มีเพื่อนที่ทำงานลาออกคนที่เหลือก็เหนื่อยขึ้นไปอีก
เลยตัดสินใจรับราชการต่อแล้วก็ลงทุนไปด้วยเท่าที่ทำได้
แต่เหมือนมีดวง ได้เจอกัลยาณมิตรที่ทำงาน พาๆไป meeting
ได้เจอสุดยอดนักลงทุนของประเทศ ทำให้ portดีวันดีคืนจนงงไปเลย

torpongpak เขียน:

leky เขียน:

torpongpak เขียน: ยินดีด้วยครับ ที่ทำสำเร็จ ถ้ายังจำที่ผมเคยบอกน้องไว้ได้ ว่าผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของน้องเอง น้องสามารถทำได้ไม่ยากอยู่แล้ว

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีโอกาสได้คุยกับน้อง โดยเฉพาะเรื่องงานประจำที่ทำอยู่ ยังไงผมก็ยังอยากให้อยู่บนเส้นทางเดิมนะครับ การลงทุนให้ประสบความสำเร็จมันอาจจะทำได้ไม่ยาก แต่ที่อาจจะยากกว่าคือ "งานที่ทำแล้วได้บุญไปด้วย" หรือ "การลงทุนในบุญ" ครับ

ขอบคุณมากๆครับพี่เล็กสำหรับคำเเนะนำดีๆที่มีให้มาตลอดตั้งเเต่รู้จักกัน "ตอนนั้น"...ผมจะยื่นใบลาออกเเล้วด้วยซ้ำ เพราะเครียดกับงาน รวมถึงเรื่องส่วนตัวที่ประดังเข้ามา มีอาการปวดหัวทุกวัน(คิดจะลาออก โดยไม่สนใจว่าportเราเเค่ไหน ที่ทำงานใหม่ก้อยังไม่มี)...เเต่ ผ.อ. ก้อเนรเทศให้ลาไปTake Short Courseที่ญี่ปุ่น เดือนครึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์เเละพิจารณาตัวเอง...

ช่วงนั้นได้รู้จักพี่เล็ก จำได้เลยว่าpmคุยกันทุกวัน มันช่วยให้สงบเเละปรับเเนวคิดมามองโลกตามความจริงมากขึ้น...นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจรับราชการต่อคับ

ฟังแล้วผมดีใจแทนคนนครศรีธรรมราชครับ ที่ยังมีหมอดี ๆ ช่วยปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพ ถึงจะเป็นแค่ "กำลังเล็ก ๆ" ก็ตามครับ บางทีการถึง 8 หลักได้ ส่วนหนึ่งผมเชื่อว่าเพราะ "กรรมดี" ที่ส่งให้เราได้ครับ มันอาจจะเป็นผลจากการบริจาคเงินกำไรที่ได้จากการลงทุนของน้องอย่างต่อเนื่องก็ได้ครับ

เคยไหมครับ บางทีหุ้นตัวเดียวกัน ซื้อขายต่างกันเพียงแค่ช่วงเวลาไม่นาน แต่ผลตอบแทนต่างกันมาก บางทีจะว่าเป็น "โชคก็ไม่ใช่จะว่าฝีมือก็ไม่เชิง" ไปเจอหุ้นดีแบบบังเอิญ ผมเชื่อว่าบางครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะมีกรรมดีอยู่บ้าง โชคมันก็คงไม่เกิดครับ

แต่ผมชื่นชมน้องนะครับ ตั้งแต่ตอนแรกที่รู้จักกัน น้องเป็นคนที่รู้ข้อเสียของตัวเองและพยายามแก้ไข ที่น้องเล่าให้ผมฟังเรื่องการ "ดูจอ" มากเกินไป กับเรื่อง "ข้าวกลางวันมื้อละ 5 หมื่นกับหุ้น sport" ผมเชื่อว่าถ้าใครที่ลงทุนแล้วรู้ข้อดีข้อเสียของตัวเอง "รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" จริง ๆ ครับ

ยินดีด้วยครับ

บูรพาไม่แพ้ เขียน:ขอแสดงความยินดีกับคุณหมอ torpongpak ด้วยคนครับ ล้านแรกในชีวิตผมคงจะได้เห็นปีนี้หล่ะครับ จากเงินก้อนเล็กๆกับอาชีพพื้นๆ( ช่างทำกุญแจ ) รายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท มาถึงจุดนี้ได้ผมภาคภูมิใจตัวเองมากครับ

วันนี้เข้ามาปักหมุดไว้ก่อนครับ เพราะวันนี้พอร์ตของผมก็ได้ถึงล้านแรกของชีวิตแล้วครับ (เลยไปไม่กี่บาทเอง) แต่ก็ได้มาถึงล้านแรกที่เขาว่ายากแล้วครับ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณหนังสือสามเล่มนี้ก่อนครับ ออมก่อนรวยกว่า พ่อรวยสอนลูก และ ตีแตก ซึ่งจุดประกายความคิดในการลงทุน จากเมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้เห็นเงินแสน พอได้อ่านแล้วคิดตามและหาหนังสือแนววีไออีกหลายเล่มมาอ่านเรื่อยๆ ขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนที่เข้ามาแบ่งปันความรู้ในเว็บวีไอแห่ง คงจะเอ๋ยชื่อไม่ได้ครับเพราะมีเยอะมากๆๆ แล้วชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ผมเริ่มลงทุนน่าจะปี 52 แต่ที่จำได้แม่นคือ ตอนนั้น set 680 จุด ด้วยเงินที่ลงทุนในครั้งแรกสามหมื่นกว่าบาท และคอยเติมเงินลงทุนไปเรื่อยๆตามกำลังทรัพย์ ข้อผิดพลาดมีเยอะมาก ซื้อขายบ่อยเกินไป ติดตามตลาดมากเกินไปจนอินไปกับข่าวที่เข้ามาโดยที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อน เคยเข้าไปเว็บสินธรแล้วอินมากๆจนขายล้างพอร์ตไปสองครั้ง เก็งกำไรขายก่อน xd แล้วกลับมาซื้อหลัง xd ความจริงผมน่าจะถึงล้านแรกต้ังนานแล้วถ้าไม่ทำเรื่องพวกนี้ แต่ใครจะไปรู้ได้หล่ะ นี่ต้องโทษตัวเองที่ไม่หนักแน่นพอครับ และขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆที่ยังมาไม่ถึง ล้านแรกทุกคนสามารถมาถึงได้ครับ อย่าคิดว่าไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ ไม่มีเงินมาก เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่อุปสรรคครับ เพราะผมจบแค่ ม.3 อ่านภาษาอังกฤษไม่ได้เลย รายได้ของผมก็วันละไม่กี่ร้อยบาทไหนจะภาระจ่ายใช้จ่ายผมอีก แต่ผมก็ยังมาถึงได้ครับ ทุกคนมาถึงได้ครับขอให้มีจิตใจที่มั่นคงในหลักการ สู้ๆครับ แล้วเจอกันที่ล้านที่ 2 (อาจจะพิมเยอะไปหน่อยต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยนะครับ)

ยินดีด้วยครับเเละขอบคุณสำหรับเเรงบันดาลใจชั้นยอดจากคุณบูรพาไม่เเพ้ ผมได้พลังมากมายจากpostในกระทู้นี้ของคุณ^^